.
อ่านเจ้าหญิงอัตสึ ที่รัก (2)
สิ่งที่ผมประทับใจในซีรีย์เจ้าหญิงอัตสึ นอกจากจะเป็นเรื่องแนวความคิดแบบปรัชญาการดำเนินชีวิตของคนญี่ปุ่นในยุคนั้นแล้ว ในส่วนเล็กๆน้อยๆที่มีอยู่ตลอดเรื่องก็คือ เรื่องมารยาทอันงดงามของคนญี่ปุ่นในสมัยก่อน เช่นการขอบคุณ การขอโทษ การขออภัย หรือจะเป็นวัฒนธรรมการเคารพ การให้เกียรติซึ่งกันและกัน ก็จะมีแทรกให้ได้ศึกษามากมาย
ผมชอบจริงๆกับวัฒนธรรมแบบญี่ปุ่นในยุคนั้น โดยเฉพาะการขอบคุณ การขอโทษ และการเคารพให้เกียรติกัน คนญี่ปุ่นปฏิบัติได้ดีมากจนกลายเป็นวัฒนธรรมที่เด่นมากของชนชาตินี้ ช่างเป็นมารยาทที่งดงามจริงๆ
เพราะคนญี่ปุ่นให้เกียรติผู้อื่นเสมอ จึงทำให้คนญี่ปุ่นจึงรักษาเกียรติของตนเช่นกัน
***********************
ตามประเพณีของเอโดะ เพื่อป้องกันการก่อกบฏจากแคว้นต่างๆต่อโชกุน เจ้าแคว้นต่างๆมักจะถูกเชิญให้ไปพำนักที่เอโดะ
.
ท่านเจ้าแคว้นสัทสุมะก็เช่นกัน ก็ถูกเชิญให้มาพำนักอยู่ที่เอโดะนานแล้ว หากท่านเจ้าแคว้นจะสั่งการกิจธุระใดๆเกี่ยวกับเมืองของตน ก็จะมีคำสั่งให้ลูกน้องหรือเจ้าหน้าที่แคว้นเข้ามาหาที่เอโดะแทน
ต่อมาทางเอโดะคิดอยากให้เปลี่ยนตัวผู้ปกครองแคว้นสัทสุมะใหม่ เพราะท่านเจ้าแคว้นมีเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวเนื่องกับการทำผิดกฏหมายของท่านสุโชหัวหน้าพ่อบ้านแห่งตระกูลท่านเจ้าแคว้น
ในช่วงเดียวกันนั้นเองในแคว้นสัทสุมะ ก็เกิดการก่อจราจลระหว่างกลุ่มที่สนับสนุน "ท่านทาดายุกิ" ลูกชายเมียอนุของท่านเจ้าแคว้นซึ่งเกิดและเติบโตในสัทสุมะ กับกลุ่มที่สนับสนุนลูกชานคนโตของท่านเจ้าแคว้นคือ "ท่านนาริอากิระ"ซึ่งเป็นทายาทที่ถูกต้องตามกฏหมาย แต่ไม่ได้เติบโตในสัทสุมะเพราะเติบโตที่เอโดะ
การจราจลครั้งนั้น ทางกลุ่มของท่านนาริอากิระทายาทตามกฏหมายของท่านเจ้าแคว้นก็เป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ ทำให้ท่านเจ้าแคว้นไม่พอใจเพราะท่านเจ้าแคว้นฟังคำยุยงจากเมียอนุของตน เลยเกิดการเปลี่ยนใจไม่ทำตามประเพณีปฏิบัติ คือการแต่งตั้งตามที่ควรจะเป็นคือให้ทายาทตามกฏหมายของตนป็นผู้สืบทอดตำแหน่งเจ้าแคว้นแทน แต่กลับมาต้องการได้ลูกชายที่เกิดจากเมียอนุ คือท่านทาดายูกิ ให้สืบทอดตำแหน่งแทนตน
ท่านเจ้าแคว้นเลยสั่งลงโทษซามุไรกลุ่มที่สนับสนุนท่านนาริอากิระไปหลายคน เช่นลงโทษสั่งให้ทำฮาราคีรีบ้าง ถูกย้ายไปบ้าง ถูกเนรเทศไปบ้าง ถูกปลดบ้าง ถูกกักบริเวณให้อดอาหารบ้าง เป็นต้น
แต่มีครอบครัวซามุไรที่โดนลงโทษครอบครัวหนึ่งที่ได้สร้างความประทับใจให้ผมมากๆก็คือครอบครัวท่านโอคุโบะ
********************************
ส่วนหนึ่งของความประทับใจในเจ้าหญิงอัตสึ (ต่อจากตอนที่แล้ว)
ครอบครัวของท่านโอคุโบะ เป็นครอบครัวซามุไรระดับต่ำที่โดนลงโทษจากท่านเจ้าแคว้นเพราะสนับสนุนท่านนาริอาคิระ ซึ่งนาโอโกโร่เพื่อนสนิทชายของโอคัตสึ(ชื่อเดิมเจ้าหญิงโอคัตสึ)ได้แนะนำครอบครัวของโอคุโบะให้โอคัตสึรู้
แต่เหตุผลที่นาโอโกโร่บอกกับโอคัตสึ ถึงสาเหตุที่ทำให้นาโอโกโร่ได้ไปคบกับซามุไรระดับตระกูลต่ำกว่าเช่นนี้ ก็คือ
"ข้ารู้สึกสงสารพวกเขามาก ไม่ว่าจะพูดยังไง.. ถึงจะต่างชนชั้นกัน แต่พวกเขาก็เป็นคนดีนะ" นาโอโกโร่
"ยอดจริงๆเลย"
"ข้าน่ะนับถือท่านนักที่มีความคิดแบบนี้" โอคัตสึ กล่าวอย่างยิ้มแย้ม
อ่านเจ้าหญิงอัตสึ ที่รัก (2)
สิ่งที่ผมประทับใจในซีรีย์เจ้าหญิงอัตสึ นอกจากจะเป็นเรื่องแนวความคิดแบบปรัชญาการดำเนินชีวิตของคนญี่ปุ่นในยุคนั้นแล้ว ในส่วนเล็กๆน้อยๆที่มีอยู่ตลอดเรื่องก็คือ เรื่องมารยาทอันงดงามของคนญี่ปุ่นในสมัยก่อน เช่นการขอบคุณ การขอโทษ การขออภัย หรือจะเป็นวัฒนธรรมการเคารพ การให้เกียรติซึ่งกันและกัน ก็จะมีแทรกให้ได้ศึกษามากมาย
ผมชอบจริงๆกับวัฒนธรรมแบบญี่ปุ่นในยุคนั้น โดยเฉพาะการขอบคุณ การขอโทษ และการเคารพให้เกียรติกัน คนญี่ปุ่นปฏิบัติได้ดีมากจนกลายเป็นวัฒนธรรมที่เด่นมากของชนชาตินี้ ช่างเป็นมารยาทที่งดงามจริงๆ
เพราะคนญี่ปุ่นให้เกียรติผู้อื่นเสมอ จึงทำให้คนญี่ปุ่นจึงรักษาเกียรติของตนเช่นกัน
***********************
ตามประเพณีของเอโดะ เพื่อป้องกันการก่อกบฏจากแคว้นต่างๆต่อโชกุน เจ้าแคว้นต่างๆมักจะถูกเชิญให้ไปพำนักที่เอโดะ
.
ท่านเจ้าแคว้นสัทสุมะก็เช่นกัน ก็ถูกเชิญให้มาพำนักอยู่ที่เอโดะนานแล้ว หากท่านเจ้าแคว้นจะสั่งการกิจธุระใดๆเกี่ยวกับเมืองของตน ก็จะมีคำสั่งให้ลูกน้องหรือเจ้าหน้าที่แคว้นเข้ามาหาที่เอโดะแทน
ต่อมาทางเอโดะคิดอยากให้เปลี่ยนตัวผู้ปกครองแคว้นสัทสุมะใหม่ เพราะท่านเจ้าแคว้นมีเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวเนื่องกับการทำผิดกฏหมายของท่านสุโชหัวหน้าพ่อบ้านแห่งตระกูลท่านเจ้าแคว้น
ในช่วงเดียวกันนั้นเองในแคว้นสัทสุมะ ก็เกิดการก่อจราจลระหว่างกลุ่มที่สนับสนุน "ท่านทาดายุกิ" ลูกชายเมียอนุของท่านเจ้าแคว้นซึ่งเกิดและเติบโตในสัทสุมะ กับกลุ่มที่สนับสนุนลูกชานคนโตของท่านเจ้าแคว้นคือ "ท่านนาริอากิระ"ซึ่งเป็นทายาทที่ถูกต้องตามกฏหมาย แต่ไม่ได้เติบโตในสัทสุมะเพราะเติบโตที่เอโดะ
การจราจลครั้งนั้น ทางกลุ่มของท่านนาริอากิระทายาทตามกฏหมายของท่านเจ้าแคว้นก็เป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ ทำให้ท่านเจ้าแคว้นไม่พอใจเพราะท่านเจ้าแคว้นฟังคำยุยงจากเมียอนุของตน เลยเกิดการเปลี่ยนใจไม่ทำตามประเพณีปฏิบัติ คือการแต่งตั้งตามที่ควรจะเป็นคือให้ทายาทตามกฏหมายของตนป็นผู้สืบทอดตำแหน่งเจ้าแคว้นแทน แต่กลับมาต้องการได้ลูกชายที่เกิดจากเมียอนุ คือท่านทาดายูกิ ให้สืบทอดตำแหน่งแทนตน
ท่านเจ้าแคว้นเลยสั่งลงโทษซามุไรกลุ่มที่สนับสนุนท่านนาริอากิระไปหลายคน เช่นลงโทษสั่งให้ทำฮาราคีรีบ้าง ถูกย้ายไปบ้าง ถูกเนรเทศไปบ้าง ถูกปลดบ้าง ถูกกักบริเวณให้อดอาหารบ้าง เป็นต้น
แต่มีครอบครัวซามุไรที่โดนลงโทษครอบครัวหนึ่งที่ได้สร้างความประทับใจให้ผมมากๆก็คือครอบครัวท่านโอคุโบะ
********************************
ส่วนหนึ่งของความประทับใจในเจ้าหญิงอัตสึ (ต่อจากตอนที่แล้ว)
ครอบครัวของท่านโอคุโบะ เป็นครอบครัวซามุไรระดับต่ำที่โดนลงโทษจากท่านเจ้าแคว้นเพราะสนับสนุนท่านนาริอาคิระ ซึ่งนาโอโกโร่เพื่อนสนิทชายของโอคัตสึ(ชื่อเดิมเจ้าหญิงโอคัตสึ)ได้แนะนำครอบครัวของโอคุโบะให้โอคัตสึรู้
แต่เหตุผลที่นาโอโกโร่บอกกับโอคัตสึ ถึงสาเหตุที่ทำให้นาโอโกโร่ได้ไปคบกับซามุไรระดับตระกูลต่ำกว่าเช่นนี้ ก็คือ
"ข้ารู้สึกสงสารพวกเขามาก ไม่ว่าจะพูดยังไง.. ถึงจะต่างชนชั้นกัน แต่พวกเขาก็เป็นคนดีนะ" นาโอโกโร่
"ยอดจริงๆเลย"
"ข้าน่ะนับถือท่านนักที่มีความคิดแบบนี้" โอคัตสึ กล่าวอย่างยิ้มแย้ม
.....................................ท่านโอคุโบะ โชสุเกะ (ตอนไม่มีหนวด)
ท่านโอคุโบะ โชสุเกะ ซามุไรระดับต่ำคนนี้ ถูกท่านเจ้าแคว้นสั่งให้พักงานอยู่ในบ้านและให้อดข้าวอดน้ำ (ผมเดาว่าคงอนุญาตให้ทานน้ำได้บ้างแต่น้อยมากๆเพราะไม่งั้นตายแน่ เพราะถูกลงโทษอยู่นาน)
ส่วนท่านพ่อของท่านโอคุโบะก็โดนเนรเทศไปอยู่เกาะ ทั้งบ้านเลยตกงานกันหมด ครอบครัวเลยยิ่งลำบากยากจน ท่านแม่และน้องสาวของท่านโอคุโบะเลยต้องไปรับจ้างทำงานเล็กๆน้อยๆไปวันๆ
(การลงโทษซามุไรในเรื่องนี้ ผมไม่เห็นมีใครมาคอยตรวจตราเลยว่า อดข้าวอดน้ำจริงหรือเปล่า ผมคิดว่าคงใช้เกียรติของซามุไรเป็นการควบคุมด้วยใจตนเอง เพราะซามุไรเมื่อได้รับคำสั่งให้ต้องลงโทษตัวเอง ก็จะลงโทษตัวเองอย่างซื่อสัตย์ไม่โกหกตนเอง ไม่อายฟ้าดิน)
หลังจากนาโอโกโร่เล่าเรื่องครอบครัวของท่านโอคุโบะให้โอคัตสึฟัง โอคัตสึก็รู้สึกเศร้าตามไปกับความลำบากของครอบครัวท่านโอคุโบะ
"วันนี้ข้าว่าจะเยี่ยมพวกเค้า" นาโอโกโร่กล่าว เท่านั้นเองโอคัตสึก็ยิ้มแย้มขึ้นมาทันใด!
ถูกแล้วครับ โอคัตสึก็แอบหนีพี่เลี้ยงตามนาโอโกโร่ไปเยี่ยมครอบครัวของท่านโอคุโบะ แม้นาโอโกโร่จะไม่อยากให้ไปด้วย แต่ก็ไม่มีทางจะห้ามโอคัตสึได้
การที่ชนชั้นสูงกว่าไปบ้านชนชั้นต่ำกว่าซึ่งยังอยู่ระหว่างการลงโทษนั้น อาจนำมาซึ่งความเดืดร้อนต่อนาโอโกโร่กับโอคัตสึได้ แต่ทั้งสองคนก็ไม่กลัวที่จะไป
ตอนที่โอคัตสึไปถึงบ้านท่านโอคุโบะ ผมประทับใจตรงที่คุณหนูโอคัตสึได้นั่งลงและชิงก้มหัวทักทายให้คนที่บ้านครอบครัวโอคุโบะก่อน อย่างนอบน้อมและยิ้มแย้ม ซึ่งตามธรรมเนียมแล้วชนชั้นสูงกว่าจะไม่ก้มหัวทักทายชนชั้นต่ำกว่าก่อน
เมื่อเห็นโอคัตสึทำแบบนั้น ครอบครัวโอคุโบะก็รีบก้มหัวต่ำกว่าลงไปอีก และรอจนกว่าโอคัตสึจะเงยหัวขึ้นก่อน (ผมล่ะประทับใจธรรมเนียมญี่ปุ่นจริงๆ)
ท่านโอคุโบะ โชสุเกะ ซามุไรระดับต่ำคนนี้ ถูกท่านเจ้าแคว้นสั่งให้พักงานอยู่ในบ้านและให้อดข้าวอดน้ำ (ผมเดาว่าคงอนุญาตให้ทานน้ำได้บ้างแต่น้อยมากๆเพราะไม่งั้นตายแน่ เพราะถูกลงโทษอยู่นาน)
ส่วนท่านพ่อของท่านโอคุโบะก็โดนเนรเทศไปอยู่เกาะ ทั้งบ้านเลยตกงานกันหมด ครอบครัวเลยยิ่งลำบากยากจน ท่านแม่และน้องสาวของท่านโอคุโบะเลยต้องไปรับจ้างทำงานเล็กๆน้อยๆไปวันๆ
(การลงโทษซามุไรในเรื่องนี้ ผมไม่เห็นมีใครมาคอยตรวจตราเลยว่า อดข้าวอดน้ำจริงหรือเปล่า ผมคิดว่าคงใช้เกียรติของซามุไรเป็นการควบคุมด้วยใจตนเอง เพราะซามุไรเมื่อได้รับคำสั่งให้ต้องลงโทษตัวเอง ก็จะลงโทษตัวเองอย่างซื่อสัตย์ไม่โกหกตนเอง ไม่อายฟ้าดิน)
หลังจากนาโอโกโร่เล่าเรื่องครอบครัวของท่านโอคุโบะให้โอคัตสึฟัง โอคัตสึก็รู้สึกเศร้าตามไปกับความลำบากของครอบครัวท่านโอคุโบะ
"วันนี้ข้าว่าจะเยี่ยมพวกเค้า" นาโอโกโร่กล่าว เท่านั้นเองโอคัตสึก็ยิ้มแย้มขึ้นมาทันใด!
ถูกแล้วครับ โอคัตสึก็แอบหนีพี่เลี้ยงตามนาโอโกโร่ไปเยี่ยมครอบครัวของท่านโอคุโบะ แม้นาโอโกโร่จะไม่อยากให้ไปด้วย แต่ก็ไม่มีทางจะห้ามโอคัตสึได้
การที่ชนชั้นสูงกว่าไปบ้านชนชั้นต่ำกว่าซึ่งยังอยู่ระหว่างการลงโทษนั้น อาจนำมาซึ่งความเดืดร้อนต่อนาโอโกโร่กับโอคัตสึได้ แต่ทั้งสองคนก็ไม่กลัวที่จะไป
ตอนที่โอคัตสึไปถึงบ้านท่านโอคุโบะ ผมประทับใจตรงที่คุณหนูโอคัตสึได้นั่งลงและชิงก้มหัวทักทายให้คนที่บ้านครอบครัวโอคุโบะก่อน อย่างนอบน้อมและยิ้มแย้ม ซึ่งตามธรรมเนียมแล้วชนชั้นสูงกว่าจะไม่ก้มหัวทักทายชนชั้นต่ำกว่าก่อน
เมื่อเห็นโอคัตสึทำแบบนั้น ครอบครัวโอคุโบะก็รีบก้มหัวต่ำกว่าลงไปอีก และรอจนกว่าโอคัตสึจะเงยหัวขึ้นก่อน (ผมล่ะประทับใจธรรมเนียมญี่ปุ่นจริงๆ)
ในบ้านครอบครัวโอคุโบะ โดยท่านไซโกเพื่อนท่านโอคุโบะได้ถามไปที่นาโอโกโร่ว่า
"ขออภัย! ทำไมถึงพาท่าน(โอคัตสึ)มาที่บ้านคนต่ำต้อยอย่างเราได้ล่ะ?"
"ก็เขารบเร้าน่ะ" นาโอโกโร่
"ข้าขอร้องให้พามาให้ได้ เพราะอยากจะมาเยี่ยมน่ะจ้ะ " โอคัตสึ
แล้วโอคัตสึก็หันมากล่าวกับแม่ของท่านโอคุโบะ
"ท่านคงลำบากทุกวัน ข้าขออธิษฐานให้ท่านมีกำลังใจเข้มแข็งนะ"
"เจ้าค่ะ" ท่านแม่ของท่านโอคุโบะกล่าวพร้อมกับก้มหัวอย่างต่ำสุด
"นี่ก็เป็นของเล็กๆน้อยๆ เชิญทุกคนลองทานนะ" โอคัตสึหันไปหยิบตะกร้าที่ใส่ปลาราคาแพงจากบ้านที่นำมาฝากด้วยยื่นให้
"ของแบบนี้พวกเรารับไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ"
"ถือว่าเป็นน้ำใจสิ เชิญจ้ะ"
"ถ้าอย่างนั้นก็ขอบพระคุณเจ้าค่ะ ขอบพระคุณมาก" และทุกๆคนก้มหัวคำนับอย่างนอบน้อมที่สุดให้โอคัตสึกันทั้งบ้าน
หลังจากแล่ปลาเป็นชิ้นๆแล้ว ทุกคนในบ้านโอคุโบะก็ยังเกรงใจอยู่ไม่กล้าที่จะทานก่อน โอคัตสึจึงกล่าวเชิญให้ทาน แต่ก็ยังไม่มีใครกล้าเริ่ม ทำให้โอคัตสึต้องกล่าวเชิญทานอีกครั้ง
และโอคัตสึก็ไม่ลืมที่จะตักปลาดิบ1ชิ้นไปให้ท่านโอคุโบะที่กักตัวเองอยู่ในห้องเพราะอยู่ระหว่างการถูกลงโทษ โอคัตสึรู้ว่าท่านโอคุโบะคงจะไม่ทานอาหารง่ายๆ แต่โอคัตสึก็ใช้ปัญญาเล่าเรื่องของท่านพ่อโอคัตสึ จนโอคุโบะยอมทาน
"ขอโทษนะ" โอคัตสึกล่าวเมื่อนั่งอยู่หน้าห้องของท่านโอคุโบะ แล้วจึงค่อยๆเปิดประตูเลื่อนออกอย่างช้าๆ และท่านโอคุโบะรีบก้มหัวเคารพต่อโอคัตสึ โอคัตสึก็ก้มหัวรับอย่างงดงาม
"เชิญจ้ะ" โอคัตสึเลื่อนจากจานปลาดิบเข้าไปในห้อง และเชิญชวนให้ท่านโอคุโบะทานปลา
"ข้าต้องโทษ ต้องอดอยู่ " ท่านโอคุโบะพูด ทั้งๆที่ยังอยู่ในท่าเตรียมก้มหัวเคารพ
"พ่อของข้าเคยโดนลงโทษเเบบนี้เหมือนกัน แต่ว่า... เพื่อรักษากำลังกายกำลังใจให้เข้มแข็ง เขาก็เลยกินทุกอย่างสุดชีวิตเลยนะ เชิญทานซะนะ"
แล้วท่านโอคุโบะก็มองด้วยสายตาซาบซึ้งในความเมตตาของโอคัตสึ แล้วก็ก้มหัวให้อย่างนอบน้อมที่สุด
หลังจากโอคัตสึกลับออกมาจากห้องของท่านโอคุโบะแล้ว นาโอโกโร่ก็รีบกระซิบถามโอคัตสึว่า
"ที่พูดเมื่อกี้น่ะ จริงเหรอ?"
"โกหกน่ะ"
"หา!"
"ถ้าไม่พูดอย่างนั้น เขาคงไม่ยอมทานหรอก ขืนอดจนร่างกายโทรมเดี๋ยวก็เป็นหมันหรอกนะ"
พอโอคัตสึพูดจบ ทุกคนในบ้านท่านโอคุโบะต่างก็ขำกันใหญ่ แล้วทุกคนก็ร่วมกับประทานปลาดิบด้วยกัน
แต่ในความเป็นจริงแล้ว โอคัตสึไม่ได้โกหกท่านโอคุโบะหรอก เพราะท่านพ่อโอคัตสึก็เคยโดนลงโทษแบบนี้จริงๆ ก็เมื่อตอนที่ท่านพ่อกักตัวรอการลงโทษจากท่านเจ้าแคว้นเมื่อครั้งที่ท่านพ่อไม่ยอมเก็บภาษีเพิ่มกับชาวนาตามคำสั่งท่านเจ้าแคว้น
แต่คำสั่งลงโทษอย่างเป็นทางการก็ไม่มาสักที จนร่างกายท่านพ่อเริ่มอ่อนแอมาก คนในบ้านจึงไปพาตัวท่านพ่อออกมาจากการกักตัวลงโทษตัวเองก่อนเป็นการชั่วคราว และก็ให้ท่านพ่อได้กินอาหารตามปกติ
หลังจากนั้นอีกไม่นานนัก ท่านเจ้าแคว้นก็โดนปลดลงจากตำแหน่ง และท่านนาริอาคิระ ก็ได้มาเป็นเจ้าแคว้นสัทสุมะคนใหม่
แม้ท่านนาริอากิระจะมาเป็นเจ้าแคว้นคนใหม่แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้อภัยโทษให้แก่ซามุไรและขุนนางที่ถูกเจ้าแคว้นคนเก่าสั่งลงโทษแต่อย่างใด...
.
*******************************
"
ความประทับใจในครอบครัวท่านโอคูโบะของผมไม่ได้มีเพียงแค่นี้ เพราะความประทับใจที่สำคัญและซาบซึ้งมากๆ จะขอเป็นตอนต่อไปครับ
.
อ่านเจ้าหญิงอัตสึ ที่รัก (4)
.
"ท่านคงลำบากทุกวัน ข้าขออธิษฐานให้ท่านมีกำลังใจเข้มแข็งนะ"
"เจ้าค่ะ" ท่านแม่ของท่านโอคุโบะกล่าวพร้อมกับก้มหัวอย่างต่ำสุด
"นี่ก็เป็นของเล็กๆน้อยๆ เชิญทุกคนลองทานนะ" โอคัตสึหันไปหยิบตะกร้าที่ใส่ปลาราคาแพงจากบ้านที่นำมาฝากด้วยยื่นให้
"ของแบบนี้พวกเรารับไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ"
"ถือว่าเป็นน้ำใจสิ เชิญจ้ะ"
"ถ้าอย่างนั้นก็ขอบพระคุณเจ้าค่ะ ขอบพระคุณมาก" และทุกๆคนก้มหัวคำนับอย่างนอบน้อมที่สุดให้โอคัตสึกันทั้งบ้าน
หลังจากแล่ปลาเป็นชิ้นๆแล้ว ทุกคนในบ้านโอคุโบะก็ยังเกรงใจอยู่ไม่กล้าที่จะทานก่อน โอคัตสึจึงกล่าวเชิญให้ทาน แต่ก็ยังไม่มีใครกล้าเริ่ม ทำให้โอคัตสึต้องกล่าวเชิญทานอีกครั้ง
และโอคัตสึก็ไม่ลืมที่จะตักปลาดิบ1ชิ้นไปให้ท่านโอคุโบะที่กักตัวเองอยู่ในห้องเพราะอยู่ระหว่างการถูกลงโทษ โอคัตสึรู้ว่าท่านโอคุโบะคงจะไม่ทานอาหารง่ายๆ แต่โอคัตสึก็ใช้ปัญญาเล่าเรื่องของท่านพ่อโอคัตสึ จนโอคุโบะยอมทาน
"ขอโทษนะ" โอคัตสึกล่าวเมื่อนั่งอยู่หน้าห้องของท่านโอคุโบะ แล้วจึงค่อยๆเปิดประตูเลื่อนออกอย่างช้าๆ และท่านโอคุโบะรีบก้มหัวเคารพต่อโอคัตสึ โอคัตสึก็ก้มหัวรับอย่างงดงาม
"เชิญจ้ะ" โอคัตสึเลื่อนจากจานปลาดิบเข้าไปในห้อง และเชิญชวนให้ท่านโอคุโบะทานปลา
"ข้าต้องโทษ ต้องอดอยู่ " ท่านโอคุโบะพูด ทั้งๆที่ยังอยู่ในท่าเตรียมก้มหัวเคารพ
"พ่อของข้าเคยโดนลงโทษเเบบนี้เหมือนกัน แต่ว่า... เพื่อรักษากำลังกายกำลังใจให้เข้มแข็ง เขาก็เลยกินทุกอย่างสุดชีวิตเลยนะ เชิญทานซะนะ"
แล้วท่านโอคุโบะก็มองด้วยสายตาซาบซึ้งในความเมตตาของโอคัตสึ แล้วก็ก้มหัวให้อย่างนอบน้อมที่สุด
หลังจากโอคัตสึกลับออกมาจากห้องของท่านโอคุโบะแล้ว นาโอโกโร่ก็รีบกระซิบถามโอคัตสึว่า
"ที่พูดเมื่อกี้น่ะ จริงเหรอ?"
"โกหกน่ะ"
"หา!"
"ถ้าไม่พูดอย่างนั้น เขาคงไม่ยอมทานหรอก ขืนอดจนร่างกายโทรมเดี๋ยวก็เป็นหมันหรอกนะ"
พอโอคัตสึพูดจบ ทุกคนในบ้านท่านโอคุโบะต่างก็ขำกันใหญ่ แล้วทุกคนก็ร่วมกับประทานปลาดิบด้วยกัน
แต่ในความเป็นจริงแล้ว โอคัตสึไม่ได้โกหกท่านโอคุโบะหรอก เพราะท่านพ่อโอคัตสึก็เคยโดนลงโทษแบบนี้จริงๆ ก็เมื่อตอนที่ท่านพ่อกักตัวรอการลงโทษจากท่านเจ้าแคว้นเมื่อครั้งที่ท่านพ่อไม่ยอมเก็บภาษีเพิ่มกับชาวนาตามคำสั่งท่านเจ้าแคว้น
แต่คำสั่งลงโทษอย่างเป็นทางการก็ไม่มาสักที จนร่างกายท่านพ่อเริ่มอ่อนแอมาก คนในบ้านจึงไปพาตัวท่านพ่อออกมาจากการกักตัวลงโทษตัวเองก่อนเป็นการชั่วคราว และก็ให้ท่านพ่อได้กินอาหารตามปกติ
หลังจากนั้นอีกไม่นานนัก ท่านเจ้าแคว้นก็โดนปลดลงจากตำแหน่ง และท่านนาริอาคิระ ก็ได้มาเป็นเจ้าแคว้นสัทสุมะคนใหม่
แม้ท่านนาริอากิระจะมาเป็นเจ้าแคว้นคนใหม่แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้อภัยโทษให้แก่ซามุไรและขุนนางที่ถูกเจ้าแคว้นคนเก่าสั่งลงโทษแต่อย่างใด...
.
*******************************
"
ความประทับใจในครอบครัวท่านโอคูโบะของผมไม่ได้มีเพียงแค่นี้ เพราะความประทับใจที่สำคัญและซาบซึ้งมากๆ จะขอเป็นตอนต่อไปครับ
.
อ่านเจ้าหญิงอัตสึ ที่รัก (4)
.
ประทับใจมาก ไทยน่าจะสร้างหนังแบบนี้บ้างเอาคุณภาพของคนในอนาคต
ตอบลบอีกอย่างหนังดีๆ ทำไมอยู่ดึกอยากให้เด็กๆได้ดู มีอะไรหลายๆอย่างน่าคิด
ยากครับที่ไทยเราจะสร้างละครดีๆแบบนี้
ตอบลบประเทศไทยเรามีละครดีๆเหมือนกัน แต่ยังไงก็ไม่ถึงขั้นนี้แน่นอนครับ
เพราะตั้งแต่ผมเกิดมาจนถึงวันนี้ ไม่เคยเห็นละครไทยดีเท่าละครญี่ปุ่นระดับนี้เลยครับ
แต่ดีที่สุดของไทย คือสี่แผ่นดิน(ทุกเวอร์ชั่น)ครับ ที่ผมชอบที่สุด