วันเสาร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2551

ไอ้เขมรชั่ว (3) ฮุนเซน



"มึงมากูมุด มึงหยุดกูแหย่ มึงแย่กูตาม" นี่คือกลยุทธ์การรบของทหารเวียตกง ที่ใช้รบกับอเมริกาในสงครามเวียตนาม ซึงสมรภูมิครั้งนี้อเมริกาเป็นฝ่ายแพ้สงครามต้องถอยทัพกลับ

อเมริกา มีแสนยานุภาพทางทหารเหนือกว่าเวียตนามในทุกด้าน แต่กลับต้องพ่ายแพ้แก่กลยุทธ์การรบของทหารเวียตกง

อเมริกา ระดมเครื่องบินทิ้งระเบิดมากมายเข้าใส่เวียตนาม แต่อเมริกาไม่สามารถรู้ที่ตั้งศูนย์บัญชาการของทหารเวียตกงได้อย่างถูกต้อง เลยทิ้งมั่วสะเปะสะปะ

นั่นเพราะกลยุทธ์ที่เวียตนามใช้นี้คือหนึ่งในรูปแบบการรบแบบกองโจร แต่ที่พิสดารกว่าธรรมดาก็ตรงทหารเวียตกงสามารถหายตัวได้ ทำให้ทหารอเมริกันถึงกับหวาดกลัว บางคนถึงกับเป็นบ้าเพราะความกลัวตาย ไม่รู้ว่าอยู่ดีๆทหารเวียตกงจะโผล่มาฆ่าจากตรงไหน ทหารอเมริกันเกิดความสับสนหวาดกลัว จนไม่เป็นอันกินอันนอน พากันมาตายกันมากขึ้นมากขึ้น สุดท้ายประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน ทนกระแสกดดันจากคนอเมริกันไม่ไหว ประกาศถอนทัพกลับประเทศ

(ภายหลังสงครามคำเฉลยของการหายตัวได้ของทหารเวียตกงก็คือ อุโมงค์ลับใต้ดินแบบหนังจีนนั่นเอง)

ทีนี้กลับมาในกรณีเขมรกับไทย เขมรเริ่มใช้กลยุทธ์เดียวกันกับเวียตนาม แต่เริ่มต้นตรง "มึงหยุดกูแหย่" ก็คือที่เขมรมันเริ่มให้ข่าวใส่ร้ายไทย และขู่ให้ไทยถอนทหาร จนถึงการเปิดฉากยิงใส่กันเมื่อวันที่15ต.ค.ที่ผ่านมา

และพอไทยเริ่มจะตอบโต้ และจะฟ้องมันเรื่องกับระเบิดมันก็มีท่าทีอ่อนลงให้ นี่ก็คือ "มึงมากูมุด"

เชื่อเถอะหากสถานการณ์เกิดเริ่มสงบลง อีกสักพักมันก็จะเริ่มแหย่เราอีก และเมื่อไหร่ที่เราแย่ไม่ว่าจะปัญหาภายในประเทศที่กำลังแตกแยก หรือเราเพรี่ยงพร้ำทางการทูตหรือทางทหารก็ตาม รับรองมันจะไม่มีทางหยุดง่ายแน่ๆ มันจะถล่มเราทุกวิถีทางทั้งทางทูตและทางทหาร จนเราพ่ายแพ้ในที่สุด "มึงแย่กูตาม"

ไทยเรากำลังใจดีกับเขมรมันเกินไป ถ้าเรามั่นใจว่าที่ดินพิพาทตรงนั้นเป็นของเรา เราต้องมีการรุกโดยการประกาศให้มันถอนทหารกลับไปบ้าง แต่เราก็ไม่เคยทำ จนเดี๋ยวนี้นานาประเทศเขาจะไปเชื่อเขมรมันกันหมดแล้ว

ไทยเรามันอ่อน ไม่ละอายต่อบรรพบุรุษของไทยเรากันบ้างหรือไร ทำไมเดี๋ยวนี้เราไม่เป็นที่เกรงขามของใครๆในภูมิภาคนี้อีกแล้ว โดนเพื่อนบ้านมันลบหลู่อยู่เสมอ และสุดท้ายเราก็เสียสิทธิในดินแดนพิพาททุกครั้ง อย่าอ้างเลยว่า เพื่อสันติ และความสงบ ต้องรอให้ผืนดินสิ้นไปก่อนหรือไง

เราขาดผู้นำที่เราจะพึ่งพาได้อย่างแท้จริง มีแต่ผู้นำที่เห็นแก่ประโยชน์ทางธุรกิจ ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม ก็ตาม ผมไม่ได้หมายถึงใคร แต่ผมหมายถึง นักธุรกิจใหญ่ต่างก็กลัวธุรกิจตัวเองจะเสียหายจากสงคราม และอาจไปกดดันนักการเมืองที่ได้รับการอุปถัมป์จากตัวเองอย่าให้มีสงครามเกิดขึ้น จนอาจทำให้ไทยเราต้องเสียดินแดนอีกเรื่อยๆไม่สิ้นสุด

ผมเองก็เกลียดสงครามและก็กลัวด้วย แต่ผมทนไม่ได้หากแผ่นดินไทยแม้แค่เพียงตารางเซ็นต์เดียวก็ตาม ต้องเสียไปให้ชาติอื่น

สำหรับเพื่อนบ้านอย่างเขมร นอกจากสงครามไม่มีหนทางอื่นใดเลยที่จะยุติความขัดแย้งเรื่องพื้นที่พิพาทได้แน่นอน แม้เราจะต้องมีการสูญเสียทางเศรษฐกิจที่เราเคยได้ก็จำเป็นต้องยอม อย่าเห็นแก่เงินมากกว่าแผ่นดิน หนทางเดียวที่ผมเห็นคือ นโยบายแข็งกร้าวกับเขมรเท่านั้น ไม่งั้นมันไม่เข็ด จะเริ่มจากทางการทูตเชิงรุกก่อนก็ได้ ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็ต้องรบเท่านั้น

มันไม่มีทางเลือกแล้วจริงๆ ถ้าเราไม่รบ เราเสียไปแล้วแน่นอน ถ้ารบก็ยังพอมีหวังได้คืน



จงอย่าเชื่อทุกสิ่งทุกคำที่ฮุนเซนพูดหรือรับปาก เพราะมันคือคนคบไม่ได้ ที่พร้อมจะแว้งกัดเราได้เสมอ


อ่านเขมรชั่วตอนที่1

อ่านประวติเขาพระวิหารและมุมมองผู้เชี่ยวชาญ

อ่านเรื่องการบุกรุกพื้นที่เชิงเขา

อ่านกรรมของสีหนุจากไอ้ฮุนเซน

อ่านประวัติ ไอ้ฮุนเซน คนขึ้นวอ .

อ่าน ขำกลิ้ง เมียฮุนเซน

ใหม่เมืองเอก
October 17, 2008 -
PREAH VIHEAR, Cambodia (AP) -- Cambodia's prime minister called Friday for more talks with Thailand after a deadly armed clash raised fears the two neighbors were headed for a full-scale war over a patch of disputed land along their border.
"We can still talk to each other and are not yet enemies unwilling to talk to each other at all," Hun Sen said after a Cabinet meeting in the capital.
Hun Sen, seeking to reassure thousands of Cambodian villagers who have fled their homes near the conflict area, said, "There is no large-scale war occurring."
"I would not call it a war. This was just a minor armed clash," said Hun Sen, a former Khmer Rouge guerrilla fighter.
(CNN more news)
.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ถ้าแสดงความเห็นตรงช่องนี้ผมจะได้อ่านทุกความเห็นครับ แต่ถ้าความเห็นไม่ขึ้นอาจเพราะระบบรอตรวจสแปม ต้องรอ1-2วัน / ใหม่ เมืองเอก kaeake@ymail.com


ผู้ติดตาม