ก่อนอื่น ผมขอเล่าก่อนว่า บทความดังต่อไปนี้ เป็นบทความที่ผมตั้งใจจะเขียนเมื่อเกือบ3ปีที่แล้ว แต่ไม่ได้เขียนสักที ในขณะที่ผมกำลังเขียนนี้ เป็นวันที่เข้าสู่วันวิสาขบูชา ครั้งสำคัญ คือเป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ครบรอบ2,600ปี
หรือที่ทางสำนักพุทธศาสนาของไทย ใช้คำว่า พุทธชยันตี ซึ่งมาจากคำว่า
พุทธ แปลว่า ผู้รู้แจ้ง และคำว่า ชยันตี แปลว่า ผู้ชนะ
พุทธชยันตี จึงแปลว่า ชัยชนะแห่งพุทธะ
เนื่องในวโรกาสดีๆ เช่นนี้ ผมจึงขอนำเสนอบทความนี้เพื่ออุทิศแด่คุณพระศรีรัตนตรัย เหตุผลเพราะไม่อยากให้คนไทยจำนวนมากหลงเดินทางผิด ทำบาปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ในการชอบบนบานศาลกล่าวต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์กัน
เนื้อหาส่วนใหญ่ในบทความนี้ ผมไม่ได้เขียนขึ้นเอง แต่ผมลอกมาจากหนังสือสวดมนต์เล่มนึงที่พิมพ์แจกเป็นธรรมทาน แต่เพราะเป็นการพิมพ์แจก จึงอาจทำให้หลายคนมองข้ามเนื้อหาดีๆ ข้างในไป
ผมอยากจะบอกและเตือนพี่น้องชาวพุทธทุกท่านว่า การบนบานศาลกล่าว เป็นการกระทำที่ผิด ซึ่งชาวพุทธไม่ควรกระทำอย่างยิ่ง เพราะเป็นการลบหลู่พระรัตนตรัย เป็นการทำบาป ตามเนื้อหาที่ผมจะนำเสนอดังต่อไปนี้ครับ
------------------------------
คำขอขมาพระรัตนตรัย ฉบับเต็มโดยสมบูรณ์
ข้าพระพุทธเจ้า....(เอ่ยชื่อและนามสกุลตนเอง)... ได้เคยพูด คิด หรือกระทำการใดๆ อันเป็นการปรามาส พลาดพลั้ง ผิดพลาด ดูหมิ่น มิสมควรต่อพระรัตนตรัย คือ พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ จะด้วยเจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี โดยรู้เท่าถึงการณ์ก็ดี รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี โดยระลึกได้ก็ดี โดยระลึกไม่ได้ก็ดี จะกี่ภพกี่ชาติก็ดี ในชาตินี้ก็ดี
ขอองค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ตลอดทั้งทวยเทพทุกพระองค์ที่ดูแลพระศาสนา ณ ทุกหนแห่ง และ ณ ที่นี้ อีกทั้งเทพเทวดาทุกๆ พระองค์ ที่ดูแลรักษาชีวิตของข้าพระพุทธเจ้า ได้โปรดประทานพระมหากรุณาธิคุณ อโหสิกรรมโทษ ละเว้นโทษ งดโทษ หยุดและอดโทษ ให้แก้ข้าพระพุทธเจ้า นับตั้งแต่บัดนี้เวลานี้เป็นต้นไป จนกว่าข้าพระพุทธเจ้าจะเข้าถึงซึ่งพระนิพพาน ในอนาคตกาลเบื้องหน้าเทอญ
ในอดีตชาติก็ดี ชาตินี้ก็ดี ถ้าข้าพระพุทธเจ้าได้เคยติดสินบนต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดๆ หรือเทพเทวดาพระองค์ใด แล้วลืมแก้บนก็ดี แก้บนแล้วก็ดี บัดนี้ข้าพระพุทธเจ้าสำนึกบาปแล้วว่า ข้าพระพุทธเจ้าเป็นมนุษย์ต่ำต้อย มิสมควรติดสินบน เสมือนการต่อรอง ต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดๆ หรือเทพเทวดาพระองค์ใดๆ
ณ โอกาสนี้ ข้าพระพุทธเจ้าขอน้อมถวายมหาสังฆทาน คือกราบขอขมาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเทพทุกๆ พระองค์ ที่ข้าพระพุทธเจ้าได้เคยติดสินบน อย่าได้ถือโทษ ลงโทษ เอาโทษ ต่อข้าพระพุทธเจ้าอีกต่อไปเลย
โดยข้าพระพุทธเจ้าให้สัญญาว่า นับตั้งแต่บัดนี้ เวลานี้เป็นต้นไป ถ้าวันใดข้าพระพุทธเจ้าจะต้องประสบปัญหาชีวิต การงาน การเงิน ชีวิตครอบครัว ชีวิตสังคม และไม่สามารถจะแก้ไขปัญหาทั้งหลายเหล่านั้ด้วยสติปัญญาของข้าพระพุทธเจ้าเองเมื่อใด ข้าพระพุทธเจ้าจะขอพรอย่างเดียว โดยไม่ติดสินบนอีกตลอดไป
เพื่อความเป็นสิริมงคลต่อชีวิตของข้าพระพุทธเจ้า
ณ โอกาสนี้ ข้าพระพุทธเจ้าขอน้อมกราบสักการะต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สถิตอยู่ ณ ที่นี้และทั่วสากลโลกได้โปรดประทานพรให้แก่ข้าพระพุทธเจ้า ทุกคนในครอบครัว บริวารและผู้มีพระคุณ ขอให้มีแต่ความสุขกายและใจ ขอให้มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด มีหูทิพย์ ตาทิพย์ กายทิพย์ ใจทิพย์
ขอให้ห่างไกลจากศัตรูหมู่มาร พบเจอกัลยาณมิตร ขอให้ศัตรูกลับใจมาเป็นมิตร แต่ถ้าวันใดข้าพระพุทธเจ้าจะต้องเผชิญกับศัตรูหมู่มารอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็ขอให้ข้าพระพุทธเจ้าจงชนะศัตรูหมู่มารทั้งหลายเหล่านั้น ด้วยธรรมะของพระพุทธเจ้าตลอดไป
และขอให้ข้าพระพุทธเจ้าดำเนินชีวิตไปทางใด ขอให้เป็นที่รักใคร่ของทุกคนที่พบเห็น ขอให้ชีวิตของข้าพระพุทธเจ้ามีประโยชน์ต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ตลอดทั้งชาตินี้และทุกภพทุกชาติตราบจนเข้าถึงพระนิพพานด้วยเทอญ.
สาธุ
--------------------
เมื่อเกือบ 3 ปีก่อน ครอบครัวผมประสบเรื่องร้ายอย่างสาหัส คุณผู้อ่านที่ตามอ่านเจ้าหญิงอัตสึที่รัก ที่ผมเขียน คงจำกันได้ :ซึ่งเป็นเหตุให้ผมไม่สามารถเขียนเจ้าหญิงอัตสึต่อได้อีก ช่วงนั้นผมเลยได้มีโอกาสอ่านหนังสือสวดมนต์เล่มนี้ และได้เจอคำขอขมาพระรัตนตรัย บทนี้
ผมได้อ่านคำขอขมาพระรัตนตรัยบทนี้ทุกวัน ในที่สุด ครอบครัวผมก็ผ่านพ้นเรื่องร้ายมาได้
นอกจากคำขอขมาพระรัตนตรัยบทนี้ ได้สอนผมให้เข้าใจบาปกรรมจากการบนบานศาลกล่าวต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้ว
โดยส่วนตัวผมเชื่อว่า คำขอขมาพระรัตนตรัยบทนี้มีความศักดิ์สิทธิ์ในตัวเอง และได้ช่วยให้ครอบครัวผมรอดพ้นเรื่องร้ายในวันนั้นมาได้
แต่ถึงที่สุดแล้ว ถ้าจะว่ากันด้วยเหตุผลจริง ๆ พระท่านก็คงช่วยอะไรไม่ได้มากนัก หากกฎแห่งกรรมจะส่งผลจริง ๆ พระท่านคงช่วยได้แค่ผ่อนหนักให้เบาลงได้บ้างไม่มากก็น้อย
หากเมื่อคนเราจะถึงที่ตายจริง ๆ ก็คงไม่มีใครหนีกฎแห่งกรรมพ้น เพียงแต่ว่า การที่เราขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก็ช่วยให้เราสบายใจขึ้นบ้าง และย่อมดีกว่าเราได้ทำบาปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์จากการไปบนบานศาลกล่าว ซึ่งนั่นกลับยิ่งก่อบาปกรรมให้แก่เรามากขึ้น
ขอบคุณมากๆค่ะ
ตอบลบขอถามหน่อยว่าแล้วเวลาจะขอขมาจะต้องสวดที่องค์พระที่เราบนหรือเปล่า แล้วต้อวสวดที่ไหน ขอบคุณคับ
ตอบลบบุญสำเร็จด้วยใจ ไม่จำเป็นต้ององค์พระที่เราบนก็ได้ เพราะพระพุทธรูปไม่ว่าองค์ไหน ก็เป็นเครื่องน้อมนำให้เราระลึกถึงคุณพระศรีรัตนตรัยเหมือนกัน แตกต่างที่องค์พระ แต่ปลายทางคือพระรัตนตรัยเหมือนกัน ทีนี้ถ้าสามารถไปขอขมาได้ที่องค์พระที่เราบนได้ก็ดีครับ เพราะเทพยดาที่ดูแลสถานที่นั้นก็จะได้เปรียบเสมือนร่วมรับรู้และเป็นประจักษ์พยานในการขอขมาของเราครับ
ลบ