เนื่องในโอกาสครบรอบ77ปีประชาธิปไตยไทย ก็ขอเขียนบทความสั้นๆเกี่ยวข้องกับประชาธิปไตยสัก2-3เรื่องรวมๆกันไปนะครับ
***************************************
ดูที่ฟิลิปปินส์ ในอดีต
เมื่อก่อนอดีตประธานาธิบดี
เฟอร์ดินานท์ มากอส ก็เคยมาเป็นขวัญใจคนจนขวัญใจคนรากหญ้า grass roots(เหมือนอดีตนายกฯบางประเทศ) และเพราะคนจนรักมากอส ทำให้มากอสอยู่ในตำแหน่งยาวนานถึง31ปี ตั้งแต่ปีค.ศ.1965-1986
มากอสครองอำนาจยาวนาน และสร้างความมั่นคงในอำนาจจนยากที่จะมีใครล้มเขา ขนาดอดีตผู้นำฝ่ายค้านชื่อ
นายเบนิโย อาควิโน หลังลี้ภัยไปต่างประเทศยาวนาน แค่พอ
นายอาควิโนก้าวลงจากเครื่องบินก็โดนยิงตายทันที เมื่อปี2526
หากย้อนกลับไปสัก30กว่าปีก่อน ฟิลิปปินส์เจริญกว่าไทยพอสมควร จนมีคนไทยจำนวนมากก็เดินทางไปศึกษาต่อที่ฟิลิปปินส์ เช่นแอ๊ด คาราบาว เป็นต้น
ฟิลิปปินส์อดีตเมืองขึ้นอเมริกาและมีฐานทัพอเมริกาตั้งอยู่ วัฒนธรรมและความเจริญมากมายจากอเมริกาก็หลั่งไหลมาฟิลิปปินส์ก่อนใครๆในภูมิภาคแถบนี้
แต่เมื่อ
ปธน.มากอส ขวัญใจคนจนผู้เป็นฮีโร่ของคนรากหญ้า
จากนโยบายประชานิยม (คล้ายๆใครคนหนึ่ง) จึงครองอำนาจยาวนาน แถมมีอำนาจล้นเหลือ ก็น่าจะสร้างความเจริญให้แก่คนจนได้ไม่ยากถ้าตั้งใจจริง แต่ที่สุดแล้ว
ความโชคดีของคนรากหญ้าที่มีผู้นำอย่างมากอสที่ควรจะมีชีวิตดีขึ้น เพราะมากอสมีอำนาจมากมายสามารถกำหนดนโยบายเพื่อช่วยคนจนแบบยั่งยืนได้ แต่มากอสไม่ทำเท่าที่ควรจะทำ เพราะมากอสมัวแต่ใช้วิธีซื้อใจคนจนเป็นพักๆ
ซื้อใจคนจนด้วยนโยบายแบบป้อนให้ ไม่ได้ช่วยให้คนจนรอดพ้นความยากจนได้อย่างยั่งยืน
คนจนฟิลิปปินส์ก็ยังไมรู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมที่มากอสคอยป้อนผลประโยชน์ให้ ทำให้มากอสก็ยังมีคนจนรักเขาอยู่อีกมากมายเหมือนเดิม
จึงทำให้จากประเทศที่เคยปลูกข้าวพอกินในประเทศ ฟิลิปปินส์กลับกลายเป็นประเทศที่ต้องนำเข้าข้าวจากต่างประเทศมากที่สุดประเทศหนึ่งในปัจจุบัน
ในที่สุดผ่านมาร่วม30กว่าปี ฟิลิปปินส์ก็กลายเป็นประเทศที่ล้าหลังกว่าประเทศประชาธิปไตยอื่นๆในภูมิภาคนี้ แถมความแตกต่างทางฐานะและชนชั้นก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ คนจนก็จนลง คนรวยก็รวยเอารวยเอา
แถมมากอสก็โกงเอาโกงเอา รวยเอาๆ แต่ก็ยังยากทื่จะล้มมากอสได้ง่าย
ในที่สุดกลุ่มชนชั้นกลางที่มีการศึกษาในเมืองเป็นส่วนใหญ่ก็ลุกขึ้นมาล้มมากอสได้ โดยการช่วยเหลือจากกองทัพที่เพิกเฉยต่อคำสั่งการปราบประชาชนของมากอส
ในที่สุดพลังประชาชนก็บุกเข้าไปถึงทำเนียบมากอส แต่มากอสหนีไปทัน และนั่นก็คือการล่มสลายของระบอบมากอส ทรราชย์ชื่อดังระดับโลกครับ
และหลังจากมากอสถูกล้มไปแล้ว ภรรยาอดีตผู้นำฝ่ายค้าน
นายเบนิโย อาควิโนที่ถูกลอบสังหาร ชื่อ
นางโคราซอน อาควิโนก็ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีต่อจากมากอสในที่สุดครับ
.
หากคนรากหญ้าฟิลิปปินส์ไม่งมงายรักมากอส จนเนิ่นนานเกินไป ในตอนนี้ฟิลิปปินส์อาจไม่ล้าหลังกว่าประเทศเพื่อนบ้านก็เป็นได้นะ
.
******************************************
สาธารณรัฐจีน
หลังจาก
เจียงไคเชค ล้มระบอบจักรพรรดิของราชวงศ์ชิงไปแล้ว ประเทศจีนในตอนนั้น ก็จะไม่มีชนชั้น หญิงชายเท่าเทียมกัน แต่นั่นก็เป็นแค่ทฤษฎีสวยหรูของประชาธิปไตยเท่านั้น
ประเทศจีนก็แค่เปลี่ยนจากชนชั้นขุนนางมาเป็นชนชั้นนักการเมืองเท่านั้น และนักการเมืองหลายๆคนก็มาจากขุนนางชิงเก่าๆนั่นเอง
ความร่ำรวยความฟุ้งเฟ้อยังมีอยู่ในชนชั้นเศรษฐีเหมือนเดิม ชนชั้นผู้ปกครองหรือนักการเมืองก็มีการเอื้อประโยชน์กับพ่อค้านายทุนเศรษฐีเหมือนเดิม
อำนาจก็แลกมาได้ด้วยเงินและผลประโยชน์เหมือนเดิม คนจีนจนๆก็ยังจนลงเหมือนเดิม คนจนยังเป็นแค่คนรับใช้คนรวยอยู่เหมือนเดิม ที่ดินทำกินคนจนก็ต้องขายให้คนรวยแทบทั้งนั้น
คนจนก็ยังยากที่จะลืมตาอ้าปากได้เหมือนเดิม ความอดอยากก็มีมากขึ้นในจีนประชาธิปไตย จนคนจีนต้องอพยพหนีความอดอยากไปแสวงหาแผ่นดินใหม่
ในที่สุดระบอบประชาธิปไตยก็ไม่สามารถตอบสนองความยากจนให้ชาวจีนที่ยากจนได้อย่างทันใจ สุดท้าย
เหมาเจ๋อตุงก็ได้ปฏิวัติจีนล้มระบอบประธิปไตยลง เพื่อการจัดสรรแบ่งปันอย่างเสมอภาคปราศจากคนรวยและคนจน (ปธน.เจียงไคเชกพ่ายแพ้ต้องหนีไปเกาะฟอร์มอซาหรือไต้หวัน)
.
แม้ประธานเหมาฯจะล้มล้างระบบชนชั้นนักการเมืองและชนชั้นสูงร่ำรวยลง เพื่อความเท่าเทียมกันในสังคม แต่สุดท้ายเมื่อปราศจากชนชั้น ก็เลยกลายเป็นไม่มีชนชั้นคนรวยอีก (เลยเหลือแต่จนกันทั่วหน้าฮิๆ) และชนชั้นผู้ปกครองในพรรคอมมิวนิสต์จีน!?
แต่ไม่ใช่ประชาธิปไตยของคนจีนสมัยเจียงจะล้มเหลวซะทีเดียว เพราะเจียงไคเชคก็ไปสร้างประเทศใหม่ในระบอบประชาธิปไตย
ซึ่งตอนนี้ไต้หวันก็เจริญรุ่งเรืองกลายเป็นประเทศพัฒนาแล้วในปัจจุบัน
แต่สำหรับจีนแผ่นดินใหญ่ในยุคนั้นยังไม่เหมาะกับระบอบประชาธิปไตย เพราะประชาชนจีนส่วนใหญ่ยังไร้การศึกษาในเรื่องประชาธิปไตย
จึงทำให้ประชาธิปไตยในจีนแผ่นดินใหญ่ยุคนั้นยังเป็นประชาธิปไตยของนายทุนและนักการเมืองกังฉินเหมือนเดิม
เมื่อทรัพยากรมีจำกัด คนอดอยากมีมายมาย วิธีเดียวที่จะช่วยให้ชาวจีนแผ่นดินใหญ่พ้นความแร้นแค้นได้รวดเร็วที่สุด ก็คือระบอบคอมมิวนิสต์
ส่วนไต้หวันเป็นเกาะที่มีภูมิประเทศอุดมสมบูรณ์ ผู้คนก็มีไม่มาก การปกครองระบอบประชาธิปไตยของเจียงไคเชกจึงไม่ยากที่จะทำให้ประสบความสำเร็จได้ในที่สุด
ฉะนั้นเราควรมองอย่างวิเคาระห์ให้ดีอย่าเพิ่งด่าระบอบใดๆว่าไม่ดี เสียก่อนที่เราจะศึกษาให้รอบด้านก่อนนะครับ
.
(ช่วงนี้มีละครจีนเรื่องนึงทางช่อง3เรื่องตระกูลใหญ่ในม่านเมฆ คือตัวอย่างที่แสดงให้เห็นจีนยุคประชาธิปไตย)
.
อ่าน ครบ20ปีเทียนอันเหมิน อุทธาหรณ์ที่คนไทยต้องฉุกคิด
*****************************
มองดูประเทศเปรู
เมื่อ2-3อาทิตย์ที่ผ่านมา ผมเคยดูข่าวอันนึงที่ว่า คนยากจนในชนบทออกมาประท้วงรัฐบาลซึ่งมีคนรวยและชนชั้นกลางในเมืองหนุนหลังจนมีเกิดการปะทะกัน และ
ตำรวจก็ใช้กำลังปราบคนจนที่มีอาวุธแค่จอบเสียม
รัฐบาลเปรูที่นำโดยชนชั้นกลางในเมือง เพราะรัฐบาลมักออกกฏหมายเข้าข้างคนรวยในเมืองให้ออกไปตักตวงทรัพยากรจากชนบทอย่างไม่ยุติธรรมแก่เกษตรกรในชนบท จนเกิดความเหลื่อมล้ำต่ำสูง
และเมื่อไม่กี่วันมานี้ ข่าวเปรูก็มีออกมาอีก คือ
บรรดาเกษตรกรเปรู ขึ้นไปบนเชิงเขาและกลิ้งก้อนหินหลากหลายขนาดลงมาขวางบนท้องถนนเป็นการประท้วงนโยบายรัฐบาล
สาเหตุที่เกษตรกรเปรูออกมาประท้วงก็เพราะ มีนายทุนเข้ามาซื้อสัมปทานแหล่งน้ำในเมืองนั้นไป จนชาวเมืองไม่พอใจที่ทรัพยากรของสาธาณะที่ประชาชนใช้ประโยชน์อยู่ อยู่ดีๆต้องมากลายเป็นของเอกชนไปซะแล้ว
จากที่ผมยกข่าวมาให้เห็นนั้น คุณผู้อ่านมองเห็นอะไรในประเทศสาธารณรัฐเปรูมั้ยครับ ประเทศเปรูก็เป็นประเทศประชาธิปไตยแบบประธานาธิบดีประเทศหนึ่ง ที่ยังแก้ปัญหาความยากจนและชนชั้นไม่ได้เลยครับ
.
อ่าน เปรียบเทียบทักษิณกับฮูโก ชาเวซ ปธน.เวเนซูเอล่า
******************************
การประท้วงในอิหร่าน
ที่จริงผมมีตัวอย่างอยากจะยกอีกมาก แต่ขอลงท้ายที่อิหร่านแล้วกันครับ เพราะกำลังฮอตอยู่
ผมเคยยกตัวอย่างไปทีแล้วในบทความตอนเก่าๆ ว่า
ผู้นำสูงสุดของอิหร่านคือผู้นำทางศาสนา และ
ผู้นำทางศาสนาก็สามารถสั่งปลดประธานาธิบดีที่มาจาการเลือกตั้งได้ทันที หากประธานาธิบดีไม่ได้รับการไว้วางใจจากผู้นำ
อิหร่านนั้น เป็นประเทศที่มีผู้คนฉลาดมากชาติหนึ่ง เพราะพวกเขาคือชาวเปอร์เซียชนชาติที่ฉลาดชาติหนึ่งมานับพันปี และเพราะการที่อิหร่านไม่ถูกกับอเมริกามากๆ
(ทั้งๆที่ก็เป็นประเทศประชาธิปไตยที่เข้มแข็งชาติหนึ่ง) จึงมีส่วนทำให้อิหร่านได้ถูกคว่ำบาตรจากประเทศตะวันตกหลายหน
คนอิหร่านจึงไม่ง้อเทคโนโลยีจากชาติตะวันตกเหมือนชาติอื่นๆในแถบอาหรับ อิหร่านสามารถผลิตเทคโนโลยีสูงๆได้ด้วยตัวเอง เช่นรถยนตร์ เครื่องบิน อาวุธ โค้ก เบียร์ไร้แอลกอออล์ เป็นต้น
เพราะอิหร่านคิดว่า หากอิหร่านต้องพึ่งพาตะวันตก สุดท้ายอิหร่านก็ต้องกลายเป็นเมืองขึ้นทางวัฒนธรรมแก่อเมริกาและตะวันตกในที่สุด
ชาติไหนที่ไม่ซูฮกแก่อเมริกานักเลงโต ก็มักจะโดนอเมริกากลั่นแกล้งหรือใส่ร้ายได้ เพราะอเมริกาคือเจ้าโลกทางด้านสื่อ ที่สามารถกลับดำเป็นขาว กลับขาวเป็นดำได้เสมอเพื่อผลประโยชน์ชาติตนเอง
และ
อาวุธที่อเมริกามักใช้ทำร้ายศัตรูอย่างได้ผลก็คือ เรื่อง สิทธิมนุษยชนและเสรีภาพ
ผู้คนส่วนใหญ่ที่อาศัยสื่ออเมริกา หากไม่เคยเข้าไปเห็นอิหร่านได้ด้วยตัวเอง หรือจากสื่อทางอาหรับแล้วล่ะก็ อาจจะไม่รู้เลยว่า
อิหร่านมีเจริญทางเทคโนโลยีมากกว่าอีกหลายๆประเทศที่ซูฮกอเมริกาเสียอีก แถมเป็นเทคโนโลยีของตนเองไม่ใช่จากการใช้เงินซื้อมา
(ปัจจุบันนี้อิหร่านสามารถส่งดาวเทียมขึ้นสู่อวกาศได้เองแล้วครับ)
ผู้หญิงอิหร่านก็มีสิทธิทางสังคมมากกว่าผู้หญิงในชาติแถวอาหรับอื่นๆมาก แต่อเมริกาไม่เคยเสือกไปยุ่งกับประเทศเหล่านั้น เพราะประเทศอาหรับเหล่านั้นซูฮกอเมริกา แต่อเมริกาเสือกจะยุ่งกับอิหร่านและอิรักแทน
และอิรักก็กลายเป็นเหยื่อที่อเมริกาได้เข้าไปทำลายแล้ว ทั้งๆที่ก่อนที่อเมริกาจะเข้าไป อิรักก็เป็นประเทศที่น่าอยู่ประเทศหนึ่ง และตอนนี้ก็มีตัวอย่างที่เห็นๆอันหนึ่ง คือนักข่าวอิรักคนหนึ่งเกลียดอเมริกาถึงขั้นปารองเท้าใส้หน้าปธน.บุชไปแล้ว และเขาก็กลายเป็นวีรบุรุษจากคนทั่วโลกที่ต่อต้านการบุกยึดอิรักจากนโยบายปธน.บุช
การประท้วงของคนอิหร่านในตอนนี้ แม้จะเริ่มจากการเชื่อว่ามีการโกงการเลือกตั้งปธน.ที่ผ่านมาก็ตาม แต่คนอิหร่านที่ผ่านมามักจะเชื่อฟังผู้นำสูงสุดทางศาสนามาตลอด ไม่ค่อยออกมาแสดงการต่อต้านแบบนี้ เว้นแต่ออกมาต่อต้านอเมริกา
แต่คราวนี้เริ่มไม่เหมือนเดิม ผู้เชี่ยวชาญหลายๆคนวิเคราะห์ว่า อาจมีสาเหตุจากการที่กระแสเสรีภาพจากตะวันตกเข้ามาสู่คนอิหร่านมากขึ้น ทำให้การประท้วงในอิหร่านคราวนี้รุนแรงเฉกเช่นประเทศที่คลั่งกระแสเสรีภาพในที่อื่นๆเหมือนกัน
*****************************
"การมีเสรีภาพนั้นต้องอยู่คู่กับกฏหมายที่ศักดิ์สิทธิ์ด้วย หากกฎหมายยังไม่ศักดิ์สิทธิ์ ก็จะยังมีการละเมิดสิทธิซึ่งกันและกันของคนในสังคมอยู่เสมอ
และผู้ละเมิดสิทธิคนอื่นก็มักจะถูกละเลยการลงโทษทางกฎหมาย จึงทำให้ประเทศนั้นก็จะมีเสรีภาพแต่เปลือก
มีแต่เสรีภาพเกินขอบเขต และเป็นเสรีภาพเชิงทำลาย ที่ริดรอนสิทธิซึ่งกันและกันกันเองของคนในสังคม"
ใหม่เมืองเอก
.
.
อ่าน มองอเมริกาแล้วต้องหยุดคิด