อ่านย้อนบทความเจ้าหญิงอัตสึ ที่รัก(1)
ซีรีย์เรื่อง เจ้าหญิงอัตสึ ผมขอยกย่องให้เป็นซีรีย์ที่ดีที่สุดของเอเซียเรื่องหนึ่งทีเดียว แม้ผมจะชอบซีรีย์เกาหลีย้อนยุคหลายเรื่องมากๆ แต่หากเทียบกับซีรีย์ญี่ปุ่นเรื่องเจ้าหญิงอัตสึนี้ ผมตัดสินใจได้ไม่ยากเย็นเลยว่า ซีรีย์ย้อนยุคเกาหลียังแพ้ซีรีย์ญี่ปุ่นอยู่หลายขุมครับ
.
เจ้าหญิงอัตสึ นอกจากจะแฝงความรู้ด้านวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณีของญี่ปุ่นแล้ว อรรถรสของอารมณ์และจิตวิญญาณแห่งวิถีบูชิโดหรือเรียกง่ายๆอีกอย่างว่าวิถีซามุไรที่ปลูกฝังในสายเลือดคนญี่ปุ่น ก็สอดแทรกปลูกฝังให้คนดูอยู่เสมอแบบเนียนๆ น่าดูน่าชื่นชม
.atsuhime
เรื่องเจ้าหญิงอัตสึ เป็นเรื่องราวในช่วงปลายของระบอบโชกุนตระกูลโทกุกาว่า ซึ่งก็เป็นตระกูลโชกุนที่ทรงอำนาจสามารถปกครองญี่ปุ่นมาอย่างยาวนานติดต่อกันร่วมๆ250ปี เรียกง่ายๆว่าโชกุนเป็นเสมือนนายกรัฐมนตรีมีอำนาจปกครองรัฐบาลสืบทอดอำนาจโดยทายาท ส่วนระบอบจักรพรรดิ์ที่เป็นเพียงประมุขรัฐเท่านั้น ซึ่งมีศูนย์กลางการปกครองอยู่ทีเมืองเอโดะ
.
ในยุคของเจ้าหญิงอัตสึ เป็นช่วงปลายของระบอบโชกุน ซึ่งเป็นช่วงที่ชาติมหาอำนาจตะวันตก กำลังมาคุกคามญี่ปุ่น เพื่อต้องการให้ญี่ปุ่นเปิดประเทศ แต่ญี่ปุ่นเองก็ไม่เชื่อใจพวกมหาอำนาจเหล่านี้นัก เพราะกลัวจะตกเป็นเมืองขึ้นเหมือนชาติอื่นๆในเอเซีย
.
ซีรียืเจ้าหญิงอัตสึจะนำเราไปเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีรับมือกับมหาอำนาจจากตะวันตกของญี่ปุ่น และที่สำคัญที่เราควรรู้ก็คือ ญี่ปุ่นเป็น1ใน2ชาติในเอเซียที่ไม่ตกเป็นเมืองขึ้นของมหาอำนาจตะวันตกเช่นเดียวกับสยามประเทศครับ
.
********************************
.
แม้การแบ่งระบบชนชั้นในสมัยเจ้าหญิงอัตสึยังเข้มแข็งอยู่ ทว่าคุณหนูโอคัตสึ (ชื่อเดิมเจ้าหญิงอัตสึ) กลับไม่หยิ่งทนงตนว่าตนเองเป็นชนชั้นสูง คุณหนูโอคัตสึกลับสามารถคบกับคนได้ทุกชนชั้น ซึ่งก็เป็นคุณสมบัติอย่างหนึ่งของชนชั้นสูงที่มีคุณธรรม เฉกเช่นท่านพ่อและท่านแม่ของโอคัตสึก็มีนิสัยใจคอเช่นนี้เหมือนกัน
.
โอคัตสึ แม้เป็นคุณหนูแห่งตระกูลสูงศักดิ์แต่กลับทะเล้น และตลก สดใสร่าเริง แถมมีจิตใจงดงามความคิดลึกซึ้งนัก ที่สำคัญคือเธอมีความกล้าหาญยิ่งกว่าชายใด!!
..
ซึ่งผิดกับพี่ชายของโอคัตสึที่ดูถูกชนชั้นที่ตำกว่าตนด้วยกิริยาน่าเกียจ และในเรื่อง พี่ชายของโอคัตสึก็แสดงให้คนดูเห็นเช่นกันว่าเป็นคนโง่ที่อวดเก่งและถือตัว ฉะนั้นผู้ใดที่เกิดมาเป็นชนชั้นสูงแต่ดูถูกชนชั้นต่ำกว่ามากเท่าใด ก็ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความโง่เขลาของตัวเองมากเท่านั้น
.
********************************
.
ส่วนหนึ่งของความประทับใจในเจ้าหญิงอัตสึ (ต่อจากตอนที่แล้ว)
"ท่านสุโช" เหรัญญิกหัวหน้าพ่อบ้านแห่งแคว้นสัทสุมะ ผู้ที่เคยมาขอร้องแกมบังคับท่านพ่อของโอคัตสึ เรียกเก็บภาษีเพิ่มจากชาวนาตามแผนปฏิรูป หากไม่ทำตามท่านพ่อของโอคัตสึก็จะโดนทำโทษเช่นกัน แต่เมื่อชาวนาในสังกัดท่านพ่อเดือดร้อนมาก ท่านพ่อเลยตัดสินใจฝ่าฝืนคำสั่งของท่านเจ้าแคว้นซึ่งผ่านมาทางท่านสุโช
.
ท่านพ่อของโอคัตสึ จึงเตรียมตัวรอรับการลงโทษ ซึ่งอาจหมายถึงโดนปลดจากตำแหน่งและบรรดาศักดิ์ชนชั้นสูง ทรัพย์สินถูกริบ หรืออาจต้องยอมเสียสละชีวิตเพื่อรับในความผิดจากการฝ่าฝืนคำสั่งของท่านเจ้าแคว้น
.ท่านพ่อของโอคัตสึจึงเข้าไปเก็บตัวในห้อง อดอาหาร รอรับโทษที่กำลังจะมาถึง ส่วนท่านแม่ก็สั่งสอนลูกๆและคนในบ้านทุกคนว่า "ให้ทุกคนยอมรับโทษอย่างสำรวม !!"
โอคัตสึ ทนเห็นความทุกข์ของท่านพ่อไม่ได้ เลยตัดสินใจไปประท้วงหน้าบ้านท่านสุโชเพื่อจะช่วยท่านพ่อ พร้อมกับเพื่อนสนิทชายที่ชื่อ "นาโอโกโร่" เมื่อโอคัตสึและนาโอโกโร่มาถึงหน้าบ้านท่านสุโช โอคัตสึตะโกนเรียกร้องให้เห็นถึงความทุกข์ของชาวนาที่โดนรีดภาษี แต่ลูกน้องท่านสุโชก็มาจับตัวโอคัตสึกับนาโอโกโร่เข้าไปในบ้าน
ท่านสุโช แม้ภายนอกจะดูโหดและเคี่ยว แต่เมื่อได้พบเด็กหนุ่มสาวทั้งสองคือโอคัตสึกับนาโอโกโร่แล้ว ท่านสุโชกลับดูเมตตาน่านับถือมากกว่าที่คาดไว้
เมื่อได้พบกัน หลังจากการแนะนำชื่อเสียงเรียงนามกันแล้ว ท่านสุโชก็เชิญชวนเด็กทั้งสองคนลองชิมขนมหนีภาษี ผิดกฏหมายที่ท่านสุโชแอบลักลอบขายอยู่ ซึ่งเมื่อโอคัตสึกับนาโอโกโร่รู้ว่าเป็นของผิดกฏหมายถึงกับสะดุ้ง และท่านสุโชก็พูดว่า.
"ที่ทำไปทั้งหมด(หมายถึงการลักลอบค้าขายของเถือน)ก็เพื่อให้แคว้นสัทสุมะอยู่รอด นั่นเป็นหน้าที่สำคัญของพวกเรา".
และท่านสูโชก็สอนโอคัตสึอีกว่า "ชาวนาลำบากมากจึงมาร้องทุกข์ ท่านพ่อของท่านจึงช่วยเขา มันเป็นการทำหน้าที่อย่างน่าชมเชยที่สุด".
"แต่ว่าการไม่เสียภาษีนั้นผิดกฏหมาย จึงต้องเตรียมรับโทษออกจากตำแหน่งยังไงล่ะ"
.ในช่วงคำพูดนี้ของท่านสุโชนี้เอง ที่ทำให้โอคัตสึจึงย้อนคิดไปถึงคำพูดท่านแม่เมื่อสมัยโอคัตสึยังเด็กที่ว่า.
"ชาวนามีหน้าที่ผลิตอาหารเลี้ยงคนทั้งประเทศ พวกเราซามุไรจึงมีหน้าที่สละชีวิตเพื่อปกป้องพวกเขาไงจ๊ะ".
ซึ่งในตอนนั้นโอคัตสึก็ถามซ้ำกับท่านแม่ว่า "หน้าที่?".
เมื่อโอคัตสึทบทวนคำสอนของท่านแม่แล้ว จึงพูดกับท่านสุโชว่า "เราต้องทำตามหน้าที่ข้าเข้าใจ".
"แต่มีวิธีอื่นอีกมั้ยเจ้าคะ? วิธีที่ช่วยให้ทุกฝ่ายมีชีวิตอยู่ด้วยกันได้".
ท่านสุโชเมื่อได้ยินดังนั้น ก็ครุ่นคิดอยู่แป๊บนึงแล้วตอบว่า "ถ้ามีวิธีที่ทำให้เป็นอย่างนั้นได้ บอกด้วยนะข้าจะรีบทำ".
ในช่วงนั้นเอง นาโอโกโร่ก็ถามแทรกขึ้นมาว่า "แต่ว่าการขายของเถื่อนมันก็ผิดกฏหมายเหมือนกันใช่มั้ยขอรับ".
ท่านสุโช "ขนมเมื่อกี้คือพุทราจีน เป็นผลไม้ที่ข้าลักลอบนำเข้าจากเมืองจีน...กลับบ้านและใช้ชีวิตเหมือนเดิมเถอะคุณหนู".
โอคัตสึ "เรื่องที่ข้ามาในวันนี้จะมีผลถึงท่านพ่อข้าด้วยมั้ยล่ะเจ้าคะ?".
ท่านสุโช "ไม่ต้องกังวลไปหรอก เพราะข้าก็พูดความลับของข้าไปแล้ว พวกเราก็ตกที่นั่งเดียวกันแล้วนี่นา".
พูดจบท่านสุโชก็หัวเราะอย่างอารมณ์ดี และหลังจากนั้นท่านพ่อของโอคัตสึก็ไม่ได้รับโทษแต่อย่างใด.
ภายหลังท่านสุโชถูกทางการเรียกไปสอบสวนเรื่องการแอบลักลอบทำผิดกฏหมาย ซึ่งจะมีผลกระทบไปถึงท่านเจ้าแคว้นสัทสุมะด้วย.
ก่อนที่ท่านสุโชจะไปโดนสอบสวนที่เอโดะ ก็เชิญโอคัตสึกับนาโอโกโร่มาพบอีกครั้ง และท่านสุโชก็ได้มอบเงินปลอมให้แก่โอคัตสึ.
โอคัตสึจึงถามว่า "ทำไมถึงให้ข้าล่ะ".
ท่านสุโชกล่าวว่า "ก่อนนี้ข้าเคยพูดว่า การค้ำจุนชิมะสึ(ตระกูลเจ้าแคว้น) เป็นหน้าที่ของข้า".
"แล้วท่านก็ถามข้าว่า หน้าที่มองข้ามไปได้มั้ย ให้ใช้วิธีที่ทำให้ทุกฝ่ายอยู่รอดด้วยกันใช่มั้ย?".
"ใช่ค่ะ".
"ข้าคิดไปคิดมาแล้ว คำตอบคือไม่มี ตอนนี้กำลังคิดว่า ถ้านี่คือพรหมลิขิตที่ไม่ต้องคิดถึงหน้าทีล่ะก็ ข้าก็จะยังทำเช่นนั้นอยู่ ไม่เปลี่ยนแปลง".
"พรหมลิขิต?" โอคัตสึถาม.
"ใช่แล้ว มันคือสิ่งที่ฟ้ากำหนดมาให้".
"ถ้ามีโอกาสอยากจะเชิญท่านทั้งสองมาคุยกันอีกสักครั้งนึง" ท่านสุโชทิ้งท้ายไว้.
หลังจากท่านสุโชก็ไปถูกสอบสวนที่เอโดะ และได้ทำการปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด หลังจากกลับจากการไต่สวน ท่านสุโชก็ฆ่าตัวตายด้วยยาพิษ!!!.
"คุณหนูจงมีความสุขตลอดไปนะขอรับ" ท่านสุโชคิดถึงโอคัตสึและกล่าวประโยคนี้ขึ้น ก่อนฆ่าตัวตาย
.ท่านสุโชยอมตายเพื่อปกป้องท่านเจ้าแคว้นที่มีส่วนในการทำผิดกฏหมายตามแผนการปฏิรูปเมืองที่ขัดต่อกฏหมายของเอโดะ ท่านสุโชฆ่าตัวตายเพื่อให้แคว้นสัทสุมะพ้นจากข้อหาจากเรื่องการลักลอบทำผิดกฏหมายด้วย
.
หลังจากท่านสุโชตาย หลายๆคนในแคว้นสัทสุมะอาจคิดว่าดีแล้ว สมแล้ว!จอมโหดรีดไถชาวนาได้ตายไปแล้ว แต่ผู้ที่เข้าใจเรื่องนี้ดี ย่อมรู้ว่า นี่คือการตายอย่างสมเกียรติในหน้าที่ที่รับผิดชอบความผิดด้วยตัวเองอย่างกล้าหาญ.
แม้แต่พี่ชายของโอคัตสึเองก็ดูเหมือนจะสะใจกับการตายของท่านสุโช แต่โอคัตสึกลับต่างจากพี่ชายและคนอื่นๆ โอคัตสึเสียใจมากกับการจากไปของท่านสุโช
.
โอคัตสึและนาโอโกโร่ มาที่ต้นซากุระ โอคัตสึนำเงินปลอมที่ท่านสุโชได้ให้มา ฝังไว้ใต้ต้นไม้เพื่อที่จะให้ท่านสุโชได้เห็นซากุระจิมะเสมอ โอคัตสึได้ฝังปิ่นปักผมของตนลงไปในหลุมด้วย (ซากุระจิมะเป็นชื่อของภูเขาแห่งสัทสุมะ).
"ข้าน่ะชอบเค้าจริงๆ " โอคัตสึกล่าว แต่นาโอโกโร่ดุไปว่า "ท่านไม่ควรพูดอะไรโจ่งแจ้งเช่นนั้นนะ".
"ทำไม!! หัวใจเป็นของข้า ข้าจะไม่ยอมให้ใครหรืออะไรมากำหนดได้หรอก".
และทั้งสองคนก็นิ่งเงียบ หันมองดูทิวทัศน์ทะเลแห่งสัทสุมะอยู่ชั่วครู่ใหญ่ ก่อนที่พี่เลี้ยงของโอคัตสึจะตะโกนโหวกเหวกตามหาคุณหนูที่หนีออกมาโดยไม่บอกกล่าว....
.
*****************************.
จากกรณีท่านพ่อของโอคัตสึพร้อมที่จะเสียสละแม้กระทั่งชีวิตเพื่อปกป้องชาวนา จนมาถึงกรณีท่านสุโชยอมเสียสละชีวิตเพื่อปกป้องเจ้านายอย่างท่านเจ้าแคว้น.
ความประทับใจของผมในตอนนี้คือ ความรับผิดชอบในหน้าที่และความซื่อสัตย์ต่อเจ้านายสำคัญยิ่งกว่าชีวิตครับ ซึ่งปรัชญานี้ถือเป็นอีกหนึ่งปรัชญาของวิถีบูชิโด วิถีซามุไร.princess atsu
(คำว่า"เจ้านาย" สามารถตีความได้กว้าง ไม่จำเป็นต้องเป็นบุคคลเท่านั้น อาจหมายถึงชาติ แผ่นดิน ก็ได้)
.
เมื่อซามุไรผิดพลาด ย่อมต้องแสดงความรับผิดชอบอย่างกล้าหาญ!!..
(จงมองวัฒนธรรมของชาติอื่นด้วยใจเคารพ)
.
.
.
ชอบท่านโชกุน..อย่าลืมลงรูปโชกุนด้วยน่ะค่ะ
ตอบลบเมื่อถึงตอนที่ท่านโชกุนอิเอซาดะมีบทบาทเมื่อไหร่ จะลงให้ครับ เพราะเขาคือคนสำคัญแน่นอน
ตอบลบเจ้าค่ะ ...อยากได้ภาพโชกุนตอนที่สวมหมวกตอนเข้าพิธีแต่งงานด้วยค่ะ...คอบคุนจิงๆค่ะ
ตอบลบเรื่องนี้ดีมากจริงๆค่ะ แม้ตัวแสดงจะเป็คนๆเดียวกันแต่แสดงให้เห็นถึงพํฒนาการของช่วงอายุ ทั้งโอคัตสึที่จากเด็กน้อยไปสู่เท็นโชอินที่มีอำนาจ ส่วนท่านนาโอโกโร่จากเด็กหนุ่มที่ไม่มั่นใจจนกลายเป็นคะโร ปลื้มมากแต่ดูแล้วแอบเศร้าถ้าเรื่องจริงเป็นแบบนี้ก็น่าสงสารนาโอโกโร่มากทั้งที่รักโอคัตสึขนาดนั้น
ตอบลบ