วันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2551

สมัครเอ๋ยสมัครผู้รักและซื่อสัตย์นาย




ก่อนการเลือกตั้งใหญ่ปี'51 สมัครในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชาชน เคยหาเสียงว่า หากชนะได้เป็นรัฐบาลจะขอแก้ไขรัฐธรรมนูญในช่วงปีที่3ของวาระรัฐบาล แต่เมื่อสมัครเป็นนายกยังไม่ทันครบ3เดือน สมัครก็เริ่มจะตระบัตย์สัตย์ ด้วยการจะแก้รัฐธรรมนูญให้ได้ ทั้งๆที่ปัญหาบ้านเมืองตอนนั้นมีปัญหาเร่งด่วนมากมายที่รอการแก้ไขอย่างเร่งด่วน

ก็หวังเพื่อจะให้รัฐธรรมนูญใหม่ล้มล้างคณะกรรมกรตรวจสอบทรัพย์สินให้สิ้นไป เพื่อท่านผู้มีพระคุณชื่อทักษิณที่อุตส่าห์ประเคนตำแหน่งนายกฯให้ จะได้รอดพ้นความผิด

อัปเดทผลบอลล่าสุดคลิกที่นี่


ต่อมาเมื่อทักษิณหนีคดีออกนอกประเทศ ในฐานะผู้ต้องหา ก็ไม่สมควรที่จะมีหนังสือเดินทางพิเศษที่สามารถจะเดินทางไปที่ใดในโลกก็ได้ โดยไม่ต้องขอวีซ่าอีก


แต่สมัครก็ไม่เคยคิดจะยกเลิกหนังสือเดินทางพิเศษนี้จากทักษิณ ทั้งๆที่มันเป็นความรับผิดชอบของสมัคร ถึงแม้ทักษิณจะมีบุญคุณแค่ไหนก็ตาม ก็ควรต้องเห็นแก่ชาติที่ตัวเองดูแลก่อนเป็นอันดับแรก

หากทักษิณยังถือหนังสือเดินทางพิเศษดังกล่าวอยู่ ก็ไม่จำเป็นต้องขอทำเรื่องลี้ภัย เพราะยังสามารถเดินทางไปที่ใดๆในโลกได้ตามต้องการเหมือนเดิม

แต่หากไม่มีหนังสือเดินทางฉบับดังกล่าว ทักษิณก็จำเป็นต้องทำเรื่องลี้ภัยทันที เพราะไม่สามารถอยู่ต่างประเทศได้โดยไม่มีหนังสือเดินทาง


และถ้าลี้ภัยได้สำเร็จ จะเดินทางไปที่ไหนในโลกก็จะไม่ง่ายเหมือนเดิมอีก เพราะจะมีขั้นตอนยุ่งยากมากในแต่ละประเทศที่จะไป ซึ่งบางประเทศก็อาจไม่ต้อนรับ หรือบางประเทศก็อาจมีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับประเทศไทยอยู่


แต่รัฐบาลสมัครก็ไม่คิดปกป้องศักดิ์ศรีของประเทศ ทั้งๆที่ ทักษิณก็ออกข่าวในทางเสียหายให้กับประเทศไทยว่า ไม่มีความปลอดภัยจะมีคนมาลอบสังหาร อีกทั้งให้ข่าวทำลายสถาบันตุลาการของไทยซะไม่มีชิ้นดี

คนเรานะ หากรักชาติจริง แม้ตัวเองต้องกลายเป็นคนบาปในสายตาคนอื่น ก็จะไม่มีทางให้ร้ายชาติของตัวเองหรอก ไม่ว่าจะโดนใส่ร้ายหรือไม่ก็ตาม ก็ต้องรักษาชื่อเสียงของชาติยิ่งกว่าชีวิต แต่ทักษิณไม่!


ขณะนี้สถาการณ์การเมืองรุนแรง พันธมิตรเข้ายึดทำเนียบรัฐบาล เรื่องราวจะจบอย่างไรไม่รู้ แต่ที่รู้เรื่องของหนังสือเดินทางพิเศษของทักษิณที่รัฐบาลสมัครออกให้ก็ยังใช้ได้เหมือนเดิม เฮ่อ!

อ่านบทความนี้แล้ว ไปต่อกับบทความต่อเนื่องที่สำคัญที่http://akelovekae.blogspot.com/2008/09/blog-post_04.html


newakecity อัปเดทผลบอลล่าสุดคลิกที่นี่


วันพฤหัสบดีที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ประวัติฮุนเซน คนขึ้นวอ






















ประวัติย่อ สมเด็จฮุน เซน นรม./รองหัวหน้าพรรคประชาชนกัมพูชา
ในการเลือกตั้งทั่วไปของกัมพูชาซึ่งมีขึ้นเมื่อ ๒๗ ก.ค.๕๑ ผลอย่างไม่เป็นทางการปรากฏว่า พรรคประชาชนกัมพูชา หรือ CPP(Cambodian People’s Party) ของสมเด็จฮุน เซน ได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนจากชาวเขมร ๙๑ เสียง จากที่นั่งในสภาที่มีอยู่ทั้งหมด ๑๒๓ เสียง ซึ่งนั่นหมายถึง การที่พรรค CPP จะสามารถจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้อย่างแน่นอน และไม่ต้องพะวงเรื่องการขอลงมติไม่ไว้วางใจ/ถอดถอน จากพรรคฝ่ายค้านในอนาคต...

แม้ว่า สมเด็จฮุน เซน จะเป็นผู้กุมอำนาจเด็ดขาดในพรรค CPP ก็ตาม แต่สมเด็จฮุน เซน ต้องการเป็นเพียงรองประธานพรรคเท่านั้น โดยได้มอบตำแหน่งหัวหน้าพรรค CPP ให้กับสมเด็จเจีย ซิม ซึ่งเป็นประธานวุฒิสภา...

ในโอกาสที่ สมเด็จฮุน เซน คงจะได้เป็นผู้นำประเทศกัมพูชาต่อไปอีก ๕ ปีอย่างแน่นอน หลังจากปกครองประเทศกัมพูชามายาวนานถึง ๒๓ ปีแล้ว จึงขอนำประวัติโดยย่อของผู้นำเขมรคนนี้ มาให้ท่านได้รับทราบ ดังนี้ ...

สมเด็จฮุน เซน เกิดเมื่อ ๔ เม.ย.๒๔๙๔ ที่ อ.สตึงเตรง จ.กัมปงจาม ปัจจุบันอายุ ๕๖ ปี มีภริยาชื่อ นางบุน ซัมเฮียง เป็นชาวเวียดนาม มีลูก ๖ คน เป็น ชาย ๓ และ หญิง ๓ ลูกชายคนโตชื่อ ฮุน มาเน็ท จบเวสท์ปอยต์/สหรัฐฯ เมื่อปี ๒๕๔๒...

สมเด็จฮุน เซน มีสัญชาติและเชื้อชาติเขมรญวน นับถือศาสนาพุทธ การศึกษาสูงสุด จบปริญญาเอกสาขารัฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ด้วยเหตุนี้ จึงพูดภาษาเวียดนามได้เป็นอย่างดี แต่พูดภาษาไทยกับอังกฤษได้นิดหน่อย ที่พูดภาษาไทยได้นั้น เพราะสมเด็จฮุน เซน ชอบประเทศไทย และชอบดาราละครไทย โดยเฉพาะน้องกบ สุวนันท์ คงยิ่ง

ฮุน เซน เป็นคนที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูงมาก(ใกล้เคียงกับดื้อรั้น) ฉลาด พูดเก่ง สูบบุหรี่วันละ ๒ ซอง(๔๐ มวน) ยี่ห้อ ๕๕๕ รักครอบครัวและเชื่อฟังภริยา(กลัวเมียนั่นเอง) แต่เจ้าชู้มากที่สุด ตีกอล์ฟเก่งมาก แฮนดิแค็บอยู่ที่ ๑๕ ซึ่งเป็น International Handicap ที่สากลให้การยอมรับด้วย

ขณะนี้ รัฐบาลกัมพูชาได้เผยแพร่เอกสาร แผ่นปลิว และส่ง sms เป็นภาษาอังกฤษ ไปตามโทรศัพท์มือถือของพ่อค้า แม่ค้า ชาวเขมรที่ทำการค้าอยู่ตามตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และบ่อนคาสิโนของชาวเขมรระบุว่า “หากท่านรักชาติเขมร ขอให้งดใช้และงดซื้อสินค้าทุกชนิดที่เป็นของไทย ขอให้ชาวเขมรรักกัน และอย่าให้คนไทยดูถูกชาวเขมรอีกต่อไป”

อัปเดทผลบอลล่าสุดคลิกที่นี่


เพิ่มเติม

กษัตริย์สีหนุทรงประกาศเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม อ้างปัญหาสุขภาพและอาการป่วยที่ช่องท้อง ว่าพระองค์แก่เกินไป สำหรับการเป็นกษัตริย์ แม้พระองค์จะเคยใช้การสละราชสมบัติ เป็นอุบายแสดงความไม่พอใจของพระองค์ ต่อนักการเมือง ที่เอาแต่ทะเลาเบาะแว้ง แก่งแย่งกันเองอยู่เสมอ ๆ แต่นักสังเกตการณ์จำนวนมาก ก็เชื่อว่า การสละราชสมบัติครั้งนี้ เป็นไปเพื่อช่วยให้พระองค์ ได้มีสิทธิเสียงในการกำหนดองค์รัชทายาทได้ เพราะหากพระองค์แก่มากกว่านี้ หรือสวรรคตไป ระบอบกษัตริย์อาจสาบสูญไปได้ เพราะปัจจัยการเมือง และความทะเยอทะยานของนายกรัฐมนตรีฮุนเซน


แม้ตามรัฐธรรมนูญ กษัตริย์สีหนุจะไม่สามารถกำหนดองค์รัชทายาทได้โดยตรง แต่พระองค์ก็สามารถส่งอิทธิพล ไปถึงคณะองคมนตรีทั้ง 9 ซึ่งประกอบด้วยพระเถระชั้นผู้ใหญ่ และนักการเมืองระดับสูง รวมทั้งนายก ฯ ฮุนเซน ให้เฟ้นหาองค์รัชทายาทได้ และในที่สุด ด้วยการเสนอแนะของคณะองคมนตรี รัฐสภาแห่งชาติก็ได้อนุมัติไปตามนั้น กระนั้นก็ตาม รัฐธรรมนูญกัมพูชาก็ไม่ได้พูดถึง กรณีที่กษัตริย์ทรงสละราชบัลลังก์ตรง ๆ มาตราที่เขียนไว้ชัดเจน ก็มีแต่ว่า กรณีที่กษัตริย์เสด็จสวรรคตเท่านั้น นี่อาจจะถือเป็นข้อจำกัดของผู้ร่างรัฐธรรมนูญ ที่สายตาไม่กว้างไกล ไม่สามารถครอบคลุมความเป็นไปได้ด้านอื่น ๆ แต่สำหรับกัมพูชา ที่มีการอ้างรัฐธรรมนูญ เป็นเพียงเครื่องมือทางการเมือง สิ่งนี้ก็อาจจะกลายเป็นอุปสรรคสำคัญขึ้นมาได้ในอนาคต


มีเสียงลือว่า นายก ฯ ฮุนเซน ไม่พอใจอย่างมาก ต่อการที่กษัตริย์สีหนุสละราชสมบัติ เขารีบตัดการเยือนกรุงฮานอย แล้วเดินทางกลับกัมพูชา มาจัดการเรื่องนี้อย่างกะทันหัน ทั้ง ๆ ที่ว่ากันว่า เขาใช้ข้ออ้างการไปฮานอย เพื่อหลีกเลี่ยงที่จะต้องไปกล่าวสุนทรพจน์ ในที่ประชุมใหญ่ สหประชาชาติที่นิวยอร์ค เมื่อเดือนก่อน แม้ในตอนนี้ ฮุนเซนจะเห็นชอบให้เจ้าสีหมณี ขึ้นมาแทนพระราชบิดา แต่หากสิ้นบุญเจ้าสีหนุไปเมื่อใด เขาก็อาจจะยกเอาเรื่องรัฐธรรมนูญนี้ ขึ้นมาอ้างก็ได้


ที่ผ่านมา สส.ฝ่ายค้าน พยายามจะขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้ครอบคลุมการสละราชสมบัติของกษัตริย์ด้วย แต่ขอเสนอขอแก้ไข ที่เคยได้รับความเห็นชอบจากเจ้ารณฤทธิ์(พระเชษฐาต่างมารดา ของเจ้าสีหมณี) หัวหน้าพรรคฟุนซินเปค นิยมกษัตริย์ ถูกพรรคประชาชน (ซีพีพี) ของฮุนเซนขัดขวาง โดยอ้างว่า หากแก้ไขไปตามนั้นแล้ว พรรคฝ่ายค้านก็จะใช้เป็นช่องทาง กดดันให้กษัตริย์สละราชสมบัติได้


เป็นที่โจษจันกันทั่วไปว่า ฮุนเซนต้องการขจัดระบบกษัตริย์ ออกไปจากประเทศ ซึ่งเท่ากับกำจัดภัยคุกคามอำนาจของเขา ที่ปรารถนาจะเป็นนายก ฯ ต่อไปอีก 50 ปี(ฮุนเซนเกิดปี 1952) นอกจากนั้น นี่ยังสามารถใช้เป็นข้ออ้าง ในกรณีที่เจ้าสีหมณี กลายเป็นตัวปัญหาขึ้นมาในอนาคต โดยอ้างว่า การสืบทอดราชบัลลังก์ไม่ถูกต้อง เพราะรัฐธรรมนูญไม่ได้ระบุให้กษัตริย์ สามารถสละราชสมบัติได้ เพราะเขาเคยใช้ช่องว่างของรัฐธรรมนูญมาหลายครั้งแล้ว ตัวอย่างเช่น รัฐบาลชุดปัจจุบันก็ตั้งขึ้นอย่างมีเลศนัยมากที่สุด จนกษัตริย์สีหนุต้องประท้วงมาจากเกาหลีเหนือ


สำหรับกษัตริย์สีหนุเอง พระองค์คงไม่ไปอย่างเงียบ ๆ แน่ ตลอดชีวิต พระองค์รอดพ้นภยันตรายต่าง ๆ มาได้เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นการรัฐประหาร และรัฐบาลเผด็จการต่าง ๆ ในอดีต ในเวบไซต์ของพระองค์ พระองค์เคยเตือนเสมอว่า หากระบอบกษัตริย์ถูกขจัดไปแล้ว สงครามกลางเมืองก็อาจจะเกิดขึ้นได้ พระองค์ชี้ว่าสมาชิกพรรคการเมืองต่าง ๆ มีการแบ่งแยกกันอย่างเด่นชัด และพร้อมจะนองเลือดกันได้ตลอดเวลา แต่เป็นเพราะมีระบอบกษัตริย์เท่านั้น ที่คอยไกล่เกลี่ยเอาไว้


ดังนั้น ขณะที่ดูเหมือนว่าฮุนเซน จะทำทุกวิถีทางที่จะบั่นทอนอำนาจของระบอบกษัตริย์ และปราบปรามพรรคเอสอาร์พี และขณะที่เจ้ารณฤทธิ์ยังสนุกอยู่กับการทำเงิน จากการร่วมรัฐบาล เจ้าสีหมณีก็ดูจะเป็นตัวแปรที่สำคัญขึ้นมาในภาพ ทัศนะทางการเมืองของพระองค์ เป็นที่รู้จักกันน้อยมากนอกจากว่า พระองค์อยู่นอกวงการเมืองมาโดยตลอด เป็นไปได้ที่เจ้าสีหนุ จะสร้างสีสันและถวายคำแนะนำ ต่อทัศนะของกษัตริย์องค์ใหม่บ้างแต่ในระยะยาว เจ้าสีหมณีต้องพึ่งพระองค์เอง


เจ้าสีหนุเคยแสดงอิทธิพลของพระองค์ ผ่านทางการวิจารณ์ในเวบไซต์ บริภาษพวกนักการเมืองจากทุกพรรค และทรงพระบ่นกับการที่ประชาธิปไตยในประเทศ ค่อย ๆ เสื่อมถอยลงไป แต่การที่พระองค์ทรงวางเฉย และการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล เป็นสิ่งที่ไม่อาจเพิกเฉยได้ โดยเฉพาะในประเทศที่เคารพบูชากษัตริย์ แบบกัมพูชา ขณะเดียวกัน เจ้าสีหมณีอาจจะสืบทอด การที่พระราชบิดาเป็นที่รักและเคารพของประชาชน และหลังจากทรงตกผลึกได้แล้ว พระองค์ก็คงเริ่มแสดงบทบาททางการเมืองออกมา แต่พระองค์จะต้องระมัดระวังอย่างมาก จนกว่าจะทรงเข้มแข็งเสียก่อน เพราะฮุนเซนจะต้องทำทุกวิถีทาง ที่จะบั่นทอนอำนาจของกษัตริย์พระองค์ใหม่ องค์นี้

บทความที่เกี่ยวข้องที่ กรรมของสีหนุจากฮุนเซน
ใหม่เมืองเอก newakecity






วันอังคารที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2551

สิ่งที่พันธมิตรควรทำ

อัปเดทผลบอลล่าสุดคลิกที่นี่

ถึงแม้ผมจะต่อต้านทักษิณ แต่การที่ผู้ชุมนุมพันธมิตรปักหลักชุมนุมอย่างต่อเนื่องยาวนาน ผมก็ไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะจะทำให้ประชาชนที่เขาอยู่ฝ่ายเป็นกลางอาจจะพลอยเข้าใจพันธมิตรไปในทางที่ผิดได้


พันธมิตรควรจะคัดค้านเป็นเรื่องๆไป เมื่อได้ชัยชนะในเรื่องใดก็ควรหยุดพักทิ้งช่วงบ้าง เพื่อเป็นการประกาศชัยชนะไปในตัว หรืออาจจะนัดชุมนุมเฉพาะเสาร์อาทิตย์น่าจะดีกว่า ผมว่าจะทำให้พันธมิตรจะได้แนวร่วมเพิ่มขึ้นเยอะมากกว่านี้อีก




รูปที่นำมาให้ดู2รูป เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสาวสวยที่มาร่วมชุมนุมของพันธมิตร แต่ฝ่ายตรงข้าม(นปก.)เขาก็กล่าวหาว่าไปจ้างมา ส่วนฝ่ายพันธมิตรก็กล่าวหาว่าผู้ชุมนุมของนปก.ก็ถูกจ้างมาเหมือนกัน




ถ้าพูดแบบไม่ลำเอียงเข้าข้างไหนเลย สมมุติว่า ถูกจ้างมาทั้ง2ฝ่าย ผมก็ขอลงความเห็นว่า ฝ่ายพันธมิตรดูจะจ้างมาได้สร้างสรรค์กว่าฝ่ายนปก. (ฮา)

อัปเดทผลบอลล่าสุดคลิกที่นี่


ถ้าจะให้ดีขอแนะนำ นปก.ให้ไปจ้างแบบสวยๆมาบ้าง เขาจะได้ไม่กล่าวหา นปก. ว่ามีแต่พวกเถื่อนๆชอบตีหัวอย่างเดียว ฮาๆๆ







อัปเดทผลบอลล่าสุดคลิกที่นี่




เพิ่มเติมเรื่อง

ตัวซวยของนายกฯสมัคร

ดวงเฉลิม เป็นชื่อเดิม หลังมีคดียิงดาบยิ้มในผับ หนีคดีไปร่วมปี พอมอบตัวเลยโดนห้ามประกัน นอนคุกอยู่หลายเดือน พอศาลยกฟ้อง เลยถือโอกาสเปลี่ยนชื่อ โดยตัดคำว่า "เฉลิม"ออกเพราะคำนี้มันอัปมงคล (ฮา)

ต่อมานายกสมัครเมตตารับกลับเข้าสู่กองทัพอีก จึงเริ่มนำความซวยให้นายกผู้มีพระคุณ (งานเริ่มเข้า) ถูกปปช.สอบ ที่จริงผมขอเสนอทางออกให้นายกสมัคร ว่า

"ส่งรต.ดวง อยู่บำรุงลง3จังหวัดภาคใต้ ตำแหน่งหน่วยลาดตระเวน รับรองนายกสมัครจะได้รับคำสรรเสริญ ชัวร์"(ฮาๆ)



ใหม่เมืองเอก newakecity อัปเดทผลบอลล่าสุดคลิกที่นี่



วันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ความล้มเหลวของชาวนาไทยจากแผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ







ไทยเริ่มมีแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติฉบับที่ 1 เมื่อประมาณพ.ศ. 2504 ถึง พ.ศ. 2509 (ยุคผู้ใหญ่ลีตีกลองประชุม) ซึ่งรัฐบาลไทยหันมามุ่งเน้นอุตสาหกรรมและการเพิ่มผลผลิตการเกษตรให้มากขึ้น  โดยเฉพาะเน้นเรื่องการเพิ่มผลผลิตหลักทางการเกษตร เช่น ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง ข้าวโพด เพื่อมุ่งส่งเสริมหรือเน้นการส่งออกเป็นหลัก

ในด้านการเติบโตของโรงงานอุตสาหกรรมในไทยก็ขาดการควบคุมทิศทางว่า ควรตั้งโรงงานอุตสาหกรรมที่ใด ไม่มีการจัดวางระบบผังเมืองที่ดีที่เหมาะสม ทำให้โรงงานอุตสาหกรรมในช่วงเริ่มต้นจึงมักเริ่มจากในกรุงเทพฯ เกิดการสร้างงานที่มากขึ้น
.
จนเริ่มเกิดปัญหาการอพยพจากชนบทเข้าเมืองอย่างไหลทะลัก สาธารณูปโภครองรับไม่ทัน ก่อเกิดชุมชนแออัด ปัญหามลพิษเพิ่มมากขึ้นทวีคูณ

เมื่อกรุงเทพฯเริ่มแออัด โรงงานจึงเริ่มขยายออกสู่ชานเมืองเรื่อยไปจนถึงจังหวัดที่ใกล้เคียงกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นจังหวัดที่เหมาะสมแก่การเกษตรมากกว่า เพราะเป็นที่ลุ่มแม่น้ำอุดมสมบูรณ์ เช่นสมุทรสาคร อยุธยา สมุทรปราการ

พวกนายทุนจะไปหลอกคนชนบทว่า การตั้งโรงงานนำมาซึ่งความเจริญในพื้นที่ เพราะประเทศที่ร่ำรวย เขารวยจากอุตสาหกรรมกันทั้งนั้น เลิกทำการเกษตรเถอะ แล้วทุกคนจะรวยขึ้น !!

และเมื่อเกษตรกร โดยเฉพาะชาวนาต่างก็เริ่มขายที่ดินแก่โรงงาน ลูกหลานชาวนาก็เริ่มไม่มีนาให้ทำ เพราะที่ดินถูกขายไป ก็เลยเปลี่ยนอาชีพไปเข้าโรงงานแทน
.
ส่วนชาวนาที่ยังทำนาอยู่ ก็เริ่มที่จะหันมามุ่งผลิตข้าวเพื่อเน้นขายเป็นหลัก จึงทำให้มีการใช้ปุ๋ยเคมีและยากำจัดศัตรูพืชเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล เพื่อจะเพิ่มผลผลิต
.
แรงงานลูกหลานที่เคยมีในนาก็ลดน้อยลง เพราะไปอยู่ในโรงงานกันมากขึ้น จึงทำให้ขาดแคลนแรงงานในการทำนา จึงต้องหันมาพึ่งเครื่องทุ่นแรงเพื่อร่นเวลาทำงาน ทำให้เลิกใช้ควายไถนามาใช้รถไถนาแทน ต่อมาเมื่อมีรถไถที่ช่วยทำงานได้เร็วขึ้น จึงพากันไปเช่าที่นาเพิ่มขึ้นเพื่อหวังเพิ่มผลผลิตและรายได้ตามนโยบายส่งเสริมการส่งออกของรัฐ 

ชาวนาโดนหลอกจากรัฐบาลและนายทุนว่า หากปลูกพื้นที่ยิ่งมาก ต้นทุนยิ่งลดลง 

ต่อมาเมื่อมีพื้นที่ทำนาเพิ่มขึ้น การใส่ปุ๋ย หรือการฉีดยากำจัดแมลงก็ต้องทำมากขึ้น จึงต้องใช้วิธีจ้างคนมาใส่ปุ๋ย ฉีดยา เมื่อมีการจ้างคนงาน มีการเช่านา มีการซื้อปุ๋ย ซื้อยา ต้นทุนการผลิตกลับยิ่งสูงขึ้น จึงทำให้เวลาราคาข้าวตกต่ำ ชาวนาจึงต้องเป็นหนี้ เพราะการกู้ยืม และถ้าปีไหนผลผลิตไม่ดีเท่าที่ควรจากปัญหาต่างๆ ทั้งภัยธรรมชาติ หรือจะเป็นศัตรูพืช


ต้นทุนของชาวนาก็เพิ่มเป็นเงาตามตัว บางทีได้ผลผลิตดีแต่พอหักต้นทุนและใช้หนี้แล้วก็แทบไม่เหลือ หากยิ่งต้องเจอราคาข้าวตกต่ำซ้ำอีก ชาวนาก็จะยิ่งจนลงไปอีก บางรายอาจถึงขั้นต้องขายที่ใช้หนี้ หรือหมดตัว
.
ในที่สุดยิ่งใช้ปุ๋ยเคมี ยาฆ่าแมลง ทุกปีก็มีปัญหาดินเสื่อมสภาพ แมลงดื้อยา ทำให้ต้องใช้ปุ๋ยและยา ในปริมาณที่มากขึ้น หรือแรงขึ้น ซึ่งจะกระทบต้นทุนของชาวนามากขึ้นตามลำดับ

วงจรนี้วนเวียนซ้ำซากมานานหลายสิบปี จนชาวนาไม่มีใครจะลืมตาอ้าปากให้พ้นวงจรอุบาทว์นี้ได้ สุดท้ายก็เลิกทำนา ขายที่ จนซ้ำชากทุกยุคทุกสมัย

ปัญหาสำคัญอย่างนึงที่หลายคนอาจไม่รู้ นั่นคือ ปัจจุบันชาวนาไทยส่วนใหญ่ไม่มียุ้งฉางในการเก็บข้าว จึงทำให้เก็บเกี่ยวเสร็จต้องรีบขายทันที จึงโดนพ่อค้ากดราคาได้ไง

ตลกไหม!! ชาวนาไทยยุคปัจจุบัน ยุ้งฉางก็ไม่มี ลานตากข้าวก็ไม่มี บ่อน้ำก็ไม่มี

ชาวนาไทยยุคนี้ทำนาผิดวิธี ผิดเพี้ยนทุกอย่าง ถึงได้จนซ้ำซาก

ชาวนาไทยใช้ปุ๋ยต่อไร่มากที่สุดในโลก แต่่กลับได้ผลผลิตต่อไร่น้อยที่สุดในโลกเมื่อเทียบกับบรรดาประเทศผู้ส่งออกข้าวด้วยกัน

มาบัดนี้เราได้ในหลวงท่านทรงค้นพบทฤษฎีใหม่ คือทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง

ทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง เป็นทฤษฎีเกษตรที่ไม่มุ่งเน้นปลูกเพื่อการขาย แต่มุ่งเน้นเพื่อบริโภคในครัวเรือนก่อน เหลือจึงค่อยขาย ไม่มุ่งเน้นไปที่พืชชนิดใดชนิดเดียว
.
แต่จะใช้วิธีการเกษตรแบบผสมผสานหลายพืชพันธุ์ ไม่ใช้ปุ๋ยเคมี หรือยาฆ่าแมลง แต่จะใช้ปุ๋ยชีวภาพ หรือปุ๋ยจากธรรมชาติเป็นหลัก การปลูกพืชที่ผสมผสาน ก็ช่วยลดการเพิ่มของแมลงได้มากขึ้น

เมือเลิกใช้ปุ๋ยเคมี ดินก็ดีขึ้น ทำให้พืชแข็งแรงขึ้น ทนทานต่อแมลงมากขึ้น เมื่อเลิกใช้ยาฆ่าแมลง ศัตรูทางธรรมชาติของแมลงศัตรูพืชก็เริ่มกลับมามีอีกครั้ง จึงสามารถสร้างความสมดุลธรรมชาติกลับมาดังเดิม

เมื่อดินดีขึ้นไม่มีมลภาวะจากสารเคมี สัตว์น้ำก็จะอยู่ได้ และมีมากขึ้น ดังคำขวัญที่ว่า ในน้ำมีปลา ในในมีข้าว ดินดีผลผลิตก็จะดีมากขึ้น โดยไม่ต้องเสียเงินค่าปุ๋ยและยาอีก ชาวนาหรือเกษตรกรก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้นเพราะต้นทุนลดลงผลพลอยได้ต่อมาก็คือ สุขภาพของชาวนาและเกษตรกรดีขึ้นด้วย

การเกษตรทฤษฎีใหม่หรือทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง และการรวมตัวกันเป็นระบบสหกรณ์ของชาวนาเพื่อมีอำนาจต่อรองราคากับพ่อค้าคนกลาง จึงเป็นหนทางรอดของเกษตรกรไทยและชาวนาไทยนั่นเอง

-----------------------

หลังจากผมเขียนบทความนี้มาตั้งแต่ปี 2551 ก็ได้มีรายการสามัญชนคนไทย ในปี 2558 ของคุณมาโนช พุฒตาล ที่ทำรายการใกล้เคียงกับบทความนี้ของผมมากที่สุด

เชิญรับชมครับ





ข้าวเปลือกราคาตกแค่ไหน ชาวนาผู้ร่ำรวย ก็ไม่เคยเดือดร้อน แถมมีเงินให้เมียใช้เดือนละ5หมื่นสบายๆ อยากรู้จักชาวนาคนนี้ คลิกด้านล่าง

คลิกอ่านชาวนาเงินล้าน ชาวนาที่ยิ่งทำนายิ่งรวย!! (บทความนี้ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง)
.


วันอาทิตย์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ความภาคภูมิใจของคนไทยที่ถูกทักษิณทำลาย





มจำได้อย่างติดตาในวันที่ทักษิณเชิญสมเด็จพระเทพฯ เสด็จไปกดปุ่มยิงจรวดเพื่อติดตั้งดาวเทียมดวงแรกของไทย เมื่อกว่า10ปีที่แล้ว ที่ในประเทศอะไร ขออภัยที่จำไม่ได้
.
แต่ทักษิณคุณรู้ไหม คุณทำให้คนไทยทั้งประเทศที่ไทยภูมิใจที่ได้มีดาวเทียมดวงแรกเป็นของตัวเอง ดาวเทียมดวงแรกที่คุณได้ไปขอพระราชทานนามจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระองค์ท่านก็โปรดเกล้าพระราชทานนามมงคลให้กับดาวเทียมของคุณ
.
แต่ในที่สุดคุณเขียนด้วยมือลบด้วยเท้าติดดินตาดูดาวของคูณ ด้วยการขายดาวเทียมให้กับสิงคโปร์ มันทำร้ายความรู้สึกคนไทยเท่าไหร่คุณรู้มั้ย

ต่อมาทักษิณคุณได้เป็นนายก ที่ทำให้คนไทยภูมิใจมากรู้มั้ย คุณสร้างความเจริญให้กับบ้านเมืองอย่างที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน จนคนไทยเลือกคุณกลับมาด้วยคะแนนท่วมท้น
.
แต่แล้วคุณก็กลับทำลายความรักของคนไทยหลายๆคนที่มีต่อคุณ เรื่องอะไรนะเหรอ ผมไม่จำเป็นต้องเท้าความอีก สุดท้ายคุณก็ทิ้งคนที่รักคุณไปเสวยสุขต่างชาตื
.
แล้วไอ้ที่ทักษิณเคยสัญญาว่าคุณจะนำประเทศเอาชนะสิงคโปร์ให้ได้ ตกลงคุณเอาชนะด้วยการยกดาวเทียมให้สิงคโปร์เหรอ



กลับมาซะอย่าทิ้งคนที่เขารักคุณ ดูอย่าง อองซาน ซูจี สิ เธอจะหนีไปอยู่กับลูกกับผัวชาวอังกฤษของเธอก็ได้ แต่เธอเลือกที่จะไม่ทำ เพราะเธอทิ้งประชาชนที่รักเธอไม่ได้ ทักษิณ!แล้วคุณล่ะ รักลูกเมียหรือประชาชนมากกว่ากัน


ส่วนเพื่มเติม

การแก้ไขกฏหมายเพื่อให้ธุรกิจที่เกียวกับความมั่นคงของประเทศ เช่นธุรกิจสื่อสาร สามารถให้ต่างชาติเข้าถือหุ้นได้จากเดิมไม่เกิน25% เป็น49% ทั้งๆที่ไม่มีประเทศเจริญๆไหนๆเขาทำกัน

.

สงสัยเป็นการคิดใหม่ทำใหม่ของทักษิณใช่มั้ย ?พอกฏหมายมีผลบังคบใช้ปุ๊บ ทักษิณก็ขายหุ้นทันที

.

ทักษิณเคยประกาศว่าจะนำไทยให้เป็นผู้นำทางเศรษฐกิจของภูมิภาคอาเซียน จะเอาชนะทั้งสิงคโปร์มาเลย์

.

ทักษิณคงใช้แผนเหนือชั้นใช่มั้ย โดยขายดาวเทียมให้เทมาเส็กของสิงคโปร์ก่อนใช่มั้ย ?

.

ใครรู้บอกช่วยบอกทีว่า ถ้าทักษิณเป็นนายกต่อ พอยกดาวเทียมให้สิงคโปร์แล้ว แผนต่อไปคืออะไร ถึงจะเอาชนะสิงคโปร์ได้(ใครช่วยอธิบายแผนเหนือชั้นให้รู้หน่อย ผมจะได้หายโง่ซะที)

.





วันเสาร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2551

วิธีทำให้เด็กฉลาดและทำไมคนไทยเก่งแต่เฉพาะตอนเป็นเด็ก




ถ้าเราสังเกตให้ดีในสื่อต่างๆ เราจะเห็นได้ว่าเด็กไทยเก่งไม่แพ้ชาติอื่น ไม่ว่าจะส่งไปแข่งอะไรในระดับโลก ก็มักจะได้รับรางวัลกลับมาเสมอ เช่นแข่งโอมปิควิชาการ วาดรูป แข่งเกมหุ่นยนตร์ ฟุตบอลเด็ก และอีกหลายๆอย่าง


แต่พอเติบโตขึ้นเรื่อยๆ บางคนกลับไม่เด่นหรือเก่งเหมือนตอนเด็กๆ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น?


เด็กจะฉลาดหรือไม่ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายด้าน ทั้งพัฒนาการตั้งแต่ในครรภ์ ตลอดจนถึงการเลี้ยงดู และการอบรม


ในส่วนของพัฒนาการในครรภ์แม่นั้น มีส่วนในการพัฒนาสมองและร่างกายทารกมากที่สุด แต่ถ้าจะพูดถึงสมองว่าจะทำยังไงให้เด็กฉลาด อาหารการกินของแม่นั้นมีส่วนอย่างมาก แต่ทางการแพทย์มักแนะนำให้แม่กินอาหารจำพวกปลาให้มาก เพราะในปลามีสารอาหารต่างๆที่มีคุณค่าต่อการพัฒนาสมองมากกว่าเนื้อสัตว์ชนิดอื่น
.
ส่วนผักผลไม้ก็ช่วยเสริมในภูมิค้มกันโรคของแม่และทารก และที่สำคัญที่สุดคือภาวะจิตใจของแม่ระหว่างตั้งครรภ์ หากแม่สามารถควบคุมจิตใจให้มีความสุขไม่เครียด ทารกก็จะไม่เครียด และเมื่อคลอดแล้วก็จะเป็นเด็กที่เลี้ยงง่ายอารมณ์ดี

การเลี้ยงดูหลังจากคลอดแล้ว ก็แนะนำให้แม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ หรืออย่างน้อยก็ให้ได้6เดือนเป็นอย่างต่ำ เพราะนมแม่นอกจากจะช่วยพัฒนาสมองได้ดีกว่านมทุกชนิดแล้ว ยังเพิ่มภูมิคุ้มกันโรคต่างๆให้เด็กเป็นอย่างดี เราจึงมักเห็นเด็กที่กินนมแม่นานๆมักไม่ค่อยป่วยง่ายๆ


ส่วนพัฒนาการด้านขนาดสมองของเด็กจะเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุด ก็คือ3ปีแรกหลังคลอด และหลังจากนั้นก็จะมีการเติบโตขึ้นอีกเล็กน้อยเท่านั้น


ดังนั้นช่วงที่สำคัญที่สุดในการพัฒนาขนาดสมองของเด็กก็คือ 3ปีแรก หลังจากนั้นสมองก็จะไปเน้นพัฒนาทางด้านเส้นใยประสาทในสมองมากกว่าพัฒนาทางด้านขนาด
.
ไอน์สไตน์สมองไม่ได้ใหญ่กว่าคนปกติมากนัก แต่สิ่งที่ทำให้ไอน์สไตน์ฉลาด คือนอกจากมีเนื้อสมองที่มากแล้ว ไอน์สไตน์ยังมีเส้นใยประสาทในสมองมากกว่าคนปกตินั่นเอง


ฉะนั้นถ้าจะให้ดีควรมีขนาดสมองที่มากพร้อมๆกับมีเส้นใยประสาทสมองที่มากเช่นกัน จึงจะได้ความฉลาดที่สมบูรณ์แบบ


วิธีเพิ่มเส้นใยประสาทในสมองนั้น ก็คืออาหารที่มีประโยชน์ต่างๆ ที่มีสารDHAและARA ซึ่งเดี๋ยวนี้มีผลิตภัณฑ์นมหลายชนิดเสริมสารพวกนี้เข้าไป และขายในราคาค่อนข้างแพง แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดเสมอไป เพราะในสมัยไอน์สไตน์ก็ไม่ได้มีนมเสริมสารเหล่านี้ขายสักหน่อย ฉะนั้นการกินอาหารให้หลากหลายน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด


ปัจจุบันได้เป็นที่ยอมรับกันแล้วว่า อาหารจำพวกถั่วเหลือง นมถั่วเหลืองและอาหารจำพวกปลา คือสุดยอดของอาหารที่ทำให้คนฉลาด สังเกตได้จากคนญี่ปุ่น เกาหลีและจีน จะชอบบริโภคอาหารเหล่านี้กันมาก คนในประเทศนี้จึงมีค่าความฉลาดเฉลี่ยเหนือชาติอื่นๆโดยทั่วไป


ตอนนี้ญี่ปุ่นค้นพบสารสกัดจากถั่วเหลืองที่เรียกว่า soy peptide ซึ่งมีคุณค่าในการพัฒนาสมองมากที่สุด ญี่ปุ่นจึงส่งเสริมให้คนในประเทศบริโภคสารนี้ให้มากขึ้น โดยเสริมเข้าไปในผลิตภัณฑ์อาหารประเภทต่างๆ แต่สำหรับคนไทยควรกินจากถั่วเหลืองธรรมชาติดีที่สุด


เส้นใยประสาทสมองนอกจากเพิ่มด้วยการกินอาหารที่มีประโยชน์แล้ว ยังสามารถเพิ่มได้ด้วยการเรียนรู้การฝึกฝน และการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอด้วย โดยเฉพาะการเล่นกลางแจ้งของเด็กๆ จะช่วยให้เด็กพัฒนาทักษะต่างๆทางด้านสมองและร่างกายได้ดีที่สุด
.
(อย่าให้เด็กเล่นคอมพิวเตอร์ก่อนอายุ6ขวบเด็ดขาด เพราะที่อเมริกาค้นพบว่ายิ่งให้เด็กเล่นคอมพิวเตอร์ก่อนอายุ6ขวบแล้ว เด็กมีแนวโน้มจะโง่ขึ้น และยิ่งให้เล่นคอมฯช้าได้มากเท่าไหร่ยิ่งดี)
.
**การให้เด็กเล่นดนตรี ช่วยให้เด็กมีอารมณ์สุนทรี เสริมสร้างสมาธิ และพัฒนาสมองทั้งสองข้างซ้ายขวาอย่างสมดุลมากขึ้น**
.
**กีฬาทำให้เด็กรู้จักแพ้ รู้จักชนะ และการให้อภัย นั่นคือเด็กจะมีน้ำใจนักกีฬา**
.
แต่สิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่ความฉลาดของเด็กเท่านั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือสุขภาพของเด็ก เพราะถ้าเด็กฉลาดแต่สุขภาพไม่ดีก็แทบไม่มีประโยชน์ เพราะแม่ของเด็กมักตามใจเด็กให้กินในสิ่งที่ไม่ค่อยมีประโยชน์ เช่นผักผลไม้ ซึ่งเปรียบเสมือนน้ำมันหล่อลื่นของร่างกาย เฉกเช่นรถยนตร์ ถ้ามีแต่เติมน้ำมันอย่างเดียว โดยไม่มีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเลยอะไรจะเกิดขึ้น



วิตามินในผักผลไม้ สามารถช่วยให้ร่างกายเติบโตได้แข็งแรงอย่างมั่นคง อวัยวะภายในจะทนทานต่อโรคต่างๆได้ดี ตัวอย่างเช่นบางคนสูบบุหรี่ดื่มเหล้ามากกว่า50ปี กลับยังไม่เคยป่วยเลย แต่กับบางคนสูบบุหรี่ แค่ไม่กี่ปีกลับตายด้วยมะเร็งปอด พอสืบประวัติคนแรกที่สูบบุหรี่ดื่มเหล้ากว่า50ปี พบว่าเป็นคนชอบกินผักผลไม้เป็นประจำ



แต่ประเด็นของเราอยู่ที่ ทำไมคนไทยเก่งแต่ตอนเด็กแต่พอโตขึ้นไม่เก่งนั้น ?
.
ผมมีข้อสันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจากมลภาวะในอากาศและอาหารต่างๆที่คนไทยได้รับ เช่นสารตะกั่วในหม้อก๋วยเตี๋ยว ที่เมื่อก่อนไม่เคยมีใครรู้เลยหม้อก๋วยเตี๋ยวที่เราไปกินตามร้านต่างๆ ส่วนใหญ่ใช้หม้อก๋วยเตี๋ยวที่มีรอยบัดกรีด้วยสารตะกั่วเป็นตัวเชื่อม
.
และสารตะกั่วก็ค่อยๆทำลายสมองของเด็กไทยคนไทยไปเรื่อยๆตั้งแต่เด็กจนโต อย่างไม่รู้ตัว!?


ฉะนั้นเป็นไปได้มั้ยว่าที่เด็กไทยค่อยๆฉลาดน้อยลงเมื่อโตขึ้น น่าจะเกิดจากการรับประทานก๋วยเตี๋ยวเป็นประจำนี่เอง (ฮาๆ)

.
.

วันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2551

โอฬาร พรหมใจคือนักกีต้าร์ที่เก่งที่สุดในสายตาผม



โอฬาร พรหมใจผู้ก่อตั้งวง THE OLARN PROJECT ฝีมือลีดด์กีต้าร์ระดับมหาเทพ (เก่งกว่าเทพ) โอ้หรือโอฬารมีสำเนียงกีต้าร์ที่เฉพาะตัวที่ เสียงกีต้าร์สวยแต่ดุ หวานแต่มันส์

อัลบั้มแจ้งเกิดคือกุมพาพันธุ์2528 เพลงดังอมตะในชุดนั้นที่เป็นที่รู้จักกว้างขวางคือ อย่าหยุดยั้ง แต่สำหรับผม อย่าหยุดยั้ง ไม่ใช่เพลงที่ผมชอบที่สุด แต่เพลงที่ผมชอบที่สุดในชุดนี้คือ ไฟปรารถนา ที่มีอินโทรดักซ์ชั่นที่สุดยอดที่สุดในวงการเพลงไทย(ในสายตาผมนะ)
.
อัลบั้มแรกและอัลบั้มที่สองของดิโอฬารฯ ตอนนั้นยังมีโป่ง ปฐมพงศ์ สมบัติพิบูลย์ร่วมวงอยู่ด้วยในตำแหน่งนักร้องนำ และนักแต่งเนื้อร้องทุกเพลง ส่วนหน้าที่แต่งทำนองเป็นของโอฬารทุกเพลงเช่นกัน

ส่วนอัลบั้มชุดที่สองมีชื่อว่า หูเหล็ก สร้างความตื่นตะลึงสนั่นวงการ ด้วยน้ำเสียงที่ดุดันของโป่งในเพลงหูเหล็ก แต่ที่ผมชอบที่สุดในอัลบั้มนี้คือเพลง เพราะรัก ที่มีเมโลดี้ที่ไพเราะที่สุด โป่งก็ร้องได้สวยงามสุดยอด
.
แต่ปัจจุบันโป่งก็แยกวงไปตั้งวงใหม่ตามที่รู้ๆกัน ชื่อวง หินเหล็กไฟ และเดอะซัน ซึ่งถึงแม้โป่งจะดังเป็นพุแตกกับหินเหล็กไฟก็ตาม แต่ในสายตาของผมแล้ว หินเหล็กไฟความสุดยอดของทั้งเนื่อร้อง เมโลดี้ และลีดกีต้าร์ ไม่อาจเทียบกับดิโอฬารทั้ง2ชุด ที่โป่งเคยร่วมงานได้ โอฬารเองก็ไม่สามารถทำเพลงได้สุดยอดเท่ากับตอนที่โป่งยังอยู่ได้เช่นกัน

ทั้งโป่งและโอฬาร ต้องรวมกันเท่านั้นถึงจะสามารถสร้างสรรค์งานได้อย่างมหัศจรรย์เหนือคำบรรยายเหมือนดิโอฬารทั้ง2ชุดแรกครับ ในทัศนคติของผม
.


อัปเดทผลบอลล่าสุดคลิกที่นี่
.
บทความต่อเนื่อง ดิโอฬาร โปรเจค ผมรักคุณ


ใหม่เมืองเอกnewakecity


มาดูคลิปไฟปราถนากัน(แต่เล่นไม่เหมือนในอัลบั้มนะ)


วันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ดูบอลสดผ่านเน็ตและอัปเดทผลบอล

ดูบอลสดผ่านเนต คลิก (แต่ต้องเลือกช่องให้ถูกกับโปรแกรมที่เรารองรับได้)

ฟังวิทยุออนไลน์ผ่านเน็ต ! เริ่มจากfm99คลื่นกีฬาคลิกที่นี่

ตารางคะแนนและข้อมูลนักเตะ คลิก

วิจารณ์พลฤทธิ์ นักชกที่น่าเลียนแบบ

โอลิมปิคที่ซิดนีย์ เขาคือเหรียญทองเหรียญเดียวที่ไทยได้ในครั้งนั้น

รอบแรกวิจารณ์ชนะนักชกเยอรมันขาดลอย18ต่อ2หมัด

รอบสองวิจารณ์ชนะนักชกแคนาดา11ต่อ7หมัด

โดยเฉพาะรอบสามเป็นรอบที่สำคัญมาก เพราะต้องพบกระดูกที่สุดในรุ่นคือนักชกคิวบาแชมป์โลกสองสมัยซ้อน แต่วิจารณ์ก็สามารถได้อย่างขาดลอย19ต่อ8 หมัด

รอบรองฯวิจารณ์ชนะนักชกยูเครนแชมป์ยุโรป14ต่อ11หมัด

รอบชิงฯวิจารณ์ชนะนักชกคาซัคสถานเหรียญเงินโอลิมปิคที่แอตแลนต้าที่19ต่อ12หมัด



วิจารณ์ไม่ได้เป็นนักชกที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะไปได้ถึงเหรียญทอง เพราะดูในสายของวิจารณ์นั้นมีแต่หินๆทั้งนั้น แต่วิจารณ์ก็ชกได้สวยงามมากทุกนัด เป็นนักมวยที่มีสไตล์การชกแตกต่าจากสมรักษ์ คำสิงห์และมนัส บุญจำนงอย่างสิ้นเชิง เพราะสองคนนั้นเป็นประเภทล่อหลอกอาศัยชิงดักจังหวะสอง เป็นสไตล์ถอยทำ



แต่วิจารณ์ต่อยแบบกึ่งบุกกึ่งถอย ออกหมัดชัดเจนและแม่นยำ ดูจากที่พพบนักมวยคิวบา วิจารณ์สามารถทำคะแนนได้เห็นเด่นชัดจะแจ้ง สามารถเอาชนะคู่ต่อสูได้แบบค่อนข้างขาดลอยทุกนัด



แต่สมรักษ์กับมนัส ดูจะมีดวงมาช่วยในการชกมากกว่าวิจารณ์ เพราะบางหมัดดูไม่ค่อยจะแจ้งแต่คะแนนก็ขึ้น และสายที่สมรักษ์และมนัสอยู่ในตอนนั้น ถ้าเทียบกับวิจารณ์แล้วถือว่าไม่แข็งเท่า



มีนักมวยไทยหลายๆคนมักยึดสมรักษ์เป็นแม่แบบ แต่หากโดนทำคะแนนนำ นักชกไทยมักจะไม่เก่งในการไล่บุกชกแซงคู่ต่อสู้



วันก่อนที่โอลิมปิคปักกิ่ง วรพจน์ เพชรคุ่ม ดูจะแพ้ทางนักมวยคิวบา เพราะแพ้ไปอย่างขาดลอย ท่านนายกสมาคมมวยสากลสมัครเล่นพลเอกทวีป จันทรโรจน์กล่าวว่าวรพจน์ เข้าทางด้านหน้าเพียงอย่างเดียว น่าจะหมุนออกข้างแล้วเข้าทำมากกว่า เพราะคิวบาบล้อคหมัดเราได้ทุกรูปแบบ

ถ้าเรากลับไปดูการชกของวิจารณ์ที่เจอคิวบาในตอนนั้น จะเห็นว่าเป็นการแก้ทางมวยที่ถูกต้องสวยงามที่สุด วิจารณ์ทำเอามวยคิวบาดูกระจอกไปเลย



ผมจึงอยากเห็นนักมวยไทยรุ่นหลังน่าจะยึดถือวิจารณ์เป็นแม่แบบไว้น่าจะดูดีกว่า เพราะเก่งทั้งรุกทั้งรับ เหมาะที่เยาวชนควรนำไปเป็นแบบอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสไตล์การชก หรือการประพฤติปฏิบัติในการฝึกซ้อม และการที่รู้จักใช้เงินหลังมีชื่อเสียงเงินทองแล้วก็ตามครับ



ใหม่เมืองเอกnewakecity อัปเดทผลบอลล่าสุดคลิกที่นี่


อึ้ง! ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่เสี่ยงโรคไต-กระดูก-มะเร็ง-ประสาท
รายละเอียด :

เตือนเส้นก๋วยเตี๋ยว ยิ่งนุ่ม เหนียว อยู่ได้นาน ยิ่งอันตราย โดยเฉพาะเส้นใหญ่อันตรายที่สุด แฉโรงงานผลิตกว่าร้อยละ 50 ไม่ได้มาตรฐาน ชี้กระบวนการผลิตมีวัตถุกันเสียปนเปื้อนอื้อ แถมใช้น้ำมันเก่าผสมน้ำมันพืชมีสารก่อมะเร็ง สารส้มก่อให้เกิดโรคประสาท ไตอักเสบ ระบบกระดูกและโรคมะเร็ง อันตราย จากเส้นก๋วยเตี๋ยวนั้นมีสูงมาก โดยเฉพาะเส้นก๋วยเตี๋ยวสด อย่างเส้นใหญ่ ที่ผ่านกระบวนการผลิตที่มีการเติมวัตถุกันเสียหลายชนิด เช่น กรดเบนโซอิค ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ฯลฯ เพื่อยับยั้งเชื่อรา และจุลินทรีย์ ไม่ให้เจริญเติบโต


อัปเดทผลบอลล่าสุดคลิกที่นี่





We Are The Champion - Queen





วันอังคารที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2551

วีระ&ณัฐวุฒิ ไม่แน่จริง


รายการเรื่องจริงวันนี้ ที่ออกอากาศทางNBT ทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ ที่มีนายณัฐวุฒิ ไสเกื้อ(อดีตสมาชิกสภาโจ๊กและรองแชมป์โต้คารมมัธยมศึกษารุ่นที่แพ้เสนาลิงและทุเรียน กับนายวีระ มุสิกพงศ์ (อดีตนักโทษคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพติดคุกหลายปี) และนายจตุพร พรหมพันธ์(อดีตแกนนำ นปก.ที่พาคนไปชุมนุมด่าพลเอกเปรมหน้าบ้านสี่เสา)


ในคืนวันที่18ส.ค.51 ที่ผ่านมา รายการร่วมกันแฉโพธิรักษ์ เจ้าสำนักสันติอโศกว่าในอดีตเคยปาราชิกยังไง


ผมขอชมว่านำเสนอได้มีเหตุผลที่ดี น่าเชื่อถือ แต่เสียอย่างเดียว ทำไมไม่เล่าให้ฟังไปด้วยเลยหล่ะว่า เจ้านายของวีระและณัฐวุฒิ นามกระเดื่องว่า ทักษิณ ชินวัตร ก็เคยเป็นศิษย์เอกของจำลองมาก่อน แถมยังกราบไว้โพธิรักษ์เป็นศาสดาอีกด้วย (ฮา)


คลิก! เพื่อเอาโค้ดรูปนี้

อัปเดทผลบอลล่าสุดคลิกที่นี่


เมื่อตอนทักษิณ เดินทางออนทัวร์ภาคอีสานแก้ปัญหาภาคอีสานสมัยเป็นนายกฯ ตกเย็นก็จะแวะไปค้างคืนที่อโศการามบ่อยๆ ก่อนนอนก็ยังต้องสนทนาธรรมของกูกับโพธิ์รักษ์


มาบัดนี้ลูกศิษย์กับอาจารย์หันมากัดกันเอง ก็ดีให้มันตกนรกไปด้วยกันทั้งคู่นั่นแหล่ดี แผ่นดินไทยจะได้สูงขึ้น(ฮา)
ใหม่เมืองเอกnewakecity.



อัปเดทผลบอลล่าสุดคลิกที่นี่




วันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2551

จุดจบของปานะพันธุ์






















โรงเรียนปานะพันธุ์วิทยาในพระบรมราชูปถัมป์คือโรงเรียนที่สวยที่สุดในกรุงเทพฯ เป็นโรงเรียนเอกชนแท้ ๆ แห่งเดียวในกรุงเทพฯ ที่ได้รับพระบรมราชูปถัมภ์จากในหลวง รัชกาลที่ 9

ได้รับรางวัลโรงเรียนดีเด่นมากมาย เป็นโรงเรียนที่มีบรรยากาศร่มรื่นที่สุด ใครได้อยู่ได้เรียนจะหลงรัก


ผมได้เรียนที่นี่ตั้งแต่ประถม 2 จนจบมัธยมปลาย

ผมมาได้ยินสาเหตุการขายโรงเรียนจากครูบุญรอด อยู่พรหม ซึ่งเป็นครูสอนภาษาอังกฤษชั้น ป.6 ซึ่งครูบุญรอดเป็นครูที่แก่ที่สุดในโรงเรียน เคยเล่าให้ฟังก่อนแกจะแก่จนมีอาการหลงๆลืมๆ ไปบ้างตามประสาคนแก่ในปัจจุบันว่า

เมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 อาจารย์องอาจ สาตรพันธุ์ ลูกชายคนเดียวของคุณหญิงลำเจียกเจ้าของโรงเรียน ท่านเป็นสถาปนิกออกแบบตึกเก้าชั้น (รูปบนขวาสุด) ตึกโรงยิมรูปโดมและตึกห้องสมุดใหม่นั่นแหล่ะ เขาเป็นสถาปนิกที่ดังมาก เป็นศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ พ.ศ.2552 ประเภทสถาปัตยกรรมร่วมสมัย สไตล์ออกแบบที่ถนัดคือตึกแบบอิฐไม่ต้องฉาบปูน ตัวอย่างผลงานที่ยังหลงเหลือก็คือตึกอาคารบริษัทโตชิบา ที่ถนนวิภาวดี
ตึกช้าง บนถนนพหลโยธิน เป็นต้น

เขาได้ไปทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เจ๊ง เป็นหนี้นับร้อยล้านบาท จึงจำเป็นต้องขายโรงเรียนเพื่อใช้หนี้ จึงทำให้โรงเรียนที่ดีที่สุดและมีชื่อเสียงโรงเรียนหนึ่งย่านลาดพร้าวกว่า 40 ปี ต้องมีอันต้องปิดกิจการลงไป และต้องแปลงกาย กลายเป็นคาร์ฟูลาดพร้าวในที่สุด (ปัจจุบันคือ บิ๊กซีลาดพร้าว)

แต่นั่นก็ยังไม่ใช่เหตุผลหลักที่แท้จริง ที่โรงเรียนต้องเลิกกิจการ แค่คุณองอาจ ขาดทุนจากอสังหาริมทรัพย์มันเป็นแค่เหตุผลหนึ่งเท่านั้นเอง

เพราะเมื่อผมถามเพื่อนที่เป็นหลานแท้ๆ คนนึงของเจ้าของโรงเรียน เขาไม่ตอบอะไรมาก บอกได้แค่เพียงว่า ได้มีการโหวตกันในหมู่ลูกหลานของเจ้าของโรงเรียน หลังจากท่านเจ้าของโรงเรียนเสียชีวิตไปแล้ว

ผลปรากฏว่า ฝ่ายต้องการให้ยุบเลิกโรงเรียนปานะพันธุ์ฯ สาขาลาดพร้าวเป็นฝ่ายชนะโหวต

ส่วนเพื่อนผมที่เป็นหลานแท้ ๆ ของคุณยายลำเจียก และคุณตาอัญ สาตรพันธุ์ เจ้าของโรงเรียน ที่เป็นฝ่ายต้องการให้ดำเนินกิจการต่อไปนั้น ได้เป็นฝ่ายแพ้โหวตครับ

โรงเรียนปานะพันธุ์วิทยา ในพระบรมราชูปถัมภ์ นั้น ชื่อของโรงเรียนเกิดจากการนำนามสกุลเดิมของคุณลำเจียก คือ นามสกุล "ปานะนนท์" มาสมาสกับนามสกุลของคุณอัญ คือ "สาตรพันธุ์" จึงเกิดเป็นคำว่า "ปานะพันธุ์"

ขอไว้อาลัยแด่โรงเรียนอันเป็นที่รักครับ

---------------

อัพเดทข้อมูลล่าสุด เรื่องที่ดินโรงเรียนปานะพันธุ์ฯ ลาดพร้าว พ.ศ.2558

พ.ศ.2558 ผมได้มีโอกาสถามเพื่อนผมที่เป็นหลานเจ้าของโรงเรียนปานะพันธุ์แท้ ๆ ว่า ตกลงโรงเรียนได้ขายที่ดินให้ห้างสรรพสินค้าไปจริง ๆ เหรอ ?

เขาตอบผมว่า ที่ดินโรงเรียนยังไม่ได้ขาย แต่ให้ห้างฯ เช่าที่ดินระยะยาว 30 ปี ซึ่งอีก 16 ปี นับจาก พ.ศ. 2558 ก็จะครบสัญญาเช่า

ซึ่งตอนนี้ชื่อเจ้าของที่ดินเดิมของโรงเรียนปานะพันธุ์ฯ ลาดพร้าว ได้โอนที่ดินให้เป็นชื่อของรุ่นหลานร่วมกันถือครองหมดแล้ว

ผมถามอีกว่า แล้วตอนทำสัญญาขอเช่าที่ดินตอนเริ่มแรก ทางห้างสรรพสินค้า เขาจ่ายเงินก้อนแรกเพื่อเซ้งหรือเพื่อทำสัญญาเช่าเท่าไหร่ แล้วค่าเช่ารายปีๆ ละเท่าไหร่

เพื่อนผมเขาตอบว่า "ขออนุญาตไม่บอก ขอเป็นความลับนะเพื่อน"


รูปครูบุญรอด อยู่พรหม อดีตครูสอนภาษาอังกฤษชั้น ป.6 ถ่ายเมื่อ พ.ศ. 2560 ในวัย 102 ปี ถ่ายโดยศิษย์เก่า ป.พ.6 (คือรุ่นหลังยกเลิกชั้นป.7 ไป 6 ปี)


กลอนแห่งความหลัง





ในบางครั้ง รักทำให้ ฉันโง่เขลา

เป็นบางครั้ง รักทำให้ ฉันหลักแหลม

และบางครั้ง รักทำให้ ฉันระแวง

แต่ทุกครั้ง รักทำให้ ฉันคิดถึงเธอ


ใหม่เมืองเอก

คลิก! เพื่อเอาโค้ดรูปนี้



อัปเดทผลบอลล่าสุดคลิกที่นี่


อดีต

ยามร้างห่างไกลใจคนึงถึง เธอซึ่งจากไปไม่หวนกลับ


กายใกล้ แต่ใจสิไกลลับ ไม่อาจหักห้ามใจ ให้ลืมเธอ

ปัจจุบัน

ยามร้างห่างไกลใจคนึงถึง เธอซึ่งจากไปไม่หวนกลับ


กายไกลแต่ใจสิรอรัก มิอาจหักห้ามใจให้ลืมเธอ

newakecity


วันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2551

คนรักทักษิณมาทางนี้







หากคุณชอบทักษิณ คุณเคยรู้บ้างมั้ยว่า



1.คนรักทักษิณรู้มั้ยว่าทักษิณ ทำธุรกิจอะไร ทำไมถึงใช้เวลาไม่ถึง10ปี ก็กลายเป็นมหาเศรษฐีแสนล้าน ?



ตอบ ก็ทำธุกิจสัมปทานมือถือแบบผูกขาดในประเทศน่ะสิ(และกิจการดาวเทียมโดยการเอื้อเฟื้อจากรสช.) ซึ่งในตอนแรกมือถือมีแค่aisกับdtacเท่านั้น ร่วมกันขูดรีดกำไรจากคนไทยแสนโหด ถึงได้รวยเร็วไงครับ (สมัยก่อนโน้นซีพีกว่าจะรวยต้องขายไข่ไก่กำไรฟองละไม่กี่สต. แต่ทักษิณขายมือถือกำไรเครื่องละเป็นแสน)


2. คนรักทักษิณรู้มั้ยว่าทักษิณเป็นคนแปรรูป ปตท. ทรัพย์สินของรัฐ ให้กลายเป็นบริษัทเอกชนที่ทำเพื่อหวังขูดกำไรจากคนไทย จนกลายเป็นบริษัทที่กำไรปีละสองแสนล้าน เป็นบริษัทอันดับหนึ่งของไทยที่กำไรมากที่สุด เป็นบริษัทใหญ่อันดับที่127ของโลก ในปี2551 คนรักทักษิณภูมิใจมั้ย

(แต่ในปี2555 ปตท. ติดอันดับบริษัทที่กำไรมากที่สุด 1 ใน100 ไปแล้ว คืออยู่ในอันดับที่95)


3. คนรักทักษิณรู้มั้ยว่า ถ้าทักษิณยังเป็นนายกอยู่ ก็กำลังจะออกกฎหมายให้ต่างชาติซื้อหรือเช่าระยะยาวและถือครองที่ดินในไทยได้100% คุณรู้มั้ย(ซึ่งขณะนั้นกำลังอยู่ในขั้นตอนของคณะกรรมการร่างของสภา)


4. คนรักทักษิณเคยรู้มั้ยว่า ใครๆที่ขาขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ เขาก็ไม่รู้จักผู้ซื้อกันทั้งนั้น เพราะต้องขายผ่านตัวแทนที่เรียกว่า "โบรคเกอร์" ส่วนราคาที่ซื้อขายก็ขึ้นอยู่กับราคาตลาดในขณะนั้น เขาถึงได้รับการยกเว้นภาษี แต่ทักษิณจะขายหุ้นชินฯ ก็ไปตกลงราคากับผู้ซื้อคือเทมาเส็ก กันนอกตลาด  โดยไปตกลงกันที่สิงคโปร์ ตกลงกันได้ในราคาสูงกว่าตลาด แต่เสือกเข้ามาซื้อขายกันในตลาดเพื่อหวังการยกเว้นภาษี ถ้าสิ่งที่ทำนั้นถูกต้องจริง ทำไมceoใหญ่ของชินคอร์ปในขณะนั้นคือ บุญคลี ปลั่งสริ มือขวาทักษิณถึงไม่ขายหุ้นชินฯในตลาดตามเจ้านายล่ะ (บุญคลีขายนอกตลาดและจ่ายภาษีอย่างถูกต้อง)ก็เพราะเขามีจิตสำนึกและมีจริยธรรมน่ะสิ ไม่เหมือนทักษิณเงินสักบาทก็ไม่ยอมให้กระเด็น 

(นี่ยังไม่รวมกรณีปกปิดทรัพย์สิน การซุกหุ้นภาค2 ที่เอาไปซุกกับบริษัทนอมินีต่างชาติ เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีรายได้ประจำปีนะครับ)


5. เป็นนักการเมืองทุกคนต้องรายงานทรัพย์สินต่อสาธารณะ แล้วคนรักทักษิณรู้มั้ย ทำไมไม่เคยมีใครรู้เลยว่าทำไมตอนทักษิณซื้อสโมสรฟุตบอลไปเอาเงินที่ซ่อนจากที่ไหนมาซื้อ? (เพราะไม่มีที่มาที่ไปของทรัพย์สินส่วนนี้ภายหลังจึงถูกอังกฤษอายัดทรัพย์เช่นกัน)ในเมื่อทรัพย์สินในไทยก็ถูกอายัดไว้หมดแล้ว แสดงว่าตอนทักษิณรายงานทรัพย์สินตัวเองต้องไม่บอกหมดแน่ๆว่ามีซ่อนอยู่ต่างประเทศ 


การปกปิดทรัพย์สินถือว่าผิดจริยธรรมและกฎหมายนักการเมืองของไทยอย่างมหันต์ เมื่อปกปิดซุกซ่อนทรัพย์ ก็เท่ากับหลีกเลี่ยงภาษีไปในตัว!!

การเลี่ยงภาษี หนีภาษี ก็คือการโกงชาติ โกงเงินแผ่นดิน !!


6. คนรักทักษิณเคยรู้มั้ยว่า ประเทศเจริญแล้วไหนๆ กิจการที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงเขาห้ามต่างชาติถือครองหุ้นเกิน10-25%กัน โดยเฉพาะกิจการโทรคมนาคม ที่จริงไทยเราก็เคยมีกฎหมายห้ามไว้เหมือนต่างประเทศ แต่ทักษิณอยากขายหุ้นชินฯ ก็อาศัยเสียงข้างมากในสภาแก้ไขกฎหมายเพื่อจะได้ขายธุรกิจของตัวเองได้ โดยไม่สนเรื่องความมั่นคงของประเทศ คุณเคยรู้ไหม 


ผมเองก็เคยเลือกพรรคไทยรักไทยทั้ง2ครั้ง เคยชอบทักษิณ และเคยคิดว่าทักษิณน่าจะเป็นนายกที่ดีที่สุดเท่าที่ไทยเคยมี แต่เมื่อทักษิณขายหุ้นชินฯแล้ว ผมไม่สามารถยอมรับการกระทำเช่นนี้ๆได้ แม้ที่เขาขายหุ้นจะถูกต้องตามกฎหมายก็ตาม(เพราะแก้กฎหมาย) แต่ก็ไม่ถูกต้องตามหลักจริยธรรมของการเป็นคนไทย

.
ทำไมประชาชนคนรากหญ้าถึงรักทักษิณ
ตอบได้ว่า เพราะทักษิณมีนโยบายช่วยเหลือคนจนน่ะสิ
แต่ถามหน่อยว่า จะมีรากหญ้าสักกี่คน ที่รู้ว่าทักษิณผิดยังไง พวกเขาไม่รู้ เพราะมันยากเกินกว่าเขาจะต้องมารู้ มันเป็นเรื่องของกฎหมายธุรกิจ ที่ชาวรากหญ้าส่วนใหญ่ไม่สนใจอยู่แล้ว


คลิกอ่าน พิสูจน์พฤติการณ์ทักษิณรวยไม่โกงหรือรวยเพราะโกง??

เบื่อสมัครเพราะทักษิณ



ผมชอบสมัครมาตั้งแต่เด็ก ตามเชียร์อย่างชื่นชมตลอดมา ตั้งแต่สมัครเป็นหน.พรรคประชากรไทย ยันมาลงผู้ว่ากทม. สมัยจำลอง ศรีเมืองมาเป็นคู่แข่งตัวฉกาจ ผมก็กลายเป็นเกลียดจำลองไปด้วย จนกระทั่งสมัครออกจากผู้ว่าฯ มาจัดชิมไปบ่นไป ผมก็ตามชมเกือบทุกอาทิตย์


พอมีกรณีทักษิณขายหุ้นชินฯให้เทมามึงเสร็จ ไม่ยอมจ่ายภาษี สมัครเข้าข้างทักษิณอย่างออกนอกหน้าข้างๆคูๆ ผมก็เริ่มเบื่อสมัครขึ้นทันที แต่ก็ยังไม่มาก จนกระทั่งสมัครมาเป็นนายก นี่มีนอแล้วนะ ให้ทักษิณนี่แหล่ะ (คลิก อ่านคนรักทักษิณมาทางนี้)


ที่จริงผมก็ให้โอกาสสมัครเป็นนายกฯอยู่เหมือนกัน ก็หวังให้ประเทศชาติดีขึ้น เพราะผมเองก็ยังเชื่อถือฝีมือสมัครอยู่บ้าง ไม่ว่าประเทศจะแย่ลงเพราะปัญหาแก้ไม่ค่อยได้ก็ตาม


จนกระทั่งมาเกิดคดีเขาพระวิหารซ้ำสองนี่แหล่ะ ที่ยอมรับว่ารับไม่ได้แล้ว ไม่สมควรเป็นนายกฯอีกต่อไป ชิ่วๆ ไป๊ๆ ไป


คลิก อ่านทำไมผมถึงต้านทักษิณ


ใหม่เมืองเอก newakecity

******************************************

มาดูมิวสิคเพลงหมาเห่า ล้อเลียนสมัคร ดูขำๆนะจ๊ะ




วันเสาร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ทำไมละครเกาหลีจึงดีกว่าละครไทย(เป็นส่วนใหญ่)






(ก่อนอื่นต้องขอบอกว่า บทความนี้เป็นบทความยอดนิยมของใหม่เมืองเอก ที่มีคนคัดลอกไปลงที่เว็บอื่นเป็นจำนวนมากครับ)


ถึงแม้ละครเกาหลีหลายเรื่องก็เน่าจริงๆ แต่ในความเน่าเขาก็ทำให้ดูสนุกน่าติดตาม จุดเด่นของละครเกาหลีก็คือ
.
1. ละครเกาหลีไม่ดูถูกคนดูแม้ในเรื่องเล็กๆปลีกย่อย จะใส่ใจในรายละเอียดต่างๆ ตัวอย่างเช่น ไมโครโฟน ซึ่งเรามักเห็นอยู่เสมอในละครไทยว่า เห็นนักแสดงเหน็บไมค์ไว้ด้านหลังโป่งออกมาอย่างเด่นชัด ทำให้รู้สึกว่าไม่สมจริง
.
2. บทเจรจา ละครเกาหลีใส่ใจตรงจุดนี้มาก เขาใส่ใจว่าพฤติกรรมมนุษย์ในชีวิตประจำวันว่าจะเป็นอย่างไร เขาจะเก็บรายละเอียดทุกอย่างได้สมจริง
.
บทพูดก็จะไม่เว่อร์เหมือนละครไทย จนคนดูเชื่อและลืมไปว่ากำลังดูละครอยู่ จึงสามารถดึงคนดูให้ร้องไห้หรือหัวเราะตามตัวละครได้มากกว่าละครไทย
.
3.ละครเกาหลีมักสอนมารยาททางสังคมสอดแทรกเข้าไปอยู่เสมอ ไม่ใช่แบบละครไทยตัวร้ายเป็นผู้ดีเป็นเชื้อเจ้าบ้าง แต่พฤติกรรมกลับไร้สกุล ไร้การอบรม ไร้การศึกษา
.
4. การให้เกียรติผู้อาวุโสกว่า เราจะเห็นละครเกาหลีหลายเรื่อง ถึงแม้ตัวโกงสูงวัยจะร้ายหรือมีความแค้นกับพระเอกหรือนางเอกยังไง แต่เมื่อถึงเวลาพบกันหรือจากกัน ก็จะเห็นพระเอกนางเอกคำนับก้มหัวให้เสมอ ผิดกับละครไทย ถ้าลองเป็นศัตรูกันไหว้ก็ไม่มีทางไหว้ แถมจะด่าซ้ำให้อีก
.
5. นางเอกในละครเกาหลีมักจะรักนวลสงวนตัว แม้จะแก่นแก้วติงต๊องบ้างก็ตาม แต่ก็ยังมีความเป็นกุลสตรีซ่อนอยู่เสมอ ไอ้เรื่องเสียตัวเพราะพระเอกปล้ำ หรือเสียตัวที่กระท่อมร้าง หรือเสียตัวก่อนแต่ง แบบละครไทย ละครเกาหลีแทบจะไม่มีให้เห็น (เช่นธาราหิมาลัย นางเอกเสร็จพระเอกที่กระท่อมริมน้ำ , จำเลยรักเวอร์ชั่นแอ๊บ-อั้ม นางเอกโดนข่มขืน)
.
6.ละครไทยเดี๋ยวนี้พระเอกไม่ค่อยให้เกียรติผู้หญิง ชอบใช้ความรุนแรงกับผู้หญิง ส่วนฝ่ายหญิงก็ใส่อารมณ์พอ ๆกัน พระเอกข่มขืนนางเอกก็มีบ่อย เด็กไทยมันจึงเอาเยี่ยงอย่าง แต่ละครเกาหลียังไม่เคยเห็นพระเอกข่มขืนนางเอกเลย
.
7. นางร้ายไทยมักจะร้ายแบบโง่ ๆ โวยวายเสียเป็นส่วนใหญ่ ละครไทยจึงดูเหมือนเล่นลิเก ที่เห็นปุ๊บ! ก็รู้ทันทีว่าใครเป็นตัวอิจฉา นางร้ายเกาหลีไม่จำเป็นต้องแต่งหน้าเข้มเป็นลิเก แต่เขาร้ายที่บทบาทมากกว่า
.
8. บางครั้ง ย้ำ! บางครั้งพระเอกเกาหลีบางเรื่องก็ไม่ได้หล่อมากไปกว่าพระเอกไทย แต่จากบทบาทที่ได้รับมันตราตรึงใจคนไทย โดยเฉพาะสาว ๆ สังคมไทยทุกวันนี้ขาดความรักที่จริงใจ

แต่ในละครเกาหลีเราจะเห็นความรักที่เป็นรักแท้ที่มีแต่การเสียสละเพื่อคนรัก โดยไม่จำเป็นต้องได้ครอบครอง เช่นเรื่องหมอโฮจุน จูมง อิมซังอ๊ก หรือแม้แต่มหาขันทีคิมซัมซุน ที่บางครั้งพระเอกก็ไม่ได้กับนางเอกเสมอไป
.
9. ละครเกาหลีผูกเรื่องได้หลายชั้นแต่ไม่ซับซ้อน นำเสนอหลากหลายชีวิตไปพร้อมกันอย่างกลมกลืนคล้ายซีรีย์ฝรั่ง มีหลายปมให้คนดูสนใจติดตาม ไม่ใช่แค่ปมเดียวอย่างละครไทยส่วนใหญ่
.

10. นางเอกละครเกาหลีเน้นความสมจริง จึงไม่ต้องห่วงสวยตลอดเวลาแบบนางเอกละครไทย เพราะนางเอกไทยบางเรื่องขนาดตอนจะนอน หรือเพิ่งตื่นนอน ก็ยังเห็นเธอแต่งหน้าใส่ขนตาปลอม 

11. (ข้อนี้แถม) โดยเฉพาะเรื่องในโรงพยาบาล ละครไทยไม่ค่อยคำนึงถึงข้อเท็จจริงทางการแพทย์อย่างมากๆ
,
เช่นละครไทยช่อง7 ตอนเย็นเรื่องหนึ่งพ่อนางเอกถูกยิง 5 นัด มาถึงโรงพยาบาลไม่มีการให้เลือด ไม่มีการให้ออกซิเจน หมอแค่ทำแผลเสร็จเหมือนคนหัวแตกทั่วไป(ฮาๆ) แล้วปล่อยให้พ่อที่บังเอิญทำแผลเสร็จแล้ว แถมยังมีมีสติได้สั่งเสียลูกอยู่ตั้งนานกว่าตาย ทั้งที่ความจริงควรต้องเข้าห้องฉุกเฉินผ่าตัด ต้องให้ยามากมาย ไม่ได้สติไปแล้ว
.
หรือเช่น นางเอกใส่เครื่องช่วยหายใจแต่ยังพูดกับพระเอกได้!? เป็นต้น ยังมีอีกเพียบทุกเรื่องมีจุดบกพร่องมากเป็นส่วนใหญ่!
.
.

-------------------------------
.
.

สิ่งสำคัญตอนนี้ที่ละครไทยยังขาดคนเขียนบทที่เก่ง นักแสดงไทยที่จริงฝีมือการแสดงไม่เป็นสองรองใคร

แต่ขาดบทดีๆให้เล่น แต่ที่ทำให้ผมเข้าใจอย่างหนึ่งก็คือทำไมละครไทยถึงยังย่ำอยู่กับที่เป็นส่วนใหญ่ ก็เพราะละครไทยยังคงครองใจคนไทยส่วนใหญ่อยู่ได้เหมือนเดิม แต่คงไม่สามารถขึ้นชั้นไปสร้างกระแสระดับโลกได้อย่างเกาหลีหรอก แม้ละครบางเรื่องจะลงทุนสูงก็ตาม ก็เพราะความไม่ใส่ใจในรายละเอียดนี่เอง


ละครเกาหลีมีรายละเอียดที่ดูเนียนเสียจนเราไม่รู้สึกว่ามีรายละเอียดอยู่ แต่ละครไทยขนาดดูผ่านๆ ยังรู้สึกได้ถึงความไม่สมจริง ละครไทยยังคงใกล้เคียงลิเกอยู่เหมือนเดิม ที่คนดูต้องคอยจินตนาการตาม เช่น พระเอกห้อยม้ากระดาษไว้ที่เอว ก็คิดซะว่าพระเอกกำลังควบม้าศึก 555555


ที่ตั้งประเด็นนี้ขึ้นมาก็เพราะอยากให้ละครไทยพัฒนาขึ้น ตามคำกล่าวที่ว่าหากอยู่กับที่ ก็เท่ากับกำลังถอยหลัง เพราะชาติอื่นก็จะแซงเราในที่สุด อย่างละครเกาหลีนี่ก็พึ่งจะแซงมาเป็นที่หนึ่งในเอเซียเมื่อไม่นานนี่เอง
.
ตอนแรกก็ไม่เคยมีใครเคยรู้จักละครเกาหลี ต่อมาช่องitv เป็นฟรีทีวีนำละครเกาหลีมาฉายเป็นครั้งแรกในไทย เรื่องautumn in my heart ที่ชองเฮเคียวเล่น ตามด้วย winter love song ที่เบยองจุนนำแสดง ออกอากาศชนกับละครช่อง3ช่อง7
.
แต่ด้วยเพราะคุณภาพจึงสามารถจุดระเบิดกระแสเกาหลีขึ้นได้อย่างเหลือเชื่อ พอคนไทยรักเกาหลีขึ้น ก็พลอยทำให้สินค้าของเกาหลีที่ปกติไม่ได้รับความเชื่อถือในสายตาคนไทยหลายชนิด ก็ได้รับผลพลอยได้ตามไปด้วย
.
ขนาดญี่ปุ่นซึ่งเป็นชาติที่ดูถูกชาติเกาหลี่มาตลอดประวัติศาสตร์ กดขี่เกาหลีเป็นทาสช่วงสงครามมหาเอเชียบูรพา ถึงขนาดหลังสงครามสงบเกาหลีไม่ยอมใช้รถญี่ปุ่นที่ราคาถูกๆ แต่กลับยอมไปซื้อรถฝรั่งใช้แทน สินค้าทุกชนิดของญี่ปุ่นเกาหลีก็ไม่ยอมใช้เลย ส่วนญี่ปุ่นก็ดูถูกสินค้าเกาหลีเช่นกัน
.
แต่เดี๋ยวนี้เป็นไง เกาหลีกลับทำให้คนญี่ปุ่นคลั่งไคล้ดาราเกาหลี นักร้องเกาหลีกันได้เกือบทั้งประเทศ พลอยทำให้สินค้าเกาหลีก็เข้าไปบุกตลาดภายในที่แข็งแกร่งของญี่ปุ่นได้เช่นกัน ความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยวของเกาหลี ถ้าพูดกันตามจริงแล้วสู้ไทยหรือญี่ปุ่นไม่ได้เลย แต่ทุกวันนี้ผู้คนกลับแห่กันไปเที่ยว จุดประสงค์สำคัญก็เพื่อจะไปสัมผัสฉากถ่ายทำในละครเป็นส่วนใหญ่
.
อยากให้ผู้สร้างละครไทยอย่าคิดแค่ดึงคนดูจนไม่สนใจความเจริญของชาติและของสังคมจนเกินไป เพราะละครมีบทบาทต่อสังคมมาก สามารถชี้นำสังคมได้ถ้าตัวร้ายละครไทยเอาแต่แย่งผู้ชายอย่างโง่ๆ เด็กผู้หญิงไทยก็จะตบกันเพราะแย่งผู้ชายอย่างโง่ๆเช่นกัน ซึ่งมีให้เห็นในคลิปที่เผยแพร่อยู่เสมอ




ก่อนจบ!! สำหรับผมคิดว่ามาตรฐานละครญี่ปุ่นดีที่สุดครับ
.
.
.

วันศุกร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2551

กรรมของสีหนุจากเพื่อนสนิทแม้ว







หลังจากเจ้าสีหนุขึ้นครองราชย์ได้ไม่นาน ก็หาเรื่องฟ้องไทยกรณีเขาพระวิหาร โดยมีนายเก่าฝรั่งเศสช่วยเหลือหาหลักฐานแบบโกงๆจนเอาชนะไทยไปได้


แต่หลังจากนั้นไม่กี่ปีกรรมของสีหนุก็เริ่มเห็นผล เขมรมีอันต้องแตก ถูกเขมรแดงยึดครอง ฆ่าเพื่อนร่วมชาติด้วยกันอย่างโหดเหี้ยมทารุณ เพื่อบีบบังคับให้ยอมเป็นทาส เจ้าสีหนุมีอันต้องลี้ภัยออกนอกประเทศ

เขมรแดงป่าเถื่อนโหดร้ายได้ไม่นาน เวียตนามก็บุกเข้าปราบจนยึดเขมรกลับคืนมาได้ แล้วก็ตั้งลูกครึ่งญวนเขมรนาม ฮุนเซน เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศแล้วก้าวสู่ตำแหน่งนายกฯหุ่นเชิดขึ้นปกครอง(ฮุนเซนมีเลือดผสมญวนเขมรและมีเมียเป็นชาวเวียตนาม) แต่เขมรก็ยังแตกเป็น3ฝ่าย รบฆ่ากันเองอีกหลายปี เมื่อเขมรเลิกรบกันเอง ก็ได้มีการเลือกตั้งครั้งแรกเกิดขึ้น ฮุนเซ็นได้ชื่อว่าเป็นนายกรัฐมนตรีหุ่นเชิดของเวียตนามหลายปี

ลูกชายคนโตของเจ้าสีหนุชื่อ เจ้านโรดมรณฤทธิ์ลงเลือกตั้ง แต่ไม่สามารถเอาชนะฮุนเซนได้อย่างเด็ดขาด มีคะแนนเสียงไล่เลี่ยกัน ฮุนเซ็นแพ้เลือกตั้งแต่กลับขู่ว่าถ้าไม่ยอมให้มันเป็นนายกอีกคนอาจจะเกิดสงครามอีก เจ้านโรดมรณฤทธิ์จำยอมตกลงเป็นนายกรัฐมนตรีร่วมกัน เป็นประเทศตลกมีนายกพร้อมกันถึง2คน โดยเจ้ารณฤทธิ์เป็นนายกฯคนที่1 ฮุนเซนเป็นายกคนที่2 แล้วก็ไปเชิญเจ้าสีหนุกลับมาครองราชย์ดังเดิม

แต่หลังจากนั้นไม่นานกรรมของสีหนุต่อมาคือ ฮุนเซนเพื่อนสนิทแม้ว ก็หาทางกำจัดก้างขวางคอเจ้านโรดมรณฤทธิ์ด้วยทำรัฐประหารและใส่ร้ายทางการเมือง จนเจ้ารณฤทธิ์ต้องหนีหัวซุกหัวซุนลี้ภัยออกนอกประเทศไม่ได้กลับเขมรอีกเลย

เจ้าสีหนุอยู่ทนอับอายเสียพระเกียรติไม่ไหว ขอสละราชสมบัติอ้างป่วยขอไปรักษาตัวที่จีน ฮุนเซนเลยไปเชิญลูกชายคนเล็กของเจ้าสีหนุ "เจ้านโรดมสิงหมุนี"(บุคคลในภาพข้างบน)อดีตครูสอนบัลเล่ย์ในฝรั่งเศสมาเป็นกษัตริย์แทน

ฮุนเซน เมื่อขึ้นวอแล้วก็เริ่มชั่วต่อเนื่อง ด้วยการยกหางตัวเองขึ้นเป็นเชื้อพระวงศ์่ สั่งกษัตริย์หุ่นเชิดแต่งตั้งมัน โดยเปลี่ยนจากนายฮุนเซนเป็น สมเด็จฮุนเซนฯ แล้วก็ครองอำนาจเบ็ดเสร็จมากว่า20ปี ชนะการเลือกตั้งอย่างท่วมท้นทุกครั้ง กำจัดศัตรูทางการเมืองทุกวิถึทาง (ได้รับการแต่งตั้งจากเจ้านโรดมสิงหมุนี)


ฮุนเซนสนิทกับนายกประเทศไทยนามว่า แม้ว (เพราะแม้วเคยไปเลียขอสัมปทานมือถือ) คงเสี้ยมสอนว่าการเป็นนายกมันดียังไง แล้วจะสร้างฐานอำนาจยาวนานยังไง ตามหลักคบคนพาลพาลพาไปหาผิด แม้แม้วได้เป็นนายกสมใจ แต่ก็หลอกคนทั้งประเทศได้ไม่นาน เพราะคนกรุงเทพเริ่มเห็นทาสแท้ ขับไล่แม้วจนสิ้น

เพราะยังมีคนไทยที่มีศักยภาพและบทบาททางสังคม ไม่เห็นแก่ปากท้องตัวเองสำคัญไปกว่าชาติบ้านเมือง ไม่เห็นแก่นโยบายประชานิยมที่เขาเอามาล่อ ร่วมต่อต้านขัดขวางคนโกงได้สำเร็จ แต่ก็มีคนรากหญ้าที่ยังไม่เข้าใจซึ่งคงต้องให้ความรู้และเวลากับพวกเขาต่อไป

บทความต่อเนื่องที่ ประวัติฮุนเซน คนขึ้นวอ



ผู้ติดตาม