อ่านอัตสึฮิเมะที่รัก30
ในประเทศจีนและญี่ปุ่นนั้นได้มีการส่งเสริมให้ประชาชนเล่นหมากล้อมให้แพร่หลาย เพราะหมากล้อมช่วยเสริมสร้างสมองและความคิดที่รอบคอบแก่ทุกคน หมากล้อมจึงเป็นกีฬาฝึกสมองที่ดี
การเล่นอีโกหรือหมากล้อมเป็นสิ่งที่อัตสึชอบมาก ในเรื่องนี้เราก็จะได้เห็นการเล่นหมากล้อมของอัตสึอยู่เสมอ และบทนี้เราก็จะได้รู้เหตุผลว่าทำไมอัตสึถึงชอบเล่นอีโกนัก!?
ส่วนในประเทศไทยก็มีการเล่นโกะ โดยคุณก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ประธานบริษัท7-11ก็คือผู้บุกเบิกกีฬาหมากล้อมในไทยครับ (อ่านเรื่องคุณกอบศักดิ์)
---------------------
บทที่31
เมื่อการแสดงจบลง ก็ถึงขั้นตอนที่ให้แขกแต่ละตระกูลได้เข้าพบอวยพร ซึ่งคนแรกที่ได้เข้าพบคือบ้านตระกูลชิเงโทมิของท่านทาดายุกิ น้องชายต่างมารดาของท่านเจ้าแคว้น
.
(ซึ่งจากที่ดูผมคิดว่า การที่ท่านทาดายุกิอยู่คนละตระกูลกับท่านนาริอาคิระ ผมคิดเองว่าเป็นเพราะไม่ได้เป็นลูกเมียหลวงเลยต้องแตกสกุลย่อยลงไป กลายเป็นชิเงโทมิชิมมะสึ หรืออาจจะถูกส่งให้ไปเป็นเจ้าบ้านชิเงโทมิก็ได้)
.
ท่านทาดายุกิ " ขออวยพรให้ท่านหญิงจงเดินทางไปเอโดะด้วยความปลอดภัย และจงประสบความโชคดีตลอดไปขอรับ"
ท่านทาดายุกิตอนนี้ถือว่าศักดิ์ตระกูลต่ำกว่าท่านหญิงแล้ว จึงต้องทำก้มหัวทำเคารพต่อท่านหญิง ก่อนหน้าที่อัตสึจะได้มาเป็นท่านหญิงสายตรงท่านทาดายุกิก็เคยมาทาบทามสู่ขอโอคัตสึจากท่านทาดาตะเกะเพื่อให้ลูกชายของตนที่ชื่อท่านอุกง และท่านอุกงก็เข้ามาร่วมอวยพรด้วยเช่นกัน
อัตสึ "ขอบใจมาก สำหรับคำอวยพระของท่าน"
"เคยได้ยินว่า ท่านหญิงน่ะโปรดการเล่นอีโกมากใช่มั้ยขอรับ?"
"ใช่" โอคัตสึตอบอย่างยิ้มแย้มทันทีเมื่อมีคนถามถึงอีโก
"ข้าต้องขอเสียมารยาท.. แต่ว่าท่านเป็นหญิง อาจจะดูแปลกไปสักนิด"
"ตรงกันข้าม..เพราะข้าเป็นหญิงน่ะสิถึงชอบ" / "อ๋อ.."
(ต่อไปอยากให้พิจารณาดูคำอธิบายของอัตสึถึงสาเหตุที่เธอเล่นอีโกครับ)
"เบี้ยที่ใช้ก็ต่างกับหมากรุก ไม่ต้องมีระดับชั้น ไม่มีตัวเล็กหรือว่าตัวใหญ่ เพราะว่าตราบใดที่มีเบี้ยตัวใหญ่ที่สำคัญ ก็ย่อมมีเบี้ยเล็กที่ไร้ความหมาย.." / "นั่นสินะ?"
"เบี้ยที่เราคิดจะเดินต่อก็แตกต่างกันไปแล้วแต่สถานการณ์บนกระดาน"
"หมายความว่า แม้เป็นหญิง ก็อาจอยู่ในฐานะที่ควบคุมทุกสิงได้"
"ข้าไม่ได้หมายความว่าขนาดนั้น..เพียงแค่..อดที่จะคิดถึงคุณค่าของเบี้ยแต่ละตัวไม่ได้ก็เท่านั้นน่ะ"
"คุณค่ารึ?"
"ใช่..หากเป็นชายที่เกิดมาในตระกูลนักรบ ก็จะสามารถก้าวเดินไปในเส้นทางที่ตนเองตั้งใจได้ แต่ว่า..ทางเดินของหญิงมีเพียงเส้นทางเดียว ไม่สามารถเปลี่ยนชะตาชีวิตตัวเองได้" (พอโออัตสึตอบประโยคนี้ ท่านนาริอาคิระถึงกับชำเลืองมองอัตสึ)
"เพราะฉะนั้น เบี้ยที่เดินไปตามเส้นทางที่กำหนดได้ ถือว่ามีคุณค่ารึ"
"ใช่ แต่อาจจะรู้สึกอิจฉาเบี้ยตัวอื่นบ้างน่ะ" โออัตสึตอบอย่างยิ้มแย้ม
ท่านทาดายุกิได้มองไปทางท่านนาริอาคิระแล้วพูดว่า "เหตุผลที่ ท่านพี่เลือกท่านหญิงนั้น ข้าคิดว่าพอจะเข้าใจอะไรได้บ้างแล้วล่ะ"
"งั้นรึ?.." ท่านนาริอาคิระตอบอย่างพอใจ
(โออัตสึเป็นหญิงที่กำหนดชะตาตนเอง ไม่ใช่ให้ใครมากำหนด อาจอิจฉาหญิงชาวบ้านอื่นบ้างที่ได้อยู่ใกล้ครอบครัวที่ตนรัก "แตวิถีแห่งสตรีย่อมไม่หันกลับมาให้อายคนนะเจ้าคะ")
-------------------------
ในบรรดา4ครอบครัวที่มีเชื้อสายสัมพันธ์กับตระกูลหลักของชิมะสึ ครอบครัวสุดท้ายก็คือ บ้านอิไมสุมิชิมะสึ ซึ่งอัตสึก็เฝ้ารอที่จะพบบ้านนี้เป็นที่สุด
เมื่อเข้ามาในห้องแล้ว ทุกคนในบ้านอิไมสุมิก็ต้องก้มหัวทำความเคารพต่อท่านเจ้าแคว้นกับท่านหญิงอัตสึ และท่านทาดาตาเกะก็เริ่มกล่าว
"สำหรับท่านหญิงอัตสึ ขออวยพรให้จงปลอดภัย ตลอดการเดินทางนะขอรับ ไม่เคยคาดฝันมาก่อนว่า จะได้รับเกียรติ เชิญมาร่วมงานในวันนี้ ยังไงก็ตามต้องขอขอบคุณจากใจขอรับ" ท่านพ่อกล่าวจบก็ก้มหัวคาราวะต่อท่านหญิง
ท่านโอยุกิ "ขอให้ท่านหญิงจงมีสุขภาพที่ดีอย่างนี้ตลอดไปเจ้าค่ะ" ท่านแม่ก็ก้มหัวให้ท่านหญิงอีกครั้งเช่นกัน
อิคุชิมะจับตาดูท่านหญิงและคนบ้านอิไมสุมิจนตาแทบไม่กระพริบ คงเพราะกลัวจะเกิดความผิดพลาดจากขนบปฏิบัติ เนื่องด้วยเป็นคนในครอบครัวเดิมของท่านหญิง ส่วนท่านหญิงสีหน้าก็เริ่มเศร้าอย่างเห็นได้ชัด และนิ่งจนลืมที่จำกล่าวคำขอบคุณตอบ จนอิคุชิมะต้องเรียกเตือน
"ท่านทาดาตาเกะ" / "ขอรับ"
"ท่านโอยุกิ" / "เจ้าคะ"
"ท่านทาดาฟุยุ(พี่คนที่2) ท่านทาดายุกิ(พี่คนที่3)" / "ขอรับ!!"
"คำอวยพรของท่าน ขอรับไว้ด้วยใจอันซาบซึ้ง" / "ขอรับ/เจ้าค่ะ"
โออัตสึแม้น้ำตาคลอแต่ก็ไม่ยอมให้ไหลออกมา
'แม้อยู่ใกล้เพียงเอื้อม แต่เหมือนอยู่ไกลลับฟ้า' โออัตสึคงจะรู้สึกเช่นนี้กระมัง..
----------------------
เมื่อสายตระกูลทั้ง4ผ่านไป ก็จะเป็นลำดับตระกูลอื่นๆเรียงตามระดับชั้นต่อไปเช่นเดิม (เช่นตระกูลโคมัทสึของท่านอาจารยฺคิโยมิชิกับโอชิคะก็ได้เข้าพบอวยพรก่อนตระกูลคิโมสึกิของนาโอโกโร่ เป็นต้น)
การเข้าอวยพรของตระกูลต่างๆก็ดำเนินไปภายใต้บรรยากาศและสีหน้าเศร้าๆของโออัตสึ ซึ่งยังดำเนินเป็นไปตามพิธีเรื่อยๆ แต่ขาดจิตวิญญาณของผู้รับคำอวยพรไปแล้ว
ฮิโรกาวะ "ท่าทางของท่านหญิงดูจะ.." / "ข้าเห็นอยู่แล้ว!" อิคุชิมะดุเล็กน้อย
ฮิโรกาวะ
---------------------
จนกระทั่งมาถึงลำดับของตระกูลคิโมสึกิ เมื่อคนประกาศเรียกชื่อตระกูลนี้ โออัตสึที่เซื่องซึมอยู่ก็เงยหน้าขึ้นมองหาทันที
"คิโมสึกิ คาเงโยชิขอรับ ขออวยพรให้ท่านหญิง จงเดินทางได้อย่างราบรื่น และไปถึงจุดหมายโดยสวัสดิภาพขอรับ"
ท่านนาริอาคิระสังเกตโออัตสึ แล้วพูดขึ้นว่า "ส่วนอีกคน คิโมสึกิ นาโอโกโร่ ใช่หรือไม่?"
"ขอรับ! วันนี้ข้ามาเป็นตัวแทนของพี่ชายขอรับ" / "อย่างนั้นรึ"
"ข้าได้นำของมาให้ท่านหญิงด้วย แม่ของโอคุโบะ โชสุเกะ เพื่อนของข้าฝากมาเพื่อมอบสิ่งนี้ให้ท่านหญิงให้ได้ขอรับ"
ถึงตอนนี้ความรู้สึกอัดอั้นตันใจที่ท่านหญิงพยายามระงับไว้ ก็แทบจะล้นออกมาแล้ว แววตาคลอไปด้วยน้ำตา อิคุชิมะสังเกตเห็นความผิดปกตินั้น จึงเรียกเตือน "ท่านหญิงเจ้าคะ"
"แล้วจากนี้ไป ข้าจะเป็นมิตรที่ดีของทุกคนในบ้านอิไมสุมิตลอดไปขอรับ"
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของนาโอโกโร่แล้ว ท่านหญิงอัตสึก็ลืมตัวลืมฐานะ ทำมือเป็นรูป3เหลี่ยมท่าเตรียมก้มหัว แล้วพูดด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า
"ท่านนาโอโกโร่..เรื่องของบ้านอิไมสุมิ ยังไงก็ ฝากท่านให้ช่วยดูแลด้วยนะเจ้าคะ" แล้วท่านหญิงก็ก้มหัวแก่นาโอโกโร่ แล้วร้องไห้ออกมา
"ท่านหญิงเจ้าคะ ท่านหญิง.." เมื่อเห็นสภาพท่านหญิงที่ร้องไห้ไม่หยุดในตอนนี้แล้ว อิคุชิมะก็เลย "ขออนุญาต หยุดพิธีอวยพรเพียงเท่านี้ก่อนเจ้าค่ะ"
บ้านคิโมสึกิจึงลากลับออกไป นาโอโกโร่เองก็รู้สึกเศร้าไม่น้อยเช่นกัน...
****************
.
ในห้องพัก อิคุชิมะก็เริ่มดุทันที "ข้ากำชับถึงขนาดนั้นแล้ว แต่ไม่มีประโยชน์เลย สิ่งที่ทำไปไม่รักษาหน้าของนายท่านเลยนะเจ้าคะ"
.
"ขอโทษ.." / "ไม่ได้ยินเจ้าค่ะ"
.
"ก็บอกว่าขอโทษไงเล่า!!"
.
"หลังจากนี้อีกครึ่งชั่วโมงเราจะทำพิธีต่อ.."
.
อ่านเจ้าหญิงอัตสึที่รัก32
.
.
วันนี้ก็เข้ามาอ่านนะคะ
ตอบลบถ้าไม่ติดอะไรก็จะเข้ามาอ่านทุกวัน
ขอบคุณนะคะ
N-JOY