วันศุกร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2551

เตช บุนนาค ลาออกและเรื่องเขาพระวิหาร




นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของคำให้สัมภาษณ์ ของคนดีที่อยู่ไม่ได้อีกหนึ่งคนที่ชื่อนายเตช บุนนาค อดีตปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ที่มารับตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของรัฐบาลสมัคร ต่อจากนายนพดล ปัทมะผู้อื้อฉาวคดีเขาพระวิหาร2
.
นายเตช บุนนาคตั้งใจมาแก้ไขปัญหาที่ดินพิพาทเขาพระวิหาร แต่ก็ยังไม่คืบหน้า แต่ที่นายเตช บุนนาคให้สัมภาษณ์โดยละเอียด กับสุทธิชัย หยุ่นในรายการชีพจรโลกที่ออกอากาศทางโมเดิร์นไนน์คืนวันที่4ก.ย.50 นั้นมีรายละเอียดที่พอจับใจความสำคัญได้ว่า
.
ถูกกดดันจากเรื่องพาสปอร์ตพิเศษของทักษิณ ที่ยังไม่ได้เรียกคืน และไม่มีแนวโน้มจะได้เรียกคืนเนื่องจากนายกฯสมัครดูท่าจะไม่เห็นด้วย และถูกโยนเรื่องไปมา ทำให้นายเตช บุนนาครู้สึกกดดันที่บีบให้ทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และภรรยาของนายเตชก็เครียดไปกับสามีไปด้วยจนเกิดล้มป่วย จึงขอร้องให้นายเตช ลาออกจากตำแหน่งรมต.ต่างประเทศ ทั้งๆที่เพิ่งรับตำแหน่งแค่เพียง 39วันเท่านั้น

ขอเพิ่มเติมเรื่องเขาพระวิหาร



ในปี2543 เขมรบุกรุกเข้ามาก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างในไทยครั้งแรก แต่รัฐบาลนายชวนดันโง่ไปเชิญเขมรมาทำสัญญาว่าจะไม่มีการรุกล้ำและสร้างสิ่งปลูกสร้างใดๆของทั้งสองฝ่าย ก่อนจะมีการเจรจาปักปันเขตแดนให้เสร็จ

.

แบบนี้ก็เท่ากับว่า รัฐบาลไทยโดยนายชวนไปยอมรับเสียเองแล้วว่า พื้นที่4ุ.6ตร.กม. ไม่ใช่พื้นที่ไทยแท้ๆต่อไปอีกแล้ว ทั้งๆที่ หลังมติศาลโลก พื้นที่นี้เป็นของไทยเกือบ40ปี เขมรก็ยอมรับมาโดยตลอด ทำให้พื้นที่4.6ตร.กม.เดิมที่เป็นของไทยแท้ๆ กลายเป็ยพื้นที่ทับซ้อนไปเสียฉิบ!!


ต่อมาในปี2544 เขมรก็บุกรุกเข้ามามาอีก นายวิษณุ เครืองามเลขาธิการคณะรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้รายงานแก่นายกฯทักษิณ เรื่องที่กองกำลังสุรนารีต้องการความเห็นชอบที่จะผลักดันชาวเขมร2ครอบครัว ที่บุกรุกเข้ามาในเขตแดนไทยเชิงเขาพระวิหาร แต่นายกฯทักษิณห้ามๆไว้เพราะเกรงกระทบความสัมพันธ์ และคิดจะสร้างเป็นแหล่งท่องเที่ยวค้าขายให้เขมรเเละคนไทยเช่าขายของ
.

ต่อมาปี2546 ทหารเขมรรื้อรั้วของไทยบนบันไดนาคของเขาพระวิหาร ที่ถูกสร้างมาตั้งแต่ปี2505 ตามมติคณะรัฐมนตรีในขณะนั้น ที่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลโลก ที่ตัดสินให้เขมรได้เฉพาะตัวปราสาทไปเท่านั้น แล้วเขมรก็ย้ายรั้วของตัวเองมาที่ตีนเขาแทน และเก็บเงินคนไทยตั้งแต่ตีนเขา ส่วนชาวเขมรที่บุกรุกตั้งบ้านเรือนก็เพิ่มจาก2หลังมาเป็นกว่า500หลังคาเรือน แถมยังสร้างถนนและวัดเขมรอีกด้วย

ต่อมาปี 2551นายนพดล ปัทมะ ได้ปลดอธิบดีกรมสนธิสัญญาคนเก่า และประธานมรดกโลกของไทยที่อยู่ในตำแหน่งนี้มากว่า25ปีออก (เพราะ2คนนี้คัดค้านการขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกฝ่ายเดียวของเขมร) เพียงไม่กี่วันก่อนไปลงนามร่วมกับเขมร เพื่อยอมให้เขมรขึ้นทะเบียนได้เพียงฝ่ายเดียว
.

ทุกวันนี้พื้นที่ตีนเขาพระวิหาร ซึ่งน่าจะเป็นของไทยมาตั้งแต่ปี2505 ก็กลายเป็นพื้นที่ยึดครองของชาวเขมรไปแล้ว จากที่เคยเรียกว่าแผ่นดินไทย ก็กลับกลายว่าไปเรียกพื้นที่ทับซ้อนแทน ซึ่งคำว่าพื้นที่ทับซ้อนนี้เป็นคำพูดเพียงฝ่ายเดียวของนายนพดล ปัทมะและรัฐบาลสมัคร แต่ทางเขมรเขาไม่เคยใช้คำนี้เลย เขาเรียกไปแล้วว่าแผ่นดินเขมร

และณ .วันนี้เขมรก็ยังไม่เคยเจรจากับไทยเรื่องการย้ายชาวบ้านและสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่พิพาทเลย ทั้งๆที่มีข้อตกลงร่วมกันว่าจะไม่มีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างใดๆในพื้นที่พิพาทอีกในปี2543 แถมยังกล่าวหาว่าทหารไทยบุกรุกแผ่นดินเขมรเสียด้วยซ้ำ นายเตช บุนนาค เข้ามาก็ทำได้แค่เพียงเจรจาให้ลดกำลังทหารทั้งสองฝ่าย และจะไม่ใช้ความรุนแรงเข้าหากันเท่านั้น
.

หากไทยต้องเสียดินแดนเชิงเขาพระวิหารไปจริง ก็มีความสุ่มเสี่ยงว่าจะเสียดินแดนไทยส่วนอื่นด้วย เพราะเขมรจะอ้างแผนที่เดียวกันกับที่อ้างจนได้ที่ดินเชิงเขาพระวิหาร ซึ่งก็คือแผนที่ที่ฝรั่งเศสทำไว้

ทั้งหมดนี้หากในสมัยทักษิณตั้งแต่ปี2544 ถึง2549 ไม่ปล่อยปละละเลย เรื่องก็อาจจะไม่บานปลายขนาดนี้
.

บทความเกี่ยวเนื่องกันที่ สมัครเอ๋ยผู้รักและซื่อสัตย์นาย


คลิกดูสุทธิชัยหยุ่นสัมภาษณ์ละเอียด

อ่านเรื่อง เขมรชั่วตอน 1

newakecity

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ถ้าแสดงความเห็นตรงช่องนี้ผมจะได้อ่านทุกความเห็นครับ แต่ถ้าความเห็นไม่ขึ้นอาจเพราะระบบรอตรวจสแปม ต้องรอ1-2วัน / ใหม่ เมืองเอก kaeake@ymail.com


ผู้ติดตาม