อ่านเจ้าหญิงอัคสึที่รัก 36
.
การที่ท่านหญิงอัตสึเรียกท่านผู้หญิงฮิสะว่าท่านแม่ ก็เพราะตนเองได้มาเป็นลูกของท่านนาริอาคิระแล้ว แต่การพบกันครั้งแรกระหว่างลูกสาวคนใหม่กับท่านแม่คนใหม่ ช่างไม่น่าประทับใจเลย
ท่านผู้หญิงฮิสะ ภรรยาของท่านนาริอาคิระนั้น เป็นคนที่มาจากสกุล ฮิโตสึบาชิ (จำชื่อตระกูลนี้ไว้นะครับ)
สกุลฮิโตสึบาชิ กับทะยะสุ และชิมิสุ (ตระกูลในบ้าน3หลัง) รวมกันเรียกว่าโกะซังเคียวแต่ละสายสกุลมีเขตปกครองคนละแคว้นคือ โอบาริ คิอิ และมิโตะ ทั้งหมดรวมเรียกว่า โกะซังเขะ
โกะซังเคียว มีหน้าที่รับใช้ใกล้ชิดโชกุน และก็มีคฤหาสถฺอยู่ในปรสาทเอโดะด้วย โชกุนคนที่11 โทกุกาวะ อิเอนาริ ก็มาจากสกุล ฮิโตสึบาชิ นับเป็นสกุลหงส?ในหมู่หงส์
---------------------
หลังจากได้พบกับท่านผุ้หญิงฮิสะในวันนั้นแล้ว โออัตสึก็ยังไม่ได้พบท่านแม่คนใหม่อีกเลยเป็นเวลาหลายวัน อิคุชิมะพยายามไปขอร้องฟูจิโนะ คนสนิทฝ่ายซ้ายของท่านผู้หญิงฮิสะ ถึงขั้นต้องก้มหัวขอร้องแต่กลับถูกดูหมิ่นจากฟูจิโนะอย่างรุนแรง
ฟูจิโนะ "เรื่องอย่างนั้นข้าช่วยท่านไม่ได้หรอกนะ"
อิคุชิมะ "ยังไงก็ขอช่วยบอกท่านผู้หญิงอีกครั้งว่า ยังไงก็ขออนุญาตขอเข้าพบอีกครั้งนะเจ้าคะ"
"คิดว่าท่านผู้หญิงจะให้ยอมพบตามลำพังรึ อิคุชิมะท่านเป็นใครข้าถึงต้องทำตามคำขอ"
"เพราะอย่างนั้น ถึงต้องขอให้ท่านช่วยพูดให้น่ะเจ้าค่ะ"
"ท่านอิคุชิมะ...หัดเจียมตัวซะบ้างนะ!!"
หลังจากที่ท่านผู้หญิงฮิสะไม่ใยดีท่านหญิงอัตสึในวันนั้น ฟูจิโนะที่ในวันแรกเคยนำขนมจากท่านผู้หญิงมาให้ท่านหญิงอัตสึด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ก็ดูเหมือนจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลยในวันนี้
-----------------------
อิคุชิมะนำเรื่องที่ฟูจิโนะพูดจาไม่ให้เกียรติเลยมาเล่าให้ท่านหญิงอัตสึฟัง ท่านหญิงจึงบอกว่า
"ก็เพราะเรามีฐานะเช่นนี้ก็ต้องโดนเมินใส่เป็นธรรมดา"
"แต่ข้าจะไม่ท้อเจ้าค่ะ เรื่องการเป็นมิไดโดโกโระ ยังไงก็จะต้องถามให้กระจ่างให้ได้"
"เกินกำลังเจ้านัก ข้าจะลงมือเองก็แล้วกันนะ" / "หา!"
"บีบให้เขาออกมาไง"
แล้วท่านหญิงอัตสึก็รีบมุ่งหน้าไปที่ห้องรับแขกที่มีม่านบังตาของท่านผุ้หญิงอีกครั้ง เข้าไปนั่งรออยู่ที่หน้าม่าน เมื่อโอโนะชิมะ(คนสวย)กับฟูจิโนะมาเห็นก็เข้ามาถามว่า "ท่านหญิงมาทำอะไรที่นี่เจ้าคะ" ท่านหญิงตอบว่า "ก็จะมารอพบท่านแม่อีกครั้ง"
โอโนะชิมะ(โรโจะฝ่ายขวา)ก็หันไปดุที่อิคุชิมะแทน แต่อิคุชิมะก็ได้แต่ขออภัยและบอกแค่ว่าหากท่านหญืงคิดจะทำการใดแล้ว ก็จะทำโดยไม่เปลี่ยนแปลง
(โอโนะชิมะเป็นโรโจะฝ่ายขวาของท่านผู้หญิงฮิสะ และใหญ่กว่าฟูจิโนะที่เป็นโรโจะฝ่ายซ้าย แต่ทั้งสองคนในตอนนี้ ต้องนับว่าใหญ่กว่าอิคุชมะ เพราะอิคุชิมะเป็นแค่โรโจะของท่านหญิงอัตสึเท่านั้น แถมเป็นท่านหญิงที่มารับจากสายตระกูลย่อยด้วย)
---------------------
และแล้วในเดือนพฤจิกายนปีนั้น ท่านอิเอซาชิก็ได้รับการแต่งตั้งจากราชสำนักให้สืบทอดเป็นท่านโชกุนลำดับต่อไปอย่างเป็นทางการ และท่านอิเอซาชิก็เปลี่ยนชื่อเป็น ท่านอิเอซาดะ ไปพร้อมกันด้วย นี่คือท่านโชกุนคนที่13 โทกุกาวะ อิเอซาดะจึงถือกำเนิดขึ้น (ขณะทำพิธีรับตำแหน่ง ท่านอืเอซาดะ ก็นั่งหาว และเมื่อรับพัดประจำตำแหน่ง ท่านก็เอาโยนเล่นซะงั้น..)
ต่อมาท่านที่ปรึกษาอาเบะ ได้เข้าไปรายงานเรื่องความคืบหน้าของการสรรหาท่านมิไดโดโกระคนใหม่ต่อท่านอิเอซาดะ ซึ่งท่านก็กำลังนั่งวาดรูปท่านฮงจูอินท่านแม่ของท่านอยู่ ท่านอิเอซาดะกลับไม่ใส่ใจเรื่องการพิจารณาสรรหาภรรยาคนใหม่ของท่านเลย
ท่านอิเอซาดะก็เอาแต่นั่งวาดรูป โดยท่านบอกว่าจะวาดรูปท่านแม่ ท่านฮงจูอินก็เลยนั่งตัวแข็งเป็นแบบให้วาด แต่พอวาดเสร็จก็ส่งให้ท่านฮงจูอินดู แต่รูปที่ท่านอิเอซาดะวาดกลับกลายเป็นรูปเป็ดซะ!!
----------------------
ขณะเดียวกันทางสัทสุมะ ท่านทาดาตาเกะก็ป่วยหนักมากขึ้น ไม่สามารถไปทำงานสร้างป้อมปราการที่ท่านเจ้าแคว้นเคยมอบหมายให้ทำได้ คงได้แต่ถามความคืบหน้าจากลูกชายคือทาดายุกิเท่านั้น
นาโอโกโร่ก็ได้ไปเยียมท่านทาดาตาเกะ ซึ่งท่านทาดาตาเกะก็ได้ถามเรื่องที่นาโอโกโร่ไม่ได้ไปเอโดะแล้ว ซึ่งนาโอโกโร่ก็ได้แต่ตอบว่า เป็นเพราะตนด้อยความสามารถเอง
ท่านทาดาตาเกะ "โอคัตสึเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้นะ พอหลับตาลง ก็เห็นแต่หน้าโอคัตสึลอยมา..ข้าคงจะอยู่ได้อีกไม่นานแล้วมั้ง"
ท่านโอยุกิ "อย่าพูดอย่างนั้นสิ ทำใจดีๆไว้เจ้าค่ะ"
"โอคัตสึน่ะ ต้องรับภาระหนักเกินกำลังจะทนได้หรือเปล่า?เป็นห่วงจริงๆเลย"
"โอคัตสึน่ะ เป็นเด็กที่แข็งแรงเหมือนต้นคุโรกาเนะโมจิ ท่านพี่เป็นคนพูดเองไม่ใช่เหรอเจ้าคะ..เด็กคนนั้น่ะ ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไร เขาก็จะหาทางออกจนได้เสมอ"
ทาดายุกิ "จริงด้วยท่านพ่อ"
"จริงสินะ จริงด้วย.." แล้วท่านทาดาตาเกะก็ค่อยๆผลอยหลับไป
นาโอโกโร่ที่นั่งฟังอยู่ รู้สึกเศร้าใจและเข้าใจในความรู้สึกของท่านทาดาตาเกะ
-----------------
ผ่านมาหลายวันท่านหญิงกับอิคุชิมะ ก็ยังมานั่งรอท่านผ้หญิงที่ห้องรับแขกนั้นเหมือนเดิม
อิคุชิมะ "ดูท่าจะรอเก้อแล้วกระมังเจ้าคะ"
"นี่แค่วันที4เท่านั้นเอง อย่าบ่นเลยนะ "
"โดนท่านหญิงดุด้วยเรื่องแค่นี้ น่าอายจังเลย"
ท่านหญิงอมยิ้ม อิคุชิมะก็อมยิ้มเช่นกัน เจ้านายแกล้งดุ ลูกน้องก็รับมุขตาม ในบรรยากาศการรอที่เงียบเหงา เจ้านายลูกน้องเขาแค่หยอกกันแก้เซ้งน่ะ!
แต่แล้ว โอโนะชิมะก็เข้ามาบอกท่านหญิงว่า ตอนนี้ท่านผู้หญิงได้อนุญาตให้เข้าพบได้แล้ว
------------------------
และเมื่อท่านผู้หญิงฮิสะมาที่ห้องรับแขกหลังม่านนั้นแล้ว
"ท่านแม่ อุตส่าห์ออกมาให้พบ ขอบพระคุณเจ้าค่ะ"
"ข้าไม่ได้อยากพบเจ้านักหรอก โอโนะชิมะร้องไห้เสียจนข้ารำคาญ" / "เจ้าค่ะ"
"ถ้างั้น เรื่องที่เป็นมิไดโดโกโระ ที่ท่านแม่กล่าวว่า ไม่มีใครกำหนดได้น่ะเจ้าค่ะ..หมายความว่า แม้แต่ท่านพ่อก็ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้รึเจ้าคะ"
"เจ้าก็ไปถามท่านเอง ท่านกำลังจะมาเอโดะ" พูดเสร็จท่านฮิสะก็ลุกขึ้นจะออกไป
"หยุดก่อนเจ้าค่ะท่านแม่"
"ท่านแม่!?ของเจ้างั้นรึ!?" ท่านฮิสะทำเป็นแปลกใจที่อัตสึเรียกท่านอย่างนี้
"มีเรื่องอยากจะถามอีกอย่างนึงเจ้าค่ะ..เพราะข้าเกิดในสกุลย่อยของชิมะสึ ท่านแม่จึงเย็นชากับข้าถึงปานนี้ ด้วยเหตุนั้นรึเปล่าเจ้าคะ?"
ท่านผู้หญิงฮิสะไม่ตอบแล้วก็กำลังจะเดินออกไปจากห้อง แต่ท่านหญิงก็ร้องตะโกนห้าม "หยุดก่อนเจ้าค่ะ หยุดก่อนท่านแม่!"
ท่านหญิงอัตสึพยายามพุ่งถลาเข้าไปห้าม จนมือไปปัดโดนฉากม่านล้มลง แล้วท่านหญิงจึงได้มองเห็นว่า ท่านผู้หญิงฮิสะได้มีผ้าปิดหน้าตัวเองอยู่ด้วย ท่านผู้หญิงฮิสะผงะแล้วรีบวิ่งหนีออกไปทันที ทำให้ท่านหญิงอัตสึตกใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
จนเมื่อกลับไปที่ห้องพักแล้ว อิคุชิมะจึงได้ไปไต่ถามหาความจริงมาบอกให้ท่านหญิงอัตสึรู้
"ที่ท่านผู้หญิงฮิสะต้องใช้ผ้าปิดบังใบหน้านั้น เพราะเมื่อท่านผู้หญิงยังเด็กท่านเคยป่วยเป็นไข้ทรพิษ จึงทำให้มีแผลเป็นที่หน้า ท่านจึงกลายเป็นคนเก็บตัว น้อยครั้งนักที่จะออกมาพบผู้คนในสภาพแบบนั้นน่ะเจ้าค่ะ"
"เพราะเหตุนั้นเองหรือ โล่งอกไปที นึกว่าทานรังเกียจข้าเสียอีก"
"น่าสงสารจังเลย ท่านแม่คงจะรู้สึกเหงามากสินะ.."
-------------------------
พอขึ้นปีใหม่ผ่านไปได้เพียงแค่11วัน กองเรือรบของเพอร์รี่ก็รุกล้ำเข้ามาในน่านน้ำอุรางะ สถานการณ์ปั่นป่วน ราคาของทุกชนิดก็แพงขึ้นลิบลิ่ว ทางเอโดะเองก็กำลังตกอยู่ในสภาวะวุ่นวายอย่างหนัก
ท่านอี นาโอเกะ(จำชื่อท่านนี้ไว้ให้ดี) ท่านเป็นเจ้าแคว้นที่มีฐานะพิเศษในหมู่ฟุไดไดเมียว (ไดเมียวก็มีหลายชั้น แต่ฟุไดไดเมียวคือระดับชั้นของไดเมียวที่มีอำนาจมากที่สุดเป็นรองแค่โชกุนเท่านั้น) และท่านอี ก็ยังเป็นประมุขตระกูลอีแห่งแคว้นฮิโคเนะอันสำคัญด้วย
การประชุมของบะขุฝุจึงมีท่านอี นาโสเกะ กับท่านโทกุกาวะ นาริกากิแห่งแคว้นมิโตะที่มีอำนาจมากในบะขุฝุ ทั้งสองคนนี้มีความคิดที่ขัดแย้งกันอย่างชัดเจน เช่นในสถานการณ์ที่เรือรบอเมริกาบุกมาป้วนเปี้ยนญี่ปุ่นตอนนี้
ทางท่านผู้เฒ่าแห่งแคว้นมิโตะ ซึ่งต่อต้านต่างชาติอย่างรุนแรงมีความเห็นว่า ต้องรบกับเรือรบอเมริกาเท่านั้น ส่วนท่านอี ไม่เห็นด้วยอย่างสิ้นเชิง
ท่านอี "ความคิดของท่านนาริอากิ ข้ายอมรับไม่ได้จริงๆนะขอรับ"
ท่านนาริอากิ "พูดอะไร! ฝรั่งบุกเข้ามาถึงทะเลในเอโดะมันแย่มาก คราวนี้ข้าจะสั่งให้ยิงมันให้ป่น ไม่เหลือแม้แต่ลำเดียว"
"มันจะรุนแรงไปหน่อยละมั้งขอรับ"
"ไม่คิดเลยว่าท่านอีจะพูดแบบนี้ออกมาได้ "
"ถ้าทำอย่างนั้นในระหวางที่ยังไม่ได้เจรจากัน เกรงว่าฝรั่งเอาปืนมายิงถล่มเรา แล้วจะทำยังไงล่ะขอรับ"
"ก็ยิงตอบมันสิ"
"มันก็จะกลายเป็นสงครามนะขอรับ"
"สั่งให้ทุกคนเตรียมสู้ตายไว้ก่อนเลย ถ้ารบกันจริงยังไงเราก็ชนะแน่"
"อย่าหวังไปเลย!"
"ทำไมจะหวังไม่ได้ ท่านไม่เชื่อกำลังทหาร8ล้านคนของเราเหรอ!"
ทั้งสองตนไม่มีใครยอมใครเพราะใหญ่ด้วยกันทั้งคู่ ทำให้ท่านที่ปรึกษาอาเบะหนักใจมาก ท่านโยชินางะเลยแนะนำให้เลยเสนอท่านอาเบะว่า ควรเรียกท่านนาริอาคิระกลับมาเอโดะโดยเร็วที่สุด
.
อ่านเจ้าหญิงอัตสึที่รัก 38
.
.
.
อยากอ่านต่อเร็วๆค่ะ ขอบคุณที่เขียนเรื่องดีๆให้อ่าน
ตอบลบผมก็อยากจะเขียนให้ถึงตอนปัจจุบันเสียเหลือเกิน เพราะตอนได้ดูวันนี้แล้ว กำลังมันส์มาก แต่ก็ทำไม่ได้เพราะ ต้องค่อยๆเขียนไปเรื่อยๆ
ตอบลบอดใจรออ่านไปเรื่อยๆนะครับ