ผมกลัวอาจจะมีผู้อ่านรอคอยบทความนาน(จริงๆไม่รู้ว่ามีแฟนประจำหรือเปล่าฮิๆ) เลยรีบมาปั่นบทความนี้ เพราะช่วงนี้ไม่ค่อยว่างครับ หากผิดพลาดหรือบกพร่องน้ำหนักเหตุผลไปหน่อยก็ขออภัยด้วย เวลาน้อยครับ
ตอนนี้ขอเป็นตอนสั้นรวมๆหลายเรื่อง เรื่องแรกเกิดจากดูรายการของสุทธิ หยุ่น เกี่ยวกับเรื่อง ต่างชาติกว้านซื้อที่ดินในประเทศยากจนเพื่อใช้ปลูกพืชอาหาร ผมเลยนึกถึงข่าวเมื่อปีที่แล้ว คือ
ข่าวทักษิณพานักธุรกิจซาอุฯมาดูที่นาจังหวัดสุพรรณ
ตอนแรกข่าวนี้ฮือฮามาก ท่ามกลางกระแสราคาพืชอาหารทั่วโลกแพงขึ้นก้าวกระโดด โดยเฉพาะข้าว เลยเกิดกระแสว่า จะมีชาวต่างชาติมากว้านซื้อที่นาในประเทศไทย เพื่อปลูกข้าวส่งกลับประเทศ และมีข่าวว่าทักษิณจะพานักธุรกิจอาหรับมาดูที่นาในไทย ซึ่งตอนแรกๆก็เกิดกระแสต่อต้านจากคนไทย เพราะกลัวทักษิณจะคิดขายชาติอีก?
และทักษิณพามาจริงๆ ทักษิณพานักธุรกิจชาวซาอุฯมาดูนาข้าวที่จังหวัดสุพรรณฯ และทักษิณก็ให้ข่าวกับนักข่าว่า ไม่ได้พานักธุรกิจมาซื้อที่ แต่พามาเพื่อดูวิธีปลูกข้าวของชาวนาไทย เพื่อจะได้หาทางช่วยเหลือด้านเทคโนโลยีแก่ชาวนาไทย และจะรับซื้อข้าวในราคาประกันที่สูง ขอเพียงทำสัญญาว่าจะส่งข้าวขายให้ประเทศเขา
ซึ่งดูเผินๆผ่านๆ ก็เหมือนเจตนาดี แต่หากมองย้อนกลับไปอีกที เราก็จะสงสัยว่า พวกแขกใจดีจริงๆเหรอ? คุณเชื่อมั้ย?
แล้วการที่อ้างว่า แขกจะช่วยเหลือด้านเทคโนโลยีแก่ชาวนาไทย งงมั้ย? แขกเก่งเรื่องเทคโนโลยีเหรอ? ถ้าเป็นอเมริกา หรือยุโรปพูดก็ยังพอน่าเชื่อกว่านี้ เท่าที่รู้ปัจจุบันแขกยังปลูกข้าวไม่เป็นด้วยซ้ำ ไม่เฉพาะข้าว พืชอื่นๆก็จัดว่า ยังด้อยพัฒนากว่าไทยเรามากด้วยซ้ำ
ผมเคยเขียนไว้ในบทความเก่าๆ มาทีนึงแล้วว่า ในสมัยปลายรัฐบาลทักษิณ ก็กำลังมีแนวคิดว่าจะแก้กฏหมายเกี่ยวกับการเปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติซื้อที่ดินในไทยได้มากขึ้นง่ายขึ้น หรืออาจเป็นเปิดโอกาสให้ต่างชาติเช่าที่ดินคนไทยได้ในระยะเวลายาวๆ แต่กฏหมายนี้ยังไม่เสร็จ รัฐบาลทักษิณยุบสภาเสียก่อน....
และเมื่อรัฐบาลสมชาย ที่ผ่านมา อดีตรัฐมนตรีคลังสมัยนั้น นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช ก็เคยเอ่ยปากพูดถึงแนวคิดเรื่องเปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติซื้อที่ดินได้มากขึ้นง่ายขึ้นเหมือนกัน
เท่าที่ผมเล่ามาก็แค่เพื่อสะกิดให้คุณผู้อ่านฉุกคิดเท่านั้น สุดแต่วิจารณญาณนะครับ แต่ที่แน่ๆ เพื่อนทักษิณที่ชื่อฮุนเซน ดำเนินงานเรื่องแขกซื้อที่นาแล้วครับ (คลิก อ่านข่าวฮุนเซน)
เจองูกับเจอแขก โบราณว่า ให้ตีอะไรก่อนนะ แขกใจดี๊ ใจดีจริงๆเลย!?!
.
.
อ่านประชาชาติธุรกิจ วิเคราะห์ปัญหาการฮุบที่ดินของต่างชาติ
.
************************************************
...................ลองคลิกที่หน้าจตุพรดูสิครับ แล้วคุณจะได้พบแฝดผิดฝาของจตุพร
.
จตุพร พรหมพันธุ์ อ่อนนัก
จตุพร เป็นแกนนำเสื้อแดงจากความจริงวันนี้ เป็นหนึงเดียวที่เป็นสส.ในสภา เท่าที่ผมดูผมว่า ในบรรดา3เกลอหัวขวด จตุพรลูกล่อลูกชนยังอ่อนกว่า ณัฐวุฒิ สภาโจ๊ก กับ ไข่แม้วดำอย่างนายวีระเสียอีก
เพราะแต่ละเรื่องที่จตุพร พยายามถล่มนายกฯอภิสิทธิ์ ก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยเข้าตานายใหญ่สักเท่าไหร่ เช่นเรื่อง หนีทหารของนายกฯอภิสิทธิ์ ก็ดูจะอ่อนเรื่องกฏหมายไปหน่อย เลยมาตายน้ำตื้นง่ายๆ
สำหรับในความคิดเห็นผม เรื่องนายกฯหนีทหารผิดมั้ย ผมก็ต้องบอกว่า ผิดแน่นอน แต่ความผิดนั้นเป็นความผิดระดับไหน เช่นพระ ก็ยังมีอาบัติหลายๆขั้น ส่วนนายกฯอภิสิทธิ์นั้น ผิดแค่ไหน ตรงที่ไม่มารายงานตัวหรือผลัดผ่อน เพราะติดเรียนอยู่ที่เมืองนอก โดยเฉพาะผู้ปกครองของนายกฯไม่ได้สนใจเลยว่า ถึงเวลาที่ลูกต้องมาเกณฑ์แล้วนะ
ในบางครั้งการยึดหลักนิติศาสตร์กับรัฐศาสตร์ ก็ต้องนำมาพิจารณาว่าจะใช้อย่างไหนดีกว่ากัน แต่ภายหลังนายกฯกลับมาก็มาเป็นอาจารย์ทหารทดแทนความผิดที่กระทำ ในส่วนนี้ผมไม่แน่ใจว่าจะผิดจะถูกกฏหมายหรือไม่? แต่ที่รู้เขามาเป็นทหารชดใช้ความผิดแล้ว
(อดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน ก็เคยหนีทหารในสมัยสงครามเวียตนามเหมือนกันครับ)
ที่สำคัญ คดีก็หมดอายุความไปแล้ว และรัฐธรรมนูญก็ไม่ได้ห้ามว่านายกฯต้องผ่านการเกณฑ์ทหาร ทำให้นายจตุพรก็เลยหมดปัญญาเอาผิดนายกฯไปในที่สุด และถ้าจะอ้างจริยธรรม ก็อ้างไม่ค่อยขึ้นเท่าไหร่ ก็อย่างที่รู้ๆ นักการเมืองไทยหลายๆคน ทั้งสมัคร เนวิน ก็เคยติดคดี แต่ก็ดำรงตำแหน่งกันมาแล้วทั้งนั้น
ผมไม่ได้ชอบที่นายกฯหนีทหาร แต่เรื่องมันก็ผ่านมานานแล้ว จนหมดอายุความ คนเรามันผิดกันได้ เมื่อผ่านมาจนเลยเวลาที่จะเอาผิด ก็ต้องให้โอกาสคนเรากลับตัวได้จริงมั้ยครับ
*************************************************
จตุพร อ่อนอีกแล้ว
ก็เรื่องนายกษิต มาเป็นรมต.ต่างประเทศ ที่อ้างว่า เป็นพันธมิตรบ้าง หรือ เคยด่าฮุนเซนออกทีวีช่องเนชั่นบ้าง
เรื่องนี้ เป็นธรรมดาของนักการฑูตนะครับ เพราะฑูตมีไว้เจรจา ในเรื่องที่ขัดแย้ง ไม่ใช่ฑูตมีหน้าที่เอาใจต่างชาติ ชาติไหนๆ ฑูตเขาก็ต้องมีจุดยืนรักษาผลประโยชน์ชาติ หากจะด่าจะว่า ต่างชาติในบ้านเราเองก็คงไม่แปลก แต่เวลาไปเจรจาก็ต้องมีมารยาททางการฑูตเป็นธรรมดา ไม่มีผู้นำชาติไหนเขานำมาถือสาหาความกันเท่าไหร่หรอกครับ เขาแยกกันออกว่า กำลังดำรงสถานะใดในขณะนั้น
ฮุนเซน เองก็ไม่ได้ถือสาหาความ แถมยังทักทายกษิตในฐานะเคยร่วมงานกันในอดีตมาก่อน เรื่องเก่าๆของฮุนเซนเองก็ร้ายไม่หยอก ใครๆก็รู้ว่า กว่าฮุนเซนจะมาถึงตำแหน่งสำคัญนี้ก็ไม่ธรรมดา
.
กรณีนายกษิต จึงกล่าวได้ว่า เป็นกรณีต่างกรรม ต่างวาระ และต่างสถานะ
แม้แต่ยิว ปาเลสไตน์ เขาก็ประชุมจับมือกันได้บนโต๊ะแห่งการเจรจาทางการฑูต เลยครับ สรุปง่ายๆว่าเรื่องนี้ จตุพรก็อ่อนจริงๆ
*********************************************
ส่วนเรื่อง พันธมิตร เป็นผู้ก่อการร้ายนั้น ก็เป็นความคิดฝ่ายเดียวของนปช. เหตุผลสนับสนุนอ่อนมากทางคดีเรื่องผู้ก่อการร้ายครับ ผมเคยเขียนมาแล้วว่า แม้แต่สำนักข่าวต่างชาติ ก็ยังไม่เคยใช้คำว่า ผู้ก่อการร้ายกับพันธมิตร ตามที่ฝ่ายนปช.กล่าวหาเลยครับ ส่วนความผิดพันธมิตรเรื่องบุกสนามบิน ผิดแค่ไหนก็ต้องขึ้นศาลตัดสิน
*******************************************
ข่าวเมื่อวาน สถานี DTV ของนปช. นายอดิศร เพียงเกษ ประธานDTVแถลงว่า จะไม่มีการถ่ายทอดสดการชุมนุมใหญ่ที่สนามหลวง โดยจะทำการดีเลย์เทป ก่อนออกอากาศ เพื่อป้องกันจะมีการพูดก้าวล่วง...?
ผมสงสัยจังว่า ทำไมถึงใช้คำว่า ก้าวล่วง..? ลองคิดดูสิว่า คำว่า ก้าวล่วงใช้กับความหมายได้สักกี่เรื่อง!?
ผมว่า ท่าทางจะมีเจตนาไม่บริสุทธิ์ซะแล้ว ดา ตอปิโด ก็โดนคดีตอนที่ขึ้นพูดบนเวทีสนามหลวงมาแล้วครั้งนึง
ขอจบแค่นี้ก่อนนะครับ เวลาน้อยจริงๆเลยเฮ่อ!
.