วันอังคารที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2552

นโยบายน้ำมันของไทยห่วยจริงๆ





ต่อเนื่องจากตอนที่แล้ว น้ำมันแพงกับผลงานรัฐบาลมาร์ค6เดือน
.
.
ก่อนอื่นขอเท้าความกลับไปสักหน่อยว่า ทำไมไทยต้องอ้างอิงราคากลางน้ำมันสำเร็จสิงคโปร์+ค่าขนส่งน้ำมัน+ค่าประกันภัยการขนส่งจากสิงคโปร์มาไทย +ภาษี +เงินกองน้ำมัน  = ราคาค่าน้ำมันหน้าโรงกลั่น(ก่อนบวกภาษีและค่าอะไรต่างๆ)
.
เพราะในอดีตเมื่อหลายสิบปีก่อน ไทยเราต้องนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปทุกชนิดจากสิงคโปร์ทั้งหมด เพราะไทยเรายังไม่มีโรงกลั่นของตัวเอง
.
ทีนี้พอเราเริ่มพบแหล่งน้ำมันดิบในประเทศของเราเอง เราจึงมีความจำเป็นต้องสร้างโรงกลั่นน้ำมันขึ้นเพื่อรองรับแหล่งน้ำมันดิบของเราเอง
.
และเมื่อไทยอยากจะมีโรงกลั่นเอง แต่ตอนนั้นรัฐบาลไทยยังเป็นรัฐบาลที่ค่อนข้างยากจนรัฐบาลเราก็ต้องจูงใจให้บริษัทน้ำมันอยากจะมาลงทุนสร้างโรงกลั่นน้ำขึ้นในประเทศไทย

รวมทั้งโรงกลั่นของ ปตท.เอง ก็ต้องกู้เงินจากต่างชาติและรวมถึงเงินภาษีของชาติมาสร้าง ปตท. จึงต้องหาทางใช้หนี้คืนไวไว

ไทยเราจึงกำหนดว่า ให้โรงกลั่นน้ำมันที่อุตส่าห์เมตตามาตั้งโรงกลั่น ได้ตั้งราคาให้สูงเท่ากับราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่ขายในสิงคโปร์ บวก ค่าขนส่งน้ำมันสำเร็จรูปจากสิงคโปร์มาไทย บวก ค่าประกันภัยขนส่ง เพื่อจะได้ค่าการกลั่นที่สูงเท่าราคากลางน้ำมันสำเร็ขรูปที่สิงคโปร์ เพื่อที่โรงกลั่นน้ำมันที่มาลงทุนในไทยจะได้คืนทุนโดยเร็ว และคุ้มค่าที่จะลงทุนสร้างโรงกลั่นในไทย
.
แต่นั่นมันก็เป็นนโยบายส่งเสริมการลงทุนเมื่อหลายสิบปีก่อน

แต่เดี๋ยวนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว เพราะโรงกลั่นส่วนใหญ่ก็คืนทุนกันหมดแล้ว ที่สำคัญ ปตท. บริษัทน้ำมันของรัฐบาลไทย ก็ได้เข้าถือหุ้นใหญ่ในโรงกลั่นไทย 5 โรง จากทั้งหมด 6 โรง

โรงกลั่นน้ำมันที่ ปตท. ถือหุ้น มี 5 โรงดังนี้ 
ไทยออยล์ 49.1%
PTTGC 48.9%
IRPC 38.5%
SPRC 36.0%
BCP 27.2%

มีเพียงโรงกลั่นของเอสโซ่เท่านั้น ที่ ปตท. ไม่ได้ถือหุ้นอยู่ด้วย

แต่ทุกวันนี้ โรงกลั่น ปตท. ก็ยังอิงราคาน้ำมันสำเร็จรูปสิงคโปร์ + ราคาค่าขนส่งน้ำมันจากสิงคโปร์มาไทย + ค่าประกันภัยเช่นเดิม (บวกภาษีไทยและเงินเข้ากองทุนน้ำมัน)  = ราคาหน้าโรงกลั่น เหมือนเดิม
.
ทั้ง ๆ ที่ความเป็นจริง ไทยไม่ได้ซื้อน้ำมันสำเร็จจากสิงคโปร์และไม่มีการขนส่งน้ำมันสำเร็จรูปจากสิงคโปร์มานานแล้ว

เพราะไทยเราซื้อน้ำมันดิบจากประเทศผู้ผลิตน้ำมันดิบโดยตรงเพื่อนำมากลั่นเอง

ฉะนั้นตัวเลขค่าการกลั่นอ้างราคาน้ำมันสำเร็จจากสิงคโปร์+ค่าขนส่ง+ค่าประกันภัยการขนส่ง จึงเป็นเพียงค่าสมมุติ เพราะค่าขนส่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริงนำมารวมอยู่ในค่าน้ำมันหน้าโรงกลั่นของ ปตท. ด้วย

ก็เข้าใจนะที่ต้องอ้างราคาตลาดกลางสิงคโปร์ แต่ปตท.ควรเลิกอ้างโดยบวกค่าขนส่ง(ค่าสมมุติ) บวก ค่าประกันภัย (ค่าสมมุติ) จากสิงคโปร์ได้แล้ว
.
ถามว่ามันยุติธรรมหรือไม่ครับ ที่คนไทยซื้อน้ำมันแพงเท่ากับซื้อน้ำมันจากสิงคโปร์บวกค่าขนส่งบากค่าประกัน?
.
เพราะเมื่อมีการกลั่นน้ำมันดิบ เราก็จะได้ทั้งน้ำมันดีเซล และเบนซินออกมาพร้อม ๆกัน แต่น้ำมันดีเซลไทยเราใช้เยอะมาก ในขณะที่น้ำมันเบนซินไทยใช้น้อยมาก จึงทำให้ทุกครั้งที่มีการกลั่นน้ำมันดิบ เราจะมีน้ำมันเบนซินเหลือใช้มากกว่าดีเซลจำนวนมาก ซึ่งโรงกลั่นของไทยก็จะกลั่นน้ำมันให้ได้มากกว่าจำนวนความต้องการในประเทศ เพื่อเป็นการลดค่าโสหุ้ยของการกลั่น
.
แล้วน้ำมันที่เราผลิตเหลือใช้ เราเอาไปไว้ไหน?
.
เราก็ส่งน้ำมันที่เหลือใช้ก็ส่งออกไปขายประเทศเพื่อนบ้านไทยทั้งหลาย เช่น เขมร ลาว

แต่รู้มั้ยครับว่า ไทยเราขายน้ำมันสำเร็จรูปให้เพื่อนบ้านในราคาเท่ากับหรืออาจน้อยกว่าราคาหน้าโรงกลั่นสิงคโปร์ด้วย

เพราะราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่ไทยขายประเทศเพื่อนบ้านแถวนี้ ไม่ใช้สูตรเดียวกัยที่ขายให้คนไทย แปลง่าย ๆ ว่า ปตท. ขายน้ำมันสำเร็จรูปให้ประเทศเพื่อนบ้านเราถูกกว่าซื้อน้ำมันสำเร็จรูปจากสิงคโปร์ ก็เพื่อจูงใจให้เพื่อนบ้านหันมาซื้อน้ำมันสำเร็จรูปจากไทยมากกว่าไปซื้อจากสิงคโปร์ เพราะซื้อจากไทยจะประหยัดค่าขนส่งในระยะทางที่ใกล้กว่า


ที่สำคัญคือ โรงกลั่นน้ำมันผลิตได้ทั้งน้ำมันดีเซลและน้ำมันเบนซินออกมาพร้อม ๆ กัน แต่เพราะน้ำมันดีเซลมีการใช้ในประเทศเราเองในปริมาณที่สูงมาก ทำให้บางครั้งโรงกลั่นน้ำมันของไทยจึงมีน้ำมันเบนซินเหลือเกินความต้องการในประเทศ ทำให้ต้องส่งออกน้ำมันเบนซินให้ประเทศเพื่อนบ้านในราคาส่งที่ถูกกว่าปกติ อาจถูกกว่าต้นทุนที่ขายน้ำมันให้บริษัทน้ำยี่ห้อต่าง ๆ ที่ขายปลีกในประเทศไทยด้วยซ้ำ

.
สรุปง่าย ๆ ก็คือ ต้นทุนน้ำมันหน้าโรงกลั่นที่ขายให้คนไทยแพงกว่าขายให้ประเทศ เขมร ลาว พม่า เวียดนาม หรือพูดให้ง่ายเข้าไปอีกก็คือ ประเทศ ลาว เขมร พม่า เวียดนาม ซื้อน้ำมันสำเร็จรูปจากโรงกลั่นไทยถูกกว่าที่ขายให้คนไทยซื้อน้ำมันสำเร็จรูปจากโรงกลั่น ปตท. เอง 

สะใจดีมั้ยครับคุณผู้อ่าน!!
..
อีกอย่าง การมีน้ำมันดิบบางส่วนที่ไทยเราขุดเจาะได้เองในประเทศ ซึ่งเป็นทรัพยากรของคนทั้งชาติ แต่ ปตท. และรัฐบาลไทยกลับไม่เคยนำต้นทุนน้ำมันของไทยเราเองมาใช้เป็นส่วนลดราคาน้ำมันให้คนไทยเลยสักนิด เพื่อให้ต้นทุนน้ำมันดิบของไทยถูกลงกว่าราคาน้ำดิบโลก จริงไหม ??

เพราะน้ำมันดิบที่ไทยผลิตได้เอง คิดเป็นประมาณ 15 % ของการบริโภคน้ำมันของคนไทย และนำเข้าน้ำมันดิบจากต่างประเทศประมาณ 85 %

แล้วเราจะขุดน้ำมันดิบของเราขึ้นทำไม สู้เก็บไว้ในแผ่นดินก่อน แล้วยังซื้อน้ำมันสำเร็จรูปจากสิงคโปร์เหมือนเดิมไม่ดีกว่าเหรอ

เพราะยังไง ๆ ราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่เรากลั่นเองก็ไม่ได้มีราคาถูกกว่าราคากลางน้ำมันสำเร็จรูปที่ตลาดสิงคโปร์อยู่แล้วนี่นา จริงไหม ?
.
------------------

ราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่น ปตท. ที่ยุติธรรม ควรเป็นเช่นไร

สิ่งที่ควรเป็นเพื่อความยุติธรรมสำหรับคนไทย คือ ปตท. ควรนำราคาน้ำมันดิบอิงราคาตลาดโลก บวก ค่าขนส่งและค่าประกันภัยการขนส่งน้ำมันดิบจากประเทศผู้ผลิตจริง ๆ บวก ค่าการกลั่นที่แท้จริงในไทย บวกภาษีรัฐไทย บวกกองทุนน้ำมัน มาเป็นราคาขายหน้าโรงกลั่นของ ปตท.

จริงไหม ?

ไม่ใช่นำเอาราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่สิงคโปร์ บวก ค่าขนส่ง(หลอก ๆ)น้ำมันสำเร็จรูปจากสิงคโปร์ บวก ค่าประกันภัยการขนส่ง(หลอกๆ)น้ำมันสำเร็จรูปมาเป็นราคาหน้าโรงกลั่นของ ปตท. เหมือนเช่นที่ทำอยู่ทุกวันนี้

กรณีน้ำมันสำเร็จรูปตลาดสิงคโปร์ เมื่อคิดค่าขนส่งมาไทย มันจะมีต้นทุนแพงขึ้น เพราะราคาน้ำมันสำเร็จรูปมีราคาแพงกว่าราคาน้ำมันดิบ จึงต้องมีค่าประกันภัยการขนส่งที่แพงกว่าการประกันภัยการขนส่งน้ำดิบด้วย

โรงกลั่นน้ำมันในไทย จึงควรยกเลิกการใช้ค่าขนส่งและการประกันภัยน้ำมันสำเร็จรูปจากสิงคโปร์ส่งมาไทย แล้วใช้ค่าขนส่งและค่าประกันภัยน้ำมันดิบมาคิดแทน

ลองอ่านข่าวนี้


ผู้เชี่ยวชาญน้ำมันในไทยแนะปรับเปลี่ยนสูตรกำหนดราคาหน้าโรงกลั่น



29 ม.ค. 2559  นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานและอดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ถึงความเห็นในการปรับสูตรราคาหน้าโรงกลั่นว่า

"โครงสร้างราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นที่ใช้ในปัจจุบันค่อนข้างเก่าและไม่สะท้อนสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป

สาเหตุที่ควรปรับคือ

1) หน่วยปรับคุณภาพน้ำมันของแต่ละโรงกลั่นที่ลงทุนมาก่อนหน้านี้ใช้มานานและคืนทุนไประดับหนึ่งแล้ว ควรปรับส่วนนี้ลดลง

2) ค่าขนส่ง ค่าประกันภัย ควรใช้ราคาน้ำมันดิบในการคำนวณแทนราคาน้ำมันสำเร็จรูป สามารถทำให้ระดับราคาลดลงได้จากเดิม

3) สามารถปรับลดภาษีกำไรจากร้อยละ 25 เป็นร้อยละ 20 ในส่วนที่ปรับลดจะทำให้ราคาน้ำมันลดลงได้

4) ราคาไบโอดีเซลที่ใช้ผสมกับน้ำมันดีเซลที่โรงกลั่นน้ำมันซื้อจริงมีราคาต่ำกว่าราคาเฉลี่ยของ สนพ.

5) ให้ใช้ส่วนต่างค่าขนส่งน้ำมันดิบจากตะวันออกกลางมาสิงคโปร์และมาไทย แทนการใช้ค่าขนส่งน้ำมันสำเร็จรูปจากสิงคโปร์มาไทย

ทั้งนี้ การปรับโครงสร้างราคาหน้าโรงกลั่นถือเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปโครงสร้างราคาพลังงาน ถ้าภาครัฐมีการผลักดันอย่างแท้จริงประชาชนในประเทศจะได้รับประโยชน์ นอกจากนี้ ควรยกเลิกในประเด็นต่าง ๆ ที่ทำให้บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ผูกขาดในตลาดน้ำมัน เนื่องจากในปัจจุบัน ปตท.เป็นบริษัทมหาชนไม่ใช่รัฐเหมือนก่อนหน้านี้"

"เรื่องปรับโครงสร้างราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นมีมานาน แต่ไม่มีการผลักดันให้เป็นรูปธรรม เพราะโรงกลั่นส่วนใหญ่จะได้รับผลกระทบในแง่ของรายได้ แต่ถ้าหากมองถึงประโยชน์ที่ประเทศชาติและประชาชนจะได้รับ ถือเป็นประเด็นที่กระทรวงพลังงานจะต้องผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและสะท้อนต้นทุนจริง" นายอนุสรณ์กล่าว

ที่มา ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

**************************
.
บิดเบือนราคาดีเซลถูกกว่าเบนชินสร้างปัญหาหลอกตัวเอง
.
หลาย ๆ คนอาจคิดว่าผมบ้าไปหรือเปล่าที่ไม่เห็นด้วยกับการขายดีเซลถูกกว่าเบนซิน เพราะคนส่วนใหญ่ของประเทศคือคนใช้น้ำมันดีเซล การที่ช่วยให้ราคาน้ำมันของคนส่วนใหญ่ถูกกว่าน้ำมันของคนส่วนน้อยน่าจะเรื่องที่ถูกต้อง
.
แต่ผมกลับไม่คิดเช่นนั้นครับ เพราะทั่วโลกดีเซลต้องแพงกว่าเบนซิน แต่ประเทศไทยกลับบิดเบือนเพื่อให้ดีเซลถูกว่าเบนซิน โดยข้ออ้างแบบเดิม ๆ ว่า เพราะเป็นต้นทุนของค่าขนส่งและต้นทุนของค่าสินค้าในประเทศ และเป็นน้ำมันที่เกษตรกรใช้
.
ลองคิดดูสิครับว่า ทั่วโลกเขาก็ใช้ดีเซลในการขนส่งเช่นกัน แต่ทำไมเขาถึงไม่มาบิดเบือนราคาแบบประเทศไทยทำ ลองคิดดีๆ
.
การที่รัฐกดราคาดีเซลให้ถูกว่าเบนชิน ทำให้แทนที่ผู้ที่มีความจำเป็นที่ต้องใช้น้ำมันดีเซลจริง ๆ เท่านั้นจะเป็นผู้ใช้

แต่กลับกลายเป็นรัฐไปส่งเสริมทางอ้อมให้คนทั่ว ๆ ไปที่ไม่ได้ใช้รถเพื่อการขนส่งสินค้าหรือเพื่อการผลิตเป็นหลักหันมาใช้รถปิคอัพดีเซลประเภทต่างๆ เช่นมีแคป ไม่มีแคป หรือปิคอัพ4ประตูมาใช้เป็นรถส่วนตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพียงเพื่ออยากจะประหยัดค่าน้ำมันรถ
.
และคุณลองคิดดูว่า รถปิคอัพแต่ละประเภทนั้นมีความยาวตัวรถมากกว่ารถเก๋งทั่วไป ซึ่งทำให้กินพื้นที่การจราจรมากขึ้น ทำให้รถติดมากขึ้น แถมสร้างมลภาวะเป็นพิษมากขึ้นกว่าการใช้รถเครื่องยนต์เบนซิน
.
ทำให้เดี๋ยวนี้ แม้แต่ชนชั้นกลางที่พอมีฐานะ หรือเลยไปถึงคนรวย ก็หันมานิยมซื้อรถเก๋งยุโรปแพงๆเครื่องยนต์ดีเซลกัน หรือจะซื้อรถsuvหรูๆ หรือจะเป็นจำพวกรถออฟโรดแพงๆ กันมากขึ้น เพื่อประหยัดค่าน้ำมัน ?
.
แล้วต้องอย่าลืมว่า รถที่ใช้เบนซินก็มีใช้ในการขนส่งเช่นกัน เช่นรถมอไซค์รับจ้าง รถซาเล้งสกายแลป รถกระเป๊าะในซอย รถแท๊กซี่ แต่รัฐกลับเอาเงินจากค่าน้ำมันเบนซินเพื่อไปอุดหนุนรถดีเซล หากจะเปรียบเทียบแบบประชดประชันหน่อย ก็คือ เอาภาษีรถมอไซค์ไปอุดหนุนให้รถSuvของคนรวย !?
.
ด้วยเหตุนี้ จำนวนคนใช้รถปิคอัพในประเทศไทยมีอัตราการใช้รถประเภทนี้มากที่สุดในโลก มากจนจูงใจให้ประเทศผู้ผลิตรถกระบะปิคอัพเข้ามาตั้งฐานการผลิตรถปิคอัพในประเทศไทยกันทุกยี่ห้อ
.
เพราะผู้ผลิตบอกว่า ทำให้โรงงานผลิตรถปิคอัพสามารถทดสอบความนิยม ทดสอบตลาดได้ในประเทศไทย หากขายในไทยได้ ก็มีแนวโน้มประสบความสำเร็จในต่างประเทศ และโรงงานผลิตสามารถอยู่ได้ด้วยตลาดภายในโดยไม่ต้องพึ่งแต่ตลาดต่างประเทศมากเกินไป พูดง่าย ๆ ก็คือ โอกาสเจ๊งยากขึ้น
.
ทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่า เป็นเพราะมีบริษัทรถยนต์อยู่เบื้องหลังนักการเมืองหรือไม่?
เพื่อที่จะได้ช่วยให้น้ำมันดีเซลราคาถูกเพื่อช่วยด้านการตลาดแก่บริษัทผู้ผลิตปิคอัพทางอ้อม (อันนี้ผมคิดเล่นๆ)
.
ผมว่า หากไทยปล่อยให้ดีเซลอยู่ในราคาที่เป็นจริงไม่บิดเบือน จะทำให้นานวันเข้า เราก็จะเหลือแต่ผู้ที่จำเป็นต้องใช้เพื่อการขนส่งและการผลิตจริงๆ ซึ่งจะน่าจะเป็นผลดีในระยะยาวมากกว่า
.
และการที่เรียกเก็บภาษีสรรพสามิตหรือเงินเข้ากองทุนน้ำมันจากเบนซิแพงๆ มันเป็นธรรมแก่ประชาชนจริงหรือ คุณคิดว่าคนขับรถเบนซินทั้งหมดรวยกว่าคนขับรถปิคอัพ รถmpv รถSuv รถppv หรือไง?


ขออัพเดทข่าว ปัจจุบันใน พ.ศ. 2561 เมืองฮัมบูร์ก เป็นเมืองแรกในเยอรมัน ที่ออกกฎหมายห้ามรถที่ใช้น้ำมันดีเซลวิ่งเข้าในถนนสายหลักในเมือง 2 สาย เหตุเพราะรถใช้ดีเซลก่อมลภาวะสูงกว่าน้ำมันเบนซิน คลิกอ่านข่าวนี้
.
*************************
.
ต้องมีดีเซลเพื่อเกษตรกรด้วย
.
อย่างที่ผมเขียนในบทความตอนก่อนว่า รถไถ รถอีแต๋น รถเกี่ยวข้าว ทำไมต้องใช้น้ำมันเกรดเดียวกับรถยนต์เครื่องคอมมอนเรลด้วย?
.
ทำไมเกษตรกรต้องใช้น้ำมันที่ดีเกินความจำเป็นด้วย มีน้ำมันดีเซลรอบต่ำสักหน่อยเพื่อเกษตรกรได้มั้ย?
.
**************************
.
แยกตลาดก๊าซหุงต้มออกจากก๊าซแอลพีจีเติมรถยนต์
.
จากบทความตอนที่แล้ว ผมได้เขียนไปแล้วว่า ควรจะแยกราคาก๊าซหุงต้มในครัวเรือน ออกมาจากราคาก๊าซLPGที่ใช้เติมรถ
.
เพราะการที่ไม่แยกราคาทั้งสองตลาดออกจากกัน ทำให้กลายเป็นว่ากองทุนน้ำมันมาขูดภาษีจากผู้ใช้รถยนต์ทุกชนิดเพื่อไปอุดหนุนค่าก๊าซแอลพีจีที่ใช้เติมรถยนต์ด้วย
.
ซึ่งทำให้มีรถยนต์จำนวนมากเอาเปรียบสังคมด้วยการไปเปลี่ยนเป็นรถใช้ก๊าซแอลพีจีมากขึ้น (ไม่นับรถtaxi ซึ่งรัฐกำลังมีนโยบายเปลี่ยนtaxi ให้ใช้ngv ทุกคันฟรีแล้ว)
.
จึงทำให้ปกติก๊าซแอลพีจีที่เป็นผลพลอยได้จากการกลั่นน้ำมันดิบ ที่เคยพอใช้ในประเทศ กลับถูกปตท.อ้างว่า ไม่พอใช้แล้ว จำเป็นต้องนำเข้าจากต่างประเทศ (แต่มีข่าวลือว่าไม่จริง อันนี้ผมไม่ยืนยันนะครับ)
.
(ราคาก๊าซแอลพีจีของไทยถูกว่าราคาที่ซื้อขายในตลาดโลก)
.
การที่รัฐจะอุดหนุนราคาหรือตรึงราคาก๊าซหุงต้มก็เป็นสิ่งที่ดี  แต่ทุกวันนี้กลายเป็นว่ามีคนหันมาเปลี่ยนรถเพื่อใช้ก๊าซแอลพีจีกันมาก ถือเป็นการเอาเปรียบสังคมไทยทั้งประเทศครับ จึงกลายเป็นว่ารัฐกลับต้องมาอุดหนุนพวกเอาเปรียบสังคมไปด้วย (ขออภัยคนที่เติมLpg ด้วยแต่นี่คือความจริง)
.
ที่จริงก็มีเทคโนโลยีที่สามารถเติมสารน็อคเครื่องยนต์มาใส่ในถังก๊าซหุงต้ม เพื่อจะได้แยกตลาดก๊าซแอลพีจีสำหรับหุงต้มและเพื่อขนส่งออกจากกันให้ชัดเจน โดยที่ไม่เป็นอันตรายแก่ผู้บริโภคซึ่งสามารถทำได้ แต่ทำไมไม่มีใครคิดจะทำสักที ทำไมหนอ!
.
(ในความเป็นจริง ไทยเราผลิต LPG ราคาถูกและพอใช้สำหรับหุงต้มและเติมรถยนต์ในประเทศ แต่เรากลับถูกรัฐบาลหลอกว่าไม่พอใช้ คลิกอ่านที่นี่ !!)

*********************
.
ตอนค่าขนส่งลด ราคาสินค้ากลับไม่ลดตาม
.
ตอนค่าน้ำมันโลกพุ่งไป 140 กว่าดอลล่าห์สหรัฐฯ น้ำมันดีเซลพุ่งไปถึง 37 บาทกว่า ราคาสินค้าก็แพงขึ้น ผมเป็นคนที่ซื้อของใช้เข้าบ้านเองเป็นประจำทุกอาทิตย์
.
ช่วงน้ำมันแพงปีที่แล้ว สินค้าของกินของใช้ทยอยปรับราคาขึ้นหลายครั้ง แต่เมื่อค่าน้ำมันลดลง ค่าขนส่งก็ลดลงนิดหน่อย แต่ค่าสินค้าที่ไม่ใช่ของสดจำพวกผลไม้พืชผัก ไม่ลดลงตามเลย ยังคงตรึงอยู่ในราคาที่สูง
.
ฉะนั้น ที่รัฐอ้างเพื่อไม่อยากให้ค่าขนส่งขึ้น แล้วเวลารัฐลดให้เขา ผู้ค้าเขากลับไม่ลดราคาสินค้าลงตาม สุดท้ายกลายเป็นรัฐไม่ได้ช่วยประชาชนเท่าไหร่หรอก แต่กลับไปช่วยพ่อค้าให้ได้กำไรมากขึ้นมากกว่า!!
.
ซึ่งหากน้ำมันดิบโลกดีดกลับไปเกิน 100 เหรียญอีกครั้ง พวกสินค้าทั้งหลายก็จะถือโอกาสขึ้นราคาอีกรอบแน่ ๆ และที่รับไปเต็มๆคือประชาชนคนจนๆนั่นเอง
.
*************************
..
น้ำมันดีเซลที่มาเลเซียราคาขายปลีกลิตรละ16บาทกว่า ในขณะที่เทียบกับน้ำมันดีเซลไทยในช่วงเดียวกันราคาเกือบ30บาท
.
ทั้ง ๆ ที่ของปตท.ราคาหน้าโรงกลั่นยังไม่รวมค่าภาษี ค่าการตลาด ค่าvat ค่าอะไรต่อมิอะไร ก็เริ่มต้นที่ 18 บาทกว่าแล้วครับท่าน
.
ทำไมหนอมาเลเซียถึงไม่กลัวเรื่องราคาบ้านเขาจะถูกกว่าราคาสิงคโปร์แบบที่บริษัทน้ำมันบ้านเรากลัว?
.
ถ้าจะอ้างว่า มาเลเซียมีน้ำมันของตัวเอง ก็อ้างฟังไม่ขึ้นเท่าไหร่ เพราะแม้ไทยจะมีน้ำมันของเราเอง ถึงแม้จะไม่ได้มากเหมือนชาติในโอเปค

แต่ขอย้ำอีกที่ว่า  ปตท. และรัฐบาลไทย กลับไม่เคยคิดจะเอามาทรัพยากรน้ำมันในแผ่นดินไทย มาใช้เป็นส่วนลดให้ต้นทุนราคาน้ำมันให้ถูกลงเพื่อคนไทยสักนิดเลย
.
ผมเลยสงสัยว่า ในเมื่อ ปตท. ก็ขายน้ำมันเท่ากับราคาสิงคโปร์บวกค่าขนส่งอยู่แล้ว งั้น! สู้เรายังไม่ขุดเจาะน้ำมันในบ้านเราไม่ดีกว่าเหรอ เก็บไว้ในแผ่นดินไทยไปก่อน แล้วซื้อน้ำมันสำเร็จจากสิงคโปร์แบบเดิมก็ได้ เพราะยังไงก็ราคาการกลั่นไทยก็ไม่ถูกกว่าราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่สิงคโปร์อยู่แล้ว (ประชด!)
.
สู้เก็บน้ำมันในแผ่นดินไทยเอาไว้ให้ลูกหลานเราไปใช้ในอนาคต จะดีกว่ามั้ย? งง!จริง ๆ กับประเทศไทย
.
******************************
.
รัฐถือหุ้นปตท.เกินครึ่งไม่ได้ช่วยอะไรประชาชนเลย
.
แม้กระทรวงการคลังและภาครัฐอื่น ๆ จะถือหุ้นปตท. ประมาณ65 % แต่ข้าราชการที่รัฐส่งไปนั่งเป็นกรรมการในปตท. แทนที่จะไปเพื่อเป็นปากเสียงเพื่อช่วยประชาชน แต่กลับส่งไปนั่งกินค่าเบี้ยประชุมแพงๆแทน

@ค่าเบี้ยประชุม ประกอบด้วย เบี้ยกรรมการรายเดือน เดือนละ 30,000 บาท เบี้ยประชุมครั้งละ 20,000 บาท (เฉพาะกรรมการที่เข้าร่วมประชุม), เบี้ยประชุมคณะกรรมการอื่นที่คณะกรรมการ ปตท. แต่งตั้ง ได้แก่ คณะกรรมการตรวจสอบ แยกเป็นเบี้ยกรรมการรายเดือนๆ ละ 15,000 บาท เบี้ยประชุมครั้งละ 15,000 บาท (เฉพาะกรรมการที่เข้าประชุม) ส่วนคณะกรรมการอื่นๆ อีก 3 คณะ คือ คณะกรรมการสรรหา, คณะกรรมการกำหนดค่าตอบแทน, คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการที่ดี กำหนดเบี้ยประชุมให้ครั้งละ 24,000 บาท / ข้อมูลจาก “ขรก.เพื่อปตท.”รวยอู้ฟู่ โบนัส-เบี้ยประชุม@

.
เพราะหากไปแย้งเพื่อผลประโยชน์ประชาชนมากไป ไปทำให้ปตท.กำไรน้อยลง เดี๋ยวจะไปกระทบค่าเบี้ยประชุมราคาแพงของตนไปด้วย ฉะนั้นเลยขอนั่งเงียบกินเงินแพง ๆ ไปสบายๆดีกว่า เรื่องไรจะโง่ทุบหม้อข้าวตัวเอง เพราะกว่าจะได้มานั่งตำแหน่งนี้ ก็เหลือเวลากอบโกยอีกไม่มากแล้ว
.
มีนักวิชาการเคยวิจัยแล้วบอกว่า หากเปรียบเทียบค่าตอบแทนของกรรมการบริษัท ปตท. ไปเทียบกับค่าตอบแทนของกรรมการในบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของนอร์เวย์
.
บริษัทของนอร์เวย์ขายน้ำมันทั่วโลกมากกว่าไทยหลายเท่า แต่กรรมการบริษัทปตท.กลับได้ค่าตอบแทนมากกว่ากรรมการบริษัทน้ำมันของนอร์เวย์ถึง2เท่า!!!
.
ทั้งๆที่ค่าครองชีพของคนนอร์เวย์สูงกว่าคนไทย!!!
.
เอาเถอะ! ใครได้ร่ำรวยจากปตท. ได้ทำงานในปตท.จนร่ำรวยรวยบนความทุกข์ของประชาชน ก็ขอเชิญตามสบาย ขอมุทิตาจิตด้วย
.
แต่พนักงานปตท.โปรดหยุดคิดสักนิดว่า คุณกำลังทำบาปทางอ้อมหรือเปล่า? คุณอาจสุขสบายในชาตินี้ เพราะคุณทำบุญเก่ามาดี กิจการคุณก็ไม่ต้องแข่งขันกับใครมาก เพราะพวกคุณผูกขาดตลาดสบาย
.
แต่หากคุณเชื่อว่าชาติหน้ามีจริง คุณคิดหรือว่าคุณจะไม่ได้รับผลกรรมที่คุณขูดกำไรเกินควรจากประชาชน
กำไรแต่พอเพียงพออยู่ได้ พอพัฒนากิจการได้ แต่พวกคุณเลือกที่จะไม่ทำ!!?
.
ผู้บริหารปตท.  ผมก็เข้าใจคุณที่ว่า หากคุณไม่ทำกำไรให้ผู้ถือหุ้นมากๆ คุณก็อาจจะถูกเด้งจากตำแหน่ง ผมเข้าใจครับ!
.
เพราะคุณยังมีกิเลสเหมือนคนทั่วไป คุณถึงมีความจำเป็นต้องได้ผลตอบแทนเดือนละกว่า14ล้าน เพื่อช่วยเหลือครอบครัวที่ยากจนของคุณ

-------------------

อัพเดทบทความ ปี 2561

ข่าวเมื่อวันที่ 31 พ.ค. 2561 คุณรสนา โตสิตระกุล ก็อดีต สว.กทม. ได้ออกมาพูดถึงการกำหนดราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นของไทยอีกว่า  โรงกลั่นน้ำมันไทยก็ยังอิงราคากลางน้ำมันสำเร็จรูปที่สิงคโปร์ + ค่าขนส่งน้ำมันจากสิงคโปร์มาไทย บวก ค่าประกันภัยการขนส่ง อยู่เลย ตามลิงค์ข่าวนี้

คลิก https://www.posttoday.com/economy/552847

ซึ่งคุณรสนา ได้พูดถึงสูตรราคาหน้าโรงกลั่นของไทยแบบนี้มาหลายปีแล้ว ถ้าเรื่องที่คุณรสนาพูดเป็นความเท็จ ทาง ปตท. ก็ควรฟ้องร้องเอาผิดคุณรสนามาตั้งนานแล้วจริงไหม แต่ทำไม ปตท. ไม่ฟ้องคดีนี้หว่า ?

ส่วนคดีที่ ปตท. เคยฟ้องคุณรสนา กลับเป็นเรื่องที่ คุณรสนา เคยบอกว่า ปตท. แอบไปเปิดบริษัทลูกบนเกาะฟอกเงิน ที่ชื่อ เกาะเคย์แทน ซึ่งศาลได้พิพากษายกฟ้องคดีไปแล้วทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ตามลิงค์ข่าวนี้

คลิก https://www.matichon.co.th/politics/news_387700

สุดท้ายกับการอัพเดทบทความในปี 2561 นี้ ผมขอนำราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่พม่าขายหน้าปั๊ม มาลงให้คุณผู้อ่านดูแล้วกันครับ

ซึ่งพม่าเขาซื้อน้ำมันสำเร็จรูปจากไทยเหมือนกัน เพียงแต่ว่า รัฐบาลพม่าเขาไม่มีนโยบายเก็บภาษีแพง ๆ ขูดรีดจากประชาชนมาก ๆ ก็เท่านั้นเอง

พม่าเขาเก็บภาษีจากราคาขายน้ำมันบ้างเล็กน้อย ราคาน้ำมันในพม่าก็เลยถูกกว่าราคาน้ำมันไทยตั้งเยอะ

ราคาน้ำมันหน้าปั๊มในกรุงย่างกุ้ง ยี่ห้อ Max Energy ในพม่า ประจำวันที่ 31 พ.ค. 61


https://maxenergy.com.mm/#pricelist

ราคาน้ำมันเบนซิน 95 ที่กรุงย่างกุ้ง ราคาขายคือ 930 จ๊าด/ลิตร หรือเป็นเงินไทย 22.18 บาท
แต่ราคาขายน้ำมันเบนซิน 95 หน้าปั๊มของ ปตท. ราคาขายในวันเดียวคือ 36.36 บาท/ลิตร

ราคาน้ำมันดีเซลเกรดธรรมดา ที่กรุงย่างกุ้ง ราคาขายคือ 905 จ๊าด/ลิตร หรือเป็นเงินไทย 21.59 บาท
แต่ราคาน้ำมันดีเซลเกรดธรรมดาของ ปตท. ราคาขายในวันเดียวกัน คือ 28.79 บาท/ลิตร

น้ำมันสำเร็จรูปยี่ห้อ Max Energy ที่พม่าเขาขายถูกกว่าน้ำมัน ปตท. เยอะจริง ๆ อิอิ



แนะนำอ่านแปรรูปปตท.ดีจริงหรือ??

มองรอบด้านกรณีแปรรูปรถไฟ!??




15 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ09 พฤษภาคม, 2554 20:12

    จริงอย่างว่า แต่ก็ต้องยอมจำนน

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณที่เข้ามาร่วมแสดงความเห็นครับ แต่อยากให้สังเกตว่า ผมเขียนบทความนี้ตั้งแต่เมื่อปี52

    สถานการณ์น้ำมันในประเทศไทย ก็ยังห่วยเหมือนเดิม ปตท.กำไร2แสนล้าน จากการขูดรีดกำไรจากคนไทย

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ10 พฤษภาคม, 2554 12:17

    แล้วเมื่อไหร่ละครับที่คนไทยเราจะได้ใช้น้ำมันราคาถูก...รุ่นลูกหรือว่ารุ่นหลาน รัฐบาลหน้าไหนที่จะกล้า

    ตอบลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ11 พฤษภาคม, 2554 11:25

    ปตท..แย่มากมาย
    เป็นคนระยองโดยกำเนิดจ้า เห็นปตท.มาตั้งแต่เกิด..แต่ทุกวันนี้คนทำงานปตท.เหมือนตัวเองเป็นพระเจ้ากันหมด(เมื่อก่อนไม่ใช่แบบนี้)..เงินเดือนรวมเด็กปวส. 20,000 บาท ขึ้น โบนัส 4-6 เดือน..ทุกคนอยากเข้า..แต่หลายคนก็ถูกเหยียดสถาบันการศึกษา ไม่ค่อยมีคนพื้นที่ระยองใน ปตท.หลอกค่า..ทั้งๆๆที่คนระยองต้องเสี่ยงกับสภาพแวดล้อมเป็นพิษอยู่ในปัจจุบันนี้...เมื่อก่อนเราก็ไม่เข้าใจนะว่าทำไมน้ำมันบ้านเราแพงมากๆๆๆๆนัก พอเริ่มรับรู้จากสื่อหลายๆๆสื่อเราก็เข้าใจมากขึ้น คนในปตท.บางคนก็คิดเหมือเรานะแต่ทำอะไรไม่ได้ได้แต่โพสต์ข้อความเป็นฟอร์เวิดเมลล์แทน(ก็น่าเห็นใจนะ) พวกที่น่ารังเกียดก็คืนผู้บริหารนั่นเอง ความคิดโคตรเห็นแก่ตัว...เห็นแก่ได้...ทำนาบนหลังคน..นโยบายไม่เคยคิดถึงคนในประเทศเลย..ที่แสดงความคิดไม่ได้อิจฉานะ(เพราะเราก็เงินเดือนเยอะแล้วพอแล้วกับการใช้ชีวิต)แต่เราว่ามันแบ่งชนชั้นกันเกินไปโดยเฉพาะที่ระยองเห็นชัดมาก ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดมีแต่ ปตท.เป็นส่วนใหญ่แล้วตอนนี้.....ถ้าปตท.ลดราคาน้ำมันสักนิดเพื่อเห็นแก่คนไทยทั้งประเทศมันก็คงดีกว่านี้..หรือเปลี่ยนนโยบายที่ทำเพื่อประเทศที่พวกคุณอาศัยอยู่ก้อได้..คนระยองคนหนึ่ง

    ตอบลบ
  5. ขอบคุณข้างบนทั้งสองท่านที่ร่วมแสดงความเห็น

    ที่สำคัญ คนที่จะได้เข้าไปในทำงานในปตท. ต้องเป็นเด็กเส้นทั้งนั้น เอาพรรคพวกญาติพี่น้องของคนในปตท.เองเข้าไปร่วมกันเสวยสุขครับ

    คนนอกแท้ๆเข้าปตท.ได้มีน้อยมาก กรณีนี้ไม่ต่างจากกรณีการบินไทย ที่เอาแต่พรรคพวกพี่น้องเข้าทำงานครับ

    และผมอยากจะย้ำในประเด็นนึงของบทความนี้

    คือไทยเรามีน้ำมันดิบของตัวเอง แม้จะไม่มาก แต่ปตท.ก็ไม่เคยเอาน้ำมันของไทยมาช่วยหักลดต้นทุนเลย

    ปตท.ยังคงอิงราคาน้ำมันตลาดโลกตลอดเวลา ทั้งๆที่การที่เราผลิตน้ำมันเองได้บ้างบางส่วน ก็น่าจะมีส่วนลดราคาน้ำมันในประเทศให้ลดลงบ้าง แต่ปตท.กลับไม่ทำ!! เอากำไรเต็มๆ

    น้ำมันเบนซินไทยเหลือใช้ ปตท.ก็เอาน้ำมันไปขายลาว เขมร เวียตนาม ในต้นทุนที่ต่ำกว่า น้ำมันหน้าโรงกลั่นที่ขายให้ปั๊มในประเทศไทยด้วยซ้ำ

    ปตท.เกิดจากภาษีคนไทย แต่ขูดรีดคนไทยเพื่อกำไรต่อหุ้นที่สูงขึ้นทุกปี

    ตอบลบ
  6. อาจมีหลายคนเถียงว่า รัฐถือหุ้นปตท.โดยกระทรวงการคลังเกินครึ่ง

    แต่การที่รัฐถือหุ้น ผลประโยชน์คืนรัฐก็จริงๆ แต่ปตท.เน้นกำไรต่อหุ้นที่สูง และผลตอบแทนพนักงานและผู้บริหารก็สูงมาก ทำให้ปตท.จึงเน้นขูดประชาชน

    ด้วยนโยบาย ขึ้นราคาเร็วและมาก แต่เวลาลง ลงช้าๆและทีละนิด

    รัฐได้เงินมาก แต่ประชาชนเดือดร้อนมาก นั่นจึงเป็นการดำเนินนโยบายที่ผิด เพราะรัฐต้องหวังกำไรจากประชาชนแต่น้อย เพราะจุดประสงค์ของการมีรัฐวิสาหกิจ คือช่วยให้ประชาชนได้มีโอกาสใช้สินค้าจำเป็นในราคาถูก

    แต่เมื่อรัฐแปรรูป ปตท.จึงเน้นกำไรต่อหุ้นสูงๆ ประชาชนจึงเดือดร้อน!!

    ตอบลบ
  7. การแปรรูปไม่ใช่เรื่องผิดเสมอไป แต่นักการเมืองไทย ข้าราชการไทยไม่โปร่งใสเหมือนหลายๆชาติครับ

    ผมเคยเขียนเรื่องการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ได้จำแยกข้อดีข้อเสีย และยกตัวอย่างในหลายประเทศว่า ที่ดีก็มี ที่ไม่ดีก็มี

    ในบทความเรื่อง การแปรรูปรัฐวิสาหกิจดีจริงเหรอ? (กรณีปตท.)

    ถ้าปตท. แปรรูปหากเป็นเพื่อประโยชน์ประชาชนจริงๆ ไม่จำเป็นต้องเอากำไรหนักหนาสาหัสขนาดนี้ จนกลายเป็นบริษัทที่ทำกำไรสูงสุดในประเทศ และเป็นบริษัทที่กำไรสูงสุด 300อันดับแรกของโลกหรอกครับ

    อย่าลืมว่า ปตท.เกิดจากภาษีคนไทย!!

    ทำไมปิโตรนัส มาเลยเซีย เขายังไม่ขายเอากำไรคนในประเทศเขามากเท่าปตท.ล่ะครับ เขาเน้นทำกำไรนอกประเทศมากกว่า ในประเทศเขาไม่เอากำไรมาก และปิโตรนัสก็เอาน้ำมันในประเทศมาคำนวณช่วยลดต้นทุนให้ประชาชนด้วย

    แต่ขณะที่ปตท.ไม่เคยคิดคำนวณน้ำมันของไทยเราเองเพื่อลดต้นทุนการขายให้คนไทย แต่ปตท.อิงราคาเท่าสิงคโปร์เหมือนเดิม

    ย้ำ!! ส่วนปตท. ไม่เคยคิดคำนวณน้ำมันของไทยเองมาช่วยลดต้นทุนการผลิตให้คนไทย

    ถ้าเราต้องซื้อน้ำมันราคาเท่าสิงคโปร์ เราก็ยังไม่ต้องขุดน้ำมันของเราขึ้นมาใช้ไม่ดีกว่าเหรอ?? ก็ซื้อสิงคโปร์ซะก็สิ้นเรื่อง จะกลั่นน้ำมันเองไปทำไม

    ผมเคยในเขียนบทความบอกไว้ว่า


    ผู้บริหารปตท.ได้เงินเดือนมากกว่า ผู้บริหารบ.น้ำมันนอร์เวย์2เท่า!!

    ทั้งๆที่ บ.น้ำมันนอร์เวย์ขายน้ำมันทั่วโลกมากกว่าปตท.หลายเท่า!!

    .

    ตอบลบ
  8. ไม่ระบุชื่อ07 มิถุนายน, 2554 01:04

    ชอบบทความพอควรครับ ได้รอบด้าน อย่างที่บอก
    แต่มีข้อติงหน่อยนึงครับ เรื่องมลภาวะจากเครื่องยนต์ครับ
    ผมศึกษาเรื่องนี้พอควร เครื่องยนต์ดีเซลในปัจจุบันก่อมลพิษน้อยกว่าเบนซินแล้วครับ
    และสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงน้อยกว่า ด้วยเทคโนโลยีคอมมอนเรล
    แต่เรื่องราคาขายมันก็แปลกดีอยู่ครับ

    ตอบลบ
  9. ขอบคุณครับคุณด้านบนครับ

    แต่ที่บอกว่าดีเซลก่อมลพิษมากกว่านั้น ผมหมายถึงโดยรวมๆครับ

    เพราะเครื่องยนตร์ดีเซลที่ว่ามลพิษน้อยนั้น ต้องเป็นเครื่องยนตร์รุ่นใหม่ๆทียังมีราคาแพง ซึ่งบ้านเรายังนับว่ามีน้อยครับ

    อย่างเครื่องยนตร์ดีเซลTDI กว่าจะมาแพร่หลายในรถกระบะบ้านเรา คงต้องอีกสักระยะ

    แต่รถบรรทุก รถเมล์ รถบขส. รถ2แถว เรือข้ามฟาก รถไฟ หรืออะไรอีกหลายอย่างในบ้านเรา ยังเป็นดีเซลรุ่นเก่าเป็นส่วนใหญ่ครับ

    ตอบลบ
  10. ไม่ระบุชื่อ26 มิถุนายน, 2554 21:17

    ต้องแก้ไขยังครับ

    ตอบลบ
  11. ไม่ระบุชื่อ14 มีนาคม, 2555 09:52

    ทนๆไปครับเติมเต็มถัง 2,500.-แล้ว อยากเผาปตท.จังจะมีคนให้เป็น รมต.มั๊ยน้าาา

    ตอบลบ
  12. ไม่ระบุชื่อ14 มีนาคม, 2555 16:28

    ปตท.โกงอย่างถูกกฏหมาย พวกเราเลยแย่

    ตอบลบ
  13. ไม่ระบุชื่อ15 กุมภาพันธ์, 2556 10:10

    ขอบคุณครับสำหรับบทความดี ๆ(ผมเพิ่งอ่านเจอ) ปตท. พลังไทย เพื่อใคร ? กรำของกรูเจงๆๆ

    ตอบลบ
  14. แล้วพวกเราคนไทยจะทำอย่างไรต่อไปดีครับ เพราะขรก.หน้าหนาหน้าทนกันเต็มไปหมด บิ๊กตู่ช่วยด้วยครับ

    ตอบลบ
  15. วิธีแก้ขั้นแรก ต้องให้คนไทยเจ้าของประเทศ รับรู้และเข้าใจปัญหานี้ให้ถูกจุดเสียก่อน (เอาสักล้านคน แค่นี้ก็ทำยากแล้วครับ แต่ต้องไม่หยุดทำ) ผมได้เขียนเรื่องที่เกี่ยวกับ ปตท. คือผู้ก่อปัญหาความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้เอาไว้อีกที่หนึ่ง จนต้องใช้ชีวิตแบบหลบๆ ซ่อนๆ มาสามปีแล้ว เพราะโดนข่มขู่หลายช่องทาง หากท่านใดสนใจจะอ่าน ลองเพิ่มเพิ่นในไลน์แอพพลิเคชั่น(ในมือถือ)ด้วยลิงค์นี้
    https://line.me/ti/p/~@550ebgdp
    แล้วเข้าไปอ่านดูครับ

    ตอบลบ

ถ้าแสดงความเห็นตรงช่องนี้ผมจะได้อ่านทุกความเห็นครับ แต่ถ้าความเห็นไม่ขึ้นอาจเพราะระบบรอตรวจสแปม ต้องรอ1-2วัน / ใหม่ เมืองเอก kaeake@ymail.com


ผู้ติดตาม