คนไทยต่างบอกว่า รักในหลวง แต่รักในหลวงแล้ว คุณทำตามคำสอนที่ในหลวงทรงชี้แนะหรือไม่?
ประเทศไทยที่ประสบมหาอุทกภัยหนักในปี54นี้ ประเด็นสำคัญที่สุดก็คือ พวกคุณ พวกเรา รวมทั้งผมด้วย ต่างละเลยคำสอนของพระองค์ท่านมานาน
ถ้าคุณลองค้นหาพระราชดำรัสเนื่องในวันเฉลิมฯ ทุกวันที่4ธันวาคมของทุกๆปีที่ผ่านมาๆ ในหลวงทรงตรัสถึงแนวคิดเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง มานานกว่า30ปีมาแล้ว แต่คนไทยก็ฟังแบบได้ยินผ่านๆไป
ก่อนวิกฤติต้มยำกุ้งเมื่อปี 2540 คนส่วนใหญ่ไม่มีใครสนใจคำสอน เรื่องเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงเท่าที่ควร แค่ได้ฟัง แต่ไม่ได้เข้าใจ
เช่นเดียวกันพวกฝรั่งต่างชาติเอง แต่ก่อนก็ไม่ค่อยสนใจแนวคิดเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง จนกระทั่งเกิดวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ พวกฝรั่งถึงได้ถึงบางอ้อว่า แนวคิดทุนนิยมแบบบริโภคนิยมสไตล์อเมริกันหรือทุนนิยมแบบตะวันตกนั้น คือหายนะของโลก
ทุกวันนี้ชาวอเมริกันก็เพิ่งจะตาสว่างถึงความน่ากลัว ความเอารัดเอาเปรียบของระบบทุนนิยมแบบบริโภคนิยม ที่ธุรกิจมุ่งแต่แสวงหากำไรสูงสุดมาก่อน นึกถึงสังคม
การประท้วงต่อต้านความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยกับคนจน ที่หน้าวอลสตรีท "Occupy Wall Street"
--------------------------
ในหลวงทรงเน้นเรื่องน้ำ
เพราะน้ำคือชีวิต ถ้าประเทศไทยมีน้ำกินน้ำใช้ตลอดปี ในทุกพื้นที่ คนไทยจะไม่ยากจน
ในหลวงจึงทรงงานอย่างหนักตลอดเวลาที่ทรงครองราชย์ ในหลวงจะทรงเน้นเรื่องระบบชลประทาน
เพราะทรงเน้นว่าประเทศไทยจะไปรอด คนไทยจะไม่อดอยาก ถ้าไทยเราเน้นทำเกษตรแบบพอเพียง เกษตรแบบผสมผสาน หรือที่เรียกว่า เกษตรทฤษฎีใหม่ ที่แบ่งพื้นที่ทำเกษตรแบบผสม มีพื้นที่สำหรับกักเก็บน้ำไว้ใช้ยามแล้ว ไม่ใช่เอาแต่ทำเกษตรพืชเชิงเดี่ยวแบบที่รัฐบาลในทุกยุคทุกสมัยส่งเสริม
โดยเฉพาะเกษตรกรยุคนี้ ต่างละทิ้งบ่อเก็บน้ำ คูน้ำประจำบ้าน หรือร่องน้ำในสวน เพราะมัวแต่หวังพึ่งแต่ระบบชลประทานอย่างเดียว แล้วพอเกิดปัญหาภัยแล้ง เมื่อเขื่อนมีน้ำน้อยจนไม่พอมาหล่อเลี้ยงระบบชลประทาน สุดท้ายความยากจนและภาวะขาดทุนก็มาซ้ำเติมเกษตรกรพวกนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล้า
เกษตรกรไทยอย่าทำตัวเหมือนนายแดง ในคลิปนี้
ในหลวงทรงเน้นให้ประชาชนทำให้พอกินก่อน เหลือกินจึงเก็บขาย พึ่งพาตนเองได้ แต่รัฐบาลไทยที่ผ่านๆมาพยายามส่งเสริมให้เกษตรกรทำเพื่อส่งออก ทำเพื่อขาย
จนวันนี้ชาวนาขายข้าวเปลือกแล้วไปซื้อข้าวสารกิน นี่แหละความโง่ที่ละทิ้งภูมิปัญญาชาวนาไทยในอดีต
แล้วสุดท้ายทุกรัฐบาลก็ต้องเข้าไปอุ้มราคาพืชผลเชิงเดี่ยวให้เกษตรกร ทำให้เกษตรกรไม่สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน แต่พ่อค้าคนกลางรวย!!
ในหลวงทรงให้ความสำคัญเรื่องระบบชลประทาน ส่วนนักการเมืองมุ่งแต่สร้างถนนหรือสร้างอะไรก็ได้ที่ได้ค่าคอมมิสชั่นสูง
เมื่อคนไทยก็รักความสบายเกินไป พอพวกนักการเมืองเอาถนนมาล่อเข้าหน่อย ก็เฮ เลือกนักการเมืองพวกนี้เข้ามาโกงกินในโครงการถนน!!
ดูตัวอย่างง่าย ๆ คนไทยขี่มอเตอร์ไชค์มากกว่าขี่จักรยาน ทั้ง ๆ ที่ขี่จักรยานอาจช้าหน่อย แต่ประหยัดปลอดภัย ไม่เป็นหนี้!!
สมัยก่อนเราใช้แม่น้ำคลองในการคมนาคมเป็นหลัก แต่พวกเราละทิ้งแม่น้ำลำคลอง จนกระทั่งต้องมาหัดพายเรือกันบนถนน !! (น้ำท่วม)
-----------------------
ในหลวงทรงเน้นความพอเพียง
เพราะความพอเพียง คือความพอดี เป็นทางสายกลาง เช่น ถ้าเป็นพ่อค้าก็เอากำไรแต่พอควร ไม่ขูดรีดกำไรเกินควร ถ้าเป็นประชาชนก็อยู่อย่างสมดุลระหว่างรายได้กับรายจ่าย
พอเพียงไม่ใช่ตระหนี่ พอเพียงของคนรวยย่อมไม่เท่ากับคนจน
คนรวย 100 ล้านบาท จะมีรถคันละ 10 ล้าน ก็เรียกพอเพียงได้
คนจนมี 1 แสนบาท อยากมีมอไซค์สักคัน ก็เรียกพอเพียงได้
พอเพียงไม่ใช่ห้ามกู้เงิน แต่ต้องกู้เงินอย่างฉลาด กู้โดยที่ไม่ทำให้ตัวเองและครอบครัวเดือดร้อนเกินไป ต้องกู้ให้พอเหมาะกับฐานะตัวเอง ไม่เกินฐานะ
การกู้ ต้องกู้มาเพื่อสร้างงานสร้างเงินจะดีที่สุด ไม่ใช่กู้เพื่อความอยากมีอยากได้ เช่นกู้เงินมาซื้อทีวี LCD ทั้ง ๆ ที่ทีวี21นิ้วธรรมดาที่บ้านก็ยังดีอยู่ เป็นต้น
ระบบเศรษฐกิจแบบพอเพียง ก็คือทุนนิยมพอเพียง ไม่ใช่มุ่งแต่แสวงหากำไรเพื่อความร่ำรวยของตัวเองเป็นหลัก จนลืมนึกถึงสังคมและผู้อื่น
------------------------------------
แนวทางของในหลวงคือทางรอดของชาติ
อุทกภัยปี 2554 คราวนี้ ทำให้พวกเราได้รู้แล้วว่า พวกเราละเลยคำสั่งสอนของในหลวงมากเพียงใด ไม่ต้องไปถามหาฝรั่งผู้เชี่ยวชาญที่ไหน แค่หันกลับมาศึกษาสิ่งที่ในหลวงเคยบอก เคยแนะ แล้วทำตาม เราก็จะรอดได้ด้วยทุนที่ไม่มากเกินไป
ที่ผ่านมา นายทุนมุ่งแต่กำไร นักการเมืองมุ่งแต่หาผลประโยชน์จากชาติ ประชาชนก็หวังแต่อยากจะรวยทางลัดมากกว่าตั้งใจทำมาหากิน หวังพึ่งนักการเมืองเกินไป แทนที่จะพึ่งตัวเองให้มากที่สุด
ในหลวงทรงมองการณ์ไกลว่า ประเทศไทยจะอยู่รอดได้ด้วยการเกษตร แต่นักการเมืองเอาแต่มุ่งเน้นแต่อุตสาหกรรม เพราะนักการเมืองได้ผลตอบแทนทางอ้อมสูง!!
เศรษฐกิจพอเพียงไม่ได้ปฏิเสธอุตสาหกรรม ไม่ได้ปฏิเสธเทคโนโลยี แต่ให้เราเน้นว่า ประเทศไทยเรามีชัยภูมิที่เหมาะกับการทำเกษตรมากกว่า ต้องพัฒนาเกษตรกรรมให้พึ่งพาตนเองได้ ทำการเกษตรแบบชาญฉลาดบนเทคโนโลยีที่เหมาะสมและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
เกษตรกรสมัยใหม่ เอาแต่พึ่งยา พึ่งเคมี พึ่งเครื่องทุนแรงเกินไปโดยละเลยแรงงานของตัวเอง เน้นแต่ปริมาณโดยละเลยความปลอดภัย
ถ้าเกษตรกรทำปุ๋ยใช้เอง แม้จะเหนื่อยหน่อย แต่ประหยัด แต่เกษตรกรส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยทำกัน
ทุกวันนี้ เกษตรกรที่หลุดวงจรอุบาทว์จากหนี้ได้ ก็เพราะพึ่งพาตัวเองให้มากกว่าพึ่งสิ่งอำนวยความสะดวกในการทำการเกษตรที่ต้องซื้อหามาด้วยเงิน
วันนี้ยังไม่สายเกินไป หันกลับมาดูคำสอนของในหลวง แล้วนำมาปฏิบัติ แล้วพวกเราคนไทยจะรอดจากภัยพิบัติอย่างยั่งยืน
------------------------
ในหลวงทรงงานอย่างยาวนาน มีข้าราชการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมารับใช้เบื้องพระยุคลบาทมากมาย แต่ข้าราชการมาทำแป๊บๆเดี๋ยวก็ย้าย เดี๋ยวก็เกษียณไป แต่ในหลวงไม่เคยเกษียณ
ในหลวงทรงเสด็จไปในถิ่นธุรกันดาร ถิ่นที่ๆข้าราชการท้องที่ไม่เคยไปถึงเลยด้วยซ้ำ ทรงไปพบราษฎรที่ห่างไกล ถนนหนทางเมื่อหลายสิบปีก่อนก็ไม่มี ถึงมีก็หนทางลำบากมากกว่าจะไปถึง แต่ในหลวงก็ทรงเสด็จไปทุกที่
พระราชภารกิจที่ทรงทำนั้น ทรงมีเจตนาก็เพื่อให้รัฐบาลรับแนวทางของพระองค์นำไปสานต่อ แต่ที่แล้ว ๆ มารัฐบาลทุกรัฐบาลต่างไม่สนใจแนวทางของพระองค์เท่าที่ควร
ถ้ารัฐบาลเข้าใจเจตนาในสิ่งที่ทรงทำให้เห็น ในหลวงก็จะไม่ทรงเหนื่อยมากขนาดนี้
ที่พระองค์ทรงพระประชวร อาจเพราะในหลวงทรงงานหนักอย่างยาวนานเกินไป
ที่พระองค์ต้องทรงงานหนัก ก็เพราประชาชนของพระองค์ ดื้อ ไม่สนใจทำตามที่พระองค์ทรงชี้แนะนั่นเอง
ถ้าคนไทยฉลาดและรู้เจตนาของพระองค์ให้เร็วมากกว่านี้ พระองค์ก็คงจะพระเกษมสำราญ อาจไม่ประชวรเหมือนทุกวันนี้ก็ได้ (ผมว่านะ)
-->
"พอเพียงไม่ใช่ตระหนี่ พอเพียงของคนรวยย่อมไม่เท่ากับคนจน" อยากให้คนไทยทุกคนเข้าใจเรื่องนี้จริงๆกันเสียที จะได้ไม่มีใครนำไปบิดพริ้วเป็นอย่างอึ่น เพียงแค่คิดถึงคำพ่อสอนเช่นนี้ ก็รู้สึกมีความสุข สงบ เกิดขึ้นในชีวิตแล้ว ขอพระองค์จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ตอบลบ