อ่านเจ้าหญิงอัตสึที่รัก 94
ศึกชิงตำแหน่งทายาทโชกุนระหว่างฝ่ายคิชูและฝ่ายฮิโตะสึบาชิ ทำให้เกิดการแบ่งแยกกันอย่างชัดเจนในหมู่นักการเมือง โดยฝ่ายฮิโตะสึบาชินั้นอยากจะล้มล้างรัฐบาลทหารที่อ่อนแอ เพื่อให้ไดเมียวที่มีความสามารถแท้จริงขึ้นมาปกครองและสร้างการเมืองใหม่ที่เข้มแข็ง
ฝ่ายที่สนับสนุนคิชูผูกพันธ์อย่างแน่นแฟ้นกับสกุลของโชกุน จึงต้องการปกป้องตระกูลโทกุกาวาะให้ครองอำนาจต่อไป ศึกระหว่างทั้งสองฝ่ายกำลังร้อนแรงดุจแสงตะวันอันแผดกล้า
--------------------------
บทที่95
อิคุชิมะ "ไม่สนับสนุนทั้งคู่เลยรึเจ้าคะ? / "ใช่แล้ว เมื่อตัดสินตามความรู้สึกแท้จริงของข้า สนับสนุนท่านโยชิโนะบุไม่ลงหรอก!" น้ำเสียงท่านมิไดค่อนข้างเด็ดขาด
"ถ้าอย่างนั้นจะบอกท่านพ่อที่สัทสุมะว่ายังไง ท่านถึงจะไม่เสียใจล่ะเจ้าคะ?"
ท่านมิไดหันขวับกลับมา "ข้าจะเขียนจดหมายไป!" / "ทำแบบนี้ไม่ได้นะ ข้าไม่ยอมเด็ดขาดนะเจ้าคะ!!"
อิคุชิมะตวาดซะท่านมิไดสะดุ้งนิดนึง แต่ท่านมิไดก็ไม่ยอมลดราวาศอกให้เหมือนทุกครั้ง ทำตาขมึงทึงปะทะกับตาอิคุชิมะแบบไม่ยอมกัน
แต่ระหว่างนั้นมีนางกำนัลเข้ามาขัดการปะทะด้วยสายตาของคนทั้งสอง โดยมาแจ้งว่า ทาคิยามะ มารอพบท่านมิไดอยู่
ที่ห้องรับรองของท่านมิได ทาคิยามะได้ส่งหนังสือฉบับนึงให้ท่านมิไดดู
ท่านมิได "หนังสืออุทธรณ์เหรอ?" / ทาคิยามะ "นี่เป็นมติเอกฉันท์ของโอโอขุ ที่ข้าเพิ่งรวบรวมมาได้เมื่อไม่นานมานี้เจ้าค่ะ"
"ในฐานะที่ท่านมิไดเป็นนายใหญ่ของพวกเรา จึงขอให้ท่านลงนามอนุมัติด้วยเจ้าค่ะ" ทาคิยามะก้มหัวคำนับ
อิคุชิมะ "แล้วขอเรื่องอะไรล่ะ?"
ทาคิยามะไม่ตอบแก่อิคุชิมะ แต่หันมาตอบแก่ท่านมิไดว่า "ให้แต่งตั้งท่านอี นาโอสุเกะแห่งฮิโคเนะ เป็นไทโรเจ้าค่ะ" / "อะไรนะ!!"
"ให้ตั้งท่านอี เป็นไทโรเหรอ?" / "เดี๋ยวก่อน! ท่านอีที่ว่านี่ คือคู่ปรปักษ์ของท่านผู้เฒ่าแห่งมิโตะ เป็นคนที่ทำให้ท่านแห่งมิโตะต้องห่างเหินกับโอโอขุ อย่าบอกนะว่าท่านทาคิยามะสนับสนุนเขาน่ะ" อิคุชิมะเริ่มทำหน้าที่ขัดขวางแล้ว
"จะบอกว่า เป็นหมายความเช่นนั้นจริงๆ" / "ทำอย่างนี้ได้ยังไง จุ้นจ้านไม่ได้เรื่องเลย!! เึคยนึกถึงความสำคัญของท่านมิไดบ้างรึเปล่า ว่าคนเขาจะคิดยังไง ทำไมท่านถึงแอบไปทำเรื่องแบบนี้!!"
"งั้นข้าจะตอบล่ะนะ ท่านอีพูดว่า ปกติทายาทโชกุนจะต้องเลือกจากสายเลือดที่ใกล้ชิดที่สุดของท่านคุโบก็คือท่านโยชิโตมิแห่งคิชู ฝ่ายสนับสนุนฮิโตะสึบาชิอ้างว่าท่านโยชิโนะบุเหมาะจะเป็นโชกุน เพราะวัยวุฒิสูงกว่า ที่จริงก็อายุต่างกันแค่9ปีเท่านั้น รอสัก4-5ปี ก็ไม่ต้องคำนึงถึงจุดนี้แล้ว"
อิคุชิมะชักเดือด "เขาลือกันว่าท่านอี ใช้เส้นกำจัดศัตรูให้กระเด็นออกจากวงการเมืองไป แล้ววางแผนมาเป็นพันธมิตรกับคนในโอโอขุทีี่จงเกลียดจงชังท่านมิโตะ ท่านทาคิยามะก็คงจะใช้ทั้งฝีปากและฝีมือ ทำทุกทางให้แผนนั้นสำเร็จให้ง่ายขึ้นใช่มั้ยล่ะ?"
"หุบปากเดี๋ยวนี้นะ!! ท่านอิคุชิมะเป็นแค่ผู้ติดตามท่านมิได ส่วนข้าเป็นผู้ติดตามรับคำสั่งจากท่านคุโบโดยตรง ท่านลืมฐานะของตัวเองแล้วเหรอ!?" ทาคิยามะยกความสำคัญของตนที่มากกว่าขึ้นมาข่ม
"หยุดเถอะ" ท่านมิไดเห็นทั้งสองเริ่มเดือดใส่กัน ก็เลยเตือน แต่ก็หามีคนฟังไม่
"ข้าเป็นถึงผู้ดูแลท่านมิได ทำไมถึงจะไม่มีสิทธิ!! ไม่มีสิทธิมีเสียงพูดอะไรในโอโอขุเชียวเหรอ!!?" / "ก็มีน้อยกว่าข้านิดหน่อยนั่นแหล่ะ!! เพราะข้าทำหน้าที่อำนวยการบริหารของโอโอขุนะ"
"ใหญ่โตคับฟ้าเสียเหลือเกินนะ!!"
"นีี่!!หยุดพูดทั้งคู่เลย!!" ท่านมิไดตวาดให้หยุด!
"ขออภัย ที่เสียมารยาทเจ้าค่ะ" ทาคิยามะหันมาก้มหัวขอโทษ
"เรื่องหนังสืออุทธรณ์น่ะ" / "เจ้าค่ะ"
"มันเป็นเรื่องสำคัญมาก ตอบทันทีไม่ได้หรอก รอสักพักนึงก็แล้วกัน" / "หา! ท่านมิได!"
"ถ้าอย่างนั้น ขอให้ท่านมิไดพิจารณาตามสบา่ยนะเจ้าึคะ เพราะว่าตอนนี้ท่านมิไดเป็นคนในตระกูลโชกุนโทกุกาวะแล้ว เป็นนายหญิงของเราพันกว่าคนในโอโอขุ ท่านจะต้องคิดเผือพวกเราทุกคนด้วยนะเจ้าคะ ทาคิยามะ ขอร้องจากก้นบึ้งของหัวใจเจ้าค่ะ"
ทาคิยามะก้มหัวเคารพต่อท่านมิไดอย่างนอบน้อมที่สุด คำพูดที่จริงใจของทาคิยามะ ที่ย้ำเตือนถึงความเป็นโทกุกาวะร่วมกันให้ท่านมิไดรู้สึกตระะหนัก ช่างเป็นคำพูดที่สะกิดใจท่านมิไดได้ไ่ม่น้อยทีเดียว
ส่วนอิคุชิมะเมื่อเห็นสีหน้าท่านมิไดทืี่่อ่อนไหวไปตามคำพูดทาคิยามะแล้ว อิคุชิมะก็ยิ่งกังวลใจมากขึ้น
(ไทโร คือตำแหน่งผุ้อาวุโสสูงสุดของบะขุฝุ ที่มีอำนาจมากรองจากท่านโชกุนเท่านั้น และตำแหน่งไทโรนี้ไม่ได้มีกันทุกสมัย นานๆจะมีคนขึ้นถึงตำแหน่งสูงสุดนี้สักที หากจะเปรียบเทียบก็คล้ายๆกับ ขึ้นสูงถึงตำแหน่งระดับจอมพลในกองทัพนั่นเอง)
-------------------------
เมื่อทาคิยามะออกไปแล้ว อิคุชิมะก็รีบหาเหตุผลมาโน้มน้ามท่านมิไดต่อทันที ในขณะเดินออกมาจากห้องรับรอง
อิคุชิมะ "ท่านทาคิยามะรู้อยู่แก่ใจว่า พวกเราสนับสนุนท่านโยชิโนะบุ ยังจะมาพูดอย่างนี้อีก ท่านมิไดอย่าไปฟังนะเจ้าคะ"
"ข้าไม่ฟังทั้งสองคนนั่นแหล่ะ" / "แล้วทำไมถึงไม่ยอมปฏิเสธทันทีให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลยล่ะเจ้าคะ?"
"ทาคิยามะน่ะ เข้ามาทำงานในโอโอขุตั้งแต่อายุ14ปีเท่านั้นนะ เขาก็ต้องคิดถึงผลประโยชน์ของบ้านนี้ก่อนอยู่แล้ว" ท่านมิไดอธิบายที่มาที่ไปของทาคิยามะได้สมเหตุผลจริงๆ
อิคุชิมะนั่งลงคุกเข่าเพื่อขอร้องท่านมิได "ยังไงก็ช่าง หนังสืออุทธรณ์นั่นน่ะ ขยำทิ้งไปเสียเถอะะเจ้าค่ะ อิคุชิมะขอแค่นี้เท่านั้น ขอความกรุณาจากหัวใจทั้งหมดเจ้าค่ะ" แล้วอิคุชิมะก็ก้มหัวคำนับขอร้องต่อท่านมิไดอย่างหนัก! (หมายถึงขอร้องจริงจังอย่างที่สุด)
ท่านมิไดเองก็คงลำบากใจไม่น้อยเช่นกัน ที่เห็นอิคุชิมะเสียใจเช่นนี้
------------------------------
ที่ห้องของท่านฮงจูอิน มีท่านคุโบนั่งอยู่ด้วยและกำลังโยนพัดเล่นเพื่อชนของให้หล่น
ท่านคุโบ "ขอให้แต่งตั้งท่านอี เป็นไทโรอย่างนั้นเหรอ" / ท่านฮงจูอิน "เรากำลังทำหนังสืออุทธรณ์ไปขอความเห็นชอบจากพวกที่ปรึกษาน่ะ"
"แล้วทำไมถึงมาทำตอนนี้ล่ะ?" / "เพราะรู้ว่าสัทสุมะส่งฎีกามาเรียกร้องให้เสนอชื่อท่านโยชิโนะบุเป็นทายาทโชกุนน่ะสิ แล้วถ้าบังเอิญโยชิโนะบุได้รับเลือกให้เป็นทายาทละก็ ข้าก็จะ..ฆ่าตัวตายไปซะเลย"
ท่านคุโบนิ่งและชำเลืองมองท่านแม่นิดนึง แล้วก็โยนพัดเล่นอีกทีนึง และเริ่มพูดขึ้นว่า "ท่านแม่..เรื่องทายาทน่ะข้าคิดเองได้นะ"
"แต่ว่า" / "เรื่องนั้น..มันเป็นงานของข้านะ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกน่า"
ท่านฮงจูอินนิ่งอึ้ง หยุดมองหน้าท่านคุโบ จนท่านคุโบแปลกใจ
"เป็นอะไรไปล่ะขอรับ?" / "เปล่า...แค่คิดว่าท่านคุโบเปลีี่ยนไปมากเลยนะ" หน้าตาท่านฮงจูอินดูอึ้งๆทึ่งๆ
"ถ้าเปลี่ยนไปก็เพราะท่านแม่นั่นแหล่ะขอรับ" ท่านคุโบลุกขึ้นและกำลังไปเก็บพัดที่ตกอยู่
"เพราะข้าเหรอ?" / "ก็เพราะท่านแม่หาภรรยาที่ฉลาด รื่นเริง สดใส แข็งแรง น่ารัก จากสัทสุมะมาให้ข้าไงล่ะ" ท่านคุโบพูดด้วยสายตาที่แฝงด้วยรอยยิ้ม และเดินออกจากห้องไป
ท่านฮงจูอินได้ยืินแบบนี้ จะภูมิใจในคำชมหรือจะโมโหดีนะ ท่านฮงจูอินเลยก็อึ้ง! และงง! ไม่รู้จะพูดอะไรได้อีก..
------------------------
ในคืนวันนั้นท่านคุโบก็เล่นหมากเรียง5กับท่านมิไดเช่นเคย แต่ท่านมิไดดูเศร้าซึมๆกว่าทุกๆวัน
ท่านคุโบ "ถึงตาเจ้าเดินแล้ว" เพราะท่านมิไดเหมือนใจลอย จนท่านคุโบต้องเตือน
"ขออภัยด้วยเจ้าค่ะ"
ท่านคุโบสังเกตเห็นความผิดปกติของท่านหญิง จึงพูดว่า "ข้าได้ฟังเรื่องหนังสืออุทธรณ์แล้ว อย่าได้ไปใส่ใจกับท่านแม่เลยนะ เจ้าอยากจะทำอะไรก็ตามใจเถอะ"
"ทำอย่างนั้นไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ" / "ทำไมล่ะ?"
"เพราะท่านฮงจูอินเป็นมารดาบังเกิดเกล้าของท่านพี่ แล้วก็..เป็นคนสำคัญมาก ถ้าจะไม่ให้ใส่ใจกับความรู้สึกของท่านน่ะ ไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ!"
(การสนทนามีต่อตอนหน้า)
แต่ระหว่างนั้นมีนางกำนัลเข้ามาขัดการปะทะด้วยสายตาของคนทั้งสอง โดยมาแจ้งว่า ทาคิยามะ มารอพบท่านมิไดอยู่
ที่ห้องรับรองของท่านมิได ทาคิยามะได้ส่งหนังสือฉบับนึงให้ท่านมิไดดู
ท่านมิได "หนังสืออุทธรณ์เหรอ?" / ทาคิยามะ "นี่เป็นมติเอกฉันท์ของโอโอขุ ที่ข้าเพิ่งรวบรวมมาได้เมื่อไม่นานมานี้เจ้าค่ะ"
"ในฐานะที่ท่านมิไดเป็นนายใหญ่ของพวกเรา จึงขอให้ท่านลงนามอนุมัติด้วยเจ้าค่ะ" ทาคิยามะก้มหัวคำนับ
อิคุชิมะ "แล้วขอเรื่องอะไรล่ะ?"
ทาคิยามะไม่ตอบแก่อิคุชิมะ แต่หันมาตอบแก่ท่านมิไดว่า "ให้แต่งตั้งท่านอี นาโอสุเกะแห่งฮิโคเนะ เป็นไทโรเจ้าค่ะ" / "อะไรนะ!!"
"ให้ตั้งท่านอี เป็นไทโรเหรอ?" / "เดี๋ยวก่อน! ท่านอีที่ว่านี่ คือคู่ปรปักษ์ของท่านผู้เฒ่าแห่งมิโตะ เป็นคนที่ทำให้ท่านแห่งมิโตะต้องห่างเหินกับโอโอขุ อย่าบอกนะว่าท่านทาคิยามะสนับสนุนเขาน่ะ" อิคุชิมะเริ่มทำหน้าที่ขัดขวางแล้ว
"จะบอกว่า เป็นหมายความเช่นนั้นจริงๆ" / "ทำอย่างนี้ได้ยังไง จุ้นจ้านไม่ได้เรื่องเลย!! เึคยนึกถึงความสำคัญของท่านมิไดบ้างรึเปล่า ว่าคนเขาจะคิดยังไง ทำไมท่านถึงแอบไปทำเรื่องแบบนี้!!"
"งั้นข้าจะตอบล่ะนะ ท่านอีพูดว่า ปกติทายาทโชกุนจะต้องเลือกจากสายเลือดที่ใกล้ชิดที่สุดของท่านคุโบก็คือท่านโยชิโตมิแห่งคิชู ฝ่ายสนับสนุนฮิโตะสึบาชิอ้างว่าท่านโยชิโนะบุเหมาะจะเป็นโชกุน เพราะวัยวุฒิสูงกว่า ที่จริงก็อายุต่างกันแค่9ปีเท่านั้น รอสัก4-5ปี ก็ไม่ต้องคำนึงถึงจุดนี้แล้ว"
อิคุชิมะชักเดือด "เขาลือกันว่าท่านอี ใช้เส้นกำจัดศัตรูให้กระเด็นออกจากวงการเมืองไป แล้ววางแผนมาเป็นพันธมิตรกับคนในโอโอขุทีี่จงเกลียดจงชังท่านมิโตะ ท่านทาคิยามะก็คงจะใช้ทั้งฝีปากและฝีมือ ทำทุกทางให้แผนนั้นสำเร็จให้ง่ายขึ้นใช่มั้ยล่ะ?"
"หุบปากเดี๋ยวนี้นะ!! ท่านอิคุชิมะเป็นแค่ผู้ติดตามท่านมิได ส่วนข้าเป็นผู้ติดตามรับคำสั่งจากท่านคุโบโดยตรง ท่านลืมฐานะของตัวเองแล้วเหรอ!?" ทาคิยามะยกความสำคัญของตนที่มากกว่าขึ้นมาข่ม
"หยุดเถอะ" ท่านมิไดเห็นทั้งสองเริ่มเดือดใส่กัน ก็เลยเตือน แต่ก็หามีคนฟังไม่
"ข้าเป็นถึงผู้ดูแลท่านมิได ทำไมถึงจะไม่มีสิทธิ!! ไม่มีสิทธิมีเสียงพูดอะไรในโอโอขุเชียวเหรอ!!?" / "ก็มีน้อยกว่าข้านิดหน่อยนั่นแหล่ะ!! เพราะข้าทำหน้าที่อำนวยการบริหารของโอโอขุนะ"
"ใหญ่โตคับฟ้าเสียเหลือเกินนะ!!"
"นีี่!!หยุดพูดทั้งคู่เลย!!" ท่านมิไดตวาดให้หยุด!
"ขออภัย ที่เสียมารยาทเจ้าค่ะ" ทาคิยามะหันมาก้มหัวขอโทษ
"เรื่องหนังสืออุทธรณ์น่ะ" / "เจ้าค่ะ"
"มันเป็นเรื่องสำคัญมาก ตอบทันทีไม่ได้หรอก รอสักพักนึงก็แล้วกัน" / "หา! ท่านมิได!"
"ถ้าอย่างนั้น ขอให้ท่านมิไดพิจารณาตามสบา่ยนะเจ้าึคะ เพราะว่าตอนนี้ท่านมิไดเป็นคนในตระกูลโชกุนโทกุกาวะแล้ว เป็นนายหญิงของเราพันกว่าคนในโอโอขุ ท่านจะต้องคิดเผือพวกเราทุกคนด้วยนะเจ้าคะ ทาคิยามะ ขอร้องจากก้นบึ้งของหัวใจเจ้าค่ะ"
ทาคิยามะก้มหัวเคารพต่อท่านมิไดอย่างนอบน้อมที่สุด คำพูดที่จริงใจของทาคิยามะ ที่ย้ำเตือนถึงความเป็นโทกุกาวะร่วมกันให้ท่านมิไดรู้สึกตระะหนัก ช่างเป็นคำพูดที่สะกิดใจท่านมิไดได้ไ่ม่น้อยทีเดียว
ส่วนอิคุชิมะเมื่อเห็นสีหน้าท่านมิไดทืี่่อ่อนไหวไปตามคำพูดทาคิยามะแล้ว อิคุชิมะก็ยิ่งกังวลใจมากขึ้น
(ไทโร คือตำแหน่งผุ้อาวุโสสูงสุดของบะขุฝุ ที่มีอำนาจมากรองจากท่านโชกุนเท่านั้น และตำแหน่งไทโรนี้ไม่ได้มีกันทุกสมัย นานๆจะมีคนขึ้นถึงตำแหน่งสูงสุดนี้สักที หากจะเปรียบเทียบก็คล้ายๆกับ ขึ้นสูงถึงตำแหน่งระดับจอมพลในกองทัพนั่นเอง)
-------------------------
เมื่อทาคิยามะออกไปแล้ว อิคุชิมะก็รีบหาเหตุผลมาโน้มน้ามท่านมิไดต่อทันที ในขณะเดินออกมาจากห้องรับรอง
อิคุชิมะ "ท่านทาคิยามะรู้อยู่แก่ใจว่า พวกเราสนับสนุนท่านโยชิโนะบุ ยังจะมาพูดอย่างนี้อีก ท่านมิไดอย่าไปฟังนะเจ้าคะ"
"ข้าไม่ฟังทั้งสองคนนั่นแหล่ะ" / "แล้วทำไมถึงไม่ยอมปฏิเสธทันทีให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลยล่ะเจ้าคะ?"
"ทาคิยามะน่ะ เข้ามาทำงานในโอโอขุตั้งแต่อายุ14ปีเท่านั้นนะ เขาก็ต้องคิดถึงผลประโยชน์ของบ้านนี้ก่อนอยู่แล้ว" ท่านมิไดอธิบายที่มาที่ไปของทาคิยามะได้สมเหตุผลจริงๆ
อิคุชิมะนั่งลงคุกเข่าเพื่อขอร้องท่านมิได "ยังไงก็ช่าง หนังสืออุทธรณ์นั่นน่ะ ขยำทิ้งไปเสียเถอะะเจ้าค่ะ อิคุชิมะขอแค่นี้เท่านั้น ขอความกรุณาจากหัวใจทั้งหมดเจ้าค่ะ" แล้วอิคุชิมะก็ก้มหัวคำนับขอร้องต่อท่านมิไดอย่างหนัก! (หมายถึงขอร้องจริงจังอย่างที่สุด)
ท่านมิไดเองก็คงลำบากใจไม่น้อยเช่นกัน ที่เห็นอิคุชิมะเสียใจเช่นนี้
------------------------------
ที่ห้องของท่านฮงจูอิน มีท่านคุโบนั่งอยู่ด้วยและกำลังโยนพัดเล่นเพื่อชนของให้หล่น
ท่านคุโบ "ขอให้แต่งตั้งท่านอี เป็นไทโรอย่างนั้นเหรอ" / ท่านฮงจูอิน "เรากำลังทำหนังสืออุทธรณ์ไปขอความเห็นชอบจากพวกที่ปรึกษาน่ะ"
"แล้วทำไมถึงมาทำตอนนี้ล่ะ?" / "เพราะรู้ว่าสัทสุมะส่งฎีกามาเรียกร้องให้เสนอชื่อท่านโยชิโนะบุเป็นทายาทโชกุนน่ะสิ แล้วถ้าบังเอิญโยชิโนะบุได้รับเลือกให้เป็นทายาทละก็ ข้าก็จะ..ฆ่าตัวตายไปซะเลย"
ท่านคุโบนิ่งและชำเลืองมองท่านแม่นิดนึง แล้วก็โยนพัดเล่นอีกทีนึง และเริ่มพูดขึ้นว่า "ท่านแม่..เรื่องทายาทน่ะข้าคิดเองได้นะ"
"แต่ว่า" / "เรื่องนั้น..มันเป็นงานของข้านะ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกน่า"
ท่านฮงจูอินนิ่งอึ้ง หยุดมองหน้าท่านคุโบ จนท่านคุโบแปลกใจ
"เป็นอะไรไปล่ะขอรับ?" / "เปล่า...แค่คิดว่าท่านคุโบเปลีี่ยนไปมากเลยนะ" หน้าตาท่านฮงจูอินดูอึ้งๆทึ่งๆ
"ถ้าเปลี่ยนไปก็เพราะท่านแม่นั่นแหล่ะขอรับ" ท่านคุโบลุกขึ้นและกำลังไปเก็บพัดที่ตกอยู่
"เพราะข้าเหรอ?" / "ก็เพราะท่านแม่หาภรรยาที่ฉลาด รื่นเริง สดใส แข็งแรง น่ารัก จากสัทสุมะมาให้ข้าไงล่ะ" ท่านคุโบพูดด้วยสายตาที่แฝงด้วยรอยยิ้ม และเดินออกจากห้องไป
ท่านฮงจูอินได้ยืินแบบนี้ จะภูมิใจในคำชมหรือจะโมโหดีนะ ท่านฮงจูอินเลยก็อึ้ง! และงง! ไม่รู้จะพูดอะไรได้อีก..
------------------------
ในคืนวันนั้นท่านคุโบก็เล่นหมากเรียง5กับท่านมิไดเช่นเคย แต่ท่านมิไดดูเศร้าซึมๆกว่าทุกๆวัน
ท่านคุโบ "ถึงตาเจ้าเดินแล้ว" เพราะท่านมิไดเหมือนใจลอย จนท่านคุโบต้องเตือน
"ขออภัยด้วยเจ้าค่ะ"
ท่านคุโบสังเกตเห็นความผิดปกติของท่านหญิง จึงพูดว่า "ข้าได้ฟังเรื่องหนังสืออุทธรณ์แล้ว อย่าได้ไปใส่ใจกับท่านแม่เลยนะ เจ้าอยากจะทำอะไรก็ตามใจเถอะ"
"ทำอย่างนั้นไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ" / "ทำไมล่ะ?"
"เพราะท่านฮงจูอินเป็นมารดาบังเกิดเกล้าของท่านพี่ แล้วก็..เป็นคนสำคัญมาก ถ้าจะไม่ให้ใส่ใจกับความรู้สึกของท่านน่ะ ไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ!"
(การสนทนามีต่อตอนหน้า)
.
.
.
.
สวัสดีปีใหม่นะคะ
ตอบลบยังตามมาอ่านเช่นเดิมคะ
ขอบคุณคะ
สวัสดีปีใหม่ครับคุณอาพร
ตอบลบ