ผ มตั้งใจว่าจะเขียนบทความเรื่องนี้มาหลายวัน แต่อย่างที่เคยบอก หลังๆบล็อคนี้เน้นสาระมากขึ้น ผู้เขียนก็เลยชักเหนื่อย!! ^^
ก่อนอื่นผมต้องเท้าความประวัติส่วนตัวเท่าที่พอจะเปิดเผยได้สักเล็กน้อย เพื่อให้ผู้อ่านได้รู้ว่า
ผมจะเขียนบทความอย่างไม่เอนเอียงให้คนเหนือบิ๊กแบค และใต้บิ๊กแบค
-------------------
ผมผูกพันธ์กับย่านดอนเมืองที่สุด
ตอนเด็กๆบ้านผมอยู่ปากทางลาดพร้าว อยู่ลาดพร้าวซอย1 หรือซอยสังขะวัฒนะ ผมอยู่ปากทางลาดพร้าวมา21ปี ตั้งแต่เกิดจนอายุ21 ฉะนั้นเมื่อปากทางลาดพร้าวน้ำท่วม ผมย่อมเสียใจ คนที่ผมรู้จัก เพื่อนฝูงของผมที่คุ้นเคย เพื่อนบ้านของผม ก็คงได้รับความเดือดร้อน
ซึ่งถ้าผมยังอยู่ที่ปากทางลาดพร้าวจนถึงปัจจุบัน ผมก็คงเป็นผู้ประสบภัยเช่นกัน
พ่อผมเป็นทหารอากาศ ผมไปเล่นที่กองทัพอากาศดอนเมือง ในกรม ในกองร้อย ที่พ่อทำงานอยู่มาตั้งแต่เด็กๆ ผมขี่จักรยานไปทั่วกองทัพอากาศตั้งแต่9ขวบ บ่อยครั้งผมนอนค้างในกองทัพอากาศในยามที่พ่อผมต้องเข้าเวร ผมแก้ผ้าอาบน้ำกับทหารเกณฑ์มาตั้งแต่เด็ก
ผมเติบโตมาทันเห็นถนนพหลโยธินหน้ากองทัพอากาศ ยังมีแค่2เลน มีร่มไม้จากต้นก้ามปูทั้ง2ฝั่ง เป็นถนนที่ร่มรื่น แต่โดนตัดทิ้งเพื่อขยายถนน
ผมได้ทันขูด
สลากคุ้มเกล้า ได้เห็นอาคารคุ้มเกล้าของโรงพยาบาลภูมิพลตั้งแต่เริ่มสร้างจนสร้างเสร็จ กลายเป็นตึกโรงพยาบาลที่ทันสมัยมากๆในสมัยนั้น บรรยากาศตึกคุ้มเกล้าหลังสร้างเสร็จใหม่ๆ นึกว่าโรงแรม5ดาวเสียอีก
เมื่อปี2540 ผมได้ไปซื้อบ้าน เพื่อทำธุรกิจในย่านดอนเมืองร่วมๆ5ปี ตอนนั้นผมอยู่ที่
ซอยพหลโยธิน64 หรือที่เขาเรียกกันว่า
ซอยกม.27 ซึ่งอยู่เหนือคันบิ๊กแบค ซึ่งทราบว่าน้ำท่วมมิดหัว ซอยนี้มีบ้านอดีต ผบ.ทอ.อยู่หลายคน
ผมคุ้นเคยกับ
ซอย39 หรือซ.พหลโยธิน62
(อดีตซอยอู่รถเมล์สาย39) เพราะผมไปเหมาเบียร์ เหมาเหล้ายามต้นเดือนจากยี่ปั๊วในซอยนั้นเป็นประจำ และปากซอย39มีหาบเร่ข้าวเหนียวหมูปิ้ง เจ้าอร่อยที่สุดในปฐพีอยู่2เจ้า
ผมคุ้ยเคยกับซอยจามร เพราะพ่อผมได้ซื้อที่ดินทิ้งไว้ เพื่อนพ่อผมหลายคนอยู่ในซอยจามร หรือซ.พหลโยธิน66
ผมคุ้ยเคยกับ
ซอยหมู่บ้านการ์เด้นโฮม หรือซ.พหลโยธิน60 เพราะผมไปฝาก-ถอนเงินที่ธนาคารเอเซียตรงการ์เด้นโฮมทุกเดือน 10กว่าปีที่แล้วผมแวะกินก๋วยเตี๋ยวหน้าปากซอยการ์เด้นโฮม และข้าวขาหมูในซอยนั้นบ่อยมาก ๆ หมู่บ้านการ์เด้นโฮม เป็นหมู่บ้านคนรวย เพราะจะมีหมอและพยาบาลจากร.พ.ภูมิพลฯ มีนักบิน สจ๊วตและแอร์โฮสเตส ไปซื้อบ้านที่หมู่บ้านนี้กันมาก
ผมคุ้ยเคยกับ
ร้านแหนมฉายรังสีกม.26 เพราะซื้อประจำ (แกล้มเบียร์)
ซอยแอนเน็กซ์ ผมไม่ค่อยคุ้นเท่าไหร่ แต่เด็กผู้หญิงแสนน่ารักข้างบ้านผมเรียนชั้นประถมในโรงเรียนที่อยู่ในซอยนี้
เพื่อนสนิทแม่ผม อยู่หมู่บ่านวังทองติดกับเซียร์รังสิต ซึ่งท่วมหนักมากๆ ผมคุ้ยเคยเพราะผมไปส่งแม่ที่นี่เป็นประจำ
ที่่เล่ามาคร่าวๆ พอจะเห็นภาพแล้วใช่มั้ยครับ ว่า
ผมผูกพันธ์กับย่านดอนเมืองมากแค่ไหน?
ซึ่งจนทุกวันนี้ก่อนน้ำท่วม ผมก็ยังไปย่านดอนเมืองอยู่เป็นประจำ แต่ปัจจุบันบ้านผมอยู่โชคชัย4ครับ
-----------------------
ศปภ.วางบิ๊กแบคผิดจุด
ผมเคยอธิบาย
หน้าที่ศปภ . กับ
หน้าที่กทม. ในบล็อคเซียนแซวการเมืองไปหลายครั้ง และผมเคยเขียนเรื่อง
ทำไมจำเป็นต้องอุดคันเมืองเอก(คลิก!!) ด้วยการวางบิ๊กแบค
เพราะก่อนหน้านั้นผมเข้าใจว่า ศปภ.จะไปวางบิ๊กแบคตรงหลักหกและเมืองเอกเรื่อยไปตามแนวคลองรังสิต เช่นตรงใต้สะพานกลับรถข้ามคลองรังสิต (สะพานแก้ว)
แต่กลายเป็นว่า ศปภ.ดันมาวางกั๊กตัดตอนเหนือกทม. เช่นตรงแยกคปอ. , หัวถนนวิภาวดี ทำให้คนกรุงเทพฯถูกแบ่งเป็นคนเหนือคันบิ๊กแบค และคนใต้คันบิ๊กแบค
ทั้งๆที่จริงควรวางตามแนวคลองรังสิต แม้จะมีปัญหากับคนย่านฝั่งรังสิต แต่มันจะทำให้อธิบายความให้ชาวบ้านได้ง่ายกว่า และเป็นระบบที่ถูกต้อง
ในการระบายน้ำตามแนวคลองรังสิตไปซ้ายและขวา โดยไม่ให้น้ำพุ่งเข้ากลางกรุงมากเกินไป และควรทำฝายน้ำล้นเสียตั้งแต่แรก ไม่ใช่อุดจนหมด!!
ถามว่า ถ้าไปกั้นน้ำตามแนวคลองรังสิต ผมเดือดร้อนมั้ย?
ผมเดือดร้อนเช่นกันครับ
เพราะน้องชายผมไปซื้อบ้านที่ถนนรังสิต-นครนายก ตรงช่วงคลอง3 ในบ้านน้องชายผม ท่วมถึงเข่า หน้าบ้านน้องชายก็ถึงอก แต่ดีที่น้องชายผมยังไม่ได้ย้ายเข้าไป และบ้านก็เสียหายพอควร ซึ่งคงไม่ได้เงินช่วยเหลือจากรัฐบาล เพราะยังไม่ได้ย้ายทะเบียนบ้านเข้าไป แต่ทราบมาว่าน้ำเริ่มลงมากพอควรแล้ว
ถ้าศปภ.วางแนวบิ๊กแบคที่เมืองเอก และเรื่อยไปตามแนวคลองรังสิต ศปภ.ก็ต้องบริหารจัดการน้ำด้วยการสูบน้ำออกไปทางตะวันตกลงเจ้าพระยา เร่งสูบไปทางตะวันออก ผ่านทางคลอง13อย่างเต็มที่
แต่ศปภ.ก็ไม่ได้วางตามแนวนี้ ดันไปวางแบ่งแยกคนกรุงให้ออกจากกัน ซึ่งอย่างซอยพหลโยธิน64 ที่ผมเคยอยู่
หน้าปากซอยเป็นเขตสายไหม แต่พอเข้าไปในซอยสัก150เมตร กลับกลายเป็นเขตลำลูกกา ไปแล้ว
นั่นจึงทำให้ คนสายไหม
นอก บิ๊กแบค และคนลำลูกกา ต.คูคต คือหัวอกของคนจมน้ำเน่านานเหมือนกัน จากการที่ถูกบิ๊กแบคขวางทางน้ำไหลลงใต้เอาไว้
--------------------------
ความผิดอยู่ที่ศปภ.เจ้าเดียว
เพราะศปภ.มีหน้าที่ป้องกันน้ำไหลเข้ากรุงเทพ มีหน้าที่ระบายน้ำทั่วประเทศ ยกเว้นกรุงเทพฯที่เดียว
เมื่อศปภ.วางบิ๊กแบคแล้ว ก็ต้องรีบระบายน้ำที่คลองรังสิตอย่างเต็มที่ แต่พอชาวบ้านเหนือคันบิ๊กแบคไปสำรวจที่
ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ กลับพบว่า เครื่องสูบมีน้อย แถมมีเสียอีกด้วย ทำให้น้ำในพื้นที่เหนือบิ๊กแบคเลยไม่มีทางไป น้ำแทบไม่ลดลง เพราะ ศปภ.กักน้ำไว้ในพื้นที่ของเขา
นี่จึงเป็นความผิดของศปภ.ที่ชัดเจน เพราะในเมื่อคุณไม่ให้น้ำไหลลงใต้เข้ากรุงเทพฯชั้นในเพิ่ม ศปภ.ก็ต้องไประบายน้ำให้คนที่อยู่เหนือคันบิ๊กแบค ผ่านคลองรังสิตอย่างเต็มที่ให้มากที่สุด
แต่ในความเป็นจริง ศปภ.กลับระบายน้ำได้น้อยมาก
ทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม จนชาวบ้านเหนือคันบิ๊กแบคเขาทนไม่ไหว เพราะเขาไม่เคยได้รับความช่วยเหลือเรื่องถุงยังชีพจากศปภ. ทั้งๆทีศปภ.เคยอยู่ที่ดอนเมืองแท้ๆ อยู่ใกล้พวกเขา แต่กลับไม่เคยเหลียวแลพวกเขา
ถ้าชาวดอนเมืองไม่ประท้วง ไม่ไปกระทุ้ง ศปภ.มันก็คงไม่ซ่อมเครื่องสูบน้ำอย่างรวดเร็ว!!
-----------------------------
ศปภ. เท้าไม่เคยเปียก
ปัญหาคลอง8 9 10ลำลูกกาก็เช่นกัน ศปภ.ไม่เคยไปเหลียวแล ไม่เคยไปอธิบายให้เขารู้ ไม่เคยไปช่วยเหลือพวกเขา
ชาวคลอง8 9 10 เขาบอกว่า
มีคนด่าเขาว่าทำไมไม่เสียสละเพื่อส่วนรวม ทำไมต้องทำให้คนไทยแตกแยกเพราะเรื่องประตูน้ำ
ชาวคลอง8 9 10 เขาตอบให้
คุณสรยุทธ ฟังว่า พวกเขาน่ะเสียสละท่วมมาตั้งนานแล้ว แต่ไม่เคยมีใครมาช่วยเขาบ้าง
ที่อยุธยาแตกเพราะเมืองหลวงไม่ส่งกำลังไม่ส่งปืนใหญ่ไปช่วยชาวบางระจัน พวกเขาก็เหมือนชาวบางระจันนี่แหล่ะ ที่เสียสละจมน้ำมาร่วมเดือนแล้ว อยู่ๆจะมาปิดประตูน้ำลงไปอีก ซึ่งจะทำให้เขาท่วมจนมิดหลังคา จะไม่มีที่อยู่
ไม่ช่วยเขาเขาไม่ว่า แต่อย่ามาทำลายจนเขาจะไม่มีที่ซุกหัวนอน นี่คือหัวอกคนคลอง8 9 10
แล้วทำไมรัฐบาลไม่ไปเยียวยาพวกเขาบ้าง ทั้งชุมชนมีส้วมใช้ได้แค่ห้องเดียว ไม่เคยมีหน่วยงานไหนมาแจกส้วมลอยน้ำให้พวกเขาเลย
สุดท้ายช่อง3 โดย
คุณสรยุทธ ที่ไปช่วยไกล่เกลี่ย ก็ได้ส่งถุงยังชีพ เอาส้วมลอยน้ำไปให้ชาวคลอง8 9 10 ก่อนศปภ.เสียอีก ทำให้ต่อมาชาวบ้านก็ยอมเจรจาเรื่องประตูระบายน้ำอย่างสันติมากขึ้น
ศปภ. มันหายหัวไปไหน?
คลิปคนลำลูกกาคลอง8 อธิบายให้สรยุทธฟัง
VIDEO
----------------------------------
คนดอนเมืองอยากฟ้องศปภ. ต้องอดทน
ผมเห็นคนดอนเมืองไปรื้อบิ๊กแบคกันหลายครั้ง ผมอยากบอกว่า ถ้าพวกคุณคิดจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากรัฐบาลและศปภ.อย่างเต็มที่
แต่คุณไปรื้อบิ๊กแบค จะทำให้รูปคดีของคุณอ่อนลง อาจชนะแต่จะได้เงินน้อยลง เพราะพวกคุณได้รื้อบิ๊กแบคแล้ว
ซึ่งถือว่าพวกคุณได้ทำความเสียหายให้กับคนใต้บิ๊กแบคมากขึ้น
ผู้ว่าฯกทม. มีหน้าที่ปกป้องกทม. ผู้ว่าฯกทม.มีหน้าที่ระบายน้ำแค่ในกทม. เท่านั้น
แต่เมื่อศปภ.วางบิ๊กแบคห้ามน้ำไหลลงใต้ ฉะนั้น ศปภ.ก็ต้องไประบายน้ำที่คลองรังสิตอย่างเต็มที่ และต้องเยียวยาช่วยเหลือคนเหนือคันบิ๊กแบคอย่างเต็มที่เช่นกัน
เพราะศปภ.มีงบประมาณ มีการรับของบริจาคทั่วประเทศ
โดยมีนายกยิ่งลักษณ์ยืนยิ้มรับมอบของบริจาค
แต่เรากลับไม่เคยเห็นผู้ว่าสุขุมพันธุ์ยืนยิ้มรับของบริจาค จริงมั้ย?
ซึ่งถ้าศปภ.ไม่ทำ นั่นคือ
ความผิดของศปภ.
คนดอนเมืองต้องอย่าลืมว่า
ดอนเมืองคือที่สูง แต่วันนี้ที่ดอนเมืองกลับจม แต่พื้นที่ฟลัดเวย์ด้านตะวันออกส่วนใหญ่กลับรอด!? นี่คือความไม่ชอบมาพากลของรัฐบาลนี้
ผมแนะนำให้คนดอนเมืองไปหาข้อมูลเรื่อง
การระบายน้ำทางตะวันออกทำไมถึงล่าช้า? ใช้ฟ้อง
ศปภ. ครับ
ประเด็นนี้แหล่ะที่คุณจะชนะคดีต่อศปภ.
เพราะที่ดอนอย่างดอนเมืองกลับจม แต่ที่หนองอย่างหนองงูเห่ากลับรอด!!
หมายเหตุ เมื่อคนเหนือบิ๊กแบครื้อบิ๊กแบค ผลกระทบก็จะไปหนักที่ย่านรามอินทรามากกว่าที่อื่น จึงทำให้คนรามอินทราเลยออกมาประท้วงกล่าวหาว่า กทม.จะให้รามอินทราเป็นแก้มลิงรับน้ำจากคนเหนือบิ๊กแบค??
---------------------------------
ทำไมรื้อคันบิ๊กแบคแล้วน้ำเหนือคันก็ยังลดลงไม่มาก
ก็เพราะตอนวางบิ๊กแบค น้ำจะเกิดอั้นบ้าง แต่จะไม่ท่วมเท่าจุดที่เคยสูงสุด เพียงแต่น้ำจะลดลงช้ากว่าเดิม
เมื่อคนดอนเมืองเหนือคันบิ๊กแบคไปรื้อคันบิ๊กแบค ก็ทำให้น้ำเหนือที่เคยหาทางไหลไปตะวันตกและตะวันออกมากขึ้น ก็กลับกลายจะพุ่งทะลุเข้ากลางมากขึ้น น้ำเหนือจึงมาเติมในพื้นที่พวกคุณอยู่เรื่อยๆ
ทำให้น้ำในพื้นที่คุณก็ลดลงเร็วแค่วันแรกที่รื้อบิ๊กแบคเท่านั้น วันต่อมาก็ลงช้าเหมือนเดิม
แต่กรุงเทพฯชั้นใน กลับต้องแบกภาระในการระบายน้ำมากขึ้น คนใต้บิ๊กแบคบริเวณที่ติดบิ๊กแบคก็ท่วมนานต่อไป ไม่มีทางลดลงเร็ว เพราะมีน้ำมาเติมตลอด กำลังสูบกรุงเทพฯให้แห้ง ก็จะช้าลงเพราะต้องสู้กับน้ำที่ไหลบ่าเข้าจากตรงแยกคปอ.มากขึ้น
และอยากบอกคนหนือบิ๊กแบคว่า นอกจากพวกคุณจะใช้แรงไปรื้อบิ๊กแบคแล้ว พวกคุณน่าจะใช้แรงไปโกยขยะที่ขวางคลองเปรมประชากรออกด้วยจะมีประโยชน์มาก
ดูนาที่ที่3.50 เป็นต้นไป ขยะในคลองเปรม เยอะและหนามากๆ
VIDEO
---------------------------
ถ้าผมยังอยู่เหนือคันบิ๊กแบค
ผมจะไม่มีทางรื้อบิ๊กแบค ผมจะไม่เอาความเดือดร้อนของคนอีกฟากเป็นตัวประกัน
ถ้าผมจะประท้วงรัฐบาล ผมจะไปปิดถนนที่หน้าศปภ. ดีกว่ามารื้อบิ๊กแบค เพราะผมไม่ต้องการซ้ำเติมให้กรุงเทพฯชั้นใน ต้องท่วมเหมือนผมอีก
เพราะผมคือคนไทย ซึ่งมีหน้าที่ต้องปกป้องเมืองหลวงของชาติครับ เพราะผมคิดเหมือนชาวบ้านบางระจันที่ต้องปกป้องไม่ให้ข้าศึกเข้าเมืองหลวงได้โดยง่าย แม้เมืองหลวงจะไม่ช่วยเหลือผมก็ตาม
ถ้าใครไม่เข้าใจที่ผมบอก ให้ไปอ่านได้ที่
ทางเลือกบุญกับบาป ในภาวะน้ำท่วม คลิก!!
ผมกลับคิดว่า ถ้ากรุงเทพฯชั้นในค่อยๆแห้งขึ้นมาเรื่อยๆ แห้งไล่จากจตุจักร ขึ้นมาห้าแยกลาดพร้าว ขึ้นมาแยกเกษตร ขึ้นมาแยกวงเวียนบางเขน ขึ้นมาที่สะพานใหม่ ขึ้นมาที่กองทัพอากาศ และโรงพยาบาลภูมิพล
ก็จะแห้งขึ้นมาเรื่อยๆจนถึงแยกคปอ. ถ้าถึงตรงนี้ กทม.ชั้นในก็รอด ทุกอย่างจะเริ่มเข้าภาวะปกติ ผู้ว่าฯ กทม.จะได้ส่งกำลังมาช่วยเร่งสูบน้ำพื้นที่เหนือบิ๊กแบคได้มากขึ้น ก็จะแห้งในที่สุด
แต่ถ้าคนที่อยู่เหนือบิ๊คแบค เอาแต่รื้อบิ๊กแบคอยู่เรื่อยๆ กทม.ชั้นในก็ไม่รอดซักที ในเมื่อกทม.ยังเอาตัวไม่รอด แล้วเขาจะมาช่วยคุณให้รอดก่อนได้ยังไง?
ผมเองมีเพื่อน มีคนรู้จัก มีผู้มีพระคุณ อยู่ในพื้นที่เหนือบิ๊กแบค ผมได้ติดตามข่าวสารแทบทุกช่อง เห็นความยากลำบากอย่างสาหัสของชาวเหนือคันบิ๊กแบค
ถ้าผมยังอยู่ที่ซอยกม.27 ผมก็จะเป็นผู้ประสบอุทกภัยเช่นกัน ผมใช้หลักใจเขาใจเรา ถ้าบ้านผมน้ำท่วมแบบพวกเขา ผมคงทุกข์มากๆเช่นกัน แต่ผมจะอดทน จะไม่ทำให้ใครท่วมแบบผม
----------------------------
ข้าศึกบุกกรุงศรีอยุธยา
เมื่อข้าศึกบุกกรุงศรีอยุธยา ก็ต้องผ่านเมืองหน้าด่านมาก่อน กว่าจะถึงกรุงศรี
ถ้าเมืองหน้าด่านที่พ่ายแพ้ กลับมาบอกว่า
กรุงศรีอยุธยาต้องเจอข้าศึกยึดอย่างเท่าเทียมกัน มันก็จะไม่มีทาง
รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย จนเป็นประเทศไทยได้ในวันนี้หรอกครับ
ทำไมพระเจ้าตากต้องไปตีเมืองจันทบูร? ก็เพราะเจ้าเมืองจันทบูรคิดแตกแยกกับอยุธยา ไม่คิดช่วยเหลือเมืองหลวง กระด้างกระเดื่อง!!
แล้วพระเจ้าตากก็ทรงกอบกู้เอกราชได้ที่กรุงศรีอยุธยา
เพราะชาติจะเป็นเอกราชได้ เมืองหลวงต้องเป็นเอกราชก่อน
เช่นเดียวกัน
จะกอบกู้บ้านเมืองได้ เมืองหลวงต้องปลอดภัยก่อน เพราะจุดยุทธศาสตร์ในการทำสงครามตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันอยู่ที่เมืองหลวง
เราคนไทยอยากเห็นกรุงเทพฯเป็นดั่งกรุงศรีอยุธยาเหรอครับ ที่แม้จะกอบกู้บ้านเมืองคืนมาได้ แต่ก็เสียหายจนยากเกินจะเยียวยา จนต้องย้ายเมืองหลวง
ผมคนนึงล่ะ ไม่ต้องการเห็นเช่นนั้น
เพราะในหลวงของผมอยู่ที่นี่ พระบรมมหาราชวังของผม บรรพบุรุษผู้จงรักภักดีของผมสร้างกรุงเทพฯขึ้นมา ผมต้องปกป้องให้ถึงที่สุดครับ
จงอย่ามองที่คน เช่นคนกรุงเทพท่วมไม่ได้เหรอ?
(คนดอนเมือง คนสายไหมนอกคันก็คนกรุงเทพ แต่ก็ท่วมไปแล้ว)
แต่ให้มองที่กรุงเทพฯ ว่าเป็นเมืองหลวงของเราครับ เมืองหลวงย่อมสำคัญที่สุดครับ จำไว้นะครับ
แนะนำให้ใครที่ไม่เข้าใจว่า ทำไมต้องปกป้องกรุงเทพฯ ผมขอแนะนำให้ไปอ่านอีก2บทความ คือ
ทำไมต้องรักษากรุงเทพฯให้รอดจากน้ำท่วม? (คลิก!!)
ถ้าฉลาด!!ต้องไม่ให้น้ำเหนือเข้ากรุง? (คลิก!!) (บทความนี้จะชี้ความเชื่อผิดๆของคนจำนวนมากที่คิดว่า ปล่อยน้ำไหลตามธรรมชาติผ่านกรุงเทพจะแก้ปัญหาได้เร็วขึ้น)
สรุปสุดท้าย นายกยิ่งลักษณ์เป็นผู้นำชาติไม่ได้ ไม่กล้าตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ในเมื่อวางบิ๊กแบกแล้ว ก็ต้องเด็ดขาด
ต้องเยียวยาผู้เดือดร้อนจากการวางบิ๊กแบค และ
ต้องป้องกันไม่ให้คนทำลายบิ๊กแบค (อันนี้ถ้าไม่ใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินก็เอาผิดคนรื้อไม่ได้เพราะเขาปกป้องบ้านเขา) เพราะคนในกรุงเทพฯชั้นในมีหลายล้านคน แต่คนเหนือคันบิ๊กแบคมีไม่กี่แสนคน
ต้องเลือกว่าจะรักษาอะไร ถ้ามัวแต่ยึกยัก ไอ้โน่นก็ไม่ได้ ไอ้นี่ก็กลัว
เยียวยาก็ไม่ทำ เด็ดขาดก็ไม่กล้า สุดท้ายก็แย่ทั้งสองฟาก
นี่แหล่ะคือความผิดพลาดของการไร้ภาวะผู้นำ!!
v
v
ผมขอแนะนำให้ค่อยๆ รื้อบิ๊กแบคแนวเดิมออกให้หมด แล้วไปวางบิ๊กแบคใหม่ตามแนวคลองรังสิตจะดีกว่าครับ
(ทราบข่าวมาว่าได้เริ่มวางบิ๊กแบคตามแนวใหม่แล้ว ซึ่งน้ำบริเวณนั้นก็ลดลงมากแล้ว จากเดิมถ้าคิดจะวางต้องใช้บิ๊กแบคเกิน2ชั้น แต่ตอนนี้ใช้แค่ชั้นเดียวก็พอ)
คลิกอ่าน กรณีชาวนนทบุรีฟ้องผู้ว่าฯ กทม.