วันอาทิตย์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ผมไม่ชอบโฆษณาไทยประกันชีวิตชุด Que sera





เห็นมีผู้คนจำนวนมากต่างปลื้มกับโฆษณาชุด Que sera sera ของไทยประกันชีวิต บางคนบอกซึ้ง บางคนบอกดูแล้วน้ำตาจะไหลตาม

แต่ผมกลับไม่ซึ้ง ไม่มีน้ำตาตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ดู เพราะผมไม่เชื่อว่า จะเป็นเสียงของเด็กพิการกลุ่มนี้จริงๆ

เพราะอะไรผมถึงไม่เชื่อ ?

ครั้งแรกที่ดูผมก็คิดว่า เสียงเพลงในโฆษณา Que sera sera นี้ มันร้องไพเราะเกินไป คิอผมคิดว่าไม่ใช่เสียงของเด็กพิการกลุ่มนี้แน่ๆ

ถามว่าแล้วเด็กพิการทำไมจะร้องเพลงฝรั่งเพลงนี้ไม่ได้?

ผมขอตอบว่า เด็กพิการสามารถร้องเพลงนี้ได้แน่นอน!!

เพียงแต่ผมเชื่อว่า เด็กพิการกลุ่มนี้จะร้องไม่ไพเราะเท่าในโฆษณา 

ผมคิดว่าเด็กสามารถร้องเพลงนี้ได้ แต่พอเอาเสียงมาลงในโฆษณาจริงๆ กลับไม่ใช่เสียงของเด็กกลุ่มนี้

เพราะเพลงฟังชัดถ้อยชัดคำเกินไป แต่ลักษณะปากของเด็กหลายคนไม่ได้รูป จึงไม่น่าจะออกเสียงได้ชัดและไพเราะเท่าเสียงร้องในโฆษณา

ยิ่งตอนที่มีเด็กผู้หญิงในโฆษณาคนหนึ่งที่นั่งรถเข็นมาเขียนคำถวายพระพรให้ในหลวงที่ศิริราช แล้วนักข่าวนำไปให้เด็กคนนี้ร้องเพลง Que sera นี้ เธอร้องเพลงนี้ได้ครับ แต่ร้องไม่เพราะ และไม่ชัดเจนเหมือนในโฆษณา

ทั้งๆ ที่เด็กคนนี้ไม่มีปัญหาในเรื่องรูปปากในการออกเสียง และผมเชื่อว่าเด็กในโฆษณาหลายๆ คนร้องไม่ได้ดีเท่าเด็กผู้หญิงคนนี้ด้วยซ้ำ

ที่สำคัญที่สุด ผมได้ดูเบื้องหลังโฆษณาไทยประกันชุดนี้ทางรายการช่องเนชั่นแล้ว ในเบื้องหลังก็ไม่กล้านำเสียงที่เด็กที่กำลังร้องแบบสดๆเอามาให้ได้ฟัง

เพราะเสียงที่ปล่อยให้ฟังในสกู๊ปเบื้องหลังเป็นเสียงที่ได้รับการปรุงแต่งอย่างดีแล้วเหมือนในโฆษณา ไม่ใช่เสียงร้องสด ๆ แน่นอน (และในโฆษณาเราอาจเห็นเด็กร้องแบบมีความสุข แต่ในเบื้องหลังเด็กไม่ได้สุขอย่างที่เห็นในโฆษณาครับ แต่ตรงจุดนี้ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ผมแค่เล่าให้ฟังเท่านั้น)

ฉะนั้นผมจึงไม่ปลื้มกับโฆษณาไทยประกันฯชุด Que sera sera นี้ เพราะผมยังมีอคติโดยส่วนตัว ย้ำ! ว่าโดยส่วนตัว ผมไม่เชื่อว่าจะเป็นเสียงร้องจริงของเด็กกลุ่มนี้

หากผมเชื่อเมื่อไหร่ว่า เป็นเสียงของเด็กกลุ่มนี้จริง โฆษณานี้ก็นับว่า เยี่ยมมากในการสื่อสารแก่ผู้ชม!

แต่ตราบใดผมยังไม่เห็นกะตาชัดๆ ฟังกับหูชัดๆ สดๆ ว่าเด็กพิการกลุ่มนี้ร้องเพลง Que sera sera ได้เพราะเหมือนอย่างในโฆษณาจริง (แน่จริง ควรนำมาร้องสด ๆ ออกทีวีเมื่อไหร่ผมถึงเชื่อ)


ผมจึงไม่สามารถชอบโฆษณานี้ได้จริงๆ ครับ ถ้าอยากให้คนดูประเภทชอบจับผิดแบบผมชอบ ก็ควรเขียนแนบในโฆษณาไว้ด้วยว่า ไม่ใช่เสียงของเด็กกลุ่มนี้จริง เพราะไม่เช่นนั้น ผมจะคิดว่า มีเจตนาต้มคนดูให้หลงเชื่อว่าเด็กพิการร้องเพลงได้เพราะจริงๆ


6 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ11 ธันวาคม, 2552 14:02

    เอาเวลาไปคิดอย่างอื่นดีกว่าไหมครับ ไม่เห็นสำคัญเลยว่าเด็กคนไหนจะร้องเพราะไม่เพราะ
    โฆษณา กว่าร้อยละ80 มันก็หลอกลวงชวนเชื่อทั้งนั้นแหละครับ เรามาดูเจตนาที่เค้าต้องการสื่ออกมาดีกว่ามั้งครับ วิธีการสร้างสื่อ มันมีหลายแบบ

    ขนาดนักร้องบางคน ยังมิกเสียงซะสุดยอด ออกเทปทั้งทีเสียงจริงห่วยแตกอย่าคิดมากไปครับ บางวครั้งเราควรดูแต่เป้าหมายครับ

    แต่ผมชอบนะที่คุณ มองอะไรลึกๆดี แต่ก็ต้องเลือกหัวข้อบางนะครับ

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณครับสำหรับความเห็น

    ตอนนี้หายไม่ชอบแล้วครับ ก็เพราะมันก็เป็นอย่่่างที่คุณว่านั่นแหล่ะ

    ที่เขียนเรื่องนี้เพราะ ผมเจอคนที่เข้าใจผิดหลายคน พวกเขาเชื่อว่าเป็นเสียงเด็กกลุ่มนี้จริงๆ

    ผมก็แค่อยากบอกว่า "ไม่น่าจะใช่มั้ง?"

    ก็เท่านั้นครับ

    ขอบคุณอีกครั้ง

    ^.^

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ16 เมษายน, 2553 04:02

    ดิชั้นเพิ่งได้มาอ่านความเห็นของคุณในบล็อกของคุณ ขอตอบว่าเสียงร้องของเด็กในโฆษณาเป็นเสียงจริงๆของเด็กๆเพราะดิชั้นเป็นแม่ของเด็กที่อยู่ในโฆษณา แต่อาจจะมีการปรับแต่งเสียงให้ชัดเจนขึ้นแต่ขอรับรองว่าเด็กทุกคนในโฆษณาร้องได้ดีจริงๆกันทุกคน ถ้าแยกร้องทีละคนอาจฟังไม่ค่อยเพราะสักเท่าไหร่ แต่พอทุกคนร้องประสานเสียงรวมกันแล้วก็จะเพราะเหมือนในโฆษณา กว่าจะได้เป็นโฆษณานี้ขอบอกว่าต้องถ่ายกันตั้งแต่เช้ากว่าจะเสร็จก็มืดแล้ว ร้องกันทั้งวันเป็นร้อยๆรอบแล้วขอบอกว่าเด็กในโฆษณาไม่ได้เป็นเด็กพิการทุกคน มีเด็กพิกรแค่10คนเป็นเด็กปรกติ20คน แล้วขอบอกว่าเด็กทุกคนในโฆษณานี้มีความพยายามและความตั้งใจมาก เพราะนี่อาจเป๊นโฆษณาชิ้นแรกและชิ้นเดียวที่เขามีโอกาสได้แสดงความสามารถให้ทุกคนได้เห็น เพราะฉะนั้นขออย่าได้ดูถูกเด็กๆทุกคนในโฆษณานี้เพราะเสียงที่คุณได้ยินในโฆษณาเป็นเสียงของเด็กๆทุกๆคนจริง

    ตอบลบ
  4. ขอบคุณ คุณแม่ไม่ระบุชื่อครับ ที่ช่วยทำให้ผมได้คลายสงสัย และสบายใจขึ้นเมื่อได้ชมโฆษณาชิ้นนี้ครับ

    ผมดีใจครับที่ได้ผู้ที่รู้จริงมาตอบ เพราะที่เขียนบทความนี้ก็เพราะอยากรู้ความจริงเท่านั้น

    ต่อไปนี้ผมจะดูโฆษณาชุดนี้ ที่ยังออกอากาศอยู่เสมอทางเนชั่นแชลแนล ด้วยความชื่นชมครับ

    ขอบคุณอีกครั้ง และขอโทษหากทำให้คุณแม่ไม่สบายใจ

    ตอบลบ
  5. ไม่ระบุชื่อ08 พฤษภาคม, 2553 14:08

    เอาหล่ะคลายความสงสัยกันแล้วก็ OK ทุกคนมีสิทธิ์คิดครับ ผมว่าเจตนาของคุณ ใหม่ เมืองเอก คงแค่ไม่อยากให้พวกทำโฆษณาในเมืองไทยทำกันแบบมักง่าย แค่เอาเรื่องราวของชีวิตหรือเมทขึ้นมาทำ เพียงเพราะต้องการขายเท่านั้น ผมว่ามีคนอย่างคุณนี่ก็ดีนะครับ วงการโฆษณาในบ้านเราจะได้พิถีพิถันกันมากกว่านี้ แต่ด้วยถ้อยคำที่คุณเขียนอาจแรงไปสำหรับใครบางคนที่เข้ามาอ่าน เขาก็เลยคิดว่าคุณดูถูกเด็ก ส่วนลึกแล้วตัวผมชอบผลงานโฆษณาชุดนี้มากๆ ผมพูดไม่อาย ผมร้องไห้ครับ ความรู้สึก นึกถึงครอบครัวและคนรอบข้างขึ้นมาทันที โดยเฉพาะ ลูกๆ และภรรยา และเพลงประกอบ เนื้อหาเขาง่ายๆ ซื่อๆดี แต่กินใจชวนให้คิด เยี่ยมครับ....

    ตอบลบ
  6. ไม่ระบุชื่อ08 กันยายน, 2553 13:16

    ชอบเด็ก ชอบเพลง แต่ไม่ชอบโฆษณา ที่หากินกับเด็ก และผู้ด้อยโอกาส หวังในทางธุระกิจมากเกินไป ปัญหานี้ต้องช่วยกันแก้ทั้งภาครัฐ และเอกชน ไม่ใช้จะหาผลประโยชน์ จากความสงสาร เหมือนเป็นการดูถูก ไม่เคารพสิทธิผู้อื่น ชวยเขาจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ ผมว่าผมไม่ได้มองโลกแง้ร้ายไปนะ แต่พูดจากความเป็นจริง

    ตอบลบ

ถ้าแสดงความเห็นตรงช่องนี้ผมจะได้อ่านทุกความเห็นครับ แต่ถ้าความเห็นไม่ขึ้นอาจเพราะระบบรอตรวจสแปม ต้องรอ1-2วัน / ใหม่ เมืองเอก kaeake@ymail.com


ผู้ติดตาม