อ่านเจ้าหญิงอัตสึที่รัก 104
ท่านคุโบอิเอาซาดะ "ต้องมาเป็นภรรยาของข้า ที่ไม่มีอำนาจแถมร่างกายอ่อนแอ เจ้าเสียใจบ้างมั้ย?
ท่านหญิงอัตสึ "ไม่เลยเจ้าค่ะ"
ท่านคุโบ "ถ้าไม่มีบะขุฝุ ไม่มีฮาริส ไม่มีโชกุน ข้าก็อยากอยู่ในโลกแบบนั้นตลอดไป ข้าจะได้มาอยู่คุยกับเจ้า ให้สนุกทั้งวันเลยล่ะ" / "ต้องคุยกันไม่มีวันจบแน่ๆเชียวเจ้าค่ะ"
------------------------
บทที่105
ทาคิยามะ "รัฐบาลจะประกาศว่าท่านโชกุนถึงแก่กรรม ในวันที่8เดือน8เจ้าค่ะ ท่านมิไดคงลำบากใจ แต่ขอให้อดทนอย่าบอกใคร จนกว่าจะถึงวันนั้นนะเจ้าคะ...ท่านมิได..."
อิคุชิมะ "ท่านทาคิยามะ ตอนนี้ท่านมิไดน่ะ ไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะตอบคำถาม ไม่อยากพูดอะไรกับใครทั้งนั้น ไม่ต้องกลัวหรอกนะ ขอท่านวางใจเถอะ"
ท่านมิไดยังคงเศร้ามาก จิตใจก็ไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว เพราะท่านยังคงทำใจไม่ได้กับความสูญเสียยิ่งใหญ่ครั้งนี้
--------------------
เช้านี้ที่ห้องพระ มีเพียงท่านฮงจูอิน อุตะฮะชิ โอชิงะ และทาคิยามะเท่านั้น
โอชิงะ "ท่านทาคิยามะ ท่านมิไดล่ะ?" / ทาคิยามะ "ดูเหมือนจะเป็นไข้หวัดล่ะมั้ง ก็เลยต้องพักผ่อนไม่ไปไหนสักพักนึงน่ะ"
อุตะฮะชิ "ต๊าย! ท่านมิไดที่แข็งแรงปานนั้นน่ะนะ" / ท่านฮงจูอิน "แข็งแรงอย่างกับพี่เข้างั้นแหล่ะ"
"เออนี่! ทาคิยามะ" / "เจ้าค่ะ"
"อาการของท่านคุโบเป็นยังไงบ้าง หมอบอกอะไรอีกมั้ย?" / "เจ้าค่ะ อาการป่วยของท่านก็ดีขึ้นมากแล้วเจ้าค่ะ แต่ว่า..ยังออกไปว่าราชการไม่ได้เจ้าค่ะ" (โอชิงะสังเกตเห็นความผิดปกติในคำพูดและสีหน้าของทาคิยามะ)
"ขืนออกไปว่าราชการเดี๋ยวก็ป่วยไปอีกน่ะสิ โอ! นึกขึ้นได้ มาสวดขอพรให้ท่านคุโบอีกครั้งหนึ่งดีกว่านะ สวดด้วยกัน"
เมื่อท่านฮงจูอินเริ่มสวดแล้ว โอชิงะสังเกตเห็นสีหน้าเศร้าผิดปกติของทาคิยามะ จนทำให้โอชิงะเริ่มกังวลมากขึ้น และดูเหมือนเธอจะคิดอะไรบางอย่างได้...
--------------------------
กลับมาที่ท่านมิได ซึ่งตอนนี้ก็ยังเหมือนคนอมทุกข์ไว้แบบไม่ยอมปล่อยวางง่ายๆ ทำให้อิคุชิมะเองก็อดเป็นห่วงท่านไม่ได้เช่นกัน
ท่านหญิง "นี่! อิคุชิมะ" / "เจ้าค่ะ"
"มาคิดดูแล้ว ข้าน่ะ..เป็นคนพรากเอาชีวิตไปจากท่านพี่เองแหล่ะนะ" / "ทำไมถึงพูดอย่างนั้นล่ะเจ้าคะ!!?"
"เพราะข้าเกลี้ยกล่อมให้ท่านพบกับฮาริส ทั้งๆที่ท่านพี่ไม่อยากทำเลย แถมยังเอาศึกชิงทายาทโชกุนไปรบเร้าท่านพี่บ่อยๆอีก ทั้งหมดข้าเป้นคนทำร้ายท่านทั้้งนั้น ทำให้ท่านพี่...คนที่ข้า..คนที่ข้ารักที่สุด ต้องเครียดจนทนไม่ไหวน่ะสิ"
ท่านหญิงโทษว่าเป็นความผิดของตัวเองที่ทำให้ท่านคุโบต้องจากไป อิคุชิมะสงสารท่านหญิงเหลือเกินที่ท่านหญิงโทษตัวเองเช่นนั้น
---------------------------
วัดคิโยมิสึ วัดเก่าแก่กว่า1000ปี แห่งเมื่องเกียวโต (ประมาณปีค.ศ.780)
ขณะเดียวกัน ท่านไซโกที่ไปอยู่ที่เกียวโตเพื่อตระเตรียมงานเพื่อการมาเยือนเกียวโตของท่านนาริอาคิระ(ตามกำหนดพบเจ้าชายแห่งริวกิว) แต่เมื่อข่าวการเสียชีวิตของท่านนาริอาคิระมาถึงท่านไซโก
ท่านไซโกเสียใจมากและได้อยู่ถือศีลอุทิศส่วนกุศลแด่ท่านนาริอาคิระที่วัดคิโยมิสึ ของท่านเจ้าอาวาสเก็ชโช
ไซโก "มาอาศัยท่านอยู่มานานมากแล้ว พรุ่งนี้ข้าจะลากลับสัทสุมะขอรับ"
ท่านเก็ชโช "โยมไซโก" / "ขอรับ"
"โยมน่ะ กำลังอยากตายตามท่านไปใช่มั้ย?" / "ไม่..ขอรับ.." ท่านไซโกดูซึมเศร้าผิดปกติ
"ถ้าทำอย่างนั้น คิดว่าโยมนาริอาคิระจะเห็นด้วยรึเปล่า?" / ท่านไซโกมีอาการอ้ำอึ้งจนผิดสังเกต
"คิดว่าท่านนาริอาคิระต้องโกรธมากแน่ๆ เพราะว่าท่านสั่งงานไว้ตั้งเยอะแยะ แต่ว่า..โยมไซโกดันฆ่าตัวตายเสียนี่ รักษาชีวิตไว้นะ! โยมน่ะต้องอยู่ต่อไปเพื่อทำงานให้สำเร็จ นั่นเป็นสิ่งที่โยมนาริอาคิระต้องการเป็นที่สุด"
ท่านไซโกเริ่มสะอื้น "นายท่าน.."
ท่านเก็ชโชใช้มือทั้งสองของท่าน ทำท่าเหมือนกำลังขออะไรสักอย่างจากท่านไซโก
"ฝากไว้ที่นี่เถอะนะ ชีวิตของโยมน่ะ อาตมาขอรับฝากไว้แทนท่านนาริอาคิระ"
ท่านไซโกร้องไห้ และค่อยๆเอามือทั้งสองของตน มาจับไว้ที่หน้าอก แล้วก็ค่อยๆกำมือเสมือนหยิบเอาหัวใจของตนออกมา แล้วค่อยๆส่งหัวใจและชีวิตของตน วางลงในมือของท่านเก็ชโช
"ให้อาตมาแล้วนะ" ท่านเก็ชโชลุกเข้ามาจับไหล่เพื่อปลอบท่านไซโก "ไม่ฆ่าตัวตายนะ"
"ท่านแห่งสัทสุมะมีบริวารดีอย่างนี้นี่เอง น่านับถือมากนะ" ขณะนั้นท่านมุราโอกะก็เข้ามาให้ห้องพอดี และเมื่อท่านมุราโอกะเข้ามานั่งในห้องแล้ว
"เข้าเรื่องเลยละกัน ท่านโคโนเอะมีธุระอยากให้ท่านช่วยหน่อยน่ะ" / ไซโก "มีอะไรให้รับใช้ บอกมาเลยขอรับ"
"ท่านนาริอาคิระน่ะ ปรารถนาจะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงรัฐบาลปัจจุบันซะ ทำอย่างไร เปลี่ยนไปเป็นแบบไหน ท่านเขียนเอาไว้ในนี้แล้ว"
ท่านมุราโอกะส่งกล่องจดหมายสีดำที่ผูกด้วยผ้าไว้อย่างเรียบร้อยยื่นให้ท่านไซโก
ท่านเก็ชโช "ท่านไซโก จดหมายนี้ถึงท่านผู้เฒ่าแห่งมิโตะ ช่วยเอาไปส่งให้หน่อยนะ" / "ส่งให้ท่านแห่งมิโตะเหรอ?"
"ที่จริงเรื่องนี้ก็เป็นพระราชดำริของสมเด็จพระจักรพรรดิด้วยนะ" ท่านมุราโอกะได้ย้ำ!ให้เห็นความสำคัญ!
ท่านไซโกจรดมือ3เหลี่ยม "ขอรับ!!"
-------------------------------
สถาปัตยกรรมเด่นของวัดคิโยมิสึ คือ วิหารใหญ่ (Hon-do)สถาปัตยกรรมนี้อายุกว่า300ปี ตั้งอยู่บนไหล่เขา มีการสร้างเฉลียงไม้กว้างยื่นออกไปเหนือหุบเหวอย่างน่าอัศจรรย์ โดยใช้เสาต้นซุงขนาดใหญ่หลายร้อยต้นรองรับ ที่สำคัญคือ การก่อสร้างไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว แต่ใช้วิธีการเข้าลิ่มด้วยภูมิปัญญาของชาวญี่ปุ่นโบราณ
ชาวญี่ปุ่นจะเปรียบเทียบผู้ที่ต้องทำสิ่งที่เสี่ยงครั้งสำคัญในชีวิตว่า เหมือนกับการกระโดดลงจากเฉลียงไม้แห่งนี้ โดยคำพังเพยนี้มีที่มาตั้งแต่สมัยเอโดะ ที่มีประเพณีกระโดดลงจากระเบียงสูงแห่งนี้ เชื่อว่าถ้ารอดตายจะได้รับพรให้คำอธิษฐานเป็นจริง 1 ประการ
ทำให้ปีๆหนึ่งจึงมีคนแอบมาโดดฆ่าตัวตายปีละหลายคนครับ
.
.
.
.
.
ขอบคุณมากจริง ๆ อ่านทุกครั้งก็มีความสุขใจ ขอให้แปลจนจบน่ะ จะได้เก็บไว้อ่านอีกยามว่าง
ตอบลบสวัสดีค่ะ
ตอบลบตอนที่ 104 อ่านแล้วน้ำตาแอบซึม
เพราะสงสารท่านมิได
อิอิ อินขนาด
^^