ผมได้เกิดทัน การเข้ามาครั้งแรกของเกมกด (Game&Watch Nintendo) ก็ราวๆ30ปีที่ผ่านมาแล้ว พอมองย้อนกลับไป ผมว่าสมัยยุคนั้นคือยุคที่คลาสสิคจริง ๆ เป็นยุคที่มีเสน่ห์และคุณค่ามากๆ
เกมกดในสมัยก่อน แม้จะไม่ทันสมัยเหมือนเกมคอมพิวเตอร์ เกมออนไลน์ ในยุคนี้ก็ตาม แต่ด้วยอารมณ์ความรู้สึก เกมกดในยุคนั้นมันช่างยิ่งใหญ่จริงๆ สำหรับคนที่เกิดทันยุคนั้น
ยุคสมัยที่ไม่ได้เจริญมากเกินไป ยุคสมัยที่ใคร ๆ ก็ยังไม่รู้จักโทรศัพท์มือถือ มันคือยุคที่มีความสุขและสนุกมาก ๆ สำหรับคนที่เกิดทันยุคนั้น คงเข้าใจเหมือนที่ผมรู้สึก
------------------------
ตัวผมนั้น เริ่มรู้จักเกมที่ต้องใช้เทคโนโลยีครั้งแรก ก็คือเกมเทนนิส ซึ่งเล่นได้บนทีวีสีสมัยก่อน ซึ่งทีวีสีเมื่อ30กว่าปีที่แล้ว ราคาแพงมาก ๆ เครื่องละประมาณ2หมื่นบาท แถมอยู่ในตู้ไม้อย่างสวยงาม เพราะแม่ผมทำงานบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าญี่ปุ่น ผมเลยมีโอกาสได้เห็นเกมบนจอทีวี เมื่อตอนผมอยู่แค่อนุบาล 2 ก็เมื่อ 34-35 ปีที่แล้ว
แต่ก็ไม่เคยเล่นหรอกครับ เพราะถึงแม่ผมจะทำงานบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่ทีวีสีก็แพงมากสำหรับครอบครัวเราในตอนนั้น
ตอนผมอยู่อนุบาล สิ่งที่ผมตื่นตาตื่นใจที่สุดที่เคยเห็นตอนเล่นอยู่ที่บริษัทของแม่ ก็คงจะเป็น กระเป๋าเจมส์บอนด์ที่เป็นเครื่องฉายหนังได้ พอเปิดกระเป๋าเจมส์บอนด์ขึ้นมา ส่วนที่เป็นฝากระเป๋า ก็จะใช้เป็นจอหนัง ส่วนตรงที่เก็บของ ก็เป็นที่บรรจุเครื่องฉายหนัง ที่จะฉายหนังขึ้นไปบนจอ (ฝากระเป๋า)
-----------------------
ทีนี้ มาพูดถึงเกมกดกันบ้าง เกมกดที่ผมได้รู้จักจริงๆในชีวิต ก็คือ เกมปลาหมึก (Nintendo Octopus เป็นรุ่นจอกว้าง)ซึ่งต้องลูกคนรวยเท่านั้นที่ซื้อได้ เพราะตอนเข้ามาขายใหม่ๆแพงมาก เมื่อ 30 กว่าปีที่แล้วตกเครื่องละ 700 กว่าบาท ตอนนั้นน่าจะปี พ.ศ.2524 (แต่เกมที่เข้ามาเมืองไทยครั้งแรกไม่ใช่เกมปลาหมึก)

ตอนที่เห็นเกมกดครั้งแรก มันช่างเป็นเรื่องที่ตื่นตาตื่นใจสำหรับผมอย่างมาก โดยคนที่นำเกมปลาหมึกมาให้ผมเห็นครั้งแรก (น่าจะเป็นช่วงปิดเทอมแรกชั้น ป.4) คือพี่ผู้หญิงคนนึงที่เป็นลูกเจ้าของโรงงานน้ำแข็งใกล้ ๆ บ้านผม ผมก็อยากมีกับเขาบ้าง แต่ก็ยังไกลเกินฝัน!!
การเล่นเกมปลาหมึก ก็เป็นเกมที่เราต้องบังคับนักประดาน้ำลงไปเอาสมบัติใต้ทะเล แล้วต้องคอยหลบหนวดปลาหมึกยักษ์ที่จะคอยจับ ซึ่งเราจะมีตัวเล่นได้ 3 ตัว
ซึ่งเกมปลาหมึกก็เป็นเกมที่ฮิตสุดดังมากที่สุดในยุคนั้น และต่อมาก็มีเกมมิกกี้เมาส์ เกมป๊อปอาย และอีกหลายๆอย่าง
ตอนผมอยู่ป.4 มีเพื่อนผม ที่เป็นหลานชายเจ้าของโรงเรียนได้โชว์นาฬิกาข้อมือที่เล่นเกมได้ของเขา ซึ่งผมก็ตื่นตาตื่นใจมากๆเพราะเพิ่งเคยเห็นครั้งแรก เพราะนาฬิกาข้อมือที่เล่นเกมได้ ต้องซื้อจากนอกเท่านั้น ในเวลานั้นเมืองไทยยังไม่มีขาย
และนาฬิกาเกมของเพื่อนผม ก็เป็นเกมที่เรียกว่า เกมวิ่งหลบค้อนแล้วเข้าบ้าน หรือ เกมhelmet นั่นเอง ซึ่งก็เหมือนในเกมกดhelmet ของนินเทนโด

------------------------------
แต่เกมกดครื่องแรกที่เป็นของผมจริงๆนั้น ผมได้มาก็ตอนผมอยู่ปลายๆป.4แล้ว พ่อได้ฝากหลานชายห่างๆของพ่อที่ทำงานเดินเรือ ซื้อมาจากสิงคโปร์ ในราคาเครื่องละ 400 บาท คือ เกมม้าโรมัน (Trojan Horse)

การเล่นเกมม้าโรมันนี้ เราจะต้องคอยเปิดประตูรับคนของเราเข้าเมือง แล้วปล่อยให้ข้าศึกตกคูเมืองไป ถ้าเราเปิดประตูไม่สอดคล้องกับการวิ่ง คนของเราก็ตกคูตาย
แต่เกมจะมาเร้าใจตอนที่ มีม้าโรมันโผล่มา เราก็ต้องคอยปล่อยให้คนของเราที่วิ่งมาบนม้าเข้าเมืองไป และเราต้องคอยแทงพวกศัตรูที่วิ่งเข้ามา ซึ่งการเล่นตรงนี้ต้องแยกประสาทของเราพอควร เพราะต้องคอยเปิดประตูทางด้านล่าง และต้องคอยแทงข้าศึกทางด้านบน ซึ่งเราอาจเผลอแทงคนของเราเอง หรือบางทีก็เผลอให้ข้าศึกเข้าเมือง ซึ่งจะทำให้เราตาย ดูวิธีเล่นตามคลิป
และหลานห่างๆของพ่อ เขาก็ใจดีซื้อมาฝากให้อีกเครื่อง ซึ่งก็ให้เป็นของน้องชายผมไป เป็นเกมเฮลิคอปเตอร์ช่วยชีวิต (Towering rescue) ซึ่งทั้งสองเครื่องเป็นของบริษัทGakken ก็เป็นบริษัทญี่ปุ่นอีกบริษัทที่ทำเกมกดขายในตอนนั้น
เกมช่วยคนจากตึกที่ไฟไหม้ อันนี้เล่นไม่ยาก อาศัยความไวเท่านั้น ไม่ต้องแยกประสาทเหมือนเกมม้าโรมัน ซึ่งอันนั้นเล่นยากกว่า

---------------------------------
ต่อมานาฬิกาcasio ก็ออกรุ่นเล่นเกมได้ตามมา ผมเห็นครั้งแรกก็น่าจะเป็นช่วงที่ผมเรียนป.5แล้ว ราวปีพ.ศ.2525 เกมบนนาฬิกาเกมแรกซึ่งฮิตมากในเมืองไทยก็น่าจะเป็นเกมรถแข่ง
แต่ผมไม่มีนาฬิการเกมหรอกครับ เพราะผมซื้อนาฬิกาcasio รุ่นธรรมดาไปแล้วซึ่งขนาดนาฬิการคาสิโอดิจิตอลธรรมดาๆของผม ไม่กันน้ำ จับเวลาก็ไม่ได้ ผมซื้อนาฬิกาเมื่อตอนอยู่ป.4 ก็น่าจะปี พ.ศ.2524 ราคา 430 บาท ซึ่งสำหรับเมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว ของราคา 400 บาท นับว่าแพงพอควร เกมนาฬิกาก็เลยยืมเพื่อนที่มีเล่นแทน
ต่อมาก็มีเกมที่ผมอยากได้จริงๆอีกเกมคือเกมต่อยมวยซึ่งอยู่ในเครื่องคิดเลข ตอนแรกที่เล่นจะมันส์มาก เล่นติดงอมแงมอยู่หลายวันทีเดียว (ผมยืมเพื่อนของแม่เอามาเล่นจนเบื่อ) ตอนหลังก็เลยไม่อยากได้แล้ว
(เพื่อนแม่ผมเขาอยู่แผนกซ่อมเครื่องคิดเลขของบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่ก็ดันมีลูกค้าเอาเกมกดมาให้เพื่อนแม่ผมซ่อมอยู่บ่อยมาก เพราะปุ่มกดของเกมกดมักจะเสีย มีช่วงหนึ่งของชีวิตผมในวัยเด็ก ผมเคยยืมเกมกดที่ลูกค้าเอามาให้เพื่อนแม่ผมซ่อม ผมยืมมาทีเดียว 10 เครื่อง 10 เกม เล่นยังเมามันส์ในช่วงปิดเทอมของผม ยังจำอย่างติดใจมาถึงทุกวันนี้)

------------------------------
เกมกดเครื่องต่อมาของผม เป็นเกมกดที่ผมชอบที่สุด เพราะสนุกที่สุด ซื้อมาในราคา 250 บาทเมื่อตอนผมอยู่ป.6 ซึ่งเกมกดส่วนใหญ่ในตอนนั้นราคาถูกลงมาเหลือประมาณ 200 กว่าบาทแล้ว

นั่นคือเกมโดราเอมอนกินแป้งทอด (Doraemon dorayaki house) ในบรรดาทุกเกมกดที่ผมมี ผมชอบเกมโดราเอมอนกินแป้งทอดมากที่สุด เพราะเกมจะให้เราบังคับโดราเอมอนขึ้นบันได ไปชั้น2 แล้วเลื่อนเก้าอี้มาวางซ้อนกัน2ตัว ให้ตรงกับจุดที่แป้งทอดลอยอยู่ แล้วบังคับให้โดราเอมอนขึ้นไปบนเก้าอี้เพื่อเก็บแป้งทอด ระหว่างนั้นก็จะมีหนูวิ่งไปวิ่งมา ซึ่งเราต้องคอยบังคับให้โดราเอมอนกระโดดหลบ
ทีนี้พอเก็บแป้งทอดที่ชั้น2หมด ก็ต้องลงบันได้มา ต้องคอยระวังหนูที่ชั้นล่างด้วย พอลงมาชั้นล่างแล้ว เราต้องบังคับให้โดราเอมอนเข้าไปนั่งที่ด้านขวาสุด ถึงจะกินแป้งทอดที่เก็บมาได้ และก็จะได้คะแนน
ผมเล่นจนเกมจบที่ 9,990 คะแนน พอถึง 9,990 แล้ว ก็เริ่มเกมใหม่ เริ่มคะแนนใหม่ แต่ผมก็ไม่เล่นละ เพราะถึงที่สุดของเกมแล้ว
เกมโดราเอมอนมีดีอีกอย่างคือ ด้านหลังเครื่องจะมีช่องให้เสียบพลาสติกตรงที่ใส่ถ่าน เพื่อเป็นการดับเครื่องโดยไม่ต้องแกะถ่านออกจากเครื่อง ทำให้ไม่เปลืองถ่าน เพราะเกมกดอื่น ๆ ในสมัยนั้น ถ้าไม่อยากเปลืองถ่านก็ต้องถอดถ่านออกเท่านั้น

---------------------------
เกมกดเครื่องสุดท้ายที่ผมมี เป็นเกมอุดท่อน้ำมัน ก็พอเล่นเพลินๆ แต่ไม่หนุกมาก ราคาที่ซื้อ 200 บาท ซื้อตอนผมอยู่ ม.2 แล้ว แต่เบื่อเกมเก่า ๆ อยากหาเกมมาเล่นใหม่ ๆ ซึ่งเกมกดอันสุดท้ายเครื่องนี้ของผม ก็ถือยุคที่เกมกดขาวดำใกล้หมดยุคแล้ว
ที่เล่ามาทั้งหมด เกมกดของผมยังอยู่ครบทุกเครื่อง เพียงแต่อยู่ในกล่องเก็บของเก่า คิดอยู่เหมือนกันว่า จะรื้อออกมาเล่นใหม่ เพราะยังเล่นได้ทุกเครื่อง
ช่วงที่ผมมีเกมกดเครื่องสุดท้ายผมก็เริ่มเป็นหนุ่มแล้ว เกมกดรุ่นใหม่ๆที่มี2หน้า หรือมีลูกเล่นมากขึ้น หรือจะเป็นเกมบอยที่เป็นเกมกดแบบวีดีโอเกมแบบพกติดตัวได้ ผมก็ไม่ได้ตามหามาเล่นต่ออีกแล้ว
-------------------------------
ผมก็หันไปสนใจวีดีโอเกมแทน แต่ของผมเป็นเครื่องรุ่นสีดำของแฟมิลี่ ผมบ้าเล่นอยู่วีดีโอเกมไม่นาน เพราะเกมที่ผมสนใจมากที่สุด และคิดว่าสนุกที่เท่าที่ตัวเองมีเกมเล่น คือเกมฟุตบอล (Power shot Soccer)
มันไม่ใช่เกมที่เล่นบนจอ แต่มันคือเกมที่เสมือนมีชีวิตจริงๆ มันเหมือนเกมฟุตบอลจริงๆ มีการเลี้ยงบอล หลบคู่แข่ง เตะที่สมจริงๆมาก เหมือนเราบังคับนักเตะได้จริงๆ

ผมแข่งกับน้องผม อย่างเมามันส์อยู่หลายเดือน แต่เสียดายที่มันเปลืองถ่านไปหน่อย เพราะเวลาถ่านเริ่มอ่อน ตัวผู้เล่นก็จะเริ่มวิ่งช้าไปด้วย ทำให้ความมันส์ลดลงไป (ตอนที่ใส่ถ่านใหม่ๆ ตัวเล่นมันวิ่งเร็วมาก เร็วจนตลกมากๆ จนผมกับน้องขำกันทุกครั้งที่เปลี่ยนถ่านใหม่)
ตอนที่ผมซื้อเกมฟุตบอลมาในตอนนั้น ผมอยู่ม.4 ราคาประมาณ1,300บาท ซึ่งก็ค่อนข้างแพงพอควรมากสำหรับเมื่อ23ปีที่แล้ว ต่อมาอีก2ปี น้องชายดันได้รางวัลจากไมโล ก็ได้เกมpower shot soccer มาอีกเครื่อง แต่ราคาขายตอนนั้นก็เหลือประมาณ 800 บาทแล้ว
เครื่องเก่าผมเลยให้ลูกพี่ลูกน้องไป
-----------------------
ยังมีของเล่นที่ต้องใส่ถ่านอีกหลายอย่าง ที่ผมประทับรักและประทับใจในวัยเด็ก เช่น อิเลคโทนขนาดเล็กของcasio รุ่นPT-30 ที่พ่อผมได้ซื้อญี่ปุ่นในราคา 1,500 บาทเมื่อพ.ศ. 2525 ซึ่งทุกวันนี้ อิเลคโทนคาสิโอเด็กเล่นเครื่องนี้ของผม ก็ยังอยู่ ยังเล่นได้เหมือนเดิม นับว่าทนทานมากๆครับ

------------------------
บทความนี้อาจจะเป็นเรื่องส่วนตัวสักหน่อย แต่อยากจะเขียนเก็บไว้เป็นความทรงจำครับ
ก่อนจบ ขอปิดท้ายด้วย คำพูดของคนญี่ปุ่น สมัยที่พ่อผมไปเที่ยวญี่ปุ่นเมื่อปี2525
ไกด์ชาวญี่ป่นเขาคุยว่า "แค่ประเทศญี่ปุ่นผลิตเกมกดส่งขายทั่วโลกอย่างเดียว ญี่ปุ่นก็รวยแล้ว"
-------------------------
มาย้อนดูเกมกดในปีต่างๆ ของนินเทนโดกัน
คลิกอ่าน ความคิดถึงยุคดิจิตอลแตกต่างจากความคิดถึงในอดีต
ขอบคุณมากครับที่เขียนความทรงจำดีๆแบบนี้ออกมา ทำให้ผมนึกถึงในวัยเด็กสมัยนั้นเลยครับ เอาเกมส์คิงคองไปให้เพื่อนเช่าที่โรงเรียน นาทีละ2บาท และเรื่องอื่นๆอีกมากมายขอบคุณจริงๆครับ
ตอบลบ