ผมเคยได้ยินเสมอๆว่ามีการเตือนเรื่องการบริโภคไข่ว่า ไข่มีคลอเลสเตอรอลสูง กินมากๆเดี๋ยวจะเป็นไขมันอุดตันในเส้นเลือดหัวใจ ซึ่งความเชื่อและคำแนะนำในเรื่องนี้มีฝังหัวคนทั่วไปมานานนับสิบปี
แต่ในความรู้ใหม่ที่ถูกต้องก็คือ ไข่สามารถป้องกันโรคไขมันชนิดคลอเลสเตอรอลสูงได้ดี สามารถป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจตีบได้ แถมยังบำรุงร่างกายและบำรุงสมองอย่างยอดเยี่ยม
ผมเคยได้ดูรายการโทรทัศน์ทางmodern9 เมื่อสัก2ปีที่ผ่านมา คือรายการชื่อ ดีมากๆ เป็นรายการสาระความรู้ที่นำเรื่องใกล้ตัวของคนเรามาพิสูจน์ให้เห็นอย่างชี้ชัด เป็นรายการที่ดูสนุกไม่น่าเบื่อผลิตจากประเทศออสเตรเลีย ออกอากาศตอน 5 โมงเย็นจันทร์ถึงศุกร์ เป็นเวลารายการของเด็กและเยาวชนโดยเฉพาะ
มีการทดลองอยู่ครั้งนึงเกี่ยวกับความเชื่อเรื่องการกินไข่
เริ่มรายการพิธีกรชายได้ไปสัมภาษณ์นักกีฬาเพาะกายว่า เขากินไข่วันละกี่ฟอง รู้สึกนักเพาะกายจะตอบว่า วันละ 20 ฟองเห็นจะได้ หมายถึงกินทั้งไข่แดงและไข่ขาวทั้งฟอง
โดยเฉพาะไข่ขาวเป็นอาหารจำพวกโปรตีนชนิดดีมาก ๆ สามารถย่อยง่ายช่วยในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อได้ดีเยี่ยม และผลคลอเลสเตอรอลของนักเพาะกายคนนี้ก็อยู่ในระดับปกติ
แต่พิธีกรเห็นว่าเขาเป็นนักเพาะกายซึ่งจำเป็นต่อการต้องการจำนวนโปรตีนจำนวนมากอยู่แล้วก็ได้ เลยไม่เป็นอันตรายต่อเขา
โดยเฉพาะไข่ขาวเป็นอาหารจำพวกโปรตีนชนิดดีมาก ๆ สามารถย่อยง่ายช่วยในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อได้ดีเยี่ยม และผลคลอเลสเตอรอลของนักเพาะกายคนนี้ก็อยู่ในระดับปกติ
แต่พิธีกรเห็นว่าเขาเป็นนักเพาะกายซึ่งจำเป็นต่อการต้องการจำนวนโปรตีนจำนวนมากอยู่แล้วก็ได้ เลยไม่เป็นอันตรายต่อเขา
ทีนี้พิธีกรชายคนนี้จึงใช้ตัวเองเป็นบทพิสูจน์เรื่องไข่ ว่าถ้าเขากินไข่ให้มากแบบนักเพาะกายคนนี้ แต่เขาจะไม่ได้ออกกำลังกายอย่างหนัก จะปฏิบัติตัวตามปกติเหมือนเดิม การกินไข่จำนวนมากของเขาจะทำให้มีปริมาณคลอเลสเตอรอลมากขึ้นในกระแสเลือดหรือไม่
เริ่มทดลองโดย ก่อนอื่นพิธีกรชายก็ต้องไปตรวจเลือดก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งผลเลือดของเขามีปริมาณคลอเลสเตอรอลในเลือดอยู่ในระดับปกติมากๆ คือค่อนข้างปานกลางไม่สูงหรือต่ำเกินไป ที่ประมาณ 140 mg/dl (ค่าปกติอยู่ระหว่าง 130-200 mg/dl )
หลังจากนั้นเป็นเวลาสองอาทิตย์ พิธีกรชายคนนี้จะเริ่มกินไข่วันละ 14 ฟอง/วัน และเขาก็จะกลับมาตรวจวัดปริมาณไขมันคลอเลสเตอรอลอีกครั้ง เพื่อดูความเปลี่ยนแปลงว่าคลอเรสเตอรอลของเขาจะเพิ่มขึ้นหรือไม่
พอเมื่อครบกำหนด 2 อาทิตย์ พิธีกรชายคนนี้ก็กลับไปตรวจเลือดเพื่อดูผล และแล้วพอผลตรวจออกมา ผลเลือดของเขาแสดงให้เห็นว่า ปริมาณคลอเลสเตอรอลในเลือดของเขาลดลงอย่างมาก จากเดิมก่อนทดลองกินไข่วันละ14ฟอง ค่าคลอเลสเตอรอลของเขาอยู่ที่ ประมาณ 140 mg/dl แต่หลังกินไข่จำนวนมากถึง2อาทิตย์ ปริมาณคลอเลสเตอรอลของเขาลดลงเหลือเพียง 125 mg/dl เท่านั้น
ฉะนั้นจากการทดลองของเขาได้ข้อสรุปว่า การกินไข่ยิ่งมากคลอเลสเตอรอลก็ยิ่งลดลง ไม่ได้ทำให้เพิ่มคลอเลสเตอรอลในเลือดแต่ประการใด ซึ่งเขาก็ไปสอบถามแพทย์ที่ควบคุมการทดลองครั้งนี้ให้แน่ใจอีกครั้ง ซึ่งก็ได้รับคำตอบว่า ไข่ดีต่อสุขภาพจริงๆ ไม่ได้เป็นอันตรายต่อร่างกายอย่างที่หลายๆคนเคยเข้าใจ
เพราะปริมาณคลอเลสเตอรอลในไข่เป็นคลอเลสเตอรอลชนิดดี ไม่ใช่ชนิดร้ายที่ทำร้ายสุขภาพ และโดยปกติร่างกายมนุษย์หรือสัตว์จะสามารถสร้างคลอเลสเตอรอลได้เองเหมือนกัน แต่มักจะเป็นคลอเลสเตอรอลในแบบร้ายมากกว่า ส่วนแบบดีจะเพิ่มได้ด้วยการออกกำลังกายและการกินไข่ แต่เมื่อเรากินไข่มากๆ ปริมาณคลอเลสเตอรอลแบบไม่ดีที่ร่างกายสามารถผลิตเองได้ก็จะลดลง เพราะในไข่มีสารที่ต่อต้านคลอเลสเตอรอลแบบไม่ดีไม่ให้มีอำนาจยึดเกาะกระแสเลือดได้ครับ
ตัวผมเองก็ได้กินไข่วันละสองฟองเหมือนกัน ปริมาณคลอเลสเตอรอลก็ลดลงกว่าเดิมจริงๆ ซึ่งต่อมาผมก็ได้แนะนำให้คนรู้จักที่มีปริมาณคลอเลสเตอรอลสูงลองทดลองกินไข่ทั้งไข่แดงและไข่ขาวทุกวันดู ว่าจะลดปริมาณคลอเลสเตอรอลได้เหมือนผมหรือไม่ ซึ่งผลก็ออกมาว่าสามารถลดคลอเลสเตอรอลได้จริงๆ ครับ
ฉะนั้นการทิ้งไข่แดงไปโดยเปล่าประโยชน์ ย่อมเป็นที่น่าเสียดายมาก ๆ อีกทั้งไข่แดงมีสารเลซิตินที่ช่วยบำรุงสมองได้เป็นอย่างดีอีกด้วย (ที่สำคัญคือต้องกินทั้งไข่แดงและไข่ขาว)
.ส่วนไข่ขาวมีโปรตีนเป็นโปรตีนชนิดดีที่สุดที่ร่างกายต้องการ แต่ต้องเป็นไข่ขาวที่สุกแล้วเท่านั้นนะครับ ขนาดผู้ป่วยโรคไตที่ต้องจำกัดจำนวนโปรตีนในอาหารแต่ละวัน หมอก็ยังอนุญาตให้กินไข่ขาวได้อย่างน้อยวันละ2ฟอง เพราะไข่ขาวไม่ทำให้ไตทำงานหนักครับ
ส่วนใครที่เคยเห็นคนกินไข่ดิบ นั่นคือความเชื่อที่ผิดๆ ว่าบำรุงร่างกายได้ดี เพราะไข่ขาวดิบจะไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะร่างกายไม่สามารถย่อยและดูดซึมได้เท่าไข่ขาวสุกครับ
ส่วนใครที่เคยเห็นคนกินไข่ดิบ นั่นคือความเชื่อที่ผิดๆ ว่าบำรุงร่างกายได้ดี เพราะไข่ขาวดิบจะไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะร่างกายไม่สามารถย่อยและดูดซึมได้เท่าไข่ขาวสุกครับ
ขอบคุณมากค่ะ สำหรับบทความ
ตอบลบ