วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ท่านหญิงออกรบ 43

atsuhime 43


อ่านเจ้าหญิงอัตสึที่รัก 42




เมื่อท่านหญืงอัตสึได้ไปอยู่ต่อหน้าท่านนาริอากิและโอยุระแล้ว ก็ได้ทำความเคารพต่อท่านนาริอากิโดยมีโอยุระนั่งอยู่ข้างด้วยท่าทีหยิ่งผยอง

ท่านนาริอากิ "อัตสึโกะเหรอ?" / "เจ้าค่ะ" ท่านหญิงตอบ

"เงยหน้าขึ้นสิ"

ท่านหญิงค่อยๆเงยหน้าขึ้นด้วยแววตาที่มั่นใจเด็ดเดี่ยว ส่วนโอยุระก็ทำสีหน้าไม่ยี่หระและไม่ได้ทำการคำนับตอบท่านหญิงเลยโดยมารยาท ทั้งๆที่ตนเองเป็นแค่ภรรยาอนุอดีตเจ้าแคว้น

"แล้วเจ้าคนนั้นใครกันล่ะ?" ท่านนาริอากิมองเห็นท่านไซโกนั่งคุกเข่าอยู่ข้างล่างหน้าห้อง

อิคุชิมะ "เขาชื่อไซโก!เจ้าค่ะ เป็นองครักษ์ของท่านหญิง"

"ตัวใหญ่ดีนะ เลยหน้าให้ข้าดูหน่อยซิ"

"ขอรับ!" ท่านไซโกค่อยๆเงยหน้าขึ้นพร้อมด้วยแววตาที่เข้มแข็งดุดัน!


โอยุระ "ต๊าย! คิ้วกับหน้าตาโตสมตัวดีจังเลยนะ หึๆ" (แต่ท่านไซโกยังตีหน้ายักษ์เหมือนเดิม)

อัตสึ "ท่านผู้อาวุโส ท่านโอยุระ(โอยุระมองท่านหญิงด้วยแววตาเหยียดๆ) วันนี้ได้รับเชิญ เป็นพระคุณหาที่สุดมิได้ ตั้งแต่มาเอโดะได้ปีกว่า ยังไม่ได้มาคาราวะท่านเลย ต้องขออภัยจริงๆนะเจ้าคะ"

"ตอนแรกนึกว่า ท่านจะไม่ให้พบเสียแล้ว แต่ท่านก็ไม่ได้ถือตัว ยังสละเวลาเมตตาให้ข้า ขอขอบพระคุณอีกครั้งนึงเจ้าค่ะ"

"อึม..ไม่ต้องมีพิธีรีตรองอะไรมากหรอก ทำตัวให้สบายเถอะ"

"ขอบพระคุณเจ้าค่ะ "


โอยุระ "แล้วตอนนี้ท่านนาริอาคิระเป็นยังไงบ้างล่ะ?"

"ไม่กระเตื้องขึ้นเลย ไข้สูงตลอดเวลาเจ้าค่ะ" / "ตายจริง.. งั้นก็แย่ล่ะสิเนี่ย"

"ข้าก็แต่ได้สงสารเขาเหลือเกิน ไม่รู้จะทำยังไง ลูกชายตายคนนึงก็กินไม่ได้นอนไม่หลับไปนาน นี่ก็ตายไปหลายคนแล้วเขาจะทนไหวเหรอ"
(ที่ท่านนาริอากิพูดหมายถึงท่านนาริอาคิระนั้นเสียลูกชายไปหลายคน จนตอนนี้ไม่เหลือลูกชายเลยสักคนเดียว) (ขณะเดียวกันไซโกที่นั่งอยู่ข้างนอก ก็เกิดอาการกระฟัดกระเฟียดขึ้นมา)

"ลูกตายเนี่ยเป็นเรื่องเศร้าที่สุดในโลกของพ่อแม่ทุกคน.... ท่านโอยุระคงเข้าใจ!?นะเจ้าคะ!" ท่านหญิงแสร้งถามไปที่โอยุระ เพื่อจะสังเกตอะไรบางอย่าง?


"แน่นอนอยู่แล้ว เพียงแค่คิดเท่านั้นหัวใจข้าก็ทรมานแทบจะสลายไปด้วยแล้วล่ะ" โอยุระทำเสียงเศร้าสร้อยแถมน้ำเสียงช่างออเซาะเหลือเกิน!

"เพราะเจ้าเป็นผู้หญิงใจดีนี่นา.." ท่านนาริอากิก็เลยหันมาปลอบและชมภรรยาสุดที่รัก


"ครั้งนี้ที่ท่านพ่อป่วยหนักปางตาย ทำให้ที่บ้านที่ชิบะมีข่าวลือที่ไม่เป็นมงคล ท่านทราบมั้ยเจ้าคะ?"

"ท่านหญิงเจ้าค่ะ!" อิคุชิมะรีบทัก

"ข่าวลือร้ายรึ?" / "แล้วรือกันว่ายังไงล่ะ?"

"การที่ท่านโทราจุมารุเสียและท่านพ่อป่วยหนักคราวเนี้ย เป็นเพราะฝีมือท่านโอยุระทำพิธีสาปแช่งสิเจ้าคะ"

"สาปแช่ง!?"

"ไม่ใช่เพียงเท่านั้น ลูกชาย4คนที่เสียไปก่อนหน้านี้ ก็เป็นเพราะท่านเหมือนกัน!!"



"เหลวไหล!!" / "ขอภัยเจ้าค่ะ ทั้งหมดนั้นเป็นเพียงข่าวลือเจ้าค่ะ"

"ข้าว่าผู้หญิงแบบนี้ไม่มีวันทำเรื่องแบบนี้ได้หรอก!!"

"คิดได้ยังไงกันเนี่ย..เมื่อก่อนก็ถูกผู้คนพากันเกลียด ทั้งๆที่ข้าก็ไม่เคยทำอะไรให้ใครเจ็บแค้น กรรมเวรอันใดถึงทำให้ข้าถูกใส่ร้ายได้ถึงขนาดนี้ เพราะอะไร? ถึงคิดว่าคนอย่างข้าจะสาปแช่งท่านนาริอาคิระกับลูกๆให้ตายได้ลงคอ ข้าทำไม่ได้หรอก..ฮือๆ.."
แล้วโอยุระก็แสร้งบีบน้ำตาทันที

"โถๆ..อย่าร้องนะ ข้ารู้ ข้ารู้.." ท่านาริอากิรีบปลอบใจภรรยาอนุที่กำลังร้องไห้ฟูมฟายในทันที

ส่วนโออัตสึนั้นเมื่อได้เห็นก็สีหน้าเครียดอยู่แวบหนึ่ง ก่อนที่จะค่อยๆเปลี่ยนสีหน้าแบบฉับพลันด้วยรอยยิ้ม ทันที


"ดีแล้วเจ้าค่ะ!" อัตสึยิ้มอย่างสบายใจ

โอยุระหยุดร้องไห้ทันทีทันใดเช่นกันเมื่อได้ยินท่านหญิงอัตสึพูดประโยคดังกล่าวขึ้น

"เมื่อท่านพูดถึงขนาดนี้ ข้าก็รู้แล้วว่าท่านไม่ได้พูดปดเจ้าค่ะ...จะได้โล่งอกไปซักทีนึง"

ท่านนาริอากิยิ้มรับแถมพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของท่านหญิง ส่วนโอยุระก็คงงง!กับทีท่าฉับพลันของท่านหญิงเหมือนกัน

"ต้องขออภัยจริงๆที่ล่วงเกินข้าเจ้าค่ะ... พอกลับไปถึงบ้านที่ชิบะ ข้าจะบอกทุกคน..ว่าข่าวลือนั้นไม่มีมูล ทุกคนคิดมากเกินไปเองทั้งนั้นเจ้าค่ะ"

ท่านนาริอากิพยักหน้างึกๆ เห็นด้วยกับท่านหญิงทุกคำพูดทีเดียว และท่านหญิงก็ชำเลืองสั่งกับองครักษ์ที่นั่งรออยู่ภายนอกสำทับขึ้นอีกว่า

"ไซโก!" ท่านหญิงชำเลืองไปทางไซโกเพื่อสังกำชับ  / "ขอรับ!" ไซโกเงยหน้าขึ้นขานรับ

"กลับไปบอกบริวารทุกคนตามนี้ด้วยนะ"

"ขอรับ! ข้าจะทำตามคำสั่งขอรับ"

*-*

ทีนี้ถึงคราวอิคุชิมะต้องมีบทบาทเสริมบ้างแล้ว

อิคุชิมะ "ข้าก็โล่งใจไปเปราะหนึ่ง...ทีนี้ท่านหญิงจะได้ไปแต่งงานอย่างสบายใจซะทีนะเจ้าค่ะ"

ท่านนาริอากิ "แต่งงาน! มีเรื่องอะไรแบบนั้นด้วยเหรอ?" / "เจ้าค่ะ"

โอยุระ "แล้วเจ้าบ่าวเป็นใครล่ะ?"

"พูดแล้ว.. ต้องรู้เฉพาะคนในห้องนี้เท่านั้นเจ้าคะ" / "อึม..รับรองน่ะ"

"โชกุนคนที่13 ท่านอิเอซาดะ!..เป็นเจ้าบ่าวเจ้าค่ะ"

"เอ๊ะ!!.." ท่านนาริอากิได้ฟังดังนั้นถึงกับสะดุ้ง โอยุระก็ผวาตามเช่นกัน "ปะ..ปะ..แปล..ว่า..ท่านหญิงอัตสึจะเป็นถึงสะใภ้โชกุนเชียวรึเนี่ย!!??"

ท่านหญิงพยายามตีสีหน้าเรียบเฉย(แต่แววตายิ้มนิดๆ) ส่วนท่านไซโกที่นั่งอยู่ข้างนอกก็ต้องรีบซ่อนสีหน้าเช่นกัน(อมยิ้ม)

ท่านนาริอากิได้ยินก็ถึงกับสะดุ้ง ส่วนโอยุระได้ยินก็ถึงกับตะลึง!!


"ตอนนี้ขอให้ปิดเป็นความลับไว้ก่อนนะเจ้าคะ" อิคุชิมะก้มหัวเคารพต่อท่านนาริอากิ

"ท่านผู้อาวุโส...ท่านโอยุระ...เรื่องวันนี้...ขอบพระคุณมากเจ้าค่ะ!" ท่านหญิงอัตสึจึงก้มหัวคำนับเพื่อจะลากลับ

ครานี้ท่านนาริอากิถึงตอนนี้ก็รีบนั่งอย่างตัวตรงและก้มหัวรับการคำนับของท่านหญิงเช่นกัน ส่วนโอยุระน่ะหรือ? เมื่อเห็นสามีคำนับรับท่านหญิงแล้ว ถึงคราวนี้โอยุระจึงรีบก้มหัวคำนับอย่างนอบน้อมที่สุดต่อท่านหญิงทันที!?


----------------------------------

เมื่อท่านหญิงกลับมาถึงที่คฤหาสน์สัทสุมะแห่งเอโดะ และลงจากเกี้ยวแล้ว

"วันนี้ขอบใจมากนะ" ท่านหญิงขอบใจท่านไซโก

"ข้ายอมนับถือท่านหญิงจนหมดหัวใจขอรับ"

"เจ้าเองก็ไม่เบาเหมือนกัน..ฝ่ายโน้นจะโกรธเราไม่นะ?"

"ไม่หรอกขอรับ..เพราะท่านหญิงได้ตอกย้ำตะปูตัวใหญ่ลงไป ถ้าเขาทำอีกเราก็จะทำกับลูกเขาบ้าง"

ทานหญิงยิ้ม "ได้อย่างนั้นก็ดี"

อิคุชิมะ "เราคงไม่ต้องทำอย่างนี้อีกนะเจ้าคะ ข้าน่ะเหนื่อยเจ้าค่ะ"

"เจ้าก็ไหวพริบดีน่าชื่นชมนะ"
ท่านหญิงชมอิคุชิมะ

"รับส่งบทได้เหมาะสมนัก!" ท่านไซโกเอ่ยสมทบ

"แทบจะกระพริบตาไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าท่านหญิงจะทำอะไรแบบไหนเมื่อไหร่เจ้าค่ะ"

ท่านหญิงหัวเราะแล้วยังหันไปหัวเราะกับท่านไซโกด้วย

"ต่อไปนี้ ก็เหลิอแต่รอให้ท่านพ่อหายเร็วๆเท่านั้นล่ะ.."

-----------------------

แต่เมื่อท่านหญิงผู้หญิงฮิสะรู้ว่าท่านหญิงอัตสึออกไปที่คฤหาสน์ทานาคาวะโดยไม่แจ้งให้ท่านทราบก่อน ท่านผู้หญิงจึงเรียกโอโนชิมะมาต่อว่า

ท่านผู้หญิงฮิสะ "ว่าไงนะ ท่านหญิงไปหาท่านผู้ผู้อาวุโสถึงบ้านเลยรึ?"

โอโนะชิมะ "เจ้าค่ะ"

"ใครอนุญาตให้เขาทำอย่างนั้น"

"ขออภัยจริงๆเจ้าค่ะ"


แต่ไม่ทันได้พูดอะไรต่อ ก็มีนางกำนัลรีบเข้ามาอย่างเร่งด่วนแล้วแจ้งให้ท่านผู้หญิงทราบว่า ตอนนี้ท่านนาริอากิกับภรรยาอนุได้ส่งของมาเยี่ยมไข้ท่านนาริอาคิระแล้ว ทั้งๆที่ท่านนาริอาคิระป่วยมาร่วมปีแต่ไม่เคยได้รับของเยี่ยมจากท่านพ่อของท่านเลย

*-*

และเมื่อฟุจิโนะโรโจะซ้ายได้นำของฝากของท่านนาริอากิมาให้ท่านผู้หญิงฮิสะดู ท่านผู้หญิงถึงกับต้องแปลกใจมาก

ท่านผู้หญิงฮิสะ "ของสิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญที่ปลุกเสกโดยพระชั้นสูงที่ดังที่สุดในตอนนี้ ไม่รู้ว่าอัตสึไปทำอะไรมานะ?"

ฟูจิโนะ "ท่านหญิงนี่เหลิอเชื่อจริงๆเลยนะเจ้าคะ"

ตอนนี้ท่านผู้หญิงฮิสะคงจะเปิดใจให้ท่านหญิงอัตสึมากขึ้นบ้างแล้วล่ะ..

หลังจากนั้นท่านหญิงฮิสะก็ได้นำของฝากชิ้นนั้นเข้าไปไว้ในห้องของท่านนาริอาคิระ

---------------------

กระแสจิตอธิษฐานของท่านหญิงอัตสึและท่านผู้หญิงฮิสะคงจะสื่อไปถึงได้ อาการป่วยของท่านนาริอาคิระจึงดีขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่นั้นมา จนท่านหายดีในที่สุด..

-------------------

ขณะเดียวกันที่สัทสุมะ ท่านอาจารย์คิโยมิชิเรียกนาโอโกโร่มารับคำสั่งแต่งตั้งจากท่านเจ้าแคว้น

นาโอโกโร่ "ข้าน่ะหรือขอรับ?"

ท่านคิโยมิชิ "เจ้าได้รับตำแหน่งเป็นโกะคินจูประจำตัวท่าน...ได้เป็นคนรับใช้ใกล้ชิดท่าน เป็นงานสำคัญเชียวนะ เสียดายที่ท่านไม่ได้อยู่ในปราสาท ตอนนี้เจ้าก็ฝึกงานทุกอย่างไปก่อนแล้วกัน"

"ขอรับ! คิโมสึกิ นาโอโกโร่ จะถวายชีวิตเพื่อเตรียมตัวให้เหมาะกับงานขอรับ"

เมื่อนาโอโกโร่ได้รับหนังสื่อแต่งตั้งแล้ว ก็ยังได้ทราบข่าวจากท่านอาจารยคิโยมิชิอีกว่า ตอนนี้มีเรือมาเข้าฝั่งสัทสุมะลำหนึ่ง ซึ่งเรือลำนั้นได้นำนักโทษที่ถูกลงโทษด้วยการเนรเทศไปอยู่เกาะจากคราวเกิดจราจลโอยุระกลับมา

นาโอโกโร่จึงรีบวิ่งไปที่ท่านโอคุโบะในทันที และเมื่อไปถึงนาโอโกโร่ก็ได้พบภาพที่น่าปิติยินดีที่สุด นั่นก็คือ ท่านพ่อเจ้าบ้านตระกูลโอคุโบะได้กลับมาถึงบ้านแล้ว หลังจากที่ท่านต้องถูกเนรเทศไปอยู่เกาะนานถึง5ปี

ทุกคนในบ้านต่างร้องไห้ดีใจในการกลับมาของท่านพ่อ เมื่อท่านโอคุโบะหันมาเห็นนาโอโกโร่

"ท่านโอคุโบะ ดีจังเลย ดีจังเลยนะ"

"ท่านคิโมสึกิ คราวนี้ ข้าจะได้ตั้งเป้าหมายของตัวเอง ได้มองเห็นอนาคตแล้ว" / "ใช่!..ใช่...ใช่!"

เพราะเพื่อนรักทั้งสองต่างเข้าใจถึงความรู้สึกของกันและกัน

------------------
.
อ่านเจ้าหญิงอัตสึที่รัก 44
.
.
.

2 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ29 ตุลาคม, 2552 09:39

    ขอบคุณค่ะ

    ตอบลบ
  2. ตอนนี้มีปัญหากับกูเกิ้ลอีกแล้วครับ สงสัยต้องแก้ไขอีก

    ช่วงนี้บล็อคหายากอีกแล้ว

    ขอบคุณที่ยังมาแวะอ่านนะครับ

    ตอบลบ

ถ้าแสดงความเห็นตรงช่องนี้ผมจะได้อ่านทุกความเห็นครับ แต่ถ้าความเห็นไม่ขึ้นอาจเพราะระบบรอตรวจสแปม ต้องรอ1-2วัน / ใหม่ เมืองเอก kaeake@ymail.com


ผู้ติดตาม