ครั้งแรกที่ผมเห็นในข่าวทีวีเมื่อกลางเดือนต.ค.53 ข่าวตอนเที่ยงคืนช่องโมเดิร์นไนน์ เกี่ยวกับเขื่อนป่าสักล้น จนน้ำท่วมลพบุรีทั้งอำเภอเมือง ย้ำ!นะครับว่า อำเภอเมืองท่วมกว่า50ซม.แล้ว
ข่าวตอนนั้น ก็ไม่ใช่ข่าวดังอะไร ไม่เห็นสื่อใหญ่อย่างช่อง3 ช่อง7 พูดถึงข่าวน้ำท่วมทั้งอำเภอเมืองลพบุรี ที่ท่วมสูงร่วม 50 ซม.แล้ว
แต่ผ่านไปอีกร่วม ๆ อาทิตย์ พอโคราชที่ อ.ปากช่อง เกิดน้ำท่วมหนักบ้าง
ตอนนี้แหละ ที่ข่าวทีวีเริ่มสนใจข่าวน้ำท่วมที่โคราช เพราะมันท่วมหนักมาก ๆ และหนักลามไปเกือบทั้งจังหวัดนครราชสีมา เพราะท่วมไป 28 อำเภอจากทั้งหมด 32 อำเภอ (ถ้าจำตัวเลขไม่ผิด)
เอาเป็นว่า ข่าวน้ำท่วมมาดังกระฉูดเมื่อน้ำท่วมโคราชเกือบทั้งจังหวัดอย่างหนักแล้ว แต่ก็แทบไม่มีสื่อใดสนใจข่าวน้ำท่วมที่จังหวัดลพบุรีเลย
ซึ่งภายหลังคุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา ก็เพิ่งมาสารภาพในรายการเรื่องเล่าเช้านี้เองว่า ทุกสื่อรวมทั้งตัวเขาเองมุ่งความสนใจไปที่นครราชสีมา และเพิ่งจะรู้ว่า ลพบุรีท่วมหนักกว่า และท่วมก่อนโคราชด้วยซ้ำ
---------------------------
ฝนที่ทำน้ำท่วมโคราช และลพบุรี สระบุรี ลามไปอีกหลายจังหวัด นั้น เกิดจากฝนตกอย่างไม่ลืมหูลืมตาทั่วพื้นที่หลายจังหวัดเป็นบริเวณกว้าง และตกนาน
โดยไม่มีพายุเข้าแต่อย่างใด!! ย้ำ!! ฝนตกที่โคราช ลพบุรี สระบุรี ชัยภูมิ และอีกหลายๆจังหวัด เป็นฝนตกหนักทั่วบริเวณกว้างอย่างนาน โดยไม่เกี่ยวกับมีพายุแต่อย่างใด
จากเดือนกรกฎาคม เขื่อนหลาย ๆแห่งก็แห้งขอดเหลือไม่ถึง 10% ของความจุ แต่ช่วงเวลาไม่กี่เดือน น้ำกลับล้นเขื่อนหลายเขื่อน
นี่คือวิกฤติธรรมชาติแท้ ๆ ที่บันดาลฝนมากมายขนาดนี้!! (ผลพวงจากเราไม่รักธรรมชาติ ธรรมชาติเลยไม่รักเรา)
-------------------------
นอกจากนั้นในที่ลุ่มภาคกลางหลายจังหวัด ทั้งอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี สุพรรณบุรี (กาญจนบุรีท่วมไปแล้วก่อนเพื่อน) ชัยนาท ก็ท่วมหนักพอๆกับเมื่อปี2549
กรุงเทพก็เสี่ยงต่อน้ำท่วมจากแม่น้ำเจ้าพระยาทะลักเข้าท่วมกรุง อีกครั้ง
แต่ที่สุดแล้ว กรุงเทพฯ ชั้นในก็รอดน้ำท่วมใหญ่ได้อีกครั้งอย่างหวุดหวิด เพราะมีเขื่อนกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา และระบบจัดการน้ำที่ในหลวงทรงวางแผนไว้เมื่อหลายปีก่อนยังพอรองรับน้ำไว้ได้
---------------------------
แต่ช่วงเวลาใกล้กัน ที่ อ.หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และจังหวัดของภาคใต้ตอนล่างหลายจังหวัดกลับวิกฤติหนัก ฝนกระหน่ำคืนเดียว จมบาดาล
มีฝนตก 2วัน2คืน จนระดับน้ำฝนมากถึง 500 กว่ามิลลิเมตรปรอท ซึ่งโดยทั่วไป ถ้าฝนตกแค่100กว่ามิลลิเมตรปรอท ก็ท่วมมากแล้ว
เกิดพายุดีเพรสชั่นเข้าจังหวัดสงขลา เล่นเอาฝนตกหนักสุด ๆ ตกต่อเนื่องเพียงข้ามคืน สงขลาหาดใหญ่จมน้ำในทันทีร่วมเมตรถึง3เมตร กลายเป็นฝนที่ตกหนักที่สุดในประวัติศาสตร์ของสงขลาและหาดใหญ่
แต่ ณ.วันที่ผมเขียนบทความนี้ น้ำท่วมในหาดใหญ่เริ่มลดลงเข้าสู่สภาวะปกติในหลายพื้นที่แล้ว นั่นก็เพราะระบบบจัดการน้ำที่ในหลวงทรงแนะนำให้สร้างไว้เมื่อครั้งน้ำท่วมใหญ่ปี2543 ตามแนวทางในพระราชดำริ
-------------------------------
ผมมาลองคิดว่า ถ้ากรุงเทพฯ มีฝนตกหนักหลายวันหลายคืนไม่หยุดหย่อนเป็นบริเวณกว้างบ้างแบบที่โคราช ลพบุรีบ้างล่ะ??
หรือกรุงเทพฯ มีพายุเข้า แล้วมีฝนมากขนาด 400-600มล.ปรอท เหมือนที่หาดใหญ่ 2 วัน 2 คืนบ้างล่ะ??
กรุงเทพฯ จะเป็นยังไง ลองคิดดูเถิด ??
ท่านผู้ว่า กทม. หรือรัฐบาล น่าจะ ลองสมมุติว่าเหตุการณ์แบบนั้นมาเกิดที่กรุงเทพบ้างล่ะ?? ย้ำ!! ต้องลองสมมุติสถานการณ์วิกฤติแบบนั้นขึ้นมาจะได้ลองคิดหาทางรับมือไว้ก่อน
ถามว่า วันนี้กรุงเทพฯมีระบบจัดการดีพอรับสถานการ์วิกฤติหนักขนาดนั้นหรือยัง?? ผมเชื่อว่า ยังไม่มี!! หรือมีแต่ไม่พอ!!
แต่ทุกวันนี้อากาศโลกมันวิกฤติมาก ภัยธรรมชาติทุกอย่างอาจเกิดขึ้นได้อย่างไม่เคยคาดว่าจะเกิดขึ้นได้มาก่อน
ต้องลองสมมุติว่า ถ้ากรุงเทพเจอแบบโคราช หรือเจอแบบที่หาดใหญ่สงขลาบ้างสิ ว่าเราจะรับมือกันอย่างไรไหว??
ต้องคิดและเตรียมการณ์ไว้ได้แล้ว ไม่ใช่วัวหายล้อมคอกแบบเดิม ๆ อีก
------------------------------
ที่สำคัญ รัฐบาลต้องป้องกันเหตุการณ์หนักแบบนี้ให้สำเร็จหรือลดความรุนแรงลงให้ได้ในทุกๆจังหวัดที่เกิดวิกฤติคราวนี้ ว่าจะแก้ไขระยะยาวอย่างไรต่อไป
ถ้ายังไม่คิด หรือป้องกันไว้ คนกรุงเทพเตรียมใจได้เลยครับว่า อีกไม่นานกรุงเทพจมบาดาลแน่ๆ
.
.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ถ้าแสดงความเห็นตรงช่องนี้ผมจะได้อ่านทุกความเห็นครับ แต่ถ้าความเห็นไม่ขึ้นอาจเพราะระบบรอตรวจสแปม ต้องรอ1-2วัน / ใหม่ เมืองเอก kaeake@ymail.com