อ่านเจ้าหญิงอัตสึที่รัก 95
ท่านคุโบ "แต่เจ้าบอกว่าจะไม่เลือกทั้งโยชืโนะบุและโยชิโตมิไม่ใช่เหรอ?
ท่านมิได "ใช่เจ้าค่ะ จะไม่สนับสนุนทั้ง2คนเลย" / "นั่นแหล่ะปัญหาล่ะ มิไดอย่างเจ้า คงยากที่จะรักษาความเป็นกลางไว้ได้หรอก"
"ทำไมถึงเป็นกลางไม่ได้ล่ะเจ้าคะ?" / "ก็เพราะว่าเจ้าเป็นผู้หญิง ที่มีหัวใจอันอบอุ่นน่ะสิ"
"หัวใจ..อันอบอุ่นเหรอ.." / "คงจะเป็นน้ำใจที่อบอุ่นแบบคนสัทสุมะทั่วไปล่ะมั้ง"
"แบบคน..สัทสุมะ..เหรอ.." ท่านมิไดยังไม่ค่อยเข้าใจที่ท่านคุโบพูด
ท่านคุโบอมยิ้ม "คืนนี้ไม่มีอารมณ์ที่จะเล่นแล้ว ข้าจะกลับไปห้องล่ะ"
แล้วท่านคุโบก็ลุกเดินออกไปจากห้องทันที และในวันนี้ท่านไม่ค้างกับท่านมิไดแล้ว
------------------------
ในระหว่างที่ท่านคุโบเดินกลับห้อง ท่านได้หยุดชมพระจันทร์ที่สวยงานและเต็มดวงอย่างชื่นชม แต่ตอนนั้นเอง!! ท่านคุโบก็มีสีหน้าที่เจ็บปวดเกิดขึ้น!! ท่านคุโบรู้สึกเจ็บตรงที่หน้าอกด้านซ้าย!!
ซามุไรที่ติดตามเห็นอาการของท่าน จึงรีบเข้ามาถามว่าท่านเป็นอะไร แต่สักพักท่านคุโบก็รู้สึกดีขึ้น และบอกว่า "ไม่เป็นไรหรอก"
-------------------------
อีกด้านหนึ่งที่สัทสุมะ ที่บ้านโอคุโบะ เหล่าซามุึไรระดับเพื่อนๆของท่านโอคุโบะต่างวิพากษณ์วิจารณืเรื่องที่ราชสำนักไม่อนุญาตให้บะขะฝุทำสัญญาทางการค้ากับอเมริกากันอย่างออกอารมณ์!!
แต่บรรดาซามุไรระดับต่ำเหล่านี้ก็ไม่ได้เข้าใจปัญหาเรื่องการเปิดประเทศเท่าไหร่นักหรอก เพราะค่อนข้างหัวเก่ากันแทบทุกคน(ต่อต้านการเปิดประเทศ) โดยที่ซามุไรเหล่านี้ก็ไม่รู้เลยว่า ท่านเจ้าแคว้นสัทสุมะ็เองก็คิดเปิดประเทศเหมือนกัน
ท่านโอคุโบะกับทาเตวากิ ก็นั่งฟังอยู่ด้วย ก็ไม่ได้จะไปอธิบายอะไรมาก คงปล่อยให้เพื่อนๆวิพากษ์วิจารณ์กันไปเต็มที่
ระหว่างนั้นท่านโอคุโบะเลยหันมาคุยกับทาเตวากิแทน
โอคุโบะ "ท่านโคมัทสึได้เลื่อนตำแหน่งใหม่แล้ว ดีจังเลยนะ"
แต่ทาเตวากิกลับหน้าตาไม่ได้สบายเลย จึงดึงท่านโอคุโบะออกมาพูดคุยกันนอกบ้าน
ทาเตวากิ "คือว่า พอข้ารู้ความในฎีกาที่นายท่านส่งไปถึงบะขุฝุ ข้าก็ต่อว่าท่านเสียใหญ่โตเลย"
แล้วทาเตวากิก็เล่าเหตุการณ์วันนั้นให้ท่านโอคุโบะฟัง
"นึกขึ้นมาแล้ว ข้าละอายใจจริงๆ" / "อึม..ไม่เป็นไรน่า ข้าเข้าใจความรู้สึกของท่านโคมัทสึดี"
"อย่างนั้นเหรอ" / "แต่ข้าก็..เข้าใจความรู้สึกของท่านเจ้าแคว้นดียิ่งกว่าเสียอีก"
"ทำไมเหรอ?" / "บางครั้งคนเราก็ต้องทำใจหินไว้ เพื่อประโยชน์ของงานสำคัญนะ"
"ถึงแม้มันจะทำให้คนอื่นเป็นทุกข์เหรอ?" / "มันช่วยไม่ได้ ถ้ามันเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง ก็จำเป็นต้องเสียสละกันบ้างล่ะ"
ทาเตวากิเข้าใจทันทีที่ท่านโอคุโบะอธิบาย เพราะหากคนเรายึดถือประโยชน์ของบ้านเมืองเป็นหลักเหมือนกัน การพูดคุยบนหลักการเดียวกันก็ไม่จำเป็นต้องพูดกันมาก
-----------------------------
ที่ปราสาทสึรุมารุ
ทาเตวากิ "นายท่า่น! วันก่อนข้าต้องขออภัย ขออภัยที่ล่วงเกินท่านขอรับ!!" แล้วทาเตวากิก็ห้มหัวอย่างต่ำสุด
ท่านนาริอาคิระ "เงยหน้าขึ้นเถอะ" / "ขอรับ"
"เจ้าคิดยังไงก็พูดซื่อๆออกมาอย่างนั้น ถูกรึเปล่าล่ะ?" / "ใช่ขอรับ แต่มันก็..ขออภัยด้วยขอรับ!!" แล้วทาเตวากิก็ก้มหัวอีกครั้ง (ลูกน้องที่ดี ต้องกล้าคัดค้านเจ้านาย!!)
ท่านนาริอาคิระยิ้ม แล้วพูดต่อ "แต่ว่า..ที่เจ้าพูดก็ทำให้ข้าฉุกคิดได้น่ะ ข้าใช้ให้โออัตสึแบกรับภาระหนักอยู่คนเดียวจริงๆด้วย ก็เลย..ลองคิดหาวิธีอื่นได้แล้ว" / "..!??.."
"เราจะผลักดันให้ท่านโยชินางะแห่งเอชิเซ็นขึ้นเป็นไทโรให้ได้" / "ดันท่านโยชินางะเป็นไทโรรึขอรับ?"
ท่านนาริอาคิระพยักหน้า "ได้ข่าวว่าโอโอขุจะวิ่งเต้นให้ท่านอีแห่งฮิโคเนะเป็นไทโร เราจึงเสนอคนที่ประนีประนอมเป็นที่ยอมรับของไดเมียวทั้งหมดอย่างท่านโยชินางะ จึงจะเป็นคู่แข่งที่สูสีกันได้"
แล้วท่านเจ้าแคว้นก็เดินเข้ามาหาทาเตวากิ "นี่จดหมาย! ช่วยเอาไปส่งให้หน่อย" ท่านส่งจดหมายให้ไป2ฉบับ ฉบับแรกส่งถึงบะขุฝุเพื่อเสนอชื่อไทโรคนใหม่ ส่วนอีกฉบับคือ?
"ขอเรียนถามแล้วฉบับนี้ล่ะขอรับ?" / "เขียนถึงโออัตสึไงล่ะ"
"ถึงท่านมิได?" / "บรรยายความในใจของข้าว่า คิดอย่างไรเท่านั้นเอง"
"อย่างนั้นรึขอรับ" / "มันอาจจะเป็นจดหมายฉบับสุดท้ายก็ได้นะ ข้ารู้สึกแบบนั้น" / "นายท่าน...."
และจดหมายฉบับนี้ก็จะเป็นจดหมายที่สำคัญที่สุดในชีวิตของท่านมิได!!
-------------
ขณะเดียวกันที่โอโอขุ ทาคิยามะเข้าพบท่านมิไดอีกครั้ง
ท่านมิได "หนังสืออุทธรณ์แบบนี้.. ก่อนนี้ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อนเลยสินะ คนเป็นมิไดโดโกโระอย่างข้าจึงไม่อาจลงชื่อได้"
ทาคิยามะ "อย่างนั้นรึเจ้าคะ ไม่เป็นไรข้าเข้าใจเจ้าค่ะ" (อิคุชิมะถอนหายใจโล่งอก)
"แต่ว่า เรื่องนี้เจ้าไ่ม่ได้เสียแรงเปล่าหรอกนะ" (อิคุชิมะชำเลืองมองท่านมิได)
"เจ้าทำให้ข้าคิดขึ้นมาได้ว่า ถ้าเชื่อว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นถูกต้อง ก็จงเชื่อความรู้สึกของตนเอง" (อิคุชิมะสะดุ้ง!!)
"ท่าน..ท่าน..หมายความว่าอะไร?"
"เจ้าจงทำในสิ่งเจ้าต้องการเถอะ" / "หา!...ขอบพระคุณอย่างสูงเจ้าค่ะ!" ทาคิยามะดีใจมากๆ รีบก้มหัวขอบคุณต่อท่านมิไดทันที
แล้วท่านมิไดก็ลุกออกจากห้องรับรองไปทันที! อิคุชิมะพยายามร้องเรียก "ท่านมิได!!"
แล้วเมื่อท่านมิไดเข้าไปในห้องพักส่วนตัวแล้วก็สังปิดประตูทันที!! ไม่เปิดโอกาสให้อิคุชิมะได้ตามเข้ามาด้วย
-------------------------
คุณผู้อ่านครับ หากเราจะสามารถเชื่อความรู้สึกตัวเองไ้ด้นั้น เราต้องเป็นคนที่มีสัมมาทิฎฐิ คือ ปัญญาเห็นชอบ หมายถึงเห็นถูกตามความเป็นจริงด้วยปัญญา
สำหรับผมเวลาทำบุญชอบจะอธิษฐานว่า
"ขอให้กระผมมีสัมมาิทิฎฐิในทุกภพทุกชาติ สามารถละลดกิเลสได้หมดสิ้น จนเข้าสู่พระินิพพานในเวลาอันใกล้ด้วยเถิด สาธุ!"
.
.
.
^/\^ สาธุ
ตอบลบอนุโมทนาด้วยเจ้าค่ะ
อิอิ
ยินดีครับคุณจูน
ตอบลบแต่
สาธุร่วมกัน เดี๋ยวจะเจอกันรู้จักกันในชาติหน้านะครับ เตือนไว้กอน ^^