วันศุกร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2552

คนเยี่ยงทักษิณ จตุพร

.
ผมกลัวอาจจะมีผู้อ่านรอคอยบทความนาน(จริงๆไม่รู้ว่ามีแฟนประจำหรือเปล่าฮิๆ) เลยรีบมาปั่นบทความนี้ เพราะช่วงนี้ไม่ค่อยว่างครับ หากผิดพลาดหรือบกพร่องน้ำหนักเหตุผลไปหน่อยก็ขออภัยด้วย เวลาน้อยครับ

ตอนนี้ขอเป็นตอนสั้นรวมๆหลายเรื่อง เรื่องแรกเกิดจากดูรายการของสุทธิ หยุ่น เกี่ยวกับเรื่อง ต่างชาติกว้านซื้อที่ดินในประเทศยากจนเพื่อใช้ปลูกพืชอาหาร ผมเลยนึกถึงข่าวเมื่อปีที่แล้ว คือ


ข่าวทักษิณพานักธุรกิจซาอุฯมาดูที่นาจังหวัดสุพรรณ


ตอนแรกข่าวนี้ฮือฮามาก ท่ามกลางกระแสราคาพืชอาหารทั่วโลกแพงขึ้นก้าวกระโดด โดยเฉพาะข้าว เลยเกิดกระแสว่า จะมีชาวต่างชาติมากว้านซื้อที่นาในประเทศไทย เพื่อปลูกข้าวส่งกลับประเทศ และมีข่าวว่าทักษิณจะพานักธุรกิจอาหรับมาดูที่นาในไทย ซึ่งตอนแรกๆก็เกิดกระแสต่อต้านจากคนไทย เพราะกลัวทักษิณจะคิดขายชาติอีก?


และทักษิณพามาจริงๆ ทักษิณพานักธุรกิจชาวซาอุฯมาดูนาข้าวที่จังหวัดสุพรรณฯ และทักษิณก็ให้ข่าวกับนักข่าว่า ไม่ได้พานักธุรกิจมาซื้อที่ แต่พามาเพื่อดูวิธีปลูกข้าวของชาวนาไทย เพื่อจะได้หาทางช่วยเหลือด้านเทคโนโลยีแก่ชาวนาไทย และจะรับซื้อข้าวในราคาประกันที่สูง ขอเพียงทำสัญญาว่าจะส่งข้าวขายให้ประเทศเขา


ซึ่งดูเผินๆผ่านๆ ก็เหมือนเจตนาดี แต่หากมองย้อนกลับไปอีกที เราก็จะสงสัยว่า พวกแขกใจดีจริงๆเหรอ? คุณเชื่อมั้ย?


แล้วการที่อ้างว่า แขกจะช่วยเหลือด้านเทคโนโลยีแก่ชาวนาไทย งงมั้ย? แขกเก่งเรื่องเทคโนโลยีเหรอ? ถ้าเป็นอเมริกา หรือยุโรปพูดก็ยังพอน่าเชื่อกว่านี้ เท่าที่รู้ปัจจุบันแขกยังปลูกข้าวไม่เป็นด้วยซ้ำ ไม่เฉพาะข้าว พืชอื่นๆก็จัดว่า ยังด้อยพัฒนากว่าไทยเรามากด้วยซ้ำ

ผมเคยเขียนไว้ในบทความเก่าๆ มาทีนึงแล้วว่า ในสมัยปลายรัฐบาลทักษิณ ก็กำลังมีแนวคิดว่าจะแก้กฏหมายเกี่ยวกับการเปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติซื้อที่ดินในไทยได้มากขึ้นง่ายขึ้น หรืออาจเป็นเปิดโอกาสให้ต่างชาติเช่าที่ดินคนไทยได้ในระยะเวลายาวๆ แต่กฏหมายนี้ยังไม่เสร็จ รัฐบาลทักษิณยุบสภาเสียก่อน....

และเมื่อรัฐบาลสมชาย ที่ผ่านมา อดีตรัฐมนตรีคลังสมัยนั้น นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช ก็เคยเอ่ยปากพูดถึงแนวคิดเรื่องเปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติซื้อที่ดินได้มากขึ้นง่ายขึ้นเหมือนกัน

เท่าที่ผมเล่ามาก็แค่เพื่อสะกิดให้คุณผู้อ่านฉุกคิดเท่านั้น สุดแต่วิจารณญาณนะครับ แต่ที่แน่ๆ เพื่อนทักษิณที่ชื่อฮุนเซน ดำเนินงานเรื่องแขกซื้อที่นาแล้วครับ (คลิก อ่านข่าวฮุนเซน)


เจองูกับเจอแขก โบราณว่า ให้ตีอะไรก่อนนะ แขกใจดี๊ ใจดีจริงๆเลย!?!
.
.
อ่านประชาชาติธุรกิจ วิเคราะห์ปัญหาการฮุบที่ดินของต่างชาติ
.

************************************************



...................ลองคลิกที่หน้าจตุพรดูสิครับ แล้วคุณจะได้พบแฝดผิดฝาของจตุพร
.
จตุพร พรหมพันธุ์ อ่อนนัก

จตุพร เป็นแกนนำเสื้อแดงจากความจริงวันนี้ เป็นหนึงเดียวที่เป็นสส.ในสภา เท่าที่ผมดูผมว่า ในบรรดา3เกลอหัวขวด จตุพรลูกล่อลูกชนยังอ่อนกว่า ณัฐวุฒิ สภาโจ๊ก กับ ไข่แม้วดำอย่างนายวีระเสียอีก

เพราะแต่ละเรื่องที่จตุพร พยายามถล่มนายกฯอภิสิทธิ์ ก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยเข้าตานายใหญ่สักเท่าไหร่ เช่นเรื่อง หนีทหารของนายกฯอภิสิทธิ์ ก็ดูจะอ่อนเรื่องกฏหมายไปหน่อย เลยมาตายน้ำตื้นง่ายๆ

สำหรับในความคิดเห็นผม เรื่องนายกฯหนีทหารผิดมั้ย ผมก็ต้องบอกว่า ผิดแน่นอน แต่ความผิดนั้นเป็นความผิดระดับไหน เช่นพระ ก็ยังมีอาบัติหลายๆขั้น ส่วนนายกฯอภิสิทธิ์นั้น ผิดแค่ไหน ตรงที่ไม่มารายงานตัวหรือผลัดผ่อน เพราะติดเรียนอยู่ที่เมืองนอก โดยเฉพาะผู้ปกครองของนายกฯไม่ได้สนใจเลยว่า ถึงเวลาที่ลูกต้องมาเกณฑ์แล้วนะ

ในบางครั้งการยึดหลักนิติศาสตร์กับรัฐศาสตร์ ก็ต้องนำมาพิจารณาว่าจะใช้อย่างไหนดีกว่ากัน แต่ภายหลังนายกฯกลับมาก็มาเป็นอาจารย์ทหารทดแทนความผิดที่กระทำ ในส่วนนี้ผมไม่แน่ใจว่าจะผิดจะถูกกฏหมายหรือไม่? แต่ที่รู้เขามาเป็นทหารชดใช้ความผิดแล้ว



(อดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน ก็เคยหนีทหารในสมัยสงครามเวียตนามเหมือนกันครับ)



ที่สำคัญ คดีก็หมดอายุความไปแล้ว และรัฐธรรมนูญก็ไม่ได้ห้ามว่านายกฯต้องผ่านการเกณฑ์ทหาร ทำให้นายจตุพรก็เลยหมดปัญญาเอาผิดนายกฯไปในที่สุด และถ้าจะอ้างจริยธรรม ก็อ้างไม่ค่อยขึ้นเท่าไหร่ ก็อย่างที่รู้ๆ นักการเมืองไทยหลายๆคน ทั้งสมัคร เนวิน ก็เคยติดคดี แต่ก็ดำรงตำแหน่งกันมาแล้วทั้งนั้น

ผมไม่ได้ชอบที่นายกฯหนีทหาร แต่เรื่องมันก็ผ่านมานานแล้ว จนหมดอายุความ คนเรามันผิดกันได้ เมื่อผ่านมาจนเลยเวลาที่จะเอาผิด ก็ต้องให้โอกาสคนเรากลับตัวได้จริงมั้ยครับ

*************************************************

จตุพร อ่อนอีกแล้ว

ก็เรื่องนายกษิต มาเป็นรมต.ต่างประเทศ ที่อ้างว่า เป็นพันธมิตรบ้าง หรือ เคยด่าฮุนเซนออกทีวีช่องเนชั่นบ้าง

เรื่องนี้ เป็นธรรมดาของนักการฑูตนะครับ เพราะฑูตมีไว้เจรจา ในเรื่องที่ขัดแย้ง ไม่ใช่ฑูตมีหน้าที่เอาใจต่างชาติ ชาติไหนๆ ฑูตเขาก็ต้องมีจุดยืนรักษาผลประโยชน์ชาติ หากจะด่าจะว่า ต่างชาติในบ้านเราเองก็คงไม่แปลก แต่เวลาไปเจรจาก็ต้องมีมารยาททางการฑูตเป็นธรรมดา ไม่มีผู้นำชาติไหนเขานำมาถือสาหาความกันเท่าไหร่หรอกครับ เขาแยกกันออกว่า กำลังดำรงสถานะใดในขณะนั้น

ฮุนเซน เองก็ไม่ได้ถือสาหาความ แถมยังทักทายกษิตในฐานะเคยร่วมงานกันในอดีตมาก่อน เรื่องเก่าๆของฮุนเซนเองก็ร้ายไม่หยอก ใครๆก็รู้ว่า กว่าฮุนเซนจะมาถึงตำแหน่งสำคัญนี้ก็ไม่ธรรมดา

.
กรณีนายกษิต จึงกล่าวได้ว่า เป็นกรณีต่างกรรม ต่างวาระ และต่างสถานะ

แม้แต่ยิว ปาเลสไตน์ เขาก็ประชุมจับมือกันได้บนโต๊ะแห่งการเจรจาทางการฑูต เลยครับ สรุปง่ายๆว่าเรื่องนี้ จตุพรก็อ่อนจริงๆ

*********************************************

ส่วนเรื่อง พันธมิตร เป็นผู้ก่อการร้ายนั้น ก็เป็นความคิดฝ่ายเดียวของนปช. เหตุผลสนับสนุนอ่อนมากทางคดีเรื่องผู้ก่อการร้ายครับ ผมเคยเขียนมาแล้วว่า แม้แต่สำนักข่าวต่างชาติ ก็ยังไม่เคยใช้คำว่า ผู้ก่อการร้ายกับพันธมิตร ตามที่ฝ่ายนปช.กล่าวหาเลยครับ ส่วนความผิดพันธมิตรเรื่องบุกสนามบิน ผิดแค่ไหนก็ต้องขึ้นศาลตัดสิน

*******************************************


ข่าวเมื่อวาน สถานี DTV ของนปช. นายอดิศร เพียงเกษ ประธานDTVแถลงว่า จะไม่มีการถ่ายทอดสดการชุมนุมใหญ่ที่สนามหลวง โดยจะทำการดีเลย์เทป ก่อนออกอากาศ เพื่อป้องกันจะมีการพูดก้าวล่วง...?

ผมสงสัยจังว่า ทำไมถึงใช้คำว่า ก้าวล่วง..? ลองคิดดูสิว่า คำว่า ก้าวล่วงใช้กับความหมายได้สักกี่เรื่อง!?

ผมว่า ท่าทางจะมีเจตนาไม่บริสุทธิ์ซะแล้ว ดา ตอปิโด ก็โดนคดีตอนที่ขึ้นพูดบนเวทีสนามหลวงมาแล้วครั้งนึง

ขอจบแค่นี้ก่อนนะครับ เวลาน้อยจริงๆเลยเฮ่อ!

.

วันจันทร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2552

ทักษิณเล่นงิ้ววันตรุษจีน

.
ขออภัย! ที่ไม่ได้เขียนบล้อคมาหลายวัน ผมรู้สึกว่าขอรอเวลาดูเรื่องเหมาะสักหลายวันหน่อย อยากเขียนหลายเรื่อง แต่ตัดสินใจไม่ถูกและยังไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่ เลยต้องหยุดไปหลายวัน


มาวันนี้วันที่25ม.ค.51 วันตรุษจีนในวันไหว้ ข่าวสำคัญวันนี้ก็คือ ทักษิณโฟนอินเข้ามาอีกแล้วที่ช่องdtv ในรายการของ3เกลอหัวขวด หลังจากไม่กี่วันก่อน ทักษิณเองก็เพิ่งมีข่าวว่าให้สัมภาษณ์สื่อญี่ปุ่นที่ดูไบมาหยกๆ


ตอนให้สัมภาษณ์สื่อญี่ปุ่น ทักษิณก็ยังย้ำซ้ำซากอีกครั้งว่า "ผมเคารพราชวงศ์ไทยมากกว่าใคร?" ซึ่งก็คล้ายๆกับพูดยกยอตัวเองในเชิงประชดประชันใครบางคน? (คลิกอ่านข่าวนี้)


พอมาวันนี้ทักษิณโฟนอินเข้ามาออกอากาศที่Dtv ก็ยังตอกย้ำคำพูดแนวๆนี้อีกครั้งว่า


"ผมขอยืนยันว่าผมจงรักภักดีมากที่สุดคนหนึ่ง อย่ามาหาเรื่องกัน สมมติฐานนี้ผิดก็ควรทำสมมติฐานให้ถูก ความไม่จงรักภัดดีที่ผมถูกกล่าวหาก็จะได้รับการแก้ไข ในชีวิตผมเองได้รับพระราชทานอะไรมามากมาย ผมมีความกตัญญู หวังว่าสักวันหนึ่งเมื่อใช้กรรมที่เกิดขึ้นในชาติที่แล้วหมด ต่อไปก็คงจะโชคดี ได้รับกรรมดี กลับมารับใช้แก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนถ้าพรรคพวกผมได้เป็นรัฐบาล"พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว (คลิก อ่านข่าวนี้)



ประเด็นเรื่อง ความจงรักภักดีต่อสถาบันฯที่ทักษิณพยายามบอกย้ำแล้วย้ำอีกนั้น ต่างกับข้อมูลความจริงในปัจจุบัน ที่กลุ่มคนเสื้อแดงได้กระทำต่อเนื่องหลายๆครั้ง หากใครได้ติดตามการชุมนุมของรายการความจริงวันนี้ในหลายๆครั้ง ก็จะเห็นข้อความที่หมิ่นเหม่พาดพิงสถาบันฯอยู่หลายๆข้อความที่กลุ่มผู้ชุมนุมชูขึ้น ทั้งทางตรงทางอ้อม ซึ่งผมไม่อยากจะเอ่ยถึง แต่มีเหตุการณ์สืบเนื่องจากการพระราชทานเพลิงศพผู้ชุมนุมพันธมิตรที่เสียชีวิตจากการชุมนุมหน้าทำเนียบก็เป็นประเด็นหนึ่งที่คนเสื้อแดงใช้โจมตีพระราชวงศ์?


ก่อนหน้านั้น เรื่องที่จักรภพ เพ็ญแข พูดที่อเมริกาที่เข้าข่ายหมิ่นสถาบันฯจนเป็นคดีในตอนนี้ก็เช่นกัน ซึ่งผู้อ่านลองเสริ์ชหาดูได้ในกูเกิ้ล แต่จนบัดนี้ จักรภพก็ยังถือว่าเป็นแกนนำสำคัญของคนเสื้อแดงที่สนับสนุนทักษิณอยู่เหมือนเดิม ทักษิณก็ยังใช้งานจักรภพจนถึงทุกวันนี้ หรือที่สำคัญจักรภพเคยพูดต่อสื่อต่างประเทศด้วยว่า

"ทักษิณมีความจงรักภักดีบ้าง" (He has some loyalty ซึ่งheในที่นี้คือทักษิณ) (คลิก ดูภาพประกอบ)

หรือเมื่อไม่กี่วันนี้ ในจังหวัดต่างๆทางภาคเหนือ ก็มีข่าวกลุ่มคนเสื้อแดงได้ทำการแจกใบปลิวโจมตีสถาบันฯ ให้กับประชาชนในพื้นที่

พฤติกรรมต่างๆของกลุ่มคนที่สนับสนุนทักษิณกระทำในหลายๆเหตุการณ์ ทักษิณก็ยังดูนิ่งเฉยกับพฤติกรรมของกลุ่มบุคคลเหล่านี้มาตลอด

ฉะนั้นการอ้างว่า ตัวเองมีความจงรักภักดีต่อสถาบันฯนั้น ก็เป็นเพียงคำพูดที่พัดผ่านไปอย่างไร้แก่นสาร หาสาระความจริงสนับสนุนไม่ได้ หรือแม้แต่ตัวทักษิณเองก็เคยบังอาจขอพระราชทานอภัยโทษโดยไม่บังควรมาแล้วครั้งนึง

สิ่งที่ทักษิณโม้อยู่ทุกวันนี้ มันเป็นแค่ปาหี่หรืองิ้วที่หลอกคนรากหญ้าไปวันๆเท่านั้น หากทักษิณมีความจงรักภักดีจริงๆ ทักษิณจะต้องไม่เพียงแค่ผายลมปากพล่อยๆเท่านั้น ต้องกำหลาบหรือกำจัดบรรดาลิ่วล้อที่แฝงเข้ามาเพื่อโจมตีสถาบันฯให้เห็นเป็นรูปธรรมด้วย อย่างแค่เพียง "สักแต่มีปากไว้พูด" ต้องปฏิบัติให้เห็นจริงด้วย (คลิก อ่านทักษิณยังกินบุญเก่าอยู่)


*******************************


โรคกรรมตามทัน ดา ตอปิโด

มีนักข่าวเข้าไปสัมภาษณ์ ดา ตอปิโด ผู้ต้องหาคดีหมิ่นพระบรมฯ ซึ่งกำลังติดคุกอยู่ ผมจึงขอนำเสนอบางส่วนของรายงานข่าวนี้จากเว็บประชาไท

" 6 เดือนในเรือนจำกับสภาพร่างกายไม่สู้ปกติ คือ กรามค้าง อักเสบ อ้าปากกว้างไม่ได้ ซึ่งเป็นโรคที่เป็นมาก่อนเข้าเรือนจำ และกำลังนัดหมายกับแพทย์เพื่อทำการผ่าตัด ทำให้น้ำหนักตัวเธอลดลงไป 18 กิโลกรัม แม้ในเรือนจำจะมีแพทย์คอยดูแลอาการป่วยไข้ แต่ก็ได้รับเพียงยาบรรเทาอาการปวดเท่านั้น

จากการพบปะพูดคุยหลายครั้ง ในชั่วเวลา 15 นาทีที่ทางเรือนจำเปิดให้เยี่ยม ในช่วงต้นๆ ดารณีกล่าวตัดพ้อท้อแท้ต่อการต่อสู้ทางการเมือง โดยเฉพาะการแสดงความผิดหวังต่อนักการเมือง “ฝั่งประชาธิปไตย” ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่จะได้ประโยชน์ จากการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของเธอ และมวลชนจำนวนมาก แต่แล้วกลับไม่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือใดๆ เธอกล่าวตัดพ้อต่อสังคมไทยที่ลืมง่าย และประนีประนอมกับอำนาจทุกรูปแบบ เรื่อยไป

จนถึงปัจจุบัน ดารณีที่ผ่ายผอม ไหล่ห่อ หลังงอ ไม่คาดหวังอะไรมากมายไปกว่าการออกจากเรือนจำไปต่อสู้คดี และใช้ชีวิตอย่างเงียบๆ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง"

***************************

อ่าน พวกไม่จงรักภักดีฯตอน คอมมิวนิสต์กลายพันธุ์


.

วันเสาร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2552

วีรบุรุษนักบินวันเด็ก ในความทรงจำของผม






ก่อนที่จะเล่าเรื่อง ฮีโร่(hero)ในวันเด็กของผม ผมขอยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่คล้ายกันมาเปรียบเทียบสัก 2 ตัวอย่างที่เกิดขึ้นในต่างประเทศเมื่อไม่นานมานี้ เพื่อจะให้เห็นว่า เหตุการณ์ที่เกิดฮีโร่ของผมนั้นน่ายกย่องเพียงใดครับ

เครื่องบินโดยสารตกลงในแม่น้ำ

จากข่าวต่างประเทศเมื่อวานนี้ วันที่15ม.ค.51 เกิดเหตุสุดระทึกขวัญเมื่อผู้โดยสารพร้อมลูกเรือรวม 155 ชีวิต เครื่องบินโดยสารแอร์บัส 320 ของสายการบินยูเอส แอร์เวย์ส ของสหรัฐ รอดตายมาได้ทั้งหมดอย่างเหลือเชื่อ จากเหตุการณ์ที่เครื่องบินลำดังกล่าวได้ชนกับฝูงนกบนท้องฟ้า ก่อนที่เครื่องบินจะตกลงสู่ผืนน้ำในแม่น้ำฮัดสัน นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา

คลิกที่รูปเพื่อขยาย!!


จากอุบัติเหตุครั้งนี้ที่ไม่มีผู้ใดเสียชีวิตเลย ทำให้นักบินคือกัปตัน เชสลีย์ บี.ซัลเลนเบอร์เกอร์ ที่ 3 อายุ 58 ปีได้รับเสียงชื่นชมว่าเป็นฮีโร่ที่สามารถควบคุมเครื่องบินลงสู่แม่น้ำได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ทำให้มีผู้เสียชีวิต



ทั้งประธานาธิบดีจอร์ช w บุช และว่าที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ต่างก็ออกมาชื่นชมสดุดีวีรกรรมของนักบินคนนี้ ว่าเป็น ฮีโร่ ที่เป็นตัวอย่างที่ดีที่คนอเมริกันควรนำมาเป็นแบบอย่าง



สำหรับความคิดผมนะ ผมว่า การที่นักบินสามารถนำเครื่องลงได้อย่างปลอดภัย โดยไม่มีใครต้องเสียชีวิตเลย แน่นอนต้องยกย่องในความสามารถของนักบิน ที่ได้พยายามรักษาความปลอดภัยให้กับผู้โดยสารอย่างดีที่สุดแล้ว

ไม่ใช่นักบินจะช่วยเหลือผู้โดยสารให้รอดชีวิตเท่านั้น แต่ก็เป็นการช่วยเหลือชีวิตตัวเองเช่นกัน?
หากช่วยเหลือให้ชีวิตตัวเองให้รอดได้ ก็เท่ากับได้ช่วยเหลือชีวิตผู้โดยสารเช่นกัน?
.
แน่นอน ภารกิจของนักบินครั้งนี้ ย่อมสมควรได้รับคำสรรเสริญยกย่องว่าเป็นวีรบุรุษ แต่ผมก็มีวีรบุรุษนักบินไทยในใจผมที่เกิดขึ้นในวัยเด็กของผม ที่เจ๋งกว่า วีรบุรุษนักบินของฝรั่งเสียอีก?
.
แต่ก่อนจะถึงเรื่องของผม ขออนุญาตยกตัวอย่างของ เหตุการณ์เครื่องบินตกในอเมริกาที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว อีกสักตัวอย่างครับ

----------------------

เครื่องบิน F18 ตกกลางเมือง

รายงานข่าวแจ้งว่า เครื่องบินรบเอฟ/เอ-18 ดี ฮอร์เน็ตลำหนึ่งที่กำลังเดินทางกลับฐานทัพอากาศมิรามาร์ของหน่วยนาวิกโยธินสหรัฐ หลังจากการฝึกบินได้เกิดตกใส่บ้านพักอาศัยในเมืองซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้ที่อยู่บริเวณบ้านพักอาศัยดังกล่าวเสียชีวิตไป 3 ราย สูญหายอีก 1 ราย และบ้านเรือนเสียหายไป 2 หลัง
.
ขณะที่นักบินของเครื่องบิน เอฟ-18 ลำดังกล่าวสามารถดีดตัวออกมาได้อย่างปลอดภัยก่อนที่เครื่องบินจะตกลงมาปะทะกับบ้านพักอาศัยแรงระเบิดส่งผลให้เกิดแรงสั่นสะเทือนรุนแรงรู้สึกได้ทั่วบริเวณย่านที่พักอาศัยดังกล่าว และมีเปลวเพลิงและควันไฟจำนวนมากพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า คาดว่ามีเด็ก 2 คน แม่และคุณยายของเด็กทั้ง 2 อยู่ในบ้านหลังที่ถูกเครื่องบินตกใส่ขณะเกิดเหตุ (อ่าน รายละเอียดข่าว)

นักบินของเครื่องบินลำดังกล่าวที่ดีดตัวออกมาจากเครื่องบินนั้นถูกพบอยู่ในสภาพที่ร่มชูชีพของเขาห้อยติดอยู่กับต้นไม้ในหุบเขาบริเวณใกล้เคียงกับย่านที่พักอาศัยดังกล่าว ล่าสุด เขาได้ถูกส่งเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลของนาวิกโยธินในซานดิเอโก



ภายหลังข่าวบอกต่อว่า ครอบครัวที่สูญเสียชีวิตที่เป็นครอบครัวของคนเกาหลี และคุณยายที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ก็เพิ่งจะเดินทางมาจากเกาหลีเพื่อมาช่วยลูกเลี้ยงหลานที่ยังแบบเบาะ
.
ส่วนหัวหน้าครอบครัวผู้เป็นสามีและพ่อของครอบครัวนี้ ไม่ได้โทษนักบินที่ก่อเหตุครั้งนี้ เพราะคิดว่ามันเป็นเหตุสุดวิสัย?


นี่คือสิ่งที่นักบินอเมริกันได้รับการฝึกฝนถึงวิธีปฏิบัติ หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขณะทำการบิน คือต้องดีดตัวออกจากเครื่องบิน เพื่อรักษาชีวิตของตัวเองไว้ก่อน ใครจะเดือดร้อนกูไม่สน!?

นักบินรายนี้ เขาไม่ผิดหรอก เขาทำตามหน้าที่เช่นกัน?

-------------------------

ทีนี้ก็มาถึงเรื่อง วีรบุรุษนักบินวันเด็ก ในความทรงจำของผมสักที

เรื่องนี้เกิดขึ้นมากว่า25ปี เห็นจะได้ครับ ขออภัย! ที่ผมไม่สามารถจำปีพ.ศ.ที่เกิดเหตุได้ เพราะตอนนั้นผมยังเด็ก แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้เกิดกับลูกชายของครูผม จึงทำให้ผมยังจำเรื่องนี้ได้จนทุกวันนี้

เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันเด็กเมื่อกว่า25ปีมาแล้ว มีการแสดงการบินผาดโผนของกองทัพอากาศ ซึ่งผมต้องจำได้แม่นเพราะ พ่อผมก็เป็นทหารอากาศที่เป็นส่วนหนึ่งที่มีหน้าที่จัดงานวันเด็กของกองทัพอากาศ และในการแสดงการบินในวันเด็กปีนั้น ก็ได้เกิดอุบัติเหตุทางอากาศที่ดังมากเกิดขึ้นในวันเด็กปีนั้น
'
ก็คือ เครื่องบิน f5 เกิดขัดข้องขณะบินไปวนกลับบริเวณใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา เครื่องบินเสียการควบคุม และกำลังจะตก สาเหตุเกิดความขัดข้องจากอะไร ผมจำไม่ได้ เพราะยังเด็กมาก
.
นักบินคนนี้ ตัดสินใจพยายามขับเครื่องบินให้ตกลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา นักบินเสียชีวิตทันที จากข่าวต่อมา ผู้ที่พบเห็นเหตุการณ์ ได้เห็นว่า เครื่องบินมีอาการผิดปกติและกำลังจะตก ซึ่งนักบินก็พยายามฝืนเป็นระยะเวลาพอควร หากนักบินตัดสินใจดีดตัวเองออกจากเครื่อง ก็น่าจะทัน และน่าจะรอดชีวิตได้
.
แต่นักบินกลับไม่สละเครื่อง กลับตัดสินใจบังคับให้เครื่องบินพุ่งลงแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งอยู่ใกล้ๆชุมชนแถวฝั่งธน ซึ่งก็หมายความว่า นักบินยอมเสียสละชีวิตตัวเอง เพื่ออยู่ควบคุมเครื่องไม่ให้ตกใส่บ้านเรือนประชาชน

ซึ่งหากนักบินดีดตัวออกเพื่อรักษาชีวิตตัวเอง ก็จะทำให้ประชาชนบริเวณนั้น ก็อาจมีการเสียชีวิตมากมายเกิดขึ้น

นักบินนายนี้ ได้รับการยกย่องว่า เป็นวีรบุรุษผู้เสียสละอย่างแท้จริง ซึ่งนักบินนายนี้ก็เป็นลูกชายคนเดียวของคุณครูสำเนียง ศรีพื้นผล ครูหัวหน้าสายประถมปลาย(ป.5-ป.6) ของโรงเรียนปานะพันธูวิทยาในพระบรมราชูปถัมป์ เป็นอดีตโรงเรียนเอกชนดังย่านปากทางลาดพร้าวที่ตอนนี้กลายเป็นห้างคาร์ฟูไปแล้ว



ถ้าจำไม่ผิด ตอนเกิดอุบัติเหตุครั้งนั้น ลูกชายของคุณครูสำเนียง ยังเป็นแค่นายทหารหนุ่มยศแค่ร้อยเอกเท่านั้น

ซึ่งคุณครูสำเนียง ก็ได้สูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ แต่คุณครูก็เก็บอาการเศร้าเสียใจได้อย่างน่ายกย่อง ยังคงทำหน้าที่ครูต่อมาอีกนับสิบปี จนกระทั่งโรงเรียนถูกยุบขายไปในที่สุด

นี่แหล่ะครับ วีรบุรุษนักบินวันเด็ก ในความทรงจำของผม ซึ่งหากเปรียบเทียบกับเหตุการณ์เครื่งบินตกของฝรั่งที่ผมยกตัวอย่างมานั้น

ผมว่า วีรบุรุษของผม สุดยอดกว่าแน่นอนครับ



วันพฤหัสบดีที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2552

รัฐบาลอภิสิทธิ์แจกเงิน2พันบาทดีมั้ย?





มาตรการที่รัฐบาลอภิสิทธิ์ ที่ได้ออกมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจหลายๆอย่างนั้นตามข่าว แต่ที่ได้รับความสนใจและวิพากษ์ว่าควรหรือไม่ ก็คือมาตรการแจกเงิน2,000บาทให้แก่แรงงานในระบบประกันสังคมและข้าราชการที่มีเงินเดือนต่ำกว่า14,999บาททุกคน เป็นระยะเวลาครั้งเดียวเดือนเดียว ( รู้สึกจะเป็นเดือนเม.ย.)

(แล้วคนที่ได้เงิน15,000-16,000บาท เดือนนั้นก็จะได้เงินน้อยกว่า พวกที่เงินเดือนต่ำกว่า14,999บาทน่ะสิ?)


สำหรับผมแล้ว ไม่ค่อยชอบมาตรการนี้เท่าไหร่ แต่ไม่อยากคัดค้าน เพราะอยากให้โอกาสรัฐบาล แต่ถ้าเลือกได้ผมไม่อยากให้มีมาตรการนี้ เพราะดูจะไม่ค่อยทั่วถึงและได้แสดงให้เห็นถึงความสร้างสรรค์ทางความคิดสักเท่าไหร่ คิดง่ายไปหน่อย แจกเงิน!


ที่จริงในอดีตเมื่อไม่กี่ปีก่อน รัฐบาลญี่ปุ่นก็เคยใช้วิธีนี้มาแล้ว แต่มีข้อแตกต่างกับของรัฐบาลอภิสิทธิ์อยู่ตรงที่ ญี่ปุ่นเขาไม่ได้แจกคนวัยแรงงานในระบบ ซึ่งมีข้อด้อยก็คือแล้วแรงงานนอกระบบยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ แต่รัฐบาลญี่ปุ่นเขาเลือกที่จะแจกผู้สูงอายุทุกคนในประเทศไม่เลือกฐานะและอาชีพหรือไม่มีอาชีพ คือแจกทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ส่วนคนละเท่าไหร่นั้น? ตรงนี้ผมขออภัยจำตัวเลขที่แน่นอนไม่ได้


ซึ่งผู้สูงอายุชาวญี่ปุ่น เพียงแค่ไปที่สำนักงานเขต และยื่นหลักฐานส่วนตัวก็รับเงินไปเลย ง่ายๆทันที


ซึ่งสิ่งที่รัฐบาลญี่ปุ่นทำคราวนั่นก็หวังการใช้จ่ายในเศรษฐกิจที่กำลังถดถอยของญี่ปุ่นนั่นเอง แต่การให้เงินผู้สูงอายุนั้นมันจะไม่ค่อยมีข้อครหาเท่าไหร่ เพราะได้ทุกคน เสมือนเป็นการตอบแทนที่ผู้ชราทุกคนอุตส่าห์ทำงานมาตลอดชีวิตเพื่อสร้างชาติและมีชีวิตมาจนถึงวันนี้


แทบไม่มีใครในประเทศญี่ปุ่นที่คัดค้านมาตรการนี้ เพราะแทบทุกคนทุกบ้านก็ล้วนแต่มีญาติๆที่สูงอายุกันแทบทั้งนั้น


นี่แหล่ะ! คือมาตรฐานญี่ปุ่นที่ดูแล้วจะสูงกว่าเราเสมอทุกด้าน แม้แต่เรื่องแจกเงินง่ายๆก็ตาม


ทุกวันนี้ผู้สูงอายุในบ้านเรา แทบไม่ได้รับการเหลียวแลจากรัฐบาลเท่าที่ควร เงินยังชีพเดือนละ500บาทที่ผ่านมา ก็ต้องคนมีเส้นกับข้าราชการท้องถิ่นถึงจะได้ ทำให้คนที่ควรได้กลับไม่ได้ คนที่ไม่ควรได้แต่กลับได้เพราะมีญาติเป็นผู้มีอำนาจในท้องที่


ถ้าผมขอเรื่องที่ทำง่ายๆ ทำได้ทันทีเพื่อผู้สูงอายุ ที่ผมคิดได้อย่างนึงก็คิอ อย่างน้อยผู้สูงอายุในกรุงเทพฯ น่าจะขึ้นรถเมล์ฟรีทุกคนทุกคัน แต่ทุกวันนี้คนชรายังต้องจ่ายค่าโดยสารรถเมล์อยู่เลย แม้รัฐจะให้จ่ายเพียงแค่ครึ่งเดียวก็ตาม แต่ทุกครั้งผู้สูงอายุถ้าอยากจะจ่ายค่ารถเมล์ครึ่งเดียวก็ต้องแสดงบัตรประชาชนให้กระเป๋ารถดูก่อน จึงจะได้รับสิทธิจ่ายครึ่งราคา?


แค่ผู้สูงอายุมีแรงขึ้นรถขสมก.ได้เอง ก็นับว่าเก่งแล้ว อุตส่าห์ทำงานสร้างชาติมาหลายสิบปี แค่ค่ารถเมล์จะยกเว้นให้ท่านผู้ชราเหล่านั้นทั้งหมดเลย ไม่ได้เชียวหรือ ฝากถามใครสักคน? (เนื่องจากผมเป็นคนกรุงเทพฯเลยยังคิดได้แค่นี้ครับ อยากให้รัฐช่วยผู้สูงอายุที่อยู่ต่างจังหวัดเช่นกัน แต่พอดีต่างจังหวัดยังไม่มีรถเมล์ คงต้องหาทางอื่น)

เริ่มเรื่องเงินไหงมาลงที่เรื่องรถเมล์? เอาเป็นว่า นโยบายแจกเงินของอภิสิทธิ์ ผมไม่เห็นด้วย แต่ก็ไม่ขอคัดค้านครับ ให้โอกาส....

ขอฝากเพียง หากใครที่ได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลอภิสิทธิ์2,000บาทแล้ว ก็ช่วยซื้อของที่ผลิตจากภูมิปัญญาไทย โดยคนไทย ในเมืองไทย เงินทองจะได้กระตุ้นเศรษฐกิจของไทยได้สูงสุดนะครับ ขอบคุณ



***********************************


ตกงานจึงได้คิด?


ผมได้ดูสกู๊ปข่าวทางช่อง7 เรื่องเกี่ยวกับคนตกงานจากภาคอุตสาหกรรม พูดง่ายๆก็คือ ช่อง7 เขาไปสัมภาษณ์สาวโรงงานที่ต้องตกงานคนนึง


จากข่าวก็คือ สาวโรงงานคนนี้เคยทำงานในโรงงานแห่งหนึ่งแถวๆปริมลฑล แต่ตอนนี้ตกงานแล้วกลับไปอยู่บ้านพ่อบ้านแม่ที่สุพรรณบุรี นอกจากช่วยพ่อแม่ทำไร่ทำนาแล้ว ตัวเองก็รับจ้างแกะแห้วส่งโรงงานรายได้ประมาณเดือนละห้าพันบาท ซึ่งเมือตอนทำงานโรงงาน เธอได้เงินเดือนบวกโอทีแล้ว รายได้ก็ตกอยู่ที่หมื่นต้นๆ แต่แทบไม่มีเงินเก็บ

แต่การกลับมาอยู่กับพ่อแม่ บ้านไม่ต้องเช่า ได้อยู่กับลูกที่เมื่อก่อนต้องฝากพ่อแม่เลี้ยง นานๆได้เจอกับลูกที

ตอนนี้ได้อยู่บ้านกับลูกและพ่อแม่ ได้อากาศบริสุทธิ์ ไม่ต้องรับพิษจากสารเคมีอุตสาหกรรม ครอบครัวอบอุ่น มีความสุขมากขึ้น วันๆรายได้มีเหลือเก็บ ไม่เหมือนตอนทำงานโรงงาน

นี่แหล่ะหนา คนในอยากออก คนนอกก็อยากเข้าเมือง ไม่มาไม่รู้ มาแล้วถึงได้รู้
(เรื่องนี้ผมแค่ฝากไว้ให้คิดเล่นๆเท่านั้นครับ)


*****************************************


คนญี่ปุ่นตกงาน?

ดูข่าวต่างประเทศเมื่อวันก่อน มีข่าวคนญี่ปุ่นตกงานและจรจัดมาประท้วงเรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นช่วยเหลือ จากสภาพคนจรจัดและตกงานแล้วน่าสงสารไม่แพ้คนไทยเลย เพราะคนตกงานและจรจัดก็มีอาชีพลูกจ้างชั่วคราว ที่ไม่มีรายไดแน่นอนอยู่แล้ว ยิ่งในสภาวะเศรษฐกิจตกแบบนี้ งานการที่พอจะรับจ้างได้บ้างก็พลอยมีอันหดหายไปด้วย

คนญี่ปุ่นที่ทั้งตกงานจรจัดไร้ที่อยู่ ยังมีพบเห็นทั่วไปในประเทศที่เจริญและรวยสุดๆอย่างญี่ปุ่น แถมคนที่ไร้ที่อยู่ในญี่ปุ่นนั้น ต้องทรมานจากภัยหนาวแสนสาหัสยิ่งกว่าคนจรจัดไทยเสียอีก

คนไทยหลายๆคน ตกงานยังมีบ้านพ่อบ้านแม่ต่างจังหวัดรองรับ มีนามีไร่ให้คอยทำ แต่คนตกงานในญี่ปุ่นประเทศอุตสาหกรรมจี7 ที่ตกงาน ไม่ได้มีที่ดินนาไร่รองรับได้เหมือนคนตกงานไทย

นี่แหล่ะหนา เกิดเป็นมนุษย์ ไม่ว่าที่ไหน ก็มีทุกข์ได้ทั้งนั้น


****************************************


นายบารัค โอบามา หลังชนะการเลือกตั้งปธน.อเมริกา ก็ได้พาครอบครัวไปบริจาคแจกอาหารและสิ่งของแก่ชาวอเมริกันจรจัดและไร้ที่อยู่. ?


บทความล่าสุดที่เกี่ยวข้อง คลิก อ่านญี่ปุ่นก็แจกเงินเหมือนกัน



วันอังคารที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2552

เป็นครั้งแรกที่ผมเลือกประชาธิปปัตย์

.

ตั้งแต่ผมสนใจการเมืองมา ผมไม่เคยเลยที่จะชอบพรรคประชาธิปปัตย์ เพราะพรรคนี้ไม่เคยได้ช่วยเหลืออะไรคนจนอย่างได้เห็นเป็นรูปธรรมเลย และมักจะช่วยคนรวยมากกว่าด้วยซ้ำ



ในอดีต ผมชอบพรรคประชากรไทยของนายสมัคร สุนทรเวชมากตลอด จนกระทั่งนายสมัครหันไปสนับสนุนทักษิณ และแก้ต่างความผิดเรื่องการขายหุ้นชินฯของทักษิณ ทำให้ผมก็หมดศรัทธาในตัวสมัครไปเยอะ และพอสมัครมาเป็นนายกฯนอมินีให้ทักษิณ แถมยังปกป้องทักษิณอย่างออกนอกหน้าเกินพอดี ผมเลยเริ่มเป็นฝ่ายตรงข้ามกับสมัครมากขึ้นๆ



แต่โดยส่วนตัวแล้ว (ที่ไม่เกี่ยวกับการเมือง) ผมยังชอบดูรายการต่างๆที่สมัครจัดทางโทรทัศน์ทุกรายการ แต่ถึงชอบดูรายการสมัครก็ตาม ผมก็เลยเข้าใจดีว่าสมัครทำผิดเกี่ยวกับการเป็นลูกจ้างตรงไหน (อ่านวิเคราะห์คดีชิมไปบ่นไป)



ทีนี้มาพูดถึงประชาธิปัตย์ เรื่องเก่าก่อนมากไม่อยากลงลึกรายละเอียด แต่ที่แล้วมาประชาธิปปัตย์ผิดพลาดตรงการแก้ไขวิกฤติเศรษฐกิจที่ทำให้ไทยเราต้องเสียเปรียบต่างชาติมาก โดยเฉพาะเรื่องไปพึ่งไอเอ็มเอฟ และเรื่องปรส. ซึ่งความผิดพลาดเชิงนโยบายนั้น โดยทั่วไปเอาผิดยาก


ตัวอย่างเช่นนายจอร์ช w บุช ผิดพลาดในการบริหารประเทศทั้งเรื่องอิรัก แลการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ จนเกิดวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ในปัจจุบันนี้นั้น คนอเมริกันก็ไม่สามารถจะเอาผิดทางกฏหมายใดๆกับจอร์ชบุชได้ เพราะมันเป็นความผิดเชิงนโยบาย


เช่นเดียวกัน เรื่องความผิดพลาดของประชาธิปปัตย์ในการแก้ไขปัญหาต่างๆของประเทศนั้น แม้จะทำให้ชาติต้องได้รับความเสียหาย แต่ก็ยากจะเอาผิดเช่นกัน เพราะเป็นความผิดเชิงนโยบาย ซึ่งพรรคประชาธิปปัตย์ก็ได้รับการลงโทษด้วยการแพ้เลือกตั้งพรรคของทักษิณถึง3ครั้งติดๆกัน


ผมเองก็เลือกไทยรักไทยมาถึง2ครั้ง แต่ในเมื่อทักษิณเกิดข้อผิดพลาดเชิงคอรัปชั่น และยังทำให้ประเทศต้องอยู่ในสภาวะแตกแยก และมีส่วนทำให้กลุ่มที่คิดไม่ดีต่อสถาบันกษัตริย์ใช้ทักษิณเป็นเครื่องมือ และมีกำลังมากขึ้น ซึ่งทักษิณเองก็น่าจะรู้ดี แต่ก็ไม่ยอมตัดขาดจากคนพวกนี้ เพียงเพื่อต้องการอำนาจและผลประโยชน์ตัวเองกลับคืนนั้น


ทำให้ผมจำใจต้องเลือกผู้ว่าฯครั้งล่าสุดนี้ เป็นม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ในนามประชาธิปัตย์เป็นครั้งแรก ทั้งๆที่เลือกตั้งผู้ว่าฯ2ครั้งที่ผ่านมา ผมเลือกนายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์มาตลอด


ถ้าต้องตัดสินใจ เลือกระหว่างพรรคที่ไม่เคยมีผลงานเพื่อคนยากจน และดำเนินนโยบายในอดีตผิดพลาดมาก่อนอย่างประชาธิปัตย์ กับเลือกพรรคของทักษิณแล้ว


ผมจำเป็นต้องเลือกประชาธิปปัตย์ครับ เพราะผมคิดว่า ปัญหาความแตกแยกเพราะทักษิณจำเป็นต้องกำจัดให้สิ้นเสียก่อน ประเทศชาติจึงจะสงบ


ประกอบกับขณะนี้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คือนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แล้ว ไม่ใช่นายชวน เชื่องช้า เหมือนอย่างเดิม และผมก็ติดตามดูนายอภิสิทธิ์ มาตั้งแต่ต้น ผมจึงต้องเปลี่ยนใจซึ่งอาจจะชั่วคราวมาสนับสนุนประชาธิปปัตย์เป็นครั้งแรกด้วยประการฉะนี้ครับ



*****************************************


แซวการเมืองเรื่องของคนเสื้อแดง(อย่าซีเรียส ขำๆ)


การเจรจาครั้งสำคัญของนายใหญ่และขี้ข้า (โฟนอินโฟนเอาท์)หลังความพ่ายแพ้เลือกตั้งซ่อม


"อั๊วบอกพวกลื้อแล้วไม่ใช่เหรอว่า อย่าใช้พวกสวะมาทำงาน ดูซิ ทำแต่เรื่องสกปรกทุเรศๆ แล้วเป็นไง แพ้ไม่เป็นท่า"


"นายครับ นายอย่าเพิ่งลมบ่จอยสิครับ พักนี้นายเองก็ไม่คอยจะลงทุนเลยนะครับ พวกผมก็ต้องกินต้องใช้ กองทัพต้องเดินด้วยท้อง นายอย่าเพิ่งท้อสิครับ นายก็รู้ว่า ค่าของงานก็อยู่ที่ผลของค่าแรง?"


"ไม่ต้องมาทำพูดเลย อั๊วเคยเชื่อพวกลื้อมาทีนึงแล้ว ตอนไอ้พวกนั้นมันชุมนุมในทำเนียบ พวกลื้อบอกอั๊วว่า ถ้ายอมลงทุนหาM ไปลงใส่กระบาลพวกมันให้ตายสักวันละคนสองคน รับรองจะชนะแน่ๆไง แล้วตกลงเป็นไง....? ก็ยังไม่เห็นชนะอะไรซักอย่าง"


"บางครั้ง ความผิดพลาดก็อาจเกินคาดเดาครับนาย นายก็รู้อย่างตอนนี้ไข่ที่พวกผมใช้ ก็แพง ไม่ถูกเหมือนไข่สมัยนายเป็น เพราะตอนนั้นหวัดนกกำลังระบาด "


"นี่ก็อีกเรื่องนึง อั๊วบอกกี่หนแล้วว่า อย่าไปซื้อไข่CPที่เซเว่นไงมาใช้ไง มันทำให้แพงและซวยต่างหาก เพราะCPมันฝ่ายโน้นรู้มั้ย! ทำให้ฝ่ายเราปาแล้วไม่ขลังพอ..ไม่ได้ผล"


" ตอนนี้พวกเราก็เลยใช้ฉี่ปาแทนครับนาย"


" ก็เพราะเล่นทุเรศๆ อย่างงี้ไง คนเขาถึงเริ่มเกลียดขี้หน้าพวกเอ็ง โง่จริงๆ หัดทำให้มันดูมีเกรดแบบไอ้พวกสนติ๊ไม่เป็นหรือไง"


"มันก็เป็นอยู่ครับ แต่มันต้องใช้ทุนเยอะนะครับนาย"


"ว่ามา เท่าไหร่คราวนี้"


"10ครับนาย"


"เอาไป5 ก่อนแล้วกัน ..... จะเอามั้ยเอา! "


"ก็ได้ๆ นาย" (ทำปากบ่นอุบอิบ)


"ถ้าคราวนี้ ไม่ได้เรื่องอีกล่ะก้อ สงสัยอั๊วต้องเรียกพวกลื้อว่า ไอ้หัวขวด ตามแบบไอ้สนติ๊มันเรียกแล้วมั้ง"


"........"


"อ้ะ! .. เอาไป ถ้ายังไม่ได้เรื่องซ้ำซากอีก หัวขวด ก็จะกลายเป็น หัวค... รู้มั้ย! "

" !?! "

**************************************************
.

วันอาทิตย์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2552

ทักษิณยังกินบุญเก่าอยู่

. akecity

ผมไม่จำเป็นต้องอธิบายรายละเอียดความผิดพลาดของทักษิณอีก แต่อยากจะวิเคราะห์ในเรื่องที่ว่า ทักษิณมีทรัพย์สินอยู่ต่างประเทศนับแสนล้าน?

ตอนแรกเมื่อสัก2ปีที่แล้ว ผมเคยได้ฟังนายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจไทยที่เคยหนีคดีแชร์ชาร์เตอร์เมื่อกว่า20ปีที่แล้วไปทำมาหากินร่ำรวยอยู่ในอังกฤษ เคยได้ให้สัมภาษณ์สื่อทางทีวีครั้งนึงว่า เขามั่นใจว่า ทักษิณน่าจะมีทรัพย์สินที่หลบซ่อนไว้ในต่างประเทศไม่ต่ำกว่า2แสนล้าน!? (นายเอกยุทธบอกว่า เขากล้าเดิมพันว่ามั่นใจว่าเป็นเรื่องจริง)

ซึ่งตอนแรกผมก็ไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่นัก มันจะมากขนาดนั้นเลยเหรอ ทักษิณขายหุ้นชินฯให้เทมาเสกแบบเทหน้าตัก แล้วได้เงินเหนาะๆ7หมื่นล้าน ก็นับว่ามากมายเหลือเกินแล้ว นี่ขนาดยังไม่รวมทรัพย์สินสะสมและเงินสดเก่าๆก่อนขายกิจการ

การที่ทักษิณจะรวยขนาดที่จะมีซ่อนอยู่ต่างประเทศนับอีกแสนๆล้าน มันจะมากถึงเพียงนั้นเลยหรือ ผมยังสงสัยมาก เพราะทักษิณพึงจะทำธุรกิจประมาณยี่สิบปี จะรวยขนาดมีทรัพย์สินแอบซ่อนรอดหูรอดตากฏหมายได้มากมายขนาดนั้นเชียวหรือ?

แต่พอทักษิณโดนยึดทรัพย์ในประเทศแล้ว ก็ยังมีเงินไปซื้อสโมสรฟุตบอลในอังกฤษ ก็เป็นสาเหตุนึงที่ทำให้รู้ว่า ทักษิณมีทรัพย์สินที่ไม่ได้รายงานขณะดำรงตำแหน่งทางการเมืองอยู่จริงๆในต่างประเทศ แต่จะมากแค่ไหนก็ยังไม่รู้ได้

แต่พออังกฤษยกเลิกวีซ่าทักษิณ ไม่ให้เข้าประเทศอีก แถมมีข่าวภายหลังที่ลงว่า อังกฤษยึดทรัพย์ทักษิณในอังกฤษกว่าแสนล้านอีก ซึ่งหากเป็นจริงตามข่าว ก็ทำให้น้ำหนักคำพูดของนายเอกยุทธ อัญชันบุตร ที่ว่า ทักษิณมีทรัพย์สินซุกซ่อนในต่างประเทศนับแสนล้านจึงดูน่าเชื่อถือมากขึ้น
.
และยังไม่มีข้อพิสูจน์การได้มาซึ่งทรัพย์สินนั้น?ว่าโกงมาหรือไม่ แต่การมีเจตนาปกปิด ก็ทำให้เป็นที่น่าสงสัยอยู่ไม่น้อย

เป็นไปได้ว่า ทักษิณที่ยังไม่ยอมหยุดต่อสู้ทางการเมือง ก็อาจเพราะไม่ต้องการสูญเสียทรัพย์สินมากมายทั้งในไทยและต่างประเทศก็ได้ และด้วยนิสัยไม่ยอมแพ้ใคร การมีอัตตา อีโก้สูง ก็ทำให้ทักษิณยอมที่จะแลกทุกอย่างเพื่อชัยชนะของตัวเอง เพื่อหวังจะได้อำนาจและทรัพย์สินจะกลับมา

ความแตกแยกของคนไทย ตอนนี้ มีทักษิณเป็นตัวแปรที่สำคัญที่สุด เพราะหากทักษิณหยุดและไม่สนับสนุนกลุ่มการเมืองในประเทศอีก โอกาสที่บ้านเมืองจะกลับมาสงบสุขก็โอกาสมีมากขึ้น

ที่จริงทั้ง นายวีระ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ไสเกื้อ หรือ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำหัวขวดจากรายการความเท็จวันวาน แต่ก่อนก็เป็นแค่ลิ่วล้อชั้นปลายแถวในสมัยทักษิณเรืองอำนาจ แต่ตอนนี้กลับมาเป็นหัวหอกคนสำคัญที่จะกู้ทักษิณกลับมา

3คนนี้ ทำเพื่อทักษิณจริงหรือไม่? หรือ3คนนี้ทำเพื่อตัวเองกันแน่ ที่หวังจะใช้กำลังเงินและชื่อเสียงทักษิณเพื่อหวังโปรโมทตัวเอง? หรือ3คนนี้กับทักษิณเป็นการหลอกใช้กันเอง?

ยังไม่สามารถตอบได้ทั้งนั้น

แต่ที่แน่ๆ คือขณะนี้กลุ่มผู้ไม่หวังดีต่อสถาบันฯ ได้แฝงตัวร่วมอยู่ในกลุ่มคนรักทักษิณหรือคนอ้างรักประชาธิปไตยแน่ๆ

**การทำให้คนไทยต้องแตกแยกแตกความสามัคคีครั้งนี้ต้องเป็นบาปมหันต์ ไม่ว่าใครก็ตาม อาจจะเป็นฝ่ายคนรักทักษิณหรือนปช.ก็ได้ หรือจะเป็นกลุ่มแกนนำพันธมิตรก็ได้ เป็นไปได้ทั้งนั้นที่จะได้บาปนี้? (มีเจตนาเป็นตัวตัดสิน) **

แต่ที่แน่ๆ คนๆนึงที่ต้องรับกรรมแน่ๆคือทักษิณ เพราะคือต้นเหตุของความแตกแยกครั้งนี้ ที่จริงทักษิณได้ทำประโยชน์แก่ประเทศไทยและคนไทยก็มากไม่น้อย โดยเฉพาะโครงการ30บาทรักษาเกือบทุกโรค ที่ช่วยคนจนได้จริง นับว่าเป็นบุญอยู่ไม่น้อย
.
แต่หากทักษิณยังไม่ยอมเสียสละ เพื่อความสงบสุขของคนในชาติแล้ว บาปกรรมครั้งนี้ ก็อาจตัดรอนบุญเก่าของทักษิณให้สั้นลงได้ ทักษิณหากไม่หยุด หมดบุญเก่าเมือ่ไหร่ ผมไม่อาจคาดเดา
.
เข้าทำนองกรรมหนักชิงตัดหน้าบุญเก่า

แต่เชือได้ว่า หากทักษิณเสียสละหยุดเพื่อชาติ หยุดความขัดแย้งของคนในชาติได้ ทักษิณจะได้บุญที่ยิ่งใหญ่แน่นอน และในทางกลับกัน

หากทักษิณ ยังไม่หยุด ระวังบาปกรรมจะตามทันในชาตินี้ คิดให้ดีแล้วกัน
.
****************************************
.
อ่าน ทักษิณดวงดีหรือดับ?

.

วันพฤหัสบดีที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2552

แฟชั่นปาไข่? และนานาประเด็น

.
วันที่6ม.ค.51 นายชวน หลีกภัยไปหาเสียงช่วยผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมที่ลำปาง ก็ถูกกลุ่มคนเสื้อแดงปาไข่ใส่ และถูกเข้าที่แว่นตา! นายชวนไม่คิดเอาผิดคนเสื้อแดง แต่ตำหนิเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น


วันที่7ม.ค.51 นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช. ไปหาเสียงช่วยผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมที่บุรีย์รัมย์ ก็โดนคนเสื้อแดงร่วม200คนปาไข่ใส่เช่นกัน แถมมีพ่วงหินและขวดน้ำด้วย! และสามารถจับคนปาได้1คน


และในวันที่7ม.ค.51 เช่นกัน ที่หน้าทำเนียบมีกลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ30คน ไปยืนเกาะรั้วตะกายรั้วตะโกนด่ารัฐบาล และปาไข่เข้าไปในทำเนียบเช่นกัน !


วันที่7ม.ค.51 นายชวน หลีกภัย ไปช่วยหาเสียงที่สมุทรปราการช่วยผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ก็ถูกกลุ่มคนเสื้อแดงดักรอ คาดว่าอาจมีการขว้างปาอีก จึงถูกคนในพื้นที่ที่ไม่เห็นด้วยขว้างปาขับไล่คนเสื้อแดง หวิดมีการปะทะกันรุนแรง และมีคนเสื้อแดงหัวแตกไป3คน ก่อนนายชวน จะเดินทางมาถึง


ช่วงเวลาค่ำๆวันที่7 ม.ค.51 ยายเนียม ราษฎรอาวุโสวัย84ปีชาวอุบลฯ ที่เคยหมั้นอภิสิทธิ์ไว้ให้คนอีสานนั้น ก็กำลังป่วยหนักขั้นวิกฤติจากโรคมะเร็งท่อน้ำดี นอนไม่รู้สึกตัว นายกฯอภิสิทธิ์ต้องการเดินทางมาเยี่ยมที่โรงพยาบาล แต่ต้องยกเลิกเพราะกลุ่มคนเสื้อแดงมาปิดล้อมอยู่หน้าโรงพยาบาล รอดักนายกฯอภิสิทธิ์


เช้าวันรุ่งขึ้น ยายเนียมถูกส่งกลับบ้าน หวังตายที่บ้าน แต่ไม่ทันถึงบ้านก็สิ้นใจเสียก่อน นายกฯอภิสิทธิ์ต้องการไปงานศพในวันที่12ม.ค.51 แต่จะไปได้หรือไม่ ต้องเจรจากับกลุ่มเสื้อแดงอุบลฯก่อน


*****************************************


ที่สรุปมาคร่าวๆ ก็เพื่อแสดงให้เห็นถึงสภาวะการแตกแยกของคนไทยที่กำลังเกิดขึ้น แน่นอนแม้ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง แต่นี่คือหนทางประชาธิปไตยแบบเฉพาะตนที่คนไทยต้องผ่านการเรียนรู้กันอีกครั้ง ในอเมริกายุคสงครามกลางเมืองเมื่อนับร้อยปีก่อน ช่วงที่ผุ้คนยังไม่เข้าใจประชาธิปไตย และสิทธิเสรีภาพ และการเคารพสิทธิของผู้อื่นมากเหมือนในปัจจุบัน ก็เคยมีการขว้างปาใส่ฝ่ายการเมืองตรงข้ามเช่นกัน

หากเรามองในแง่ดี ก็นับว่า นี่คือหนทางการเรียนรู้อีกขั้นของเรา ที่อาจต้องแลกมาด้วยความแตกแยก ก่อนที่จะสามัคคี ผมหวังว่า สักวันจะมีวันที่ไทยเราจะดีขึ้นครับ ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองประเทศไทยด้วยครับ

*****************************************

การกลับชาติมาเกิด?
.
พอลองนึกๆ ดูเล่นๆ ผมลองคิดไปว่า เป็นไปได้มั้ย ที่ในอดีตโบราณ ข้าศึกต่างชาตินับร้อยนับพันที่มารบพุ่งในแผ่นดินนี้ และได้ตายในสงครามเมื่อหลายร้อยปีก่อน ได้กลับมาเกิดบนแผ่นดินไทยในช่วงนี้ รอยอดีตชาติฝังในสันดาน ที่อาจแฝงมา จึงทำให้คนไทยที่อาจเป็นอดีตทหารพม่า หรือทหารชาติอื่นๆ กลับชาติมาเกิด จึงไม่ค่อยรู้สึกรักชาติ รักสถาบันเท่าที่ควร บ้านเมืองเราจึงมีความแตกแยกอย่างทุกวันนี้

อาจเป็นกรรมร่วมกันของคนในชาติก็ได้ ที่เราทุกคนตองร่วมกันชดใช้?

*****************************************

สิ่งที่ สมัคร เคยหาเสียงช่วงเลือกตั้ง ก่อนเป็นนายกฯพรรคพลังประชาชน

สมัครตอนหาเสียงในฐานะหน.พรรคพลังประชาชน ก่อนชนะการเลือกตั้งได้คะแนนเสียงมากที่สุด(แต่ไม่ถึงกึ่งหนึ่งของสภาแต่ต้องรวมกับพรรคอื่น) และได้จัดตั้งรัฐบาลในฐานะพรรคเสียงข้างมากตามระบอบประชาธิปไตย

ในช่วงหาเสียง สมัคร ชูนโยบายว่า จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็ต่อเมื่อบริหารประเทศจนใกล้ๆครบวาระแล้วจึงจะเริ่มทำการแกไขรัฐธรรมนูญ น่าจะอยู่ที่ช่วงเวลาประมาณขึ้นปีที่3 ก่อนจะครบวาระ4ปี

แต่ไม่ทันเป็นรัฐบาลได้ถึง3เดือน รัฐบาลสมัครก็ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเสียแล้ว

และนี่แหล่ะ คือจุดเริ่มต้นของการออกมาอีกครั้งของกลุ่มพธม.

สิ่งที่รัฐบาลสมัครอยากแก้หลักๆก็คือ เรื่องกฏหมายการยุบพรรค และเรี่องอภัยโทษให้คนในบ้านเลขที่111 ยุบคตส.เป็นต้น

*****************************************
.
แซวการเมือง "อย่าปล่อยให้อภิสิทธิ์ลอยนวล"

.

ที่กลุ่มขี้ข้าแม้ว เช่นนายณัฐวุฒิ นายวีระ ที่ตกงานรับจ้างก่อม้อบ พยายามขัดขวางการทำงานของรัฐบาลอภิสิทธิ์ ก็เพราะหากอภิสิทธิ์แก้ปัญหาเศรษฐกิจได้สำเร็จพอควร และใช้ประชานิยม(ที่ไม่ส่งเสริมความฟุ้งเฟ้อ)ได้ถูกใจชาวรากหญ้าแล้ว

.

คนรากหญ้าก็อาจลืมทักษิณได้ ฉะนั้น อย่าปล่อยให้อภิสิทธิ์ลอยนวล สร้างคะแนนนิยมได้ให้สำเร็จ ต้องขัดขวางการทำงานของอภิสิทธิ์โจมตีทุกอย่าง ทั้งเรื่องลอกเลียนนโยบาย ทั้งซื้อใจห้อยได้สำเร็จ

.

ฉะนั้นอย่าให้อภิสิทธิ์มีผลงานเข้าตาประชาชนเด็ดขาด คือกลัวน่ะ เข้าใจมั้ย กลัวน่ะ!

.

ถ้าอภิสิทธิ์ทั้งหล่อ ทั้งเก่ง และไม่โกง ต่อไปแม้วจะเหลือเร้อ

.

ส่วนเฉลิม และจตุพร ได้เป็นสส.สัดส่วนก็ต้องตอบแทนบุญคุณแม้วเป็นธรรมดา หากลงแบบเขตยังไม่รู้จะลงเขตไหนเลย

.

วีระ ณัฐวุฒิ สอบตกซ้ำซาก ก็ต้องทำคะแนนเอาใจนายใหญ่ เผื่อสมัยหน้าจะได้เป็นสส.กะเขาบ้างง่ะ

.

"นายครับ นายมีคนรักเพียบครับ นายเชื่อผมเถอะ พธม.มีคนกระจิดริด นายลงทุนหน่อย รับรอง นายชนะแน่เชื่อผมเถอะนาย ผมสู้ตายเพื่อนายครับ(แต่ผมไม่ตายนะครับ) "

.

(แนะนำว่า โจมตีเรื่องปรส.ยังดูเข้าท่ากว่า แต่ต้องอธิบายดีๆนะ ไม่งั้นเดี๋ยวฟังไม่เข้าใจง่ะ )

.


วันจันทร์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2552

พรรคเพื่อไทยฝ่ายทักษิณอย่าเห็นแก่ตัว?

.

วันนี้พรรคฝ่ายค้านรัฐบาลอภิสิทธิ์ ซึ่งก็คือพรรคเพื่อไทย หรือเพื่อใคร? ได้เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนโยบายรัฐบาลอภิสิทธินอกสภา โดยไปจัดที่โรงแรมเพื่อโจมตรัฐบาลอภิสิทธิ์


โดยเฉพาะประเด็นเรื่อง พรรคประชาธิปัตย์ ลอกเลียนแบบนโยบายประชานิยมมาจากรัฐบาลไทยรักไทยของทักษิณ


ที่จริง ผมเองก็ไม่เคยชอบพรรคประชาธิปัตย์มาตลอด เพราะพรรคนี้ไม่เคยคิดอยากจะช่วยคนจนอย่างจริงจัง เก่งแต่ด่ามากกว่าทำ ขนาดขุดพ่อแม่บรรพบุรุษคนอื่นมาเพื่อทำลายให้นายกฯบรรหารต้องลาออก ก็ทำมาแล้ว


แน่นอน ไทยรักไทยของทักษิณ เป็นพรรคที่ริเริ่มปฏิวัตินโยบายเพื่อคนจนเป็นครั้งแรก แม้จะยังมีข้อบกพร่องอยู่บ้างตามประสาการริเริ่มใหม่ ก็ต้องยอมรับว่า ได้ใจประขาชนไปอย่างท่วมท้น จนต่อๆมาพรรคการเมืองต่างๆ ต่างก็เลียนแบบกันยกใหญ่


พรรคประชาธิปัตย์เองก็เคยดูถูกดูแคลนนโยบายประชานิยมของไทยรักไทยหรือทักษิณมาก่อน แต่มาถึงตอนนี้ก็ต้องยอมรับว่า ต้องทำตาม ต้องเลียนแบบพรรคของทักษิณในที่สุด


พรรคประชาธิปัตย์ แม้จะเหมือนต้องกลืนน้ำลายตัวเอง จากที่เคยด่านโยบายคนอื่น แต่กลับต้องมาทำตามเขาก็ตาม ผมก็ว่า ไม่เห็นแปลกหรือต้องอายมากมายตรงไหน หากเพื่อชาติ อายหน่อยจะเป็นไรไป


ในเมื่อนโยบายบางอย่างเป็นสิ่งที่ดีต่อประชาชนและประเทศชาติ ถ้าประชาธิปัตย์ต้องกลืนน้ำลายตัวเอง ก็ต้องทำ หากนโยบายใดๆมีประโยชน์หากจำเป็นต้องคงไว้ ก็ต้องคงไว้


พรรคเพื่อไทยของทักษิณ หรือนักการเมืองฝ่ายทักษิณ ไม่ควรที่จะมาหวงนโยบาย โดยการโจมตีคนอื่น หรือห้ามคนอื่นเขาเลียนแบบ


ก็เพราะประเทศไทยมักมีนักการเมืองการอิจฉาริษยากันแบบนี้นี่เอง จึงทำให้บ้านเมืองต้องแตกแยก ไม่เจริญ ใครเขาจะทำดี ก็มีอันต้องไปขัดขวาง? ทั้งหมดก็เพราะความเห็นแก่ตัว เห็นแก่หน้าตาตัวเอง มากกว่าจะเห็นแก่ประเทศชาตินี่เอง


ประเทศอเมริกา เวลาใครได้เป็นรัฐบาลฝ่ายบริหาร หากรัฐบาลทำไปเพื่อประโยชน์ของประชาชนและชาติจริงๆ ฝ่ายค้านเขาก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือ ไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่ายเหมือนนักการเมืองไทย ที่เห็นใครทำดีกว่าเป็นไม่ได้

สมรักษ์ คำสิงห์ เป็นนักชกไทยคนแรกที่ได้เหรียญทองโอลิมปิก สมรักษ์ ไม่เห็นบอกเลยว่า รุ่นน้องอย่ามาเลียนแบบผมนะ


แน่นอน ทักษิณก็เป็นคนแรกที่ใช้นโยบายประชานิยม ในเมื่อเป็นสิ่งดี ก็ต้องมีคนเลียนแบบบ้างเป็นธรรมดา แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดหรอก เพราะทุกอย่างต้องมีการปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น ไปตามกาลเวลา


สมรักษ์ ทำเหรียญทองคนแรก ก็ต้องมีคนทำตามต่อไป ทักษิณทำคนแรก ก็ไม่จำเป็นต้องรอทักษิณกลับมาทำอีกก็ได้ เมื่อมีสมรักษ์ ก็มีวิจารณ์ พลฤทธิ์ ตามมา ต่อด้วย มนัส บุญจำนงค์ และสมจิตร จงจอหอ เมือ่มีทักษิณ ก็ต้องมีคนอื่นต่อๆมา ไม่ใช่ว่า ทักษิณจะต้องเป็นคนเดียวเท่านั้นที่มีสิทธิทำนโยบายประชานิยมเท่านั้น


นโยบายทักษิณผิดพลาดก็มีอยู่เยอะ คนมาใหม่ก็ต้องปรับปรุงต่อไป หากมัวแต่คิดว่า อันนี้นโยบายของข้าใครอย่าแตะ ก็เท่ากับว่า ได้เห็นสันดานแท้จริงของนักการเมืองฝ่ายพรรคฝ่ายทักษิณจนได้ ว่าเห็นแก่ตัวมากกว่าเห็นแก่ชาติ






(อภิสิทธิ์ ชน "โจร") --> รวมแซวการเมือง



เมื่อวันที่29ธ.ค.ปีที่แล้ว พวกคนเสื้อแดงอ้างประชาธิปไตยช่วยแม้ว ได้ปิดล้อมหน้ารัฐสภาหวังจะไม่ให้รัฐบาลอภิสิทธิ์แถลงนโยบาย เพื่อจะได้เป็นรัฐบาลโดยสมบูรณ์ ซึ่งมีการตั้งเวทีที่มีรูปพระบรมฉายาลักษณ์ฯติดไว้ข้างๆข้อความ <อภิสิทธิ์ชน "โจร" > นั้น

ซึ่งทีแรกมีหลายคนออกมาตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะเข้าข่ายหมิ่นพระบรมฯได้ ซึ่งภายหลังพวกนปชก็ได้ปลดพระบรมฉายาลักษณ์ลงตามภาพข้างล่าง


ทีนี้ ผมได้เห็นมีคนตั้งข้อสังเกตว่า ที่จริงข้อความที่อยู่บนเวทีนปช.นั้น ก็น่าจะกลายเป็นการด่าเข้าตัวเองของพวกนปช.เอง เพราะจากรูปประโยค < อภิสิทธิ์ชน "โจร" > ก็น่าจะแปลได้ว่า นายกฯอภิสิทธิ์ต่อสู้(ชน)โจร(นปช.) ก็ได้

ครั้งแรกที่ผมได้อ่านคำแปลที่ถูกต้องจากข้อความนี้นั้น ผมขำจริงๆ เท่ากับว่า พวกเสื้อแดงด่าตัวเองชัดๆ อย่างนี้ก็เรียกได่ว่า ให้ทุกข์แก่ท่านทุกนั้นถึงตัว สมน้ำหน้าจริงๆ

.

*****************************************

.

ศึกษาวิธีทำงานของทักษิณ

.

ซื้อสัมปทาน --> บริหารบริษัทสัมปทานให้เจริญ --> โยกย้ายซุกซ่อนกำไรและหุ้น --> สุดท้ายขายกิจการ

ต่อมา

ซื้อใจประชาชนและซื้อสส. --> บริหารชาติให้เจริญขึ้น --> โยกย้ายซุกซ่อนผลประโยชน์ทับซ้อนออกนอก --> สุดท้ายก็....

.

******************************************

.

ปัญหาระดับแมวๆ

.

อะไรเอ่ย? เงินหด? เมียหาย? ห้อยหนี? เหลือแต่หมา3ตัวหัวขวด?

อะไรเอ่ย? รู้รักษาเมียและลูกรอดเป็นยอดดี แต่ประชาชนคนเสื้อแดงต้องลุยแทน?

อะไรเอ่ย? หนีคดีเรื่องเล็ก ชาติบรรลัยข้าไม่ว่า แต่เงินข้าต้องเอาคืน?

.

*******************************************

.

ฟ้าบอกความนัยที่แฝงมากับ "พระจันทร์ยิ้ม"

.

วันที่1ธ.ค.51 พระจันทร์ยิ้มอย่างสวยงาม ก่อนวัน ยุบพรรคพลังประชาชน

วันที่29ธ.ค.51 พระจันทร์ยิ้ม อีกครั้ง ก่อนอภิสิทธิ์แถลงนโยบาย

วันที่31ธ.ค.51 พระจันทร์ยิ้มอีกครั้ง หลังรัฐบาลแถลงโดยไม่มีใครต้องตายเหมือนวันที่7ต.ค.

.

******************************************

.

"นทช." พ่อ "นปช." และ "พจม." แม่ "นปช."

.

นทช. ย่อมาจาก นักโทษชาย (ทักษิณ) และ พจม. ย่อมาจาก พาลจะมด

นปช. ย่อมาจาก แนวร่วมปกป้องทรัพย์สินชินวัตร

.

******************************************

.

สำนักข่าวต่างประเทศเรียกกลุ่มผู้ยึดสนามบินสุวรรณภูมิ,ดอนเมืองว่าอะไร ?

.

ผู้ประท้วง ภาษาอังกฤษ คือ protester หมายถึงกรณี ยึดสนามบินของกลุ่มพันธมิตร

.

ส่วนผู้ก่อการร้าย คือ terrorist เช่นผู้ก่อการร้ายเผาโรงแรมในอินเดีย

.

สำนักข่าวชื่อดังและน่าเชื่อถืออย่าง cnn หรือ bbc เป็นต้น ไม่เคยใช้คำว่า terrorists กับกลุ่มพันธมิตรเลย ใช้แต่protestersเท่านั้น

.

มีแต่รัฐบวมของ นายณัฐวุฒิ เท่านั้น ที่อยากจะยัดเยียดข้อหาผู้ก่อการร้าย

.

ส่วนจะเอาผิดด้านอื่น ผมไม่ติดใจ ใครอยากฟ้องเรื่องอื่นๆเช่นคดีแพ่ง ก็ฟ้องได้ตามสิทธิ แต่พึ่งเห็นไปฟ้องแค่เจ้าเดียวคือการท่าฯ

.

**********************************

.

สุดท้ายสำหรับ แซวการเมือง ผมขอนำเสนอรูป "แม้วหัวหด" ครับ


.newakecity

วันเสาร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2552

ละครเกาหลีที่ผมรักและประทับใจที่สุด






.
ก่อนอื่นขอสวัสดีปีใหม่กับผู้อ่านทุกคนครับ(แม้จะไม่มากฮิๆ) บทความเรื่องนี้เป็นบทความแรกของปี 52 

ผมขอเริ่มด้วยเรื่องละครเกาหลีที่ผมรักที่สุดนับตั้งแต่บ้าละครเกาหลีมาหลายปี แต่นับตั้งแต่วันแรกที่ดูละครเกาหลีมาจนถึงวันนี้ ผมเพิ่งนับเรื่องที่เรียกว่า สุดยอดประทับใจระดับเพอร์เฟคสมบูรณ์แบบ มีอยู่แค่ 3 เรื่องเท่านั้นครับ

แต่ก่อนจะบอกว่าเรื่องอะไร ขอพูดถึงนิสัยส่วนตัวของผมนิดนึงก่อนนะครับ คือว่า ผมไม่ค่อยชอบดูละครเกาหลีผ่านรูปแบบVCDหรือDVDครับ ผมนิยมดูผ่านฟรีทีวีธรรมดานี่แหล่ะครับ เพราะมันได้รอคอยกว่า ไม่ใช่ตะบี้ตะบันดูรวดเดียวจบ แบบนักดูซีรีย์เกาหลีเขาทำกัน

ที่สำคัญผมติดกับเสียงพากย์ของทีมพากย์ทางโทรทัศน์มากกว่า ก็ทั้งช่อง 3 และช่อง 7 แต่ผมมักจะได้ดูทางช่อง3 เป็นส่วนใหญ่ ช่อง7 รองลงมา ส่วนไอทีวีที่โดนปิดไปแล้วก็เคยดูหลายเรื่อง แต่ละครที่ผมประทับใจสุดๆ คือละครเกาหลีที่ฉายทางช่อง 3 ครับ

เรื่องแรกคือเรื่อง " อุ่นรักเต็มหัวใจ" (Wuri 's Family)


เรื่องนี้เคยออกอากาศตอนตี 2 ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ทางช่อง 3 เป็นเรื่องของครอบครัวชนชั้นกลางของเกาหลี ที่ประกอบด้วยพ่อแม่ ย่า ลูกวัยรุ่นอีก 3 คน ที่มีพี่สาวคนโตคนสวย พี่ชายคนรอง(พระเอก) น้องชายคนเล็กสุดซ่า

และมีอีกครอบครัวหนึ่งที่มาขอเช่าอยู่ในบ้านพระเอกด้วย โดยมีแม่ม่าย(ที่เป็นเพื่อนแม่พระเอก) ที่มีลูกสาวน่ารัก1คน(นางรอง)ที่เป็นเพื่อนพระเอกและแอบรักพระเอกมาตั้งแต่เด็ก และอาศัยอยู่ในบ้านเดียวกันกับพระเอก

.
การดำเนินเรื่องของเรื่องนี้ ผมบอกตามตรงนับว่าเป็นเรื่องแรกที่ทำให้ผมถึงขั้นหลงรักละครเกาหลีเลย เพราะที่ผ่านมา ละครเกาหลีผมอาจจะซาบซึ้ง ชอบ แค่ก็ไม่ถึงกับหลงรักเท่าเรื่องนี้ ซึ่งในละครเราจะได้เห็นการดำเนินชีวิตของครอบครัวที่แสนจะอบอุ่น แต่ก็ต้องมีปัญหาให้คนดูลุ้นสนุกอยู่ทุกตอน แล้วยังมีความรักแท้ๆของพระเอกที่มีต่อนางเอกที่เป็นใบ้ด้วย ที่ต้องฝ่าฟันอุปสรรคทางสังคมครอบครัวเพื่อพิสูจน์รักแท้ของทั้งคู่

แต่คุณผู้อ่านครับ ผู้หญิงสาว ๆ ในเรื่องนี้สวย ๆ น่ารักทั้งนั้น ทั้งพี่สาวพระเอก นางเอก นางรอง และแฟนน้องชายพระเอก ผมชอบทุกคนเลย แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้ผมจะต้องมาประทับใจกับเรื่องนี้หรอกครับ


สิ่งที่สำคัญที่ทำให้ผมประทับใจก็คือ ความรักความสัมพันธ์ระหว่างคนในครอบครัวทุกคน ระหว่างเพื่อน และระหว่างคนรัก สิ่งนี้ต่างหากที่ละครเกาหลีสอนได้ดีมากๆ แถมแทรกมุขตลกขำๆทุกตอน จนเราทั้งขำทั้งเศร้าทั้งประทับใจไปพร้อมๆกันเลยครับ โดยเฉพาะนางรองที่คุณอาจจะเทใจให้เธอแบบผมก็ได้


เสียดายอย่างนึงคือ เรื่องนี้ไม่ค่อยยาวเท่าไหร่ ผมรักมากจนไม่อยากให้อวสานเลยครับ

ขอแนะนำให้ใครที่ยังไม่ได้ดู ควรรีบหาดูครับ ก็เพราะเรื่องนี้แหล่ะครับ แล้วคุณจะรักละครเกาหลีแบบสุดๆแบบผม


(อารมณ์ของผมขณะดูละครเรื่องนี้ คือ รู้สึกสุขใจตลอดเวลาที่ละครฉาย สมชื่อที่ว่า อุ่นรักเต็มหัวใจ จริงๆ)



เรื่องที่สองคือเรื่อง "แฟชั่น70 รักนี้ไม่มีดีไซน์"



พอเรื่อง "อุ่นรักเต็มหัวใจ"อวสาน ก็มีเรื่อง "แฟชั่น70 รักนี้ไม่มีดีไซน์" ออกอากาศต่อทันที ซึ่งทีแรกผมยังอารมณ์ค้างกับเรื่อง "อุ่นรักเต็มหัวใจ" ยังไม่ทันหาย และยังเสียดายที่อวสานเร็วไปอยู่ พอเรื่อง "แฟชั่น70รักนี้ไม่มีดีไซน์" มาฉายวันแรก

ผมยังอดคิดไม่ได้ว่า เรื่องนี้จะสนุกเร้อ! แถมหนังก็ดูย้อนยุคเสียด้วย เริ่มต้นก็คล้ายๆ เป็นหนังสงคราม แล้วมันจะเกี่ยวกับแฟชั่นยังไง? ก็ลองดูๆซิจะสนุกพอดูได้มั้ย แต่แล้ว...!?

แค่เริ่มตอนแรกก็สนุกจนต้องลุ้น จนต้องอยากดูต่ออีก ที่สำคัญตอนนางเอกเด็ก ๆสนุกมาก ๆ เป็นสุดยอดของละครที่เกี่ยวกับการพลัดพรากเลยทีเดียว ละครเกาหลีส่วนใหญ่จะมีพลัดพรากก็แค่พระเอกกับนางเอก แล้วก็ลุ้นให้มาพบกัน 


แต่เรื่อง "แฟชั่น70รักนี้ไม่มีดีไซน์" เป็นการพลัดพรากที่ซับซ้อนหลายชั้นกว่า หลายสถานะที่ต้องพลัดพราก เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดละครที่ว่าด้วยเรื่องการพลัดพรากเลยทีเดียว

แม้เรื่องจะย้อนยุคไปในยุคสงครามเกาหลีเมื่อ50-60ปีก่อน แต่ละครกลับทำได้สมจริงมากๆ แล้วผมก็หลงรักตัวละครของนางเอกและนางรองตอนเด็ก ๆ มาก ๆ จนไม่อยากให้เด็กทั้งสองคนโตเลย อยากจะดูการผจญภัยของเด็ก ๆ ไปนาน ๆ


.
แต่พอเริ่มตอนโต ผมก็ลุ้นว่าจะสนุกเหมือนตอนเด็กหรือไม่ เพราะนางเอกดูแรกๆก็ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ แต่เราต้องยอมรับว่า ละครเกาหลีเขาเขียนบทได้เยี่ยม จนผมค่อยๆรักและเชียร์นางเอกไปในที่สุด เพลงประกอบละครก็เพราะทุกเพลง ซึ้งมากๆ




ละครเกาหลีนี่ต้องยอมรับว่า เขาทำได้สุดยอด เรื่องน่าจะดูน้ำเน่านะ ถ้าเป็นละครไทยคงเน่าไปแล้ว แต่ละครเรื่องนี้ไม่เลย ละครเรื่องนี้เขียนบทได้ดีจนเราไม่รู้สึกว่าจะน้ำเน่าเลย เหนือชั้นมากๆ แถมละครเกาหลีทั้งสองเรื่องที่ยกตัวอย่างก็จะไม่ลืมสอดแทรกแง่คิดดีและความสนุกสนานไปตลอดทั้งเรื่อง เรียกได้ว่า ไม่อยากให้อวสานเลยครับ

เรื่อง "แฟชั่น70รักนี้ไม่มีดีไซน์" จึงนับว่าเป็นละครเกาหลี ที่คุณห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ มันส์จริงๆครบทุกรสชาติ จริงๆ


(อารมณ์ของผมขณะดูละครเรื่องนี้คือ ลุ้นและซึ้งจนน้ำตาไหล)



เรื่องสุดท้ายที่ผมประทับใจ คือเรื่อง "กึมซุนลุ้นหัวใจให้รักเธอ"




คือแรกๆเรื่องนี้ ผมก็ไม่ค่อยได้ดูเท่าไหร่ เนื่องด้วยเวลาไม่ค่อยอำนวย เพราะออกอากาศตอนบ่ายโมงครึ่ง ทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ แต่แม่ผมดูทุกวันจนติด แทบไม่อยากไปไหน

แม้จะได้ดูบ้างไม่ได้ดูบ้าง แต่ก็ชอบดู เพราะดูทีไรก็สนุกทุกที และพอมีโอกาสได้ดูติดๆกันมาระยะนึง บอกตามตรง เรื่อง "กึมซุนลุ้นหัวใจให้รักเธอ" กลับดีกว่าที่คิดในตอนแรกมากๆ ที่ทีแรกผมคิดว่าดูก็ได้ ไม่ดูก็ได้ แต่สุดท้าย กลับต้องบอกว่า ไม่ดูไม่ได้แล้ว ดีจริง ๆ


นางเอกเรื่องกึมซุน ก็เคยเล่นเป็นนางเอกเรื่อง "จูมง" แต่เรื่อง "จูมง" นางเอกคนนี้เล่นเป็นคนฉลาด ถือตัว ผมเองก็ไม่ค่อยได้ประทับใจบทบาทนางเอกคนนี้ในเรื่องจูมงเท่าไหร่ แต่พอมาเรื่องกึมซุน ผมกลับประทับใจฝีมือการแสดงของเธอแบบสุดๆเลย ตีบทแตกมากๆ เล่นเป็นแม่ม่ายวัยรุ่นได้เยี่ยมจริง ๆ

ดูโฆษณาที่ช่อง 3 โปรโมทตอนแรกนึกว่า ก็คงงั้น ๆ แต่ที่ไหนได้ กลับกลายเป็นละครที่ตลกสนุกให้แง่คิดของการอยู่ในฐานะลูกสะใภ้ของคนเกาหลีได้ดีมาก ๆ สามารถนำมาสอนผู้หญิงไทยได้เลย แถมยังให้ข้อคิดแก่คนที่ต้องเป็นแม่สามีหรือพ่อสามีได้ดี

เรื่องราวความรักของพระเอกนางเอกก็น่ารักน่าลุ้นตลอดเรื่อง และๆได้ดูการที่ผู้หญิงคนนึงที่ด้อยการศึกษาฐานะ ที่ต้องมาเป็นแม่ม่ายตั้งแต่ยังสาว โดยปราศจากที่พึ่ง ที่ต้องดิ้นรนต่อสู้จนเอาชนะใจทุกๆคนได้ สนุกมาก และดีที่สุด ที่หนังชีวิตทีดีที่สุดสำหรับการครองเรือนเลยทีเดียวครับ

จากลูกสะใภ้ที่ยังอายุน้อยมาก แล้วต้องมาอยู่ในบ้านสามีที่แม่สามีไม่ค่อยยอมรับ กึมซุนได้ทำยังไงจนทำให้ทุกคนรักเธอได้ ต้องดู! สอนให้เห็นถึงความอดทนและความดีที่เธอมีต่อทุกคนที่เธอรักได้อย่างกินใจ



แล้วพระเอกที่เป็นถึงคุณหมอหนุ่มรูปหล่อเนื้อหอม ไฉนเลยถึงได้มาหลงรักแม่ม่ายลูกติด ที่ทั้งจน ด้อยการศึกษาและเฉิ่มเชยอย่างกึมซุนได้ อย่างนี้ต้องติดตามครับ ความรักของพระเอกนางเอกกุ๊กกิ๊กน่ารักไม่แพ้ละครเกาหลีเรื่องอื่นๆเลย

อ้อ! ลืมบอกไปอย่างนึง ที่ผมประทับใจเรื่องนี้อีกจุดนึงก็คือ กึมซุนเป็นเด็กกำพร้าที่ต้องอยู่กับย่า ให้ย่าเลี้ยงตั้งแต่เล็ก ความสัมพันธ์ระหว่างย่ากับหลาน เป็นไปได้อย่างลึกซึ้งกินใจ ที่ทำให้คนดูอย่างผมต้องอมยิ้มอยู่เสมอ ย่ากึมซุนเล่นเก่งมากๆ น่ารักสุดๆ ตลกด้วยครับ

ใครกำลังจะแต่งงาน หรือ ใครที่แต่งงานแล้ว ยิ่งต้องห้ามพลาดเรื่อง "กึมซุนลุ้นหัวใจให้รักเธอ" เด็ดขาดครับ แล้วคุณจะหลงรักแม่ม่ายที่ชื่อกึมซุน ครับ

ขณะที่เขียนบทความนี้ละครยังไม่อวสาน แต่ก็ใกล้จบแล้วหล่ะ ทั้งที่ๆละครมีนับกว่าร้อยตอน แต่ไม่มีตอนไหนเลยที่ผมจะเบื่อหรือหาข้อบกพร่องจากการเขียนบทเรื่องนี้ได้เลย ต้องยกย่องคนแต่งและคนเขียนบทเขาจริงๆ ว่า ช่างรู้รายละเอียดชีวิตของคนเกาหลีได้ดีมากๆสมจริงที่สุด


(อารมณ์ของผมขณะดูละครเรื่องนี้คือ บอกกับตัวเองว่า เยี่ยมจริงๆนะละครเกาหลี ละครไทยหาดีแบบนี้ไม่เคยเจอ "กึมซุนลุ้นหัวใจให้รักเธอ " คือละครชีวิตที่สมบูรณ์แบบที่สุด ไม่มีข้อติเลย สมบูรณ์100%)
.
กึมซุน สอนให้ผมอยากเสียสละ หากเทียบความดีของ กึมซุน เต็ม100% ความดีในตัวผมยังไม่ถึง5% ของกึมซุนเลย

ทั้งหมดที่ยกมา ล้วนแต่เป็นสุดยอดละครเกาหลีที่ผมหลงรักมากๆ ทุกเรื่องสอนให้เรารู้จักคุณธรรม ความรักแท้จริง ความเสียสละ และวัฒนธรรมอันดีงามของสังคมเกาหลีที่คนไทยควรเลียนแบบ

.
ขอแนะนำว่า ละครเกาหลีเรื่องไหนๆก็พลาดได้ แต่3เรื่องนี้คุณผู้อ่านไม่ควรพลาดนะครับ รับรองไม่ผิดหวัง

ดูละคร 3 เรื่องนี้แล้ว แทบไม่อยากกลับมาดูละครไทยอีกเลยจริง ๆ



อ่าน แนะนำละครโบราณเกาหลีที่ดีที่สุด
อ่าน ทำไมละครเกาหลีถึงดีกว่าละครไทย




ผู้ติดตาม