วันอาทิตย์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ข้อคิด เมื่อแฟนหรือคนรักตายจากไป




เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศที่มีสถิติอุบัติเหตุทางรถยนต์สูงมากที่สุดเป็นอันดับสองของโลก จึงมีคนที่ต้องตายก่อนวัยอันควรเป็นจำนวนมาก

รวมถึงโรคภัยที่เกิดจากปัญหาสิ่งแวดล้อมและอาหารการกินอันก่อให้เกิดโรคมะเร็ง ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้มีคนไทยที่ตายก่อนวัยอันควรเช่นกัน

ดังนั้นจึงมีแฟนหรือคนรักของใคร ๆ หลาย ๆ คน ที่ต้องตายจากกันเป็นจำนวนมากตามไปด้วย

บทความนี้มีชื่อว่า "ข้อคิด เมื่อแฟนหรือคนรักตายจากไป" ผมจะเน้นเนื้อหาเฉพาะแฟนหรือคนรักกันที่ยังไม่แต่งงานกันไม่ได้เป็นผัวเมียกันเป็นสำคัญนะครับ

ส่วนกรณีสามีหรือภรรยาที่ตายจากกัน ก็จะเป็นประเด็นรอง

โดยบทความจะเน้นไปที่ฝ่ายผู้หญิงที่เป็นฝ่ายสูญเสียคนรักไป เป็นหลัก เพราะผู้หญิงมักจะเป็นฝ่ายยึดมั่นในความรัก และมักปิดกั้นความรักครั้งใหม่ที่จะเกิดในอนาคต

ส่วนฝ่ายชายที่สูญเสียแฟนหรือคนรักไป ไม่ค่อยมีปัญหาในการเปิดใจใหม่เท่าไหร่

------------

คือพอดีผมได้ดูคลิปรายการวู้ดดี้ ได้ไปสัมภาษณ์คุณจุ๊บ แฟนสาวของดีเจโจ้ อัครพล ดีเจชื่อดังที่เสียชีวิตจากโรคมะเร็งเมื่อร่วม ๆ 10 ปีที่ผ่านมา

ดีเจโจ้จีบคุณจุ๊บ ตั้งแต่คุณจุ๊บ อายุแค่ 16 ปีเท่านั้น โดยในตอนนั้นดีเจโจ้อายุ 28 ปี ซึ่งในตอนแรกคุณจุ๊บ บอกว่ายังไม่ได้ชอบดีเจในทันทีหรอก เพราะหน้าตาไม่ถูกสเปค

แต่เพราะความจริงใจ และความสม่ำเสมอของดีเจโจ้ จึงทำให้คุณจุ๊บ รักดีเจโจ้ในที่สุด

และเมื่อดีเจโจ้เสียชีวิตไปแล้วในวัย 34 ปีเมื่อ 10 ปีก่อน คุณจุ๊บก็ยังรักดีเจโจ้มาจนวันนี้ ทั้งยังเก็บรูปและสิ่งของสำคัญส่วนตัวของดีโจ้ไว้ทั้งหมด รวมทั้งรูปถ่ายเก่า ๆ ที่เคยถ่ายกับดีเจโจ้เอาไว้

คุณจุ๊บ ได้บอกว่า ชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป เธอไม่ได้ปิดกั้นที่จะมีใครเข้ามาจีบ ซึ่งก็มีผ่านเข้ามาเรื่อย ๆ แต่เมื่อคนที่มาจีบมาเห็นรูปที่คุณจุ๊บถ่ายคู่กับดีเจโจ้ ผู้ชายที่มาจีบก็มักจะถามว่า เคยเป็นแฟนของดีโจ้เหรอ?

คุณจุ๊บ ก็บอกโดยไม่ปิดบังว่า ใช่ เธอเป็นแฟนดีเจโจ้ และรักดีเจโจ้ที่สุด ไม่มีใครมาแทนดีเจโจ้ได้ ซึ่งถ้าใครรับได้ก็แล้วไป แต่ถ้าใครรับไม่ได้ก็ไม่ควรคบกัน




จากการดูคลิปรายการสัมภาษณ์คุณจุ๊บ ผมคาดว่า ณ ตอนที่สัมภาษณ์เมื่อปี 2558 คุณจุ๊บคงยังไม่มีแฟนหรือคนรักใหม่

สาเหตุบางประการที่อาจจะมีส่วนทำให้ผู้ชายที่เข้ามาจีบคุณจุ๊บต้องเลิกราไป อาจเพราะเขาคงทำใจรับไม่ได้ที่คุณจุ๊บ บอกว่า เธอยังรักดีเจโจ้มากที่สุด และจะไม่มีใครมาแทนที่ดีเจโจ้ได้ตลอดไป


ส่วนคำแนะนำในเรื่องนี้ของผม สำหรับผู้ชายที่คิดจะมาจีบคุณจุ๊บในอนาคต

การที่คุณจุ๊บ บอกว่า เธอยังรักดีเจโจ้มากที่สุด และไม่มีใครแทนที่ดีเจโจ้ได้นั้น

ผมอยากจะบอกว่า ความรักที่มีต่อคนรักที่ตายจากไปแล้ว มันจะยังคงอยู่ในใจเธอเสมอและตลอดไปแน่นอน เพียงแต่ว่า มันไม่ได้แปลว่า เธอจะรักใครใหม่อีกไม่ได้ หรือไม่ได้แปลว่า เธอจะรักผู้ชายคนใหม่ให้มากที่สุดอีกไม่ได้

แน่นอนคงไม่มีใครมาแทนที่ใครได้หรอกครับ รักครั้งใหม่ไม่อาจแทนที่รักครั้งเก่าได้ เพราะมันคนละคนกัน ก็ย่อมแตกต่างกัน แต่ไม่ใช่ว่า เธอจะรักใครหมดหัวใจแบบคุณโจ้อีกไม่ได้

เพียงแต่ความรู้สึกดี ๆ ความทรงจำดี ๆ ความรักที่คุณจุ๊บยังมีให้แก่ดีเจโจ้นั้น มันยังคงอยู่ในใจเธอไปตลอดเท่านั้นเอง

ดังนั้นผู้ชายที่คิดจะมาจีบคุณจุ๊บ จึงควรเข้าใจเธอ เห็นใจเธอให้มาก และต้องใจกว้างครับ ถึงจะเรียกว่า รักเธออย่างจริงใจเช่นกัน

โดยให้ลองคิดในมุมกลับกัน ด้วยหลักใจเขาใจเรา เช่น ถ้าคุณมีแฟนสาวที่คุณรักมากที่สุดตายจากไปก่อนวัยอันควร คุณก็คงจะรักเธอตลอดไปเช่นเดียวกันจริงไหม และมันก็จะเป็นความรักที่เก็บอยู่ในความทรงจำดี ๆ ของคุณตลอดไปจริงไหม

แต่ชีวิตคนเราต้องดำเนินต่อไป การจะไปจมอยู่กับความรักกับคนที่ตายไปแล้วนั้นไม่ผิด แต่ก็ไม่ควรถึงกับปิดกั้นความรักครั้งใหม่ที่อาจทำให้ชีวิตของคุณมีความสุขยิ่งขึ้นไปในอนาคตก็เป็นได้

"เพราะรักแท้ไม่ได้จะมีได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้นครับ" คำกล่าวนี้คือความจริง เชื่อผม !!

เพียงแต่ว่า รักแท้อันเดิมก็ยังคงอยู่ต่อไป แต่อาจแปรเปลี่ยนไปเป็นกัลยาณมิตรที่ดีต่อกัน ไม่ใช่รักแบบหญิงกับชายแบบเดิมอีก

ผมจึงมีข้อแนะนำสำหรับใครก็ตามที่สูญเสียคนรักไปก่อนวัยอันควร แล้วได้พบเจอรักครั้งใหม่ ควรทำตามคำคมนี้ครับ



ถ้าตามหลักการเวียนว่ายตายเกิด ผู้ที่เสียชีวิตไปแล้ว แปลว่า เขาสิ้นบุญและสิ้นเวรกรรมในชาตินี้ไปแล้ว และเขาก็จะไปเกิดหรือจุติในภพภูมิใหม่ในทันที เขาไม่ได้รับรู้อะไรอีกแล้วในชาติที่ผ่านมา เพราะมันจบไปแล้ว

ดังนั้นคนที่ยังมีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน ก็ควรให้ความสำคัญกับคนรักที่ยังมีชีวิตอยู่ด้วยกันในปัจจุบันจะดีกว่า

หากเราทำให้คนรักในปัจจุบันเสียใจ ก็เท่ากับก่อบาปกรรมต่อกัน แต่ถ้าเราทำให้คนรักในปัจจุบันสุขใจ ก็เท่ากับก่อกุศลกรรมต่อกัน

"ทำดีต่อคนที่ยังอยู่ ย่อมดีกว่าทำดีกับคนที่ตายไปแล้ว"

ส่วนหลักศาสนาพุทธ ก็สอนให้เราอยู่กับปัจจุบัน ไม่ใช่จมอยู่กับอดีต

ปล่อยวางความรักในอดีต ก็แค่วางลง ไม่ยึดติดเท่านั้น แต่ความรักก็ยังคงอยู่ตลอดไป

-----------------------

บังเอิญผมไปเจอกระทู้ดี ๆ ที่พันทิพ มีคนตั้งกระทู้ว่า

"ถ้าแฟน/สามี/คนรัก เสียชีวิต คุณจะมีคนใหม่หรือไม่คะ? หรือว่า จะไม่มีใครอีกเลยตลอดชีวิตคะ? อยากรู้ความเห็นค่ะ"

http://pantip.com/topic/33869084

กระทู้นี้มีคนตอบได้ดีมาก ๆ อยู่หลายความเห็น

ก่อนอื่น ผมขอแยกแยะความหมายของคำภาษาไทยให้ชัดนะครับ เพื่อไม่ให้สับสนในการสื่อสารอย่างชัดเจนในบทความ

แฟน ควรหมายถึง คนรักที่ยังไม่เคยมีอะไรกัน ไม่ได้อยู่กินกัน ไม่ได้แต่งงานกัน

ผัว หรือ เมีย ควรหมายถึง ได้เสียกันแล้ว

สามี หรือ ภรรยา หมายถึง แต่งงานจดทะเบียนสมรสได้เสียกันแล้ว

คือ คนไทยมักเรียกคำว่า แฟน กันจนงง จนสับสนว่า ตกลงยังเป็นแค่แฟน หรือ เป็นผัวเมีย หรือ เป็นสามีภรรยา กันแน่ เพราะชอบใช้คำว่า แฟน แบบเหมารวมจนงงในสถานะไปหมด


มีความเห็นในกระทู้นี้ ถ้าในกรณียังเป็นแค่แฟนเท่านั้น ยังไม่เคยได้เสียมีอะไรกัน ผมชอบความเห็นที่ 57 มากที่สุด เพราะได้เขียนไว้ว่า

"แฟนดิฉันก็เพิ่งตายคะ ถามว่าต้องการรักเขาตลอดไป ดิฉันขอตอบว่า ใช่คะ จะรักเขาตลอดไป เขาจะอยู่ในหัวใจ เป็นความทรงจำที่สวยงาม แต่ดิฉันยังมีชีวิตคะ ยังมีรัก โลภ โกรธ หลงคะ ยังมีความต้องการ แต่ ถ้าจะมี ก็ขอคนที่ดีกว่า แฟนเก่า หรือ ผู้ชายที่สามารถทำให้ดิฉันรักได้หมดใจอีกครั้งคะ แต่ถ้าอยู่คนเดียวได้ ไม่ตาย ก็อยู่ไปคะ ใช้ชีวิตและทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ และ ปล่อยไปตามความรู้สึก อย่าปิดกั้น มีความสุขกับปัจจุบัน ที่สำคัญอย่าจมปลักกับสิ่งที่ผ่านไปแล้ว พอ!"


ส่วนในกรณีที่เป็นผัวเมีย สามีภรรยา ผัวเมียได้เสียกันแล้ว อยู่กินกันแล้ว ผมชอบอยู่ 2 ความเห็น คือ ความเห็นที่ 3 และความเห็นที่ 4

ความเห็นที่ 3 เขียนไว้ว่า

"ความคิดส่วนตัวนะคะ ถ้าสามี/แฟน/คนรัก ถ้าอยู่กินด้วยกันแล้ว เกิดเสียชีวิต
คิดว่าคงไม่มีแล้วละค่ะ เพราะตอนที่เลือกคนนี้ คิดที่จะหยุดกับคนนี้ ก็ไม่อยากมีอีกแล้วละค่ะ (โลกส่วนไปไหมค่ะ)
คงแล้วแต่คนด้วยค่ะ ถ้ารักคนนี้จริงๆ ก็ไม่มีแล้วละค่ะ ถึงแม้จะมีคนดีแค่ไหนเข้ามา อยากทำให้ตัวเองมีค่าบ้างค่ะ
ไม่ใช่ผ่านมาแล้วผ่านไป ไม่อยากเสียตัวหลายครั้งค่ะ
ความเห็นส่วนตัวนะค่ะ ขึ้นอยู่กับคนแต่ละคนด้วยละค่ะ"


ความเห็นที่ 4 เขียนไว้ว่า

"ต้องดูปัจจัยหลักๆหลายข้อค่ะ
1.อายุของเราตอนนั้นมากรึยัง ถ้าแก่ชนิดเลข 5 ขึ้น คงไม่สนใครแล้วค่ะ
2.มีลูกมั้ย ถ้ามี จะสาวแค่ไหนคงไม่มองใครค่ะ คนอื่นเขาไม่มีทางมารักลูกเราเท่าเรา ตัดปัญหาเลยจบ ไหนจะที่อีกฝ่ายมาตะขิดตะขวงใจหรือหาประโยชน์จากเราอีก
3.ถ้าอายุไม่มากและยังไม่มีลูก ก็คงอาจจะแค่คบเป็นแฟนค่ะ คงไม่แต่งงานเป็นทางการอีกรอบแน่"

-----------------

ยกตัวอย่างกรณี แจ็ค กับ โรส ในไททานิค




ผมอยากยกกรณีตัวอย่างจากภาพยนตร์เรื่อง ไททานิค เวอร์ชัน แจ็ค กับ โรส

แจ็ค กับ โรส มีรักแท้ที่จริงใจต่อกัน แต่ก่อนที่ แจ็ค จะเสียชีวิตนั้น

แจ็ค ได้บอกกับโรส เพื่อให้โรสสัญญากับเขาว่า "คุณจะเอาชีวิตรอดเพื่อผม คุณจะไม่ยอมแพ้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่ว่าจะสิ้นหวังอย่างไร”

โรส จึงต่อสู้เพื่อมีชีวิตอยู่รอด และเธอก็ได้มีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขไปจนถึงอายุ 101 ปี แม้เธอจะแต่งงานมีสามีมีลูก แต่โรสก็ไม่เคยเลิกรักแจ็ค แจ็คยังคงเป็นความรักที่แท้จริงของโรสตราบจนโรสสิ้นลมหายใจ

โรส เธอมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขเพื่อแจ็ค นี่แหละที่เรียกว่า การมีชีวิตอยู่อย่างมีคุณค่าและมีความสุขเพื่อคนที่รักเรา แม้เขาจะตายจากไปแล้ว

เพราะรักแท้ย่อมปรารถนาให้คนที่เรารักมีความสุข ไม่ใช่มัวแต่จมอยู่กับความทุกข์จากการสูญเสียคนรักไปตลอดชีวิต


(ส่วนคำว่า รักเดียวใจเดียว มักใช้ในกรณี คนที่แต่งงานกันแล้ว จดทะเบียนกันแล้ว หรืออยู่กินกันเป็นผัวเมียกันแล้ว ส่วนกรณียังเป็นแค่แฟนกันเท่านั้น ไม่จำเป็นถึงขนาดนั้นหรอกครับ แต่ควรคบเป็นคนๆ ไป)

------------------

บทเพลงของคนที่สูญเสียคนรักตายไปก่อนวันอันควรชอบฟังเป็นอันดับ 1



เท่าที่ผมรู้นะ คนที่สูญเสียคนรักไป ไม่ว่าจะเป็นแฟน หรือ สามี ที่ยังรักกันอยู่ แต่ต้องมาตายจากกัน มักชอบฟังเพลง "รักเธอทั้งหมดของหัวใจ" มากที่สุด

แต่ผมว่า เพลงนี้ออกแนวเศร้ามากไปหน่อย แม้เพลงจะไพเราะมากก็ตาม แต่ดูเหมือนจะทำให้คนฟังมักจมอยู่กับอารมณ์เศร้ามากไป จนถึงขั้นอาจคิดอยากจะตายตามคนรักไปเลยก็ได้

ถ้าให้ผมแนะนำเพลงนะ ผมว่า ถ้าอยากจะฟังเพลงที่แนว ๆ เดียวกัน เนื้อหาใกล้ ๆ เคียงกันนี้ แต่ดูจะมีความสุขมากกว่าเศร้า ฟังแล้วรู้สึกซาบซึ้งดี แนะนำว่าควรฟังเพลงนี้ดีกว่าครับ

เพลง "เธอจะอยู่ในใจฉันตลอดไป" วงแคลช



บทความของผมขอจบลงเท่านี้ หวังว่า ผู้ที่สูญเสียแฟนที่รักไปก่อนวัยอันควร คงจะได้ข้อคิดดี ๆ บ้างไม่มากก็น้อยนะครับ

คลิกอ่าน กฎแห่งความรัก บุพเพสันนิวาสตามหลักพุทธศาสนา




ผู้ติดตาม