อ่านเจ้าหญิงอัตสึที่รัก 133
โอมิไดโดโกโระ เป็นชื่อเรียกในฐานะภรรยาเอกของโชกุนคนก่อน แต่เมื่อองค์หญิงคะสึโนะมิยะมาเป็นภรรยาของโชกุนคนปัจจุบัน เป็นมิไดโดโกโระอีกคน จึงทำให้เกิดความสับสนขึ้นในโออขุ (ในเรื่องอำนาจการปกครอง)
เพื่อรักษากฏระเบียบในโอโอขุ ทำให้ท่านเท็นโชอินกับองค์หญิงคะสึโนะมิยะต้องเผชิญหน้าักัน
สะใภ้จากวังหลวงกับแม่สามีตระกูลซามุไร?? ความลำบากของท่านเท็นโชอินยังคงดำเนินต่อไป
------------------------------
หลังผ่านคืนแรกของวันวิวาห์ เช้าวันต่อมาที่ห้องพระ ปกติเมื่อท่านคุโบสวดมนต์ ทุกๆคนก็จะพนมมือขึ้นตาม แต่ท่านคะสึโนะมิยะ และผู้ติดตาม กลับไปไม่พนมมือเลย แม้ท่านฮงจูอินจะทำท่าทางในเชิงบอกให้ทำแล้วก็ตาม
และเมื่อท่านคุโบสวดเสร็จ ตามปกติทุกๆคนจะต้องรอส่งท่านคุโบให้กลับออกไปก่อน แต่ท่านมิยะกลับขอตัวลากลับออกไปก่อน
สิ่งนี้ทำให้ท่านฮงจูอินถึงกับโกรธมาก
"ทำไมถึงเสียมารยาทแบบนี้!! เป็นเพราะแม่สามีไม่ยอมอบรมแท้ๆเลย" ท่านฮงจูอินได้โอกาสต่อว่าลูกสะใภ้แบบเต็มๆไม่ต้องเกรงใจ
หลังจากนั้นท่านคุโบก็บอกท่านเท็นโชอินเพื่อขอตัวลาออกไป
----------------------------
(ตอนนี้โดยทั่วไปแล้วคนในโอโอขุจะถือว่า องค์หญิงได้เป็นมิไดโดโกโระแห่งโชกุนแล้ว จึงไม่ใช้คำราชาศัพท์)
เมื่อกลับมาที่ห้องพักแล้ว ท่านเท็นโชอินจึงแอบกระซิบถามชิเงโนะด้วยท่าทางประหม่าอาย ถึงความสัมพันธ์ของท่านคุโบกับท่านมิยะ "คือ..ทั้งสองคน...เมื่อคืนเรียบร้อยดีรึเปล่า??...จะพูดยังไงดีล่ะ.."
ชิเงโนะจึงเล่าให้ฟังว่า "ดูเหมือนจะไม่เรียบร้อย ได้ยินมาจากพวกหน้าห้องว่า ท่านมิไดจะไม่ยอมนะเจ้าคะ"
(ที่ชิเงโนะเล่า ก็คือ แค่เพียงท่านคุโบเอื้อมมือไปจับมือท่านมิยะ ท่านมิยะก็รีบดึงมือหนีออกทันที)
แต่ขณะนั้น ทาคิยามะก็เข้ามาถึง เพื่อเล่าเรื่องราวบางอย่างให้ท่านเท็นโชอินฟังอย่างเป็นความการลับ
เมื่อทุกคนออกไปหมดแล้ว (ยกเว้นชิเงโนะ) ทาคิยามะจึงเล่าให้ฟังว่า "คือท่านมิไดเอามีดพก...แอบซ่อนไว้ในอกเสื้อ แล้วดูเหมือนว่จะตกลงพื้นเจ้าค่ะ"
เท็นโชอิน "นี่เจ้าพูดเรื่องจริงเหรอ?!" / "ไม่ผิดแน่เจ้าค่ะ เพราะมีแสงสะท้อนจากสิ่งนั้น ผู้ที่อยู่ด้วยตอนนั้น(นักบวชหญิง) ก็เห็นด้วยนะเจ้าคะ" / "ไม่น่าเชือ แล้วท่านคุโบล่ะ?"
ทาคิยามะพยักหน้ารับ
ชิเงโนะ "ถ้าอย่างนั้นเมื่อคืนก็มีโอกาสมากมายที่จะทำอะไรก็ได้"
ทาคิยามะ "หากเกิดเรื่องไม่คาดฝันกับท่านคุโบขึ้นมาจริงๆ ก็จะมีผลกระทบกับบ้านเมืองเรา"
ทาคิยามะจรดมือ3เหลี่ยม "แม้ว่าจะต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม ข้าจะปกป้องท่านคุโบเจ้าค่ะ"
"ซ่อนมีดไว้ในอกเสื้อเหรอ??" ท่านเท็นโชอินรำพึงด้วยความรู้สึกวิตกอย่างมาก..
-------------------------
หลังจากนั้น ทาคิยามะจึงไปเข้าพบท่านมิยะเพื่อสอบถามมีดพกเรื่องนี้ โดยที่ท่านมิยะนั่งอยู่หลังม่านบังตา ท่านมิยะยังคงมีสีหน้าที่เย็นชา แต่หากสังเกตให้ลึกเข้าไปในแววตาแล้ว ก็จะเห็นความเศร้าเจือปนอยู่
ฝ่ายสนมคังเงียวอินและนิวาตะก็ออกโรงพูดปกป้องปฏิเสธแทนท่านมิยะอย่างที่สุด จนกระทั่งทาคิืยามะจึงถามคำถามที่สำคัญอีกคำถาม
ทาคิยามะ "ถ้างั้นแล้ว เรื่องที่ท่านมิไดขัดขืนไม่ยอมท่านคุโบเมื่อคืนนี้ล่ะเจ้าค่ะ?"
คำถามนี้ทำเอาสนมคังเงียวอินถึงกับตกใจ ส่วนนิวาตะก็ต่อว่าทาคิยามะ ที่นำเรื่องทีไม่สมควรพูดมาพูดในที่แจ้ง
สนมคังเงียวอิน "ท่านมิยะน่ะ ต้องฝืนใจมาที่นี่ ก็เพราะถูกขอร้องให้มาแท้ๆ แต่กลับต้องมาเจอเรื่องแบบนี้"
นิวาตะ "ที่สำคัญเอาเรื่องของสามีภรรยาเขามาพูดกันอย่างนั้นอย่างนี้ แค่พูดก็น่าอับอายจะแย่ แล้วก็ทำไมต้องเอาเรื่องนี้มาต่อว่ากันด้วย ทั้งที่ไม่เกี่ยวสักนิด!!"
หลังจากนั้นนิวาตะก็ต่อว่าไปถึงท่านเท็นโชอินต่อหน้าทาคิยามะอีกชุดใหญ่ แถมยังกระแนะกระแหนไปถึงการเป็นครอบครัวซามุไรเสียอีกด้วย สนมคงเงียวอินกระแอมเพื่อเตือน นิวาตะก็เลยลงท้ายด้วยการขอโทษที่เสียมารยาท พูดง่ายๆก็คือตบหัวแล้วลูบหลัง
เพียงแต่ทาคิยามะไม่ได้ใส่ใจถือสาอะไรนิวาตะมากนัก แล้วจึงหันไปพูดกับท่านมิยะแทน
"แต่ว่าท่านเท็นโชอินนั้น เป็นบุคคลที่ยอดเยี่ยมที่พวกเราทุกคน พากันให้ความเคารพนะเจ้าคะ"
นิวาตะ "หึๆๆ ทุกคนที่ว่า ก็เฉพาะคนเอโดะเท่านั้นแหล่ะ"
ทาคิยามะพูดกับท่านมิยะต่ออีกว่า "ยังไงก็ตาม สำหรับเรื่องมีดพกนั้น ข้าเข้าใจเป็นอย่างดีแล้วเจ้าค่ะ ข้าทำตามหน้าที่! ทำให้ต้องใช้คำถามที่เสียมารยาทกับท่านมิได" หลังจากนั้นทาคิยามะก็ก้มหัวอย่างนอบน้อมให้แก่ท่านมิยะ
สนมคงเงียวอิน "แล้วก็..ที่พวกเจ้าพากันเรียกว่าท่านมิไดน่ะ ฟังแล้วข้ารู้สึกไม่ค่อยดีเลยนะ"
------------------------
ทาคิยามะกลับมาเล่าใ้ห้ท่านเท็นโชอินฟังว่า ฝ่ายโน้นเขาสั่งมาว่า เขาจะไม่ให้เรียกท่านมิได แต่จะให้เรียกว่า 'ท่านมิยะ'แทน
ซึ่งท่านเท็นโชอินกลับให้ทำตามใจฝ่ายโน้น เพราะเหตุผลคือ "ความสัมพันธ์ของคนสองคนนั้นต่างหากที่เวลานี้ ถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด"
เมื่อทราบเหตุผลแล้ว ทั้งทาคิยามะและชิเงโนะจึงเข้าใจและเห็นด้วย
"ส่วนเรื่องมีดพกนั้นยังไงก็ขอให้ระวังไว้ด้วยแล้วกัน" / "รับทราบแล้วเจ้าค่ะ"
แต่ทันใดนั้น ก็มีเสียงฝีเท้าดังอย่างอึกทึกมาแต่ไกล แล้วเจ้าของเสียงฝีเท้านั้นก็เข้ามาถึงในห้องของท่านเท็นโชอิน
นั่นก็คือท่านแม่สามีของท่านฮงจูอินนั่นเอง เมื่อมาถึงท่านฮงจูอินก็มายืนด่าท่านเท็นโชอินทันที
ฮงจูอิน "ข้ารู้เรื่องนั้นแล้ว!! พวกจากเกียวโตจะไม่ยอมทำตามธรรมเนียมของเราใช่มั้ย?" / "ท่านแม่เจ้าคะ มีอะไรเหรอ?"
"ยังจะมีน่ามาถาม ที่ให้เรียกว่าท่านมิยะเี่นี่ย มันเรื่องอะไรกัน?"
ทาคิยามะพยายามจะบอกว่าท่านเท็นโชอินก็เพิ่งจะทราบเรื่อง แต่ท่านฮงจูอินไม่สนใจฟัง จึงนั่งลงมาแล้วร่ายยาวต่อทันทีอีกว่า
"ฟังนะ ชื่อมิไดโดโกระ เป็นชื่อเก่าแก่ที่ตระกูลโทกุกาวะใช้สืบต่อกันมาทุกยุคทุกสมัยนะ ใครที่คิดจะเปลี่ยนแปลงก็เท่ากับอกตัญญู ไม่จงรักภักดีกับตระกูลโชกุนโทกุกาวะ!!"
"จะทำนอกลู่นอกทางอย่างนี้ก็ได้ จะได้พิสูจน์ว่า เจ้าเป็นแม่สามีที่ใช้ไม่ได้เลย!! จริงๆนะ!!" ท่านฮงจูอินถึงกับ
"เจ้าปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้ได้ยังไงกัน!! ข้าไม่ยอมเด็ดขาดนะ" แล้วท่านก็ลุกออกไปจากห้องทันที
ท่านเท็นโชอินสมกับเป็นลูกสะใภ้ญี่ปุ่น คงได้แต่นั่งฟังคำบ่นด่าจากแม่สามี อย่างไม่ถือโทษถือสาแต่อย่างใด
"พอกันทั้ง2ฝ่ายจริงๆ" ท่านเท็นโชอินแอบบ่นเบาๆ
.
.
เจ้าหญิงอัตสึกับเรื่อง "โอกุ สงครามจอมนาง" ในทรูวิชั่น ทำไมแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ดูแล้วงงครับผม
ตอบลบผมไม่ได้ดูเรื่องนั้นหรอกครับ แต่เท่าที่รู้เคยมีการสร้างเรื่องโอโอขุมาแล้วก่อนหน้านี้
ตอบลบถ้าเป็นเรื่องที่ว่าเดียวกันนั้น เรื่องนั้นสร้างแนวนิยายน้ำเน่า แบบชิงรักหักสวาท ทาคิยามะก็ร้ายมาก
แม้ทั้งสองเรื่องสร้างมาจากประวัติศาาสตรฺก็จริง
แต่จุดประสงค์ต่างกันสิ้นเชิง
อัตสึฮิเมะ สามารถอ้างอิงได้ตามประวัติศาสตร์จริงๆครับ
พูดง่ายๆคือ อัตสึฮิเมะ คือละครอิงประวัติศาสตร์มีที่มาที่ไปชัดเจนและถูกต้องตามประวัติศสาตร์
ส่วนเรื่องโอกุ ไม่ได้เน้นความถูกต้องทางประวัติศาสตร์ แต่เน้นเอามันส์!!ครับ
ขอบคุณครับที่ให้ความกระจ่าง เพราะในโอกุนั้นหน้ามือเป็นหลังมือเลย
ตอบลบจึงงงมาก