อ่านขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารสำเร็จเพราะนพดล
.
อ่านจับผิดคำพูดนพดล
.
อ่านความจริงในพื้นที่4.6ตร.กม.รอบเขาพระวิหาร (ควรอ่านบทนี้ก่อนอ่านบทความหน้านี้เพื่อความเข้าใจมากขึ้น)
.
.
กรณีพื้นที่4.6ตร.กม.รอบเขาพระวิหาร ผมรู้สึกสลดใจที่สุดน้ำตามันตกใน เพราะคนไทยแทนที่จะรวมกันให้เกิดพลัง แต่กลายเป็นว่า คนไทยทะเลาะกันเอง ทำลายน้ำใจกันเอง ที่น่าเสียใจที่สุดคือใช้วิธีการรุนแรงทำร้ายคนไทยกันเอง ผมคงไม่ต้องเท้าความถึงเรื่องที่ดิน4.6ตร.กม. เพราะเขียนไปแล้วหลายครั้ง
ก่อนอื่นผมขอย้ำอีกครั้งว่า ผมไม่ใช่กลุ่มพันธมิตร แต่กรณีพื้นที่รอบเขาพระวิหาร ผมเห็นด้วยกับคุณวีระ สมความคิดเต็มที่ครับ
หน้าที่ของคนไทยที่สำคัญที่สุดคือ ต้องรู้จักปกป้อง คุ้มครอง รักษาแผ่นดินเกิด หากเกิดมาที่ใดก็ต้องรู้สึกหวงแหนแผ่นดินเกิดนั้นๆเป็นพิเศษ เช่นหากใครเกิดในจังหวัดใดก็ต้องปกป้องรักษาจังหวัดนั้นๆเป็นอันดับแรก เมื่อปกป้องจังหวัดของตนเองได้แล้ว ก็ต้องปกป้องประเทศของตนเองเป็นหน้าที่ต่อไป
เช่นคนเกิดใกล้ป่าก็ต้องปกป้องอนรักษ์ป่า คนเกิดใกล้แม้น้ำก็ต้องปกป้องอนุรักษ์แม่น้ำ คนเกิดใกล้คลองก็ต้องปกป้องอนุรักษ์คลอง เกิดที่ใดก็มีหน้าที่ปกป้องแตกต่างกันไปตามลักษณะภูมิประเทศที่ตนอยู่ ตนเกิด ตนอาศัย
หากคนเกิดใกล้ป่าพบการตัดไม้ทำลายป่า หากไปต่อสู้พวกตัดไม่ทำลายป่าเองไม่ได้ ก็ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับป่าไม่ให้รับรู้เพื่อจะได้จัดการแทน หรือหากเกิดใกล้ชายแดนก็ต้องเป็นหูเป็นตาแทนเจ้าหน้าที่ว่ามีการกระทำผิดกฏหมายระหว่างประเทศหรือไม่ เช่นการขนส่งยาเสพติดเป็นต้น
หรือถ้ามีการต่างชาติรุกล้ำแผ่นดินเข้ามปลูกสร้างถิ่นฐานบ้านเรือนในจังหวัดตามชายแดนใด คนไทยที่เกิดที่นั่นก็ต้องหน้าที่มีจิตสำนึกปกป้องแผ่นดืนที่ตนเกิด โดยแจ้งเจ้าหน้าที่ให้จัดการ ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่จัดการก็ต้องแจ้งรัฐบาลให้จัดการ ถ้าทั้งเจ้าหน้าที่ไม่จัดการ รัฐบาลไม่จัดการ ในฐานะประชาชนก็ต้องออกมาชุมนุมเรียกร้องกดดันให้รัฐบาลจัดการ เป็นต้น
.
ทำเท่าที่เราจะทำได้ แต่ปัญหาของประเทศไทยก็คือคนไทยไม่รู้จักทำหน้าที่
.
กรณีพื้นที่4.6ตร.กม.รอบเขาพระวิหาร เมื่อคนในพื้นที่ไม่รู้สึกในหน้าที่ที่ต้องปกป้อง ไม่ออกมาเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้จัดการ ไม่บอกทหารให้จัดการ ไม่บอกรัฐบาลให้จัดการตามหน้าที่ๆควรทำ ทั้งๆที่มันเป็นหน้าที่ๆถูกต้องในการผลักดันชาวต่างชาติที่เข้ามาโดยไม่ถูกต้องออกไป แต่ไม่มีใครทำหน้าที่เลย ปล่อยคาราคาซังละเลยกันไปหมด
จนคนไทยจากที่อื่นเขาทนไม่ได้ เพราะมันยืดเยื้อจนกลายเป็นปัญหาแก้ยากไปแล้ว เขาออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลทำ ให้เวลารัฐบาลจัดการหรือให้เวลารัฐบาลดำเนินนโยบายอะไรบ้างเพื่อจะทวงคืนแผ่นดืนไทยคืนมา
แต่รัฐบาลกลับนิ่งเฉย จนเขาต้องออกไปประกาศเชิงสัญลักษณ์ที่ผามออีแดง และผามออีแดงของเป็นอุทยานแห่งชาติที่ใครๆก็ท่องเที่ยวได้ง่ายดายมาตลอด เขาไปผามออีแดงที่เป็นแผ่นดินไทยแท้ๆ ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่พิพาท4.6สักหน่อย แต่ก็มีคนไทยบางคนออกมาดักทำร้ายเขา ทั้งๆที่เขามาทำหน้าที่ของคนไทยรักชาติแท้ๆแทนคนในพื้นที่ที่ละเลยหน้าที่คนไทย
แถมคนในพื้นที่ออกมาอ้างแบบเห็นแก่ตัวว่า คนที่มาเรียกร้องแผ่นดินไม่ได้อยู่ที่นั่น มาสร้างเรื่องให้วุ่นวายจนอาจทำให้เกิดสงคราม แล้วตัวเองก็กลับบ้านไปสบาย แต่คนที่อยู่ที่นั่นกลับต้องมาเดือดร้อนแทน ทำมาหากินลำบาก เพราะหากเกิดการยิงกัน หรือแม้กระทั่งเกิดสงครามก็จะทำให้คนที่อยู่ที่นั่นเดือดร้อนจนถึงขั้นบาดเจ็บล้มตาย
การอ้างแบบนี้ก็อาจจะฟังดูดีนะ แต่กลับเป็นการมองแบบคนที่รักตัวกลัวตายมากกว่ารักชาติรักแผ่นดิน ผมกลับเห็นว่า คนที่เกิดที่นั่นสมควรน่าละอายใจมากกว่าใคร เพราะอุตส่าห์เกิดมาทั้งทีตรงแผ่นดินนั้นแต่กลับเสียชาติเกิด เพราะทุกคนที่นั่นมีหน้าที่ปกป้องแผ่นดินตรงนั้น แต่กลับไม่รู้สึกรักและหวงแหนแผ่นดิน กลับรักตัวกลัวตายมากกว่า จนคนที่อื่นเขาทนไม่ไหวต้องมาเตือนมาเรียกร้องปกป้องแผ่นดืนแทนคนที่เกิดตรงนั้นแท้ๆ
อยากจะถามว่าคนที่นั่นว่า เขมรเข้ามาสร้างถิ่นฐานได้เข้ามานานแล้วใช่มั้ย ไม่ใช่ว่าเพิ่งจะเกิดแค่ไม่กี่วัน แต่ทำไมไม่มีใครคิดจะปกป้องแผ่นดินเกิด
ถ้าคนจากที่อื่นเขาคิดแบบสบายๆรักตัวเองมากกว่ารักชาติรักแผ่นดิน คนที่อื่นๆเขาก็ไม่ต้องไปปกป้องแผ่นดินศรีสะเกษตรงนั้นก็ได้ เพราะถ้าเขมรมันรุกมาที่ศรีสะเกษเรื่อยๆ คนที่กรุงเทพฯ หรือคนที่จังหวัดอื่นๆที่เขาไม่ได้อยู่ตรงนั้นเขาก็ไม่เดือดร้อน แต่คนที่อื่นเขาอุตส่าห์ลำบากมา ลำบากจากการโดนดักทำร้าย ทั้งๆที่ไม่มีใครอยากจะทำร้ายคนไทยด้วยกันเอง
แต่เพราะความเป็นชาติไทยด้วยกัน ไม่ว่าคนจังหวัดใดก็ไทยทั้งชาติ เขมรมันรุกล้ำศรีสะเกษ คนไทยที่ไหนๆก็เดือดร้อนทั้งนั้น รู้สึกทุกข์ด้วยทั้งนั้น ผมเองไม่เคยไปศรีสะเกษแต่ผมก็รู้สึกรักและหวงแหนศรีสะเกษเหมือนรักกรุงเทพฯบ้านผมเช่นกัน
แต่คนไทยบางคนกลับมาประชดคนไทยที่รักชาติว่า คลั่งชาติบ้าง หรือไม่ก็รักชาติมากนักก็ไปสมัครเป็นทหารไปสู้กับเขมรเลยสิ เอาแต่เรียกร้องอยู่ได้
การประชดประชันแบบนี้เป็นการประชดเชิงทำลายน้ำใจคนไทยแท้ๆ เพราะเมื่อตัวเองไม่ปกป้อง แต่กลับไปเสียดสีคนไทยที่เขารักแผ่นดินให้เสียกำลังใจโดยแท้ แทนที่จะไปด่าเขมรที่รุกราน แต่กลับมาทำลายน้ำใจคนไทยกันเอง
ผมเลยอยากจะตอบคนไทยใจชั่วที่ชอบประชดแบบนี้ว่า หน้าที่ปกป้องแผ่นดินด้วยอาวุธ ด้วยการรบเป็นหน้าที่โดยตรงของทหาร หากเป็นทหารแล้วไม่ทำหน้าที่ก็ควรจะลาออกมาซะ ไม่ใช่เป็นทหารกินเงินเดือนแต่ไม่ทำหน้าที่ (เฉพาะทหารบางคนนะครับ)
แล้วถ้าทหารที่ประจำการอยู่ไม่มีปัญญาทำหน้าที่ ก็ลาออกมา แล้วเปิดรับสมัครคนที่เขาอยากจะทำหน้าที่แทน ผมเชื่อว่า มีคนไทยมากมายที่อยากจะทำหน้าที่ปกป้องชาติอยู่แล้ว เพราะขนาดรับสมัครทหารเกณฑ์ใหม่ที่3จังหวัดใต้ปีที่แล้ว ก็มีคนแห่สมัครกันจนเกินที่จะรับได้
แต่ความจริงมันไม่ง่ายอย่างนั้น เพราะอยู่ดีๆใครที่ไม่ได้ฝึกฝนทางทหารมา อยู่ๆจะไปสู้รบ ย่อมไม่มีทางทำได้ และกองทัพเขาก็ไม่ได้เปิดรับสมัครใครก็ได้ที่อยากไปรบก็จะได้ไปรบทันที มันต้องใช้เวลาในการฝึกฝน มันมีกำหนด มีหลักเกณฑ์มากมาย ทั้งอายุ ทั้งสมรรถภาพ ทั้งเพศ ฯลฯ
อยากจะเป็นทหารปุ๊บ ก็ได้ไปรบปุ๊บ ก็เป็นไปไม่ได้ แล้วถ้าเป็นไปได้จริงๆ คนที่ไม่ได้ฝึกการรบมาจะไปสู้กับข้าศึกศัตรูได้หรือ
การรบมันมีขั้นตอน มีการเรียงลำดับการเรียกใช้กำลังพล โดยเริ่มต้นที่ทหารประจำการอยู่แล้วก็ต้องทำหน้าที่ก่อน หากทหารมีไม่พอก็เป็นหน้าที่ของทหารกองหนุน หากทหารกองหนุนไม่พอ ก็ต้องมาถึงคิวที่ชายไทยวัยฉกรรจ์ทัวไปที่ร่างกายสมบูรณ์ต้องออกมาฝึกฝนการรบอย่างรวดเร็วเพื่ออกไปรบ
หากชายไทยฉรกรรจ์ทั่วไปเกิดไม่พออีก ก็ต้องถึงคิวของผู้ชายที่อายุมากเกิน หรือมีอายุน้อยเกิน เช่นคนวัยกลางคน หรือเด็กวัยรุ่น ต้องออกมารบบ้าง
หากชายวัยกลางคน เด็กหนุ่มวัยรุ่นไม่พอ ก็ต้องถึงคราวผู้หญิงออกรบ มันจะเรียงไปตามลำดับความสำคัญรองลงไปเรื่อยๆ หากถึงคราวจำเป็น
ฉะนั้นใครก็ตามที่ชอบประชดชุ่ยๆว่า รักชาติก็ไปสมัครเป็นทหารออกไปรบสิ อย่าได้พูดพล่อยๆอีก เพราะหากใครที่รักชาติต้องไปเป็นทหารทั้งหมด งั้นคนที่ไม่ได้เป็นทหารหมายถึงไม่รักชาติงั้นหรือ!?!
และในความเป็นจริงจากปากทหารในพื้นที่เอง ตัวทหารเองบอกว่าอยากจะผลักดันเขมรให้ออกไปทันที แต่วินัยทหารมันทำอย่างนั้นไม่ได้ เพราะต้องรอคำสั่ง แต่รัฐบาลและกองทัพกลับไม่สั่งลงมา เพราะอ้างเจรจาสันติ (แต่เขมรมันอยากสันติด้วยรึ!?!)
ทหารกองกำลังสุรนารีบอกว่าด้วยศักยภาพของทหารไทย ถ้ารัฐบาลมีคำสั่งลงมาให้ผลักดันจริงๆ ไม่เกินครึ่งวัน ทหารไทยสามารถผลักดันให้เขมรออกไปได้
แล้วทำไมรัฐบาลถึงไม่สั่ง?
ก็เพราะการเมืองไทยมันแย่ ประชาชนไทยก็มาแตกแยกกันเอง ไม่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน หากรัฐบาลสั่งทหารลุย ก็กลัวจะโดนเกมการเมืองเล่นงาน
แต่หากคนไทยมีจิตวิญญาณปกป้องชาติอย่างพร้อมเพรียงกัน ร่วมกันกดกันรัฐบาลอย่างมีพลัง ไม่มามัวด่าทอกัน หรือประชดเสียดสีคนไทยด้วยกันเอง
รัฐบาลเองก็ไม่อาจทนต่อกระแสประชาชนกดดันได้แน่นอน แต่ตอนนี้คนไทยรักชาติไปเรียกร้องให้รัฐบาลจัดการ แต่ดันมีคนไทยด้วยกันเองแท้ๆมาทำร้ายมาด่าทอประชดกันเองนี่สิ น่าเศร้าใจ
ฮุนเซ็นมันเห็นคนไทยกำลังแตกแยก มันก็เลยได้ทีกร่าง ได้ทีใส่ไฟคนไทยให้แตกแยกมากขึ้น ทั้งๆที่กองทัพเขมรมันไม่อะไรเทียบกับกองทัพไทยได้เลย และประวัติศาสตร์ไทยที่ผ่านมา เขมรมันก็แพ้ไทยและเป็นเมืองขึ้นของไทยมาตลอดบรรพบุรุษของมันนั่นแหล่ะครับ
เลิกแบ่งสีแบ่งพวกโดยเฉพาะเรื่องปกป้องแผ่นดิน คนไทยรวมใจกันเป็นหนึ่งได้เมื่อใด เขมรมันก็จะปอดแหกไปเอง เชื่อผมเถอะ หรืออย่างน้อยถ้าใครไม่เห็นด้วยก็อย่ามาทำลายกันเอง
แค่ไทยเราต้องการจะรบจริงๆ เขมรมันจะเลิกกร่างทันที หรือถ้ารบกันจริง เขมรนั่นแหล่ะที่จะมาขอเจรจาหย่าศึกกับเราโดยดี เพราะมันสู้เราไม่ได้แน่นอน ผมเคยอ่านรายละเอียดศักยภาพอาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพเขมร บอกตามตรงอนาถาครับ เพราะฮุนเซ็นมันแดกประเทศ กองทัพเขมรเลยมีแต่อาวุธที่ได้จากบริจาคจากต่างชาติซะเยอะ ไทยเราก็เคยบริจาคให้
(แต่ตอนนี้เขมรมันเริ่มจะยอมจ่ายเงินซื้ออาวุธมากขึ้น เพราะฮุนเซ็นมันอ้างว่า หามาเพื่อเตรียมรบกับไทย แต่มันก็คงแดกไปเยอะเช่นเดิม คลิกอ่านข่าวนี้)
หากถึงคราวจำเป็น หากเพื่อเป็นการปกป้องแผ่นดืนไทย ในฐานะประชาชนไทย ก็ต้องยอมลำบากเพื่อให้ทหารได้ทำหน้าที่ปกป้องชาติได้อย่างเต็มกำลัง ไม่ใช่มัวแต่กลัวแค่ตัวเองความลำบาก ใครมันจะรุกรานแผ่นดินก็ช่างมัน ขอตัวกู ลูกเมียกู ไม่เดือดร้อนก็พอ หากคิดเช่นนี้กันทั้งหมด ก็รอวันสิ้นชาติสิ้นแผ่นดินได้เลย
เมื่อตอนเขมรมันรบกันเอง คนไทยชายแดนก็ยังทนเดือดร้อนเพราะเขมรมันกัดกันเอง ไทยเราต้องแบกรับคนอพยพเขมรมากแค่ไหน ไทยเรามีพระคุณกับเขมรมากมาย แต่ตอนนี้ประเทศของเรากำลังเดือดร้อนบ้าง แต่คนในพื้นที่กลับไม่จะไม่ยอมเดือดร้อน
ขนาดตั้งประเทศกัมพูชาประชาธิปไตยเป็นประเทศทุกวันนี้ ประเทศไทยก็เป็นประเทศแรกที่กล้าออกมารับรองประเทศให้เขมรมัน จนชาติอื่นๆก็เห็นด้วยตามไทยเรา เพราะไทยเราช่วยเขมรมันตั้งประเทศอย่างเต็มกำลังที่สุด แล้วเป็นยังไงเขมรมันสันดานเดิมอีกแล้ว เขมรมันก็เนรคุณไทยมาตั้งแต่บรรพบุรุษของมันเหมือนเดิม
บรรพบุรุษไทยปกป้องแผ่นดืนด้วยชีวิต แต่ลูกหลานกลับรักตัวกลัวตาย ห่วงสบายจนไม่ปกป้องแผ่นดิน คนพวกนี้ตายไปภพหน้า จะไม่ได้อยู่ในที่ๆสงบสุขแน่อน
จงอย่าคิดว่าจะมีแค่ชาตินี้ชาติเดียว!!
.
.
อ่านประวัติฮุนเซ็น คนขึ้นวอ
.
อ่านไอ้ฮุนเซ็นเขมรชั่ว (1)
.
อ่านไอ้ฮุนเซ็นเขมรชั่ว (2)
.
อ่านไอ้ฮุนเซ็นเขมรชั่ว (3)
.
.
การป้องกันประเทศ ไม่ใช่การก่อสงคราม เพราะการป้องกันประเทศเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของทุกประเทศที่สหประชาชาติรับรอง
ตอบลบหากไปรุกรานเขานี่สิ ถึงเรียกว่าไปก่อสงคราม
หากไทยรบกับเขมรจริง ถ้าเราเชื่อว่าพื้นที่4.6คือพื้นที่ของเรา
ดังนั้นคนที่รุกรานคือเขมร เขมรจึงเป็นผู้ก่อสงคราม ไม่ใช่ไทย
แต่เพราะรัฐไทย ทหารไทยไม่ทำหน้าที่ จนเขมรยึดรองอยู่นาน สุดท้ายเขมรก็เลยโมเมว่าเป็นพื้นที่ของเขมร
เขมรไม่เคยอ้างมากว่า40ปี เพิ่งจะมาอ้างอย่างเต็มปากเต็มคำ หลังไทยไปเซ็นร่วมรับรองให้เขมรขึ้นทะเบียนเขาพระวิหาร
รักชาติรักแผ่นดิน มันแน่นอนอยู่แล้ว แต่ก็ต้องทำมาหาเลี้ยงชีพ ไม่ได้มีเงินเดือนเช่นข้าราชการ เรื่องปกป้องชาติก็มีทหารซึ่งมีนามอันน่ายกย่องว่า รั้วของชาติ ท่านก็ทำหน้าที่ให้สมศักดิ์ศรีของท่าน เราพวกแนวหลังก็จะพยามช่วยเหลือไม่ได้นิ่งนอนใจ ต่างคนต่างมีหน้าที่จะก้าวก่ายกันไม่ได้ จะให้พวกเราไปจับอาวุธอย่างพวกท่านคงไม่ได้ เพราะเราไม่ได้ฝึกมาด้านนี้ พูดเท่านี้คงจะเข้าใจ แต่ได้โปรดเข้าใจด้วยใจว่าปากท้องเป็นเรื่องอันดับแรก ถ้าคนเราไม่ได้รับความสะดวกหรือขาดแคลนจนเกินไป เราจะไม่ปริปากอย่างเด็ดขาด หมายความว่า ภาครัฐอย่าเอาเปรียบประชาชนนัก อย่าทำเหมือนคนจนเป็นศัตรู เราไม่เคยไปยุ่งกับผู้ใด ถ้าท่านรักเราๆก็รักตอบ ขอให้จริงใจต่อกันไม่ใช่แสดงแต่ต่อหน้าพอหันหลังก็เห็นเราเป็นหมาขี้เรื้อน ผมไม่ได้มีเวลาว่างพอที่จะมานั่งพิมพ์ เพียงแต่ให้ลูกสาวพิมพ์ให้ อยากใช้ความคิดบ้างเท่านั้น ส่วนตัวไม่สำคัญอีกไม่นานจะตายวันตายพรุ่ง แต่อดเป็นห่วงลูกๆหลานๆไม่ได้ เพราะคนและบ้านเมืองมันเปลี่ยนไปเรื่อยๆตามยุคตามสมัย พวกเด็กๆมันเรียนรู้ได้เร็ว มันเข้าเน็ทมันก็รู้ไปทั่วโลก แล้วมันก็มาถามแต่คนแก่ในเรื่องที่มันอยากรู้ ตอบมันไม่ได้ไม่รู้เท่ามัน สบายใจหน่อยก็เรื่องยาเสพติด แถวบ้านนี้มันหายไปร่วม10ปี มันอย่างงั้น หมู่บ้านนี้คงสูญพันธ์แน่
ตอบลบเรื่องเขาวิหารอะไรไม่รู้เรื่องกะเค้าหรอก ใครมีหน้าที่ก็ทำไป จะให้ไปตีกับใครไม่ไหวแล้วละพอทีเรื่องฆ่ากันไม่ชอบการฆ่า ได้ยินแล้วมันหดหู่ กฌแปลกนะคนยิ่งมีความรู้ยิ่งชอบทำแต่เรื่องร้ายๆ ยิ่งสูงก็ยิ่งคบยากน่ากลัวแค่เห็นในทีวีไม่ไหวดูไม่ได้ฆ่ากันตายเหมือนหมูหมาไร้คุณค่า เห็นชีวิตเป็นของเล่นไปได้กว่าจะเกิดมาได้เสียข้าวไปตั้งหลายกระสอบ เอาละต้องไปทีขี้เกียจแย่งเด็กเล่น ฝากไว้อีกอย่าง จะให้คนอื่นเขารักเรา เราก็ต้องรักเขาก่อน
ขอบคุณครับสำหรับที่มาร่วมแสดงความคิดเห็น
ตอบลบเรื่องของความคิดเห็นไม่มีใครถูกใครผิดครับ
สำหรับคุณคิดแค่ชาตินี้ ว่าปากท้องสำคัญที่สุด
ขอยกตัวอย่างเกี่ยวกับวิธีคิดของคนญี่ปุ่นนะครับ
แต่หากเป็นคนญี่ปุ่น เขาไม่คิดแค่ชาตินี้ครับ เขาคิดถึงโลกหน้าด้วย
เช่น คุณอาจคิดว่า ถ้าเราตาย ก็แย่สิ ทำไมเราต้องตายคนเดียว
แต่ถ้าเป็นคนญี่ปุ่นเขาเชื่อว่า ชาตินี้ไม่ได้มีแค่ชาติเดียว วันนี้เราตายอย่างสมเกียรติเพื่อชาติ ในโลกหน้าเราก็จะไปพบบรรพบุรุษบนสรวงสวรรค์อย่างสมเกียรติ แม้เกิดใหม่ก็เกิดในที่ๆดีมีเกียรติและศักดิ์ศรี
แม้เกิดมาใหม่ ก็จะได้เกิดมาเป็นคนกล้า และจะได้อยู่ในที่ๆดีกว่าชาติที่ผ่านมา เพราะผลบุญจากการทำหน้าที่โดยสมบูรณ์ คือปกป้องชาติแผ่นดิน (คนญี่ปุ่นเขาจะถือว่าชาติเป็นเจ้านายสูงสุด)
ดูอย่างฮีโร่โรงไฟฟ้ากัมตรังสี เขารู้ว่าไปก็ต้องตาย แต่เขาก็เลือกที่จะไป เพื่อไปทำหน้าที่ของเขาให้สมบูรณ์
ลองเปลี่ยนความคิดใหม่นะครับ ว่าคนเราไม่ได้เกิดแค่ชาตินี้ชาติเดียว
หากคิดได้แบบนี้เมื่อไหร่ เรื่องปากท้องก็จะไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุดครับ
บทความตอนนี้ตอนเดียวคงทำให้คุณมองภาพรวมไม่ออก ลองดูบทความอื่นๆนะครับ ผมมักจะยกกรณีตัวอย่างของความคิดของคนญี่ป่นคนเกาหลีอยู่เสมอในบทความหลายๆตอนครับ
แต่ลองอ่านบทความนี้ซ้ำอีกครั้งนะครับ ว่าผมไม่ได้บอกว่าทุกคนต้องไปรบนะครับ เพียงแต่ทำไปตามบทบาทหน้าที่ของประชาชนที่ควรทำไปตามสถานการณ์และเวลาที่เกิดขึ้น
ขอบคุณครับ