วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2552

ความโกรธของผู้ใหญ่ 5

atsuhime 5


อ่านเจ้าหญิงอัตสึ ที่รัก (4)
.
.
ความประทับใจในเจ้าหญิงอัตสึมีอยู่มากมายมีอยู่ในทุกตอน หากจะไม่เอ่ยถึงเลยก็จะเสียดายมาก ผมไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมคนญี่ปุ่นถึงมีระเบียบวินัยมาก และไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนไทยถึงเจริญสู้ญี่ปุ่นไม่ได้ ก็เพราะเรื่องระเบียบวินัยนี่เองที่สร้างให้ญี่ปุ่นเจริญมาก

แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ ความเป็นชาตินิยม ความเห็นแก่ชาติมากกว่าประโยชน์ส่วนตนของคนญี่ปุ่นถูกปลูกฝังมานับพันปี ทำให้คนในชาติมีจิตวิญญาณเดียวกัน มีความสามัคคีกัน พลังศรัทธาในจุดร่วมเดียวกันนี่เองทำให้ญี่ปุ่นเข้มแข็ง ส่วนหนึ่งนั้นมาจากวิถีบูชิโด นั่นเอง

------------

ส่วนหนึ่งของความประทับใจใจเจ้าหญิงอัตสึ (ต่อจากตอนที่แล้ว)



........................................ท่านชิมะสึ นาริอากิระ

เมื่อท่านนาริอาคิระ เจ้าแคว้นสัทสุมะคนใหม่ได้มีโอกาสมาเยี่ยมสัทสุมะครั้งแรกหลังได้รับตำแหน่ง (ปกติต้องพำนักที่เอโดะ) บรรดาขุนนางทั้งที่สนับสนุนท่านนาริอาคิระ และผู้ที่สนับสนุนท่านเจ้าแคว้นคนเก่า ก็มารอรับ ทุกคนคิดว่าวันนี้ท่านนาริอาคิระ น่าจะมีการทำโทษขุนนางฝ่ายตรงข้ามเป็นแน ท่านพ่อของโอคัตสึ(ซึ่งอยู่ฝ่านสนับสนุนท่านนาริอากิระ)ก็เชื่อเช่นนั้น และลุ้นว่าใครบ้างจะถูกลงโทษอย่างหนักจากเหตุจราจลโอยุระที่ผ่านมา

เมื่อท่านนาริอาคิระมาถึงก็กล่าวสุนทรพจน์แถลงนโยบายแก่ขุนนางทั้งหมด แบบที่ทุกคนผิดคาด

"ปัญหายุ่งยากมีอยู่เยอะ ที่ควรจะต้องสะสาง แต่ว่า! .. สิ่งที่ควรคิดกว่าอย่างอื่นก่อน ก็คือประชาชน ถ้าประชาชนเป็นสุข บ้านเมืองก็สงบ ถ้าประชาชนเป็นทุกข์ บ้านเมืองก็ตกต่ำ ถึงกับล่มจม เรื่องที่พึงปฏิบัตืก็คือ การปกครองเพื่อประชาชน จงจำใส่ใจไว้เสมอ"

"ข้าเกิดและโตที่เอโดะ จะไปรู้อะไร คนคิดเช่นนี้ก็มี แต่ว่า เมื่อมองจากข้างนอก ย่อมเห็นสิ่งที่คนในมองไม่เห็น ที่สัทสุมะก็มีเรื่องให้ต้องแก้ไข แต่ที่พวกท่านไม่รู้ก็มี ถ้าทุกท่านร่วมมือกัน เราจะทำได้ทุกสิ่ง ข้ามั่นใจในความคิดเช่นนี้"

"ขอให้พวกเรารวมใจกันเป็นหนึ่งเดียว"

"ขอรับ" ขุนนางทุกคนต่างตอบรับคำสั่ง

ท่านาริอาคิระไม่ได้มีคำสั่งลงโทษขุนนางฝ่ายตรงข้ามแต่อย่างใด ซึ่งท่านพ่อโอคัตสึเมื่อกลับมาถึงบ้าน ก็บ่นให้ท่านแม่ฟังว่า ท่านเจ้าแคว้นกลับไม่ทำสิ่งสำคัญที่ว่าเลย ท่านพ่อโอคัตสึเล่าว่า

"ก่อนอื่นต้องลงโทษคนผิด และยกโทษแก่คนที่ควรให้อภัยซะก่อน ใครๆก็คิดอย่างนี้ แต่ว่าวันนี้ ทุกคนคาดผิดกันหมดเลย"

"อย่างนี้นี่เอง" โอคัตสึก็บังเอิญกำลังจะนำน้ำชามาให้ ก็เผอิญได้ยินที่ท่านพ่อกับท่านแม่คุยกัน เมื่อท่านพ่อหันมาเห็น ก็โดนดุทันที ว่าอย่ายุ่งอย่ามาอยากรู้เรื่องการเมือง

ซึ่งการที่ท่านนาริอาคิระไม่ได้ทำโทษผู้ผิดจากการจราจลต่อต้านตน และไม่อภัยโทษแก่ผู้ที่สนับสนุนตนซึ่งถูกท่านเจ้าแคว้นคนเก่าสั่งลงโทษไว้ ทำให้เกิดการกังขาในใจใครหลายๆคน

ซึ่งหนึ่งในผู้สนับสนุนท่านนาริอาคิระที่รอการอภัยโทษอยู่ ก็คือท่านโอคุโบะที่อยู่ระหว่างถูกลงโทษให้อดอาหาร ส่วนท่านพ่อของท่านโอคุโบะก็ถูกเนรเทศไปอยู่เกาะ

ต่อมาท่านนาริอาคิระได้แสดงผลงานตามนโยบายการปกครองเพื่อประชาชนชิ้นแรกคือ การแทรกแซงตลาดข้าว โดยการนำข้าวจากคลังออกไปขายในราคาถูก ทำให้ราคาข้าวในตลาดลดลงทันที ซึ่งสร้างความพอใจให้แก่ประชาชนมาก

ที่บ้านท่านโอคุโบะ เพื่อนๆท่านโอคุโบะก็มาดื่มฉลองกันกับผลงานช่วยประชาชนของท่านเจ้าแคว้นคนใหม่ด้วย และท่านโอคุโบะก็นั่งดูเพื่อนๆคุยอยู่รอบนอก เพราะยังอยู่ระหว่างการลงโทษ

นาโอโกโร่ก็ให้กำลังใจท่านโอคุโบะว่า อีกไม่นานท่านคงได้รับการอภัยโทษ ท่านพ่อก็คงได้กลับบ้าน ส่วนเพื่อนๆคนอื่นก็มาให้กำลังใจว่า และคนผิดก็จะได้รับการลงโทษ

แต่เมื่อมีการประชุมขุนนางอีกครั้ง ท่านเจ้าแคว้นก็ไม่ได้สั่งการลงโทษแก่ใครเช่นเคย ซ้ำยังไม่ให้การอภัยโทษแก่ใครเช่นกัน แถมยังกำชับให้ทุกคนทำหน้าที่เดิมต่อไป และขอความร่วมมือแก่ขุนนางทุกคนอย่างมิตรไมตรี

หลังจากเลิกประชุม เมื่อท่านพ่อโอคัตสึกลับมาถึงบ้านก็บ่นใหญ่และฉุนเฉียวกว่าเดิม โมโหที่ท่านนาริอากิระไม่ลงโทษคนผิด แถมยังไปพูดดีกับพวกฝ่ายตรงข้ามอีก

ที่บ้านท่านโอคุโบะเมื่อทราบข่าวนี้เช่นกัน เพื่อนๆของท่านโอคุโบะต่างวิพากษ์วิจารณ์อย่างโมโหปนน้อยใจต่อท่านเจ้าแคว้นที่ฝ่ายตนสนับสนุน ในที่สุดก็ลงความเห็นว่า ขอร้องให้นาโอโกโร่ช่วยไปตามสืบเรื่องนี้ที่ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร

แม้นาโอโกโร่จะไม่กล้าไปตามสืบเท่าไหร่ แต่ก็ขัดคำขอร้องของเพื่อนๆซามุไรระดับต่ำกว่าตนเองไม่ได้ เพราะทุกคนคุกเข่าก้มหัวคาราวะขอร้อง

ฝ่ายโอคัตสึก็เช่นกัน โอคัตสึเองอยากรู้ว่าทำไมท่านเจ้าแคว้นไม่ทำในสิ่งที่ควรทำ แต่พอถามท่านพ่อ ก็โดนดุ ถามท่านพี่ก็ไม่เคลียร์ เลยมาปรึกษานาโอโกโร่ ซึ่งนาโอโกโร่ก็กำลังกลุ้มใจเหมือนกันว่า จะสืบยังไงดี

เมื่อนาโอโกโร่ได้พูดคุยกับโอคัตสึในเรื่องนี้แล้ว ก็ได้ความคิดดีๆก็คือ จะไปถามที่อาจารย์คิโยมิชิ อาจารย์ที่เคยสอนทั้งนาโอโกโร่และโอคัตสึ แต่ตอนนี้ไปรับใช้เป็นคนสนิทท่านนาริอากิระแล้ว

ท่านอาจารย์คิโยมิชิ กล่าวว่า

"เรื่องอภัยโทษที่คุยกัน ทำไมท่านถึงไม่ลงโทษคนที่ควรโดน และไม่ยกโทษคนที่ควรยกโทษ

บูชิโดคือวิถีแห่งความซื่อสัตย์ อุทิศชีวิตให้แก่นาย ท่านเชื่ออย่างนั้น มันคือการใช้ชีวิตแสดงความภักดี"

"ท่านเจ้าแคว้นคิดอย่างนั้นหรือขอรับ" นาโอโกโร่ถาม

"อาจารย์เชื่อใจท่านเจ้าแคว้น ขอตอบแค่นี้หล่ะ" ท่านอาจารย์ตอบอย่างสงวนคำ

"แบบนี้ยอมรับไม่ได้เจ้าค่ะ" โอคัตสัแทรกขึ้นมา

"นี่ไม่ใช่เรื่องของผู้หญิง!!" ท่านอาจารย์ดุด้วยเสียงดัง

"อาจารย์ก็พูดเหมือนท่านพ่อเลยน่ะ" โอคัตสึพูดตัดพ้อแบบน่ารักๆ

โอชิคะ น้องสาวของอาจารย์นั่งอยู่ด้วยก็อดหัวเราะในคำพูดและความกล้าของโอคัตสึไม่ได้ (ตรงจุดนี้ขอไว้แคนี้ ดูที่คลิปได้ครับ)




อีกไม่นานจะมีงานเลี้ยงฉลองตำแหน่งเจ้าแคว้น ขุนนางและญาติๆเจ้าแคว้นต้องเข้าคาราวะแสดงความยินดีและแนะนำตัวเองให้ท่านเจ้าแคว้นรู้จักทุกคน ซึ่งทุกตระกูลของขุนนางสำคัญๆ และทุกตระกูลของตระกูลสายรองจากตระกูลหลักคือตระกูลชิมะสึ(ตระกูลเจ้าแคว้น) ก็ต้องร่วมงานนี้ด้วย

ตระกูลของโอคัตสึคือ อิไมสุมิ-ชิมะสึ ก็ต้องไปเช่นกัน

ท่านพ่อทาดาตาเกะ ของโอคัตสึ ก็กลัวจะขายหน้าจากลูกสาวแสนซนคนนี้ ก็เลยเรียกมาอบรมมารยาทก่อนเข้าพบท่านเจ้าแคว้น

*****************************

ในตอนหน้า โอคัตสึจะแสดงความฉลาดและกล้าต่อหน้าท่านเจ้าแคว้นครับ
.
อ่านเจ้าหญิงอัตสึ ที่รัก (6)
.
.

.



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ถ้าแสดงความเห็นตรงช่องนี้ผมจะได้อ่านทุกความเห็นครับ แต่ถ้าความเห็นไม่ขึ้นอาจเพราะระบบรอตรวจสแปม ต้องรอ1-2วัน / ใหม่ เมืองเอก kaeake@ymail.com


ผู้ติดตาม