คำสั่งลับของนาริอาคิระ 53

atsuhime 53


อ่านเจ้าหญิงอัตสึที่รัก52


จากกรณีที่นาโอโกโร่ต้องไปเป็นลูกบุญธรรมตระกูลโคมัทสึ

โดยปกติลูกชายคนโตจะเป็นผู้สืบสกุลลำดับแรก ถ้าไม่มีก็จะเป็นลูกชายคนรองลงไป แต่ถ้าไม่มีลูกชายอีกก็จะต้องรับลูกบุญธรรมเข้ามาแทน ฉะนั้นลูกชายคนที่อยู่ๆถัดลงไปจึงเป็นใหญ่ในครอบครัวได้ยาก

สำหรับนาโอโกโร่ซึ่งเป็นลูกชายคนที่3ของตระกูลคิโมสึกิ การได้เป็นลูกบุญธรรมของตระกูลโคมัทสึจึงเป็นโอกาสที่ดียิ่งนัก เพราะนาโอโกโร่ก็จะได้เป็นผู้สืบทอดตระกูลโคมัทสึทันที

----------------------

หลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่เอโดะ ผู้คนตายนับแสน บ้านเมืองก็ได้รับความเสียหายมากมายจนต้องฟื้นฟูครั้งใหญ่ การแต่งงานของท่านหญิงอัตสึจึงถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด การเลื่อนกำหนดนี้ท่านนาริอาคิระเป็นผู้มาบอกแก่อิคุชิมะ

ท่านนาริอาคิระ "ให้ฟื้นตัวจากธรรมชาตินี่เสียก่อนถึงจะแต่งได้... แล้วโออัตสึล่ะเป็นยังไงบ้าง?" / "อยู่ทางโน้นเจ้าค่ะ"

ท่ามกลางวิกฤติ ท่านหญิงนั้นก็ยังคงสดใสร่าเริงเหมือนเดิม ท่านหญิงกำลังเล่นอยู่กับน้องสาวคือท่านหญิงอิเอยาสุอย่างสนุกสนาน ท่ามกลางงานก่อสร้างซ่อมแซมในบ้าน



"ความร่าเริงของเขาช่วยเราได้เยอะเลยนะ"

"ท่านหญิงอัตสึมาอยู่เอโดะจวนจะสองปีแล้ว อายุก็21ปีเข้าไปแล้วนะเจ้าคะ เมื่อไหร่ถึงจะได้แต่งเข้าไปอยู่ในโอโอขุเสียทีเจ้าคะ"

"ตอนนี้ก็ได้แต่รอเท่านั้นแหล่ะ...ไม่ต้องห่วง ข้าไม่งอมืองอเท้าอยู่เฉยๆหรอก"

---------------------

ข่าวเรื่องแผ่นดินไหวนั้นยังไม่มีใครรายงานไปถึงสัทสุมะเลย นาโอโกโร่เองก็ไปพูดคุยกับท่านโอคุโบะก่อนใครเพื่อระบายความในใจ เกี่ยวกับเรื่องที่ตนต้องไปเป็นลูกบุญธรรมตระกูลโคมัทสึ ตามคำสั่งของท่านเจ้าแคว้น

โอคุโบะ "ก็ดีนี่ จะได้เลื่อนเป็นชนชั้นสูงอีกคนไง"

"แต่ว่า..สิ่งที่คิดไม่ตกก็คือ ท่านสั่งให้แต่งงานกับท่านโอชิคะด้วยนะสิ"

"แต่งกับท่านโอชิคะ!?..ก็ดีนี่นา! ถ้าแต่งกับท่านล่ะก็จะต้องเป็นคู่ที่ดีได้แน่"

เพราะนาโอโกโร่ยังคงหนักใจในเรื่องนี้ ท่านโอคุโบะจึงย้ำว่ายังไงก็ต้องแต่ง เพราะเป็นคำสั่งของนาย แต่ท่านโอคุโบะก็เกิดสงสัยขึ้นมาว่า ที่นาโอโกโร่หนักใจมากอยู่ขณะนี้ ก็เพราะยังคิดถึงท่านหญิงอัตสึอยู่หรือเปล่า?

นาโอโกโร่ก็ย้ำอีกว่าเรื่องท่านหญิงเป็นอดีตไปแล้ว แต่ที่ห่วงก็คือ "ถ้าข้าต้องแต่งกับท่านโอชิคะ มันก็ควรมีความจริงใจต่อเขาบ้าง อย่างน้อยก็ต้องมีเกณฑ์(เหตุปัจจัย)ว่าจะรักเขาเพราะอะไร ถ้าไม่มีเกณฑ์นั่น อยู่ด้วยกันไปก็จะรู้สึกว่า คงปรับตัวเข้ากันได้ยากน่ะ"

"ปรับตัวรึ?..เกณฑ์?" / "เกณฑ์ตัดสินน่ะ"

-----------------

หลังจากนั้นนาโอโกโร่ก็กลับมาบอกให้ท่านพ่อท่านแม่รู้ในเรื่องที่ต้องไปเป็นบุตรบุญธรรมที่บ้านโคมัทสึ แต่ท่านพ่อบอกว่ารู้เรื่องมาก่อนหน้านี้แล้ว เพราะทางท่านเจ้าแคว้นส่งเรื่องมาแจ้งให้ทราบก่อนที่นาโอโกโร่จะเดินทางมาถึง

"ต้องขออภัย ที่ท่านพ่อไม่ได้รู้จากปากข้าเอง"

ท่านพ่อบอกว่าได้ตอบตกลงต่อท่านเจ้าแคว้นไปแล้ว "ข้าตอบกลับไปแล้วว่า ตระกูลคิโมสึกิยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะทำตามนั้น"

"อย่างนั้นรึขอรับ"

"ตอนนี้เห็นทีต้องรีบไปคุยกับท่านโคมัทสึแล้วล่ะ" / "จริงด้วยนะ" ท่านแม่กล่าวเสริม

สีหน้านาโอโกโร่ก็ยังไม่คลายกังวล

-----------------------

กลับมาที่ปราสาทเอโดะ วันนี้ท่านอาเบะได้พาบุคคลท่านหนึ่งเข้ามาพบท่านโชกุน

ท่านอาเบะ "ท่านผู้นี้คือเสนาบดีคลังฝ่ายนอก เจ้ากรมจัดซื้อท่านฮตตะแห่งชิมูสะ จะมาเป็นที่ปรึกษาฯ จึงมาเยี่ยมคาราวะท่านโชกุนเพื่อแนะนำตัวขอรับ"

ท่านฮตตะ "เจ้ากรมจัดซื้อฮตตะขอรับ ท่านโชกุนสบายดีรึขอรับ?"

"หุบปากนะ!! จะสบายไปได้ยังไง!! หลังจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทำให้คนตายไปเป็นแสนคนเนี่ย!!"

"ขอรับ...พูดผิดไป..ขออภัยขอรับ.." ท่านฮตตะตกใจกลัวท่านโชกุนจนดูลนลาน

การที่ท่านอาเบะพาท่านฮตตะมา ก็เพื่อแจ้งแก่ท่านโชกุนว่า ตนเองอยากจะขอลาออกจากหัวหน้าที่ปรึกษาฯ และท่านอาเบะต้องการจะเสนอให้ท่านฮตตะเข้ามารับตำแหน่งหัวหน้าที่ปรึกษาแทนตัวท่าน
.
โดยที่ท่านอาเบะอ้างโดยใช้เหตุผลว่า เพราะแผ่นดินไหว อาจเป็นการเตือนจากสวรรค์ว่า บ้านเมืองต้องมีการเปลี่ยนแปลงแล้ว ท่านจึงต้องการจะลาออกเพราะสาเหตุนี้ (แต่ท่านอาเบะยังไม่ได้ออกทันทีนะครับ แค่อยาก จึงเตรียมตัวตายตัวแทนตนไว้ก่อน)

เมื่อท่านโชกุนได้ยินที่ท่านอาเบะพูดเรื่องที่จะลาออก ในทีแรกท่านโชกุนก็มีสีหน้าเครียดมาก แต่เมื่่อท่านโชกุนหยุดคิดด้วยการมองขึ้นไปบนเพดานอยู่สักครู่ สีหน้าท่านก็เปล่ยนโดยฉับพลัน! แล้วท่านโชกุนก็เดินมานั่งลงตรงหน้าท่านอาเบะแล้วถามว่า

"แล้วเจ้าคิดว่า เขาจะทำได้เหรอ?"

"ท่านเสนาบดีคลังเป็นที่ปรึกษาครั้งที่2แล้ว เขามีคุณสมบัติเหมาะกับงานและในตำแหน่งนี้ ยิ่งกว่าข้าขอรับ"

ขณะที่ท่านอาเบะบรรยายคุณสมบัติอันดีเลิศของท่านฮตตะจบ ท่านฮตตะมีกิริยาตกใจปนประหม่าเล็กน้อย ซึ่งอากัปกิริยานี้ก็ไม่พ้นสายตาของท่านโชกุนที่สังเกตเห็น!!

"ถ้าอย่างนั้นข้าก็ไม่ขัดข้องหรอก เจ้าทำตามใจชอบเถอะ.." ปากพูดอยู่กับท่านอาเบะ แต่สายตาคมกริบของท่านโชกุนกลับชำเลืองไปที่ท่านฮตตะ!?

----------------------------

ข่าวที่ท่านฮตตะกลับมาเป็นที่ปรึกษาอีก ทำให้ท่านนาริอากิแห่งมิโตะ ท่านโยชินางะ ท่านนาริอาคิระ และท่านมุเนะนาริ ได้มาประชุมปรึกษากัน (ขอให้สังเกตการพูดคุยตรงนี้ จะทำให้เข้าใจเรื่องได้ดีขึ้นครับ)

นาริอากิ "ฮตตะ ได้เป็นที่ปรึกษาอีกแล้วรึเนี่ย ถ้าไม่บอกข้าก็คงจะไม่รู้"

โยชินางะ "คงจะเป็นเพราะ อยากจะเอาใจพวกฟุไดไดเมียวล่ะมั้ง?" / "พวกฟุไดรึ!?"

มุเนะนาริ "พวกนั้นน่ะ กำลังไม่พอใจท่านที่ปรึกษาอาเบะ เขาหาว่าท่านที่ปรึกษาอาเบะเป็นไดฟุ แต่กลับมาสนิทสนมกับพวกโทซามะ เช่นเจ้าแคว้นสัทสุมะกับข้าและคนอื่นๆแบบนี้ ในอนาคตพวกเขาจะไม่ได้รับผิดชอบงานสำคัญ เพราะจะต้องฟังแต่ความเห็นของแคว้นมิโตะ" (ไดฟุก็คือไดเมียวชั้นฟุได)

นาริอาคิระ "หมายความว่า พวกเขาก็ไม่พอใจพวกเราด้วยน่ะสินะ"

นาริอากิ "นั่นก็เป็นเพราะพวกฟุไดไดเมียวมันไม่มีฝีมือเองนี่นา!"

โยชินางะ "แต่ตามมารยาทแล้ว ท่านอาเบะพูดอย่างนั้นไม่ได้นะขอรับ"

นาริอากิ "เข้าใจแล้ว..ตีความว่าอย่างนั้นนะ เรื่องนี้ต้องเป็นฝีมือของอี นาโอสุเกะแคว้นฮิโคเนะแน่ๆเลย"

โยชินางะ "ปล่อยไว้ไม่ได้ ต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว"

มุเนะนาริ "พวกเราก็ต้องหาคนเส้นใหญ่ๆมาหนุนหลังบ้างล่ะสิ ดีมั้ย?"

นาริอากิ "ท่านหมายถึงโยชิโนบุใช่มั้ย?"

โยชินางะ "ตอนนี้เราจะเสนอให้ท่านโยชิโนบุเป็นทายาทโชกุน ก็เลยต้อง..ไปหาเสียงสนับสนุนจากพวกผู้หญิงในโอโอขุ ท่านคิดว่ายังไงล่ะขอรับ?"

นาริอากิ "โอโอขุรึ..อย่างนี้นี่เอง" แล้วท่านนาริอากิหันไปทางท่านนาริอาคิระ เพราะท่านพอเข้าใจที่มาที่ไปมากขึ้นแล้ว

"ข้าจะใช้ทุกอย่างที่มีจัดการแต่งงานระหว่างท่านหญิงกับท่านโชกุนให้ได้ กำหนดวันแต่งงานให้เร็วที่สุด ก่อนปีใหม่ไปเสียเลยดีมั้ยล่ะ!?" ท่านนาริอากิประกาศ

นาริอาคิระ "ข้ากำลังรอคำนี้อยู่พอดีดีเลยขอรับ!"

--------------------------

ขอทบทวนอีกทีนะครับ ท่านโทกุกาวะ นาริอากิแห่งมิโตะกับท่านอี นาโอสุเกะไม่ถูกกันโดยสิ้นเชิง เพราะท่านอีเป็นฟุไดไดเมียวที่ไม่ต้องการให้ไดเมียวชั้นอื่นๆนอกจากฟุไดไดเมียวเท่านั้นที่เข้ามามีอำนาจในบะขุฝุ พูดง่ายๆว่าชั้นอื่นอย่าเข้ามาแส่

แต่ท่านนาริอากิไม่ชอบใจในเรื่องนี้ที่สุด เพราะท่านเห็นว่าแม้ไดเมียวชั้นอื่นจะไม่ได้อยู่ในบะขุฝุโดยตรงก็ตาม แต่ก็ควรมีส่วนในการแสดงความคิดเห็นได้บ้าง ไม่ใช่กีดกันแบ่งชนชั้นไปเสียหมด

ส่วนท่านนาริอาคิระเป็นไดเมียวชั้นโทซามะ ไม่มีส่วนในการบริหารบะขุฝุเลย แต่มีกำลังพลมากเพราะเป็นเมืองหน้าด่านทางตะวันออกที่สำคัญ พวกฝรั่งก็จะมักมาบุกที่นี่เป็นที่แรกเสมอ

.
เมื่อท่านนาริอาคิระไม่สามารถเข้าไปนั่งในบะขุฝุได้ จึงต้องใช้วิธีจัดการจากภายใน นั่นก็คือส่งท่านหญิงให้เข้าไปเป็นใหญ่ในโอโอขุนั่นเองครับ
'
'
"
อ่านatsuhimeที่รัก54