วันอังคารที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2552

เขมรขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารสำเร็จเพราะนพดล(ย่อๆ)

อ่านจับผิดคำพูดนพดล
.
ก่อนอื่นเราต้องรู้ก่อนว่า ไทยเราไม่ได้จะเรียกร้องตัวปราสาทคืน แต่ไทยเราต้องการปกป้องพื้นที่ของเรารอบเขาพระวิหาร เพราะจากคำสั่งศาลโลก เขมรได้เฉพาะตัวปราสาทเท่านั้น พื้นที่นอกปราสาททั้งหมดคือของเรา

และไม่มีคำว่าพื้นที่ทับซ้อนมาก่อน เพราะไทยเราถือว่านอกตัวปราสาทคือพื้นที่ไทย และเขมรก็ไม่เคยทักท้วงพื้นที่ตรงนี้มาหลายสิบปีแล้ว และเราก็เคยล้อมรั้วกั้นรอบตัวปราสาทตามมติครม.2505 เพราะเรายึดการแบ่งเขตแดนตามหลักสากลตามแนวสันปันน้ำ

เขมรได้มีการเสนอขอขึ้นทะเบียนมรดกโลกมากว่า10ปี แต่ไม่เคยสำเร็จ เพราะเขมรต้องการขึ้นทะเบียนแต่ฝ่ายเดียว โดยต้องการใช้พื้นที่บริเวณโดยรอบในเขตไทยด้วย


ซึ่งฝ่ายเรายืนกรานมาตลอดว่า หากจะใช้ขอใช้พื้นที่ในฝ่ายไทยต้องขึ้นร่วมเท่านั้น

ข้อพิรุธ เมื่อนพดล ปัทมะมาเป็นรมต.ในรัฐบาลสมัคร นพดลก็ได้ปลดอธิบดีกรมสนธิสัญญาคือนายวีระชัย พลาศัย ออก และยังปลดประธานมรดกโลกไทยศาตราจารย์อดุลย์ วิเชียรเจริญ ประธานมรดกโลกไทยที่ทำหน้าที่มากว่า25ปี

และตั้งนายปองพล อดิเรกสารหนึ่งในสมาชิกบ้าน111เป็นประธานมรดกโลกแทน ซึ่งแต่งตั้งเสร็จก่อนนายนพดลจะเดินทางไปเซ็นยินยอมให้เขมรไม่กี่วัน?

ซึ่งทั้งอธิบดีกรมสนธิสัญญาคนเก่าและประธานมรดกโลกคนเก่าที่ถูกการเมืองสมัยรัฐบาลสมัครปลดออกนี้ ต่างก็ไม่ยอมให้เขมรขึ้นทะเบียนมรดกโลกฝ่ายเดียวมาตลอด เพราะรู้ว่าไทยจะเสียเปรียบเรื่องดินแดนแก่เขมรทันที

นพดลพูดอยู่เสมอว่า กัมพูชาขึ้นเฉพาะตัวปราสาทเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงกฏของมรดกโลกจะไม่สามารถขึ้นทะเบียนแค่ตัวปราสาทเท่านั้น เพราะต้องขึ้นบริเวณโดยรอบด้วยเพื่อการอนุรักษ์

และเมื่อIcomos ได้ตัดสินให้เขมรได้ขึ้นทะเบียนมรดกโลกได้ ทางยูเนสโกก็ได้เปิดเผยเอกสารการยื่นขอของเขมรหลายชิ้น แต่ไม่ยอมเปิดเผยแผนที่ที่เขมรใช้ยื่น จึงน่าจะมีลับลมคมในแอบแฝง . เพราะหลังจากเขมรได้รับการอนุมัติขึ้นทะเบียน เขมรก็ออกข่าวฟ้องต่อชาวโลกว่า ไทยบุกรุกยึดพื้นที่เขมร และทำให้เกิดการปะทะกันหลายครั้ง
.
และหากเขมรขึ้นเฉพาะตัวปราสาท และเฉพาะพื้นที่ตัวปราสาทจริงตามที่นพดลอ้าง แผนที่ก็ไม่น่าจะต้องปิดบังอำพรางกัน แต่ที่จริงแล้ว เขมรคงใช้แผนที่ของฝรั่งเศสยื่น เพราะเขมรอ้างอยู่เสมอว่า พื้นที่ที่พิพาท4.6ตร.ม.เป็นของเขมรมาตลอด ไม่เคยใช้คำว่าพื้นที่ทับซ้อนตามที่ฝ่ายไทยหรือนายนพดลชอบใช้เลย
.
(แม้ภายหลังนพดลบอกว่าได้แจ้งยกเลิกหนังสือเซ็นยินยอมดังกล่าวกับเขมรแล้ว แต่สิ่งนั้นไม่ใช่การประกาศยกเลิกอย่างเป็นทางการโดยรัฐบาลไทย สิ่งที่ถูกต้องคือต้องทำหนังสือแจ้งยกเลิกโดยมติครม. ส่งถึงเขมรและคณะกรรมการมรดกโลกอย่างเป็นทางการ ไม่ใช่แคโทรไปยกเลิก หรือบอกยกเลิกปากเปล่า)

เขมรยื่นแผนที่ฉบับของเขาที่รวมอาณาเขตเข้ามาในพื้นที่ของไทย และมีเอกสารเซ็นยินยอมของนายนพดลแนบไปด้วย พูดง่ายๆก็คือ หากนายนพดลไม่โดนเขมรหลอก ก็ต้องเป็นนายนพดลโกหกหรือก็ร่วมมือกัน อย่างใดอย่างหนึ่งแน่นอน (ดูคลิปที่นพดลพูดว่า เขมรจะขึ้นเฉพาะตัวปราสาท)

กล่าวโดยสรุปง่ายๆก็คือ หากเขมรสามารถขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาทเขาพระวิหารได้เอง เขมรคงไม่ต้องมาขอเจรจาให้ไทยต้องเซ็นยินยอมอะไร เพราะตามหลักการขึ้นทะเบียนมรดกโลก หากโบราณสถานที่จะขึ้นทั้งหมดตั้งอยู่ในดินแดนของประเทศผู้ทำการขอทั้งหมดอยู่แล้ว ก็สามารถขึ้นทะเบียนได้ทันที นอกเสียจากว่ามีพื้นที่ร่วมกัน

แต่เขมรก็ขอตื้อให้ไทยเราเซ็นยินยอมให้พื้นที่นอกตัวปราสาทต่างหากล่ะ ถึงได้ต้องยืดเยื้อมานานนับ10ปี ซึ่งหากขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาทได้จริงตามที่นายนพดลกล่าวอ้างภายหลัง(ซึ่งก่อนหน้านั้นนายนพดลยืนกรานว่าต้องขึ้นร่วมกันเท่านั้นมาตลอด) จริง เขมรคงไม่จำเป็นต้องขอเจรจาให้ไทยเราเซ็นมาร่วม10ปี


เพราะตามคำตัดสินศาลโลก เขมรได้ตัวปราสาทไปอยู่แล้ว ซึ่งศาตราจารย์อดุลย์ วิเชียรเจริญ ก็ได้เคยพูดว่า ตราบใดเราไม่ยอมเซ็น เขมรก็จะไม่มีทางขึ้นทะเบียนมรดกโลกได้แน่นอน เพราะมรดกโลกต้องขึ้นพร้อมบริเวณโดยรอบที่เกี่ยวข้องทางประวัติศาสตร์ จึงสรุปได้ว่า ไม่เขมรโกง ก็นพดลหลอกคนไทยแน่นอน

(คลิกอ่านความเห็นศาสตราจารย์อดุลย์ ชี้ไทยเสียอธิปไตยเขาพระวิหาร)

หลังจากนายนพดล ลาออกแล้ว เปลี่ยนรัฐบาลเรื่อยมาจนถึงรัฐบาลอภิสิทธิ์ ตอนนี้ทั้งอดีตอธิบดีกรมสนธิสัญญาคนเก่า นายวีระชัย พลาศัย และประธานมรดกโลกคนเก่าศาสตราย์อดุลย์ วิเชียรเจริญ ก็ได้กลับมารับตำแหน่งเดิมแล้วทั้งสิ้นครับ

(แต่เดิมไม่เคยมีพื้นที่ทับซ้อน แต่ผ่านมาหลายสิบปี รัฐบาลสมัครเรากลับไปเรียกว่าพื้นที่ทับซ้อน ก็เท่ากับยกแผ่นดินให้เขาไปด้วยวาจาครึ่งนึงแล้ว ทั้งๆที่ในประเทศเขมรคนของเขา สื่อของเขมรไม่เคยเรียกคำว่าพื้นที่ทับซ้อนเลย เขาเรียกว่าพื้นที่เขมรทุกครั้ง แม้กระทั่งในการเจรจาเขมรก็ไม่เคยใช้คำว่า พื้นที่ทับซ้อน)
.
ตอนนี้ไทยเราเสียเปรียบเขมรไปแล้วก็เพราะการเซ็นของนพดลนี่แหล่ะครับ

คลิกอ่าน เตช บุนนาคลาออกและกรณีเขมรกับเขาพระวิหาร ตอนแรก

คลิกอ่านประวัติเขาพระวิหารและมุมมองนักวิชาการ

คลิกอ่าน เขมรชั่วตอน1


ระหว่างคำพูดของนพดล ที่บอกว่าเขมรสามารถขึ้นเฉพาะตัวปราสาทได้ กับคำพูดของศาสตราจารย์ดร.อดุลย์ วิเชียร์เจริญพูดว่า เขมรไม่สามารถขึ้นเฉพาะตัวปราสาทได้ คำพูดของใครน่าเชื่อถือกว่า?

นพดล ปัทมะรมต.ต่างประเทศที่เพิ่งเป็นรมต.ได้ไม่กี่วันจะรู้เรื่องโบราณสถานมากกว่าประธานมรดกโลกไทยอย่างดร.อดุลย์ที่ทำงานเฉพาะด้านมาเกือบ30ปีได้หรือ เพราะหากดร.อดุลย์ไม่แน่จริง เขมรมันคงขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารไปได้เป็นสิบปีแล้ว

สรุปง่ายนพดลมันเลว โกหกทั้งเพ !

******************************************************

ทีนี้มาดูรายการตาสว่างที่นำนักวิชาการเฉพาะทางมาถก ก่อนที่เขมรจะได้รับการตัดสินได้ขึ้นทะเบียน











.
.

1 ความคิดเห็น:

  1. อ่าน ระเบิดเวลาเรื่องเขาพระวิหาร โดยอาจารย์ศรีศักร วัลลิโภดม

    คลิกที่นี่

    ตอบลบ

ถ้าแสดงความเห็นตรงช่องนี้ผมจะได้อ่านทุกความเห็นครับ แต่ถ้าความเห็นไม่ขึ้นอาจเพราะระบบรอตรวจสแปม ต้องรอ1-2วัน / ใหม่ เมืองเอก kaeake@ymail.com


ผู้ติดตาม