วันศุกร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ทำไมต้องรักษากรุงเทพให้รอดน้ำท่วม!!






ถ้าคุณผู้อ่านได้ตามอ่านบทความในตอนที่แล้ว ผมได้นำเสนอข้อมูลเรื่องปริมาณน้ำฝนปี54 สูงกว่าอุทกภัยปี38 และปี49ไปแล้ว

ฉะนั้นใครที่บอกว่า ฝนปี54ไม่มากกว่าปี38 ปี49 คือมั่วนิ่มครับ

และยังมีอีกประเด็นที่ทำให้ปี54 นี้หนักหนาสาหัสกว่าทุกปีอีกอย่างก็คือ

แทนที่ปริมาณน้ำฝนจะตกเฉลี่ยไปทุกๆเดือนมากบ้างน้อยบ้างคละๆกันไปอย่างพอประมาณ ซึ่งปี54นั้น แม้ตัวเลขปริมาณฝนเฉลี่ยจะสูงกว่าปี38 และปี49ไม่มากนัก

แต่ที่หนักหนาสาหัสจนผิดปกติก็คือ เฉพาะเดือนสิงหาคมและเดือนกันยายน54 กลับมีฝนมาถล่มเฉพาะ2เดือนนี้อย่างสูงสุดมากเป็นประวัติการณ์ครับ

ทำให้เขื่อนเต็มเร็วอย่างไม่เคยมีมาก่อน!!

และเผอิญอย่างยิ่ง การที่ฝนตกหนักแบบถล่มทลายเฉพาะในเดือนสิงหาคม-กันยายนนั้น เหมือนตกกระหน่ำต้อนรับรัฐบาลยิ่งลักษณ์!! (เอ๊ะ!ต้อนรับหรือจะไล่กันแน่?)

----------------------------

ทำไมต้องปกป้องกรุงเทพฯ

เพราะกรุงเทพฯคือศูนย์กลางการบริหารประเทศ ศูนย์กลางเศรษฐกิจการค้าและการเงิน ศูนย์กลางการคมนาคมขนส่ง ศูนย์กลางของการสื่อสารข้อมูลทุกชนิด เพราะกรุงเทพฯคือเมืองหลวงของประเทศไทย

ตอนนี้ทุกจังหวัดในลุ่มเจ้าพระยาโดนน้ำถล่มไปเรียบร้อยแล้ว มูลค่าความเสียหายของทุกจังหวัดรวมกันหลายแสนล้าน แต่ถ้ากรุงเทพฯจมน้ำเหมือนทุกๆจังหวัดที่ผ่านๆมา มูลค่าความเสียหายแทบประเมินไม่ได้ มันมากมายมหาศาลยิ่งนัก จะนับล้านๆบาททีเดียว

ตอนนี้นักลงทุนต่างชาติเริ่มมองศักยภาพในการแก้ปัญหาของรัฐบาลไทยและประเทศไทยในเรื่องน้ำท่วม เขาเริ่มมีความคิดในการย้ายฐานการลงทุนออกจากไทยบ้างแล้ว

ยิ่งถ้ารัฐบาลไม่สามารถปกป้องเมืองหลวงไว้ได้อีก ก็ยิ่งเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของประเทศอย่างหนัก และจะเป็นเหตุผลสำคัญที่นักลงทุนตัดสินใจหนีประเทศไทยไปจริงๆ

กรุงเทพฯจึงเป็นที่มั่นสุดท้ายในการเรียกความมั่นใจของนักลงทุนต่างชาติที่เฝ้ามองอยู่กลับมา

ถ้ารักษากรุงเทพฯไว้ไม่ได้ ประเทศไทยพังยับเยินแน่ครับ

คนต่างจังหวัดบางคนอาจมองไม่เห็นความสำคัญในจุดนี้ เพราะเขาไม่ได้ทำมาหากินในกรุงเทพฯ

แต่ให้รู้เถอะครับว่า ถ้ากรุงเทพฯจนน้ำ จะต้องกระทบกระเทือนพวกเขาแน่ๆไม่ทางใดก็ทางหนึ่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ถ้ากรุงเทพฯจมน้ำ การฟื้นฟูประเทศก็จะยิ่งยากยิ่งขึ้นอีกหลายเท่า จะทำให้ประเทศชาติขาดภาษีในการพัฒนาและฟื้นฟูประเทศอีกมหาศาล จะทำให้ประเทศต้องใช้เงินกู้มาฟื้นฟูประเทศและกรุงเทพฯอย่างมากมายมหาศาลเช่นกัน

คนกรุงเทพฯแท้ๆมีประมาณ5ล้าน ส่วนที่เหลือคือคนต่างจังหวัดที่เข้ามาทำงานอีก5ล้าน ยังไม่รวมชาวต่างชาติอีกประมาณ2-3ล้านคน เบ็ดเสร็จถ้ากรุงเทพฯจมน้ำ จะมีผลกระทบถึงคนไม่ต่ำกว่า12ล้านคน

อย่ามองว่าเป็นการปกป้องคนกรุงเทพฯ แต่ให้มองว่านี่คือการปกป้องกรุงเทพฯของเราทุกคน

จงมองว่าคือการปกป้องเมืองหลวงของไทย ปกป้องความมั่นคงของประเทศ ปกป้องประเทศไทยให้เสียหายน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะที่่ผ่านมาไทยเราเสียหายไปมากพอแล้ว

ถ้ากรุงเทพฯรอด คนต่างจังหวัดก็จะมีโอกาสได้รับการฟื้นฟูเร็วขึ้น!!

แต่ถ้ากรุงเทพฯจมด้วย ผมบอกตามตรง ไทยเราเสียหายหนักยิ่งกว่าสึนามิญี่ปุ่นแน่ๆครับ

ดูง่ายๆ สึนามิที่ไทยเมื่อปี47 เสียหายมากแค่ไหน แต่ก็ฟื้นฟูได้เร็วเพราะระบบช่วยเหลือของกรุงเทพฯยังทำงานได้

หรือคิดง่ายๆ ถ้ากรุงเทพฯจม โรงพยาบาลในกรุงเทพฯจม แล้วผู้ป่วยจากทุกจังหวัดจะหนีไปไหนได้อีก?

--------------------------

ระบบความคิดคนไทยจากการศึกษาไทยที่ล้มเหลว

เพราะคนไทยจำนวนมากเริ่มมองที่ตัวเองเป็นหลักมากกว่ามองไปที่ส่วมรวมเป็นหลัก หลายคนเริ่มยึดความคิดที่ว่า ตัวใครตัวมัน รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี จึงทำให้เกิดความเห็นแก่ตัวมากขึ้น ความเสียสละลดน้อยลง

พระพุทธศาสนาสุภาษิตได้สอนไว้ว่า พึงสละทรัพย์ เพื่อรักษาอวัยวะ พึงสละอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต” พึงสละทั้งทรัพย์ อวัยวะ และชีวิต เพื่อรักษาธรรมหรือความถูกต้อง

นั่นคือสอนให้คนเรารู้จักเรียงลำดับความสำคัญของสิ่งต่างๆ ว่าสิ่งใดควรสละ สิ่งใดควรปกป้อง

ชีวิตของคนกรุงเทพและคนต่างจังหวัดย่อมเท่าเทียมกัน แต่กรุงเทพฯเป็นเมืองหลวงของไทยที่สำคัญต่อคนทั้งประเทศ เพราะถ้ากรุงเทพฯจม จะกระทบคนทั้งประเทศทุกจังหวัด!!

นี่คือการเรียงลำดับความสำคัญที่ถูกต้องครับ

-----------------------------

รัฐบาลจำเป็นต้องรักษากรุงเทพฯไว้ให้ได้

เพราะทุกจังหวัดที่ผ่านมา รัฐบาลล้มเหลวมาแล้วทุกที่ ฉะนั้นเหลือแต่กรุงเทพฯที่เป็นหัวใจของประเทศเท่านั้น ที่จะพิสูจน์ฝีมือรัฐบาลนี้เพื่อเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลับคืนมา

ถ้ายังรักษากรุงเทพฯไว้ไม่ได้อีก

ทั้งนายกรัฐมนตรี ผู้ว่ากทม สมควรต้องรับผิดชอบทันทีครับ

แค่กล่าวคำว่า "เสียใจ" ยังไม่พอครับ เพราะสปิริตผู้นำต้องสูงกว่าคนทั่วไป

--------------------------

สุดท้าย ผมเห็นด้วยที่กรุงเทพฯต้องยอมให้น้ำผ่านมากขึ้น ให้ท่วมบ้างพอดำเนินชีวิตได้ต่อไป ยังดีกว่าตูมเดียวจบ!! จมบาดาล!!

ฤาธรรมชาติต้องการสอนให้รู้ว่า ประเทศไทยต้องหันมายึดเกษตรกรรมพอเพียงเป็นหลัก??

ขอมอบเพลงนี้ให้นายกฯยิ่งลักษณ์ครับ

เพลง Rainmaker by Yanni




2 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ21 ตุลาคม, 2554 18:01

    แต่ก็ต้องเข้าใจคนต่างจังหวัดด้วยแหละ เพราะสภาพจิตใจของพวกเขา คงไม่มัวมานั่งคิดเรื่องเศรษฐศาสตร์อะไรหรอก เขารุแค่ว่า เขาสูญเสียบ้าน สุญเสียคนรัก สุญเสียอิสระภาพ เขาบอบช้ำทางจิตใจ บางครั้งก็เลยอดคิดไม่ได้ ว่าทำไมต้องยอมให้เกือบทั้งประเทศต้องทุกข์หนัก เพื่อปกป้องจังหวัดเดียว อันพูดตามความรู้สึกนะคะ ไม่ได้โกรธเคืองอะไร :)

    ตอบลบ
  2. ที่จริงแล้ว น้ำเหนือไหลงมาเรื่อยๆ ผ่านทุกจังหวัดท่วมทุกจังหวัด นั่นเพราะไม่มีระบบป้องกันและระบายน้ำที่ดีพอครับ

    ไม่ใช่กรุงเทพฯท่วมไม่ได้ แต่ที่ต่่างจังหวัดท่วม จะบอกว่าคนต่างจังหวัดเสียสละก็ไม่ถูกทั้งหมดหรอกครับ

    การที่มีการอั้นน้ำจนน้ำมาก สาเหตุนึงคือปกป้องไม่ให้น้ำท่วมนาของชาวนาเลยมีการอั้นน้ำมาตลอดทาง ทุกประตูน้ำครับ

    ถ้าไม่ห่วงว่าน้ำจะท่วมนา ป่านนี้น้ำจะไม่อั้นมากขนาดนี้หรอคครับ

    ตอบลบ

ถ้าแสดงความเห็นตรงช่องนี้ผมจะได้อ่านทุกความเห็นครับ แต่ถ้าความเห็นไม่ขึ้นอาจเพราะระบบรอตรวจสแปม ต้องรอ1-2วัน / ใหม่ เมืองเอก kaeake@ymail.com


ผู้ติดตาม