.
(บทนี้คือบทความตกค้างที่ผมยังเขียนไม่เสร็จครับ) อ่านบทความขออภัย
atsuhime 127
อ่านเจ้าหญิงอัตสึที่รัก 126
และเมื่อท่านอิเอโมจิได้มาเยี่ยมท่านเท็นโชอิน
ท่านเท็นโชอิน "เรื่องแต่งงานนี่ ท่านอิเอโมจิคิดว่าอย่างไรบ้างล่ะ?
ท่านคุโบ "ก็อย่างที่เคยบอกแล้วน่ะขอรับ ตอนนี้ยังเร็วไปสำหรับข้า มันยังเร็วเกินไปน่ะขอรับ"
"ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เร็วหรือว่าช้านะ! การแต่งงานของโชกุนมีผลทางการเมืองแน่อยู่แล้ว แต่ที่ข้าถาม เพราะอยากรู้ความในใจของท่าน"
"บะขุฝุจะเรียกความศรัทธาคืนมา ด้วยวิธีการแบบนี้ไม่รู้ว่าผิดหรือถูก ตอนนี้ข้าไม่รู้หรอก คิดอยู่แค่นี้เองขอรับ" / "เข้าใจละ"
"แต่ที่แน่ๆ เรื่องการแต่งงานนี้จักรพรรดิจะทรงยอมหรือเปล่า ก็ยังไม่มีใครรู้เลยนะขอรับ" / "ที่พูด..มันก็จริงอยู่"
"เพราะฉะนั้นคิดแค่นี้ก็พอแล้ว คิดมากไปก็ไม่มีประโยชน์หรอกขอรับ"
ท่านเท็นโชอินได้ฟังท่านอิเอโมจิกล่าวแบบนี้ ก็ถึงอึ้ง! "จริงสิ..!?..จริงด้วยสินะ!?"
"อึ้ม!! อาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้นะ!!" แล้วท่านเท็นโชอินก็ถึงบางอ้อ!! (ท่านคุโบแอบขำ)
"เป็นอะไรไปล่ะ?" / "เปล่าขอรับ" ท่านคุโบอดขำไม่ได้ เมื่อเห็นท่าทางท่านเท็นโชอินแบบนั้น
.
วันนี้ท่านเท็นโชอินได้เห็นถึงความสุขุมของท่านอิเอโมจิแล้ว
-------------------------
อีกด้านหนึ่งที่แคว้นสัทสุมะ หลังจากเหตุการณ์นอกประตูซากุระดะจบลง ซามุไรหนุ่มคนนึงก็กลับมาบ้าน
คืนวันนั้นกลุ่มซามุไรระดับล่างแห่งสัทสุมะนั่งดื่มและหารือกัน
อาริมะ "ได้ยินว่าคนที่ตัดหัวอี คือจิเซม่อน ใช่รึเปล่า?" / "ใช่! น้องชายข้าทำงานสำเร็จอย่างดีเยี่ยม และเขาได้ทำฮาราคีรีไปแล้ว" ท่า่นชุนไซตอบ
ในทีนั้น 'ยูสุเกะ' น้องชายอีกคนของท่านชุนไซ ซามุไรแห่งสัทสุมะอีกคนที่ร่วมในการลอบสังหารไทโรอีก็นั่งอยู่ในห้องด้วย สีหน้าของเขาดูเศร้ามากๆ
โอยามะ "ดีแล้วล่ะ น้องชายของพวกเจ้าเป็นศรีแก่กลุ่มเซจูของพวกเรา" / "นักรบแห่งสัทสุมะต้องกล้าหาญอย่างนี้แหล่ะ ใช่มั้ย!!" อิจิชิพูดเสริม
"ใช่แล้ว! ใช่แล้ว!" เพื่อนๆต่างเห็นด้วย (ส่วนท่านโอคุโบะที่นั่งฟังอยู่ด้วย ก็ได้แต่ดื่มเหล้าด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด)
ระหว่างนั้นทาเตวากิได้เปิดประตูเข้ามาในห้อง
โอยามะ "อ้าว ว่าอย่างไรท่านโคมัทสึ?"
ทาเตวากิมีสีหน้าเคร่งเครียดมาก และหันไปมองทางท่านโอคุโบะ แล้วส่ายหัวเหมือนบอกอะไรบางอย่าง!
อาริมะ "มีอะไรกันเหรอ? ทำเป็นลับลมคมใน!!"
ท่านโอคุโบะหันไปถามทาเตวากิว่า "ยูสุเกะ ถูกสั่งให้ทำฮาราคีรีใช่มั้ย?" / "ใช่" ทาเตวากิตอบ
อิจิชิ "แล้วทำไมต้องทำด้วยล่ะ? ยูสุเกะเป็นนักรบแถวหน้าของพวกเรา เป็นเกียรติเป็นศรีของกลุ่มเรานะ ทำไมต้องทำฮาราคีรี ทำไมต้องล้างอายด้วยเล่า!?"
ทาเตวากิ "เพื่อไม่ให้แคว้นเราต้องรับผิดชอบ ไม่ให้บะขุฝุหาว่าแคว้นเราสั่งน่ะสิ" / "แปลว่าเรากลัวบะขุฝุจะโกรธ เลยต้องเอาใจมันใช่มั้ย?" ท่านอาริมะชักเดือด
นาฮาระ "พวกเราเป็นควาย ยอมให้มันสนตะพายรึยังไง!!?" / "นาฮาระ!!" ท่านโอคุโบะตวาดเพื่อให้เพื่อนระงับอารมณ์
อาริมะ "เราไม่ยอมให้ทำฮาราคีรีหรอกน่า! ถ้าทางแคว้นไม่ปกป้องคนร่วมอุดมการณ์ของพวกเรา พวกเราก็จะปกป้องชีวิตยูสุเกะเอง!!"
"ใช่! ใช่! ใช่!" ซามุไรเลือดเดือดต่างลุกขึ้นเพื่อสนับสนุนความคิดของท่านอาริมะ แต่..
"เดี๋ยวๆ เดี๋ยวก่อน! ทั้งยูสุเกะและจิเซม่อน ลั่นปากเอาไว้แล้วว่า จะไม่ทำให้มีภัยมาถึงท่านเจ้าแคว้น เพราะฉะนั้นพวกน้องชายข้า จึงไม่ต้องการให้ทางแคว้นมาปกป้องเรา ตัวข้าเองก็ยังอยากจะ.. ให้น้องชายทำฮาราคีรีด้วยซ้ำไป" ท่านชุนไซกล่าวและมองไปทางท่านจิเซม่อน ผู้เป็นน้อง
"พูดอย่างนี้ยังเป็นพี่ชายของยูสุเกะรึเปล่าเนีย!!?" ท่านอาริมะเดือดอย่างที่สุด / "เพราะข้าเป็นพี่น่ะสิถึงได้พูดแบบนี้!!" ท่านชุนไซสวนกลับทันที
บรรยากาศในห้องต่างเดือดและโศกเศร้าไปพร้อมๆกัน
"ข้าน่ะ เตรียมจะทำแบบนี้ตั้งแต่ตอนแรกแล้ว" ยูสุเกะ กล่าว
ชุนไซ"ยูสุเกะ ก็แค่อยากตายอย่างมีเกียรติ อย่างที่ซามุไรควรจะเป็นเท่านั้นเอง" / "ท่านชุนไซ.." ทาเตวากิน้ำตาคลอ
หลังจากได้ฟังเหตุผลจากท่านชุนไซแล้ว ทุกคนในที่นั้นต่างนิ่งและโศกเศร้า ส่วนท่านอาริมะเองก็เข้าไปกอดยูสุเกะและร้องไห้อย่างอาลัย
--------------------------
วันต่อมา ท่านทาดายุกิ ในฐานะผู้ดูแลเจ้าแคว้น ขณะท่านกำลังคุมการฝึกซ้อมยิงปืนใหญ่อยู่ ทาเตวากิก็เข้ามารายงาน
ทาเตวากิ "นายท่าน ข้ามีเรื่องด่วนจะต้องพูดกับท่านขอรับ!"
ท่านทาดายุกิสั่งทหาร "หยุดยิงก่อน!"
เมื่อสิ้นเสียงปืนแล้ว
"ว่ามาเลย" / "เราเสียสมาชิกกลุ่มเซจูไปแล้ว2คนขอรับ และดูเหมือนคนอื่นๆก็กำลังจะเอาใจออกห่างจากแคว้นเราแล้วขอรับ"
"พวกที่เสนอตัวจะทำงานให้สัทสุมะ ถึงขนาดกรีดเลือดเขียนจดหมายมานั่นน่ะเหรอ?" / "ถ้านายท่านไม่ยับยั้งพวกเขาไว้ก่อน พวกเขาก็จะจากไปจริงๆนะขอรับ"
"คนที่มีความสามารถ พอที่จะเป็นผู้นำกลุ่มเซจูได้น่ะมีมั้ย?" / "มีขอรับ!"
"โอคุโบะ โชสุเกะ งั้นรึ!?"
-------------------------
ต่อมา ทาเตวากิก็ได้พาท่านโอคุโบะเข้าพบท่านทาดายุกิ
ท่านทาดายุกิ "เงยหน้าขึ้นเถอะ" / "ขอรับ" ท่านโอคุโบะตอบ
"ข้าจะเรียกเจ้าว่าผู้แทนของกลุ่มเซจูก็แล้วกันนะ มีอะไรในใจก็พูดออกมาได้เลย ไม่ต้องเกรงใจ"
"ขอรับ!.. คราวก่อนที่พวกข้ายื่นหนังสือมา เพราะว่าพวกเราทั้งหมด อัดอั้นตันใจอย่างมากเหมือนกันทุกคนน่ะขอรับ" / "อืม.."
"ขออภัยขอรับ สิ่งที่เขียนไว้ในจดหมายนั้น เป็นวิธีจัดการกับเหตุที่ไม่คาดคิดที่อาจจะเกิดขึ้น ท่านนาริอาคิระที่เสียไปจึงวางแผนเพื่อให้สัทสุมะของเราสามารถปกป้องญี่ปุ่นได้ขอรับ" / "เจ้าพูดถูกต้อง"
"อย่างที่เราทราบกันว่าที่เอโดะ ไทโรผู้เป็นใหญ่ที่สุดในรัฐบาล สั่งให้ปราบปรามประชาชนอย่างรุนแรง ตอนนี้ถึงเวลารึยังที่สัทสุมะของเรา ควรจะเข้าไปปฏิรูปบะขุฝุเสียที!!"
"เจ้ากำลังเสนอให้ส่งทหารออกไปใช่มั้ย?" / "นายท่านเข้าใจถูกต้องแล้วขอรับ!!"
ทาเตวากิได้ยินข้อเสนอของท่านโอคุโบะก็ถึงกับตกใจ แต่ท่่านทาดายุกิกลับนิ่งสงบ ยังไม่ตอบอันใด จนทาเตวากิกับท่านโอคุโบะต้องมองไปที่ท่าน
ท่านทาดายุกิจึงชี้แจงเหตุผลว่า "ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลานั้น.. การลอบสังหารท่านอีน่ะเป็นเรื่องใหญ่ก็จริง แต่ไม่ใช่สงคราม ถ้าหากผลีผลามส่งทหารไปโดยไม่คิด ก็มีแต่จะทำให้เกิดปัญหาใหม่ขึ้นมาอีกเท่านั้น แต่เรื่องสำคัญที่ีสุดก็คือ ข้าคิดว่าพวกเจ้าทั้งกลุ่มเป็นคนที่มีประโยชน์ต่อแคว้นอย่างมาก ถ้ายังมีชีวิตอยู่ ข้าก็ไม่อยากจะให้พวกเจ้าเอาชีวิตไปทิ้งเสียเปล่าๆ เข้าใจมั้ย?"
-------------------------
อีกด้านหนึ่งที่แคว้นสัทสุมะ หลังจากเหตุการณ์นอกประตูซากุระดะจบลง ซามุไรหนุ่มคนนึงก็กลับมาบ้าน
คืนวันนั้นกลุ่มซามุไรระดับล่างแห่งสัทสุมะนั่งดื่มและหารือกัน
อาริมะ "ได้ยินว่าคนที่ตัดหัวอี คือจิเซม่อน ใช่รึเปล่า?" / "ใช่! น้องชายข้าทำงานสำเร็จอย่างดีเยี่ยม และเขาได้ทำฮาราคีรีไปแล้ว" ท่า่นชุนไซตอบ
ในทีนั้น 'ยูสุเกะ' น้องชายอีกคนของท่านชุนไซ ซามุไรแห่งสัทสุมะอีกคนที่ร่วมในการลอบสังหารไทโรอีก็นั่งอยู่ในห้องด้วย สีหน้าของเขาดูเศร้ามากๆ
โอยามะ "ดีแล้วล่ะ น้องชายของพวกเจ้าเป็นศรีแก่กลุ่มเซจูของพวกเรา" / "นักรบแห่งสัทสุมะต้องกล้าหาญอย่างนี้แหล่ะ ใช่มั้ย!!" อิจิชิพูดเสริม
"ใช่แล้ว! ใช่แล้ว!" เพื่อนๆต่างเห็นด้วย (ส่วนท่านโอคุโบะที่นั่งฟังอยู่ด้วย ก็ได้แต่ดื่มเหล้าด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด)
ระหว่างนั้นทาเตวากิได้เปิดประตูเข้ามาในห้อง
โอยามะ "อ้าว ว่าอย่างไรท่านโคมัทสึ?"
ทาเตวากิมีสีหน้าเคร่งเครียดมาก และหันไปมองทางท่านโอคุโบะ แล้วส่ายหัวเหมือนบอกอะไรบางอย่าง!
อาริมะ "มีอะไรกันเหรอ? ทำเป็นลับลมคมใน!!"
ท่านโอคุโบะหันไปถามทาเตวากิว่า "ยูสุเกะ ถูกสั่งให้ทำฮาราคีรีใช่มั้ย?" / "ใช่" ทาเตวากิตอบ
อิจิชิ "แล้วทำไมต้องทำด้วยล่ะ? ยูสุเกะเป็นนักรบแถวหน้าของพวกเรา เป็นเกียรติเป็นศรีของกลุ่มเรานะ ทำไมต้องทำฮาราคีรี ทำไมต้องล้างอายด้วยเล่า!?"
ทาเตวากิ "เพื่อไม่ให้แคว้นเราต้องรับผิดชอบ ไม่ให้บะขุฝุหาว่าแคว้นเราสั่งน่ะสิ" / "แปลว่าเรากลัวบะขุฝุจะโกรธ เลยต้องเอาใจมันใช่มั้ย?" ท่านอาริมะชักเดือด
นาฮาระ "พวกเราเป็นควาย ยอมให้มันสนตะพายรึยังไง!!?" / "นาฮาระ!!" ท่านโอคุโบะตวาดเพื่อให้เพื่อนระงับอารมณ์
อาริมะ "เราไม่ยอมให้ทำฮาราคีรีหรอกน่า! ถ้าทางแคว้นไม่ปกป้องคนร่วมอุดมการณ์ของพวกเรา พวกเราก็จะปกป้องชีวิตยูสุเกะเอง!!"
"ใช่! ใช่! ใช่!" ซามุไรเลือดเดือดต่างลุกขึ้นเพื่อสนับสนุนความคิดของท่านอาริมะ แต่..
"เดี๋ยวๆ เดี๋ยวก่อน! ทั้งยูสุเกะและจิเซม่อน ลั่นปากเอาไว้แล้วว่า จะไม่ทำให้มีภัยมาถึงท่านเจ้าแคว้น เพราะฉะนั้นพวกน้องชายข้า จึงไม่ต้องการให้ทางแคว้นมาปกป้องเรา ตัวข้าเองก็ยังอยากจะ.. ให้น้องชายทำฮาราคีรีด้วยซ้ำไป" ท่านชุนไซกล่าวและมองไปทางท่านจิเซม่อน ผู้เป็นน้อง
"พูดอย่างนี้ยังเป็นพี่ชายของยูสุเกะรึเปล่าเนีย!!?" ท่านอาริมะเดือดอย่างที่สุด / "เพราะข้าเป็นพี่น่ะสิถึงได้พูดแบบนี้!!" ท่านชุนไซสวนกลับทันที
บรรยากาศในห้องต่างเดือดและโศกเศร้าไปพร้อมๆกัน
"ข้าน่ะ เตรียมจะทำแบบนี้ตั้งแต่ตอนแรกแล้ว" ยูสุเกะ กล่าว
ชุนไซ"ยูสุเกะ ก็แค่อยากตายอย่างมีเกียรติ อย่างที่ซามุไรควรจะเป็นเท่านั้นเอง" / "ท่านชุนไซ.." ทาเตวากิน้ำตาคลอ
หลังจากได้ฟังเหตุผลจากท่านชุนไซแล้ว ทุกคนในที่นั้นต่างนิ่งและโศกเศร้า ส่วนท่านอาริมะเองก็เข้าไปกอดยูสุเกะและร้องไห้อย่างอาลัย
--------------------------
วันต่อมา ท่านทาดายุกิ ในฐานะผู้ดูแลเจ้าแคว้น ขณะท่านกำลังคุมการฝึกซ้อมยิงปืนใหญ่อยู่ ทาเตวากิก็เข้ามารายงาน
ทาเตวากิ "นายท่าน ข้ามีเรื่องด่วนจะต้องพูดกับท่านขอรับ!"
ท่านทาดายุกิสั่งทหาร "หยุดยิงก่อน!"
เมื่อสิ้นเสียงปืนแล้ว
"ว่ามาเลย" / "เราเสียสมาชิกกลุ่มเซจูไปแล้ว2คนขอรับ และดูเหมือนคนอื่นๆก็กำลังจะเอาใจออกห่างจากแคว้นเราแล้วขอรับ"
"พวกที่เสนอตัวจะทำงานให้สัทสุมะ ถึงขนาดกรีดเลือดเขียนจดหมายมานั่นน่ะเหรอ?" / "ถ้านายท่านไม่ยับยั้งพวกเขาไว้ก่อน พวกเขาก็จะจากไปจริงๆนะขอรับ"
"คนที่มีความสามารถ พอที่จะเป็นผู้นำกลุ่มเซจูได้น่ะมีมั้ย?" / "มีขอรับ!"
"โอคุโบะ โชสุเกะ งั้นรึ!?"
-------------------------
ต่อมา ทาเตวากิก็ได้พาท่านโอคุโบะเข้าพบท่านทาดายุกิ
ท่านทาดายุกิ "เงยหน้าขึ้นเถอะ" / "ขอรับ" ท่านโอคุโบะตอบ
"ข้าจะเรียกเจ้าว่าผู้แทนของกลุ่มเซจูก็แล้วกันนะ มีอะไรในใจก็พูดออกมาได้เลย ไม่ต้องเกรงใจ"
"ขอรับ!.. คราวก่อนที่พวกข้ายื่นหนังสือมา เพราะว่าพวกเราทั้งหมด อัดอั้นตันใจอย่างมากเหมือนกันทุกคนน่ะขอรับ" / "อืม.."
"ขออภัยขอรับ สิ่งที่เขียนไว้ในจดหมายนั้น เป็นวิธีจัดการกับเหตุที่ไม่คาดคิดที่อาจจะเกิดขึ้น ท่านนาริอาคิระที่เสียไปจึงวางแผนเพื่อให้สัทสุมะของเราสามารถปกป้องญี่ปุ่นได้ขอรับ" / "เจ้าพูดถูกต้อง"
"อย่างที่เราทราบกันว่าที่เอโดะ ไทโรผู้เป็นใหญ่ที่สุดในรัฐบาล สั่งให้ปราบปรามประชาชนอย่างรุนแรง ตอนนี้ถึงเวลารึยังที่สัทสุมะของเรา ควรจะเข้าไปปฏิรูปบะขุฝุเสียที!!"
"เจ้ากำลังเสนอให้ส่งทหารออกไปใช่มั้ย?" / "นายท่านเข้าใจถูกต้องแล้วขอรับ!!"
ทาเตวากิได้ยินข้อเสนอของท่านโอคุโบะก็ถึงกับตกใจ แต่ท่่านทาดายุกิกลับนิ่งสงบ ยังไม่ตอบอันใด จนทาเตวากิกับท่านโอคุโบะต้องมองไปที่ท่าน
ท่านทาดายุกิจึงชี้แจงเหตุผลว่า "ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลานั้น.. การลอบสังหารท่านอีน่ะเป็นเรื่องใหญ่ก็จริง แต่ไม่ใช่สงคราม ถ้าหากผลีผลามส่งทหารไปโดยไม่คิด ก็มีแต่จะทำให้เกิดปัญหาใหม่ขึ้นมาอีกเท่านั้น แต่เรื่องสำคัญที่ีสุดก็คือ ข้าคิดว่าพวกเจ้าทั้งกลุ่มเป็นคนที่มีประโยชน์ต่อแคว้นอย่างมาก ถ้ายังมีชีวิตอยู่ ข้าก็ไม่อยากจะให้พวกเจ้าเอาชีวิตไปทิ้งเสียเปล่าๆ เข้าใจมั้ย?"
.
"ไปบอกผู้ร่วมอุดมการณ์ว่าจงเก็บชีวิตเอาไว้ทำงานที่มีประโยชน์จริงๆดีกว่า เข้าใจนะ!"
.
"ขอรับ!" ท่านโอคุโบะเข้าใจเจตนาของท่านทาดายุกิแล้ว
.
.
.
.
ถึงคุณใหม่เมืองเอก
ตอบลบพวกเรายังมีโอกาศได้อ่านเจ้าหญิงอัตสึบทที่ค้างอยู่
ต้องขอขอบคุณและชื่นชมคุณใหม่เมืองเอกมาก
ที่มีสมาธิตั้งมั่นเขียนได้จนจบตอน
ดิฉันเชื่อว่าถ้าคุณสามารถตั้งจิตใจให้สงบได้
อีกไม่กี่วันข้างหน้าคุณจะพาครอบครัวผ่านพ้นสภาวะนี้ไปได้
เป็นกำลังใจให้สุดๆค่ะ
Ladda/CM
ตามมาส่งกำลังใจค่ะ
ตอบลบผมทำใจพอรับในสิ่งร้ายที่เกิดขึ้นได้ระดับหนึ่ง
ตอบลบหากผมจะเขียนอัตสึอีกครั้ง ก็จะเขียนเฉพาะส่วนสำคัญเป็นหลัก
ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจขอรับ ^.^