วันศุกร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ความลับท่านโชกุน 72

atsuhime 72


อ่านเจ้าหญิงอัตสึที่รัก 71




หลังจากนั้นท่านนาริอาคิระกับท่านไซโกก็เดินทางกลับสัทสุมะในวันที่อากาศร้อนมากอีกวัน

เมื่อมาถึงท่านไซโกก็ชวนเพื่อนๆซามุไรไปเยี่ยมเยียนนาโอโกโร่ที่บ้านโคมัทสึ เมื่อทักทายตามประสาเพื่อนต่างชนชั้นแบบกันเองๆตามสมควรแล้ว

เมื่อท่านไซโกได้เห็นโอชิคะออกมาอีกคน ก็เอ่ยปากชมคู่สามีภรรยาบ้านนี้ทันที "แหม!ช่างเป็นคู่ที่เหมาะสมดีจังเลยนะ"

โอชิคะยิ้มอายๆ แล้วนาโอโกโร่ก็เชิญทุกคนขึ้นบ้าน ส่วนเพื่อนๆที่มาด้วยกันก็ต่างก็มีของติดไม้ติดมือ(เหล้า)กันมาทุกคน หลังจากนั้นทุกคนก็ร่วมดื่มกินกัน หลายคนก็เมาแอ๋นอนกลิ้งเกลื่อนกันเต็มลานบ้าน คงเหลือแต่นาโอโกโร่ โอคุโบะ ไซโก เท่านั้นที่ยังไม่เมา

เมื่อเหลืออยู่กันแค่3คน นาโอโกโร่จึงขอถามเรื่องที่สำคัญที่สุดที่อยากจะถามจากท่านไซโก นั่นก็คือ

นาโอโกโร่ "ข้อแรกคือเรื่องท่านคุโบ ที่เขาลือกันว่าท่านปัญญาอ่อนน่ะจริงมั้ย?"

ได้ยินคำถามที่ตอบยากมาก ท่านไซโกจึงพยายามหัวเราะกลบเกลื่อน แล้วจึงพูดบ่ายเบี่ยงไปว่า "แหม!..เรืองในปราสาทน่ะ คนต่ำต้อยอย่างข้านั้นจะไปรู้ได้อย่างไร" / "ไม่ได้ยินข่าวลือบ้างเลยหรือ?"

"ข่าวลือเหลวไหลน่ะมีเยอะแยะไปหมด ข้าคงจะให้ความกระจ่างอะไรแก่ท่านไม่ได้หรอก" / "มันยากที่จะตอบหรือยังไง?"

"แต่เรื่องนี้ไม่รู้จริงๆ ต้องขอโทษด้วยนะ"

เมื่อเห็นท่านไซโกลำบากใจ นาโอโกโร่จึงไม่ซักไซร้เรื่องนั้นต่อ แต่ "งั้นขอถามอีกเรื่องนึงนะ?"

โอคุโบะ "แล้วท่านคุโบคนต่อไปล่ะ? พวกเราจะเสนอชื่อท่านฮิโตะสึบาชิ โยชิโนบุใช่มั้ย?"

"ได้ยินว่าคนที่อยากให้ท่านฮิโตะสึบาชิเป็นใหญ่ขึ้นมา คนนึงคือท่านเจ้าแคว้นของเรา อยากถึงกับต้องลากท่านหญิงอัตสึมาใช้เป็นเครื่องมือด้วย!
" (ตอนนี้โอชิคะก็เดินมาหยุดฟังอยู่ห่างๆ)

"ที่ให้ท่านหญิงไปแต่งงานกับท่านคุโบคนนี้ก็เพราะเหตุนี้ล่ะมั้ง?" / "เรื่องนี้เป็นความจริงใช่มั้ย?"

"เหอะๆ ไปเอาที่ไหนมาพูด.."
สีหน้าท่านไซโกดูจะปกปิดความไม่มิดเอาเสียเลย

"แต่ว่า!อย่างไรก็ตาม ท่านเจ้าแคว้นเคยบอกข้าไว้ว่าขอให้เชื่อนายท่าน ต้องขอโทษจริงๆนะที่ข้าคงพูดได้เท่านี้"


เมื่อท่านไซโกพูด(ตามหลักการซามุไร)เช่นนี้ นาโอโกโร่แม้จะยังคาใจ แต่ก็คงจะไปฝืนใจท่านไซโกก็คงไม่ได้ และในตอนนั้นเองโอชิคะก็มาแจ้งให้นาโอโกโร่รู้ว่า มีคนรับคำสั่งท่านเจ้าแคว้นให้มาตามนาโอโกโร่พบเดี๋ยวนี้

(ในตอนนี้นาโอโกโร่เริ่มคิดไปเองว่า ท่านหญิงเหมือนถูกหลอกใช้ให้เป็นเครื่องมือทางการเมืองที่แสนโหดร้าย ด้วยการต้องทิ้งความสุขชั่วชีวิตของตัวเองไปอยู่กับท่านคุโบ สามีที่ปัญญาอ่อน แค่เพื่อผลักดันให้อีกคนขึ้นเป็นโชกุนคนต่อไป)

--------------------------

เมื่อนาโอโกโร่เข้าไปนั่งอยู่ต่อหน้าท่านเจ้าแคว้นแล้ว

ท่านนาริอาคิระ "ข้าไม่ได้พบเจ้าตั้งปีครึ่งเชียวรึเนี่ย?" / "ขอรับ ตั้งแต่ข้าออกมาจากเอโดะขอรับ"

"ท่าทางเจ้าดูสบายดีนะ ครอบครัวเป็นอย่างไรบ้าง เข้ากันกับเมียได้ดีรึเปล่า?" / "ราบรื่นดีขอรับ ทั้งหมดนี้ต้องขอขอบพระคุณนายท่านขอรับ"

"งั้นข้าก็โล่งอก ไม่ต้องกังวลว่าเจ้าตะเป็นทุกข์"

แล้วนาโอโกโร่ก็เริ่มมีสีหน้ากระอักกระอ่วนปนน้อยใจอะไรบางอย่างขึ้นมา ก็เพราะ "ที่จริงข้าก็มีเรื่องกังวลอยู่เหมือนกัน..." / "อึม..ไหนว่าไปซิ"

"มันเป็นการล่วงเกินเจ้านาย ต้องขออภัยด้วยขอรับ!..ขอถามเรื่องที่ท่านหญิงอัตสึไปเป็นท่านมิไดได้มั้ยขอรับ!?" / "อึม"
ท่านพยักหน้าอนุญาต

"เขาลือกันว่าท่านคุโบคนปัจจุบันเป็นคนปัญญาอ่อน นายท่านจึงวางแผนสนับสนุนให้ท่านฮิโตะสึบาชิ โยชิโนบุขึ้นเป็นโชกุนคนต่อไป จึงใช้ให้ท่านหญิงแต่งเข้าไปในโอโอขุก็เพราะเหตุนี้ ทั้งๆที่รู้ว่าเขาปัญญาอ่อน นายท่านก็ยังใช้ให้ท่านหญิงอัตสึไปเป็นมิไดได้ลงคอรึขอรับ!!?" นาโอโกโร่ถามเสร็จก็รีบก้มหัวขอโทษทันที! และหากท่านนาริอาคิระโกรธ นาโอโกโร่คงแย่แน่ๆ

ท่านนาริอาคิระนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงตอบว่า "ท่านคุโบไม่ได้ปัญญาอ่อนนะ" / "จะมั่นใจได้อย่างไรขอรับ!?"
.
"นั่นเพราะอัตสึโกะเป็นคนพูดเอง คำพูดของนางเชื่อถือได้รึเปล่าล่ะ!?" / "...!?..."

"เกี่ยวกับท่านคุโบน่ะ ยังมีข่าวลืออีกว่า ก่อนจะแต่งกับอัตสึโกะ ท่านมีภรรยามาแล้วสองคนแต่ไม่มีลูก อาจจะเป็นเพราะท่านคุโบร่างกายไม่แข็งแรงก็ได้ แต่อัตสึโกะยืนกรานว่าจะมีลูกเองให้ได้เลย...เจ้าก็รู้ดีไม่ใช่เหรอ? ว่าผู้หญิงอย่างนาง ลองลั่นปากแล้วยังไงก็ต้องทำให้ถึงที่สุด" / "ขอรับ!"

และนั่นก็คือคำตอบที่ชัดเจนที่สุดแล้ว..

------------------

ส่วนฝ่ายท่านหญิงอัตสึตอนนี้ ก็ได้มีโอกาสต้อนรับท่านที่ปรึกษาอาเบะอีกครั้ง

ท่านอาเบะ "เมื่อไม่นานนี้ท่านพ่อของท่าน ได้ไปคุยกับท่านฮิโตะสึบาชิมาขอรับ" / "อย่างนั้นรึ"

อิคุชิมะ "แล้วท่านโยชิโนบุเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ?"

"ท่านเป็นคนที่เก่งกล้าสามารถ ฉลาด สุขุมอย่างไม่น่าเชื่อขอรับ" / "ท่านพ่อที่สัทสุมะก็พูดเช่นนั้นเหรอ?"

"ขอรับ! คนที่เหมาะสมจะเป็นทายาทในตอนนี้ ก็เห็นจะมีแต่ท่านฮิโตะสึบาชิคนเดียวเท่านั้นขอรับ" /
"อย่างนั้นเองเหรอ?.." เพราะท่านหญิงตอนนี้จิตใจก็กำลังสับสนวุ่นวายอยู่ไม่น้อย

"ถ้าท่านพ่อพูดแบบนั้น ข้าก็ควรต้องเชื่อล่ะสินะ...ข้าเองยังมีเรื่องทียังสงสัยเกี่ยวกับท่านคุโบ แต่.." / "ท่านมิไดเจ้าคะ!"

"ขออภัยขอรับ อยากจะถามเรื่องอะไรรึขอรับ?" / "ไม่ถามดีกว่าแสลงใจ!กันเปล่าๆ" / "งั้นก็ดีแล้วขอรับ.."

"ท่านอาเบะ! อันที่จริงน่ะ ข้าตั้งใจจะมีลูกเป็นของตัวเองให้ได้ เพราะว่าลูกของข้าจะได้เป็นทายาทโดยตรง! จะได้ไม่ต้องพึงและใช้ท่านโยชิโนบุยังไงล่ะ!!"

คำพูดและสายตาของท่านหญิงนั้นดูเด็ดเดี่ยวและจริงจังมาก อิคุชิมะเมื่อได้ยินได้เห็นเช่นนั้น จึงรีบพูดขึ้นว่า

"จะยังไงก็ตาม คนในโอโอขุเนี่ยเกือบจะทุกคนก็ว่าได้ที่เกลียดพวกมิโตะ ลำพังพวกข้า2คนคงจะทำอะไรไม่ได้หรอก ต้องอาศัยพึ่งใบบุญท่านอาเบะแล้วเจ้าค่ะ"

ที่อิคุชิมะพูดนั้น ก็เพื่อช่วยท่านหญิง ไม่ให้ต้องแบกภาระรับผิดชอบหนักเกินไป หากทำหน้าที่ไม่สำเร็จตามเป้าหมาย

"แต่ข้าไม่มีบารมีมากขนาดนั้นหรอก" / "อย่าพูดอย่างนั้นสิเจ้าคะ! ในโอโอขุเนี่ยมีคนนิยมชมชอบท่านเยอะนะเจ้าคะ บารมีตรงนี้แหล่ะสำคัญนัก!"

"ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆก็คงเป็นเพราะ..ข้าเป็นที่ปรึกษาที่ไม่คิดอะไรไม่พูดอะไรมากกว่า ต้องขออภัย!ข้าไม่ควรพูดอะไรเช่นนี้ต่อหน้าท่านมิไดเลย"

"ไม่เป็นไรหรอก นี่เป็นเรื่องสำคัญนะ ท่านคิดอย่างไรก็ขอให้พูดออกมาเถอะ?"

"ทำงานมาจนถึงวันนี้ ข้าพยายามเป็นผู้ฟังที่ดี รับฟังความคิดเห็นของคนจำนวนมากให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ขอรับ" / "ว่าต่อไปสิ"

"แต่ว่า.." / "แต่ว่าอะไร?"

"คนส่วนใหญ่ที่พูดล้วนแต่คิดแต่เรื่องของตัวเองกันทั้งนั้น ในที่สุดข้าก็เพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่า....เป็นที่ปรึกษามาตั้ง14ปี...ช่างเป็นเรื่องบ้าแท้ๆ...คนที่รักชาติจริงๆเหมือนท่านพ่อของท่านหญิงนั้น มีน้อยยิ่งนัก! มีแต่คนที่พูดเอาประโยชน์ใส่ตัว ข้าจึงคร้านที่จะเถียงกับเขา ก็ได้แต่ฟังเฉยๆ ข้าเป็นที่ปรึกษาที่ไม่พูดเรื่องตัวเอง ไม่ออกความคิดเห็นอะไรทั้งนั้น...ด้วยเหตุนี้ผู้คนจึงชอบข้า!"

"แต่ถ้าได้พูดออกมาก็น่าจะดีกว่าใช่มั้ย?" / "?"

"ท่านอาเบะมีความคิดเห็นอะไร มีแผนอะไร อย่าเก็บมันไว้ พูดออกมาให้หมดก็ดีกว่าไม่ใช่เหรอ?" / "เรื่องนั้นมัน.."

"เวลาสับสนไม่ต้องคิดอะไร ให้ใช้ความรู้สึกแทน แม่ข้าที่สุทสุมะสอนไว้ว่าอย่างนั้น ท่านให้ฟังความรู้สึกของตัวเอง แล้วทำไปตามที่รู้สึก เพราะฉะนั้น! ถ้าท่านอยากจะพูดอะไรก็พูดไปเลยสิ!"

"รู้สึกอย่างไรก็พูดไปอย่างนั้น..ถ้าข้าทำได้แบบนั้นก็ดีน่ะสิ" / "ท่านทำได้แน่!" / "..ขอรับ.."

"อย่างที่ท่านเคยพูดว่า ท่านโชกุนเป็นเจ้านายของซามุไร ไม่ว่าจะยากลำบากหนักหนาแค่ไหน คนที่สามารถค้ำุจุนท่านคุโบก็มีท่านกับข้าเท่านั้นไม่มีคนอื่น เพราะฉะนั้น! สิ่งที่ควรพูดก็ต้องพูด! สิ่งที่ควรทำก็ต้องทำ! มาช่วยกันสนับสนุนท่านคุโบและบ้านเมืองของเราเถอะ"
.
คำพูดของท่านมิได ช่างเป็นคำพูดที่เปี่ยมด้วยรอยยิ้มและให้กำลังใจแก่ผู้ฟังจริงๆ
.
"ขอรับ!" ท่านอาเบะก็รับรู้ความรู้สึกนั้นได้อย่างเต็มหัวใจ
.
.
อ่านเจ้าหญิงอัตสึที่รัก 73

.
.

3 ความคิดเห็น:

  1. อิอิ

    จะอวสานซะแล้วเหรอคะ

    ตั้งแต่ตามอ่านจากในบล็อก ก็ไม่ได้ตามดูจากทีวีอีกเลย

    ประมาณว่า..ลืมจริงๆ

    วันนี้ต้องตั้งใจซะหน่อยแล้ว

    ขอบคุณค่ะ

    ตอบลบ
  2. อวสานซะแล้ว เลยไม่มีหนังอะไรให้ติดตามเลยคะ

    ตอบลบ
  3. แม้ในทีวีไทยจะจบไปแล้ว แต่ที่นี่ยังไม่จบนะครับ

    แม้บางครั้งผมจะเขียนช้าไปเพราะความขี้เกียจก็ตาม

    ตอบลบ

ถ้าแสดงความเห็นตรงช่องนี้ผมจะได้อ่านทุกความเห็นครับ แต่ถ้าความเห็นไม่ขึ้นอาจเพราะระบบรอตรวจสแปม ต้องรอ1-2วัน / ใหม่ เมืองเอก kaeake@ymail.com


ผู้ติดตาม