วันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2552

พายุในงานชมดอกไม้ 45

atsuhime 45


อ่านเจ้าหญิงอัตสึที่รัก 44

ส่วนทางสัทสุมะ นาโอโกโร่ที่ได้รับตำแหน่งเป็นโกะคินจูหรือคนสนิทของท่านเจ้าแคว้นแทนท่านอาจารย์คิโยมิชิ ที่ท่านถูกย้ายไปริวกิวแล้ว แต่นาโอโกโร่ก็ยังมีท่าทางซังกะตาย เพราะงานในตำแหน่งนี้ หากท่านเจ้าแคว้นไม่อยู่ ตำแหน่งนี้ก็ไม่ค่อยมีอะไรให้ทำเท่าไหร่เลย

ขนาดท่านพ่อของนาโอโกโร่เห็นลูกชายมีอาการเป็นเช่นนี้อุตส่าห์ออกมาเตือนสติ แต่นาโอโกโร่ก็หาจะเข้าใจไม่

ท่านคาเนโยชิ "ตำแหน่งข้ารับใช้ที่ต้องอยู่ใกล้ชิด รับบัญชาในทุกเรื่องเนี่ย ถือเป็นหน้าที่ที่สำคัญที่เจ้าต้องเรียนรู้งานให้ดี ก่อนที่นายท่านจะกลับมา"

"เรื่องนั้นน่ะข้ารู้อยู่แล้ว"

"ถ้ารู้อยู่แล้วก็อย่าทำอะไรที่ทำให้บ้านคิโมสุกิต้องเสียหน้าล่ะ"


นาโอโกโร่ไม่อยากอยู่ฟัง เลยขอตัวออกจากบ้านไปทันที ท่านพ่อเลยบ่นไล่หลังไปว่า "นี่ข้ายังไม่ทันจะพูดจบเลยนะ!"

---------------------

แล้วนาโอโกโร่ก็ได้ไปบ้านท่านอาจารย์คิโยมิชิพร้อมกับท่านโอคุโบะ เพราะท่านโอคุโบะจะนำของขวัญในโอกาสที่ท่านพ่อของท่านโอคุโบะได้กลับมาจากเนรเทศแล้ว ซึ่งท่านพ่อของท่านโอคุโบะได้นำกลับมาด้วยเป็นผลไม้ และบอกให้นำไปฝากให้บ้านโคมัทสึ ซึ่งในตอนนี้เหลือเพียงแค่โอชิคะอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น

โอชิคะ "ขอบใจท่านมากที่อุตส่าห์เอามาให้ และฝากขอบคุณท่านพ่อของท่านด้วยนะ" / "ขอรับ"

แล้วนาโอโกโร่ก็ถามโอชิคะถึงข่าวคราวของท่านอาจารย์ที่ไปอยู่ที่ริวกิว แต่โอชิคะบอกว่าท่านอาจารย์ไม่ได้ส่งข่าวกลับมาเลย เมื่อพูดถึงเรื่องข่าวคราว ท่านโอคุโบะเลยนึกได้ว่า ได้รับจดหมายจากท่านไซโกเขียนมาเล่าเรืองที่เอโดะให้ฟังด้วย แล้วท่านโอคุโบะก็นำจดหมายออกมาอ่านให้ทุกคนได้รับรู้ข่าวจากท่านไซโก

โอคุโบะ "จดหมายจากท่านคิชิโนสุเกะส่งมาจากเอโดะด้วย มีเรื่องที่สั่งว่าให้บอกท่านคิโมสึกิให้ได้ด้วยนะ"

นาโอโกโร่ "ว่ามาเร็วเข้า!"

"ดูเหมือนจะได้รู้จักผู้คนมากมาย ทั้งจากมิโตะ โทสะ และก็เอจิเซ็น เขียนว่า เมื่อวันก่อนมีเรื่องบางอย่าง ที่อยากจะเล่า.."

และหลังจากนั้นในจดหมายก็เป็นการเล่าเหตุการณ์ที่ท่านไซโกกับท่านเจ้าแคว้นได้สนทนากัน ตามนี้

ไซโก "คนในบ้านพากันพูดว่า พวกชาวมิโตะร่ำลือกันว่าเจ้าเมืองสัทสุมะได้ถูกฮอลันดาครอบงำเป็นพวก..รัน.."

ท่านนาริอาคิระ "รันเปกิรึ?" (รันเปกิหมายถึง พวกคลั่งไคล้ชาวตะวันตก)

"บอกว่า ท่านเป็นพวกรันเปกิมากเกินไป ต้องขออภัยด้วย แต่ข้าคิดว่าเรื่องนี้ยังไงๆก็อยากให้นายท่านระมัดระวังตัวไว้ จะเป็นผลดีกับตัวนายท่านเองมากกว่านะขอรับ"

"ไซโก! สมมุติว่าที่นี่มีคนป่วยใกล้ตายอยู่ และมียาอยู่2ชนิด ยาตัวนึงรักษาอาการป่วยได้ อีกตัวนึงรักษาไม่ได้ หากเป็นเจ้า เจ้าจะให้ยาตัวไหน?"

"แน่นอน ก็ต้องให้ยากที่รักษาได้สิขอรับ"

"แม้ว่ายานั้นจะมาจากพวกตะวันตกอย่างนั้นรึ" / "ถ้างั้น..."

"แล้วถ้าคนป่วยใกล้ตายนั่นคือ ญี่ปุ่น! เพราะไม่รับรู้ว่าโลกนี้มีประเทศที่เหนือกว่าอยู่ เอาแต่เชื่อว่าหากเราฝันถึงความสงบสุขให้มากเข้าไว้ ก็จะมีชีวิตที่ยืนนานมันโง่มากจริงไหม?"


ท่านไซโกยังคงไม่อาจตอบอะไรได้ เพราะยังคงสับสนในความคิด


"ไซโก!" / "ขอรับ"

"จะถามเจ้าอีกครั้ง ถ้าเป็นเจ้า..เจ้าจะช่วยคนป่วย รึจะปล่อยให้ตาย?"

"เลือกที่จะช่วยชีวิตอยู่แล้วขอรับ!"

และนั่นคือเนื้อความในจดหมายที่ท่านไซโกเขียนมาเล่าให้ท่านโอคุโบะและนาโอโกโร่ได้รับรู้ ซึ่งก็มีโอชิคะนั่งฟังอยู่ด้วย

โอชิคะ "เป็นเรื่องที่ดีมากเลยนะ"

นาโอโกโร่ "แต่ว่าข้าก็ยังอิจฉาท่านไซโกอยู่ดี ดูข้าสิ ถึงเข้าไปที่ปราสาทก็ไม่มีอะไรให้ทำอยู่ดี..."


คำพูดของนาโอโกโร่นี้ โอชิคะได้ฟังแล้วก็มีสีหน้าที่ครุ่นคิดอะไรบางอย่าง แต่คิดอย่างไรนั้นโอชิคะยังไม่อยากพูดอะไรเกี่ยวกับความรู้สึกนึกคิดของนาโอโกโร่ในตอนนี้ แต่อีกไม่นานโอชิคะจะต้องได้พูดแน่นอน...

โอคุโบะ "อย่างนั้นรึ?"

"เพราะนายท่านไม่ได้อยู่ที่ปราสาทเลย จะว่าช่วยไม่ได้ก็จริงนะ แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ก็เหมือนกับคนที่ไร้ประยชน์นั่นแหล่ะ"

ท่านโอคุโบะก็เศร้าตามนาโอโกโร่ไปด้วย แต่โอชิคะนี่สิครับ สีหน้าเธอช่างแฝงความรู้สึกมากมายทีเดียว


-------------------------

ท่านหญิงอัตสึกำลังฝึกซ้อมโคโตะ โดยมีอิคุชิมะกำกับการฝึก ขณะนั้นเองโอโนะชิมะก็ได้นำหนังสือหลายห่อเข้ามาให้ท่านหญิง ซึ่งมีหนังสืออยู่หลายเล่ม

โอโนะชิมะ "ไดนิปปอนชิ เจ้าค่ะ"


ท่านหญิงอัตสึ "อะไรกัน ไดนิปปอนชิ ก็มีอยู่ในห้องหนังสือแล้วนี่"

"เดิมที ไดนิปปอนชิเป็นหนังสือประวัติศาสตร์เมื่อเกือบ200ปีที่แล้ว ที่ท่านขุนนางมิตสึคุนิเจ้าบ้านรุ่นที่2ของตระกูลมิโตะเป็นผู้รวบรวม"

"เรื่องนั้นข้าก็รู้อยู่แล้วนี่นา"

"กรุณาฟังก่อนเจ้าค่ะ ทั้งหมดนี่เป็นผลงานของท่านนาริอากิ ซึ่งเป็นผู้รวบรวมขึ้นเองใหม่ทั้งหมดเจ้าค่ะ"

"อย่างนั้นเองเหรอ?"

"ก่อนที่จะพบขุนนางผู้ใหญ่จากมิโตะ นายท่านบอกว่า ควรจะอ่านคร่าวๆผ่านตาเอาไว้บ้าง จึงให้ขนมาให้เจ้าค่ะ"

"รอบคอบสมกับเป็นท่านพ่อจริงๆ" ท่านหญิงอัตสึยิ้มอย่างพอใจ

อิคุชิมะ "ท่านหญิงเจ้าคะ!" / "อะไรเหรอ.."

"จากนี้ไป ทุกวันต้องอ่าน ไดนิปปอนชิ ให้ดีนะเจ้าคะ"

"ทำไมต้องทำตาลุกแบบนั้นด้วยนะ"

หลังจากนั้นท่านหญิงก็อ่านไดนิปปอนชิอย่างเอาจริงเอาจังมุ่งมั่นทุกเล่ม โดยมีอิคุชิมะคอยนั่งกำกับพร้อมทั้งให้กำลังใจอยู่ด้วย

----------------------------

และวันที่จะได้พบท่านมิโตะก็มาถึง เมื่อท่านนาริอากิ ท่านโยชินางะ และท่านมุเนะนาริ แขกรับเชิญได้มานั่งจิบสุราชมดอกไม้บานในสวนแล้ว


ท่านนาริอากิ "โอ!ช่างงดงามจริงๆ ดูท่าข้าจะเมาดอกไม้แทนเมาสุราแล้วสิ"

ท่านนาริอาคิระ "ถ้าอย่างนั้นก้ดีน่ะสิขอรับ...ทุกท่าน ข้าคิดว่าจะให้อัตสึโกะธอดาขอข้า เข้ามาทำความรู้จักกับทุกท่านเสียตอนนี้เลยดีไหมขอรับ"

ท่านโยชินางะ กับท่านมุเนะนาริ ต่างเห็นด้วยกัยความคิดของท่านนาริอาคิระ

"ท่านนาริอากิว่ายังไงล่ะขอรับ" ท่านนาริอาคิระลองเลียบเคียงถาม

"คนที่เคยพูดถึงน่ะรึ..เอาสิตามใจท่าน"

แล้วท่านนาริอาคิระก็สั่งให้เปิดประตู ซึ่งมีท่านหญิงก็นั่งคำนับรออยู่แล้ว

"นางคืออัตสึโกะขอรับ" ท่านนาริอาคิระแนะนำ

ท่านนาริอากิมองอัตสึด้วยสีหน้าเคร่งขรึมอาจเพราะไม่ได้อยากพบ แต่ก็จำต้องพบตามมารยาทของแขกที่ดี ที่ควรให้เกียรติแก่ท่านเจ้าบ้าน


อัตสึโกะ "ทุกๆท่านเจ้าคะ ข้ารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติให้เข้าพบในวันนี้ ข้าคืออัตสึโกะเจ้าค่ะ แม้จะหวั่นวิตกกับการที่จะได้พบกับทุกท่านในวันนี้เพียงใด แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกปิติยินดีเป็นอย่างมาก ขอเชิญทุกๆท่านสังสรรค์ตามสบายนะเจ้าคะ"


ด้วยบรรยากาศที่งดงามของดอกซากุระ ท่านหญิงปรากฏตัวออกมาในชุดกิโมโนที่สวยงามรับกับสีของซากุระที่กำลังบานสะพรั่ง ทำให้ท่านนาริอากิค่อนข้างตะลึงกับความงดงามน่ารักของท่านหญิงพอควร

ท่านนาริอากิ "เจ้าคืออัตสึโกะใช่มั้ย..มาดื่มด้วยกันสักหน่อยสิ" / "เจ้าค่ะ!" ท่านหญิงยิ้มรับ


แล้วท่านหญิงก็รับถ้วยเหล้าจากท่านมิโตะมาดื่มอย่างดงาม โดยที่ท่านมิโตะมองตาแทบไม่กระพริบ(อาจเพราะแลเห็นความน่ารักและกิริยามารยาทที่ดูงดงามชวนมองของอัตสึก็เป็นได้)

"รสชาติดีมากเจ้าค่ะ" / "งั้นรึ"

ท่านนาริอาคืระถอนหายใจโล่งอกไปเปราะนึง เมื่อท่านนาริอากิมีน้ำเสียงที่ดูผ่อนคลายมากขึ้น และเมื่อท่านหญิงได้ดื่มเหล้าหมดถ้วยแล้ว ท่านหญิงก็ได้เริ่มถามท่านนาริอากิว่า

"นายท่านข้าขอถามทานสักเรื่องได้มั้ยเจ้าคะ?" / "อะไรรึ"

"เรื่องเกี่ยวกับไดนิปปอนชิน่ะเจ้าค่ะ"

"ท่านหญิงรู้จักหนังสือของตระกูลข้าด้วยรึ"

"เจ้าค่ะ พอขึ้นมาเอโดะก้อ่านมาตลอดน่ะเจ้าคะ"

"รึ! แล้วคิดว่าเป็นยังไงบ้างล่ะ?"

การสนทนาของท่านหญิงกับท่านนาริอากิ ยังไม่จบ กรุณาติดตามอ่านต่อในตอนหน้าครับ....


.
.
.
.
.
.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ถ้าแสดงความเห็นตรงช่องนี้ผมจะได้อ่านทุกความเห็นครับ แต่ถ้าความเห็นไม่ขึ้นอาจเพราะระบบรอตรวจสแปม ต้องรอ1-2วัน / ใหม่ เมืองเอก kaeake@ymail.com


ผู้ติดตาม