วันอาทิตย์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2555

ไข่ไก่ซีพีแพงกว่าไข่ไก่อเมริกา





คุณผู้อ่านครับ เมื่อก่อนผมเคยชื่นชม CP. มากๆ เพราะคิดว่าเขาทำกิจการเกษตร จนรวยล้นฟ้าได้ขนาดนี้ แสดงว่าเขาเก่งจริงๆ ซึ่งผมเคยเปรียบเทียบเล่นๆ คุยให้พวกแท็กซี่ที่ผมเคยนั่งเมื่อสมัยปี 2538 ฟังว่า ซีพีขายไก่จนรวยแสนล้าน กำไรไข่ฟองละกี่สตางค์ ต้องขายเท่าไหร่ถึงจะรวยได้ขนาดนี้ ส่วนทักษิณขายมือถือเอากำไรแพงๆ ถึงได้รวยแสนล้านภายในเวลาไม่กี่ปี

เจ้าของซีพีจึงเก่งกว่าทักษิณเยอะ เพราะขายของกำไรน้อย ๆ แต่รวยได้มหาศาล ส่วนทักษิณขายของแพง บนธุรกิจสัมปทาน คู่แข่งน้อย ถึงได้รวยมหาศาลในเวลาอันสั้น แถมเป็นกิจการนำเข้าสินค้ามาเอากำไรคนไทย ขณะซีพีเอาสินค้าคนไทยไปขายต่างชาติ

แต่ทุกวันนี้ผมก็ยังยอมรับว่าซีพีเขาเก่ง แต่อย่าเชื่อในสิ่งที่เจ้าสัวซีพีพูดทั้งหมด เพราะสุดท้ายแกพูดอะไรก็ตั้งอยู่บนผลประโยชน์ของซีพีเป็นหลัก คล้ายๆ หลอกคนไทยให้เชื่อแกเพื่อช่วยให้ซีพีรวยๆๆๆ

อย่างเช่นเมื่อเดือนก่อน เจ้าสัวธนินทน์ พูดว่า รัฐบาลทำโครงการจำนำข้าวน่ะดีแล้ว ตามนโยบาย2สูงของแก ก็เพื่อกิจการยาปุ๋ย โรงสีในเครือเจี่ยไต๋ ได้ผลประโยชน์ ด้วยนั่นแหละ

หรืออย่างเช่นเจ้าสัวซีพียังจะบอกอีกว่า ให้รัฐบาลสนับสนุนคนไทยปลูกยางพาราเยอะๆ ทั้งๆ ที่จีนก็ไปสนับสนุนให้ลาวปลูกยางพารา จนตอนนี้ยางพาราราคาตก เพราะจีนผลิตยางรถยนต์ราคาถูกตีตลาดโลกแล้ว ทำให้ยางพาราราคาตก

ที่ซีพีอยากให้คนไทยปลูกยางพาราเยอะๆ เพราะเมล็ดพันธุ์ยาง ซีพีครองตลาด แถมซีพีต้องการวัตถุดิบยางพาราราคาถูกๆ เพื่อไปผลิตมอเตอรไซค์ที่จีน

ซึ่งนโยบายยางพาราทำให้คนไทยบุกรุกป่ามากขึ้น เช่นทางใต้ ชาวบ้านปลูกยางพาราบนเขา จนดินถล่มยามหน้าฝนทุกปี

คุณเคยรู้ม้ย? ระบบการผลิตทั้งไก่และไข่ ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของซีพี และบริษัทยักษ์ใหญ่เพียงไม่กี่เจ้า เพราะซีพีเป็นผู้ขายพันธุ์ไก่ เป็นผู้ขายอาหารไก่ เป็นผู้ขายยารักษาไก่ พูดง่ายๆ ว่า ซีพีคุมตลาดไก่ได้ทั้งระบบ

ฉะนั้น ราคาไก่หรือไข่ที่แพง ก็เพราะเครือซีพีนี่แหละ ได้รับผลประโยชน์ทุกอย่างเต็มๆ เพราะคุมราคาต้นทุนการผลิตไก่และไข่ทั้งระบบ โดยที่บริษัทไก่และไข่รายอื่นๆ ก็ไม่กล้าหือกับซีพี แปลความง่ายๆ ว่าร่วมกินตามน้ำไปกับซีพี เพราะหากไปขวางยักษ์ใหญ่ซีพี เดี๋ยวตัวเองจะเจ๊งๆ ง่ายๆ

หากใครเคยเดินตลาดสด ย่อมรู้ดีว่า ไข่ไก่เบอร์ 0 ของซีพี เล็กกว่าไข่ไก่เบอร์1 ตามตลาดสดด้วยซ้ำ

แต่ซีพีเขาก็ขายได้ เพราะเขามีช่องทางขายที่ครอบคลุม เพราะซีพีคือเจ้าของเซเว่น และยังมีหุ้นในแมคโครและเทสโก้โลตัส รวมทั้งซีพีเฟรชมาร์ท เพราะเขาขายความสะดวก ซึ่งคนไทยจำนวนมากก็ชอบซื้อความสะดวก โดยที่ไม่รู้ตัวว่าโดนเขาเอาเปรียบอยู่ หรือก็ยอมให้เขาเอาเปรียบเพราะไม่มีทางเลือก

แต่ไม่ว่าไข่ซีพีจะขายได้หรือไม่ก็ตาม เขาก็มีกิจการรองรับไข่ที่เหลือขายอยู่แล้ว ด้วยการไปแปรรูปทำอาหารกล่อง ฯลฯ หรือแม้แต่ไข่ไก่ของชาวบ้านขายได้ ซีพีก็รวยด้วยเหมือนกัน เพราะซีพีคือผู้ครองระบบการผลิตไข่และไก่ในประเทศไทย

-----------------

ราคาไข่ไก่ไทยเทียบไข่อเมริกาเมื่อปี 54

เมื่อปีที่แล้ว ปี54 ช่วงรัฐบาลประชาธิปไตย์ ผมเคยเขียนบทความเรื่อง ไข่ไทยแพงกว่าไข่ญี่ปุ่น โดยเทียบกับค่าแรงของแต่ละประเทศ

และในบทความนั้น ก็มีแถมราคาไข่ไก่ในอเมริกาไว้หน่อยนึง ซึ่งในบทความนั้น ไข่ไก่ที่นิวยอร์ค แบบคละขนาด ราคาอยู่ที่ประมาณฟองละ 4.75 บาทเท่านั้น ซึ่งราคาไม่ต่างประเทศไทยเท่าไหร่นัก เพราะไข่ไก่ซีพีก็ตกฟองละ 4 บาทกว่ามาตั้งแต่ปีที่แล้วละ โดยเฉพาะไข่ไก่เบอร์ 1


ซึ่งคนนิวยอร์คมีค่าแรงขั้นต่ำที่ 1,740 บาทต่อวัน ก็เท่ากับว่า คนนิวยอร์ค ทำงานสามารถซื้อไข่ไก้ได้มากถึง 1,740 หาร 4.75 = 366 ฟองต่อวัน

ในขณะที่เมื่อปี54 คนกรุงเทพฯ ยังมีค่าแรงอยู่ที่ 226 บาทต่อวัน ก็เท่ากับคนกรุงเทพฯ ซื้อไข่ไก้ได้วันละ 226บาท หาร 4 บาท = 56.5 ฟองเท่านั้น

แต่นั่นเป้นการหาข้อมูลแบบคร่าวๆ ของผม

------------------------

ราคาไข่ไก่ ซีพี เทียบกับไข่ไก่อเมริกาปี55


ทีนี้ลองมากดูราคาไข่ไก่ ที่อเมริกาดูบ้างครับ

แต่ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ที่อเมริกาเขาขายไข่ไก่หลักๆ แค่ 3 ขนาด คือ ใหญ่ กลาง เล็ก ซึ่งขนาดใหญ่ก็น่าจะตรงกับไข่เบอร์ 0 บ้านเรา

ราคาไข่ไก่ขนาดใหญ่ ที่อเมริกา โหลละ 1.79 เหรียญ หรือ 53.7 บาทเท่านั้น นี่เป็นราคาเมื่อธันวาคมปีที่แล้ว



ไข่ไก่ขนาดใหญ่ที่อเมริกา 12ฟอง ราคา 53.7 บาท หรือตกฟองละ 4.47 บาทเท่านั้น ซึ่งถูกกว่าไข่ไก่เบอร์0 ของซีพีเสียอีก เพราะไข่ไก่เบอร์0 ซีพี10 ฟองอยู่ที่ 61บาท หรือฟองละ 6.10บาท เข้าไปแล้ว





ส่วนราคาไข่ไก่เบอร์1 ของซีพี แพค10ฟอง ที่ร้านซีพีเฟรชมาร์ช ขายที่ราคา 59 บาท หรือ ตกฟองละ 5.9 บาท แพงโคตรๆ




แล้วที่อเมริกา ราคาไข่ไก่ขนาดกลาง ถูกที่สุดเท่าที่ผมพอจะหาได้ คือราคาไข่ขนาดกลาง medium 1โหล ราคาขายเพียง 99เซนต์ หรือประมาณ 30บาท เท่านั้น (ราคาเมื่อตุลาคมปีที่แล้ว) หรือตกฟองละ 2.50 บาทเท่านั้น ถูกเหลือเชื่อ!! ซึ่งราคาไข่ไก่ในอเมริกาก็ไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงมากนักหรอก

คลิกที่รูปเพื่อขยาย!!




แต่ผมยังหาราคาไข่ที่ถูกเหลือเชื่อได้อีก คือที่ซุปเปอร์มาเก็ตที่มีชื่อว่า Save a lot ของอเมริกา เขาจัดรายการเมื่อไม่กี่เดือนก่อน ราคาไข่ไก่ขนาดใหญ่ โหลละ1เหรียญ หรือ30บาท เท่านั้น แต่ต้องซื้อ10แพค 10เหรียญ





จากที่ผมนำราคาไข่ไก่ในอเมริกามาให้ดูนั้น เราก็คงจะมองเห็นแล้วว่า คนไทยเรากินไข่แพงกว่าอเมริกาจริงๆ ทำไมนะ ประเทศที่ได้ชื่อว่า ส่งออกไก่มากอันดับโลก ส่งไข่ไก่ไปขายต่างประเทศ มีไข่ไก่ที่ผลิตได้เอง กลับต้องกินไข่แพง??

ไม่เพียงแต่ไข่เท่านั้น ไก่สดที่อเมริการาคาก็ใกล้เคียงกับที่คนไทยซื้อเช่นกัน

ผมคงไม่ต้องบอกว่าเพราะอะไร เพราะในบทความที่ผ่านๆ มาของผม ก็ได้บอกไว้แล้ว

สุดท้ายขอแถมราคาไข่ขนาดกลางของญี่ปุ่น 10ฟองราคา จัดรายการคือ 139 เยน หรือ 55.18บาทเท่านั้น ตกฟองละ 5.50 บาท ใกล้เคียงกับราคาไข่ไก่เบอร์1 ของซีพีเลย



แต่ค่าแรงขั้นต่ำญี่ปุ่น เขาตกวันละ 2,400บาทต่อวันนะครับ !!

สรุปว่า คนไทยเราหากเชื่อในหลวง  โดยเฉพาะพ่อค้า นักการเมือง ทุกคนเชื่อในหลวง ก็จะไม่มีการเอาเปรียบคนไทยด้วยกันมากขนาดนี้หรอกครับ

ประเทศไทยจะรอดได้เพราะเชื่อในหลวงเท่านั้นครับ

คลิกอ่าน คนไทยกินน้ำตาลทรายแพงไปมั้ย??


วันเสาร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2555

น้ำตาลทรายคนไทยกินแพงไปมั้ย?







บทความที่ผมเขียนเกี่ยวกับราคาอาหารที่คนไทยกิน เมื่อเทียบกับค่าแรง ผมเขียนมาหลายบทความเริ่มตั้งแต่ปี 2554 หรือตั้งแต่ในยุครัฐบาลประชาธิปัตย์ เรื่อยมาจนถึงรัฐบาลยิ่งลักษณ์

บทความเกี่ยวกับราคาอาหารแพงที่คนไทยกิน ผมขอบอกก่อนว่า ผมคิดว่ามันเป็นปัญหาเรื้อรังมานานแล้ว ไม่เฉพาะแค่รัฐบาล2ชุดที่ผ่านมา ทั้งหมดมันก็เพราะระบบที่ผิดพลาดทางนโยบายของรัฐบาลทุกยุคทุกสมัย และปัญหาความเห็นแก่ตัวของนักการเมือง ข้าราชการ ที่ร่วมกันกับพวกกลุ่มพ่อค้าคนกลางและกลุ่มธุรกิจต่างๆ ที่เอาเปรียบคนยากจนในประเทศนี้

ผมไม่ศรัทธานักการเมืองไทย เพราะนักการเมืองไทยส่วนใหญ่เอื้อเฟื้อนายทุน เพราะนายทุนก็มักเป็นญาตินักการเมือง หรือไม่ก็เป็นกลุ่มทุนที่สนับสนุนพรรคการเมือง จึงแทบไม่มีทางเลยที่นักการเมืองจะออกกฏหมาย หรือกฎระเบียบอะไรที่จะขัดผลประโยชน์กลุ่มนายทุน

---------------------------

วันนี้ผมขอเขียนถึงราคาน้ำตาลทราย

ก่อนอื่นต้องบอกข้อมูลว่า ไทยเราคือผู้ส่งออกน้ำตาลสูงสุดเป็นอันดับที่2 ของโลก รองจากบราซิล โดยไทยส่งออกประมาณ7ล้านตันต่อปี และใช้บริโภคในประเทศประมาณ2.4ล้านตันต่อปี

ส่วนบทความของผมวันนี้ จะพูดถึงเฉพาะน้ำตาลทรายขาว ซึ่งเป็นน้ำตาลที่คนนิยมใช้มากที่สุด และราคาน้ำตาลทรายในประเทศที่ถูกควบคุมไว้คือ ไม่เกินกิโลกรัมละ 23.50 บาท


สรุปคร่าวๆ ว่า คนไทยเราซื้อน้ำตาลทรายขาวที่กก.ละ 23.50 บาท เป็นหลักไว้ก่อน ค่าแรงขั้นต่ำกรุงเทพฯ วันละ 300 บาท ก็จะซื้อน้ำตาลทรายได้ วันละ 12.76 ถุง เท่านั้นครับ


แล้วต่างประเทศเขาซื้อน้ำตาลทรายขาวกิโลละเท่าไหร่กันบ้าง?

ฮ่องกง ต้องนำเข้าน้ำตาลทรายขาวจากต่างประเทศ

ราคาน้ำตาลทรายขาว 1 กก. ที่ฮ่องกง ราคากก.ละ 13 HKD หรือ 52 บาท
ในขณะที่ค่าแรงขั้นต่ำฮ่องกง ประมาณ วันละ 866 บาทต่อวัน (28 HKD ต่อชม.)
สรุปได้ว่า ค่าแรงขั้นต่ำฮ่องกง สามารถซื้อน้ำตาลทรายขาว 1กก. ได้วันละ 866 หาร 52 = 16 ถุง



อังกฤษ ก็ปลูกอ้อยไม่ได้ ต้องนำเข้าน้ำตาลทรายเช่นกัน แต่อังกฤษเป็นตลาดกลางน้ำตาลทราย

ราคาน้ำตาลทรายขาว 1กก. ที่อังกฤษ ราคากก.ละ 0.79 ปอนด์ หรือกก.ละ 39.50บาท หรือบางที่ก็ขายแพงหน่อยคือ 0.85ปอนด์ หรือกก.ละ 42.5 บาท งั้นผมขอยึดไว้ที่ราคากลางๆ ไว้ที่ 40 บาท/กก. แล้วกัน

ในขณะที่ค่าแรงขั้นต่ำอังกฤษ ประมาณวันละ 8 ปอนด์ต่อชม. หรือ 3,200 บาท/วัน
สรุปได้ว่า ค่าแรงขั้นต่ำอังกฤษ สามารถซื้อน้ำตาลทรายขาว 1กก. ได้วันละ 3,200 หาร 40 = 80 ถุง (โอวโนว!!)







เยอรมัน

ราคาน้ำตาลทรายขาว 1กก. ที่เยอรมัน ราคากก.ละ 0.75 ยูโร เมื่อบวกภาษี19% ก็ตกราวๆ กก.ละ 0.89 ยูโร หรือ 35.60 บาท
ในขณะที่ค่าแรงขั้นต่ำเยอรมัน คือ 8.19 ยูโร/ชม. หรือ 2,555 บาท/วัน
สรุปได้ว่า ค่าแรงขั้นต่ำเยอรมัน สามารถซื้อน้ำตาลทรายขาว1กก. ได้วันละ 2,555 หาร 35.60 = 71.76 ถุง






ออสเตรเลีย

ราคาน้ำตาลทรายขาว 1กก.ที่ออสเตรเลีย ราคากก. 2.26 AUD หรือ 73 บาท
ในขณะที่ค่าแรงขั้นต่ำออสเตรเลีย คือ 15.96 AUD/ชั่วโมง หรือประมาณ 4,144 บาท/วัน
สรุปได้ว่า ค่าแรงขั้นต่ำออสเตรเลีีย สามารถซื้อน้ำตาลทรายขาว 1กก. ได้วันละ 4,144 หาร 73 = 56 ถุง






ต่อไปนี้คือข้อมูลที่น่าตกใจพอควร คือประเทศมาเลเซีย

มาเลเซีย เป็นผู้นำเข้าน้ำตาลทรายดิบรายใหญ่จากไทย!! เพื่อไปแปรรูปเป็นน้ำตาลทรายขาวเอง

และราคาน้ำตาลทรายขาวที่ขายในมาเลเซีย ราคากิโลกรัมละ RM2.30 หรือ 23บาท/กก. เท่านั้น

ทำไมประเทศที่ซื้อน้ำตาลทรายดิบจากไทยแท้ๆ กลับขายน้ำตาลทรายได้ถูกกว่าประเทศที่เป็นผู้ส่งออกรายใหญ่อันดับ2ของโลกอย่างไทยได้ ??

นั่นแปลว่าอะไร? ก็แปลว่า ก็แปลว่า คนไทยถูกบริษัทน้ำตาลทรายของไทยเอาเปรียบคนไทยไงครับพี่น้อง!!

ราคาน้ำตาลทรายขาว ยี่ห้อ GULA PRAI ของมาเลเซีย ขนาดบรรจุ 1กก. 


ที่สำคัญเมื่อปลายปี2554ไทยเรามีวิกฤติน้ำตาลทรายขาดตลาด เพราะจะมีการปั่นราคาให้สูงขึ้น ทำให้คนไทยชายแดนมาเลเซีย ต้องลักลอบไปซื้อน้ำตาลทรายจากมาเลย์ เข้ามาขายในประเทศไทยเอง ทำไมประเทศที่มีน้ำตาลมากที่สุดในโลกอันดับ2 อย่างไทย อยู่ๆ คนไทยต้องไปซื้อน้ำตาลทรายจากมาเลเซีย ?  มันตลกมั้ย?




สิงคโปร์ ซื้อน้ำตาลทรายมิตรผลจากไทยไปขาย

น้ำตาลทรายขาวมิตรผล1กก. ในสิงคโปร์ ราคาถุงละ 1.25 SGD หรือ 31.25 บาท/กก.
ค่าแรงขั้นต่ำอย่างไม่เป็นทางการของสิงคโปร์ คือวันละ 1,830บาท ต่อวัน
สรุปได้ว่า ค่าแรงขั้นต่ำในสิงคโปร์ สามารถซื้อน้ำตาลทรายขาว1กก. ได้วันละ 1,830 หาร 31.25 = 57.6 ถุง



ตั้งข้อสังเกตคือ คนไทยซื้อน้ำตาลทรายขาวมิตรพล กก.ละ 23.50 บาท แล้วสิงคโปร์เขาซื้อน้ำตาลทรายขาวจากไทยไปในต้นทุนกี่บาท เขาถึงได้ขายในราคา31.25บาทได้ ??  แพงกว่าในไทยแค่ 7.75บาทเท่านั้น

ถ้าสิงคโปร์ซื้อน้ำตาลทรายขาวมิตรผลกก.ละ 23.50 บาทเท่าที่คนไทยซื้อ แต่เมื่อบวกค่าขนส่ง ไปจนถึงค่าการตลาด จนไปตั้งวางขายในร้านค้าได้ บริษัทสิงคโปร์ที่สั่งน้ำตาลมิตรผลไปขาย เขาจะเอากำไรแค่ถุงละ 7.75 บาทเท่านั้นเองเหรอ?



ส่วนอินโดนีเซีย กับฟิลิปปินส์ ก็เป็นชาติที่นำเข้าน้ำตาลทรายดิบจากไทย เพราะเขาผลิตน้ำตาลของเขาเองไม่พอกิน ก็ทำให้2ชาตินี้ กินน้ำตาลทรายแพงกว่าไทย เช่น

ที่อินโดนีเซีย น้ำตาลทรายขาวกก.ละ 42บาท ขายแพงกว่ามาเลเซียถุงละ19 บาท ค่าแรงขั้นต่ำที่กรุงจากาต้าร์ วันละประมาณ163บาท

ที่ฟิลิปปินส์ น้ำตาลทรายขาวกก.ละ 39 บาท ขายแพงกว่ามาเลเซียถุงะ16บาท ค่าแรงขั้นต่ำที่กรุงมนิลา วันละ335บาท

2ประเทศนี้ผมไม่แปลกใจอะไร เพราะเขาต้องนำเข้าน้ำตาลทรายดิบจากต่างประเทศไปแปรรูปเช่นกัน และความแตกต่างระหว่างคนรวยและคนจน ของทั้งสองประเทศนี้ก็สูงมากๆ ไม่แพ้ประเทศไทย

------------------------

คนไทยกินน้ำตาลทรายแพงกว่าราคาตลาดโลกเท่าไหร่?

ส่วนราคาน้ำตาลทรายขาว ตลาดกลางอังกฤษ ราคาซื้อขายล่วงหน้า ณ. เดือนตุลาคม2555 ปิดที่ 557..90 USD/ตัน หรือ 17,294.90 บาทต่อตัน หรือเฉลี่ยกก.ละ 17.30 บาท/กก.

คนไทยเรากินน้ำตาลทรายขาว กก.23.50 แพงกว่าค่าเฉลี่ยราคากลางตลาดโลกที่อังกฤษ 6 บาท ทั้งๆ ที่น้ำตาลทรายขาวกว่าจะเดินทางจากไทยไปถึงอังกฤษ น่าจะมีค่าขนส่งรวมอยู่พอควรนะ

หากคิดแบบชาวบ้านๆ ผมคิดว่า ถ้าจะให้ยุติธรรมกับคนไทยจริงๆ คนไทยเราไม่ควรกินน้ำตาลแพงกว่า กก.ละ20 บาท 

แต่ถ้าจะให้ยุติธรรมที่สุดเป็นธรรมที่สุด คนไทยควรกินน้ำตาลทรายขาวถูกกว่าราคาตลาดโลก จริงหรือไม่?

แต่ที่ผ่านๆ มา รัฐบาลและพ่อค้าน้ำตาลมักอ้างว่า ที่น้ำตาลในประเทศต้องแพง ก็เพื่ออุ้มเกษตรกรชาวไร่อ้อย และเพื่อไม่ให้น้ำตาลทรายถูกลักลอบออกไปขายนอกประเทศ (อ้างเหมือนที่ ปตท.ชอบอ้าง)

ทำไมคนไทยเรา ประเทศไทยเรา ผลิตน้ำตาลทรายส่งออกมากเป็นที่ 2ของโลกแท้ๆ แล้วทำไมคนไทยต้องกินน้ำตาลทรายแพงกว่าราคาเฉลี่ยของราคาน้ำตาลตลาดโลกด้วย??  

ต้องแพงเพื่อช่วยเกษตรกรจริงเหรอ?
หรือว่า ช่วยนักการเมือง พ่อค้าคนกลาง และบริษัทน้ำตาลทรายให้รวยกันแน่??


ที่ผมโพสราคาน้ำตาลทรายขาวในแต่ละประเทศให้ดูนั้น ทำให้เราได้ห็นว่า ชาติหลาย ๆ ชาติ ไม่ได้ผลิตน้ำตาลทรายได้เอง แต่กลับซื้อน้ำตาลทรายได้จำนวนมากกว่าคนไทยซื้อ เมื่อเทียบกับจำนวนค่าแรงในแต่ละประเทศ

มันทำให้ผมเชื่อสนิทว่า คนไทยยากจน และต้องกินของแพงทั้งๆ ที่เราผลิตได้เอง มันต้องเกิดจากความผิดปกติของระบบเศรษฐกิจที่เอาเปรียบคนไทยนั่นแหละ แล้วใครล่ะคือต้นเหตุระบบที่เอาเปรียบคนไทยเช่นนี้

คำตอบก็คือ นักการเมืองไทย ฮั้วกับนายทุน นั่นแหละครับ




บทความต่อไป คุณจะอึ้งเพิ่มขึ้นเมื่อคนไทยกินไข่แพงกว่าคนอเมริกัน !!

วันจันทร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2555

ค่าเฉลี่ยคนไทยกินก๋วยเตี๋ยวแพงกว่าชาติอื่นหรือไม่?






บทความนี้ ต่อเนื่องจากบทความ ชายสี่หมี่เกี๊ยว แมร่งขายแพงว่ะ

คือราคาก๋วยเตี๋ยว หรือราคาบะหมี่ ที่คนกรุงเทพฯ ทานกัน ตอนนี้ทั่วไปเริ่มที่ 30บาท เป็นอย่างต่ำ แต่หลายที่หลายแห่ง ก็เริ่มที่35บาทเป็นอย่างต่ำแล้ว อย่างเช่นแถวบ้านผม คือโชคชัย4 ร้านก๋วยเตี๋ยวหลายร้ายเรื่มที่ราคาชามละ35บาท มีส่วนน้อยที่ขายราคาเริ่มที่ 30บาท

ถ้าหากไปที่ซอยลาดพร้าว 71 ร้านที่มีราคาเริ่มต้นที่30 กับร้านที่มีราคาเริ่มต้นที่35 บาท มีจำนวนพอๆ กัน

แต่ถ้าย่านวังหิน ราคาราดหน้าเริ่มที่ 35-40 บาท ไปแล้ว ผัดซีอิ้วก็เริ่มที่ 40-45 บาท แพงโคตรๆ สำหรับผมนะ เพราะทั้งราดหน้า และผัดซีอิ๊วต้นทุนต่ำแถมทำไม่ค่อยยาก ข้าวผัดหรือผัดไทย ยังทำยากกว่าเยอะ

และที่สำคัญ ร้านก๋วยเต๊๋ยวในกรุงเทพฯ หายากนัก ที่ปริมาณจะคุ้มค่ากับราคา คือกินแค่ชามเดียวส่วนใหญ่คนกินก็จะบอกว่า ไม่ค่อยอิ่มหรอก แต่ถ้าจะกิน2ชาม ก็ปาเข้าไป 60-70 บาท เข้าไปแล้ว (ไม่รวมค่าน้ำดื่ม)

อย่างชายสี่หมี่เกี๊ยว ที่ผมเล่าในบทความที่แล้ว ชามธรรมดา30 บาท แต่ปริมาณน้อยมากๆ ไม่คุ้มค่าที่จะกลับไปซื้ออีกครั้ง

----------------------

ผมเป็นคนชอบกินแต่บะหมี่

สำหรับผมชอบกินบะหมี่มากๆ ถ้าไปกินก๋วยเตี๋ยวก็มักจะสั่งแต่บะหมี่เท่านั้น เพราะบะหมี่ทำจากแป้งสาลี แถมมีไข่ผสม และที่สำคัญคือ บะหมี่ส่วนใหญ่จะไม่มีวัตถุกันเสีย หรือถ้ามีก็มีน้อยมากๆ ทำให้ร้านก๋วยเตี๋ยวหลายร้านไม่ขายบะหมี่ เพราะเก็บได้ไม่นาน เสียง่าย

เอาเป็นว่า ค่าเฉลี่ยราคาก๋วยเตี๋ยวที่คนไทยกิน ก็จะอยู่ที่ราคาเริ่มต้นที่ 30 บาท เรื่อยไปจนถึง 35 40 50 บาท แต่ถ้าแถวโชคชัย4 และลาดพร้าว71 แถวๆ บ้านผม ร้านริมถนน ก็จะอยู่ที่ 30-40 บาท

แต่ถ้าเป็นร้านใหญ่ตึกแถว แถววังหิน ก็ ชามละ 40-50 บาทเข้าไปแล้ว

แต่ไม่ว่าจะขายราคาเท่าไหร่ ปริมาณต่อชามก็น้อยสำหรับสายตาผมทุกร้านนั่นแหละ เพราะเมื่อเทียบกับชามก๋วยเตี่ยวของประเทศเพื่อนบ้าน อย่างสิงคโปร์ มาเลเซีย ก๋วยเตี๋ยว2 ประเทศนี้ ดูจะคุ้มค่าคุ้มราคากว่าก๋วยเตี๋ยวบ้านเราครับ

----------------------

ราคาก๋วยเตี๋ยวและบะหมี่ในสิงคโปร์

ก่อนอื่น ผมขอย้ำอีกครั้งว่า ประเทศสิงคโปร์ มีค่าแรงขั้นต่ำทั่วไปประมาณวันละ 1,800บาทต่อวัน (สำหรับคนสิงคโปร์) ซึ่งต้องบอกก่อนว่า สิงคโปร์ไม่มีกฎหมายค่าแรงขั้นต่ำ

แล้วราคาก๋วยเตี๋ยวและบะหมี่ ที่ขายร้านธรรมดาทั่วๆไป ของสิงคโปร์ ชามละเท่าไหร่?

คำตอบก็คือ ที่สิงคโปร์มีหลากหลายราคามาก ก็ประมาณชามละ 2.5 SGD ถึง 6 SGD ก็ตกประมาณ 63 - 125 บาท ต่อชาม

ก็เท่ากับว่า คนสิงคโปร์ทำงานด้วยค่าแรงขั้นต่ำวันละ 1,800 บาท สามารถซื้อก๋วยเตี๋ยวได้ถึงวันละ 12 ชามถึงวันละ 28 ชาม เลยทีเดียว แถมชามค่อนข้างใหญ่กว่าชามก๋วยเตี๋ยวในบ้านเราด้วย

ในขณะที่คนไทยค่าแรงวันละ300 บาท ซื้้อก๋วยเต๊่ยวชายสี่หมี่เก๊ยว ชามธรรมดา30บาท ได้แค่10 ชามเท่านั้น (ชามพิเศษก๋วยเตี๋ยว ชายสี่ 35-40 บาท)

และก๋วยเตี๋ยวชามธรรมดาของไทย ราคา 30 (ณ.ปี 2555)  ชามเดียวกินไม่อิ่มครับ จึงไม่สมควรเรียกว่า อาหารจานเดียว อีกต่อไป !!

-----------------

ข้อมูลราคาบะหมี่ในสิงคโปร์ ปี 2012

ดู บะหมี่ชามละ 4.25 SGD หรือประมาณชามละ 106.25 บาท ที่ร้าน 369 Singapore Asian Food

คลิกที่รูปเพื่อขยาย!!


http://tastyislandhawaii.com/2012/01/30/maunakea-marketplace-eats-triple-one-and-369-singapore-asian-noodle-shops/

-------------

บะหมี่ลูกชิ้นปลา ชามละ 2.50 เหรียญสิงคโปร์ ประมาณชามละ 62.50 บาท ที่ร้าน Heng Heng Fishball Noodle

คลิกที่รูปเพื่อขยาย!!

http://sg.openrice.com/singapore/restaurant/heng-heng-fishball-noodle/2422/


ร้าน Joo Heng Noodle บะหมี่หมูแดง

บะหมี่หมูแดงราคาจานละ2.5 เหรียญ หรือ 62.50บาท
บะหมี่เกี๊ยวหมูแดง จานละ 3เหรียญ หรือ 75 บาท

คลิกที่รูปเพื่อขยาย!!






บะหมี่หมูแดงจานละ 62.50 บาทแม้ดูปริมาณจะไม่มากเท่าไหร่ แต่ผมก็ว่าสมราคาในสิงคโปร์ เพราะราคาถือว่าถูกมากๆ เมื่อเทียบกับค่าแรงวันละ1,800 ของคนสิงคโปร์ แถมหมูแดงก็ชิ้นใหญ่สวย น่ากินกว่าชายสี่หมี่เกี๊ยวมากๆ

จากข้อมูล ผู้ที่ไปกินร้านนี้บอกว่าน้ำซุปอร่อยมาก เส้นบะหมี่ก็อร่อย สรุปร้านนี้อร่อยคุ้มราคา สำหรับสายตาคนสิงคโปร์


------------------------------


ราคาก๋วยเตี๋ยว ที่มาเลเซีย ปี 2012

มาเลเซีย มีค่าแรงขั้นต่ำ ที่ 300 บาทเท่าไทย แต่คนมาเลเซียเกิอบทั้งหมด ได้ค่าจ้างสูงกว่าค่าแรงข้ั้นต่ำ คือมีรายได้เฉลี่ย คนละ 23,000 บาทต่อเดือน

ก๋วยเตี๋ยวหัวปลา ร้านSS20 Damansara Kim ราคาเริ่มต้นชามละ RM 7 ถึง RM 9 หรือประมาณชามละ 70 - 90 บาท ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับชนิดของเนื้อปลา

แต่จากรูปที่ผมนำมาแสดง เราจะเห็นว่า ก๋วยเตี๊ยวที่มาเลเซียชามเขาจะใหญ่มากๆ พูดง่ายๆ ว่า ชามเดียวอิ่มครับ

คลิกที่รูปเพื่อขยาย!!

http://kyspeaks.com/2009/07/29/fish-head-noodle-at-ss20-damansara-kim/



แต่ก๋วยเตี๋ยวหัวปลา นั้นจัดเป็นก๋วยเตี๋ยวที่มีราคาแพงกว่าก๋วยเตี๋ยวธรรมดาทั่วไป

-----------------------


ร้านก๋วยเตี๋ยวหมู ในกัวลาลัมเปอร์

ร้าน Kui Lam ก๋วยตี๋ยวหมูชามละ 45 -50 บาท ชามใหญ่จริงๆ

คลิกที่รูปเพื่อขยาย!!



คลิกที่รูปเพื่อขยาย!! (ดูสิชามใหญ่จริงๆ 50 บาทเอง)


ป้ายราคาในร้าน Kui Lam ราคาธรรมดา Rm4.50 พิเศษ RM5.00

คลิกที่รูปเพื่อขยาย!!

http://www.kuanfoodfetish.com/2012/02/restaurant-kui-lam.html/

ค่าแรงขั้นต่ำในกรุงกัวลาลัมเปอร์ เท่ากับ กรุงเทพ คือ300 บาทต่อวัน

หากมองที่ราคาก๋วยเตี๋ยว1ชาม แม้มาเลเซียจะแพงกว่ากรุงเทพ คือ เริ่มตั้งแต่ชามละ 45 บาท ไปจนถึง 70บาท แต่หากเรามองไปที่ปริมาณแล้ว ชามก๋วยเตี๋ยวในมาเลเซีย ใหญ่มากๆ แถมใส่แบบเกือบเต็มชาม หรือจนเต็มชามเลย ไม่ใช่ใหญ่แต่ชาม แต่ใส่ก๋วยเตี๋ยวนิดเดียวเหมือนอย่างบางร้านในกรุงเทพฯ

ผมมองคร่าวๆ แล้ว ก๋วยเตี๋ยวในมาเลเซีย 1 ชาม มีปริมาณมากกว่าก๋วยเตี๋ยวในกรุงเทพประมาณ 2.5เท่า

ฉะนั้น สรุปคร่าวๆได้ว่า คนมาเลเซียกินก๋วยเตี๋ยวชามเดียวอิ่ม เพราะใหญ่เหลือเกิน ในขณะที่คนไทยต้องซื้อถึงกิน 2ชามครึ่ง ถึงจะได้ปริมาณเท่ากับที่คนมาเลเซียกินแค่ 1ชาม

ก๋วยเตี๋ยวเมืองหมูเมืองไทย 30บาท x 2.5เท่า =  75 บาท (จึงจะได้ปริมาณเท่าชามก๋วยเตี๋ยวมาเลย์ 1 ชาม)

แต่ก๋วยเตียวหมูในมาเลเซีย ชามใหญ่ๆ ชามเดียว 50 บาท

ก็เท่ากับว่า คนไทยยังกินก๋วยเตี๋ยวแพงกว่าคนมาเลเซียครับ


------------------------

สรุป

ที่ผมนำสิงคโปร์ กับมาเลเซีย มาเทียบกับไทย ก็เพราะ 2 ประเทศนี้หาข้อมูลได้ง่ายเพราะใช้ภาษาอังกฤษ และมีอาณาเขตติดต่อกับไทย มีสภาพเศรษบกิจแบบทุนนิยม และขนาดของเศรษฐกิจก็ใกล้เคียงกัน โดยสิงคโปร์มีขนาดทางเศรษฐกิจมูลค่าสูงสุด รองลงมาคือไทย และมาเลเซีย ตามลำดับ

ผมมองว่า คนสิงคโปร์ได้กินอาหารราคาถูกที่สุดในภูมิภาคนี้เลย เท่าที่ผมดูข้อมูลคร่าวๆ ในหลายประเทศแล้วนะ

มันน่าแปลกที่ ก๋วยเตี๋ยวในสิงคโปร์ ชามละ60-75 บาท ก็ยังมีขายอยู่มากมาย เมื่อเทียบกับค่าแรงขั้่นต่ำของคนสิงคโปร์ที่ 1,800บาทต่อวันแล้ว นับว่า ราคาถูกมากๆ

ทั้งๆ ที่ประเทศสิงคโปร์ไม่ได้ทำการเกษตรแบบในบ้านเรา แต่เขากลับซื้ออาหารการกินได้ราคาใกล้เคียงกับประเทศที่ได้ชื่อว่า เป็นแหล่งผลิตอาหารของโลกอย่างไทย

สาเหตุที่ชาวสิงคโปร์รายได้สูง แถมได้กินอาหารราคาถูก ผมมองได้ประเด็นเดียวคือ เพราะระบบการเมืองโดยนักการเมือง และข้าราชการ ระบบเศรษฐกิจของสิงคโปร์ โดยพ่อค้าและนักธุรกิจสิงคโปร์ เขาไม่เอาเปรียบประชาชน

ด้วยเหตุนี้ เราจึงไม่ต้องแปลกใจว่า ทำไมคนไทยที่จนก็จนซะเหลือเกิน ส่วนคนไทยที่รวยก็รวยซะเหลือเกิน นั่นเพราะการกระจายรายได้ และความเป็นธรรมในราคาสินค้าในเมืองไทยมันไม่ยุติธรรมกับคนไทย

ช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยในไทย จึงมีมากเหลือเกิน




ผู้ติดตาม