วันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2552

คำขอร้องของพ่อ 37

atsuhime 37

อ่านเจ้าหญิงอัคสึที่รัก 36
.

การที่ท่านหญิงอัตสึเรียกท่านผู้หญิงฮิสะว่าท่านแม่ ก็เพราะตนเองได้มาเป็นลูกของท่านนาริอาคิระแล้ว แต่การพบกันครั้งแรกระหว่างลูกสาวคนใหม่กับท่านแม่คนใหม่ ช่างไม่น่าประทับใจเลย

ท่านผู้หญิงฮิสะ ภรรยาของท่านนาริอาคิระนั้น เป็นคนที่มาจากสกุล ฮิโตสึบาชิ (จำชื่อตระกูลนี้ไว้นะครับ)

สกุลฮิโตสึบาชิ กับทะยะสุ และชิมิสุ (ตระกูลในบ้าน3หลัง) รวมกันเรียกว่าโกะซังเคียวแต่ละสายสกุลมีเขตปกครองคนละแคว้นคือ โอบาริ คิอิ และมิโตะ ทั้งหมดรวมเรียกว่า โกะซังเขะ

โกะซังเคียว มีหน้าที่รับใช้ใกล้ชิดโชกุน และก็มีคฤหาสถฺอยู่ในปรสาทเอโดะด้วย โชกุนคนที่11 โทกุกาวะ อิเอนาริ ก็มาจากสกุล ฮิโตสึบาชิ นับเป็นสกุลหงส?ในหมู่หงส์

---------------------

หลังจากได้พบกับท่านผุ้หญิงฮิสะในวันนั้นแล้ว โออัตสึก็ยังไม่ได้พบท่านแม่คนใหม่อีกเลยเป็นเวลาหลายวัน อิคุชิมะพยายามไปขอร้องฟูจิโนะ คนสนิทฝ่ายซ้ายของท่านผู้หญิงฮิสะ ถึงขั้นต้องก้มหัวขอร้องแต่กลับถูกดูหมิ่นจากฟูจิโนะอย่างรุนแรง

ฟูจิโนะ "เรื่องอย่างนั้นข้าช่วยท่านไม่ได้หรอกนะ"

อิคุชิมะ "ยังไงก็ขอช่วยบอกท่านผู้หญิงอีกครั้งว่า ยังไงก็ขออนุญาตขอเข้าพบอีกครั้งนะเจ้าคะ"

"คิดว่าท่านผู้หญิงจะให้ยอมพบตามลำพังรึ อิคุชิมะท่านเป็นใครข้าถึงต้องทำตามคำขอ"

"เพราะอย่างนั้น ถึงต้องขอให้ท่านช่วยพูดให้น่ะเจ้าค่ะ"

"ท่านอิคุชิมะ...หัดเจียมตัวซะบ้างนะ!!"

หลังจากที่ท่านผู้หญิงฮิสะไม่ใยดีท่านหญิงอัตสึในวันนั้น ฟูจิโนะที่ในวันแรกเคยนำขนมจากท่านผู้หญิงมาให้ท่านหญิงอัตสึด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ก็ดูเหมือนจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลยในวันนี้

-----------------------

อิคุชิมะนำเรื่องที่ฟูจิโนะพูดจาไม่ให้เกียรติเลยมาเล่าให้ท่านหญิงอัตสึฟัง ท่านหญิงจึงบอกว่า

"ก็เพราะเรามีฐานะเช่นนี้ก็ต้องโดนเมินใส่เป็นธรรมดา"

"แต่ข้าจะไม่ท้อเจ้าค่ะ เรื่องการเป็นมิไดโดโกโระ ยังไงก็จะต้องถามให้กระจ่างให้ได้"

"เกินกำลังเจ้านัก ข้าจะลงมือเองก็แล้วกันนะ" / "หา!"

"บีบให้เขาออกมาไง"

แล้วท่านหญิงอัตสึก็รีบมุ่งหน้าไปที่ห้องรับแขกที่มีม่านบังตาของท่านผุ้หญิงอีกครั้ง เข้าไปนั่งรออยู่ที่หน้าม่าน เมื่อโอโนะชิมะ(คนสวย)กับฟูจิโนะมาเห็นก็เข้ามาถามว่า "ท่านหญิงมาทำอะไรที่นี่เจ้าคะ" ท่านหญิงตอบว่า "ก็จะมารอพบท่านแม่อีกครั้ง"

โอโนะชิมะ(โรโจะฝ่ายขวา)ก็หันไปดุที่อิคุชิมะแทน แต่อิคุชิมะก็ได้แต่ขออภัยและบอกแค่ว่าหากท่านหญืงคิดจะทำการใดแล้ว ก็จะทำโดยไม่เปลี่ยนแปลง

(โอโนะชิมะเป็นโรโจะฝ่ายขวาของท่านผู้หญิงฮิสะ และใหญ่กว่าฟูจิโนะที่เป็นโรโจะฝ่ายซ้าย แต่ทั้งสองคนในตอนนี้ ต้องนับว่าใหญ่กว่าอิคุชมะ เพราะอิคุชิมะเป็นแค่โรโจะของท่านหญิงอัตสึเท่านั้น แถมเป็นท่านหญิงที่มารับจากสายตระกูลย่อยด้วย)

---------------------



และแล้วในเดือนพฤจิกายนปีนั้น ท่านอิเอซาชิก็ได้รับการแต่งตั้งจากราชสำนักให้สืบทอดเป็นท่านโชกุนลำดับต่อไปอย่างเป็นทางการ และท่านอิเอซาชิก็เปลี่ยนชื่อเป็น ท่านอิเอซาดะ ไปพร้อมกันด้วย นี่คือท่านโชกุนคนที่13 โทกุกาวะ อิเอซาดะจึงถือกำเนิดขึ้น (ขณะทำพิธีรับตำแหน่ง ท่านอืเอซาดะ ก็นั่งหาว และเมื่อรับพัดประจำตำแหน่ง ท่านก็เอาโยนเล่นซะงั้น..)

ต่อมาท่านที่ปรึกษาอาเบะ ได้เข้าไปรายงานเรื่องความคืบหน้าของการสรรหาท่านมิไดโดโกระคนใหม่ต่อท่านอิเอซาดะ ซึ่งท่านก็กำลังนั่งวาดรูปท่านฮงจูอินท่านแม่ของท่านอยู่ ท่านอิเอซาดะกลับไม่ใส่ใจเรื่องการพิจารณาสรรหาภรรยาคนใหม่ของท่านเลย

ท่านอิเอซาดะก็เอาแต่นั่งวาดรูป โดยท่านบอกว่าจะวาดรูปท่านแม่ ท่านฮงจูอินก็เลยนั่งตัวแข็งเป็นแบบให้วาด แต่พอวาดเสร็จก็ส่งให้ท่านฮงจูอินดู แต่รูปที่ท่านอิเอซาดะวาดกลับกลายเป็นรูปเป็ดซะ!!


----------------------

ขณะเดียวกันทางสัทสุมะ ท่านทาดาตาเกะก็ป่วยหนักมากขึ้น ไม่สามารถไปทำงานสร้างป้อมปราการที่ท่านเจ้าแคว้นเคยมอบหมายให้ทำได้ คงได้แต่ถามความคืบหน้าจากลูกชายคือทาดายุกิเท่านั้น

นาโอโกโร่ก็ได้ไปเยียมท่านทาดาตาเกะ ซึ่งท่านทาดาตาเกะก็ได้ถามเรื่องที่นาโอโกโร่ไม่ได้ไปเอโดะแล้ว ซึ่งนาโอโกโร่ก็ได้แต่ตอบว่า เป็นเพราะตนด้อยความสามารถเอง

ท่านทาดาตาเกะ "โอคัตสึเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้นะ พอหลับตาลง ก็เห็นแต่หน้าโอคัตสึลอยมา..ข้าคงจะอยู่ได้อีกไม่นานแล้วมั้ง"

ท่านโอยุกิ "อย่าพูดอย่างนั้นสิ ทำใจดีๆไว้เจ้าค่ะ"

"โอคัตสึน่ะ ต้องรับภาระหนักเกินกำลังจะทนได้หรือเปล่า?เป็นห่วงจริงๆเลย"

"โอคัตสึน่ะ เป็นเด็กที่แข็งแรงเหมือนต้นคุโรกาเนะโมจิ ท่านพี่เป็นคนพูดเองไม่ใช่เหรอเจ้าคะ..เด็กคนนั้น่ะ ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไร เขาก็จะหาทางออกจนได้เสมอ"

ทาดายุกิ "จริงด้วยท่านพ่อ"

"จริงสินะ จริงด้วย.
." แล้วท่านทาดาตาเกะก็ค่อยๆผลอยหลับไป

นาโอโกโร่ที่นั่งฟังอยู่ รู้สึกเศร้าใจและเข้าใจในความรู้สึกของท่านทาดาตาเกะ

-----------------

ผ่านมาหลายวันท่านหญิงกับอิคุชิมะ ก็ยังมานั่งรอท่านผ้หญิงที่ห้องรับแขกนั้นเหมือนเดิม

อิคุชิมะ "ดูท่าจะรอเก้อแล้วกระมังเจ้าคะ"

"นี่แค่วันที4เท่านั้นเอง อย่าบ่นเลยนะ "

"โดนท่านหญิงดุด้วยเรื่องแค่นี้ น่าอายจังเลย"

ท่านหญิงอมยิ้ม อิคุชิมะก็อมยิ้มเช่นกัน เจ้านายแกล้งดุ ลูกน้องก็รับมุขตาม ในบรรยากาศการรอที่เงียบเหงา เจ้านายลูกน้องเขาแค่หยอกกันแก้เซ้งน่ะ!

แต่แล้ว โอโนะชิมะก็เข้ามาบอกท่านหญิงว่า ตอนนี้ท่านผู้หญิงได้อนุญาตให้เข้าพบได้แล้ว

------------------------

และเมื่อท่านผู้หญิงฮิสะมาที่ห้องรับแขกหลังม่านนั้นแล้ว

"ท่านแม่ อุตส่าห์ออกมาให้พบ ขอบพระคุณเจ้าค่ะ"

"ข้าไม่ได้อยากพบเจ้านักหรอก โอโนะชิมะร้องไห้เสียจนข้ารำคาญ" / "เจ้าค่ะ"




"ข้าไม่มีอะไรจะพูดกับเจ้า เจ้ามีอะไรก็ว่ามาเลย"

"ถ้างั้น เรื่องที่เป็นมิไดโดโกโระ ที่ท่านแม่กล่าวว่า ไม่มีใครกำหนดได้น่ะเจ้าค่ะ..หมายความว่า แม้แต่ท่านพ่อก็ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้รึเจ้าคะ"

"เจ้าก็ไปถามท่านเอง ท่านกำลังจะมาเอโดะ"
พูดเสร็จท่านฮิสะก็ลุกขึ้นจะออกไป

"หยุดก่อนเจ้าค่ะท่านแม่"

"ท่านแม่!?ของเจ้างั้นรึ!?" ท่านฮิสะทำเป็นแปลกใจที่อัตสึเรียกท่านอย่างนี้

"มีเรื่องอยากจะถามอีกอย่างนึงเจ้าค่ะ..เพราะข้าเกิดในสกุลย่อยของชิมะสึ ท่านแม่จึงเย็นชากับข้าถึงปานนี้ ด้วยเหตุนั้นรึเปล่าเจ้าคะ?"

ท่านผู้หญิงฮิสะไม่ตอบแล้วก็กำลังจะเดินออกไปจากห้อง แต่ท่านหญิงก็ร้องตะโกนห้าม "หยุดก่อนเจ้าค่ะ หยุดก่อนท่านแม่!"

ท่านหญิงอัตสึพยายามพุ่งถลาเข้าไปห้าม จนมือไปปัดโดนฉากม่านล้มลง แล้วท่านหญิงจึงได้มองเห็นว่า ท่านผู้หญิงฮิสะได้มีผ้าปิดหน้าตัวเองอยู่ด้วย ท่านผู้หญิงฮิสะผงะแล้วรีบวิ่งหนีออกไปทันที ทำให้ท่านหญิงอัตสึตกใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

จนเมื่อกลับไปที่ห้องพักแล้ว อิคุชิมะจึงได้ไปไต่ถามหาความจริงมาบอกให้ท่านหญิงอัตสึรู้

"ที่ท่านผู้หญิงฮิสะต้องใช้ผ้าปิดบังใบหน้านั้น เพราะเมื่อท่านผู้หญิงยังเด็กท่านเคยป่วยเป็นไข้ทรพิษ จึงทำให้มีแผลเป็นที่หน้า ท่านจึงกลายเป็นคนเก็บตัว น้อยครั้งนักที่จะออกมาพบผู้คนในสภาพแบบนั้นน่ะเจ้าค่ะ"

"เพราะเหตุนั้นเองหรือ โล่งอกไปที นึกว่าทานรังเกียจข้าเสียอีก"

"น่าสงสารจังเลย ท่านแม่คงจะรู้สึกเหงามากสินะ.."



-------------------------

พอขึ้นปีใหม่ผ่านไปได้เพียงแค่11วัน กองเรือรบของเพอร์รี่ก็รุกล้ำเข้ามาในน่านน้ำอุรางะ สถานการณ์ปั่นป่วน ราคาของทุกชนิดก็แพงขึ้นลิบลิ่ว ทางเอโดะเองก็กำลังตกอยู่ในสภาวะวุ่นวายอย่างหนัก

ท่านอี นาโอเกะ(จำชื่อท่านนี้ไว้ให้ดี) ท่านเป็นเจ้าแคว้นที่มีฐานะพิเศษในหมู่ฟุไดไดเมียว (ไดเมียวก็มีหลายชั้น แต่ฟุไดไดเมียวคือระดับชั้นของไดเมียวที่มีอำนาจมากที่สุดเป็นรองแค่โชกุนเท่านั้น) และท่านอี ก็ยังเป็นประมุขตระกูลอีแห่งแคว้นฮิโคเนะอันสำคัญด้วย

การประชุมของบะขุฝุจึงมีท่านอี นาโสเกะ กับท่านโทกุกาวะ นาริกากิแห่งแคว้นมิโตะที่มีอำนาจมากในบะขุฝุ ทั้งสองคนนี้มีความคิดที่ขัดแย้งกันอย่างชัดเจน เช่นในสถานการณ์ที่เรือรบอเมริกาบุกมาป้วนเปี้ยนญี่ปุ่นตอนนี้

ทางท่านผู้เฒ่าแห่งแคว้นมิโตะ ซึ่งต่อต้านต่างชาติอย่างรุนแรงมีความเห็นว่า ต้องรบกับเรือรบอเมริกาเท่านั้น ส่วนท่านอี ไม่เห็นด้วยอย่างสิ้นเชิง

ท่านอี "ความคิดของท่านนาริอากิ ข้ายอมรับไม่ได้จริงๆนะขอรับ"

ท่านนาริอากิ "พูดอะไร! ฝรั่งบุกเข้ามาถึงทะเลในเอโดะมันแย่มาก คราวนี้ข้าจะสั่งให้ยิงมันให้ป่น ไม่เหลือแม้แต่ลำเดียว"

"มันจะรุนแรงไปหน่อยละมั้งขอรับ"

"ไม่คิดเลยว่าท่านอีจะพูดแบบนี้ออกมาได้ "

"ถ้าทำอย่างนั้นในระหวางที่ยังไม่ได้เจรจากัน เกรงว่าฝรั่งเอาปืนมายิงถล่มเรา แล้วจะทำยังไงล่ะขอรับ"

"ก็ยิงตอบมันสิ"

"มันก็จะกลายเป็นสงครามนะขอรับ"

"สั่งให้ทุกคนเตรียมสู้ตายไว้ก่อนเลย ถ้ารบกันจริงยังไงเราก็ชนะแน่"

"อย่าหวังไปเลย!"

"ทำไมจะหวังไม่ได้ ท่านไม่เชื่อกำลังทหาร8ล้านคนของเราเหรอ!"


ทั้งสองตนไม่มีใครยอมใครเพราะใหญ่ด้วยกันทั้งคู่ ทำให้ท่านที่ปรึกษาอาเบะหนักใจมาก ท่านโยชินางะเลยแนะนำให้เลยเสนอท่านอาเบะว่า ควรเรียกท่านนาริอาคิระกลับมาเอโดะโดยเร็วที่สุด
.
อ่านเจ้าหญิงอัตสึที่รัก 38
.
.
.

2 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ22 ตุลาคม, 2552 17:36

    อยากอ่านต่อเร็วๆค่ะ ขอบคุณที่เขียนเรื่องดีๆให้อ่าน

    ตอบลบ
  2. ผมก็อยากจะเขียนให้ถึงตอนปัจจุบันเสียเหลือเกิน เพราะตอนได้ดูวันนี้แล้ว กำลังมันส์มาก แต่ก็ทำไม่ได้เพราะ ต้องค่อยๆเขียนไปเรื่อยๆ

    อดใจรออ่านไปเรื่อยๆนะครับ

    ตอบลบ

ถ้าแสดงความเห็นตรงช่องนี้ผมจะได้อ่านทุกความเห็นครับ แต่ถ้าความเห็นไม่ขึ้นอาจเพราะระบบรอตรวจสแปม ต้องรอ1-2วัน / ใหม่ เมืองเอก kaeake@ymail.com


ผู้ติดตาม