Black Friday! Dow Falls Below 8,000 in Early Morning Trading
Investors are clutching their stomachs as the Dow Jones Industrial Average fell hundreds of points this morning, momentarily diving below 8,000 (with a 600+ drop) to under 8,000. Right now (9:48 a.m.), it's down 262 points at 8,316 points (down 3%). Nasdaq is currently down 1.5% and the S&P 500 is down 2.7%.
ต่อเนื่องจากบทความก่อน เรื่อง อเมริกาจ๋อย ทุนนิยมล่ม เมื่อวันก่อน พอดูข่าวเมื่อวันศุกร์ที่10ต.ค.ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นทั่วโลกตกอย่างหนักที่เรียกกันว่า "black friday" โดมิโนจากอเมริกาล้มมาที่ยุโรป ลามมาเอเซีย
นึกว่าจีนจะรอด ที่ไหนได้ จีนดันเอาเงินไปซื้อพันธบัตรของธนาคารอเมริกาไว้เป็นเข่งๆ
ทีนี้พอธนาคารอเมริกาพัง จีนเลยจะพังตามไปด้วย แต่โชคดีทุนสำรองของประเทศจีนยังมีเยอะ เลยแค่เจ็บตัวแบบเกือบสาหัส
แต่ก็ไม่แน่ เพราะจีนดันมีนักธุรกิจมักง่ายแบบไม่ทิ้งนิสัยเดิมๆ ตามแบบพวกขุนนางกังฉิน ผลิตสินค้าแบบเอาแต่ได้ ไม่สนว่าใครจะตายก็ชั่งมัน สินค้าจีนก็เลยผลิตออกมาชุ่ยๆ หวาดหวั่นกันไปทั้งโลก
ไอ้เราเคยได้ยินผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ว่าจีนจะกลายเป็นยักษ์ใหญ่แทนอเมริกา สงสัยคงต้องรอไปอีกหน่อยแล้ว เพราะคนทั้งโลกเขาก็ผวากับสินค้าจากจีนกันแบบขี้ขึ้นสมอง คงอีกนานกว่าจีนจะเรียกคะแนนนิยมกลับได้อีก
จีนหลอกทั่วโลกได้ตั้งแต่นมเด็กยันปืนแก๊สน้ำตา?
กลับมาที่อเมริกาล้มอีกครั้ง ผมเคยบอกไว้ที่บทความ อเมริกาจ๋อยฯ ไว้ว่า กรรมมันตามสนองอเมริกา เล่าให้ฟังแบบง่ายๆพอสรุปคือ
1.บ.น้ำมันอเมริกาและกองทุนเฮดจ์ฟันด์ปั่นราคาน้ำมัน ได้เงินมามากก็เอาไปฝากธนาคารในอเมริกา
2.ธนาคารอเมริกามีเงินฝากมากก็ต้องปล่อยกู้ให้มาก เพื่อหาเงินมาจ่ายดอกเบี้ยเงินฝาก
3.คนอเมริกากู้เงินง่าย ก็กู้กันใหญ่ ไปหนักเอาที่อสังหาริมทรัพย์ แล้วเริ่มมีการเก็งกำไร ตามสันดานความโลภของมนุษย์
4.พอกู้ง่าย ลงทุนง่าย ก็สร้างโครงการกันใหญ่ เกิดฟองสบู่ทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะฟองสบู่ด้านอสังหาริมทรัพย์ แต่คนขายกันมีมากกว่าคนซื้อ สุดท้ายก็เลยเจ๊ง
ที่เล่ามาแบบย่อๆนะ ทีนี้ที่ยุโรปก็เริ่มล้มตาม หลายประเทศในยุโรปเห็นตัวอย่างอเมริกาล้ม รัฐบาลบางประเทศรีบกลับมาใช้นโยบายประกันเงินฝากของประชาชนเต็มร้อยในธนาคารต่างๆ กันประชาชนแตกตื่นแบบอเมริกา แล้วจะแห่กันมาถอนเงินกลับบ้านกัน (ขณะที่ไทยเรากำลังเริ่มมาตรการการลดการประกันเงินฝากประชาชนของรัฐบาลเป็นปีแรก)
วิกฤติต้มยำกุ้งของไทย ได้สอนให้หลายๆคนรู้ว่า การโตแบบไม่พอเพียงมันทำให้ไม่มั่นคง นักธุรกิจคิดแต่จะเอากำไร อยากใหญ่ อยากขยาย เงินไม่พอก็กู้มาลงทุน อยากโตเร็ว สุดท้ายก็ตายเร็ว
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ก็สามารถนำมาปรับใช้กับแนวคิดแบบทุนนิยมได้ คือ
เติบโตอย่างมั่นคง ไม่โตแบบก้าวกระโดด ไม่ค้ากำไรเกินควร เห็นใจคนอื่น เห็นใจคู่แข่ง ไม่เห็นแก่ตัว จริงใจกับลูกค้า พัฒนาคุณภาพ เอื้อเฟื้อเพื่อนมนุษย์ ใช้หลักคุณธรรมนำธุรกิจ
เพียงเท่านี้รับรองจะไม่มีวิกฤติเศรษฐกิจเกิดขึ้นแน่ แต่ถึงจะมีผู้ใช้หลักความพอเพียงก็จะไม่เจ็บตัวมากเหมือนคนอื่น
เพียงเท่านี้รับรองจะไม่มีวิกฤติเศรษฐกิจเกิดขึ้นแน่ แต่ถึงจะมีผู้ใช้หลักความพอเพียงก็จะไม่เจ็บตัวมากเหมือนคนอื่น
.
นี่เป็นตัวอย่างที่เราควรศึกษาและระวัง เมื่อก่อนใครๆต่างก็เชื่อว่าระบบเอกชนนั้นดีเพราะทำกำไรได้ รัฐบาลนักเศรษฐศาสตร์ และนักธุรกิจส่วนใหญ่ เห็นเหมือนกันหมดว่าระบบราชการมันล้าหลัง มันไม่ทันสมัย มันต้องแปรรูป คือคิดอยากจะแปรรูปรัฐวิสาหกิจที่มีกำไรอยู่แล้วหวังทำกำไร (กับประชาชน)
.
แต่ก็เห็นแต่แปรรูปธุรกิจที่เขาก็อยู่ของเขาได้อยู่แล้ว เขามีกำไรอยู่แล้วก็ยุให้เขาแปรรูปเพราะหวังกำไรที่มากขึ้น
ไอ้ที่ขาดทุนก็ทำเป็นอยากแปรรูปบังหน้า แต่ไม่ได้อยากแปรรรูปจริงหรอก เพราะมันขาดทุนอยู่ บอกแปรรูปแล้วรัฐวิสาหกิจจะอยู่ได้เองไม่ต้องพึ่งรัฐบาล
ไอ้ที่ขาดทุนก็ทำเป็นอยากแปรรูปบังหน้า แต่ไม่ได้อยากแปรรรูปจริงหรอก เพราะมันขาดทุนอยู่ บอกแปรรูปแล้วรัฐวิสาหกิจจะอยู่ได้เองไม่ต้องพึ่งรัฐบาล
..
คิดในทางสวยหรู แต่ลืมไปว่าหากมันขาดทุนล่ะ หากขาดทุนก็เท่ากับเอาเงินที่ประชาชนลงทุนไปทำเจ๊ง แต่ถ้าได้กำไร ประชาชนก็ไม่ได้รวยตามเขาไปด้วย จริงมะ
.
การบินไทยต้องทำการค้ากับต่างชาติเป็นหลัก เลยเจ๊งไม่เป็นท่า ส่วนปตท.ที่มันกำไร ก็เพราะมันผูกขาดน่ะสิ เล่นเป็นเจ้าของโรงกลั่นแทบจะเพียงผู้เดียวในไทย ขายน้ำมันให้คู่แข่งเอง บีบคู่แข่งจนล้ม เช่น ปั๊มเจ็ท เป็นต้น แล้วก็ยึดเทคโอเวอร์กิจการเขามา ถ้าไม่กำไรก็กระบือแล้ว
ที่สำคัญปตท. เป็นธุรกิจก็หากินเป็นหลักกับคนไทย (ถ้าอนาคตอาจเน้นขายน้ำมันให้ต่างประเทศมากขึ้น แต่ก็คงเข้ากระเป๋าตัวเองกับนอมินีนักการเมือง ส่วนคนไทยจนเหมือนเดิม)
ที่สำคัญปตท. เป็นธุรกิจก็หากินเป็นหลักกับคนไทย (ถ้าอนาคตอาจเน้นขายน้ำมันให้ต่างประเทศมากขึ้น แต่ก็คงเข้ากระเป๋าตัวเองกับนอมินีนักการเมือง ส่วนคนไทยจนเหมือนเดิม)
.
เอ๊ะ! ผมออกนอกเรื่องไปหรือเปล่า เอาไว้ผมจะกลับมาเขียนเรื่องปตท.อีกทีแล้วกัน
ถ้าอยากอ่านบทความเก่าเรื่องการแปรรูปรัฐวิสาหกิจฯของผมที่ผ่านมา ก็ คลิกที่นี่ แล้วกัน
ถ้าอยากอ่านบทความเก่าเรื่องการแปรรูปรัฐวิสาหกิจฯของผมที่ผ่านมา ก็ คลิกที่นี่ แล้วกัน
ส่วนเรื่องอเมริกาก็ขอจบแต่เพียงแค่นี้ก่อนแล้วกันครับ ไว้มีโอกาสจะเขียนเรื่องนี้อีก
.
ย้อน อ่านอเมริกาจ๋อย 1
ขอบคุณมาก ๆ นะครับ สำหรับบทความดี ๆๆ
ตอบลบ