วันอาทิตย์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2553

พายุฎีกา 94

atsuhine 94


อ่านเจ้าหญิงอัตสึที่รัก 93


หลังจากท่านคุโบออกจากห้องหอไปในคืนวันนั้น โดยทิ้งคำพูดที่ท่านหญิงอัตสึต้องเศร้าเสียใจไว้ ทำให้ในวันต่อๆมาท่านหญิงอัตสึดูเงียบๆลงไป ไม่ค่อยพูดค่อยจาเท่าทีี่ควร แถมข่าวเรื่องที่ฝ่ายสนับสนุนฮิโตะสึบาชิล้มเหลวที่เกียวโตก็เข้ามาอีก

ขณะท่านมิไดยืนชมสวนอยู่จากหน้าห้อง

อิคุชิมะ
"อาจจะได้พูดว่าฝ่ายฮิโตะสึบาชิแพ้แล้ว แต่ที่จริงยังไม่จบเพียงแค่นั้นนะเจ้าคะ การชิงชัยที่แท้จริงกำลังจะเริ่มหลังจากนี้ต่างหากล่ะเจ้าคะ"

ท่านมิไดนั่งลง แล้วตอบอย่างขอไปที "คงอย่างนั้นล่ะมั้ง"

"สำคัญที่สุดก็คือ ทำให้ท่านคุโบเสนอชื่อท่านโยชิโนะบุให้ได้นะเจ้าคะ ถ้าทำสำเร็จ ท่านพ่อที่สัทสุมะจะดีใจมากๆ อิคุชิมะก็จะดีใจด้วยเจ้าค่ะ"


คำพูดของอิคุชิมะแสดงให้รู้ว่า ท่านมิไดยังไม่ได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนวันก่อนให้อิคุชิมะฟังเลย ท่านมิไดคิดถึงเหตุการณ์ในคืนวันนั้นอีกครั้ง ใจก็อยากจะบอกอิคุชิมะว่าท่านได้พยายามทำคามคำสั่งท่านพ่อแล้ว แต่ก็ล้มเหลวมาแล้วเช่นกัน

ท่านมิไดพลาดไม่ใช่เพราะต้องทำตามคำสั่งของท่านพ่อหรอก แต่ที่เธอพลาด ก็เพราะความไม่จริงใจต่อความรู้สึกตนเองต่างหาก...

ระหว่างนั้นเอง ฮัทสึเสะก็มาแจ้งว่า "ท่านคุโบให้มาตามท่านมิไดไปพบที่ห้องเจ้าค่ะ"

"ท่านพี่น่ะเหรอ?"


-----------------------------

ท่านคุโบนั่งมองสวนจากภายในห้อง และเมื่อท่านมิไดมาเรียกขอนุญาตเข้าไป ท่านคุโบลกุขึ้น แต่ดูเหมือนท่านจะมีอาการหน้ามืดขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็ไม่เป็นไร

"เข้ามาสิ!" / "เจ้าค่ะ"




เมื่อท่านมิไดเปิดประตูเข้ามาแล้ว ท่านคุโบก็กำลังนั่งปิ้งขนมโมจิอยู่

(สังเกตมารยาทการเปิดประตูและการปิดประตู สมัยก่อนสาวเอโดะช่างมีกิริยาน่ารักงดงามจริง ที่จริงมารยาทที่งดงามเช่นนี้ ท่านหญิงอัตสึไม่ใช่ว่ากระทำแต่ผู้สูงศักดิ์อย่างท่านคุโบเท่านั้น

สมัยยังเป็นคุณหนูโอคัตสึ ก็มีมารยาทงดงามเช่นนี้กับผู้ที่อยู่ระดับต่ำกว่าเช่นกัน(บทที่3) ผมเห็นครั้งแรกประทับใจมาก ก็คือวันที่โอคัตสึไปเยี่ยมท่านโอคุโบะ เมื่อครั้งท่านโอคุโบะโดนลงโทษกักบริเวณอยู่ในบ้าน โอคัตสึนำชิ้นปลาไปให้ทานที่ห้อง ก็มีการขออนุญาต และก็ค่อยๆเปิดประตูแบบมีมารยาทเช่นนี้เหมือนกัน)

--------------------------

เมื่อท่านมิไดเข้ามาแล้วก็ยังนั่งอยู่แค่ตรงชิดประตูห้อง ท่านมิไดก็มีสีหน้าที่กังวลและรอคอยท่านคุโบว่าท่านคุโบจะเอ่ยพูดอย่างไรก่อน ซึ่งท่านคุโบก็ดูจะใจเย็นจริงๆ นั่งย่างขนมโมจิอย่างสบายใจ และสักครู่ก็เอ่ยขึ้นก่อนว่า

ท่านคุโบอิเอซาดะ
"จักรพรรดิไม่ทรงอนุญาตให้ทำสัญญาอย่างที่เจ้าว่าไว้จริงๆด้วย" / "ข้าทราบแล้วเจ้าค่ะ"

"ผลมันก็เป็นอย่างที่มิไดพูดจริงๆด้วยนะ" /
ท่านมิไดลุกขึ้นเดินเข้ามานั่งใกล้ๆต่อหน้าท่านคุโบ

"แล้วเรื่องนี้มันจะเป็นอย่างไรต่อไปล่ะเจ้าคะ?" / "ก็คงจะต้อง..ยืืดเวลาลงนามในสัญญาออกไปก่อนน่ะสิ ถ้าฮาริสตกลงกับบะขุฝุไม่ได้ล่ะก็ เขาคงจะขอเข้าเฝ้าพระจักรพรรดิที่เกียวโตโดยตรง"

"เข้าเฝ้าจักรพรรดิ!" / "แบบนี้ข้าคงต้องเขียนหนังสือถึงเพรสซิเดนท์อเมริกา ขอยืดเวลาทำสัญญาออกไปอีกสักพักนึงนั่นแหล่ะ"

"ข้าอ่านรายงานการเจรจากับฮาริสแล้วนะเจ้าคะ" / "ฮ่าๆๆ เจ้าอ่านของแบบนั้นได้ด้วยเหรอ"


"เจ้าค่ะ เพราะข้าสนใจอยู่แล้ว" / "อึม แล้วไง?"

"มันทำให้เกิดความคิดตั้งหลายเรื่องเลยนะเจ้าคะ" / "เช่นอะไรล่ะ?"

"การปิดประเทศทำให้เราล้าหลังไม่ทันโลก เลยถูกรังแกโดยการเอาเรือรบมาขู่ โดยประเทศที่อ้างว่าตัวเองมาเจรจาอย่างสันติ เราจึงต้องทำตัวให่เข้มแข็ง ข้าน่ะแปลกใจมากที่พวกเขารู้ว่าคนญี่ปุ่นฉลาดและขยันทำงานเก่ง และชอบเรียนรู้" / "จริงๆด้วย"


"ข้าน่ะมีความสุขมากที่ได้เกิดมาในยุคสมัยนี้เจ้าค่ะ" / "เจ้ามีความสุขเหรอ?"

"เจ้าค่ะ เพราะเราสามารถเรียนรู้และเข้าใจชาติตะวันตกได้นะเจ้าคะ" / "เจ้ากำลังจะพูดว่าเราควรเปิดประเทศงั้นเหรอ?"

"เจ้าค่ะ อย่างที่ท่านพี่เคยพูดน่ะเจ้าค่ะ ถึงเวลาที่ญี่ปุ่นเราจะต้องเปลี่ยนแปลงซะที" / "ถึงเวลา?"


"ไม่ว่าจะยังไง ประเทศเราจะต้องคงอยู่ ฉะนั้นพวกเราควรจะเรียนรู้ข้อดีและข้อด้อยของชาติอื่นบ้าง และควรมีน้ำใจช่วยเหลือซึ่งกันและกันเจ้าค่ะ เหมือนกับคนเราที่ต้องอยู่ในสังคมน่ะเจ้าค่ะ ข้าอยากให้เป็นเช่นนั้น"

"ข้าเองก็อยากให้เป็นเช่นนั้นเหมือนกัน แต่พวกโง่ที่ไม่เข้าใจจุดนี้ยังมีเยอะนะ" ท่านุคโบยังคงนั่งย่างขนมโมจิไปด้วย

"เพราะอย่างนั้นน่ะสิ เจ้าถึงต้องมีเรื่องที่ต้องลำบากใจอีกแล้ว" / "!?"


"ได้ยินมาว่าพวกฮิโตะสึบาชิแพ้แล้วนะที่เกียวโตน่ะ"

เมื่อท่านมิไดได้ยินเรื่องนี้ขึ้นมาอีก ก็หยุดนิ่งไป จนกระทั่ง

"คราวก่อนน่ะ!" "เรื่องนั้นน่ะ!"
อยู่ๆทั้งสองคนก็พูดขึ้นพร้อมๆกัน เล่นเอาหยุดเขินไปแป๊บนึง

"งั้นเจ้าพูดก่อนแล้วกัน" / "ท่านพี่พูดก่อนเถอะเจ้าค่ะ"

"ข้ายังเสียใจกับเรื่องเมื่อวันก่อน.. เมื่อลองคิดจากจุดยืนของเจ้า มันก็เป็นธรรมดาที่เจ้าจะต้องทำตามที่ท่านพ่อสั่ง..วันก่อนที่ข้าพูดอย่างนั้นกับเจ้าไป..ข้าต้องขอโทษด้วย"

"ข้าต่างหากที่ควรเป็นฝ่ายต้องขอโทษท่านพี่ เพราะข้าไม่นึกถึงความรู้สึกของท่านพี่ เอาแต่พูดเรื่องของตัวเองเท่านั้นน่ะ มิหนำซ้ำยังโกหกตัวเอง พูดไม่ตรงกับใจ" / "โกหกเหรอ?"


"จริงๆแล้ว ข้าไม่รู้หรอกว่าจะเลือกใคร ท่านโยชิโนะบุ หรือท่านโยชิโตมิ" / "ฮ่าๆ คนอย่างเจ้าก็เป็นแบบนี้แหล่ะ อุ้ย! โมจิสุกพอดีเลย...เอ้า! ลองทานดูสิ "





ท่านมิไดนิ่งเงียบไป

"เป็นอะไรไปล่ะ?" / "ข้าตัดสินใจแล้วเจ้าค่ะ" / "ตัดสินใจเหรอ?"

"ข้าจะทำตามความรู้สึกของข้า ในเมื่อข้าไม่รู้ว่าใครเหมาะกว่ากัน ดังนั้นข้าก็จะไม่เลือกใครเลยเจ้าค่ะ" / "หมายความว่าเจ้าจะทรยศท่านพ่อหรือ?"


"ไม่ได้ทรยศ!นะเจ้าค่ะ" / "ทำไมถึงคิดเช่นนั้น?"

"เพราะข้าเป็นคนซื่อสัตย์กับความรู้สึกตัวเอง ไม่ได้คิดร้าย..." / "เข้าใจแล้ว..." คำพูดของท่านคุโบทำให้ท่านมิไดรู้สึกได้ถึงความอบอุ่น "โอ๊ะ!ขนมโมจิสุกได้ที่แล้ว มาทานเถอะเดี๋ยวจะเย็นหมด"

"เจ้าค่ะ" ท่านมิไดรับปากทั้งที่หัวเราะทั้งน้ำตา / "เป็นไงอร่อยมั้ย?" / "อร่อยมากเจ้าค่ะ" / "โอ้ว ร้อนๆๆอร่อยจริงๆด้วยนะ"


แล้วทั้งสองคนก็เข้าใจซึ่งกันและกันมากขึ้น และร่วมทานขนมโมจิด้วยกัน

--------------------

ในคืนวันนั้น ท่านคุโบก็มาพักที่ห้องหอกับท่านมิได ไม่ได้เล่นหมากเรียง5 แต่วันนี้ได้นอนคุยกัน

ท่านคุโบ "สมมุติว่าถ้ากลับชาติมาเกิดใหม่ แล้วให้เลือกเกิดได้ด้วย เจ้าอยากเกิดเป็นอะไร?" / "ถ้าเลือกเิกิดใหม่ได้เหรอเจ้าคะ?" / "ใช่"

"ถ้าเลือกเิกิดใหม่ได้..." / "ข้าน่ะนะ... อยากเป็นอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่คน!"

"อะไรที่ไม่ใช่คน!?เหรอ?" / "รู้ละ! เกิดเป็นนกดีกว่า ใช่ข้าอยากเกิดเป็นนก เพราะนกสามารถบินไปไหนก็ได้ตามใจชอบ"


"ส่วนข้า..อยากเกิดเป็นตัวเองอย่างนี้แหล่ะเจ้า่ค่ะ" / "นึกแล้วไม่มีผิด"

"ก็เพราะ..." / "เพราะอะไรเหรอ?" / "ไม่มีอะไรเจ้าค่ะ"

"บอกมาเถอะว่าเพราะอะไร?" / "ไม่มีอะไรจริงๆ" / "บอกมาเร็วเข้า!" / "ไม่มีอะไรเจ้าค่ะ!" / "บอกมาเร็ว!"


แล้วใบหน้าท่านคุโบก็เข้ามาใกล้หน้าท่านมิได เมื่อสายตาทั้งสองมาประสานกัน ท่านมิไดหยุดนิ่ง แต่แล้ว

"ข้าเหนื่อยละ จะนอนล่ะ"

แหม!เหมือนท่านมิไดจะผิดหวังเล็กๆ แต่ท่านมิไดก็เข้าใจท่านคุโบ เลยยิ้มเขินๆอย่างมีความสุข หลังจากนั้น ท่านมิไดก็หันมาเล่นจั๊กจี้ที่ตัวท่านคุโบใหญ่เลย

"นี่เจ้าทำอะไรน่ะ!! อย่าๆ อย่านะ หยุด!"

ท่านคุโบกระโดดลุกหนีจากการถูกจั๊กจี้ลุกไปจากที่นอน แต่!แล้วหัวของท่านคุโบก็เกิดไปชนกับโต๊ะเครื่องแ้ป้ง!! "โอ๊ย!!"

"อุ๊ย!ขอโทษ!เจ้าค่ะ ข้าไม่ได้ตั้งใจ"


หลังจากนั้น เมื่อท่านคุโบได้นอนหลับไปแล้ว ส่วนท่านมิไดกลับยังนอนมองท่านคุโบอยู่ แล้วท่านมิไดก็พูดกับตัวเองว่า

"ที่ข้าอยากเกิดเป็นข้าแบบนี้ ก็พราะ..ไม่เช่นนั้นข้าคงไม่ได้มาพบท่านพี่แบบนี้...."
.
.
.
.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ถ้าแสดงความเห็นตรงช่องนี้ผมจะได้อ่านทุกความเห็นครับ แต่ถ้าความเห็นไม่ขึ้นอาจเพราะระบบรอตรวจสแปม ต้องรอ1-2วัน / ใหม่ เมืองเอก kaeake@ymail.com


ผู้ติดตาม