วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2553

หลักการทำงานเครื่อง GT200 คือหลอกใช้พลังแห่งจิตใต้สำนึก!!






(กรุณาอ่านให้ละเอียดนะครับ ว่าผมกำลังสื่อเรื่องอะไร เพราะมีคนอ่านแล้วเข้าใจผิดในสิ่งที่ผมต้องการบอก)
.
.

เกริ่น

เป็นประเด็นร้อนมาหลายวันกับเครื่องตรวจหาวัตถระเบิดGT200 ที่มูลค่าเครื่องต่อ1 ชุดราคาประมาณ1 ล้าน 4แสนบาทพร้อมกับการ์ดเสียบวัตถุต้องสงสัย 20 ใบ หลักการคร่าวๆที่ฝรั่งอ้างสรรพคุณคือ

เมื่อเสียบการ์ดที่มีสารประกอบวัตถุระเบิดชนิดใด ๆ เข้าไปในเครื่อง เครื่องก็จะหาวัตถุระเบิดที่ตรงกับการด์ที่เสียบอยู่ในเครื่องมือ

แต่เมื่อนักวิชาการออกมาแฉทั้งของไทยและของอังกฤษคือBBC ออกมาแฉว่าเครื่อง GT200 นี้กำมะลอหลอกขาย วัสดุและส่วนประกอบภายในไม่มีอะไรนอกจากเส้นลวด แม่เหล็ก2ก้อน และช่องเสียบการ์ดก๊องแก๊ง ราคาต้นทุนไม่กี่ร้อยแต่หลอกขายเป็นล้านได้

ทีนี้ขอเข้าเรื่องในความเห็นส่วนตัวของผม ที่ติดตามข่าวมา2-3วันมานี้ (เป็นความเห็นส่วนตัวผู้เขียนเท่านั้น)

ทำให้ผมเริ่มประมวลความคิดได้ว่า เครื่องตรวจหาวัตถุระเบิดGT200นี้ ที่แท้ก็คือ เครื่องมือที่เป็นอุบายดึงเอาพลังแห่งจิตใต้สำนึกของผู้ใช้ออกมาให้เกิดประโยชน์นั่นเองครับ






------------------------------

ทำไมผมถึงคิดเช่นนั้น??

คุณผู้อ่านเคยเห็นเรื่องการทดลองพลังจิตใต้สำนึก เช่น การใช้กระดาษตัดดินสอมั้ยครับ ? 

ผมเองเคยเห็นเพื่อนของผมแสดงให้ดูครั้งแรก ว่ากระดาษธนบัตร10 บาทตัดดินสอ 2 บี ได้ขาดอย่างง่ายดาย เมื่อเกือบ20ปีก่อน ผมยังไม่อยากจะเชื่อเลย!?

ผมลองถือดินสอของผมให้เพิ่อนลองตัดด้วยกระดาษ เพราะผมสงสัยว่าคนถือดินสอช่วยหักให้คนตัดหรือไม่ ? แต่เปล่าเลย! พอผมลองถือดินสอให้เพื่อนคนนั้นใช้ธนบัตร 10 บาทตัด ก็สามารถตัดได้อย่างง่ายดาย

ผมมารู้ทีหลังจากรายการทีวีหลายรายการในภายหลัง ที่มีอาจารย์ทางด้านจิตวิทยา ออกมาสอนเรื่องพลังแห่งจิตใต้สำนึกของคนเรานั้นมันมีพลังมหัศจรรย์มากกว่าที่คนเรานึกถึง

การตัดดินสอด้วยกระดาษคือหลักการเบื้องต้นแห่งพลังจิตใต้สำนึก

หลักการที่เคยได้ยินคือ คนเราทั่วไปซ่อนพลังแห่งจิตใต้สำนึกไว้90% โดยไม่ได้นำออกมาใช้ หากเราสามารถดึงพลังแห่งจิตใต้สำนึกที่ซ่อนอยู่ออกมาได้ทั้งหมด คนเราก็จะสามารถทำอะไรที่เหลือเชื่อได้ และเป็นหลักการทางวิทยาศาสตร์ทางจิต!!




--------------------------------



เครื่องมือหาแหล่งน้ำ ก็คือพลังแห่งจิตใต้สำนึกของคนใช้

คุณผู้อ่านเคยเห็นเหล็กดัดงอ 2 อัน แล้วเอามาถือคนละมือ แล้วเดินไปเรื่อยๆเพื่อหาแหล่งน้ำหรือหาโลหะมั้ยครับ??

ในการ์ตูนโดเรมอน โนบิตะก็เคยใช้วิธีการนี้หาขุมทรัพย์สมบัติ

เครื่องมือนี้ในสมัยโบราณนิยมใช้หาแหล่งน้ำ หาทอง หาศพ เป็นต้น หรือที่เรียกว่า "เครื่องมือล้างป่าช้า"(ของฝรั่ง)

ถ้าจำไม่ผิดในรายการ"ตามไปดู" ที่มีหมอซ้งจัดไปตามหาเรื่องแปลกเมื่อ 20 ปีก่อน รายการได้ไปพิสูจน์เรื่องเหล็กงอสามารถหาแหล่งน้ำในชนบทได้ เป็นเครื่องมือง่าย ๆ เพื่อช่วยในการขุดเจาะแหล่งน้ำบาดาลในถิ่นทุรกันดาร

ซึ่งเครื่องมื่อเหล็กล้างป่าช้านี้ ก็สามารถหาแห่งน้ำใต้ดินได้ถูกต้องแม่นยำประมาณ 1 ใน 3 หรือมีโอกาสถูกประมาณ 30 % โดยรายการลองใช้เครื่องมือวิทยาศาสตร์หาแหล่งน้ำขนาดใหญ่มาพิสูจน์เพื่อเปรียบเทียบกัน

ไม่มีคำอธิบายใดๆว่า ทำไมเหล็กงอ 2 อันสามารถหาแหล่งน้ำใต้ดินได้?? 


แม้จะมีผิดพลาดบ้างก็ตาม แต่นับว่า เป็นเครื่องมือที่ราคาถูกหาง่ายและพอใช้ได้


แต่คำอธิบายจริง ๆ ก็คือ มันไม่ได้เป็นความมหัศจรรย์ของเหล็กหรอกครับ แต่มันเป็นความมหัศจรรย์ของพลังจิตใต้สำนึกของคนใช้มันต่างหาก!! (ส่วนเหล็กก็คืออุปกรณ์เสริม)

เมื่อคนเราเชื่อว่าเหล็กมันจะหาน้ำได้ เราก็จะเกิดความมั่นใจในความเชื่อมั่น เมื่อเกิดความมั่นใจประกอบกับจิตของผู้ใช้มีสมาธิ และไม่มีอคติในการค้นหาและไม่มีอคติในเครื่องมือ

พลังแห่งจิตใต้สำนึกของผู้ใช้แท่งเหล็กล้างป้าช้านั้น ก็จะออกมาโดยที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัวเลย

เท่ากับว่า เหล็กงอสำหรับหาน้ำได้เป็นอุบายหลอกให้ผู้ใช้สามารถดึงพลังแห่งจิตใต้สำนึกของตัวเองออกมาได้นั่นเอง

-----------------------------

การทดลองหาน้ำในแก้วที่อยู่ใต้กล่อง

ผมจำได้คร่าวๆว่า เคยดูรายทีวีอีกรายการ ซึ่งไม่แน่ใจว่ารายการของญี่ปุ่นหรือไม่? ที่เคยทดลองการหาน้ำด้วยการใช้แท่งเหล็ก

เขาใช้แก้วน้ำที่มีน้ำในแก้ว1ใบ ไปวางไว้ แล้วมีกล่องมาครอบแก้วน้ำไว้ และจะมีกล่องหลอกอีกประมาณ5กล่องครอบไว้เช่นกัน

แล้วลองใช้วิธีการหาน้ำแบบโบราณนี้ลองหาว่าแก้วน้ำอยู่ใต้กล่องใบใด ซึ่งผลการทดลองเหลายสิบครั้งก็สามารถหาแก้วน้ำได้เจออย่างถูกต้องเกือบ50% เช่นกัน (ทดลองแค่หาน้ำในแก้วเท่านั้น)

-------------------------------




แล้วเครื่องGT200ในการหาวัตถุระเบิดล่ะ ใช้หลักการพลังแห่งจิตใต้สำนึกยังไง??

เครื่อง GT200 นี้ ก็เป็นเครื่องมือที่ใช้เป็นอุบายหลอกผู้ใช้เกิดความเชื่อถือและมั่นใจในความไฮเทคของเครื่องมือราคาแพงลิบ เป็นอุบายบนความน่าเชื่อถือของเครื่องช่วยดึงพลังแห่งจิตใต้สำนึกของผู้ฝช้ออกมานั่นเอง

โดยเฉพาะคนไทยส่วนใหญ่มักจะเชื่อว่าเครื่องมือของฝรั่งมันต้องดี ต้องน่าเชื่อถือเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การถูกหลอกให้ดึงพลังจิตใต้สำนึกของผู้ใช้ออกมาจึงเป็นเรื่องที่ง่ายมาก


เครื่อง GT200 ถูกผลิตในอังกฤษ แถมมีราคาแพงมากๆ พร้อมด้วยการอธิบายหลักการทำงานที่น่าเชื่อถือ จึงทำให้ทหารไทยจึงเชื่อมั่นเครื่องมือนี้มาก 

แต่ถ้า GT200 ราคาถูกก็จะไม่สามารถหลอกดึงพลังจิตใต้สำนึกของผู้ใช้ออกมาได้ (เหมือนจะดีแต่ก็คือการหลอกลวง) เพราะโดยหลักการคนมักจะเชื่อในคุณภาพของที่มีราคาแพงมากกว่าของราคาถูก

เครื่องมือGT200 ไม่มีอุปกรณ์อิเลกโทรนิคส์ใดๆในตัวเครื่อง ไมใช้กระแสไฟฟ้า ไม่ใช้แบตเตอรรี่ใดๆเลย แต่บริษัทฝรั่งอ้างว่า ใช้พลังไฟฟ้าสถิตจากตัวของผู้ใช้เอง

และเมื่อเครื่องเจอวัตถุต้องสงสัย เหล็กที่ปลายกระบอกก็จะหันเข้าหาวัตถุที่สงสัย

แต่ที่จริงแล้ว ตัวเครื่องเป็นเพียงตัวช่วยดึงพลังมหัศจรรย์แห่งจิตใต้สำนึกของผู้ใช้ออกมามากกว่า และการที่ค้นพบระบิดได้ก็เกิดจากความมหัศจรรย์ของจิตใต้สำนึก ไม่ใช่ความไฮเทคของเครื่องมือ!!

ฉะนั้นที่คุณหญิงหมอพรทิพย์ ที่ออกรายการสรยุทธเมื่อเย็นที่ผ่านมา คุณหญิงหมอก็เชื่อว่าเครื่อง GT200 สามารถหาวัตถุต้องสงสัยได้จริง ?!?

และคุณหมอก็ยังยกตัวอย่างเรื่องเหล็กล้างป่าช้า ที่ตามหาแหล่งน้ำได้ ก็ไม่เห็นมีใครอธิบายทางวิทยาศาสตร์ได้ว่า ทำไมมันถึงหาได้ แม้จะมีผิดพลาดอยู่บ้าง!!? (แต่เหล็กล้างป่าช้ามันราคาถูก ไม่ได้ราคาแพงเป็นล้านนะครับ)

ยิ่งคนไทยมีความเชื่อเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ฉะนั้นนอกจากพลังแห่งจิตใต้สำนึกแล้ว ก็อาจมาจากพลังแห่งสิ่งศักดิ์สิทธื์ที่คุ้มครองผู้ใช้อยู่ก็ได้ ที่ดลบันดาลให้หาวัตถุอันตรายเจออย่างไม่น่าเชื่อ!!


เปรียบเสมือนคนบางคนที่เชื่อเรื่องเครื่องรางของขลังจะคุ้มครองตนเองได้ ก็เลยก่อให้เกิดความมั่นใจบางอย่างขึ้นมา แล้วความมั่นใจนั้นก็เกิดพลังบางอย่างที่มาช่วยให้ทำบางสิ่งบางอย่างสำเร็จ 

ดังนั้น คนบางคนจึงขอพกเครื่องรางของขลังไว้ ดีกว่าไม่มีอะไรยึดเหนี่ยวเลย
.
*ฉะนั้นที่เครื่องหาวัตถุระเบิดเจอ ไม่ใช่เพราะเครื่องดี แต่เป็นเพราะพลังจิตใต้สำนึกของคนใช้มันดีมากกว่า(ฮา)

----------------------------

พลังแห่งจิตใต้สำนึก และมายาจิต

คุณผู้อ่านเคยรู้จัก หนุ่มไทยที่จบมาจากอังกฤษที่ชื่อ"วิน มายาจิต" มั้ยครับ? ที่เขามาแสดงมายากลแปลกๆหลายอย่างทางทีวี แต่พอถามเขาว่าเขาเล่นกลใช่มั้ย?

หนุ่มวินกลับบอกว่า ที่เขาแสดงไม่ใช่มายากล แต่เป็นมายาจิต หรือพลังแห่งจิตใต้สำนึกนั่นเอง

เครื่องGT200นั้น ผมขอตั้งข้อสันนิษฐานว่า ผู้ผลิตคงจะเป็นนักจิตวิทยาแน่ ๆ ที่รู้หลักการของพลังจิตใต้สำนึกของคน และสร้างเครื่องมือที่สามารถใช้เป็นอุบายดึงเอาพลังจิตใต้สำนึกของคนดูออกมาใช้โดยเจ้าตัวคนใช้ก็ไม่รู้ตัวนั่นเอง

และที่ตรวจหาวัตถุระเบิดจนเจอได้ ก็เป็นเพราะจิตใต้สำนึกของผู้ใช้เป็นผู้หาเจอ ไม่ใช่เพราะเครื่องมือ GT200 หาเจอ !!


-----------------------------

คลิปbbc แฉเครื่องGT200กำมะลอ!!



การที่เครื่องมือมีราคาแพงมาก ๆ ก็มีส่วนช่วยให้ผู้ใช้เกิดความมั่นใจและเชื่อมั่นในเครื่องมือมากขึ้น ประกอบกับทหารไทยก็ได้ไปรับการอบรมมาว่า ต้องเดินด้วยท่าทางแบบนี้ ต้องมีสมาธิ ต้องพักผ่อนเพียงพอ ต้องไม่เดื่มแอลกอฮอล์

ข้อกำหนดเหล่านี้ ก็เป็นอุบายหลอกเพื่อดึงพลังจิตใต้สำนึกของผู้ใช้ออกมาได้ดีขึ้นนั่นเอง

ฉะนั้นข้อดีของเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดGT200 ก็คือ สามารถช่วยดึงพลังมหัศจรรย์แห่งจิตใต้สำนึกของคนมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ และอาจจะไปดึงพลังจิตใต้สำนึกของผู้ร่วมอยู่ในเหตุการณ์ที่เชื่อมั่นในเครื่องมือเช่นเดียวกันมาใช้ได้ด้วย (เช่นในคลิปของวิน มายาจิตใช้จากผู้ชม)

แต่ข้อเสียก็คือ มันแพงเว่อร์จนกินไป และไม่สามารถยินยันได้ตามหลักวิทยาศาสตร์ เพราะมันเกี่ยวกับจิตใต้สำนึกของคนใช้ครับ (อาจเรียกว่าลางสังหรณ์ หรือสัมผัสที่6ทีซ่อนไว้ก็ได้)

พอจะสรุปได้ว่า เครื่องมือGT200 จึงไม่สามารถให้ผลถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์ได้แม่นยำก็จริง แต่ก็สามารถใช้ตรวจหาได้ในขั้นต้น แต่วันใดที่การหากเกิดข้อผิดพลาดขึ้น ก็ไม่ต้องแปลกใจ!!

เพราะพลังแห่งจิตใต้สำนึกย่อมมีความผิดพลาดได้มากกว่าอุปกรณ์วิทยาศาสตร์แท้ ๆ แน่นอนอยู่แล้ว

----------------------------

ถ้าเครื่องมือ GT200 ราคาไม่เกิน 1,000 บาทไม่ใช่ราคาเป็นล้านแบบที่ซื้อใช้อยู่ตอนนี้ ก็จะไม่มีปัญหาเท่าไหร่


แต่ถ้าเครื่องมือราคาแค่1,000 บาทจริง ๆ  ก็จะทำให้ผู้ใช้จะเริ่มสงสัยในเครื่องมือ เริ่มไม่แน่ใจในประสิทธิภาพของเครื่องมือว่าไฮเทคจริงรึเปล่า? 


ซึ่งจะทำให้ไม่สามารถดึงพลังจิตใต้สำนึกของผู้ใช้โดยไม่รู้ตัวให้ออกมาได้ เพราะผู้ใช้ไม่เชื่อในเครื่องและไม่เชื่อในพลังจิตใต้สำนึกของตน

ยิ่งตอนนี้มีนักวิชาการออกมาแฉเรื่องเครื่องมือGT200กำมะลอนี้จนรู้กันทั่ว ก็อาจทำให้ผู้ใช้เกิดความลังเลใจในเครื่องมือขึ้นบ้างแล้ว และเมื่อยิ่งลังเลใจมากเท่าใด ประสิทธิภาพอุบายช่วยดึงพลังจิตใต้สำนึกออกมาก็จะหายไปมากขึ้นเท่านั้นครับ!!

.
สรุปคือ เครื่องนี้เป็นเครื่องมือกำมะลอที่ไม่ได้อาศัยการตรวจจับตามหลักวิทยาศาสตร์ การที่ซื้อเครื่องนี้มาใช้จึงเป็นการถูกฝรั่งหลอกขาย ของกำมะลอแบบนี้หากอยากจะใช้จริงๆ คนไทยก็ผลิตเองได้ ราคาไม่ถึง1000บาท
.
ส่วนจะฝากชีวิตคนไว้กับเครื่องนี้ได้หรือไม่? 

คำตอบคือ ไม่ได้! เพราะเราคงไม่กล้าจะฝากชีวิตไว้กับจิตใต้สำนึกแน่ ๆ เพราะถ้าผู้ใช้รู้ว่าเครื่องนี้พึ่งจิตใต้สำนึกของตนเท่านั้น ก็จะไม่มีจิตใต้สำนึกออกมาอีก!!

คลิป วิน เอี่ยมอ่อง โชว์พลังจิตใต้สำนึกในรายการที่นี่หมอชิต


พลังจิตใต้สำนึกของคนธรรมดาที่ไม่ได้รับการฝึกฝน มันเชื่อถือไม่ได้อยู่แล้ว โดยเฉพาะเรื่องที่ต้องใช้ชีวิตมาเสี่ยง แต่ถ้าเก่งอย่างวิน ก็ไม่ต้องใช้เครื่องมือใด ๆ หรอกครับ


คลิกไปดูท้าพิสูจน์ที่วิน โชว์ แล้วจะอึ้ง เช่นโชว์หยุดการเต้นของหัวใจได้


6 ความคิดเห็น:

  1. พลังจิตเหรอ

    ของแบบนี้มันเอามาล้อเล่นกับชีวิตคนได้ที่ไหนล่ะ

    ไร้สาระ

    ตอบลบ
  2. ถูกต้องครับ นี่แหล่ะที่เป็นปัญหาของเครือง เพราะเครืองมันไม่ได้เป็นเีื่รื่องตามหลักการวิทยาศาสตร์ประยุกต์ทั่วไป

    จึงทำให้เครื่องขาดความน่าเชื่อถือ และมีราคาแพงเกินจริง!!

    นี่คือสิ่งที่ผมต้องการอธิบาย

    อยากให้คุณกก อ่านให้ละเอียดก่อนนะครับ ว่าที่ผมเขียนต้องการสื่อถึงเรื่องอะไร

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ04 กุมภาพันธ์, 2553 07:16

    ขอบคุนคับ
    ผมก็เห้นด้วยกับคุนคับ

    ตอบลบ
  4. ผลการทดสอบของกระทรวงวิทยาศาตร์ ออกมาแล้วว่า

    เครื่องgt200 ลองหา20ครั้ง เจอ4ครั้ง เท่ากับ20% เท่านั้น (ห่วยกว่าที่คิด!)


    ณ.เวลานี้ที่ผมเขียนความเห็นนี้ ยังไม่มีใครคิดว่าจะฟ้องร้องไอ้ฝรั่งที่หลอกขายเรายังไง หรือจะฟ้องร้องหรือไม่??

    ตอบลบ
  5. ไม่ระบุชื่อ22 ธันวาคม, 2557 10:21

    เหมือนตอกฝาโลงให้ท่านประยุทธซ้ำอีกรอบเลยแฮะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. แต่ประเด็นของบทความจริง ๆ คุณตีความไม่แตก นั่นคือ มันใช้งานได้ เพียงแต่ว่า มันแพงเว่อร์
      แต่ถ้ามันไม่แพง มันก็หลอกดึงพลังจิตใต้สำนักของคนออกมาไม่ได้
      มันจึงต้องแพง

      ลบ

ถ้าแสดงความเห็นตรงช่องนี้ผมจะได้อ่านทุกความเห็นครับ แต่ถ้าความเห็นไม่ขึ้นอาจเพราะระบบรอตรวจสแปม ต้องรอ1-2วัน / ใหม่ เมืองเอก kaeake@ymail.com


ผู้ติดตาม