จากการที่ปัญหา3จังหวัดภาคใต้ ที่ผ่านมาหลายปี มีคนบาดเจ็บล้มตายนับพัน เรื่องมันเริ่มรุนแรงมากก็หลังจากมีไอ้ตัวนึงมันพูดว่า "โจรใต้เป็นแค่โจรกระจอก"
มีคนในพื้นที่มากมายที่มีกำลังพอจะอพยพหาที่อยู่ตั้งถิ่นฐานในที่อื่น ทำให้ราคาที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ใน3จังหวัดราคาถูกมากเหมือนขายทิ้ง คิดดูคนในพื้นที่ยังไม่ค่อยกล้าอยู่เลย แล้วใครจะมาซื้อต่อ
ผมเคยถาม ข้าราชการพยาบาลในร.พ.รัฐแห่งหนึ่งหลายๆคนที่ผมรู้จักเล่นๆว่า ถ้าให้เงินเดือนๆละแสน ให้ไปประจำที่3จังหวัดภาคใต้ จะยอมไปมั้ย ?พยาบาลทุกคนต่างตอบเหมือนกันว่า ไม่เอา เพราะถ้าเกิดตายหรือพิการไป ให้ได้มากแค่ไหนมันก็ไม่คุ้ม
คำตอบที่ผมได้รับมาจากพยาบาลหลายคน กลับทำให้ผมยิ่งรู้สึกซาบซึ้งกับเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่ไปปฏิบัติงานใน3จังหวัดภาคใต้และจังหวัดสงขลาบางส่วนมากขึ้น ว่าพวกเขาเป็นวีรบุรุษผู้เสียสละจริงๆท โดยเฉพาะข้าราชการครู ผมรู้สึกซาบซึ่งพวกท่านเป็นพิเศษ
พวกครูทั้งหลายต่างไม่ได้ฝึกการรบ ไม่ได้ฝึกการต่อสู้ พวกครูฝึกแต่การสอนการให้ความรู้แก่เด็กๆ
หากไม่นับทหารตำรวจแล้ว อาชีพครูในพื้นที่3จังหวัด นับว่าเป็นอาชีพที่มีการสูญเสียมากที่สุด แต่ก็ยังมีครูที่ยังยอมอยู่ในพื้นที่ และไม่เคยคิดหนีสถานการณ์โหดร้าย ละทิ้งนักเรียนของพวกท่านเลย
ทุกๆวันทั้งการเดินทางไปโรงเรียนและการสอนในโรงเรียน ไม่สามารถล่วงรู้ได้เลยว่า พวกก่อการร้ายมันจะมาเอาชีวิตเมื่อไหร่ หากไม่ใช่คนที่มีจิตใจเข้มแข็งและเสียสละด้วยใจจริงแล้ว ย่อมไม่มีทางเลยที่จะควบคุมสติเพื่อปฏิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพได้แน่นอน
คงจำกันได้ว่า ครูจูหลิง ปงกันมูล ที่เสียสละมาขอเจาะจงมาอยู่ในพื้นที่สีแดง แต่ต้องมาจบชีวิตลงอย่างโหดร้าย ท่านเป็นครูผู้หญิงตัวเล็กๆ อายุยังน้อยที่มาจากภาคเหนือ แต่ยอมที่จะจากบ้านมาอยู่ที่ที่ห่างไกลและไม่คุ้นเคย เพื่อสอนหนังสือให้ความรู้แก่เด็กๆ
หากเป็นเราๆทั่วๆไป โดนถามว่า อยากไปอยู่ที่ทุรกันดารที่มีแต่อันตรายกับค่าตอบแทนอันน้อยนิดหรือไม่ ยากจริงๆที่จะมีคนอยากไป ยากจริงๆที่จะมีคนเสียสละ เสี่ยงตายกับค่าตอบแทนอันน้อยนิด
ผมเคยมีโอกาสพูดคุยกับทหารหลายๆคน ที่ได้เคยไปประจำการเพื่อไปช่วยกองกำลังสหประชาชาติที่ประเทศติมอร์ตะวันออก กับประเทศอิรัก ทหารที่ได้ไปประจำคนละ6เดือน พร้อมกับค่าตอบแทนที่เรียกว่า ค่อนข้างสูงมากทีเดียว ที่จริงแล้วการไปอยู่ทั้งสองประเทศเหมือนจะลำบาก แต่ที่จริงแล้ว กลับอยู่อย่างสะดวกสบายพอใช้ได้เลยทีเดียว และความปลอดภัยก็ค่อนข้างสูงมาก
ที่ติมอร์ฯ ไม่มีทหารไทยเสียชีวิตเลย ที่อิรัก ดูเหมือนจะมีเสียชีวิต2ราย แต่นั่นนับว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับชายแดน3จังหวัดที่อันตรายกว่า และค่าตอบแทนที่น้อยกว่ามาก
ผมเชื่อว่า ข้าราชการที่เสียสละใน3จังหวัดใต้นั้น ไม่ได้คิดถึงเรื่องผลตอบแทนเป็นสำคัญ เพราะหากคิดเรื่องผลตอบแทนแล้ว คงไม่มียอมเสียสละไปปฏิบบัติหน้าที่ในพื้นที่อันตรายแบบนี้แน่
ฉะนั้น ผมอยากให้รัฐบาลได้ตอบแทนความเสียสละของข้าราชการใน3จังหวัดใต้ทุกหน่วยงาน ให้สมกับความเสียสละของทุกท่านเหล่านั้น ไม่ใช่มาตอบแทนเมื่อพวกท่านไร้ชีวิตแล้ว เพราะหากเป็นเช่นนั้นก็นับว่าน่าละอายใจมาก
ผมจำได้ว่า อดีตนายกฯสมัครไปเยี่ยมทหารที่เขาพระวิหาร เคยพูดว่า เบี้ยเลี้ยงทหารพรานน้อยกว่า ค่าอาหารนักโทษในเรือนจำเสียอีก(ค่าอาหารนักโทษ68บาทต่อคน/วัน) ฟังแล้วมันน่าน้อยใจไหมครับ ทหารพรานต่างจากทหารทั่วไปตรง พวกเขาส่วนใหญ่เป็นแค่ลูกจ้างชั่วคราวที่เงินเดือนน้อยนิด แต่เสี่ยงภัยสูง
ที่บอกว่าน่าละอายใจมาก ก็เพราะพวกนักการเมืองทั้งหลายที่ทะเลาะเพื่อผลประโยชน์ตัวเองเป็นหลักกันอยู่ในทุกวันนนี้ พวกนักการเมืองทั้งหลายต่างมีค่าตอบแทนสูงกว่าความเสียสละที่ประชาชนควรจะได้จากพวกท่าน แต่กลับได้ค่าตอบแทนและสิทธิพิเศษมากมายกว่าวีรชนใน3จังหวัดภาคใต้ เสียอีก
หากผมเป็นนายกฯ ผมจะให้เงินเดือนเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยใน3จังหวัดใต้ ให้มากกว่าพวกสส.และรัฐมนตรี ด้วยซ้ำ หากใครที่มีอำนาจวาสนาอยู่มาเห็นบทความนี้ (ซึ่งคงจะยาก แต่ก็จะหวัง) ขอให้พิจารณาขอเสนอของผมด้วยเถอะครับ ไม่ต้องให้มากอย่างที่ผมว่าก็ได้ แต่อย่าให้น้อยเหมือนทุกวันนี้ก็พอ
"เวลาเห็นคนเสื้อเหลืองกับคนเสื้อแดงทะเลาะกัน ฆ่ากัน เหล่าผู้เสียสละทางภาคใต้ พวกเขาจะคิดยังไง"
ใหม่เมืองเอก
อัปเดทผลบอล
เรื่องนี้ก็เขียนดี
ตอบลบแต่บางเรื่องเขียนไม่เป็นกลาง
เลยไม่ค่อยอยากอ่าน
ผมไม่เป็นกลางครับ ผมยอมรับ
ตอบลบ