มาตรการที่รัฐบาลอภิสิทธิ์ ที่ได้ออกมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจหลายๆอย่างนั้นตามข่าว แต่ที่ได้รับความสนใจและวิพากษ์ว่าควรหรือไม่ ก็คือมาตรการแจกเงิน2,000บาทให้แก่แรงงานในระบบประกันสังคมและข้าราชการที่มีเงินเดือนต่ำกว่า14,999บาททุกคน เป็นระยะเวลาครั้งเดียวเดือนเดียว ( รู้สึกจะเป็นเดือนเม.ย.)
(แล้วคนที่ได้เงิน15,000-16,000บาท เดือนนั้นก็จะได้เงินน้อยกว่า พวกที่เงินเดือนต่ำกว่า14,999บาทน่ะสิ?)
สำหรับผมแล้ว ไม่ค่อยชอบมาตรการนี้เท่าไหร่ แต่ไม่อยากคัดค้าน เพราะอยากให้โอกาสรัฐบาล แต่ถ้าเลือกได้ผมไม่อยากให้มีมาตรการนี้ เพราะดูจะไม่ค่อยทั่วถึงและได้แสดงให้เห็นถึงความสร้างสรรค์ทางความคิดสักเท่าไหร่ คิดง่ายไปหน่อย แจกเงิน!
ที่จริงในอดีตเมื่อไม่กี่ปีก่อน รัฐบาลญี่ปุ่นก็เคยใช้วิธีนี้มาแล้ว แต่มีข้อแตกต่างกับของรัฐบาลอภิสิทธิ์อยู่ตรงที่ ญี่ปุ่นเขาไม่ได้แจกคนวัยแรงงานในระบบ ซึ่งมีข้อด้อยก็คือแล้วแรงงานนอกระบบยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ แต่รัฐบาลญี่ปุ่นเขาเลือกที่จะแจกผู้สูงอายุทุกคนในประเทศไม่เลือกฐานะและอาชีพหรือไม่มีอาชีพ คือแจกทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ส่วนคนละเท่าไหร่นั้น? ตรงนี้ผมขออภัยจำตัวเลขที่แน่นอนไม่ได้
ซึ่งผู้สูงอายุชาวญี่ปุ่น เพียงแค่ไปที่สำนักงานเขต และยื่นหลักฐานส่วนตัวก็รับเงินไปเลย ง่ายๆทันที
ซึ่งสิ่งที่รัฐบาลญี่ปุ่นทำคราวนั่นก็หวังการใช้จ่ายในเศรษฐกิจที่กำลังถดถอยของญี่ปุ่นนั่นเอง แต่การให้เงินผู้สูงอายุนั้นมันจะไม่ค่อยมีข้อครหาเท่าไหร่ เพราะได้ทุกคน เสมือนเป็นการตอบแทนที่ผู้ชราทุกคนอุตส่าห์ทำงานมาตลอดชีวิตเพื่อสร้างชาติและมีชีวิตมาจนถึงวันนี้
แทบไม่มีใครในประเทศญี่ปุ่นที่คัดค้านมาตรการนี้ เพราะแทบทุกคนทุกบ้านก็ล้วนแต่มีญาติๆที่สูงอายุกันแทบทั้งนั้น
นี่แหล่ะ! คือมาตรฐานญี่ปุ่นที่ดูแล้วจะสูงกว่าเราเสมอทุกด้าน แม้แต่เรื่องแจกเงินง่ายๆก็ตาม
ทุกวันนี้ผู้สูงอายุในบ้านเรา แทบไม่ได้รับการเหลียวแลจากรัฐบาลเท่าที่ควร เงินยังชีพเดือนละ500บาทที่ผ่านมา ก็ต้องคนมีเส้นกับข้าราชการท้องถิ่นถึงจะได้ ทำให้คนที่ควรได้กลับไม่ได้ คนที่ไม่ควรได้แต่กลับได้เพราะมีญาติเป็นผู้มีอำนาจในท้องที่
ถ้าผมขอเรื่องที่ทำง่ายๆ ทำได้ทันทีเพื่อผู้สูงอายุ ที่ผมคิดได้อย่างนึงก็คิอ อย่างน้อยผู้สูงอายุในกรุงเทพฯ น่าจะขึ้นรถเมล์ฟรีทุกคนทุกคัน แต่ทุกวันนี้คนชรายังต้องจ่ายค่าโดยสารรถเมล์อยู่เลย แม้รัฐจะให้จ่ายเพียงแค่ครึ่งเดียวก็ตาม แต่ทุกครั้งผู้สูงอายุถ้าอยากจะจ่ายค่ารถเมล์ครึ่งเดียวก็ต้องแสดงบัตรประชาชนให้กระเป๋ารถดูก่อน จึงจะได้รับสิทธิจ่ายครึ่งราคา?
แค่ผู้สูงอายุมีแรงขึ้นรถขสมก.ได้เอง ก็นับว่าเก่งแล้ว อุตส่าห์ทำงานสร้างชาติมาหลายสิบปี แค่ค่ารถเมล์จะยกเว้นให้ท่านผู้ชราเหล่านั้นทั้งหมดเลย ไม่ได้เชียวหรือ ฝากถามใครสักคน? (เนื่องจากผมเป็นคนกรุงเทพฯเลยยังคิดได้แค่นี้ครับ อยากให้รัฐช่วยผู้สูงอายุที่อยู่ต่างจังหวัดเช่นกัน แต่พอดีต่างจังหวัดยังไม่มีรถเมล์ คงต้องหาทางอื่น)
เริ่มเรื่องเงินไหงมาลงที่เรื่องรถเมล์? เอาเป็นว่า นโยบายแจกเงินของอภิสิทธิ์ ผมไม่เห็นด้วย แต่ก็ไม่ขอคัดค้านครับ ให้โอกาส....
ขอฝากเพียง หากใครที่ได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลอภิสิทธิ์2,000บาทแล้ว ก็ช่วยซื้อของที่ผลิตจากภูมิปัญญาไทย โดยคนไทย ในเมืองไทย เงินทองจะได้กระตุ้นเศรษฐกิจของไทยได้สูงสุดนะครับ ขอบคุณ
***********************************
ตกงานจึงได้คิด?
ผมได้ดูสกู๊ปข่าวทางช่อง7 เรื่องเกี่ยวกับคนตกงานจากภาคอุตสาหกรรม พูดง่ายๆก็คือ ช่อง7 เขาไปสัมภาษณ์สาวโรงงานที่ต้องตกงานคนนึง
จากข่าวก็คือ สาวโรงงานคนนี้เคยทำงานในโรงงานแห่งหนึ่งแถวๆปริมลฑล แต่ตอนนี้ตกงานแล้วกลับไปอยู่บ้านพ่อบ้านแม่ที่สุพรรณบุรี นอกจากช่วยพ่อแม่ทำไร่ทำนาแล้ว ตัวเองก็รับจ้างแกะแห้วส่งโรงงานรายได้ประมาณเดือนละห้าพันบาท ซึ่งเมือตอนทำงานโรงงาน เธอได้เงินเดือนบวกโอทีแล้ว รายได้ก็ตกอยู่ที่หมื่นต้นๆ แต่แทบไม่มีเงินเก็บ
แต่การกลับมาอยู่กับพ่อแม่ บ้านไม่ต้องเช่า ได้อยู่กับลูกที่เมื่อก่อนต้องฝากพ่อแม่เลี้ยง นานๆได้เจอกับลูกที
ตอนนี้ได้อยู่บ้านกับลูกและพ่อแม่ ได้อากาศบริสุทธิ์ ไม่ต้องรับพิษจากสารเคมีอุตสาหกรรม ครอบครัวอบอุ่น มีความสุขมากขึ้น วันๆรายได้มีเหลือเก็บ ไม่เหมือนตอนทำงานโรงงาน
นี่แหล่ะหนา คนในอยากออก คนนอกก็อยากเข้าเมือง ไม่มาไม่รู้ มาแล้วถึงได้รู้
(เรื่องนี้ผมแค่ฝากไว้ให้คิดเล่นๆเท่านั้นครับ)
*****************************************
คนญี่ปุ่นตกงาน?
ดูข่าวต่างประเทศเมื่อวันก่อน มีข่าวคนญี่ปุ่นตกงานและจรจัดมาประท้วงเรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นช่วยเหลือ จากสภาพคนจรจัดและตกงานแล้วน่าสงสารไม่แพ้คนไทยเลย เพราะคนตกงานและจรจัดก็มีอาชีพลูกจ้างชั่วคราว ที่ไม่มีรายไดแน่นอนอยู่แล้ว ยิ่งในสภาวะเศรษฐกิจตกแบบนี้ งานการที่พอจะรับจ้างได้บ้างก็พลอยมีอันหดหายไปด้วย
คนญี่ปุ่นที่ทั้งตกงานจรจัดไร้ที่อยู่ ยังมีพบเห็นทั่วไปในประเทศที่เจริญและรวยสุดๆอย่างญี่ปุ่น แถมคนที่ไร้ที่อยู่ในญี่ปุ่นนั้น ต้องทรมานจากภัยหนาวแสนสาหัสยิ่งกว่าคนจรจัดไทยเสียอีก
คนไทยหลายๆคน ตกงานยังมีบ้านพ่อบ้านแม่ต่างจังหวัดรองรับ มีนามีไร่ให้คอยทำ แต่คนตกงานในญี่ปุ่นประเทศอุตสาหกรรมจี7 ที่ตกงาน ไม่ได้มีที่ดินนาไร่รองรับได้เหมือนคนตกงานไทย
นี่แหล่ะหนา เกิดเป็นมนุษย์ ไม่ว่าที่ไหน ก็มีทุกข์ได้ทั้งนั้น
****************************************
นายบารัค โอบามา หลังชนะการเลือกตั้งปธน.อเมริกา ก็ได้พาครอบครัวไปบริจาคแจกอาหารและสิ่งของแก่ชาวอเมริกันจรจัดและไร้ที่อยู่. ?
บทความล่าสุดที่เกี่ยวข้อง คลิก อ่านญี่ปุ่นก็แจกเงินเหมือนกัน
ขอบคุณมากค่ะ
ตอบลบ