ถ้าท่านขับรถ ก็คงเคยได้ยินวิธีลดกลิ่นอับและป้องกันกลิ่นอับของแอร์ในรถยนตร์ ด้วยการปิดA/C หริอปิดความเย็นให้คอมเพรสเซอร์หยุดทำงาน และให้เปิดเฉพาะพัดลมแรงๆ เพื่อไล่ความเย็นและความชื้นที่ยังค้างอยู่ในระบบให้หมด ก่อนจะกลับถึงบ้านสัก3-5นาที เพื่อจะได้ไม่ให้แอร์เก็บความชื้นไว้จนเหม็นอับ
และเพื่อป้องกันการเกิดเชื้อราจากความอับชื้นในระบบแอร์
นั่นคือข้อแนะนำการปิดแอร์รถเพื่อไม่ให้เกิดกลิ่นเหม็นอับ
และอีกข้อแนะนำเพื่อป้องกันแอร์อุดตันได้ง่าย ก็คืออย่าใช้พวกเจลปรับอากาศ หรือน้ำหอมปรับอากาศ เพราะพวกนี้จะจับตัวเป็นเมือกเกาะที่แผงความเย็นแอร์ ทำให้แอร์อุดตันได้ง่าย
------------------------------
วิธีที่แนะนำสำหรับการใช้แอร์ในรถนั้น ก็ไม่แตกต่างจากการใช้แอร์ในบ้าน
เพียงแต่ผู้คนส่วนใหญ่ มักไม่ให้ความสำคัญกับการปิดแอร์ในบ้านอย่างถูกสุขลักษณะ ส่วนใหญ่ตอนเปิดก็ตั้งความเย็นไว้ แต่พอจะปิดก็ปิดที่ปุ่มpower เลยทันที
โดยไม่ไล่ความเย็นความชื้นที่คั่งค้างในแอร์ออกให้หมดเสียก่อน
วันนี้ผมจึงอยากให้ทุกๆคน ก่อนจะปิดแอร์ในบ้าน ก็ควรปิดปุ่มทำความเย็นเสียก่อน ให้มีแต่พัดลมเป่าไล่ความเย็นและความชื้นออกไป เป็นเวลาอย่างน้อยสัก15นาที ก่อนที่จะปิดแอร์ไปเลยจริงๆ
เพื่อป้องกันความอับชื้น และช่วยให้แอร์สกปรกช้าลง จากการที่ความชื้นและฝุ่นไม่ถูกไล่ออกมาให้หมด
------------------------
แอร์บ้านรุ่นใหม่ในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา จะมีปุ่มที่ปิดความเย็น แล้วปล่อยให้เหลือแต่ลมล้วนๆที่ปราศจากความเย็น ก็เพื่อป้องกันความอับชื้นที่แหล่ะครับ
ไม่งั้นบริษัทแอร์เขาไม่ทำปุ่มนี้ไว้ที่รีโมทหรอกครับ!!
-----------------
วิธีคลายร้อนแบบไม่เปลืองค่าไฟแอร์
1. กลางวัน เปิดแอร์ที่อุณหภูมิ 28 องศา แล้วให้เปิดพัดลมช่วย ในห้อง
2. กลางคืนเปิดแอร์ที่ 27 องศา แล้วให้เปิดพัดลมช่วยในห้อง
3. หันมาเลิกห่มผ้านวม ห่มผ้าห่มที่บางขึ้น แล้วเพิ่มอุณหภูมิแอร์ที่เคยตั้งไว้อีก 1-2 องศา ช่วยประหยัดการใช้แอร์ได้
4. ลดการกินอาหารจำพวกผัด ทอด ลดอาการร้อนจากภายในได้ หันมากินของนึ่ง ต้ม ให้มากขึ้น
ไม่เคยรู้เลย ขอบคุณนะคะ
ตอบลบสวัสดีครับคุณarporn ^^
ตอบลบข้อมูลดีมากเลยครับ ขอบคุณมาก
ตอบลบ