อ่านเจ้าหญิงอัตสึที่รัก 132
หากคลิปสะุดุด กรุณารอให้แถบโหลดขึ้นเต็มก่อน
เมื่อท่านคุโบรู้เรื่องที่ท่านที่ปรึกษาอันโดโดนท่านเท็นโชอินดุในวันนั้น ก็ถึงกับหัวเราะอย่างเต็มที่
"มีอะไรที่น่าหัวเราะถึงขนาดนั้นเชียวหรือ?" ท่านเท็นโชอินทำหน้าสงสัย (ดูน่ารัก)
ท่านคุโบอิเอโมจิ "ขออภัยที่เสียมารยาทขอรับ แต่ว่า โดนว่าถึงขนาดนั้น ที่ปรึกษาอันโดก็น่าสงสารเหมือนกันนะขอรับ ที่ปรึกษาพวกนั้นประชุมกันตั้ง3วัน ถึงลงมติให้เขียนไปแบบนั้นได้"
"แต่ว่าท่านคุโบเต็มใจยอมทำอย่างนั้นรึเปล่าล่ะ? ทั้งๆที่เป็นโชกุน..จะต้องเขียนจดหมานยอมจำนนต่อพระจักรพรรดิ ไม่รู้สึกว่าโดนดูถูกดูหมิ่นบ้างรึไง.. ข้าน่ะ.. แค้นใจเหลือเกินเจ้าค่ะ เพียงแค่พระจักรพรรดิเป็นพระเชษฐาของท่านคะสึโนะมิยะ เราถึงต้องก้มหัวให้ฝ่ายโน้นถึงเพียงนี้เชียวรึ!?"
"ท่านแม่ ขอบพระคุณที่เป็นห่วงข้าแบบนี้ แต่คนที่ตัดสิจใจขั้นสุดท้ายที่จะเขียนจดหมายนั่น คือตัวข้าเองนะขอรับ" / "เอ๋???"
"เพื่อให้ราชสำนักกับรัฐบาลรวมกันได้ ข้าคิดว่าทั้งสองฝ่ายจะต้องเปิดเผยจริงใจต่อกันนะขอรับ เพื่อความสงบสุขของประชาชนทั้งหมด แค่เขียนจดหมายเล็กน้อยเท่านั้น ทำไมถึงจะไม่ยอมทำล่ะ"
บรรยากาศในห้องเงียบสงบ อยู่ครู่หนึ่ง
ท่านคุโบลุกขึ้นยืนแล้วหันหลัง ก่อนจะพูดต่ออีกว่า "ท่านแม่ ข้าน่ะ..ทำให้ตระกูลโชกุนโทกุกาวะ..เสื่อมเสียเกียรติยศรึเปล่า?"
จากคำพูดของท่านคุโบ ทำให้ท่านเท็นโชอินไ้ด้เข้าใจอย่างถ่องแท้สำหรับหน้าที่ของโชกุน
"ไม่มีอะไรเสื่อมเสียเลยเจ้าค่ะ ท่านคุโบเป็นโชกุนคนแรกซึ่งสามารถทำในสิ่งที่ไม่มีโชกุนคนใดเคยทำได้ในประเทศนี้"
ท่านคุโบค่อยๆหันหน้ากลับมา
ท่านเท็นโชอินจรดมือ3เหลี่ยม "ท่านตัดสินใจ ทำไปแบบนี้ดีแล้วเจ้าค่ะ"
แล้วท่านเท็นโชอินก็ก้มหัวเคารพต่อท่านโชกุนคนที่14แห่งโทกุกาวะ
แม้จะถูกผู้คนดูถูกดูแคลน แต่หากทำไปเพื่อประเทศชาติและประชาชนแล้ว แม้แต่ศักดิ์ศรีของโชกุนก็วางลงก่อนได้
-----------------------
หลังจากท่านคุโบกลับไปแล้ว จู่ๆท่านเท็นโชอินก็บุกไปเยี่ยมองค์หญิงคะสึโนะมิยะ โดยมิได้นัดหมายล่วงหน้า โดยมีเพียงชิเงโนะติดตามเพียงคนเดียวเท่านั้น
ท่านเท็นโชอิน "ขอเข้าไปนะเพคะ" / "โอ๊ะ! โอ๊ย!! ตกใจหมดเลย จู่ๆก็มาโดยไม่บอกก่อนได้อย่างไรกันล่ะเจ้าคะ" นิวาตะออกโรงก่อนใครๆ
ส่วนองค์หญิงคะสึโนะมิยะ ก็ยังรักษากิริยาเคร่งงียบขรึมไว้เช่นเดิม
ท่านเท็นโชอินไม่สนใจเสียงนกเสียงกาแถวนี้ เดินเข้ามาในห้องทันที แล้วนั่งลงตรงหน้าองค์หญิง แล้วท่านเท็นโชอินก็จรดมือ3เหลี่ยมทำความเคารพองค์หญิงอย่างนอบน้อม
"ข้ามาขอโทษที่เสียมารยาืทในคราวก่อนเพคะ ขออภัยที่ข้านั่งในที่สูงเพียงคนเดียว และไม่ได้จัดเตรียมเบาะรองนั่งที่เหมาะสมไว้ให้ท่่านคะสึโนะมิยะเป็นการเสียมารยาทยิ่งนัก ไม่ว่าจะพูดยังไงก็ตาม ท่านมิยะกับข้าก็มีศักดิ์ฐานะต่างกันอย่างชัดเจน"
"ขอโปรดอภัย เรื่องนี้ข้าไม่มีอะไรจะแก้ตัวได้เลยเพคะ" แล้วท่านเท็นโชอินก็ก้มหัวเพื่อขอโทษต่อองค์หญิง
องค์หญิงเอง คงแปลกใจไม่น้อยที่อยู่ๆผู้ที่สูงสุดแห่งโอโอขุ ยอมลดศักดิ์ศรีมากระทำเช่นนี้ต่อหน้าพระองค์ แต่องค์หญิงก็ยังทรงรักษาสีหน้าที่เรียบเฉยไว้
"ตัวข้าเองก็เพิ่งเคยอบรมบ่าวในบ้านเป็นครั้งแรก จึงมีสิ่งผิดพลาดบกพร่องเต็มไปหมด ยังไงก็ขอได้โปรดเข้าใจด้วย จะเป็นพระคุณยิ่งนัก" ท่านเท็นโชอินก้มหัวให้อีก คราวนี้ก้มหัวนานมากคล้ายจะรอคำตอบรับจากองค์หญิง
องค์หญิงคะสึโนะมิยะชำเลืองไปทางเสด็จแม่ของพระองค์ ซึ่งสนมคังเงียวอินก็พยักหน้าว่าพอใจในกิริยาของท่านเท็นโชอิน
"อะแฮ่ม.. เข้าใจได้อย่างนี้ก็ดีแล้วนะเพคะ.. แค่นี้หมดธุระแล้วใช่มั้ย?" นิวาตะออกหน้าพูดแทน
ท่านเท็นโชอินจึงเงยหน้่าขึ้น แล้วพูดกับองค์หญิงอีกว่า "แต่ว่า! ไม่ว่าสถานการณ์แวดล้อมจะเป็นยังไง ท่านคะสึโนะมิยะก็จะต้องกลายเป็นคนในครอบครัวโทกุกาวะอย่างแน่นอน" (คราวนี้องค์หญิงถึงกับออกอาการหวั่นไหวเล็กน้อย)
ุ
"ไม่มีราชนิกูล ไม่มีซามุไร เมื่อมาเป็นสะใภ้แล้ว ก็ต้องทำตามธรรมเนียมของบ้านนั้น ความสัมพันธ์ในครอบครัวสำคัญที่สุด ลูกสะใภ้ต้องนับถือแม่สามีเหมือนแม่ตัวเองเป็นธรรมดา ถ้าไม่ทำแบบนั้น ครอบครัวก็จะวุ่นวายนะเพคะ" / "แต่ว่า" สนมคังเงียวอินจะเอ่ยปากแต่ไม่ทันได้พูดต่อ
ท่านเท็นโชอินไม่สนใจรอบข้าง พูดต่อไปอีก "ได้ยิืนว่าท่านมิยะได้รับการอบรมเป็นพิเศษ เพื่อเตรียมตัวมาเอโดะโดยเฉพาะ"
ท่านเ็ท็นโชอินหยุดชั่วครู่ แล้วค่อยๆอมยิ้ม ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลขึ้น "ในแง่นี้ ข้าก็เป็นแบบนั้นเหมือนกันนะเพคะ" / "ท่านกับท่านมิยะซังเทียบกันไมได้" นิวาตะพยายามแทรก
"เราเหมือนกันนะเพคะ ทั้งข้าและท่านคะสึโนะมิยะมีจุดที่เหมือนกัน คือมาด้วยเหตุผลทางการเมือง และเพื่อให้ตระกูลโทกุกาวะมีลูกมีหลานสืบต่อไป นั่นคือหน้าที่ของเรา ผู้หญิงที่ตัดสินใจทำเช่นนี้แล้ว ก็ต้องเตรียมตัว ทำหน้าที่ ที่มีแต่เดินหน้าไปสถานเดียวเท่านั้นเพคะ"
เพราะหัวอกเดียวกัน ทำให้คำพูดของท่านเท็นโชอินทะลุถึงก้นบึ้งความรู้สึกขององค์หญิงได้ไม่ยาก โดยที่ผู้อื่นย่อมไม่อาจเข้าถึงได้เช่นเดียวกับคนทั้งสอง
ท่านเท็นโชอินพูดจบก็ค่อยๆยิ้มออกมา แล้วพูดต่อ "ท่านคุโบน่ะ เรียกข้าว่าแม่อย่างเต็มปากเต็มใจมานานแล้ว ท่านเป็นคนซื่อๆใจดีมีเหตุผล เห็นใจคนอื่น เรื่องนี้ท่านมิยะคงจะรู้สึกได้เองแล้วนะเพคะ"
คำพูดของท่านเท็นโชอินสร้างความหวั่นไหวในหัวใจขององค์หญิงอย่างได้ผล
"ยังไงนับแต่นี้ไป!! ข้า! ในฐานะแม่สามีจะแนะนำสั่งสอนเองทุกเรื่อง ไม่ว่าอะไรก็ขอให้สบายใจได้เพคะ"
ท่านเท็นโชอินจรดมือ3เหลี่ยม "เรื่องที่จะพูดด่วนให้เข้าใจไว้ก่อนก็มีเท่านี้ เพราะฉะนั้นวันนี้ขอลาเท่านี้เพคะ" แล้วท่านเท็นโชอินก็ก้มหัวเคารพเพื่ออำลา
สนมคังเงียวอินถึงกับอ้าปากค้าง เพราะงง!!กับท่าทีที่อ่อนนอกแข็งใน นุ่มนวลแต่เฉียบขาดของท่านเท็นโชอินแบบนึกไม่ถึงมาก่อน
แล้วท่านเท็นโชอินก็ลุกขึ้นหันหลังเพื่อเดินทางกลับ
"เดี๋ยวอย่าเพิ่งไป!!" นิวาตะร้องขึ้น
แต่ท่านเท็นโชอินรีบชิงพูดขึ้นทันทีโดยไม่หันไปมอง "ได้ยินว่า..ท่านชื่อนิวาตะใช่มั้ย?" / "มีอะไรรึเจ้าคะ?"
ท่านเท็นโชอินหันกลับมาด้วยการตีหน้าเข้มดุ ทำเอานิวาตะและสนมคังเงียวอินตกใจ แต่แล้วท่านเท็นโชอินก็ค่อยๆยิ้มออกมา แล้วพูดขึ้นว่า "ท่านนี่มีผมดกดำเหลือเกินนะ"
"หา??" นิวาตะเจอคำชมแบบไม่ทันตั้งตัวถึงกับปล่อยเขินออกมาแบบงงๆ
ท่านเท็นโชอินยิ้มหวานแล้วก้มศรีษะเล็กน้อยเชิงให้เกียรติและชื่่นชมแก่นิวาตะ แล้วท่านก็เดินออกจากห้องไปในทันที
สนมคังเงียวอินถึงกับตกตะลึง กับทีท่าที่เปลี่ยนแปลงแบบฉับพลันของท่านเท็นโชอิน
------------------------------
ระหว่างเดินทางกลับ
ชิเงโนะหัวเราะ "เห็นท่านนิวาตะทำหน้าแบบนั้น ข้าสะใจเหลือเกินเจ้าค่ะ" / "ข้าก็เหมือนกันนั่นล่ะ"
"แต่ว่าถ้าบังเอิญฝ่ายโน้นตกใจเสียจน บอกเลิกการแต่งงานล่ะเจ้าคะ?" / "ไม่มีทางหรอก เตรียมรับมือให้ดีก็แล้วกัน เรามาเหยียบจมูกถึงที่ี"
------------------------
ที่ห้องพักขององค์หญิง บรรดานางกำนัลเล็กๆจากเกียวโตต่างพากันนั่งร้องห่มร้องไห้ต่อหน้่องค์หญิง
สนมคังเงียวอิน "นึกไม่ถึงเลยว่า นางจะร้ายกาจขนาดนี้น่ะ"
นิวาตะ "ยังไงก็ต้องนับถือข้าในฐานะแม่สามีนะ ปากร้ายเหลือรับจริงๆ ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้หรอก"
"เงียบๆหน่อยซิ" องค์หญิงตรัสสั่ง (คงกำลังคิดทบทวนคำพูดของท่านเท็นโชอิน จึงนึกรำคาญเสียงร้องห่มร้องไห้ในห้อง ทำเอาคนในห้องนั้นต่างงง!!)
------------------------
วันที่15เดือน1 ปีบุงคิวที่2 โรนินแคว้นมิโตะ ซึ่งคัดค้านการแต่งงานของท่านคะสึโนะมิยะได้มาลอบสังหาร ไดโชกุน หรือตำแหน่งหัวหน้าที่ปรึกษา ท่านอันโด
(โรนิน คือซามุไรไร้สังกัด)
ทาคิยามะรีบเข้ามารายงาน "ท่านเท็นโชอิน เมื่อกี้นี้ที่ปรึกษาอันโดถูกพวกโรนินแคว้นมิโตะมาลอบทำร้ายเจ้าค่ะ" / "ท่านอันโดน่ะเหรอ?"
"ท่านถูกลอบทำร้ายแต่รอดชีวิตมาได้เจ้าค่ะ"
บะขุฝุกำลังมีปัญหาวิกฤติศรัทธาจนยากที่จะกอบกู้คืนมา
--------------------------
และแล้วท่านไซโกก็ได้รับอนุญาตให้กลับมาสัทสุมะได้แล้ว ทาเตวากิและท่านโอคุโบะจึงไปแจ้งข่าวให้บรรดาซามุไรระดับล่างให้รับรู้ แต่ท่านอาริมะไม่พอใจที่ทางท่านเจ้่าแคว้น รวมทั้งทาเตวากิและท่านโอคุโบะ มีความลับต่อพวกตน
เพราะการที่ยอมให้ท่านไซโกกลับมา แสดงว่าท่านเจ้าแคว้นกำลังมีแผนการอยู่ แต่ทำไมไม่บอกให้พวกของท่านอาริมะรู้ด้วยบ้าง
แม้ท่านโอคุโบะจะพยายามปฏิเสธว่า ไม่มี แต่ท่านอาริมาะก็ไม่เชื่อ จึงประกาศจะแยกตัวไปจัดตั้งกลุ่มของตนขึ้นใหม่ ทำให้ทาเตวากิต้องออกมายอมรับว่า มีแผนการอยู่จริง แต่ยังไม่สามารถบอกได้ในตอนนี้ แต่ทั้งหมดก็เพื่อพวกเราทุกคนและสัทสุมะ
แต่ท่านอาริมะไม่พอใจที่มีความลับแก่กัน จึงได้ก้มหัวต่อทาเตวากิขอลาออกไป และการจากไปของท่านอาริมะ ก็ทำให้เสียซามุไรระดับล่างไปอีกจำนวนหนึ่ง
วันต่อมาทาเตวากิและท่านโอคุโบะก็ไปรับท่านไซโกกลับบ้าน ท่ามกลางความตื้นตันใจระหว่างเพื่อนรัก
และวันเดียวกันนั่นเอง ท่านโชกุนคนที่14อิเอโมจิ ก็ได้เข้าพิธีวิวาห์กับองค์หญิงคะสึโนะมิยะอย่างสมเกียรติตามประเพณี
ท่านเท็นโชอินต้อนรับสมาชิกใหม่ ถือเป็นครอบครัวใหม่ ความคิดที่จะปกป้องตระกูลโทกุกาวะก็กลับคืนมาเต็มหัวใจอีกครั้ง
"
"
"
ยังตามอยู่นะคะ
ตอบลบว่าแต่และคุณใหม่ฯได้ดูเรื่อง บ้าบ๋า ย่าหยา รึเปล่าคะ สนุกดีเหมือนกัน แต่เนื่องจากเวลาฉายที่เปลี่ยนไป(สั้นลงเหลือ2วัน)และตารางเวลาที่ไม่แน่ไม่นอน เลยไม่ค่อยได้ติดตามเท่าไหร่คะ
ไม่ได้ชมครับ ทั้งที่อยากดู แต่เพราะเวลาที่ผมว่างไม่ตรงกับเวลาออกอากาศ
ตอบลบแต่เท่าทีติดตามตอนแนะนำเรื่องก่อนฉายวันแรก
นับเป็นละครที่เชิดชูวัฒนธรรมที่งดงามอีกเรื่องหนึ่ง ทั้งๆที่สิงคโปร์ผมไม่เคยนึกมาก่อนว่า เขาก็มีวัฒนธรรมความเขื่อที่น่าสนใจทีเดียว