วันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

พันธมิตรยึดสนามบินยิ่งนานก็ยิ่งพลาด





จากสถานการณ์บุกยึดสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง พันธมิตรหวังจะกดดันอย่างหนักให้นายกฯสมชายลาออก แต่แล้วก็ไร้ผล

พันธมิตรนั้นก็กำลังถึงจุดวิกฤติ ในเรื่องความชอบธรรม เพราะการยึดสนามบินนั้น นอกจากจะกดดันนายกฯสมชายไม่สำเร็จ แถมกลับกลายเป็นทำร้ายคนไทยด้วยกันเองอีก เพราะการยึดสนามบินนั้น ไม่เพียงแต่สร้างความเดือดร้อนแก่นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางกลับบ้านเท่านั้น แต่ก็กระทบถึงประเทศไทยและคนไทยทั้งชาติด้วย

เพราะจากสภาวะวิกฤติเศรษฐกิจของโลกที่กำลังเกิดขึ้น การส่งออกที่แย่ลงอยู่แล้ว กลับต้องแย่ลงอย่างหนักสุดๆ


การท่องเที่ยวไทยอาจจะเป็นตัวช่วยชะลอวิกฤติเศรษฐกิจของไทย แต่สุดท้ายกลับไม่ช่วยอะไรได้เลย เพราะการยึดสนามบินของพันธมิตร ได้ทำลายความมั่นใจของชาวต่างชาติทั้งโลกแล้ว อย่างแทบไม่เหลือหรอ ยิ่งถ้าหากยืดเยื้อก็ยิ่งกู่ไม่กลับ (แม้เหตุการณ์จะจบ แต่นักท่องเที่ยวและนักลงทุนก็อาจไม่อยากกลับมาไทยอีก)


พันธมิตรด่าว่าระบอบทักษิณว่าทำลายประเทศจากการโกงกิน แต่การที่ยึดสนามบินของพันธมิตรอาจร้ายแรงยิ่งกว่า เพราะไม่ใช่เสียหายเฉพาะเศรษฐกิจเท่านั้น มันเสียหายไปถึงภาพพจน์ที่ดีของประเทศ ที่กลายเป็นบ้านเมืองที่ดูไร้ขื่อแป ไร้กฏหมายควบคุมที่เข้มงวด

แน่นอน! รัฐบาลสมชาย มันไร้ยางอายอยู่แล้ว แต่มันอยู่ในอำนาจที่ได้มาอย่างถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ แม้สมชายมันจะไร้จริยธรรม แต่ก็ต้องยอมรับว่า มันเป็นไปตามกฏหมาย พันธมิตรจะเอาชนะเขาด้วยการไร้กฏหมายเองงั้นหรือ?

พันธมิตรอยากให้ผู้นำมีคุณธรรม? แต่การที่พันธมิตรเอาความเดือดร้อนของประชาชนและประเทศชาติมาเป็นตัวประกัน ผมว่ามันมากเกินไปและก็ไร้คุณธรรมเช่นกัน หลายๆคนที่เกลียดระบอบทักษิณอย่างผม หลายคนๆบอกว่า การยึดสนามบินเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้


ที่จริงการที่พันธมิตรยึดทำเนียบก็เป็นสิ่งที่ผิดอยู่แล้ว แต่ยังพอเข้าใจได้ว่า การถูกกดดันขับไล่จากการชุมนุมบนท้องถนน และการที่รัฐบาลหน้าด้าน จึงทำให้เกิดการบุกยึดทำเนียบเกิดขึ้น และการยึดทำเนียบ ก็ไม่ได้ทำให้ประชาชนเดือดร้อนมากเหมือนการยึดสนามบิน อาจขายหน้าต่างประเทศบ้างแต่นั่นก็ยังพอรับได้ว่าเป็นการกดดันเรียกร้องรัฐบาล


ต่อมาแม้การชุมนุมของพันธมิตรในทำเนียบจะถูกลอบโจมตีจนมีคนตายต่อเนื่อง การที่พันธมิตรมาปิดล้อมทำเนียบชั่วคราวที่สนามบินดอนเมืองก็ยังพอเข้าใจถึงเหตุผลของการถูกกดดันจากการลอบทำร้าย จนมีคนตายในทำเนียบ2คนติดๆกัน แต่ก็น่าจะหยุดพอแค่ที่ดอนเมือง

แต่การเหิมเกริมขนาดยึดสนามบินหลักของประเทศอย่างสนามบินสุวรรณภูมิ มันมากไป หากแค่วันสองวันก็ยังพอเข้าใจ แต่ถ้ายืดเยื้อไร้กำหนด มันจะเป็นการทำลายความชอบธรรมของฝ่ายพันธมิตรเอง เพราะกลายเป็นว่า รัฐบาลเลว กูก็จะเลวกว่า ใครเลวทีสุดจะชนะ ถ้าเป็นเช่นนี้ ก็รอหายนะของพันธมิตรเถอะ
รัฐบาลเลว เจอพันธมิตรคลั่ง สุดท้ายประเทศพินาศ

นายกฯสมชายจะหน้าด้าน ไม่ออกไม่ลา ก็เรื่องของมัน เพราะมันเลวอยู่แล้ว มันไม่เห็นความเดือดร้อนของประเทศสำคัญกว่าอำนาจของพวกมัน แต่พันธมิตรกำลังจะเลวกว่า รู้ตัวมั้ย!


ฉะนั้นหากพันธมิตรหยุด และถอยออกมาจากสนามบินทั้งสอง หรืออย่างน้อยก็สนามบินสุวรรณภูมิสักแห่งก็ยังดี คะแนนที่เสียไปมากแล้ว อาจจะได้รับกลับคืนมา และอาจได้มากกว่าเก่าด้วยซ้ำ ที่เห็นใจความเดือดร้อนของประชาชนส่วนใหญ่ ที่ต้องยังต้องทำมาหากินเลี้ยงปากท้องอยู่


สมชายมันไม่เสียสละในฐานะผู้นำที่ดี ก็ช่างหัวมัน แต่พันธมิตรคือผู้ยึดสนามบิน หากยอมถอนออกมา แล้วจะด่าซ้ำถึงความเห็นแก่ตัวของสมชายที่มันไม่เสียสละ ไม่มีจริยธรรมผู้นำ ละเว้นหน้าที่ง่ายๆเช่นยึดพาสปอร์ตแดงของทักษิณ ก็ยังไม่ทำ จะด่าอะไรก่อนออกจากสนามบินก็ทำไป เพราะตอนนี้จะมีคนฟังทั้งประเทศ ถ้าพันธมิตรทำได้รับรองสมชายมันจะเสียคะแนนมากกว่าได้

เห็นใจผู้อื่นก่อน แล้วคนอื่นจะเห็นใจคุณ ยิ่งช้าพันธมิตรจะยิ่งเจ๊งแน่นอน
ความเสียสละ ไม่มีคำว่าเกี่ยงกัน ใครถอยเพื่อประเทศชาติก่อน คือผู้ชนะ


เรื่องยึดสนามบิน พันธมิตรเป็นคนผูก หากเป็นคนแก้เอง ความเชื่อมั่นของประเทศจะกลับมา หากไม่ทำเองยากนักที่จะกู้ชาติคืนได้


พันธมิตรหากเอาชนะโดยใช้ความเดือดร้อนของประเทศเป็นตัวประกัน มันแย่กว่าชัยชนะของนักการเมืองที่ซื้อเสียงเสียอีก(ตามที่พันธมิตรชอบใช้โจมตีพรรคพลังประชาชน) และจะยิ่งทำให้ระบอบทักษิณแข็งแรงขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ

พันธมิตรจะชนะทักษิณ บนความบอบช้ำของประเทศ และบนคราบน้ำตาของประชาชนหรือ คิดให้ดี !?
แม้พันธมิตรจะอ้างว่า ไม่ได้บุกรุกในส่วนความปลอดภัยเรื่องการบินก็ตาม แต่นั่นก็เป็นเหตุให้ผอ.การท่า ใช้ในการอ้างเพื่อปิดสนามบินอย่างเป็นทางการ
สุดท้ายคนเดิอดร้อนก็ไม่พ้นประเทศชาติและประชาชนอยู่ดี พันธมิตรคงไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบไปได้

แต่สุดท้ายสิ่งที่สำคัญที่สุด เมื่อผู้นำยังไร้คุณธรรม ก็ยากที่จะให้ประชาชนมีคุณธรรม และปรองดอง

เม.
newakecity



วันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

การตอบแทนผู้เสียสละใน3จังหวัดใต้



จากการที่ปัญหา3จังหวัดภาคใต้ ที่ผ่านมาหลายปี มีคนบาดเจ็บล้มตายนับพัน เรื่องมันเริ่มรุนแรงมากก็หลังจากมีไอ้ตัวนึงมันพูดว่า "โจรใต้เป็นแค่โจรกระจอก"

มีคนในพื้นที่มากมายที่มีกำลังพอจะอพยพหาที่อยู่ตั้งถิ่นฐานในที่อื่น ทำให้ราคาที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ใน3จังหวัดราคาถูกมากเหมือนขายทิ้ง คิดดูคนในพื้นที่ยังไม่ค่อยกล้าอยู่เลย แล้วใครจะมาซื้อต่อ

ผมเคยถาม ข้าราชการพยาบาลในร.พ.รัฐแห่งหนึ่งหลายๆคนที่ผมรู้จักเล่นๆว่า ถ้าให้เงินเดือนๆละแสน ให้ไปประจำที่3จังหวัดภาคใต้ จะยอมไปมั้ย ?พยาบาลทุกคนต่างตอบเหมือนกันว่า ไม่เอา เพราะถ้าเกิดตายหรือพิการไป ให้ได้มากแค่ไหนมันก็ไม่คุ้ม

คำตอบที่ผมได้รับมาจากพยาบาลหลายคน กลับทำให้ผมยิ่งรู้สึกซาบซึ้งกับเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่ไปปฏิบัติงานใน3จังหวัดภาคใต้และจังหวัดสงขลาบางส่วนมากขึ้น ว่าพวกเขาเป็นวีรบุรุษผู้เสียสละจริงๆท โดยเฉพาะข้าราชการครู ผมรู้สึกซาบซึ่งพวกท่านเป็นพิเศษ

พวกครูทั้งหลายต่างไม่ได้ฝึกการรบ ไม่ได้ฝึกการต่อสู้ พวกครูฝึกแต่การสอนการให้ความรู้แก่เด็กๆ

หากไม่นับทหารตำรวจแล้ว อาชีพครูในพื้นที่3จังหวัด นับว่าเป็นอาชีพที่มีการสูญเสียมากที่สุด แต่ก็ยังมีครูที่ยังยอมอยู่ในพื้นที่ และไม่เคยคิดหนีสถานการณ์โหดร้าย ละทิ้งนักเรียนของพวกท่านเลย

ทุกๆวันทั้งการเดินทางไปโรงเรียนและการสอนในโรงเรียน ไม่สามารถล่วงรู้ได้เลยว่า พวกก่อการร้ายมันจะมาเอาชีวิตเมื่อไหร่ หากไม่ใช่คนที่มีจิตใจเข้มแข็งและเสียสละด้วยใจจริงแล้ว ย่อมไม่มีทางเลยที่จะควบคุมสติเพื่อปฏิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพได้แน่นอน

คงจำกันได้ว่า ครูจูหลิง ปงกันมูล ที่เสียสละมาขอเจาะจงมาอยู่ในพื้นที่สีแดง แต่ต้องมาจบชีวิตลงอย่างโหดร้าย ท่านเป็นครูผู้หญิงตัวเล็กๆ อายุยังน้อยที่มาจากภาคเหนือ แต่ยอมที่จะจากบ้านมาอยู่ที่ที่ห่างไกลและไม่คุ้นเคย เพื่อสอนหนังสือให้ความรู้แก่เด็กๆ

หากเป็นเราๆทั่วๆไป โดนถามว่า อยากไปอยู่ที่ทุรกันดารที่มีแต่อันตรายกับค่าตอบแทนอันน้อยนิดหรือไม่ ยากจริงๆที่จะมีคนอยากไป ยากจริงๆที่จะมีคนเสียสละ เสี่ยงตายกับค่าตอบแทนอันน้อยนิด

ผมเคยมีโอกาสพูดคุยกับทหารหลายๆคน ที่ได้เคยไปประจำการเพื่อไปช่วยกองกำลังสหประชาชาติที่ประเทศติมอร์ตะวันออก กับประเทศอิรัก ทหารที่ได้ไปประจำคนละ6เดือน พร้อมกับค่าตอบแทนที่เรียกว่า ค่อนข้างสูงมากทีเดียว ที่จริงแล้วการไปอยู่ทั้งสองประเทศเหมือนจะลำบาก แต่ที่จริงแล้ว กลับอยู่อย่างสะดวกสบายพอใช้ได้เลยทีเดียว และความปลอดภัยก็ค่อนข้างสูงมาก

ที่ติมอร์ฯ ไม่มีทหารไทยเสียชีวิตเลย ที่อิรัก ดูเหมือนจะมีเสียชีวิต2ราย แต่นั่นนับว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับชายแดน3จังหวัดที่อันตรายกว่า และค่าตอบแทนที่น้อยกว่ามาก

ผมเชื่อว่า ข้าราชการที่เสียสละใน3จังหวัดใต้นั้น ไม่ได้คิดถึงเรื่องผลตอบแทนเป็นสำคัญ เพราะหากคิดเรื่องผลตอบแทนแล้ว คงไม่มียอมเสียสละไปปฏิบบัติหน้าที่ในพื้นที่อันตรายแบบนี้แน่

ฉะนั้น ผมอยากให้รัฐบาลได้ตอบแทนความเสียสละของข้าราชการใน3จังหวัดใต้ทุกหน่วยงาน ให้สมกับความเสียสละของทุกท่านเหล่านั้น ไม่ใช่มาตอบแทนเมื่อพวกท่านไร้ชีวิตแล้ว เพราะหากเป็นเช่นนั้นก็นับว่าน่าละอายใจมาก

ผมจำได้ว่า อดีตนายกฯสมัครไปเยี่ยมทหารที่เขาพระวิหาร เคยพูดว่า เบี้ยเลี้ยงทหารพรานน้อยกว่า ค่าอาหารนักโทษในเรือนจำเสียอีก(ค่าอาหารนักโทษ68บาทต่อคน/วัน) ฟังแล้วมันน่าน้อยใจไหมครับ ทหารพรานต่างจากทหารทั่วไปตรง พวกเขาส่วนใหญ่เป็นแค่ลูกจ้างชั่วคราวที่เงินเดือนน้อยนิด แต่เสี่ยงภัยสูง

ที่บอกว่าน่าละอายใจมาก ก็เพราะพวกนักการเมืองทั้งหลายที่ทะเลาะเพื่อผลประโยชน์ตัวเองเป็นหลักกันอยู่ในทุกวันนนี้ พวกนักการเมืองทั้งหลายต่างมีค่าตอบแทนสูงกว่าความเสียสละที่ประชาชนควรจะได้จากพวกท่าน แต่กลับได้ค่าตอบแทนและสิทธิพิเศษมากมายกว่าวีรชนใน3จังหวัดภาคใต้ เสียอีก

หากผมเป็นนายกฯ ผมจะให้เงินเดือนเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยใน3จังหวัดใต้ ให้มากกว่าพวกสส.และรัฐมนตรี ด้วยซ้ำ หากใครที่มีอำนาจวาสนาอยู่มาเห็นบทความนี้ (ซึ่งคงจะยาก แต่ก็จะหวัง) ขอให้พิจารณาขอเสนอของผมด้วยเถอะครับ ไม่ต้องให้มากอย่างที่ผมว่าก็ได้ แต่อย่าให้น้อยเหมือนทุกวันนี้ก็พอ





"เวลาเห็นคนเสื้อเหลืองกับคนเสื้อแดงทะเลาะกัน ฆ่ากัน เหล่าผู้เสียสละทางภาคใต้ พวกเขาจะคิดยังไง"




ใหม่เมืองเอก

อัปเดทผลบอล

วันพุธที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ทำไมผมถึงต้านทักษิณ




ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่เคยเลือกทักษิณถึงสองครั้ง แต่ตอนนี้ผมก็ตาสว่างแล้วครับ ว่าระบอบทักษิณเป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น ก่อนอื่นผมขอเริ่มเท้าความก่อนซักนิดนะครับ

ผมนั้นในอดีตชอบพรรคประชากรไทยมาก ชื่นชอบสมัคร สุนทรเวชมาตลอด และผมก็เป็นคนหนึ่งที่ต่อต้านจำลอง ศรีเมือง และโพธิรักษ์ แต่มาเลิกชอบสมัครก็เพราะทักษิณนี่แหล่ะครับ

ทักษิณนั้นเริ่มเข้ามาเล่นการเมืองด้วยการแนะนำชักชวนของจำลอง ผมก็เลยไม่ชอบทักษิณ เพราะผมไม่ชอบจำลองและลัทธิสันติอโศก

ต่อมาเกิดวิกฤติเศรษฐกิจขึ้น และเพื่อหวังหาพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วย ซึ่งตอนนั้นผมก็ยอมตัดสินใจเชียร์ทักษิณ โดยไม่อยากนำเรื่องความเชื่อส่วนตัวของทักษิณที่นับถือสันติอโศกมาเกี่ยวด้วย

และแม้กรณีที่ทักษิณพัวพันคดีซุกหุ้นภาคหนึ่ง ผมเองยอมรับว่า ก็ลำเอียงเข้าข้างทักษิณให้รอดคดีดังกล่าวด้วย เพราะหวังจะให้ทักษิณแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และให้โอกาสทักษิณแก้ตัว ให้ทำคุณไถ่โทษที่เคยซุกหุ้น

จากคำพูดของทักษิณ ที่ว่า "ผมบกพร่องโดยสุจริต" ทำให้ผมเห็นใจ และอภัยให้ทักษิณเหมือนที่ประชาชนคนไทยส่วนใหญ่ในตอนนั้นพร้อมที่จะให้อภัย คนผิดที่ยอมรับผิดแล้ว

คลิกอ่าน ศาลรัฐธรรมนูญสารภาพปล่อยทักษิณลอยนวลคดีซุกหุ้นภาค1


ต่อมาทักษิณกลับมาเป็นนายกฯในสมัยที่สอง ผมเองก็ยินดีและดีใจ แถมสะใจด้วยที่พรรคประชาธิปัตย์พ่ายแพ้หมดรูปแก่พรรคไทยรักไทย 

จนกระทั่งทักษิณขายหุ้นชินคอร์ปแบบเทขายหมดให้กับกลุ่มเทมาเสก ตอนนั้นแหล่ะครับ ผมถึงได้เริ่มตาสว่างกับการซุกหุ้นภาคสองของทักษิณ และการหลบเลี่ยงภาษีจากขายหุ้นด้วยวิธีการที่เหล่าคนรากหญ้าส่วนใหญ่อาจไม่เข้าใจระบบการซื้อขายหุ้น จะรับรู้ถึงความโลภของมหาเศรษฐีแบบทักษิณ

ด้วยข้ออ้างคือ ขายหุ้นในตลาดหุ้นไม่ต้องเสียภาษี เพราะถ้าคุณไม่เข้าใจระบบการซื้อขายหุ้นดีพอ ฟังแค่นี้ก็จะเชื่อทักษิณโดยง่าย

แน่นอนว่า หากถามชาวบ้านส่วนใหญ่ในระดับรากหญ้า ต่างก็เชื่อในทิศทางเดียวกันว่า ทักษิณช่วยทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ทักษิณช่วยเหลือคนจน แต่นั่นเป็นการมองในระดับตื้น ๆ เพียงด้านเดียว และมองแค่ระยะสั้น ๆ อย่างฉาบฉวย

ในอดีตสมัยนายกฯชาติชาย ชุณหวัณ ที่หลายๆคนคิดว่า ชาติชายทำเศรษฐกิจไทยรุ่งเรือง แต่นั่นเป็นผลที่เกิดขึ้นจากการได้วางรากฐานการพัฒนาที่ถูกทางตั้งแต่สมัยรัฐบาลพลเอกเปรมเป็นนายกแล้วครับ แต่มาเห็นผลอย่างเด่นชัดในยุคชาติชาย ทำให้ผู้คนทั้งหลายต่างเชื่อกันหมดว่า ชาติชายคือคนทำเศรษฐกิจดี และประจวบเหมาะกับสงครามในเขมรเริ่มยุติ สงครามเย็นของโลกกำลังจะยุติ คอมมิวนิสต์กำลังล่มสลาย ทำให้ยุคชาติชาย เศรษฐกิจโดยรวมของโลกก็เกื้อหนุนให้เศรษฐกิจไทยที่พึ่งพาทุนต่างชาติและการส่งออกก็พลอยดีไปด้วย
.
ที่จริงระบบเศรษฐกิจแบบชาติชายก็เป็นเศรษฐกิจที่โตแบบฟองสบู่ เป็นเศรษฐกิจที่พึ่งพาการลงทุนต่างชาติเป็นหลัก มีการเก็งกำไรในราคาที่ดินจนเกิดภาวะฟองสบู่เศรษฐกิจ เพราะผู้คนรวยเร็วจากการทำงานในภาคธุรกิจอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออก การเก็งกำไรและการลงทุนจากต่างชาติ โดยไม่ทันระวังตัว จนเกิดวิกฤติเศรษฐกิจขึ้น
.
เมื่อไทยถูกโจมตีค่าเงินบาท เพราะรัฐบาลไทยต้องช่วยเหลือภาคการส่งออกที่เป็นรายได้สำคัญของประเทศให้อยู่รอด รัฐบาลไทยจึงพยายามพยุงค่าเงินบาทไว้ จนกลายเป็นตกหลุมพรางของนักเก็งกำไรค่าเงินระดับโลกอย่างนายจอร์ช โซรอส ทำให้เกิดเศรษฐกิจฟองสบู่แตก เกิดวิกฤติเศรษฐกิจปี40 ในที่สุด

.
ในปี44ทักษิณเข้ามาเป็นนายกฯครั้งแรก  ซึ่งช่วงเวลานั้น ไทยเราเริ่มรอดตายจากวิกฤติเศรษฐกิจปี40 แล้ว และกำลังจะเริ่มฟื้นตัวได้เองอยู่แล้ว  

การที่ทักษิณเข้ามาเป็นนายกฯ แน่นอนว่า ย่อมได้รับความหวังจากประชาชนที่อยากมีความหวังใหม่ๆ และอยากให้ไทยสร้างความมั่นใจแก่นักลงทุนต่างชาติมากขึ้น เนื่องจากเชื่อกันว่าทักษิณคงเข้าใจในระบบธุรกิจดี คนไทยเชื่อว่า ทักษิณจะเข้ามาแก้ไขระบบราชการที่ล้าหลังของไทยให้อำนวยความสะดวกแก่นักลงทุนต่างชาติได้ดีขึ้น

ผมเองยอมรับว่า ในตอนนั้นประชาชนส่วนใหญ่รวมทั้งตัวผมด้วย ต่างรู้สึกว่าพรรคไทยรักไทยอยู่เป็นรัฐบาลใน4ปีแรก นั้นได้ทำประโยชน์ได้มากกว่าพรรคประชาธิปัตย์ที่อยู่มานานนับครึ่งศตวรรษเสียอีก (ประชด)
.
โดยเฉพาะประเด็นที่ทักษิณได้ช่วยเหลือประชาชนรากหญ้าให้ได้รับโอกาสในการเข้าถึงการรักษาพยาบาลจากสิทธิบัตรทอง30บาท นี่คือประโยชน์ที่ประชาชนส่วนใหญพอใจมากที่สุด และหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่นับว่าพอใช้ได้ 

ส่วนในนโยบายอื่นๆ แม้เป็นแนวคิดที่ดี แต่ระบบจัดการส่วนใหญ่กลับล้มเหลวครับ (แต่ก็พอให้อภัยได้ เพราะทุกอย่างที่เพิ่งเริ่มต้นย่อมมีข้อบกพร่อง)

นโยบายของทักษิณ ยังเป็นนโยบายที่พึ่งพาทุนต่างชาติเป็นหลัก (แต่ถ้าต่างชาติพังเราก็พังด้วย) ก็คล้าย ๆ ระบบของชาติชาย  เพียงแต่ระบบทักษิณมีข้อดีตรง ยังให้ประโยชน์แก่คนจนคนรากหญ้าพอสมควร 

แต่ระบบทักษิณส่วนใหญ่ก็ยังไม่เน้นให้ประชาชนพึ่งพาตัวเองให้ได้ แต่กลับให้ประชาชนต้องอาศัยการป้อนจากนโยบายประชานิยมจากรัฐเป็นหลัก จะเห็นได้จากจะมีม็อบเกษตรกรมุ่งหน้ามาเรียกร้องการช่วยเหลือจากรัฐบาลเสมอๆ เพราะราคาพืชผลตกต่ำ (อ่านบทเรียนจากประชานิยม)

ทักษิณไม่เคยทำตัวเป็นตัวอย่างในเรื่องความพอเพียงที่คนไทยควรปฏิบัติ ทักษิณมักทำตัวเป็นเศรษฐีใหญ่ต่อหน้าสื่อให้ประชาชนหลงใหลเสมอๆ ทำให้ประชาชนต่างก็อยากรวยเร็ว ๆ แบบทักษิณกันทั่วบ้านทั่วเมือง

หากทักษิณตั้งใจส่งเสริมหลักเศรษฐกิจพอเพียงจริง(พอเพียง=หลักความสมดุล) เพราะทักษิณเก่งเรื่องการประชาสัมพันธ์ ระบบเศรษฐกิจพอเพียงของไทยจะไปได้เร็วกว่านี้ จะมีการชุมนุมประท้วงจากเกษตรกรต่าง ๆ ที่ขอให้รัฐประกันราคาพืชผลน้อยลง เพราะเกษตรกรไม่ได้พึ่งพาปุ๋ยเคมี ไม่ได้พึ่งพายาฆ่าแมลง ไม่ได้พึงพาพืชเพียงชนิดเดียว จึงทำให้ไม่มีต้นทุนสูงเกินไป
.
ทักษิณอ่านคำชื่นชมปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงต่อหน้าพระพักตร์ในหลวงเป็นเวลานาน แต่พฤติกรรมและใจทักษิณกลับไม่ได้ทำตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเลย หากเราไปดูพระราชดำรัสเนื่องในวันเฉลิมพระชนม์พรรษาตั้งแต่ปี 44-48 ที่ทักษิณเป็นนายกฯ จะเห็นได้ว่ามีหลายช่วงหลายตอนในพระราชดำรัสที่ในหลวงทรงตักเตือนทักษิณในเรื่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่ทักษิณไม่ค่อยได้ทำตาม
.
"...เพราะว่าเคยชินกับเศรษฐกิจที่ต้องใช้เงินมาก ไม่ใช่เศรษฐกิจพอเพียง ไม่พอเพียง ถ้าอย่างนั้นก็ นายกฯ อาจจะไป นายกฯ และคุณหญิงอาจจะให้เพื่อนนายกฯรองนายกฯ ต่างๆ ทำเศรษฐกิจพอเพียงสักนิดหน่อย ก็จะทำให้อีก 40 ปีประเทศชาติไปได้ แต่นี่ ก็มีแต่นายกฯ รองนายกฯ จัดการ รวมทั้งคู่สมรส ทำเศรษฐกิจพอเพียง ก็เชื่อว่าประเทศจะมีความประหยัดได้เยอะเหมือนกัน คือถ้าไม่ประหยัด ประเทศไปไม่ได้ คนอื่นไม่ประหยัด สำหรับคณะรัฐมนตรีประหยัด คณะรองนายกรัฐมนตรีประหยัด จะทำให้ไปได้ดีขึ้นเยอะ นี่มามองถึงสภาฯ เป็นยังไง ก็สภาฯ ด้วยเหมือนกัน ถ้าอยากทำ ก็สภาฯ เป็นอาจารย์ของนายกฯ ก็ นายกฯ สอนครูหน่อย สอนอาจารย์หน่อยว่าเศรษฐกิจพอเพียงทำยังไง สอนครูคนเดียวก็พอแล้ว เพราะว่าครูเขาก็ไปสอนคนอื่น..." บางท่อนของพระราชดำรัสเนื่องในวันเฉลิมพระชนม์พรรษา4ธ.ค.48

.
แม้ระบอบทักษิณจะมีความผิดพลาดอยู่ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ผมจะต้องเกลียดหรือต้านทักษิณ เพราะไม่มีใครหรอกที่จะเป็นเทวดาเก่งไปซะทุกเรื่อง ทักษิณซื้อใจคนจนด้วยนโยบายประชานิยมก็ไม่ใช่เรื่องผิดทั้งหมด แม้จะมีข้อผิดพลาดในนโยบายอยู่เยอะ แต่ทุกอย่างเมื่อเริ่มต้นก็ต้องมีข้อผิดพลาด ก็คล้ายๆพรรคประชาธิปัตย์ที่ผิดพลาดนโยบายจากกฏหมาย ปรส. แตนั่นก็เป็นความผิดพลาดทางนโยบาย (ผมเองก็ไม่เคยเลือกพรรคประชาธิปัตย์เลย เพราะประชาธิปัตย์ไม่เคยทำนโยบายที่เห็นเป็นรูปธรรมแก่คนจนคนส่วนใหญ่อย่างแท้จริง)

(สมัยทักษิณหาเสียงโจมตีประชาธิปัตย์เรื่องปรส. แต่เมื่อทักษิณเข้ามาเป็นรัฐบาลกลับไม่แก้ไขปัญหาที่เกิดจากกฏหมายขายชาติที่สืบเนื่องจากปรส.เลย ทั้งๆที่ทักษิณมีเสียงในสภามากพอจะแก้ไขกฏหมายที่ไทยถูกเอาเปรียบฉบับนี้)
.
ความผิดพลาดเชิงนโยบายก็ยังพอรับได้ เพราะไม่มีใครมันเก่งฉลาดไปซะทุกเรื่อง ซึ่งประชาธิปัตย์ก็ได้ผลกรรมจากการดำเนินนโยบายที่ผิดพลาดของตัวเองด้วยการแพ้เลือกตั้งแก่ทักษิณ ทักษิณแม้จะมีความผิดพลาดในนโยบายบ้างแต่ก็พอให้อภัยกันได้เช่นกัน


แต่ที่ผมต้องต้านทักษิณก็เพราะ ทักษิณผิดจริยธรรมของการเป็นผู้นำ ทักษิณยังมีการโกงการเสียภาษี เพราะผู้นำต้องเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ประชาชน หากผู้นำไม่ดำรงไว้ซึ่งคุณธรรม ประเทศชาติก็จะหายนะ เพราะความไม่มีขื่อมีแป 

(อ่านเรื่องคนรักทักษิณมาทางนี้ อธิบายกรณีขายหุ้นไม่เสียภาษีอย่างง่าย)

.
คนไทยเดี๋ยวนี้มีคุณธรรมกันน้อยลง เพราะเห็นแค่ว่า นายกฯทำเศรษฐกิจดี หากนายกฯจะโกงก็ช่างมัน อันนี้ใช้ไม่ได้ ดีก็ส่วนดี เลวก็ส่วนเลว จะเอาความดีมาเกื้อหนุนความเลวไม่ได้ ไม่ถูกต้อง หากยอมรับการโกงของนายกฯได้ ต่อไป ใครทำผิดก็อ้างนายกฯยังทำได้เลย อย่างนี้ บ้านเมืองจะอยู่กันยังไง เพราะมันโกงกันได้เปิดเผยแล้ว
.
ที่จริง ทักษิณเองหากละทิ้งความโลภได้บ้าง แม้จะแก้ไขกฏหมายเพื่อเอื้อประโยชน์ธุรกิจตัวเอง ก็ยังยากที่จะเอาผิด เพราะความโลภก็มีขึ้นได้กับทุกคน แต่ความโลภก็ควรมีขอบเขตบ้าง แต่การที่ทักษิณทำลายความเป็นธรรมทางธุรกิจ โดยอาศัยอำนาจทางการเมืองเอื้อประโยชน์ธุรกิจตัวเองและพวกพ้อง ทำให้คู่แข่งเสียเปรียบ ในระยะยาวหากทักษิณยังเป็นนายกฯอยู่ ระบบธุรกิจที่โปร่งใสก็คงไม่เหลือหรอ

(ที่จริงหากทักษิณมีคุณธรรม การที่พรรคไทยรักไทยได้เสียงข้างมากแบบเด็ดขาด ทำให้ไม่ต้องพึ่งพาการสนับสนุนจากนักธุรกิจที่มักสนับสนุนพรรคการเมืองเพื่อจะได้เอื้อการออกกฏหมายเพื่อประโยชน์ธุรกิจตัวเอง แต่สุดท้ายทักษิณก็ไม่ทิ้งนิสัยเดิมของนักธุรกิจโลภมาก)



หรือการที่แก้กฏหมายเพื่อให้ขายหุ้นชินคอร์ปได้ ถึงแม้ว่าจะผิดหลักจริยธรรมของการบริหาร แต่ก็ยังถือว่าได้ทำถูกต้องตามกฏหมาย
.
แต่ไอ้การไม่ยอมเสียภาษีและซุกหุ้นไว้ที่นอมินีในต่างประเทศ นี่สิ มันผิดกฏหมายเต็ม ๆ ยากที่จะให้อภัยได้ เพราะมันเป็นบรรทัดฐานของกฏหมายที่ต้องเคารพและต้องเอาผิด แต่ทักษิณก็ยังแก้ตัวน้ำขุ่น ๆ และไม่ยอมรับว่าตนเองผิด

และนับวันทักษิณยิ่งผิดแบบถลำลึกลงไปทุกที ไม่สำนึกในความผิดของตน แต่กลับโทษคนอื่น ทำให้บ้านเมืองต้องแตกแยก อาศัยเสียงประชาชนบังหน้า ไม่เคารพระบบตุลาการ ความผิดที่ทักษิณกระทำนับวันยิ่งมากขึ้น เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ผมจึงต้องต้านทักษิณครับ
.
ระบอบทักษิณ(ทุนนิยมพวกพ้อง) ทำให้เศรษฐกิจดีชั่วคราว ไม่ยั่งยืน ไม่พอเพียง ซื้อใจคนจน เพื่อผลประโยชน์ไม่ชอบธรรมของตัวเอง (ที่จริงซื้อใจคนจนไม่ผิด หากผลประโยชน์ที่ได้กลับมาของตัวเอง เป็นไปด้วยความชอบธรรม)


หากแม้ทักษิณจะได้รับความไม่เป็นธรรมจริง ก็น่าจะต่อสู้ด้วยตัวเองโดยไม่ลากประชาชนไปร่วมเดือดร้อนด้วย ดูอย่างอดีตประธานาธิบดีเฉินสุ่ยเปียนของไต้หวันเป็นตัวอย่างซิ เขาไม่ลากประชาชนไปเดือดร้อนและต้องทะเลาะเบาะแว้งกันเพื่อตัวเอง เขาบอกว่าเขาไม่ได้รับความเป็นธรรมจากระบบตุลาการของไต้หวันเหมือนกัน แต่เขาก็ยอมรับการจับกุม เฉินสุ่ยเปียนเขาประท้วงระบบตุลาการด้วยการอดอาหารประท้วง เขาได้ต่อสู้ตามแนวทางอหิงสาโดยไม่ได้โอ้อวดก่อน ไม่เหมือนทักษิณที่เคยอวดตัวว่าจะต่อสู้แบบมหาตมะคานธี

ทักษิณผมเสียใจที่ผมเคยเลือกคุณมาเป็นนายกฯ ถึงสองครั้ง เสียใจจริง ๆ ที่ดูคนอย่างคุณผิดไป 

อย่าง นายปรีดี พนมยงค์ ได้ลี้ภัยการเมืองไปต่างประเทศ ท่านก็ไม่เคยกล่าวให้ร้ายแก่ประเทศไทยหรือมุ่งกำจัดศัตรูทางการเมืองของท่านอีกเลย ท่านเสียสละตัวเองโดยไม่เคยโต้ตอบใคร ท่านทำเพื่อความสงบสุขของชาติโดยแท้จริง

.
คนรักทักษิณทุกคน ผมเข้าใจว่าทำไมพวกคุณถึงชื่นชมทักษิณ แต่การที่เขาทำประโยชน์ให้คุณ และคุณจะละเว้นความผิดของทักษิณ มันจะทำให้กฏหมายวิบัติ บ้านเมืองจะวุ่นวาย มันไม่ถูกต้อง

.
โปรดเถิด เลิกคิดแค่ปากท้องตัวเองสำคัญไปมากกว่าหลักคุณธรรมและจริยธรรม เพราะมิเช่นนั้นบ้านเมืองก็จะวิบัติในที่สุด

.
"เมืองใดไร้ธรรมอำไพ เมืองนั้นบรรลัยแน่เอย" ส่วนหนึ่งของบทพระราชนิพนธ์ของรัชกาลที่6


คุณธรรมผู้นำจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะผู้นำคือตัวอย่างของประชาชน

V

V

นี่คือคำพูดของทักษิณที่วิจารณ์บริษัทในอเมริกาไปเปิดบริษัทในเกาะสวรรค์ด้านภาษี เพื่อเลี่ยงภาษี ว่าเป็นพวกไม่รักชาติ 

แต่ทักษิณเองก็ทำเบบนั้นเช่นกัน คือทักษิณแอบไปเปิดบริษัทแอมเพิลริช ที่บริทิชเวอร์จิ้นเช่นกัน!!

คลิกที่รูปเพื่อขยาย!!

ต้นฉบับอ่านได้ที่ http://library.uru.ac.th/webdb/images/tuksin160.htm

พอทักษิณจะถูกถามเรื่องการเลี่ยงภาษีในสภา ทักษิณจึงยุบสภาหนีการซักถาม แต่ไปหาเสียงกับพี่น้องประชาชนในต่างจังหวัดว่า

"พวกมันหาว่าผมไม่จ่ายภาษี ผมน่ะจ่ายภาษีมากกว่าพวกมันทั้งประเทศรวมกันเสียอีก" ทักษิณปราศัยต่อหน้าประชาชนของเขา และได้รับเสียงเฮอย่างกึกก้อง!!

นี่แหล่ะครับคือ วิธีการพูดที่เบี่ยงประเด็นจากความถูกต้อง แต่ได้ใจชาวบ้านของทักษิณ

------------------------------

อ่านบทความดีๆ ที่คนอื่นเขียนเรื่อง ระบอบทักษิณฉุดให้เศรษฐกิจดีขึ้น หรือจะเร่งให้ตกเหว

คลิกอ่าน ทักษิณใช้ศาสนาบังหน้า



วันเสาร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ทักษิณใช้ศาสนาบังหน้าเพื่อหวังผลทางการเมือง




จากวันที่23พ.ย.นี้ รายการ ความจริงวันนี้ จะสัญจรไปจัดที่วัดสวนแก้ว ของพระพยอม ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในหลายแง่ ว่าพระพยอมควรอนุญาตให้วัดเป็นสถานที่จัดชุมนุมทางการเมืองหรือไม่นั้น

แน่นอนคนที่เชียร์ทักษิณต่างก็ร้องเฮ เพราะได้พระพยอมมาสนับสนุน ส่วนฝ่ายพันธมิตรก็เซ็งและหลายคนก็เกิดความรู้สึกผิดหวังในตัวพระพยอมไป ส่วนตัวผม ผมก็เข้าใจในเจตนาดีของพระพยอม แต่ผมว่าบางทีพระพยอมท่านอาจตัดสินใจผิดได้ เพราะสมุนทักษิณหวังใช้พระพยอมเป็นเครื่องมือเสริมความถูกต้องบังหน้าให้กับพวกทักษิณ

คำพูดของพระพยอมที่พูดถึงสาเหตุของการที่อนุญาตให้ความจริงวันนี้มาจัดรายการในวัดได้ก็คือ"การที่อาตมาอนุญาต “รายการความจริงวันนี้” เข้ามาจัดกิจกรรมภายในวัดเพียงแค่ 3 ชั่วโมง เพื่อต้องการสอดแทรกธรรมะให้กับคนกลุ่มนี้..." (อ่านรายละเอียดคำพูดพระพยอม)

ซึ่งผมเองก็กลัวว่าเจตนาของพระพยอมคงยากที่จะประสบความสำเร็จ เพราะผู้คนกลุ่มนี้ขาดธรรมะในใจ ไม่สนใจธรรมจริง และไม่เกรงกลัวผลกรรมจากการทำบาป

เพราะอะไรผมถึงว่าเช่นนี้ ก็เพราะคนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ไม่ได้มาด้วยใจรักประชาธิปไตยเป็นหลัก แต่ส่วนใหญ่ที่มาเพราะรักทักษิณ และรักทักษิณมากกว่าหลักธรรมะ

คนรักทักษิณ พวกเขาไม่สนว่า ผู้นำจะโกงยังไง ขอเพียงช่วยให้พวกเขาอยู่ดีกินดีได้ก็พอ เพราะพวกเขาคิดแค่เพียงนักการเมืองมันก็โกงเหมือนกันหมด ฉะนั้นใครโกงแต่ให้พวกเขาบ้าง พวกเขาก็พอใจแล้ว

ที่จริงแล้วพระพยอมก็มีความเห็นไปทางที่เชื่อว่าทักษิณน่าจะผิดจากคดีที่ดินรัชดา เพราะพระพยอมได้เขียนในบทความของท่านว่า

"ข่าวศาลฎีกาพิพากษาจำคุก “ทักษิณ” อดีตนายกฯ ด้วยกันทั้งนั้น เรื่องนี้สังคมมองกันไปต่างๆนานา มองไปได้หลายมุมแล้วแต่จะมองกัน แต่มีมุมหนึ่งที่อาตมาอยากจะบอกคือ ทุกคนไม่ว่าจะใหญ่จะโตเท่าไร ก็จงอย่าได้ทิ้งหลักธรรมาภิบาล อย่างทิ้งความรอบคอบ อย่าลืมตัว อย่าเห็นช่องได้เป็นต้องเอา เพราะช่องที่เคยได้มันจะกลายเป็นช่องตายของคนนั้น"

"สรุปก็คือ อย่าคิดว่าจะเข้ามาเป็นนักการเมืองเพื่อหาช่องทางเสี่ยงทำเรื่องแบบนี้ เพราะยังมีนักการเมืองอีกหลายคนนอกเหนือจากคุณทักษิณ ที่ต้องหนีหัวซุกหัวซุนทั้งๆที่กอบโกยผลประโยชน์ไปโดยไม่ถูกต้อง ผิดทั้งกฎหมาย ผิดทั้งศีลธรรม อยากได้อะไรนักหนามากมายก่ายกองจนชาวบ้านเขาให้ฉายยาว่าเป็นเจ้าพ่อ ที่สุดต้องหนีหัวซุกหัวซุน"

"ถามว่าสังคมได้อะไรจากผลการตัดสินของศาลฎีกาในครั้งนี้ แง่ดีก็น่าจะทำให้ประเทศไทยลดปัญหาคอร์รัปชันลงได้บ้าง ลดความละโมบโลภมากในสันดานของคนบางคน เพราะถือว่าเป็นครู คือให้ความผิดพลาดของอดีตนายกฯนั้นมาเป็นครูให้กับนักการเมืองไทย ที่ต้องไม่เผลอตัวปล่อยตนให้อยู่ใต้อำนาจความต้องการโดยไม่มองข้อกฎหมายของรัฐธรรมนูญ"
(อ่านรายละเอียดบทความของพระพยอม)

3เกลอแห่งความจริงวันนี้ ที่ผ่านมาเคยใช้วิธีการโจมตีพันธมิตรด้วยการแฉคดีเก่าๆของความผิดเจ้าสำนักสันติอโศกโพธิรักษ์ เพราะแกนนำพันธมิตรอย่างจำลองเป็นศิษย์เอกโพธิรักษ์ ดั่งที่ผมเคยเขียนเล่าไว้ในบทความเก่าๆว่า ทำไม3เกลอไม่พูดย้อนกลับไปด้วยล่ะว่า นายใหญ่ของ3เกลอความจริงวันนี้ก็เคยกราบไหว้โพธิรักษ์เป็นอาจารย์มาแล้วเหมือนกัน

ทักษิณตอนเข้ามาเล่นการเมืองใหม่ๆ ใครก็รู้ว่า ทักษิณฝักใฝ่ลัทธิสันติอโศกขนาดไหน จำลองก็เป็นคนยกตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังธรรมของจำลองให้ทักษิณ ก่อนที่ทักษิณจะพ่ายแพ้การเลือกตั้งยับเยินให้กับปชป.จนต้องยุบพรรคพลังธรรมท่ามกลางน้ำตาของนางสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ที่ร่ำไห้กับความพ่ายแพ้ยับเยินของพรรค และทักษิณก็มาตั้งพรรคใหม่นาม"ไทยรักไทย"

แนวทางของสันติอโศก เป็นแนวทางกินน้อยใช้น้อย ต่อต้านพระที่ให้หวย ปลุกเสกของขลัง รับเงินรับทองฯลฯ ซึ่งแนวทางนั้นค่อนข้างสุดโต่ง เลือกที่จะกินมังสวิรัติด้วยเหตุผลแบบเทวทัตว่า การกินเนื้อสัตว์เป็นการฆ่าสัตว์ทางอ้อม

ซึ่งจากแนวทางดังกล่าว กลับตรงกันข้ามกับพฤติกรรมของทักษิณอย่างสิ้นเชิง แต่นั่นก็ยังไม่มีใครจับผิดทักษิณ ว่านับถือลัทธิสันติอโศกอย่างศรัทธาด้วยใจจริงหรือไม่

ต่อมาทักษิณก็ไปกราบไหว้หลวงพ่อคูณ ซึ่งแนวทางของหลวงพ่อคูณ คือแนวทางที่สันติอโศก ต่อต้านและโจมตีมากที่สุด แต่ทักษิณก็กราบไหว้ ดูแสดงความเคารพนับถือหลวงพ่อคูณ ไม่แพ้กราบโพธิรักษ์

ต่อมาทักษิณก็ แสดงตัวว่า ศรัทธาหลวงตามหาบัว เพราะหลวงตามหาบัวกำลังจัดกฐินช่วยชาติที่มีประชาชนมากมายศรัทธาร่วมถวายทองและเงินกู้ชาติ เพื่อมีส่วนร่วมช่วยชาติให้พ้นวิกฤติเศรษฐกิจปี40

หลังจากนั้น ทักษิณก็ได้คะแนนนิยมจากประชาชนทั่วภาคอีสานและเกือบทั้งประเทศมากมาย เป็นนายกฯที่ได้ใจทั้งคนรักหลวงพ่อคูณ ตามด้วยคะแนนจากศิษย์หลวงตามหาบัว และประชาชนที่นับถือแนวทางสุดโต่งอย่างสันติอโศก

หากเราดูผิวเผิน ก็ไม่น่าจะว่าอะไร นายกฯก็ดูสมานฉันท์ดีในทางศาสนา แต่พอมาวันนี้ ทักษิณใช้สมุนอย่าง3เกลอความจริงวันนี้ โจมตีจำลองและโพธิรักษ์ว่า นอกรีตยังไง

ส่วนหลวงตามหาบัว ก็เคยโดนทักษิณพูดจาแบบประชดประชันหลวงตามหาบัว เมื่อตอนนักข่าวมาถามทักษิณว่า "หลวงตาท่านว่า ท่านนายกฯเป็นเหมือนเทวทัต.. ท่านนายกฯว่ายังไง"

ทักษิณกลับตอบด้วยท่าทางหยิ่งทะนงและเสียงที่ดูประชดแดกดันกลับว่า "เมื่อก่อนหลวงตาเคยเมตตากับผม มาวันนี้ผมจะเมตตากับหลวงตาบ้าง"

แถมสมุนทักษิณอย่างอีเพ็ญ จักรภพ ก็เคยบรรยายในอเมริกาว่ากล่าวหลวงตามหาบัวว่า "หลวงตามหาบัวอยากเป็นพระสังฆราช" ดูคลิปจักรภพกล่าวหาหลวงตาบัว

เมื่อดูพฤติกรรมทั้งหมดของทักษิณในวันนี้แล้ว ผมก็นึกย้อนกลับไปว่า ที่จริงแล้วที่ผ่านมา ทักษิณไม่ได้ศรัทธาใครจริงเลย แต่ที่ทำไปทั้งหมด ทักษิณทำเพื่อหวังคะแนนนิยมจากบรรดาผู้คนที่ศรัทธาเลื่อมใสในศาสนาแนวทางต่างๆเท่านั้น
ทำเป็นศรัทธาสันติอโศก ก็เพราะตอนนั้นกระแสจำลองฟีเวอร์ในกรุงเทพฯยังไม่จางหาย ทำไปไหว้หลวงพ่อคูณหรือหลวงตามหาบัว ก็เพราะต้องการคะแนนเสียงจากเหล่าลูกศิษย์ลูกหาของท่าน

เมื่อเดือนก่อนทักษิณกับพจมาน ก็ไปทอดกฐินที่วัดธรรมกายในลอนดอน ซึ่งธรรมกายก็เป็นสุดโต่งอีกแนวทางหนึ่งที่ตรงข้ามกับสันติอโศกแบบสุดๆ แต่ธรรมกายก็มีลูกศิษย์ลูกหามากมายในไทย

และตอนนี้ทักษิณก็ใช้ลูกสมุนเข้าทางพระพยอมก็เพื่อหวังคะแนนนิยมจากชาวพุทธที่นับถือพระพยอม และหวังสร้างภาพพจน์ฝ่ายนปช.ให้ดูดีขึ้นกว่าพันธมิตรที่มีสันติอโศกอยู่เบื้องหลัง

ถ้าใครเป็นลูกศิษย์สันติอโศกจริง ย่อมไม่นับถือหลวงพ่อคูณหรือธรรมกายแน่ๆ เพราะหลักปฏิบัติขัดกับแนวทางสันติอโศกของจำลองโพธิรักษ์แบบอยู่ด้วยกันไม่ได้ แต่ทักษิณทำได้?

ฉะนั้นการที่ทักษิณไปนับถือพระต่างๆที่ผ่านมาและการนับถือลัทธิอย่างสันติอโศก ก็เป็นการเสแสร้งของทักษิณ เป็นการสร้างภาพของทักษิณ ที่หวังเพื่อคะแนนเสียงเท่านั้น

ฝ่ายนปช.ภายใต้แกนนำของ3เกลอความจริงวันนี้ ที่พยายามอ้างประชาธิปไตย หรือพยามยามใช้สถานที่ของพระพยอม ก็น่าจะเป็นได้ว่า เป็นการอ้างหลักการประชาธิปไตยและแนวทางศาสนาที่ถูกต้องเพื่อใช้โจมตีพันธมิตร ที่ดูจะเพรี่ยงพร้ำในเรื่องเผด็จการและสันติอโศก และใช้เพื่อหาคนที่เบื่อพันธมิตรและไม่ชอบสันติอโศกมาเป๋นแนวร่วมให้มากขึ้นเพื่อช่วยทักษิณมากกว่า

สรุปนปช.และทักษิณ ไม่ได้ศรัทธาระบบประชาธิปไตยและพุทธศาสนาด้วยใจจริง จากการศึกษาพฤติกรรมที่ผ่านมาของสมุนทักษิณ น่าจะเชื่อได้ว่า ที่อ้างประชาธิปไตยหรือพยายามอิงพระพยอมก็น่าจะทำเพื่อหวังผลทางการเมืองมากกว่า

"หากทักษิณมีธรรมะในใจจริง บ้านเมืองคงไม่แตกแยก เพราะความโลภที่ไม่สิ้นสุดของทักษิณ"

อ่าน ทักษิณไม่ใช่นักประชาธิปไตย

อ่าน ทำไมผมถึงต้านทักษิณ


วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

สมชายปอดแฉ ทักษิณยกหาง



จากกรณีคลิปหน้าเหมือนสมชาย วงศ์สวัสดิ์ที่ถูกพธม.ตีแผ่ออกมา จนถึงเมื่อหลายวันก่อน นายสมชาย ก็ออกมายอมรับแล้วว่า มีบางส่วนเป็นของจริง แต่มีคนเอามาตัดต่อทำให้ตัวเองเกิดความเสียหายนั้น นายสมชายยังบอกต่อว่า อโสหิให้ จะไม่ไปฟ้องร้องคนที่ทำ


หากเราฟังดูเหมือนสมชายดูจะเป็นคนดีซะจริงๆ แต่ที่จริงแล้ว ผมว่า สมชายกลัวถูกแฉมากกว่า ที่จะไปฟ้อง เพราะหากไปฟ้องร้องแล้ว ความลับที่ยังไม่ถูกนำมาเปิดเช่นใครเป็นคนถ่าย ใครเป็นคนจ้างถ่ายจะถูกเปิดเผยออกมาจนหมด สุดท้ายก็พัง


เพราะหากสมชายบอกว่า เป็นตัวเองจริงๆ(แม้จะอ้างว่าแค่บางส่วนก็ตาม) ก็เท่ากับว่าความจริงก็เฉลยแล้ว ส่วนการอ้างว่าถูกตัดต่อนั้น มีแต่คนหลงรัฐบาลนั้นนั่นแหล่ะที่หลับหูหลับตาเชื่อ ถ้าแน่จริงก็เผยชื่อสาวในคลิปมาสิว่าเป็นใคร ก็ในเมื่อมันไม่มีเรื่องเสียหายอะไรจริงตามที่สมชายอ้างนี่ หรือว่ากลัวผู้หญิงเธอจะอายที่เป็นเพื่อนกับนายกฯ


เพราะหากคลิปเป็นการใส่ร้ายไม่จริงเป็นเท็จ ถูกพันธมิตรใส่ร้าย ป่านนี้ 3เกลอแห่งรายการความจริงวันนี้ ต้องออกมากระหน่ำพันธมิตรแล้ว แต่นี่3เกลอไม่กล้าก็เพราะรู้ว่ามันเป็นเรื่องจริง 3เกลอมันก็แค่หมาเห่า ของจริงของนายมัน มันไม่กล้าพูดหรอก


ถ้าแน่จริง สมชายไม่ต้องพูดเองก็ได้ ให้3เกลอพูด อธิบายมาเลยว่า คนในคลิปไม่ใช่ตรงไหน และผู้หญิงในคลิปเป็นใคร เป็นลูกน้องหรือเป็นใครทำไมต้องไปรับไปส่ง เอาแค่นี้ก็พอ แต่ไม่กล้า


นายสมชาย ทำตัวเป็นผู้ดี ลอยตัวเหนือปัญหาที่ตัวเองน้ำท่วมปาก ข่าวลือว่าผู้หญิงสาวสวยที่อยู่ในคลิปใช่ ข้าราชการสาวที่ท้องไม่มีพ่อกับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในกระทรวงยุติธรรมที่ผูกคอตายในกระทรวง เป็นข่าวฉาวดังเมื่อหลายปีก่อนหรือเปล่า อันนี้ผมตั้งข้อสังเกตไว้ ได้ข่าวว่าพันธมิตรเขาท้าให้ฟ้อง แต่ผมว่าสมชายมันไม่กล้าฟ้องหรอก ไม่ใช่อโหสิกรรมอย่างที่สมชายอ้างหรอก แต่มันไม่กล้า ถ้าไม่จริงมันต้องพิสูจน์ มันไม่พิสูจน์เพราะมันเลวจริงๆไง (การฟ้องควรทำเพื่อรักษาเกียรติ์ของนายกฯ)


ทักษิณให้สัมภาษณ์รอยเตอร์ เปรียบเทียบตัวเองเป็นเหมือนนายเนลสัน เมลเดลลา ผู้นำผิวดำเรียกร้องสิทธิของคนผิวดำในแอฟริกา ที่ถูกรัฐบาลคนผิวขาวสั่งจำคุกมาหลายปี ก่อนที่จะได้รับชัยชนะจนได้เป็นประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ เป็นรัฐบุรุษของประเทศนั้น


ทักษิณนั้นยกหางตัวเองมากไป เพราะนายเนลสัน ยอมติดคุก ไม่ทื้งประชาชน เช่นเดียวกับนางอองซานซูจี ที่สามารถหนีไปอยู่กับสามีและลูกที่อังกฤษได้ แต่เธอเลือกที่จะถูกกักบริเวณอยู่ในบ้านมากว่า10ปี เธอไม่ยอมทิ้งประชาชน และทั้งสองคนนี้ก็ไม่ได้โดนข้อหาที่เกี่ยวกับผลประโยชน์ของตัวเองเหมือนทักษิณ พวกเขาโดนข้อหาล้มรัฐบาล ไม่ใช่โกงเหมือนทักษิณ


อยากให้ทักษิณแน่จริงอย่าหนี ดูอดีตประธานาธิบดีไต้หวันซิที่ หากเขาคิดจะหนีไปนอกประเทศได้ แต่เขาไม่ทำ เขาไม่ขี้ขลาดตาขาว ไม่อาศัยประชาชนที่สนับสนุนมาสู้เพื่อคดีตัวเอง เขาสู้ความไม่ยุติธรรมตามที่เขาคิดด้วยชีวิตเขาเองจากการอดอาหารประท้วง

ทักษิณใช้คะแนนนิยม เพื่อใช้ต่อต้านปฏิเสธคำพิพากษาศาล ใช้คะแนนนิยมมาเพื่อกดดันสถาบันสูงสุด คนเยี่ยงนี้ กรรมจะลงทัณฑ์เข้าสักวัน ไม่นานหรอก





อ่านข่าว การจับอดีตประธานาธิบดีไต้หวัน

ทักษิณจนตรอกขนาดต้องกุข่าวเรื่อง ประเทศบางประเทศเชิญไปเป็นพลเมืองกิตติมศักดิ์ หรือไปเป็นที่ปรึกษา โกหกหน้าด้านๆ
.
สนธิอาจโง่บ้าหลงไสยศาสตร์ แต่ทักษิณ เป็นจอมลวงโลกเลยล่ะ กับเรื่องกุข่าวหลอกคนทั้งโลกเลวจริงๆ
.
หากทักษิณรักชาติมากกว่าสนธิ ก็ไม่ต้องไปสู้กับสนธิหรือพธม. แค่ทักษิณอยู่เงียบๆ ไม่ยุ่งกับการเมืองทั้งทางตรงทางอ้อมได้จริง บ้านเมืองก็จะสงบ ส่วนสนธิจะเลวหรือจะดี ก็ช่างมันสิ ไม่ต้องไปสน ทักษิณคนเคยเป็นถึงผู้นำประเทศ จะไปแลกทำไมกับคนอย่างสนธิ ทักษิณแค่เสียสละตัวเองได้ บ้านเมืองคงสงบแน่
.
แต่ความเป็นจริง ทักษิณก็ไม่เคยทำได้อย่างปากพูดจริงๆเรื่องเลิกยุ่งการเมือง ไม่ยอมเป็นคนเสียสละน่ายกย่อง หากคนไม่รู้แต่กฏแห่งกรรมรู้ แต่ทักษิณเลือกที่จะสู้และไม่ยอมเสียสละ


วันพุธที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ตั้งโอ๋ไม่ใช่ขึ้นฉ่ายนะครับ






ผมเห็นยังมีคนไทยจำนวนมากที่มีความเข้าใจผิดว่าขึ้นฉ่ายเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ตั้งโอ๋
.
เห็นทั้งพ่อค้าแม่ค้าขายผักในตลาดหลายแห่งต่างก็เรียกขึ้นฉ่ายว่า ตั้งโอ๋ กันทั้งนั้น แม้แต่ร้านก๋วยเตี๋ยวหลายร้านที่ใช้ขึ้นฉ่ายโรยหน้าก๋วยเตี๋ยวแทนผักชี หลาย ๆ ร้านก็เรียกขึ้นฉ่ายว่า ตั้งโอ๋ กันหลายร้าน

ผมเองก็ได้สอบถามแม่บ้านและคนทั่วไปว่า รู้จักตั้งโอ๋มั้ย? ต่างก็บอกว่ารู้จัก แล้วก็หยิบขึ้นฉ่ายขึ้นมาอวดว่านี่ไง! ตั้งโอ๋! ผมจึงอยากเอารูปมาให้ดูว่า ตั้งโอ๋มันไม่เหมือนกับขึ้นฉ่ายชัวร์ ฟันธง! คนละชนิดกันเลยครับ



ตั้งโอ๋ เป็นพืชในตระกูลเดียวกับ เบญจมาศ และเก็กฮวย แต่นิยมนำใบมาทำอาหารทั้งผัดผัก และต้มจืด ในภาษาจีนเรียกตั้งโอ๋ว่า 皇帝菜 หรือ จานจักรพรรดิ ซึ่งถือว่า เป็นจักรพรรดิแห่งอาหารผัก คือ ผักที่มีรสชาติเป็นเลิศที่สุด



การใช้ประโยชน์ของผักตั้งโอ๋ คือใช้เหมือนผักคะน้าหรือผักตำลึง คือนำมาผัดหรือต้มกิน อร่อยมาก และหาซื้อค่อนข้างยาก ราคาค่อนข้างแพงกว่าผักที่ใช้กินเป็นผักทั่ว ๆ ไป แม่ค้าผักทั่ว ๆ ไปจึงไม่ค่อยนำมาขาย

แม่ของผมมักจะซื้อตั้งโอ๋มาต้มแกงจืดให้ผมทานทุกหน้าหนาว ซึ่งแกงจืดตั้งโอ๋จะมีรสชาติอร่อยกว่าแกงจืดตำลึงอีกครับ แต่หาซื้อตั้งโอ๋มาทานยาก เพราะแม่ค้าผักส่วนใหญ่ในไทยส่วนใหญ่โง่ จึงไม่รู้จักตั้งโอ๋

แม่ผมต้องไปซื้อกับแม่ค้าผักเจ้าประจำที่มีเชื้อสายจีน ถึงจะรู้จักตั้งโอ๋ของแท้ ที่ไม่ใช่ขึ้นฉ่าย


ส่วนขึ้นฉ่าย มีรูปร่างหน้าตาแบบนี้ครับ



ขึ้นฉ่าย เป็นพืชล้มลุก มีกลิ่นหอมฉุนเฉพาะตัว ลักษณะลำต้นและใบคล้ายผักชีแต่ใหญ่กว่า ใบเป็นใบประกอบ ขอบใบหยัก มีลักษณะเป็นแฉกรูปร่างคล้ายมือ ก้านใบอวบหนา ดอกมีสีขาวขนาดเล็ก ออกเป็นช่อ ก้านดอกคล้ายซี่ร่ม ผลมีขนาดเล็กขาว ภายในมี 1 เมล็ด เมื่อผลสุกเต็มที่จะแตกออกเป็น 2 ซีก ขึ้นฉ่ายที่พบมีอยู่ 2 พันธุ์ พันธุ์ฝรั่งเรียกว่าเซลเลอรี (Celery) ซึ่งมีลำต้นอวบใหญ่และมีสีอ่อนกว่าพันธุ์จีนที่เรียกว่าเซเลอริค (Celeric)

ผลของขึ้นฉ่ายเมื่อนำมากลั่นด้วยไอน้ำให้น้ำมันหอมระเหย ซึ่งประกอบด้วยสารดี-ไลโมนีน (d-Limonene) ซีลินีน (Selinene) และสารจำพวกธาไลเดส (Phthalides) ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดกลิ่นเฉพาะตัว นอกจากนี้ยังพบสารอื่นอีกหลายชนิด แต่พบในปริมาณน้อย เช่น แซนตารอล (Santalol) ยูเดสมอล (Eudesmol) ไดไฮโดรคาร์โวน (Dihydrocarvone) และกรดไขมัน เป็นต้น

ส่วนในชันน้ำมัน (Oleoresin) จะมีสารที่ทำให้เกิดกลิ่นฉุน โดยมีสารจำพวกเทอร์ฟีน (Terpene) ในปริมาณต่ำ นอกจากนี้ยังมีสารอะพิอิน (Apiin) สารจำพวกฟลาโวนอย (Flavonoids) และคุณค่าทางสารอาหาร เช่น เบต้า-แคโรทีน (Beta-Carotene) เกลือแร่ แคลเซียม และฟอสฟอรัสในปริมาสูง

สรรพคุณ สรรพคุณเด่นของต้นและใบขึ้นฉ่ายคือ ช่วยขยายหลอดเลือด ลดความดันโลหิตโดยอาจจะรับประทานเป็นผักหรือนำมาคั้นน้ำรับประทาน ส่วนสรรพคุณที่รองลงมาคือ ทำให้เจริญอาหารช่วยขับปัสสาวะและรักษาโรคทางเดินติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ทำให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ ช่วยบำรุงประสาทให้มีความจำดี บำรุงกระดูกและฟัน ซึ่งเหมาะสำหรับสตรีมีครรภ์และเด็กที่เป็นโรคกระดูกอ่อน เพราะมีแคลเซียมสูง

นอกจากนี้ขึ้นฉ่ายยังมีวิตามินซีซึ่งช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันโรค และมีเบต้า-แคโรทีนซึ่งเป็นสารต้านออกซิเดชั่น ส่วนรากใช้รักษาโรคเกาท์ และอาการปวดตามข้อ เมล็ดช่วยในการขับลม บำรุงธาตุ

วิธีใช้ในการประกอบอาหาร ต้นและใบสดใช้ปรุงแต่งกลิ่นรสของอาหาร เช่น ใช้ดับกลิ่นคาวในข้าวต้มปลา ปูผัดผงกะหรี่ ปลาจะละเม็ดนึ่งบ๊วย ผัดปลาช่อนทอดกรอบ แกงจืดเต้าหู้อ่อน ยำหมูยอหรือผัดกับน้ำมัน

นอกจากนี้ยังทำเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ โดยนำใบและต้นมาคั้นน้ำดื่ม ส่วนเมล็ดและน้ำมันหอมระเหยใช้แต่งกลิ่นอาหาร แต่งกลิ่นเครื่องดื่ม ทั้งที่มีแอลกอฮอล์และไม่มีแอลกอฮอล์ รวมทั้งขนมหวานบางชนิด

ข้อสังเกต / ข้อควรระวัง

1. ขึ้นฉ่ายเหมาะสำหรับนำมาปรุงอาหารให้กับผู้ป่วยที่เป็นโรคไต เพราะมีสารโซเดียมน้อย

2. สามารถรับประทานขึ้นแายสดเพื่อควบคุมน้ำหนักได้เพราะให้พลังงานต่ำ

3. มีรายงานจากการทดลอง พบว่า การรับประทานขึ้นแายในปริมาณมากและติดต่อกันหลายวัน จะมีผลให้ตัวอสุจิลดลงถึงร้อยละ 50 ซึ่งเป็นการคุมกำเนิดด้วยวิธีธรรมชาติแบบชั่วคราวอีกวิธีหนึ่ง แต่ต้องใช้ร่วมกับการคุมกำเนิดโดยวิธีอื่นด้วย และหลังจากหยุดรับประทาน เชื้ออสุจิก็จะมีจำนวนตามปกติ

4. ในบางรายอาจมีการแพ้จากการสัมผัสต้นขึ้นฉ่ายจนถึงขั้นรุนแรงได้ และพบว่าสารสกัดจากต้นขึ้นฉ่ายช่วยเร่งให้สีผิวเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลมากขึ้น

5. เมล็ดขึ้นฉ่ายเมื่อนำมาสกัดด้วย Petroleum ether จะได้สารที่ช่วยไม่ให้น้ำมันมีกลิ่นเหม็นหืน

6. สามารถป้องกันโรค silicosis (โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจซึ่งเกิดจากการสูดฝุ่นที่มีส่วนประกอบของซิลิก้า) ได้

7. ไม่ควรผัดหรือต้มขึ้นฉ่ายให้สุกนานเกินไป เพราะจะทำลายวิตามินและเกลือแร่ที่มีอยู่ให้หมดไป

8. น้ำมันขึ้นฉ่าย ใช้แต่งกลิ่นเครื่องสำอาง ครีม สบู่ ยาทาผิว

ข้อมูลขึ้นช่ายจาก โหระพา.คอม

ส่วนตัวผม ผมชอบกินขึ้นฉ่ายมากกว่าผักชีต้นหอมมาก ผมว่าอร่อยกว่าเยอะ แต่คนส่วนใหญ่มักจะใช้ผักชีต้นหอมใส่แกงจืดกันมากกว่า ลองเปลี่ยนมาใช้ขึ้นฉ่ายแทนสิครับ รับรองจะติดใจในรสชาติของน้ำซุปที่ดีกว่าการใช้ผักชีต้นหอมมากครับ

ส่วนขึ้นฉ่ายสามารถใช้แทนผักชีต้นหมอได้ดี ในการโรยหน้าแกงจืด หรือแกงจำพวกพะโล้ หรือนำมาใส่ในยำต่าง ๆได้ดีทุกชนิด โดยเฉพาะเหมาะที่กับอาหารทะเล

ต่อไปนี้หากใครจะซื้อขึ้นฉ่าย ก็อย่าไปเรียกว่า ตั้งโอ๋ เลยนะครับ เพราะมันเป็นข้อมูลที่ผิด และจะเป็นการเผยแพร่ข้อมูลที่ผิดต่อๆไปอีกครับ


ใหม่เมืองเอก
"
"

วันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ทำไมผมถึงเชียร์บารัค โอบามา








ผมคิดว่าคนทั้งโลกส่วนใหญ่ก็เชียร์โอบามากันทั้งนั้น ดูจากข่าวแล้วเห็นดีใจกันทั้งโลก เพราะนี่คือประวัติศาสตร์ครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติเรื่องนึงเลยทีเดียวครับ เพราะการที่คนผิวสีจะเป็นถึงประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา ชาติที่ยิ่งใหญ่อันดับหนึ่งของโลก

พอผมรู้ว่ามีคนผิวสีมาลงสมัครชิงชัยประธานาธิบดีอีกครั้งในปีนี้ ผมก็เริ่มสนใจในทันที แต่ก่อนหน้านี้สัก2-3ปีที่แล้ว ผมเคยนึกอยากให้มีผู้หญิงมาลงชิงชัย มาเป็นประธานาธิบดีคนแรกของอเมริกา เพราะเคยได้ยินมาว่า นางฮิลลารี คลินตัน จะลงสมัครชิงตำแหน่ง ผมก็นึกเชียร์เธอในทันที อยากจะให้โฉมหน้าของโลกใบนี้เปลี่ยนไป เผื่อสิ่งแวดล้อมและสันติภาพในโลกจะดีขึ้น

แต่พอรู้ว่า มีคนผิวสีมาสมัครชิงชัยด้วย ผมก็เริ่มเอนเอียงมาสนใจเชียร์คนผิวสีแทน และดูท่าจะมีหวังมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะครั้งนี้ นายบารัค โอบามา(Barack obama) คนนี้กำลังมีคะแนนนิยมนำนางฮิลลารีอยู่พอดี ในการแข่งขันเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต

นึกชั่งใจว่า ระหว่างประธานาธิบดีผู้หญิงคนแรกกับปรธานาธิบดีผิวสีคนแรก เราชอบแบบไหนมากกว่ากัน สุดท้ายตัดสินใจได้ว่า ต้องคนผิวสีสิ เพราะผมสงสารคนผิวดำมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว

เพราะตอนเด็กๆผมเคยดูมินิซีรีย์เรื่องรูทส์(roots) เรื่องของทาสผิวดำจากแอฟริกา ที่คนขาวไปล่ามาเหมือนคนดำเป็นสัตว์ชนิดหนึ่ง มีทั้งการขัง ล่ามโซ่ เฆี่ยนตี ผูกเชือกลากที่คอ ยังมีอีกหลายๆเรื่อง ที่เคยได้ดูเกี่ยวกับทาสในอเมริกา แต่จำชื่อไม่ได้แล้ว แต่พอจำได้ถึงความทารุณและการเหยียดสีผิวของพวกคนขาวได้หลายๆอย่าง ขนาดเวลาคนขาวจะแสดงบัญชีทรัพย์สิน ก็นับคนดำหรือทาส เหมือนทรัพย์สินแบบวัว ม้า อะไรอย่างนี้ คนดำหรือทาสเหมือนเป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่คนขาวมีไว้ใช้งาน



ขนาดตอนอเมริกาเลิกทาสไปแล้ว แต่ในหนังที่แสดงให้เห็นอเมริกาในยุค60 ผมเห็นคนดำในหนังหลายๆเรื่องยังถูกคนผิวขาวดูถูกเหยียดหยามมากมายหลายวิธี เช่น

คนดำเดินผ่านคนขาว คนขาวถุยน้ำลายใส่แถมด่าคำว่าไอ้ดำ

คนดำนั่งบนรถเมล์ก็ต่องลุกให้คนขาวนั่ง

โรงเรียนของคนดำก็ต้องแยกกับโรงเรียนของคนขาว

ร้านกาแฟหรือร้านอาหารของคนขาวก็ห้ามคนดำเข้า หากเผลอเข้าไปจะถูกขังไล่อย่างกับไล่หมูไล่หมา

คนดำไม่มีสิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง เป็นต้น

ในอดีตผู้นำเรียกร้องเรื่องต่อต้านการเหยียดสีผิวหลายๆคนก็ต้องมาจบชีวิตจากการถูกฆาตกรรมในรูปแบบต่างๆ(เช่นมาร์ติน ลูเธอร์คิง จูเนียร์) เคยมีคนผิวสีหลายๆคนลงสมัครชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดี แต่สุดท้ายก็ต้องมีอันต้องเลิกกลางครันบ้าง เพราะถูกขู่ฆ่า หรือไม่ก็ฆ่าเลย

เช่นพลเอกคอลลิน เพาเวลอดีตจอมทัพศึกพายุทะลทรายแห่งสงครามอ่าวเปอร์เซียภาค1 (desert storm)ก็เคยลงสมัครชิงชัยประธานาธิบดีในฐานะคนผิวสีคนนึง แต่ต้องถอนตัวกลางครันเพราะครอบครัวของเพาเวลถูกขู่ฆ่า ทั้งๆที่คะแนนนิยมของเพาเวลก็มีมากอยู่ในเวลานั้น


โอบามา แม้จะไม่ใช่คนผิวดำแท้100% เพราะมีพ่อเป็นคนเคนยาที่มีอาชีพเลี้ยงแกะ แต่ฉลาดได้ทุนมาเรียนต่อ จนมาพบกับแม่ของโอบามาที่เป็นคนผิวขาว โอบามาจึงเป็นลูกครึ่งของคนดำและคนขาว ผิวของโอบามาเลยไม่ดำสนิท (และบรรพบุรุษข้างพ่อก็ไม่ได้เป็นทาสในอเมริกา)

แต่แม้ว่าโอบามาจะไม่ได้มีญาติจากฝ่ายตัวเองที่มาจากทาสเลยก็ตาม อาจจะไม่ได้สื่อเรื่องการกดขี่ทางชาติพันธุ์ได้มากเท่ากับคนดำแท้ๆที่สืบเชื้อสายมากจากทาสก็ตาม แต่นี่ก็นับเป็นการเริ่มต้นครั้งสำคัญแห่งประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ ที่สังคมอเมริกันได้ไม่ยอมรับการเหยียดสีผิวอย่างเป็นทางการแล้วในวันที่4พ.ย.51 วันที่ประธานาธิบดีคนที่44 ของสหรัฐฯคือคนผิวสีคนแรกของอเมริกันชน

ซึ่งผมก็คิดว่าในอนาคตจะต้องมีคนผิวดำแท้ๆที่มีเชื้อสายทาส ได้มาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาอีกในอนาคตแน่ๆ เหมือนกับที่ครั้งแรกที่นางงามU.S.A ที่เป็นคนผิวดำคนแรกเมื่อหลายปีก่อน และหลังจากนั้นก็มีนางงามU.S.A.เป็นคนดำตามมาอีกหลายคน

ผมได้เห็นสาธุคุณแจสซี่ แจ๊คสัน อดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีผิวสีคนนึงของพรรคเดโมแครตในอดีตเมือยุค80แต่ผิดหวังไป กำลังเสียน้ำตาด้วยความปลื้มปิติให้กับชัยชนะของโอบามาที่ยิ่งใหญ่ในงานแถลงชัยชนะของโอบามาต่อหน้าแฟนๆ ผมว่ามันแทนความรู้สึกของคนดำในอเมริกาได้ดีจริงๆ ท่านคงไม่น่าเชื่อว่าจะมีวันแห่งชัยชนะเหนือสีผิวเกิดขึ้นในอเมริกาได้จริงๆเกิดขึ้นแล้ว






วันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

3เกลอแห่งความจริงวันนี้ก็เท่านั้น


.
วันนี้ขอคุยแบบไม่เน้นรายละเอียดมากนะครับ เพราะตอนนี้ผมมีปัญหาเซ็งกับความเร็วเน็ตของผม ช่วงนี้ผมกำลังจะเปลี่ยนผู้ให้บริการแล้ว ไม่ใช่ว่าผู้ให้บริการายใหม่จะดีกว่าหรอกครับ แต่เมืองไทยมันก็มีให้เลือกเท่านี้ ทำไงได้ บทความต่อๆไปจากนี้ อาจจะเป็นการบันทึกร่างไว้ล่วงหน้านะครับ เพราะผมอาจใช้เน็ตไม่ได้อีกหลายวัน

หลายๆท่านคงชอบดูรายการความจริงวันนี้เหมือนผม ผมเองถ้าไม่ลืมก็จะดูทุกครั้ง เพราะผมว่าพวกนี้เขาคุยสนุกดีนะครับ โดยส่วนตัวผมจะชอบณัฐวุฒิ ไสเกื้อ โฆษกรัฐบาลคนปัจจุบัน ผมดูณัฐวุฒิคนนี้ตั้งแต่มาโต้วาทีในรายการโต้คารมมัธยมศึกษา ซึ่งณัฐวุฒิอยู่ในทีมโรงเรียนเบญจมราชูธิศ นครศรีธรรมราช(หากผมจำไม่ผิดนะครับ)

ที่จริงทีมที่ผมเชียร์ในรุ่นนั้น ที่ชอบมากที่สุดคือทีมโรงเรียนวัดเทพศิรินทร์ ส่วนทีมของณัฐวุฒิผมชอบเป็นอันดับสอง แต่สุดท้ายทีมณัฐวุฒิก็ได้แชมป์โดยชนะโรงเรียนวัดเทพศิรินทราวาสของนายลิงกับนายทุเรียน พิธีกรชื่อดังที่พวกเรารู้จักกัน แต่ที่จริงผมเชียร์เทพศิรินทร์มากกว่าหน่อยนึง

.

แต่วันนั้นอาจารย์พเยาว์ พัฒนฐาบุตร เป็นประธานกรรมการตัดสิน ซึ่งก็คนใต้เหมือนกัน?ถ้าในความเห็นส่วนตัว ผมว่าลิงกับทุเรียนน่าจะชนะมากกว่า

,

เสียดายตอนนี้ณัฐวุฒิ ไม่ค่อยมาแล้ว ให้นายแว่น ชื่ออะไรขี้เกียจจำมาจัดแทน (ใช่นายก่อแก้วหรือเปล่าไม่แน่ใจ) ที่ไม่ได้จำชื่อเพราะพูดได้ไม่มันไม่ประทับใจเลย

.

รายการความจริงวันนี้ (ด้วยการสนับสนุนจากรัฐบาลสมัคร)เกิดขึ้นมาเพื่อสู้กับกลุ่มพันธมิตรโดยเฉพาะ แม้ว่ารัฐบาลจะอ้างว่าNBTเป็นกลาง แต่ผมก็เห็นว่า มีแต่ฝ่ายรัฐบาลเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้นที่มีโอกาสมาจัดรายการในสื่อของรัฐ ไม่เห็นมีฝ่ายค้านหรือฝ่ายพันธมิตรได้มีโอกาสมาจัด ไม่รู้ด้วยเหตุผลใด

.

และฝ่ายรายการความจริงวันนี้ก็ชอบอ้างว่า ฝ่ายพันธมิตรมีโทรทัศน์ด่ารัฐบาลได้ทั้งวันทั้งคืน ไม่มีใครห้ามได้ แต่ขอโทษครับ จะมีคนไทยสักกี่เปอร์เซ็นต์ที่ได้ดูทีวีพันธมิตร เพราะบ้านต้องมีจานดาวเทียม หรือไม่ก็มีอินเตอร์เนต ขนาดผมเล่นเน็ตยังไม่ค่ยดูเลยครับ แทบไม่ดูเลยก็ว่าได้ แต่รายการความจริงวันนี้ผมดูเกิอบทุกวัน?

ผมเอง ก็ไม่มีจานดาวเทียม ที่บ้านก็เพิ่งติดเน็ตไม่ถึง3เดือน ผมเกือบจะไม่เคยได้ดูASTVเลย แต่ผมก็สามารถรู้ได้ว่า ทักษิณผิดยังไง ไม่จำเป็นต้องให้นายสนธิ หรือจำลองมาสอนผม บอกผม ผมไม่ใช่จะชอบทักษิณจนหัวปักหัวปำ ผมชอบแบบมีเหตุผลรองรับ โดยเฉพาะเรื่องคุณธรรมที่ดีที่ผู้นำต้องมี

.

รายการความจริงวันนี้ เนื้อหาหลักๆเลย ของรายการก็คือ โจมตีพันธมิตรเป็นหลัก โจมตีคนทำคดีทักษิณเป็นงานรอง สิ่งที่3เกลอแห่งความจริงวันนี้ ไม่เคยทำเลยก็คือ แก้ต่างในคดีต่างๆของทักษิณ ว่าทักษิณไม่ผิดยังไง ซึ่งถ้าว่าไปแล้วก็ถือว่า เป็นรายการที่มีสาระและเหตุผลดีประมาณหนึ่ง

.

แต่ต่อให้3เกลอแห่งความจริงวันนี้ จะด่าพันธมิตรจนจมดินไป หรือจะพูดเรื่องความไม่ชอบธรรมของการเข้ามาแบบไม่ถูกขั้นตอนของปปช.เป็นเรื่องจริงหรือไม่ก็ต หรือจะเรื่องบ้านของคุณหญิงจารุวรรณจะไม่ชอบมาพากลจะเป็นจริงหรือไม่ก็ตาม
.

แต่สุดท้าย ที่3เกลอทำมาทั้งหมดก็ไม่ได้ทำให้ทักษิณพ้นมลทินไปได้หรอก ไม่สามารถหลอกคนที่เขารู้จริงเรื่องทักษิณไปได้หรอก 3เกลอแห่งความจริงวันนี้ ก็ได้แต่หลอกประชาชนชาวรากหญ้าไปวันๆ โดยทำได้แค่อ้างเสียงส่วนใหญ่คือเสียงที่ถูกต้องเสมอ เป็นเสียงประชาธิปไตย 3เกลอก็อ้างได้แค่นี้

.

คล้ายกับเป็นการอ้างบังหน้าเพื่อช่วยทักษิณเท่านั้น ในอดีตนายวีระเองก็เคยติดคุกในคดีสมรู้ร่วมคิดกับพวกกระทำการกบฏมาแล้วครั้งนึง(กบฎพลเอกฉลาด พ.ศ.2520)

.

เรื่องใดที่ทักษิณผิด ไม่เคยเลยที่3เกลอจะมาแก้ต่าง เรื่องอังกฤษห้ามทักษิณบินเข้าประเทศแล้ว 3เกลอก็ไม่กล้าพูดเรื่องนี้เพราะมันเป็นเรื่องจริง เพราะกลัวอายเขาว่าโง่ไม่รู้เรื่อง เหมือนที่ทักษิณหน้าแตกมาแล้ว ที่เคยชมนักชมหนาว่าอังกฤษคือประเทศที่เป็นประชาธิปไตยมากที่สุด แล้วพอเขาถอนวิซ่าทำไมเงียบไปเลยเล่า
.
หากรัฐบาลที่ได้เสียงส่วนใหญ่เข้ามา อยากจะโกงยังไงก็โกงได้งั้นเหรอ พอมีคนเขาออกมาแฉความจริง ก็อ้างว่าพวกแฉเป็นพวกรับใช้เผด็จการ ไม่เคารพเสียงส่วนใหญ่ อ้างได้แค่นี้จริงๆเหรอ

การแค่สอนประชาธิปไตยคือเสียงส่วนใหญ่ให้ประชาชนไปวันๆ ก็เท่ากับว่ากำลังหลอกประชาชนแล้ว
เพราะประชาธิปไตยไม่ได้มีแค่เสียงส่วนใหญ่เพียงอย่างเดียว

ขอถามคำถามที่ผมเคยถามไปแล้วในบทความเก่าๆ อีกครั้งคือ

หากรัฐบาลได้เสียงส่วนใหญ่เข้ามาโดยฝ่ายค้านไม่มีเสียงมากพอจะตรวจสอบ แล้วรัฐบาลก็โกงกินกัน แบบไร้ใบเสร็จ โกงกันในระบบอ้อมระบบ แก้กฏหมายเอื้อประโยชน์พวกพ้อง โยกย้ายข้าราชการที่ขัดขวางการโกงของตน แต่งตั้งพวกพ้องตนเข้ามาแทน ขึ้นเงินเดือนข้าราชการก่อนการเลือกตั้ง ฯลฯ
.
ประชาชนควรทำอย่างไร รอให้ครบวาระ4ปีก่อน ค่อยเลือกตั้งใหม่งั้นหรือ ปล่อยให้รัฐบาลโกงกันตามสบาย เพราะเขาเป็นมาจากเสียงส่วใหญ่อย่างนั้นเหรอ ลองเก็บไปคิดดูว่า จริงแล้วเราควรทำยังไง?

3เกลอแห่งความจริงวันนี้ โปรดรู้ไว้ด้วยว่า คนเชียร์พันธมิตร มีไม่มากเท่าไหร่หรอก แต่คนที่เกลียดทักษิณ ไม่ใช่พันธมิตรมีมากมายนัก
.
อ่าน ข่าวสภาคองเกรสอเมริกา อาจตัดสัมพันธ์ไทย เพราะม็อบนปช.อุดร




เพิ่มเติมเรื่องปัญหาตำแหน่งผู้ว่าสตง.ของคุณหญิงจารุวรรณ
.

เมื่อหลายปีก่อนกรณี คุณหญิงจารุวรรณที่เคยถูกรัฐบาลไทยรักไทยของทักษิณต้องการปลดออก โดยอาศัยช่องทางวุฒิสภาที่เป็นพรรคพวกแอบๆของไทยรักไทย จะปลดผู้ว่าสตง. โดยอ้างว่า คุณหญิงจารุวรรณ เมณทการมาด้วยขั้นตอนไม่ถูกต้องตามระเบียบการสรรหา (ผมไม่ขอลงรายละเอียด )

.

แต่คุณหญิงไม่ยอมออกเพราะถือว่าได้มีการโปรดเกล้าแต่งตั้งคุณหญิงแล้ว หากจะให้ออกต้องมีการโปรดเกล้าให้ออก คุณหญิงจึงจะออก

.

สภาวุฒิไม่สน จึงสรรหา ผู้ว่าสตง.คนใหม่ เพื่อเสนอชื่อนายวิสุทธิ์ มนตรีวัต ทูลเกล้าให้โปรดเกล้าแต่งตั้งเป็นผู้ว่าสตง.คนใหม่แทนคุณหญิงจารุวรรณ แต่ผ่านไปนานหลายวัน ก็ยังไม่โปรดเกล้าลงมา จนในที่สุด นายวิสุทธิ์ จึงประกาศขอถอนตัว

.

เมื่อนายวิสุทธิ์ถอนตัว คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินจึงลงมติเอกฉันท์ให้คุณหญิงดำรงตำแหน่งผู้ว่าสตง.อีกครั้ง และต่อมา ก็ได้มีการโปรดเกล้าลงมาให้คุณหญิงจารุวรรณ เป็นผู้ว่าสตง.อีกครั้งหนึ่งเหมือนเดิม
ซึ่งคุณหญิงบอกว่า เป็นพระมหากรุณาแท้ๆ เป็นเรื่องของเบื้องบน ตนจึงได้กลับมาในตำแหน่งนี้อีกครั้ง ฟ้ามีตา
.

สาเหตุ ที่รัฐบาลทักษิณ อยากจะปลดคุณหญิงออก ก็เพราะคุณหญิงกำลังตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณต่างๆในสมัยทักษิณ
.

.
อ่าน คนรักทักษิณมาทางนี้






วันจันทร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ไอ้นายกสมชวยละเว้นหน้าที่เรื่องพาสปอร์ตแดงทักษิณ

.
นายกฯที่พี่เมียแต่งตั้งมานาม สมชวย คนรักเมีย(น้อย) เข้ามา ผมก็อุตส่าห์มองโลกในแง่ดีว่า ให้โอกาสมันทำงานก่อน แล้วค่อยว่ากันทีหลัง บางทีมันอาจดีกว่าพี่เมียมันก็ได้( ตอนแรกก็ใช้สรรพนามกับสมชวยดีๆ แต่ตอนนี้ต้องใช้มันเท่านั้น)

ผมให้ความหวังกับตัวเองว่า ไอ้สมชวย มันจะไม่เห็นแก่พี่เมียไปมากกว่านามสกุลคนใต้ของมันเอง มันเคยเป็นผู้พิพากษามาหลายปี มันคงมีจิตสำนึกในเรื่องการรักษากฏหมายมากกว่าใครๆ

แต่สุดท้ายสมชวยมันนี่แหล่ะ ที่เป็นตัวผิดกฏหมายเอง ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ที่ต้องรับใช้ชาติ แต่กลับไปรับใช้พี่เมียแทน ทำเพื่อญาติสำคัญกว่าทำเพื่อชาติ

มันเข้ามา ผมก็นึกว่ามันจะยึดพาสปอร์ตแดงพี่เมียคืนกลับมา แต่มันกลับทำเฉย โยนลูกต่อให้รมต.ต่างประเทศแทน สุดท้ายก็โยนกันไปมา ไม่คืบหน้าแม้แต่น้อย

ตอนหลังนักข่าวกดดันถามสมชวยเรื่องพาสปอร์ตแดงอย่างหนัก จนในที่สุด ทักษิณเลยแกล้งปล่อยข่าวว่าตัวเองจะคืนพาสปอร์ตแดงให้แล้ว แต่สุดท้ายมันก็เป็นการปล่อยข่าวเพื่อลดกระแสตามสันดานที่ทักษิณมันทำเป็นประจำ

ขนาดตอนนี้ อังกฤษเขายกเลิกวีซ่าทักษิณแล้ว ทั้งๆที่ทักษิณมันชมนักชมหนาว่าอังกฤษเขาเป็นประเทศประชาธิปไตยดีที่สุดในโลก ตอนนี้ชาติที่มีประชาธิปไตยดีที่สุดเขาตบหน้าเอ็งแล้วไอ้ทักษิณไอ้สมชวย ตบหน้าทั้งพี่เมียและน้องเขย เขายกเลิกวีซ่าทักษิณแล้ว แม้ทักษิณจะมีกี่พาสปอร์ตก็ตาม จะกลับอังกฤษได้ด้วยวิธีอื่นก็ตาม แต่มันก็อายขายขี้หน้าอังกฤษแล้ว ถ้ายังกลับไปอีก ก็เรียกว่าด้านแล้ว


สุดท้ายอยู่ประเทศประชาธิปไตยที่ดีที่สุดไม่ได้ เลยว่าจะไปอยู่ประเทศคอมมิวนิสต์ที่ดีที่สุดแทน


ตอนนี้นักข่าวพยายามถามสมชวยเรื่องพาสปอร์แดงทักษิณอีก สมชวยก็เดินหนีไม่ยอมตอบ นึกว่าการเงียบจะทำให้ตัวเองลอยตัวเหนือปัญหาได้งั้นเหรอ ทำได้ก็ทำไป เพราะเดี๋ยวนี้รู้ชัดแล้วว่า ไอ้ความเรียบร้อยที่ฉาบหน้าอยู่นั้น มันแฝงไว้ด้วยความด้านแบบสุดๆ หน้าที่สำคัญเหนือความเป็นญาติ แค่นี้ก็พูดได้แล้วว่า สมชวยมันเป็นนายกฯนอมินี ไร้เกียรติ์และศักดิ์ศรีที่สุด


ตอนนี้ทักษิณกำลังไปปักหลักที่จีนและฮ่องกง ดูสิว่ามันจะอยู่ได้หรือไม่ หากอยู่ได้มันก็มีคฤหาสน์หรูที่มันไปสร้างไว้ พักอยู่อย่างสบายอย่างกับวัง ราคากว่า300ล้าน(แม้ภายหลังทักษิณจะบอกว่าไม่ได้ซื้อจริงตามข่าว แต่ผมขอฟังหูไว้หูก่อนดีกว่า เพราะขนาดคฤหาสน์ในอังกฤษยังราคากว่า200ล้านบาท คนอย่างทักษิณไม่อยู่ที่ถูกๆอยู่แล้ว)


คนแบบนี้หรือ ที่บอกว่าจะสนับสนุนอุดมการณ์เศรษฐกิจพอเพียง มันเป็นแค่คำโตเท่านั้น มันทำตัวฟุ่มเฟือยมาตลอด เป็นตัวอย่างให้คนไทยได้หลงใหลไปกับความหรูหราฟุ่มเฟือย อยากมี อยากรวยแบบมัน เลยค้าขายกันแบบเอากำไรมากๆ เพืออยากรวยเร็วๆกันไปหมด ไม่คอยเห็นใจคนไทยด้วยกัน ผมไม่ได้อิจฉา เพราะรู้สันดานทักษิณอยู่แล้ว แต่ไม่ชอบที่เสแสร้งแกล้งทำในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง


ถ้าทักษิณเป็นนักธุรกิจ อยากใช้เงินก็ตามสบายไม่มีใครว่า แต่การเป็นผู้นำประเทศมันควรเลิกไอ้นิสัยอวดร่ำ อวดรวย แต่ทักษิณมันไม่เคยทำ มันเป็นกันทั้งตระกูล ต่อให้รวยยังไง มันก็ไม่มีความสุขหรอกถ้าไม่มีแผ่นดินให้อยู่


สมชวย เสียดายที่เคยเป็นศาล การละเว้นพี่เมียที่เป็นนักโทษหนีคดี แต่กลับไม่นำพา ปล่อยให้พี่เมียใช้พาสปอร์ตพิเศษอยู่ได้ อังกฤษเขายังรู้รักษากฏหมายมากกว่า เขาเลยยกเลิกวีซ่าทักษิณซะ เขาไม่อยากให้รักโทษหนีคดีเข้าประเทศเขาได้ ให้มันมีสิทธิพิเศษได้


สมชวยปากพูดอยู่เสมอว่า จะรักษากฏหมาย แต่มันก็ได้แต่พูดส่งเดชไปวันๆ คนอย่างนี้แหล่ะที่เขาเรียกว่าปากอย่างใจอย่าง คบไม่ได้ เลวจริงๆ


ปกติผมไม่อยากด่าใครแรงๆเลย เคยด่าไอ้ฮุนเซน ในบทความเขมรชั่วมาทีนึงแล้ว แต่สำหรับกรณีพาสปอร์ตแดงทักษิณเนี่ย มันคาราคาซังมานานแล้ว ทุกวันนี้มันยังหน้าด้านถืออยู่ได้ สมชวยก็เลวกว่าทักษิณ ก็เพราะสมชวยละเว้นหน้าที่ที่ควรกระทำ เคยเป็นศาลแต่กลับไม่รักษากฏหมาย หากคนเลวไม่ใช่นายกฯผมคงไม่ด่าแบบนี้ แต่นี่เป็นถึงนายกฯรู้กฏหมาย แต่ไม่นำพา ก็ต้องย้ำอีกทีว่า สมชวยเลวจริงๆ

.

ส่วนรมต.ต่างประเทศ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ออกมาพูดเห่ยๆ ว่า การให้พาสปอร์ตแดง แก่ทักษิณก็เพราะให้เกียรติ์อดีตนายกฯ หรือทำเพื่อนายกันแน่
ก็ใช่ แต่ตอนนี้ทักษิณต้องคดีอาญามีคำพิพากษาจำคุกแล้ว แถมยังดูถูกศาล หมิ่นศาล และกำลังหนีคดีอยู่ การที่ยังไม่ระงับพาสปอร์ตแดง ที่มีอภิสิทธิ์กว่าคนทั่วไปที่เขาไม่มีคดีติดตัว ดูมันช่างอยุติธรรมจริงๆ

.

นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ยังมีหน้าพูดต่ออีกว่า ต่อให้กระทรวงฯยกเลิกพาสปอร์ตแดงทักษิณแล้วก็ตาม ทักษิณก็ยังมีพาสปอร์ตที่ได้จากประเทศอื่นอีกหลายใบ ไม่ต้องง้อพาสปอร์ตแดงอยู่แล้ว
ก็ใช่ แต่ในเมื่อทักษิณมันไม่ต้องพึ่งพาสปอร์ตแดงได้อยู่แล้ว ก็แล้วทำไม รมต.ต่างประเทศถึงไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ที่ควรทำเล่า ระเบียบเขาให้ยกเลิกได้แล้ว

ข่าวล่าสุดวันนี้ ทักษิณประกาศจะกลับมาสู้ศึกกับฝ่ายต่อต้านเต็มตัว แสดงว่า การที่ประกาศเลิกยุ่งการเมืองของทักษิณ ที่ทักษิณโกหกมาตลอดก็ได้เปิดเผยออกมาแล้ว ว่ายังเล่นการเมืองต่อแน่ๆ ก็ดี ประกาศออกมาตรงๆ ดีกว่าเป็นอีแอบ เหมือนที่ผ่านมา

รอยเตอร์พาดหัวข่าวว่า

Exiled Thaksin vows fightback against thai enemies.

ทักษิณคนผลัดถิ่นให้ปฏิญาณสู้กับศัตรูในไทย


Exiled Thaksin seeks new base to fight enemies.

ทักษิณคนผลัดถิ่นหาที่ปักหลักเพื่อสู้กับศัตรู



ทุกวันนี้ทักษิณยังใช้พาสปอร์ตแดงอยู่ เดินทางไปไหนมาไหนในโลกก็ได้ โดยไม่ต้องมีวีซ่า ไม่ต้องตรวจกระเป๋าด้วย สมชวยไม่เรียกคืนพาสปอร์ตแดงก็เพื่ออำนวยความสะดวกให้พี่เมียต่อไป


ทักษิณบอกว่าตนได้ยกเลิกการขอลี้ภัยในอังกฤษเอง (ซึ่งก็ไม่เกี่ยวกับเหตุผลของการถอนวีซ่าของอังกฤษ คนละประเด็น)

ก็เพราะการอยู่ในสถานะผู้ลี้ภัยทางการเมืองนั้น จะทำให้ทักษิณไม่สามารถมีบทบาททางการเมืองต่อไปได้ และจะไม่สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้โดยสะดวกเหมือนเดิม เพราะจะต้องขออนุญาตทั้งประเทศที่ตนขอลี้ภัย กับประเทศที่ตนจะเดินทางไปด้วยว่าเขาจะอนุญาตรือไม่


ฉะนั้นการที่ทักษิณจะขอยกเลิกการลี้ภัยนั้น ก็เป็นเหตุผลสนับสนุนการกลับมามีบทบาททางการเมืองอย่างเต็มตัวอีกครั้งนั่นเอง

อ่าน มติชน อธิบายเรื่อง พาสปอร์ตแดง ระเบียบการออกให้และระเบียบแห่งการยกเลิก

ใหม่เมืองเอก อัปเดทผลบอล

วันเสาร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ทำไมอังกฤษต้องยกเลิกวีซ่าทักษิณ

...................รูปทักษิณกับครอบครัวในวันว่างๆที่ดูมีความสุขที่คฤหาสน์ในอังกฤษ


จากกรณีอังกฤษยกเลิกวีซ่าของทักษิณและพจมานนั้น ก็เพราะอังกฤษอยู่ในภาวะลำบากใจกับการที่ทางไทยต้องการขอให้อังกฤษส่งผู้ร้ายข้ามแดนอย่างทักษิณกลับให้ไทย อังกฤษกำลังพิจารณาว่าควรหรือไม่ควร

สื่ออังกฤษเองก็ตีข่าวเรื่องคำพิพากษาของศาลไทยที่สั่งจำคุกทักษิณในคดีที่ดินรัชดา และแม้จะยังไม่มีหนังสือเรื่องการส่งตัวทักษิณกลับไทยจากทางอัยการสูงสุดไทยถึงรัฐบาลอังกฤษก็ตาม

นักสิทธิมนุษยชนในอังกฤษก็พูดทำนองว่าการที่อังกฤษจะส่งตัวทักษิณคืนให้ไทยนั้น มันเป็นเรื่องที่หนักใจของรัฐบาลอังกฤษพอสมควร เพราะทักษิณมักอ้างว่า ตัวเองถูกบ่อนทำลายทางการเมืองจากอำนาจเผด็จการ หากศาลอังกฤษไม่กล้าพิจารณาคำขอเรื่องการลี้ภัยของอังกฤษเอง ก็น่าจะส่งเรื่องสู่ศาลสิทธิมนุษชนแห่งยุโรปพิจารณาแทนว่า ควรอนุญาตการขอลี้ภัยของทักษิณหรือไม่

รัฐบาลอังกฤษเองก็ไม่อยากมีปัญหากับรัฐบาลไทย และไม่อยากตัดสินใจผิดว่าควรส่งตัวทักษิณกลับหรือไม่ เพราะหากตัดสินใจถูกก็ดี แต่ถ้าตัดสินใจผิดก็หน้าแตก

ทางอังกฤษเอง ก็คงจะเคยเห็นเว็บที่เกี่ยวกับการโจมตีพลเอกเปรม และคนสนิทของพระราชวงศ์ไทย รวมทั้งเว็บที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพมากมายที่อาจทำโดยผู้ไม่หวังดีต่อสถาบันกษัตริย์ไทยในต่างประเทศทั้งในอังกฤษเอง หรือในอาณานิคมอังกฤษอย่างออสเตรเลีย รวมทั้งในยุโรปและอเมริกา ซึ่งอาจเกิดจากฝีมือคนไทยเอง หรือชาวต่างประเทศที่ไม่ชอบสถาบันกษัตริย์ก็ตาม จึงทำให้ทางการอังกฤษจึงไม่ค่อยแน่ใจกับความจริงที่เกิดขึ้นของทั้งสองฝ่ายว่าควรเชื่อฝ่ายทักษิณหรือจะเชื่อทางการไทยดี ว่าการส่งทักษิณกลับไทยจะเป็นเรื่องที่ถูกต้องหรือไม่
.
และทุกๆเว็บไซด์ที่เข้าข่ายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเฉพาะที่เขียนโดยคนไทยนั้น ต่างมีจุดร่วมเดียวกันอย่างหนึ่ง ก็คือ สนับสนุนทักษิณ ชินวัตร อีกทั้งอังกฤษเองก็เป็นประเทศที่ยังมีสถาบันกษัตริย์ด้วยเช่นกัน


ในเมื่อสบโอกาสอันเหมาะ ทักษิณและพจมานบินออกจากอังกฤษมาฮ่องกงเพื่อจะต่อสายตรงเข้ามาในรายการความจริงวันนี้รวมพลคนเสื้อแดงต่อต้านเผด็จการที่สนามกีฬารัชมังคลาฯเมื่อวันที่1พ.ย.ที่ผ่านมา

ทางการอังกฤษเลยถือโอกาสพบกันครึ่งทางกับปัญหาส่งผู้ร้ายข้ามแดนอย่างทักษิณคืนทางการไทยดีกว่า ว่าจะเอาไงดี สุดท้ายอังกฤษเลยตัดสินใจยกเลิกวีซ่าทักษิณกับพจมานไม่ให้กลับอังกฤษซะเลยก็หมดเรื่อง

เรียกง่ายๆว่า อังกฤษเลยเขี่ยสวะให้พ้นทางไป ไม่อยากเอามาเป็นภาระ และอังกฤษก็คงไม่แถลงเหตุผลของการตัดสินใจในเรื่องการยกเลิกวีซ่าของทักษิณและพจมานด้วย ถ้าหากทักษิณไม่ออกมาแถลงในเรื่องนี้ก่อน ซึ่งทักษิณเองก็อาจไม่กล้าออกมาแถลงก่อนด้วย เพราะกลัวอาย
.
แม้ทักษิณอาจมีหนทางให้กลับอังกฤษได้ด้วยวิธีอื่นๆ แต่ต้องไม่ใช่ทางเครื่องบินแน่ๆ เพราะอังกฤษแจ้งแก่สายการบินทั่วโลกที่บินเข้าอังกฤษว่า ห้ามให้ทักษิณบินเข้าประเทศ ฉะนั้นถ้าอยากกลับจริงก็อย่าไปทางอากาศแล้วกัน
.
ที่ผ่านมารัฐบาลไทยก็ไม่ยอมถอนพาสปอร์ตแดงของทักษิณ และทักษิณเองก็ชอบปล่อยข่าวมาเพื่อซื้อเวลาการถูกถอนพาสปอร์ตแดง ด้วยการปล่อยข่าวมาว่าจะคืนพาสปอร์ตแดงให้ แต่สุดท้ายก็ไม่คืน (ทักษิณเก่งนักกับการปล่อยข่าวประชาสัมพันธ์เพื่อประโยชน์ทางการเมือง ตั้งแต่มีข่าวว่าจะซื้อลิเวอร์พูลเพื่อกลบข่าวร้อนการเมืองในช่วงนั้น และการซื้อคะแนนนิยมจากแฟนบอลชาวไทยเกี่ยวกับการซื้อตัวนักเตะไทยไปแมนฯซิตี้)
.
ที่สำคัญที่สุดคือ การที่รัฐบาลไทยไม่ยอมยกเลิกพาสปอร์ตแดงของทักษิณทั้งๆที่ทักษิณเป็นนักโทษหนีคดี แต่การที่อังกฤษไม่ออกวีซ่าให้ก็อาจไม่จำเป็นเพราะ พาสปอร์ตแดง ไม่จำเป็นต้องใช้ร่วมกับวีซ่า ไม่จำเป็นต้องมีวีซ่า ทักษิณยังสามารถเดินทางเข้าอังกฤษได้อีก แต่คงต้องไม่ใช่ทางเครื่องบิน เพราะสายการบินทุกแห่งคงไม่กล้ารับทักษิณกลับไปอังกฤษเป็นแน่
.
เมื่อก่อนทักษิณเคยชมอังกฤษเป็นหนักหนาว่า อังกฤษคือประเทศที่เป็นประชาธิปไตยมากที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง แต่ตอนนี้อังกฤษปฏิเสธทักษิณแล้ว รัฐบาลไทยเหมือนโดนตบหน้ากลายๆ ในการที่ไม่ยอมถอนพาสปอร์ตแดงของทักษิณ อายเขาไหมล่ะ สมชวย! คนรักเมีย?

ตอนนี้ในเมื่อทักษิณและพจมานกลับอังกฤษไม่ได้แล้วเพราะคงอายเขา(ถ้าหน้าไม่ด้านพอ ไม่ว่าจะมีวิธีอื่นใดให้กลับไปได้ก็ตาม) ก็ต้องตัดสินใจหาที่อยู่ใหม่ ซึ่งตอนนี้ข่าวว่าทักษิณกับพจมานยังอยู่ที่ฮ่องกงหรือจีนก็ตาม แต่คงจะอยู่ที่จีนหรือฮ่องกงนานไม่ได้ เพราะทางการจีนมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับทางการไทยมากกว่าทางการอังกฤษเสียอีก

และที่สำคัญจีนเองก็ไม่ใช่ประเทศประชาธิปไตย จึงไม่จำเป็นต้องเกรงกลัวคำกล่าวหาเรื่องความไม่เป็นประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนมากเท่าอังกฤษ

แม้แต่ข่าวว่าทักษิณจะเดินทางไปฟิลิปปินส์ต่อหรือไม่ก็ตาม ทางการฟิลิปปินส์ก็คงหนักใจไม่น้อยเรื่องทักษิณ เพราะฟิลิปปินส์เองก็เป็นเพื่อนบ้านอาเซียนของไทย ทำให้ทักษิณเองก็น่าจะอยู่ในฟิลิปปินส์ยากเช่นกัน

สงสัยคราวนี้ ทักษิณคงได้ไปอยู่เกาะบาฮามัสหรือประเทศทางแอฟริกาตามคำเชิญของสองประเทศนี้ ที่ให้ทักษิณไปช่วยแก้ปัญหาความยากจนจริงๆ ตามที่ทักษิณคุยอวดไว้แน่ๆเลย ฮ่าๆๆๆ
.
แต่ถ้ายังอยากอยู่ใกล้ๆลิ่วล้อต่อไป ขอแนะนำให้ไปพึ่งเพื่อนสนิทที่ชอบแว้งกัดไทย ที่ชื่อ ไอ้ฮุนเซน เขมรชั่ว ก็แล้วกัน

ส่วนกรณีสมัครที่ถูกพันธมิตรฮุสตันถือป้ายด่าที่สนามบินในอเมริกานั้น แม้จะดูเสียมารยาทมาก และผมเองก็สงสารและคิดว่าพันธมิตรอาจกระทำเกินไปก็ตาม


สมัครถึงกับต้องเขียนจดหมายส่งแฟกซ์ส่งมาระบายความอัดอั้นให้3เกลอแห่งความจริงวันนี้ช่วยตัดพ้อต่อว่าพันธมิตรแทนให้ทีนั้น หากมองอีกแง่หนึ่งในมุมตรงข้ามเลย เราอาจเห็นได้ว่าที่จริงก็พอกันทั้งคู่ประเภท ขิงก็ราข่าก็แรง


แล้วสมัครเองเคยลดราวาศอกกับคนอื่นบ้างมั้ย ด่าเขาไปทั่ว ทั้งนักข่าวและพันธมิตรมามากมายนับไม่ถ้วนเหมือนกันแถมด่าออกทีวีด้วยซ้ำ และหากคำกล่าวหาที่ว่า สมัครไปตกลงกับเขมรเรื่องเขาพระวิหารเป็นการโง่ที่อวดฉลาด จนอาจเป็นเหตุให้เสียดินแดนจริง แค่โดนถือป้ายด่าก็นับว่าน้อยไป ต้องโดนตัดหัวเสียบประจานด้วยซ้ำ ถึงจะสาสม


ที่จริงนักการเมืองไทยส่วนใหญ่มันคบกันไม่ได้จริงๆ เพราะหากมีผลประโยชน์ร่วมกันก็สามารถกลับมาจูบปากกันใหม่ได้ ทั้งๆที่ในอดีตด่ากันแทบไม่ไปเผาปีกันเลย ที่กล่าวมาขอยกตัวอย่างเช่น


สมัคร ที่ถูกศาลตัดสินจำคุกโดยไม่รอลงอาญา ก็เพราะปากพาซวยนี่แหล่ ทั้งกล่าวหา และด่าเขาไว้มาก และทีเคยโดนศาลตัดสินจำคุกคดีหมิ่นประมาทมาแล้วครั้งนึง แต่ได้รอลงอาญาก็เพราะเคยไปหมิ่นประมาทนายบรรหาร ศิงปอาชาไว้ เมือหลายปีก่อน มาคราวนี้ศาลเห็นไม่รู้จักเข็ดหลาบไม่สำนึก เลยสั่งจำคุกคราวนี้โดยไม่รอลงอาญาซะเลย


ส่วนนายวีระ มุสิกพงศ์ ที่เคยติดคุกเพราะคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเมื่อหลายปีก่อนนั้น ทีแรกศาลชั้นต้นตัดสินให้รอดคุกไปแล้ว แต่พอมาศาลอุธรณ์กับศาลฎีกากลับตัดสินสั่งจำคุก หนึ่งในพยานปากสำคัญของคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของนายวีระนั้น


หนึ่งในพยานปากสำคัญนั้นก็คือ นายสมัคร สุนทรเวชนี่แหล่ะ ที่ช่วยส่งให้นายวีระไปนอนคุ ในอดีตนั้นเรียกได้ว่า วีระกับสมัครนี่ก็ด่ากันแทบมองหน้ากันไม่ติดอีกเลยในชาตินี้ แต่พอมาถึงตอนนี้ นายวีระ กลับมาปกป้องนายสมัครเหมือนเป็นญาติผู้ใหญ่ที่เคารพรักนักหนา


คนไทยทุกคนอย่าไปหลงเชื่อนักการเมือง หรือไปหลงรักเทิดทูนคนพวกนี้ให้มากนัก เพราะประเทศไทยที่ล้าหลังจนประเทศอื่นๆเขาจะแซงไปหมด ก็เป็นเพราะนักการเมืองพวกนี้นี่แหล่ะครับ ผลประโยชน์บังหน้าทั้งนั้น

ดู ข่าวของBBC อังกฤษยกเลิกวีซ่าทักษิณ

ดู ภาพการต้อนรับสมัครของพันธมิตรอเมริกา


ใหม่เมืองเอก อัปเดทผลบอล





คนสวยอ่านข่าว




วันนี้อยากจะเอารูปผู้ประกาศข่าวคนสวยของแต่ละช่องมาโพส เพราะผมตัดสินใจไม่ถูกว่าใครสวยกว่าใครกันแน่

ปานระพี นารักสุดๆ

คนแรกคือ ปานระพี รพีพันธ์ สาวสวยหมวยน่ารัก ดูเด็กๆแบบนี้ โธ่!เสียดายแต่งงานไปแล้ว ที่รู้เพราะเคยดูสะเก็ดข่าวตอนนึงที่พิธีกรข่าวช่อง7 ไปแข่งตำส้มตำในห้าง คุณศศินาพูดเองว่า น้องเอิ้นปานระพี ต้องหัดตำไว้ให้คนที่บ้านทาน เพราะเพิ่งแต่งงานได้ไม่นาน เสียดายจังยังดูเด็กอยู่เลยไม่น่ารีบ...! ปานระพีนี่ เป็นอาจารย์สอนคอมพิวเตอร์ระดับอุดมศึกษาเชียวนะ ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ
.
มีคำพูดเดียวที่อยากจะมอบให้คุณปานระพี คือ "สวยจริงโว้ย!!" ผมชอบเธออ่านกับคุณนิลาวัณย์ พานิชย์รุ่งเรือง เพราะดูเหมือนเป็นพี่น้องตระกูลหมวยแสนสวยจริงๆ คนนึงสวยเล็ก คนนึงสวยใหญ่( ฮิๆ)
(ณ.ความเห็นล่าสุดในวันที่24มี.ค.52 ผมได้ดูข่าวช่อง7 ช่วงหลังๆนี้ ผมรู้สึกว่า คุณปานระพี สวยขึ้นกว่าเดิมมาก เธอเป็นประเภทยิ่งแก่ยิ่งสวย (ชมนะครับ) จนในที่สุดผมขอลงความเห็นว่า เธอคือผู้ประกาศที่สวยที่สุดในปัจจุบัน หากบอกแบบไม่เกรงใจ ผมว่าเธอสวยกว่านางเอกช่อง7 เสียอีก)


อัปเดต!!ปัจจุบัน คุณปานระพี ไปนั่งหน้าสวย(แต่เก่งกว่าเดิม) ให้ทีมช่างเสริมสวยช่อง3 แต่งหน้าเธอให้สวยเหมือนตุ๊กตาโดยไม่ซ้ำแบบกันเลยในแต่ละวัน
.


คนต่อมาคือ ศรีสุภางค์ ธรรมาวุธ สวยและแลเรียบร้อยสุขุม ประจำณ.ช่อง7สี เรียนจบนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ เนติบัณฑิต เนติบัณฑิตยสภา ผมชอบเวลาเธออ่านคู่กับปานระพี ดูคนอ่านเพลินครับ ข่าวไว้ทีหลัง


เธอคนนี้ผมดูเธอบ่อยที่สุด ชอบเธอมาตั้งแต่เธอยังไม่ดังเท่าไหร่ อยู่แต่ที่เนชั่น ตอนนี้ใครๆก็รู้จักเธอแล้ว เธอชื่อ จอมขวัญ หลาวเพ็ชร ตลกน่ารัก สดใส เก่งเรื่องการเมือง แต่ยังโสด สวยคมแปลกตาดี โดนกนกจะเขกหัวเรื่อย เพราะชอบแซวกนกแก่

คนนี้สวยมาแต่ITV แต่คนสวยคนนี้ชอบเลี้ยงหมาดุร้อดไวเลอร์ ความสวยก็มาตกก็เรื่องหมานี่แหล่ะ เพราะผมไม่ชอบหมาดุพันธุ์นี้เลยแถมยังเลี้ยงทีเป็นฝูง เธอชื่อ วราภรณ์ สมพงษ์(กระเต็น) ตอนนี้มาดังที่ช่อง3 แล้ว มาก่อนเพื่อนๆเลยนะ ในความเห็นส่วนตัว ผมว่าเธอสวยที่สุดนักข่าวช่อง3
ปัจจุบัน คุณกระเต็นเธอโดน(มีคนรัก)ซะแล้ว เพิ่งแต่งไปไม่กี่ปีนี่แหล่ะ





คนสวยคนต่อไป เธอคนนี้หารูปยากมากเลยในเน็ต ไม่มีเลย มีแค่รูปเดียวเอง เธอสวยมากนะ ตอนเธอยังอยู่ITVยุคแรกๆ กับสุทธิชัย หยุ่น เธอชื่อ ณัฐฐา โกมลวาทินไปเรียนต่อต่างประเทศพอกลับมาอีกครั้งแก่ไปหน่อย แต่ยังสวยเหมือนเดิม จัดอยู่ที่ช่องไทยPBS วันธรรมดาตอน3ทุ่ม เก่งฉลาด พูดอังกฤษเก่ง คนนี้ถ้าอายุน้อยลงสักนิด ผมให้สวยที่หนึ่งเลย




คนนี้น่ารัก บางทีอาจดูไม่ค่อยสวย แต่ยิ่งมองยิ่งงาม เธอชื่อ อุมาพร ธำรงค์วงศ์โสภณ คนสวยจากเนชั่น ใครไม่ได้ดูเนชั่นคงไม่รู้จักเธอ แต่ขอบอกเธอคือหนึ่งในสองที่สวยสุดของเนชั่นแหล่ะ



คนนี้ชือ ปวีณมัย บ่ายคล้อย สวยหมวย หน้าคล้าย มีสุข แจ้งมีสุข อยู่ที่ไทยPBS อพยพมาจากITV รูปนี้สงสัยยังเด็กอยู่ เพราะตอนนี้เธอแก่ขึ้นกว่าเดิม แต่ยังน่ารักเหมือนเดิม คนนี้ในเน็ตก็หารูปยาก

ที่จริงยังเหลืออีกหลายคน แต่หารูปไม่ได้ มีของช่อง5 คนนึงจำชื่อไม่ได้ มีลักยิ้ม หน้าใหม่มาก

ส่วนช่องNBT ที่ชื่อพิชทัฬญ์ ชื่อเล่นน้องไบรท์ เห็นทีแรกก็ชอบเลย หน้าไทยๆน่ารักดี คนนี้หารูปไม่ได้ เสียดาย เพราะเธอสวยติดอันดับต้นๆของผู้ประกาศข่าวเลย
อัปเดตล่าสุด น้องไบร์ทก็ไปอยู่กับเฮียสรยุทธ ในเรื่องเล่าเช้านี้ ทุกวันจันทร์-อังคารแล้วครับ มีหลายคนบอกว่า เมื่อน้องไบรท์มาแล้ว ก็น่าจะให้คุณกุ๊ก กฤติกา อยู่บ้านปรนนิบัติรับใช้สามีไปทุกวันเลยก็ได้ เอิ้กๆๆๆ

สุดท้าย สวยมาก แต่หายไปแล้ว ไม่รู้ยังออกหน้าจอที่ช่องไหนบ้างหรือเปล่า เธอชื่อ รุ่งทิวา กมลนรนารถ เธอสวยหมวยดี เธอเคยอยู่เนชั่น แล้วย้ายมาอ่านข่าวช่องโมเดริ์นไนน์ตอนเช้าอยู่พักนึง ไม่รู้เธอใช่เมียของคนรายงานข่าวเศรษฐกิจที่ช่อง3 ที่ชื่อ บัญชา ชุมชัยเวช หรือเปล่า เพราะวันนั้นเห็นบัญชาไปเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณาชิ้นนึงที่เพิ่งออกอากาศเร็วๆนี้ เห็นแว็บๆว่า เมียของบัญชาหน้าเหมือนรุ่งทิวา กมลนรนารถเปี๊ยบเลย ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ก็เสียดายจริงๆ


แถมด้วย ปู มินดา จากเจาะเกาะติด (ปัจจุบัน ก็ย้ายไปสวยต่อที่ช่อง3ซะแล้ว แต่ก็ยังแวะไปจัดรายการที่เนชั่น อยู่1รายการ)


ใหม่เมืองเอก

คลิกอ่าน เซน เมจกา คนสวยอ่านข่าวที่เสียงหวานที่สุดในปี 2558

คลิกอ่าน จิรชาตา เอี่ยมรัศมี เธอคือ ไทยพีบีเอส

วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ทักษิณไม่ใช่นักประชาธิปไตย





. thaksin is not a champion of democracy.
วันที่4ต.ค.51ผมดูรายงานการเลือกตั้งของสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่เช้าจากทุกช่อง เผอิญไปเจอจักรภพ เพ็ญแขมาออกช่องNBT มาวิเคราะห์การเมืองในอเมริกา


มีอยู่ช่วงหนึ่ง จักรภพ พูดถึงการที่เดโมแครตจะได้ทั้งตำแหน่งประธานาธิบดี และจะได้เสียงทั้งข้างมากในวุฒิสภาและในสภาผู้แทนราษฎร จักรภพได้พูดอยู่ตอนนึงว่า


การที่ประธานาธิบดีมีเสียงข้างมากจากสภาสูงและสภาล่างพร้อมกันในคราวเดียว ก็อาจจะเป็นไปได้ว่า ผู้นำก็อาจจะเหลิงในอำนาจได้ แต่สหรัฐฯก็มีการตรวจสอบที่เข้มแข็งจากศาล และคนอเมริกันก็มีความรู้ความเข้าใจที่ถุกต้องของระบอบประชาธิปไตยที่ต้องมีคุณธรรมและสปิริตนำหน้า


ผมได้ยินตรงนี้ก็อดคิดไม่ได้ว่า ประเทศไทยก็เคยมีผู้นำที่ได้เสียงข้างมากเด็ดขาดในสภามาแล้ว ก็คือในสมัยทักษิณเป็นนายกฯรอบสอง ซึ่งผมเองก็เป็นเสียงหนึ่งที่ได้เลือกพรรคไทยรักไทยให้ได้เสียงข้างมากเช่นกัน


ทักษิณได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งไปมาก มากกว่า370เสียง สามารถตั้งพรรครัฐบาลพรรคเดียวได้ ผมเองก็ดีใจและสมน้ำหน้าพรรคคู่แข่งอย่างประชาธิปปัตย์ ที่แพ้ไทยรักไทยราบคาบ


แต่ทักษิณก็ไม่ได้เป็นนายกฯที่ดีตามที่ประชาชนจำนวนมากได้หวังไว้ เพราะทักษิณใช้เสียงข้างมากของตัวเอง ออกกฏหมายเอื้อประโยชน์ให้กับธุรกิจของตัวเองหลายอย่าง
.
โดยเฉพาะที่สำคัญที่สุดคือการแก้กฏหมายเกี่ยวกับการถือหุ้นของชาวต่างชาติในธุรกิจโทรคมนาคมมากถึง49%(แถมต่างชาติยังไปถือหุ้นส่วนใหญ่ในนอมินี่ไทยคือบ.กุหลาบแก้วอีก) ซึ่งแต่เดิมได้แค่เพียง25% เพื่อที่ตัวเองจะได้ขายหุ้นชินฯของครอบครัวตัวเองได้ และขายในทันทีหลังกฏหมายมีผลบังคับใช้


รายละเอียดผมไม่อยากกล่าวไว้ตรงนี้ซ้ำอีก เพราะเคยเขียนไว้ในบทความเก่าๆบ้างแล้ว


การได้เสียงข้างมาก แล้วจะทำอะไรตามอำเภอใจนั้นเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง


1.ทักษิณไม่เคารพวิธีการตรวจสอบในสภา พอฝ่ายค้านจะอภิปรายไต่ถามถึงเรื่องการขายหุ้นโดยไม่เสียภาษี หรือการซุกหุ้น การตั้งบริษัทนอมินีบังหน้าในการถือหุ้นชินของครอบครัวทักษิณ ทักษิณทั้งๆที่มีเสียงข้างมากในสภา แต่ก็กลับกลัวการตรวจสอบของฝ่ายค้าน ทักษิณตัดสินใจยุบสภาก่อนการเปิดอภิปรายในสภาเพียงไม่กี่วัน จนเป็นเหตุให้มีการชุมนุมประท้วงขับไล่ทักษิณนอกสภาโดยกลุ่มพันธมิตรเกิดขึ้น


ทักษิณ จัดให้มีการเลือกตั้งอย่างไม่โปร่งใส มีการจัดตั้งและจ้างพรรคเล็กที่ไม่เป็นที่รู้จักมาลงแข่งขันเลือกตั้ง จนในที่สุดศาลก็ได้ตัดสินว่า การเลือกตั้งครั้งนั้นต้องเป็นโมฆะ(ศาลตัดสินก่อนมีการปฏิวัติคมช.ฉะนั้นจะอ้างว่าศาลถูกอิทธิพลเผด็จการแทรกแซงไม่ได้)

สรุปข้อแรกก็คือ ทักษิณไม่ยอมรับอำนาจการตรวจสอบจากฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งเป็นสถาบันหลักหนึ่งของระบอบประชาธิปไตย

2.ทักษิณไม่ยอมรับคำตัดสินของศาลในคดีที่ดินรัชดา โดยอ้างว่าศาลได้ถูกอิทธิพลเผด็จการแทรกแซง หรือศาลรับใช้เผด็จการ ซึ่งเป็นการอ้างแบบชุ่ยๆ ปราศจากข้อเท็จจริงและที่สำคัญเผด็จการคนสำคัญก็ได้เกษียณไปหมดแล้ว
.เหี้ยทักษิณ
และคดีที่ดินนั้นก็ถูกตรวจสอบมาก่อนจะมีเผด็จการคมช.ด้วยซ่ำ คดีก็ตัดสินโดยใช้กฎหมายรัฐธรรมนูญปี40 และกฏหมายปปช.ปี42 ด้วย ไม่ใช่กฏหมายรัฐธรรมนูญปี50 ด้วยซ้ำ ที่สำคัญกฏหมายมันมีมาก่อนอยู่แล้ว แต่ทำไมถึงยังคิดจะฝ่าฝืนกฏหมายอยู่อีก

สรุปในข้อสองก็คือ ทักษิณไม่ยอมรับอำนาจทางตุลาการ ซึ่งก็คือสถาบันหลักหนึ่งในระบอบประชาธิปไตย



เพราะในระบอบประชาธิปไตยมีอยู่3สถาบัน คือ

1.อำนาจบริหาร โดยรัฐบาล

2.อำนาจนิติบัญญัติโดยวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร

3.อำนาจตุลาการ โดยศาล ซึ่งศาลทุกคนต้องผ่านการถวายสัตย์ปฏิญาณต่อหน้าในหลวง และได้รับการโปรดเกล้าแต่งตั้งจากในหลวงทุกคน

ทักษิณยอมรับแต่เสียงข้างมากที่สนับสนุนตัวเอง แต่ไม่ยอมรับอำนาจที่เหลือของระบอบประชาธิปไตยอีกสองอำนาจที่มี การเชื่อแค่ว่าประชาธิปไตยคือเสียงข้างมากเท่านั้นคือ ความหลงผิดเรื่องประชาธิปไตย!!
.
ฝ่ายสนับสนุนทักษิณ ชอบอ้างแต่เสียงข้างมากจากประชาชน ที่จริงคะแนนเลือกตั้งครั้งล่าสุดปี50 พรรคพลังประชาชนก็ไม่ได้รับเสียงข้างมากพรรคเดียวเหมือนสมัยทักษิณเป็นนายกฯรอบสองในนามพรรคไทยรักไทย
.
อย่าเป็นประชาธิปไตยที่มีแต่เสียงข้างมากแต่ไร้คุณธรรม มิเช่นนั้นจะเป็นแค่ พวกมากลากไป ได้เท่านั้น

คะแนนพรรคพลังประชาชนนอมินีของทักษิณหายไปไหนตั้งเยอะ ก็หายไปจากคนชั้นกลางในกรุงเทพฯที่รู้ทันทักษิณและพวกพ้องน่ะสิ แม้คนกรุงเทพฯไม่ใช่คนส่วนใหญ่ของประเทศ แต่เราต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า

คนกรุงเทพฯ ไม่ได้ถูกอิทธิพลมืดต่างๆครอบงำได้ง่ายแน่ๆ เพราะการเข้าถึงแหล่งข้อมูลข่าวสารต่างๆของคนกรุงเทพฯนั้นเข้าถึงได้ง่ายกว่าและมีมากกว่า

คนกรุงเทพฯไม่ได้ยึดติดพรรคใดพรรคหนึ่ง คนกรุงเทพฯไม่ยึดติดตัวบุคคล ฉะนั้นเสียงของคนกรุงเทพฯจึงเป็นเสียงที่น่าเชื่อถือที่สุด คนกรุงเทพฯส่วนใหญ่เลือกทีผลงานและความถูกต้องเป็นสำคัญ

แน่นอน การให้ความรู้ และการศึกษาแก่ประชาชนเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เราคงต้องยอมรับว่า คนกรุงเทพฯมีโอกาสทางการศึกษามากกว่าคนต่างจังหวัด และไม่ใช่เรื่องของความฉลาดกว่าหรือโง่กว่า ไม่มีใครโง่หรือฉลาดกว่ากัน มันต่างกันแค่สภาพแวดล้อมและโอกาสเท่านั้น

การที่ผมเขียนบล้อคนี้ขึ้นมา ก็เพราะอยากจะเป็นส่วนหนึ่งที่ได้ให้ข้อมูลแก่คุณผู้อ่านทั้งหลายที่ผ่านเข้ามา อยากจะให้ทุกคนรู้จักประชาธิปไตยที่ถูกต้อง ผมไม่เห็นด้วยกับพันธมิตรในหลายๆเรื่อง ผมจึงไม่ใช่พันธมิตรแน่นอน (ลิ้มจะโดนด่า จำลองจะตายก็ช่างหัวมัน) และผมก็เคยสนับสนุนทักษิณมาถึงสองสมัย และเคยชื่นชมนายกฯทักษิณมาก

ทักษิณอาจเป็นนายกฯที่เก่งที่สุดเท่าที่ประเทศไทยเคยมี หากทักษิณไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวและพรรคพวกมากไป ทักษิณจึงเป็นคนที่ทำลายความหวังที่คนกรุงเทพฯอย่างผม ผิดหวังมากๆ

คนเก่งๆ มีชื่อเสียงของพรรคไทยรักไทย ที่รู้ความจริงของทักษิณหลายๆคน ก็หนีออกจากพรรคไทยรักไทย และไม่มาร่วมกับพรรพลังประชาชนอีกด้วย เพราะอะไร? ก็เพราะอำนาจและผลประโยชน์ของชาติสำคัญประโยชน์ส่วนตัวไงล่ะ คนหนึ่งที่อยากยกตัวอย่างก็คือ ดร.ปุระชัย ที่เป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งพรรคไทยรักไทยมา ก็ยังต้องขอฉากหลบความเป็นทักษิณเลย

ฉะนั้น บทสรุปของบทความนี้ ผมอยากบอกว่า คนไทยหากอยากให้ชาติไม่แตกแยก อยากให้ชาติเจริญอย่างมีคุณธรรม ก็ต้องเลือกคนที่มีคุณธรรมมาปกครอง ใครเก่งแต่ขาดคุณธรรม ก็จะมีสภาพเหมือนทักษิณนี่เอง

ทุกวันนี้คนไทยกลับยอมรับคนโกงได้ถ้าเก่งถ้าช่วยให้ปากท้องอิ่มได้ ซึ่งเป็นความคิดที่บ่อนทำลายจริยธรรมของคนไทยมากๆ ตอนนี้เราอาจได้ประโยชน์จากที่เขาหว่านให้ แต่อีกไม่นานความหายนะต้องมาถึงแน่นอน

หากเราไม่ชอบให้มีข้าราชการโกงกินรับเงินใต้โต๊ะเพื่ออำนวยความสะดวกให้เราเวลาติดต่อราชการ หรือไม่ชอบที่ข้าราชการรับสินบนเพื่อให้ประโยชน์สัมปทานแก่พ่อค้า

หากเราไม่ชอบตำรวจรีดไถเราเพื่อช่วยเรื่องคดี

ฉะนั้นเราก็ไม่ควรเห็นแก่ผลประโยชน์ที่นักการเมืองให้ เพราะเขาก็ต้องการเข้าไปหาผลประโยชน์กับประเทศด้วยเช่นกัน โกงกินชาติบาปมหันต์
.
"ในบ้านเมืองมีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครจะทำให้คนทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปรกติสุขเรียบร้อยจึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดีให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้...."
พระบรมราโชวาท ในพิธีเปิดงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ณ ค่ายลูกเสือวชิราวุธจังหวัดชลบุรี 11 ธันวาคม 2512
.
หากคุณนับถือพุทธศาสนา และเชื่อในกฏแห่งกรรม ก็จงอย่ายอมรับคนโกงกินที่ให้ผลประโยชน์แก่คุณ เพราะเท่ากับว่า คุณก็มีส่วนร่วมในบาปของนักการเมืองคนนั้นด้วยเช่นกัน

ใหม่เมืองเอก
.
อ่าน กรณีคดีทักษิณ ที่ดินรัชดา และคดีสมัคร ชิมไปบ่นไป
.
อ่าน คนรักทักษิณมาทางนี้

.วัต.ค.51 My true hi speed internet is low speed very much until now . And has't got a repair.

ผู้ติดตาม