ผมลองย้อนกลับไปอ่าน บทความที่ผมเขียนเมื่อปี51เรื่อง ไอ้เขมรชั่ว ฮุนเซ็น ทั้งตอน2และตอน3 ซึ่งพอผมได้กลับไปอ่านแล้ว ก็ไม่ผิดจากที่ผมคาดการณ์ไว้ ว่าสุดท้ายปัญหาไทย-เขมร จะต้องเป็นแบบที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
ไม่มีใครชอบสงคราม เชื่อว่าทุกคนเกลียดและกลัวสงคราม แต่ปัญหามันเริ่มเมื่อไหร่?? คำตอบก็คือ ปัญหาชายแดนไทยเขมร เริ่มเมื่อช่วงสมัยนายกฯชวน หลีกภัยเป็นนายกฯ (ที่จริงผมเขียนไปหลายครั้งแล้ว)
เนื่องจากหลักเขตแดนหลายจุดได้สูญหายไป ทำให้ทหารเขมรมันเริ่มรุกรานชายแดนไทย จนเกิดการปะทะกัน บริเวณพื้นที่4.6ตร.กม.ราวๆ ปี 40-43 หลายต่อหลายครั้ง
ที่ผ่านมาเขมรมันไม่เคยกล้าหือกับไทย ในยุคที่มีทหารเป็นนายกรัฐมนตรี แต่พอประเทศไทยได้นายชวน มาเป็นนายกฯ
ซึ่งเขมรในยุคฮุนเซ็น มันมองออกว่า ถ้าจะลองเสี่ยงแหย่เสือหลับอย่างไทย ก็ต้องแหย่ยุคนายชวนนี่แหล่ะ
เพราะนายชวน เคยมีวาทะกรรมเรื่องเนิน491 ปัญหาชายแดนไทย-พม่าว่า "ถ้าผมสั่งให้รบ คนที่ไปรบ ไปตายก็คือทหารชั้นผู้น้อย ไม่ใช่ผม ผมก็สังได้ แต่ผมไม่อยากทำ เพราะผมไม่ต้องการสงคราม"
ทีนี้เขมร มันก็เลยคาดการณ์ถูกว่า เพราะ นายชวน หลีกภัยไม่ใช่ทหาร จึงไม่มีความคิดแบบทหาร ไม่ชอบสงคราม ไม่อยากรบ
ซึ่งนายชวน หลีกภัย น่าจะลองศึกษาดูประธานาธิบดีสหรัฐ และนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เป็นตัวอย่างบ้างว่า ถึงไม่ได้เป็นทหารมาก่อน แต่เรื่องรักษาแผ่นดินและอธิปไตยมันเรื่องที่ใหญ่กว่าสิ่งใดทั้งสิ้น
รัฐบาลชวน หลีกภัย จึงไปชวนเขมรมาทำmou43 เพื่อมาปักปันเขตแดนกันใหม่ แต่กลับไปเปิดโอกาสให้เขมรนำแผนที่ระวางดงรัก1:200,000 (ค.ศ.1908) เข้ามาร่วมเจรจาได้ ทั้งๆที่ แผนที่ 1 ต่อ 2 แสนมันขัดกับหลักสากลและขัดกับรัฐธรรมนูญกัมพูชา ในมาตรา2 ด้วยซ้ำ
(คลิกอ่าน แผนที่ 1 ต่อ 2 แสนขัดรธน.กัมพูชา)
ซึ่งในMOU43 กำหนดว่าประชาชนทั้งสองฝ่ายต้องออกจากพื้นที่ที่ทับซ้อนกันในแผนที่ของ 2 ประเทศที่ระบุใน MOU43
ตรงนี้ทำให้คนไทยหลายคนที่หากินในพื้นที่ก็ต้องย้ายออกจากพื้นที่ไปด้วย ทั้งๆ ที่มันเป็นพื้นที่ของไทยแท้ๆ
แล้วรัฐบาลตั้งแต่ยุคชวน และรัฐบาลทุกยุคเรื่อยมา ก็ชอบที่จะเรียกพื้นที่ตรงนั้นว่า พื้นที่ทับซ้อน ในขณะที่ฝ่ายเขมร ไม่เคยเลยที่จะเรียกว่า พื้นที่ทับซ้อน ในขณะที่ฝ่ายเขมรกลับยืนยันหนักแน่นว่า เป็นดินแดนเขมร !!
---------------------
ซึ่งเขมร โดยฮุนเซ็นมันพวกสันดานขี้โกง พอเห็นไทยเปิดโอกาสให้นำแผนที่1ต่อ2แสนเข้ามาร่วมเจรจาได้
ซึ่งเขมรมันไม่คิดในทางดีกับไทย เหมือนแบบที่นายชวนคิดดีต่อเขมร
เขมรมันไม่คิดแบบใสซื่อบริสุทธิ์แบบรัฐบาลไทย แต่เขมรมันกลับถือว่า ไทยยอมรับแผนที่1:2 แสนของมันแล้ว
ยิ่งสมัยทักษิณดันไปทำMOU44 และTOR2546 ย้ำเข้าไปอีก เสมือนรัฐบาลไทยสมัยทักษิณยอมรับแผนที่1ต่อ2แสนซ้ำ
แปลความง่ายๆคือ สมัยนายชวน เปิดโอกาสให้เขมรนำแผนที่1ต่อ2แสนเข้ามาเจรจาเพื่อสันติภาพ
แต่สมัยทักษิณดันไปยอมรับแผนที่1ต่อ2แสนสำทับซ้ำให้หนักแน่นเข้าไปอีก เพราะเพื่อหวังขายชาติ ทักษิณหวังสัมปทานร่วมกับฮุนเซ็นในทรัพยาการพลังงานกลางอ่าวไทย!!
---------------------------
และเมื่อไม่นานมานี้ นายฮอร์ นัม ฮง รมต.ต่างประเทศกัมพูชา เคยแถลงการณ์ว่า ไทยยอมรับแผนที่1ต่อ2แสนของเขมรแล้ว
ขอยกบางส่วนชองคำแถลงของนายฮอร์นัมฮง เมื่อวันที่14ก.พ.54 ตามนี้
ในเดือนมิถุนายน ค.ศ.2000 (พ.ศ.2543) กัมพูชาและประเทศไทยได้ลงนามบันทึกความ เข้าใจระหว่างรัฐบาลของราชอาณาจักรกัมพูชาและรัฐบาลของราชอาณาจักรไทยในการ สำรวจและจัดทำหลักเขตทางบก (mou43) ซึ่งได้ยอมรับ “แผนที่ดงรัก” (แผนที่ 1 ต่อ 2แสน) ซึ่งอ้างถึงโดยศาลยุติธรรมระหว่างประเทศสำหรับคำตัดสินในปี ๑๙๖๒ ว่าแผนที่ “ผนวก ๑” พร้อมด้วยเอกสารที่ชอบด้วยกฎหมายอื่น เป็นฐานทางกฎหมายสำหรับการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกระหว่างกัมพูชาและประเทศไทย
คลิกดูถ้อยแถลงของฮอร์ นัมฮง ทั้งหมด
-----------------------
ส่วนปัญหาปราสาทตาเมือนธม หรือ ปราสาทตาควาย ที่กำลังเกิดในตอนนี้ ก็เพราะมันเกิดจากเขมรยึดแผนที่1ต่อ2แสน ที่ลากมาจนถึงทั้งสองปราสาทด้วย เขมรจึงอ้างว่าทั้งสองปราสาทก็เป็นของเขมร
เพราะแผนที่ทั้ง2ปราสาท มันก็ลากมาจากแผนที่เดียวกันกับปราสาทเขาพระวิหารนั่นแหล่ะ
-----------------------
ถ้าถามผม ผมขอบอกว่า ปัญหามันเกิดจากความรักสงบเกินไปของรัฐบาลชวนในปี43 ที่ไม่ยอมผลักดันเขมรออกไปให้เด็ดขาดตั้งแต่ตอนนั้น แล้วยึดสนธิสัญญาปักปันเขตแดนค.ศ.1904 และ1907 สยาม-ฝรั่งเศสเป็นหลัก เพราะแผนที่ทั้ง 2 ฉบับนั้นได้ยึดเส้นสันปันน้ำเป็นหลัก หากเขมรรุกรานก็ผลักดันออกไปซะ
แต่เพราะรัฐบาลชวน กลับไปยินยอมให้เขมรนำแผนที่ที่เคยเป็นปัญหาจนไทยเสียปราสาทพระวิหารมาแล้ว เข้ามาร่วมเจรจาใน MOU43 ได้
นั่นเพราะไม่อยากให้เกิดการรบ ไม่อยากให้เกิดการปะทะกัน หวังดีต่อ2 ประเทศ เลยกลายเป็นทำร้ายประเทศภายหลัง
ก็เพราะรัฐบาลนายชวน ไม่ยอมตัดไปแต่ต้นลมเสียตั้งแต่ ที่เราได้เปรียบเรื่องความชอบธรรมในการปกป้องอธิปไตยของชาติ
เพราะตอนนั้นค่อนข้างชัดเจนว่า เขมรยอมรับอธิปไตยของไทยในพื้นที่ตรงนั้นมากว่า40ปีแล้ว
แต่ในวันนี้ ไทยเราอาจไม่ได้เปรียบเรื่องความชอบธรรมในการปกป้องอธิปไตยแล้ว เพราะปัญหาแผนที่1ต่อ2แสน ที่เขมรใช้จนได้รับการอนุมัติให้ขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารได้สำเร็จ
นายชวน กลัวการรบในวันนั้น ก็ไม่ได้ช่วยให้วันนี้ไม่ต้องรบ แถมการรบหนักข้อกว่าเดิม เพราะเขมรมั่นใจในหลักฐานของตัวเองมากขึ้นกว่าวันนั้นแล้ว
(การขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหาร จะเกิดขึ้นเสร็จสิ้นโดยสมบูรณ์ ก็ต่อเมื่อเขมรส่งแผนจัดการพื้นที่ต่อคณะกรรมการมรดกโลกแล้ว ซึ่งตอนนี้เขมรก็ยังไม่ได้ส่ง ทำให้ปราสาทเขาพระวิหารจึงยังไม่ได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกสักที)
----------------------
ฟังชัดๆ ศ.ดร.สมปอง สุจริตกุล ทนายผู้ประสานงานคณะทนายฝ่ายไทยในคดีปราสาทพระวิหาร พ.ศ.2502-2505 พูดถึงแผนที่ 1 ต่อ 2 แสน ใน MOU43
คลิกอ่าน ทำไมราตรี วีระ ไม่ควรโดนจับ !!