อ่านเจ้าหญิงอัตสึที่รัก 80
จากท่าทีแปลกๆของท่านฮงจูอินที่ท่านมิไดประสบ ทีนี้ท่านฮงจูอินล่ะ ที่ไปทำท่าทางมึนตึงแบบนั้น ตอนนี้ท่านฮงจูอินคิดยังไงกับท่านมิได
ท่านฮงจูอิน "เมื่อเช้าเจอมิไดโดโกโระ นางก็ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ทักทายข้าตามปกติ แบบนี้มันหมายความว่ายังไงกันหา? ดูไม่รู้เลยว่าสนับสนุนท่านฮิโตะสึบาชิ แย่จริงๆเลย"
ทาคิยามะ "ท่านฮงจูอิน ตอนนี้ท่านเฉยๆไว้ก่อนเถอะเจ้าคะ" / "หมายความว่าจะให้นิ่งดูดายรึยังไง?"
"เรื่องนี้โจมตีท่านมิไดตอนนี้ไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ มันไม่เป็นผลดี เพราะนี่ดูเหมือนกับว่า ท่านคุโบกำลังเห็นอกเห็นใจท่านมิไดอยู่นะเจ้าคะ" / "เห็นอกเห็นใจ?"
อุตะฮะชิ "ได้ยินมาว่าหมู่นี้ท่านคุโบเข้าไปหาท่านมิไดแทบจะทุกคืนเลย จนโอชิงะเริ่มจะหึงแล้วนะเจ้าคะ" / "โิอชิงะจะเป็นยังไงข้าไม่สนใจหรอก กลัวแต่ว่าท่านคุโบจะโดนมิไดโดโกโระเป่าหูน่ะสิ"
"เรื่องนั้นไม่เป็นไรแน่ไม่ต้องห่วงหรอกเจ้าค่ะ เพราะเรามีพันธมิตรที่เข้มแข็งและเชื่อใจได้กลับมาที่เอโดะแล้วเจ้าค่ะ!"
--------------------
พันธมิตรที่เข้มแข็งที่ทาคิยามะพูดถึงก็คือ ท่านอี นาโอสุเกะแห่งฮิโคเนะ ที่ตอนนี้ได้ไปพบหัวหน้าที่ปรึกษาท่านฮตตะ เพื่อจะกดดันท่านฮตตะเสนอชื่อท่านโยชิโตมิขึ้นเป็นทายาทโชกน ท่านอีนั้นมาแบบขอร้องแกมบังคับ! ด้วยเหตุผลที่ว่า ท่านโยชิโตมิเป็นสายเลือดใกล้ชิดท่านอิเอซาดะมากกว่าใคร เพราะเป็นถึงลูกพี่ลูกน้องท่านโชกุน
ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งโดยท่านโยชินางะ ก็ได้ไปพบท่านฮตตะในเวลาต่อมาเช่นกัน ท่านโยชินางะเข้าไปเพื่อขอร้องและชี้ให้เห็นว่าท่านโยชิโนบุเหมาะสมกว่าใครที่สุดในตอนนี้ ด้วยวัยวุฒิเหมาะสมกว่า
แต่โดยสรุปแล้ว ท่านฮตตะก็แบ่งรับแบ่งสู้กับทั้งสองฝ่าย แต่สิ่งหนึ่งที่ท่านฮตตะใช้เป็นทางออกก็คือ
ท่านฮตตะ "ตอนนี้..สิ่งที่..สำคัญที่สุดคือความเห็นของท่านคุโบ ถ้าท่านเลือกใครก็ต้องเป็นคนนั้น"
--------------------
หลังจากนั้นท่านมัืทสึไดระ โยชินางะก็ได้ส่งข่าวด่วนในเรื่องที่ท่านฮตตะแบ่งรับแบ่งสู้ไม่เข้าข้างใครอย่างชัดเจน(แต่เอียงนิดๆไปทางท่านอี เพราะท่านอีมีอิทธิพลมากในชั้นฟุได) ไปที่เจ้าแคว้นสัทสุมะ
ท่านนาริอาคิระ "ท่านอี นาโอสุเกะกลับไปที่เอโดะอีกแล้วตอนนี้ ท่านเป็นแกนนำพวกที่สนับสนุนท่านโยชิโตมิเจ้าแคว้นคิชู" / "เสียเปรียบอีกแล้ว.." ไซโกเปรย
"ท่านฮตตะก็แบ่งรับแบ่งสู้.. ท่านโยชินางะเลยคิดว่าคงพึ่งท่านฮตตะไม่ได้หรอก" / "งั้นก็แย่สิขอรับ"
"ท่านผู้เฒ่าแห่งมิโตะก็มาลาออกจากรัฐบาลทหาร กำลังฝ่ายเรายิ่งเสียเปรียบมาก ข้าเองก็อยู่ที่สัทสุมะก็จนปัญญา แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีหนทาง!"
แล้วท่านนาริอาคิระก็สั่งการต่อท่านไซโกว่า "อยากให้เจ้ารีบกลับไปเอโดะ จงเดินทางไปทันที!เลยนะ ไปช่วยท่านโยชินางะ ยังไงก็ต้องทำให้ท่านฮิโตะสึบาชิ โยชิโนะบุได้เป็นทายาทให้ได้!" / "ขอรับ!!"
"เพื่อให้ทำงานง่ายขึ้น ข้าจะเลื่อนตำแหน่งให้เจ้าเป็นคะจึเมะสึเขะ" / "ขอบพระคุณหาที่สุดมิได้ขอรับ!!" ท่านไซโกก้มหัวคำนับขอบคุณ
ตำแหน่งคะจึเมะสึเขะ ทำหน้าที่เหมือนตำรวจนักสืบ และงานอื่นๆในทำนองนั้น ตั้งแต่นั้นมาท่านไซโกก็เริ่มมีบทบาทโดดเด่น เป็นที่น่าจับตามองเรื่อยมา
---------------------
หลายวันต่อมาที่บ้านโอคุโบะ นาโอโกโร่แวะไปเยี่ยมเยียนท่่านโอคุโบะ ซึ่งนาโอโกโร่ได้เล่าให้ท่านโอคุโบะฟังว่าเพิ่งจะกลับมาจากเขตปกครองของท่านไซโก
โอคุโบะ "ไปที่บ้านท่านคิชิโนสุเกะมาแล้วเหรอขอรับ?" / "ไปดูงานให้เขาหน่อย เวลาที่เขาไปเอโดะก็ต้องไปดูแลงานในเขตปกครองบ้านเขา" นาโอโกโร่ตอบ
"ท่านคิชิโนะสุเกะไปเอโดะ ท่านโคมัทสึได้เป็นคิชิริ ท่านทั้ง2กำหนดทางเดินชีวิตของตัวเองได้แล้วน้า" ท่านโอคุโบะพูดแบบคนน้อยใจอีกแล้ว
"ทางมันแคบ แถมยังต้องเดินไปอีกไกล" นาโอโกโร่ตอบแบบถนอมน้ำใจเพื่อน เพราะไม่อยากให้ท่านโอคุโบะน้อยใจและคิดมาก
"แต่มันก็เป็นหนทางที่มีความหวังนะ...ข้าอยากจะพูดว่า การที่ข้ามองไม่เห็นอนาคต มันไม่ได้เกิดจากตัวข้าคนเดียว เพราะเราอยู่ในบ้านเมืองปิด เป็นที่ที่อุดมสมบูรณ์เราก็ควรพอใจ แต่เพราะเราไม่รู้จักที่ที่เรียกว่าดีกว่า ก็เหมือนกบในกะลายังไงยังงั้น!"
ท่านแม่ฟุขุ แม่ของท่านโอคุโบะที่นั่งฟังการสนทนาอยู่ด้วย เห็นลูกชายเป็นแบบนั้นจึงพูดขึ้นว่า
"โชสุเกะ ท่านโคมัทสึอุตส่าห์มาบอกว่าได้เลื่อนตำแหน่ง อย่าบ่นท้อแ้แบบนั้นสิ!"
พอท่านโอคุโบะได้ยินคำเตือนของท่านแม่ จึงหันไปก้มหัวขอโทษต่อนาโอโกโร่ทันที "ขอโทษขอรับ! ที่ข้าเผลอพูดความรู้สึกแบบนั้นออกไป...แต่ขอบอกตรงๆนะ เวลาที่บ้านเมืองเกิดวิกฤติเช่นนี้ ข้ารู้สึกเหมือนตัวเองช่างไร้ประโยชน์ ที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย.." / "ท่านโอคุโบะ.." นาโอโกโร่เองก็เห็นใจและเข้าใจสภาพจิตใจของเพื่อน
ท่านแม่ฟุขุ "มาๆ มาดื่มฉลองกันให้เต็มทีเลยนะ ถึงแม้ไม่มีอะไรหรูหราก็ช่างเถอะ" / "ไม่เป็นไรอย่าลำบากเลยขอรับ"
แล้วท่านแม่ฟุขุลุกขึ้นเพื่อจะไปในครัว แต่ก็หันกลับมามองลูกชายที่กำลังอยู่ในภาวะท้อแท้ไร้ความหวังอย่างเข้าใจ
------------------------
ต่อมานาโอโกโร่ก็พาโอชิคะไปเยี่ยมเยียนบ้านอิไมสุมิ และไปไหว้เคารพป้ายวิญญาณของท่านทาดาตาเกะด้วย หลังจากเคารพเสร็จ ก็ได้รับการการขอบคุณจากเจ้าของบ้านคือท่านแม่โอยุกิ กับทาดายุกิ ส่วนนาโอโกโร่และภรรยาก็กล่าวขอโทษที่ไม่ได้มาเยียมเยียนเสียนาน
(มารยาทญี่ปุ่นเขางดงามจริงๆ ดูคลิป)
แต่ประเด็นตรงนี้ผมขอข้ามตรงสำคัญ คือนาโอโกโร่มาแจ้งข่าวว่าได้เลื่อนตำแหน่งเป็นคิชิริแล้ว (ผู้ปกครองเขตโยชิโตชิ) ส่วนทาดายุกิก็บอกว่าตัวเองก็กำลังจะไปขอเจ้าสาวเหมือนกัน (ส่วนพี่ชายอีกคนของโอคัตสึที่แยกครอบครัวออกไปนานแล้ว ก็ไม่ค่อยได้มาเยี่ยมเท่าไหร่)
ท่านโอยุกิ "จะว่าไปแล้ว เกิดเรื่องเยอะแยะภายในเวลาสั้นๆเท่านั้นเองนะ" / "ขอรับ" นาโอโกโร่รับ
"แต่พอเจ้า2คนอยู่ด้วยกัน แบบนี้ดูแล้ว เหมือนสามีภรรยาที่สมกันจริงๆนะ" / "งั้นเหรอขอรับ" ทั้ง2สามีภรรยายิ้มรับเขินๆ
"ใช่! โอชิคะก็พยายามปรนนิบัติสามีให้สุดกำลังนะ" / "เจ้าค่ะ ข้าก็กำลังพยายามเป็นภรรยาที่ดีอยู่เจ้าค่ะ"
นาโอโกโร่หันมามองภรรยาอย่างภูมิใจ แล้วหันมาพูดคุยต่อ "หมู่นี้ท่านหญิงอัตสึ ไม่ใช่สิ! ท่านมิไดได้เขียนจดหมายมาบ้างรึเปล่าขอรับ?"
"นานๆทีล่ะจ้ะ เวลาเขานึกได้ล่ะมั้ง" / "ท่านคงเป็นห่วงแย่สินะขอรับ?"
ท่านโอยุกิยิ้ม ก่อนจะตอบว่า "ข้าน่ะไม่ค่อยเป็นห่วงเขาสักเท่าไหร่หรอก" / "ทำไมล่ะขอรับ?"
"เพราะเด็กคนนั้น.. เป็นคนดวงดีมีพลังมหัศจรรย์.. เกิดมาในตระกูลย่อยของสัทสุมะ.. จนได้ตำแหน่งเป็นถึงมิไดโดโกโระนั่นแหล่ะ.. ข้าเลยอยากจะเชื่อว่าเขามีพลังพิเศษ..ที่มีติดตัวมาตั้งแต่เกิด.. ข้าเชื่ออย่างนั้นนะ"
"พลังพิเศษตั้งแต่เกิดงั้นเหรอ?"
"เขามีพลังพิเศษที่่คนอื่นไม่มี เป็นพลังที่สวรรค์ประทานให้มาน่ะจ้ะ" ท่านโอยุกิพูดด้วยรอยยิ้ม
ทุกคนที่ได้ฟังต่างล้วนเข้าใจกับสิ่งที่ท่านโอยุกิพูด เพราะทุกคนได้ประสบกับความมหัศจรรย์ของท่านหญิงอัตสึมาแล้วเช่นกัน..
.
.
.
.
เท่าที่เข้ามาเขียนให้ได้ติดตามอ่าน
ตอบลบก็ขอบคุณมากแล้วค่ะ
เชื่อว่าหลายๆ ท่านที่ติดตามอยู่ก็คงจะคิดแบบเดียวกัน
เขียนอะไรลงมา ก็อ่านทั้งนั้นแหล่ะค่ะ
ไม่รีบด่วนกับเรื่องอะไรเป็นพิเศษนะคะ
^v^
คือบางวัน ผมไปท่องเน็ตเพลินกับเรื่องการเมือง จนบางทีเลยเวลาจะเขียน
ตอบลบและการเขียนเรื่องอัตสึนี้ ผมเขียนด้วยความรักละครเรื่องนี้
จนทำให้มีเรื่องอื่นๆหลายเรื่อง ที่ผมพลาดไป ไม่ได้เขียน เพราะอยากเขียนอัตสึมากกว่า
ขอบคุณที่ติดตามอย่างสม่ำเสมอครับ