ผมเพิ่งดูรายการ "กฤษณะล้วงลูก" ทางเนชั่นจบเมื่อกี้ ก่อนจะมาเขียนบทความตอนนี้ วันนี้กฤษณะ เขาไปสัมภาษณ์ท่านผู้หญิงวิริยา ชวกุลถึงบ้าน
แต่ประเด็นสำคัญที่ผมอุตส่าห์รอฟังก็คือ คำถามที่ว่า "ท่านผู้หญิงใส่เสื้อสีอะไร" ซึ่งท่านผู้หญิงก็ตอบว่า "ไม่ใส่เสื้อแดงหรอก เพราะเสื้อแดงโง่ ทำอะไรโง่ๆหลายอย่าง"
.
ผมไม่อยากเล่ารายละเอียดต่อแล้วครับ เพราะใครอยากดูเต็มๆต้องไปหาดูที่เว็บเนชั่นเองนะครับ
********************************
ทีวีไทยกับกรณีเพลงหลุดในวันฉัตรมงคล
เป็นข่าวที่ดังมากๆในอินเตอร์เนต แต่ในสื่อปกติทั่วไปกลับเงียบ นั่นก็คือ ข่าวที่ทีวีไทยเกิดความผิดพลาดปล่อยเพลง "แสงดาวแห่งศรัทธา" ของจิตร ภูมิศักดิ์ ออกมาระหว่างถ่ายทอดสดงานสโมสรสันนิบาตที่ทำเนียบรัฐบาล ขณะที่มีการบรรเลงเพลงสดุดีมหาราชาและช่วงเพลงสรรเสริญนั้น
อ่านข่าวคำชี้แจงของทีวีไทยกรณีความผิดพลาดในวันฉัตรมงคล
แม้ในวันนี้ทางทีวีไทยจะออกมาชี้แจงความผิดพลาดแล้ว ว่าเป็นปัญหาเทคนิคและได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนความผิดเจ้าหน้าที่แล้วก็ตาม แต่สำหรับความเห็นผม ผมว่าคำชี้แจงนั้นฟังไม่ขึ้นครับ
เพราะในงานสำคัญที่เกี่ยวข้องกับสถาบันหลักแบบนี้ การมีเสียงเพลงที่พวกคอมมิวนิสต์ในอดีตใช้เพื่อปลุกกระแสความเชื่อทางการเมืองของตัวเอง อยู่ดีๆจะมาหลุดออกอากาศในงานพิธีสำคัญแบบนี้มันไม่บังเอิญผิดพลาดเกินไปหน่อยหรือ?
เพราะวันเดียวกันนั้น ก็เป็นวันครบรอบการจากไปของจิตร ภูมิศักดิ์เช่นกัน หากจะเกิดความผิดพลาดทางเทคนิคจริง ก็น่าจะหลุดเป็นเสียงอย่างอื่น เช่น เสียงเพลงเบิร์ด หรือเพลงลอยกระทง หรือเพลงอะไรก็ได้ ที่ไม่น่าจะมาเป็นเพลงนี้
และหากมีการลงโทษเจ้าหน้าที่ที่ผิดพลาดเกิดขึ้นนั้นเป็นการลงโทษสถานเบา ก็ยิ่งทำให้รู้สึกว่า ทีวีไทยไม่เห็นความสำคัญของการผิดพลาดในครั้งนี้ เพราะความบังเอิญที่ไม่ธรรมดาแบบนี้คงยากที่จะมีคนเชื่อถือแน่ๆ
จะผิดพลาด ดันมาผิดพลาดตอนงานพิธีสำคัญ จะผิดพลาดดันต้องเป็นเพลงที่คอมมิวนิสต์เคยใช้ จะผิดพลาดดันมาผิดพลาดตอนเหตุการณ์บ้านเมืองกำลังแตกแยก แถมยังปล่อยเสียงนานเกินกว่าจะเชื่อว่าไม่ตั้งใจ และแถมยังปล่อยเสียงให้ดังมากแข่งกับเสียงเพลงสรรเสริญอยู่นาน
การตั้งคณะกรรมการสอบสวนไม่มีสิ่งยืนยันแน่ชัดว่า เจ้าหน้าที่ที่ผิดพลาดนี้ได้ไปรับสินบนจากใครมาหรือเปล่า ในเมื่อยากที่จะสรุปแบบไหนได้ ก็ควรตัดไฟเสียแต่ต้นลมดีกว่า เพื่อมาตรฐานการทำงานของทีวีไทยจะได้รับความเชื่อถือจากสังคม เพราะถ้าปล่อยไปก็เท่ากับว่าผู้บริหารทีวีไทยหละหลวมหรือร่วมเจตนาทำผิดด้วย
หากผู้บริหารทีวีไทยอย่างเทพชัย หย่อง ทำได้แค่เพียงลงโทษสถานเบาล่ะก็(พักงานก็ไม่พอ) ก็เสียทีที่เกิดมาเป็นน้องสุทธิชัย หยุ่น อยากวานให้พี่หยุ่นเบิร์ดกะโหลกน้องหย่องซักที่เถอะ
(จิตร ภูมิศักดิ์ เขาไปดีแล้ว แต่มีคนไม่ดีกลับนำผลงานที่เปี่ยมอุดมการณ์บริสุทธิ์ของท่านมาทำเสื่อมเสีย)
*********************************
คนไทยงมงาย
ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา มีข่าวพบเรื่องของแปลกๆหลายหน เช่น พบไข่ยักษ์ พบเห็ดยักษ์ พบจิ้งจกสีแดง พบอะไรต่อมิอะไรที่แปลกๆ พี่ไทยเราก็พร้อมใจกันจุดธูปขอหวยกันทั้งปี
เป็นมาไม่รู้กี่ครั้งกี่หนแล้ว ที่คนไทยเรางมงายกับสิ่งมีชีวิตที่ผิดปกติ กราบได้กระทั่งจิ้งจกตุ๊กแก สงสัยถ้าหมาออกลูกมี2หัว ก็คงมีคนไปกราบไหว้หมาแน่นอน เชื่อมะ!
หากเป็นในประเทศที่เจริญแล้วอย่างญี่ปุ่น เยอรมัน อเมริกา หากเขาพบเจอสิ่งมีชีวิตที่ผิดธรรมชาติหรือไม่ผิดธรรมชาติก็ตาม หากเป็นเรื่องแปลก
เขาก็จะมีวิธีการดำเนินเรื่องต่างจากคนไทย เช่นหากฝรั่งเขาพบกบมี5ขา หรือสัตว์มี2หัว ฝรั่งเขาจะวิตกกังวลว่า เกิดอะไรที่เป็นภัยกับสิงแวดล้อมในบริเวณที่พบสัตว์แปลกๆหรือเปล่า
ฝรั่งเขากลัวว่า อาจมีสารพิษเจือปนในสิ่งแวดล้อม จนทำให้ระบบนิเวศน์ในบริเวณนั้นเปลี่ยนแปลงจนกระทบกับพันธุกรรมของสัตว์ ฝรั่งเขาจะต้องนำน้ำ นำดิน นำอะไรต่อมิอะไรมาสำรวจพิสูจน์ให้รู้ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพื่อจะได้แก้ไขหรือระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยแก่สิงแวดล้อมระบบนิเวศน์
แต่คนไทยบ้าหวย งมงายแม้กระทั่งหมูเกิดมาพิการตายตั้งแต่เกิด อย่างนี้แหล่ะที่ทำให้คนไทยยังยากที่จะพัฒนาความคิดให้เจริญอย่างมีปัญญา และนี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งของความล้าหลังของคนไทย
การที่ได้เห็นคนไทยไปกราบไหว้สัตว์แปลกหรือพืชแปลกๆนั้น ไม่ใช่มีแต่คนเฒ่าคนแก่ที่อาจไม่ได้รับการศึกษาสมัยใหม่มากราบไหว้เท่านั้น แต่กลับพบเห็นว่า คนหนุ่มสาวก็บ้าไปกราบไหว้ด้วย เฮ้อ! การศึกษาไทยไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไหร่เลย พับผ่าเหอะ!
*******************************
คดีเด็ดบอกอะไรได้บ้าง
รายการคดีเด็ดทางช่อง7สี ที่มีนายหว่อง ตาตี่ พิธีกรมุขฝืด(แต่ก็ฮาตรงฝืด) จัดมาหลายปี ผมเองพักหลังก็เบื่อๆไปบ้างเลยไม่ค่อยได้ดูแล้ว เพราะเริ่มชินกับมุข
แต่มีอยู่วันนึง ผมลองแวะดูรายการคดีเด็ดสักหน่อยสิว่าเป็นไงบ้าง บังเอิญได้ดูตอนท้ายๆรายการ มีคดีขำๆ2เรื่องอยากเล่าให้คุณผู้อ่านรู้
เรื่องแรก หลักฐานการตาย
มีหลานสาวมากรมที่ดินเรื่องจะขอโอนที่ของปู่ที่ตายแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ที่ดินบอกว่า ต้องไปเอาหลักฐานการตายของผู้ตายมาแสดงด้วย
หลานสาวคนนั้นก็กลับไปเพื่อไปเอาหลักฐานมาใหม่ พอกลับมา ก็ยื่นอัลบั้มรูปส่งให้เจ้าหน้าที่ที่ดิน เจ้าหน้าที่ก็งง! ถามว่า "ไหนล่ะ หลักฐานการตาย"
หลานสาวก็บอกว่า "นี่ไง! หลักฐาน" พร้อมกับเปิดอัลบั้มรูปงานศพของปู่ที่ตายไปให้ดู แถมยังอุตส่าห์ชี้รูปตัวเองด้วยว่า ได้ไปร่วมงานศพของปู่มาด้วย
จบ.
กรณีนี้ก็เป็นตัวอย่างของคนไทยที่ยังหนุ่มสาว แต่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย จริงๆ ว่าหลักฐานการตายนั้นคืออะไรกันแน่ เพราะที่จริงก็คือ ใบมรณะบัตรนั่นเอง เฮ้อ! ....
เรื่องที่2 บัตรสะแมดแต๊ด
ผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่ง บอกชาวบ้านผ่านเสียงตามสายว่า ให้รีบไปทำบัตรสะแมดแต๊ดที่อำเภอเสีย เพราะรัฐบาลเขาจะยกเว้นไม่เก็บค่าธรรมเนียมในช่วงนี้
วันรุ่งขึ้นชาวบ้านหมู่บ้านนี้ก็แห่กันไปทำบัตรสะแมดแต๊ดที่อำเภอกันใหญ่ เจ้าหน้าที่ที่อำเภอก็ถามว่า"มาทำอะไรกัน"
ผู้ใหญ่บ้านคนนำมาก็บอกว่า "จะพาลูกบ้านมาทำบัตรสะแมดแต๊ด"
ทำเอาเจ้าหน้าที่งง! เจ้าหน้าที่ก็ถามย้ำอีกทีให้แน่ใจว่า "ทำอะไรนะ"
ชาวบ้านก็พูดกันทีละคนว่า มาทำบัตรสะแมดแต๊ด กันทุกคน
จบ.
กรณีนี้มีชาวบ้านทั้งคนหนุ่มคนสาวก็มาด้วย แต่ไม่ยักจะมีใครฉุกคิดสงสัยกับคำว่า บัตรสะแมดแต๊ดสักคน เพราะต่างก็เชื่อตามผู้ใหญ่บอกกันทั้งนั้น
เฉลย บัตรสแมดแต๊ด ก็คือ บัตรสมาร์การ์ด นั่นเอง เฮ้อ! .....
การศึกษาของไทยยังพัฒนาไม่ทั่วถึง ประชาธิปไตยแบบไทยๆก็ต้องค่อยเป็นค่อยไปนะครับ อยากให้คนไทยอย่าไปฟังพวกนักการเมืองมากไปแล้วกัน เพราะอาจถูกหลอกใช้ได้
.
.
อ่านเรื่อง คนไทยไม่สามารถเจริญแบบญี่ปุ่นได้
.
http://www.youtube.com/watch?v=OaoVydBD2uU
ตอบลบขอบคุณคุณคห.1ครับ สำหรับลิงค์ที่แนะนำมา กำลังต้องการพอดีครับ
ตอบลบ