วันเสาร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2554

จิตวิญญาณที่เข้มแข็งของคนญี่ปุ่น!!





หลังจากTsunami2011 ผ่านมา คนทั้งโลกได้เห็นจิตวิญญาณที่เข้มแข็งและระเบียบวินัยที่ยอดเยี่ยมของชาวญี่ปุ่นกันแล้ว ทั่วทั้งโลกต่างชื่นชมยกย่องความสามัคคีและความมีน้ำใจอดทนเข้มแข็งเป็นเลิศของชาวญี่ปุ่น ไม่เอะอะโวยวายฟูมฟายจนไร้ขอบเขตแห่งวินัย

คนญี่ปุ่นไม่มีการแก่งแย่งซื้อกักตุนอาหาร ไม่มีการลัดคิวกันเพื่อให้ได้สิทธิซื้อของก่อน ทุกคนต่างอดทนรอด้วยความมีวินัยในทุก ๆ สถานการณ์ที่เผชิญ

อย่างเช่น

ปัญหาการปนเปื้อนกัมมันตรังสีในน้ำดื่มสะอาดในช่วงเกิดสึนามิในญี่ปุ่นจากการระเบิดของโรงไฟฟ้าฟุกุชิมะ จนน้ำดื่มสะอาดอาจเกิดความขาดแคลนในญี่ปุ่นช่วงนั้น จนรัฐบาลญี่ปุ่นเองได้ออกมาประกาศขอร้องคนญี่ปุ่นว่า อย่ากักตุนน้ำดื่ม ขอให้คนญี่ปุ่นซื้อน้ำดื่มไม่เกินคนละ 2 ขวดต่อวันเท่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดภาวะขาดแคลน

แต่ที่ไหนได้ คนญี่ปุ่นกลับซื้อน้ำดื่มตามห้างเพียงแค่คนละ 1 ขวดเท่านั้น เพียงเพราะกลัวคนที่มาทีหลังจะไม่มีของให้ซื้อ

นี่แหละ คือจิตวิญญาณที่ยอดเยี่ยมของคนญี่ปุ่น

จนทำให้มีการเอามาเปรียบเทียบว่า ทำไมคนไทยไม่เป็นแบบคนญี่ปุ่น ประเทศไทยจะได้เจริญเหมือนเขา

ซึ่งผมเคยเขียนไว้ในบทความ คนไทยไม่มีทางเจริญเหมือนญี่ปุ่นได้ มาแล้วถึงสาเหตุที่คนไทยเป็นแบบคนญี่ปุ่นไม่ได้

-----------------------

แต่ทีนี้ผมจะขอลงลึกเรื่อง แล้วอะไรล่ะ? ที่ทำให้คนญี่ปุ่นถึงมีระเบียบวินัยและความกล้าหาญเป็นยอด

สิ่งที่ทำให้คนญี่ปุ่น เป็นมนุษย์ที่ยอดเยี่ยมได้ ก็เพราะคนญี่ปุ่นศรัทธาในแนวคิดของวิถีบูชิโด หรือวิถีซามุไร ที่เป็นส่วนหนึ่งของศาสนาชินโตนั่นเอง


---------------------------

ผมขอยกส่วนหนึ่งของวิถีบูชิโดแห่งศาสนาชินโต มาให้อ่านเล็กน้อย

V

V

ศาสนาชินโตไม่มีศาสดา บูชาเทพเจ้า เชื่อถือเวทมนต์ คาถา บูชาธรรมชาติและบรรพบุรุษ

(การบูชาธรรมชาติของคนญี่ปุ่น ทำให้ญี่ปุ่นสามารถรักษาป่าไม้ไว้ได้มากกว่า 70%)

คำสอนของชินโต

คำว่า “ชินโต” แปลว่า วิถีของพระเจ้า คำสอนจึงมุ่งให้บุคคลปฏิบัติตนตามทางของสวรรค์ ภักดีต่อพระเจ้า ซึ่งหมายถึงธรรมชาติรอบตัวมนุษย์ ศาสนาชินโตยึดถือคำสอนสืบเนื่องมาจากศาสนาเต๋าและขงจื๊อหลายประการ

มีเทพนิยายของญี่ปุ่นโบราณเล่าสืบต่อกันมาว่า พระอาทิตย์เป็นผู้สร้างเกาะญี่ปุ่น และชาวญี่ปุ่นทั้งหลายเป็นลูกหลานของพระอาทิตย์

เทพเจ้าของศาสนาชินโต

• 1. เทพผู้สร้างสูงสุด คือ อามาเตระสุ-โอมิคามิหรือสุริยเทพี กับซีกิโยมิหรือจันทรเทพ

• 2. เทพประจำสิ่งต่างๆในธรรมชาติ ที่มนุษย์ชื่นชอบหรือเกรงกลัว รวมทั้งวิญญาณที่มีอำนาจบันดาลให้สิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้น (Kami)

• 3. มนุษย์ที่ทำความดี เมื่อสิ้นชีวิตแล้ว ถือว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ !!

จุดหมายปลายทางของชีวิต คือ การเข้าถึงพระเจ้า

(ผมขอเสริมว่า ถ้าคนญี่ปุ่นตายเพื่อชาติ หรือเพื่อเจ้านาย เขาเชื่อว่าก็จะได้กลับไปอยู่กับพระเจ้า นั่นคือกลับไปอยู่กับเทพพระอาทิตย์ เป็นการตายอย่างสมเกียรติ !!)


สถานภาพของสตรี

ศาสนาชินโตสอนให้ผู้หญิงเคารพผู้ชาย ส่วนผู้ชายก็ให้ความคุ้มครองผู้หญิง และต่างฝ่ายต่างต้องรักและสามัคคีกัน


แนวคิดเรื่องความตาย

ชินโตไม่พูดถึงเรื่องโลกหน้า เชื่อว่า วิญญาณเป็นอมตะ ความตายเป็นเสมือนการเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวใหม่ ดวงวิญญาณจะคอยปกป้องวงศ์ตระกูลของตนอยู่เสมอ

ข้อปฏิบัติตามศาสนาชินโต คือ จงรักภักดีต่อเทพเจ้า จงรักภักดีต่อสมเด็จพระจักรพรรดิ และปฏิบัติตามหลักจริยธรรมเพื่อบำเพ็ญความดีสูงสุด 4 ประการ คือ

1. ให้มีความคิดเบิกบาน

2. ให้มีความคิดบริสุทธิ์

3. ให้มีความคิดถูกต้อง

4. ให้มีความคิดเที่ยงตรง

การบูชาธรรมชาติ

คนญี่ปุ่นเชื่อว่า เทพแห่งพระอาทิตย์ทรงสร้างเกาะญี่ปุ่น และธรรมชาติทั้งหลาย เช่น ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ มหาสมุทร แม่น้ำ ภูเขา น้ำตก ต้นไม้ สิ่งที่พระเจ้าทรงสร้าง จึงมีฐานะสูงควรแก่การเคารพบูชา !!

ในเรื่องจักรวาล ชินโตสอนว่า กามิ (Kami) หรือเทพเจ้าเป็นเจตภูตที่ไม่มีรูปร่าง ไม่เปลี่ยนแปลง เป็นนิรันดร์

กามิเป็นเทพเจ้าในธรรมชาติ เหตุการณ์ต่างๆ ในจักรวาลมาจากการบันดาลของกามิ กฎแห่งธรรมชาติทั้งปวงคือ ทางแห่งเทพเจ้า

การบูชาจักรพรรดิ

คนญี่ปุ่นบูชาพระจักรพรรดิ เพราะถือว่า สมเด็จพระจักรพรรดิเป็นผู้สืบสายมาจากดวงอาทิตย์โดยไม่ขาดสาย 

ซึ่งถ้าใครคิดต่างจากหลักการนี้ ก็ไม่สมควรเป็นคนญี่ปุ่นต่อไป ก็ควรมีความละอายและเดินทางออกจากแผ่นดินญี่ปุ่นไปซะ

การบูชาบรรพบุรุษ

ญี่ปุ่นเชื่อว่า คนญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบันสืบเชื้อสายมาเป็นสายเลือดเดียวกัน การบูชาบรรพบุรุษของญี่ปุ่น มีทั้งบรรพบุรุษของครอบครัวและบรรพบุรุษของชาติ

การบูชาผู้กล้าหาญ

ญี่ปุ่นเป็นคนรักชาติมาก ผู้ใดอุทิศชีวิตให้ชาติ วิญญาณของผู้นั้นจะได้รับการยกย่อง ทหารญี่ปุ่น จึงรบด้วยความกล้าหาญ เพราะรู้ว่า ถ้าตายก็จะมีผู้เคารพบูชา

คำสอนเหล่านี้มีผลทำให้คนญี่ปุ่นเป็นคนรักชาติ รักบรรพบุรุษของตนอย่างยิ่ง เกิดเป็นหลักธรรมประจำใจที่เรียกว่า บูชิโด ซึ่งเป็นวินัยของนักรบในกลุ่มชาวญี่ปุ่น


ระบบคุณธรรม

1.ความกล้าหาญ ให้กล้าหาญที่จะมีชีวิตอยู่และไม่กลัวตาย

2.ความขลาด ความขลาดถือว่าเป็นบาป จึงมีคติว่า บาปทุกอย่างนั้นจะได้รับการอภัยเมื่อสำนึกผิด ยกเว้น ความขลาดกับการลักขโมย

ดังนั้นเราจะเห็นคนญี่ปุ่นที่กระทำผิด มักฆ่าตัวตายเพื่อแสดงให้เห็นว่า เขาได้สำนึกในความผิดของตัวเองแล้ว

(แต่โจรไทยสามารถขโมยของสาธารณะได้ทุกอย่าง หรือเช่น การตัดไม้ทำลายป่าก็ถือว่าเป็นการขโมยสมบัติของชาติ เช่นกัน)

3.ความจงรักภักดี ชินโตสอนให้จงรักภักดีต่อสมเด็จพระจักรพรรดิเป็นอันดับหนึ่ง อันดับต่อมาคือครอบครัวและสังคม

4.ความสะอาด

 ถ้าทำความสกปรกถือว่าเป็นบาป เป็นความผิดต่อเทพเจ้า ผู้ทำตนให้สะอาดเป็นผู้เคารพเทพเจ้า 

(ทีนี้เราคงเข้าใจแล้วสินะครับว่า ทำไมคนญี่ปุ่นถึงได้สะอาด เพราะการทำความสกปรกถือว่าเป็นบาป การทำให้ประเทศชาติสกปรกก็ยิ่งบาป เพราะประเทศชาติก็ถือเป็นเจ้านายของคนญี่ปุ่นเช่นกัน)

จากความเชื่อนี้ การอาบน้ำในสังคมญี่ปุ่นจึงเป็นทั้งพิธีกรรมทำตนให้สะอาด และเป็นพิธีกรรมชำระบาปด้วย

ข้อปฏิบัติต่อสังคม

• 1. คุณธรรมสูงสุดได้แก่ ความจริง ความซื่อสัตย์และความเคารพต่อบรรพบุรุษและผู้ใหญ่

• 2. ภักดีต่อสมเด็จพระจักรพรรดิและราชวงศ์ เคารพบรรพบุรุษและผู้ใหญ่ (ถ้าใครไม่เคารพสมเด็จพระจักรพรรดิ ก็ไม่มีจิตวิญญาณแห่งคนญี่ปุ่นเหลือ ก็ควรออกจากแผ่นดินญี่ปุ่นไปซะ)

• 3. ซื่อสัตย์ต่อเพื่อน รักและสามัคคีกับคนในชาติ รักคนอื่นให้เท่ากับรักตนเอง

• 4. ผู้เยาว์ต้องอ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่ ชายต้องซื่อสัตย์ต่อชาติ และหญิงต้องเคารพชาย

• 5. รักและเคารพบิดามารดา รักและสามัคคีกับคนในครอบครัว

• 6. ทำงานด้วยความซื่อสัตย์

• 7. มีความประหยัด

• 8. อย่าตอบแทนความชั่วด้วยความชั่ว

• 9. ต่อสู้เมี่อถูกรังแก และแก้แค้นให้ผู้ที่เราเคารพ

• 10. ไม่กลัวตาย !!

• 11. ฝึกตนเองให้มีความคิดเบิกบาน ความคิดบริสุทธิ์ ความคิดถูกต้อง ความคิดเที่ยงตรง

ลัทธิบูชิโด คือ ลัทธิที่ยกย่องคนกล้า ซึ่งคนญี่ปุ่นเรียกว่า "ซามูไร" (Samurai) คำว่า "บูชิโด" แปลว่า "หนทางของอัศวินนักสู้" หลักประพฤติของซามูไรญี่ปุ่นในสมัยนั้น มีดังนี้ คือ

1. ซามูไรทุกคนจะต้องอยู่ในสังกัดของเจ้านายในระบบศักดินา และจะต้องจงรักภักดีต่อเจ้านายซามูไรจะต้องรำลึกบุญคุณเจ้านายอยู่เสมอและหาทางตอบแทนบุญคุณนั้นให้ได้ เพราะการตอบแทนหนี้บุญคุณของซามุไรต่อเจ้านายถือว่าเป็นความดีสูงสุด 

พันธะหน้าที่ซึ่งเกี่ยวข้องกับเจ้านายเป็นสิ่งสำคัญยิ่งกว่าครอบครัว และครอบครัวของซามูไรทุกคนจะต้องสนับสนุนการกระทำของพวกเขาจึงจะได้รับยกย่องจากสังคม

2. ซามูไรจะต้องเป็นผู้มีความกล้าหาญ ไม่กลัวความตาย

การตายที่มีเกียรติของซามูไรคือ การทำฮาราคิริ (Harakiri) หรือเซ็ปปุกุ (Seppuku) การตายแบบนี้เป็นการแสดงความกล้าหาญอย่างสูง ที่จะต้องเผชิญกับความเจ็บปวด โดยการใช้มีดสั้นแทงที่หน้าท้องใต้เอวขวา กรีดมาทางซ้าย แล้วดึงมีดขึ้นข้างบน เป็นการเปิดช่องท้อง และตัดลำไส้ให้ขาด

ดังนั้น เรามักจะเห็นพวกนักการเมืองญี่ปุ่นมักฆ่าตัวตาย ก่อนขึ้นศาล เพราะเขาถือว่า การฆ่าตัวตายเพื่อสำนึกในความผิด จะทำให้เขาได้รับการยกย่องและได้รับการให้อภัย และจะได้กลับไปสู่สวรรค์ กลับไปอยู่กับเทพพระอาทิตย์

3. ซามูไรจะต้องยอมตายเพื่อรักษาเกียรติ

4. ซามูไรจะต้องจงรักภักดี อ่อนน้อมถ่อมตนต่อเจ้านาย

5. ซามูไรจะต้องมีความเที่ยงธรรม มีเมตตา รักความยุติธรรม และช่วยเหลือผู้ตกทุกข์


---------------------------

กรณีฮีโร่แห่งโรงไฟฟ้าพลังปรมาณู ที่อาสาเข้าไปกู้โรงไฟฟ้า จนบาดเจ็บล้มตายไปแล้วหลายคนนั้น

ทำไมพวกเขาถึงกล้าหาญเช่นนี้??

นั่นเพราะพวกเขามีสายเลือดแห่งบูชิโดนั่นเอง

แม้พวกเขาจะต้องตายในที่สุดจากการได้รับสารกัมมันตรังสีเกินขนาด แต่พวกเขาก็เลือกจะทำหน้าที่อย่างถึงที่สุด เพื่อปกป้องประเทศชาติ(หรือเจ้านายของเขา) นั่นเอง

เพราะเมื่อพวกเขาได้ทำหน้าที่อย่างกล้าหาญแล้ว เมื่อพวกเขาตายลง พวกเขาจะได้กลับไปสู่สรวงสวรรค์ ได้รับการต้อนรับจากบรรพบุรุษของพวกเขาบนสรวงสวรรค์อย่างสมเกียรติ

และพวกเขาก็ได้กับไปอยู่กับเทพแห่งพระอาทิตย์ของพวกเขาตลอดไป


-----------------------------

ตราบใดที่คนไทยไม่รู้จักวิถีบูชิโด และศรัทธาในวิถีบูชิโด ตราบนั้นคนไทยก็ไม่มีวันยอดเยี่ยมเหมือนคนญี่ปุ่นได้หรอกครับ

เพราะวิถีบูชิโดนั้น รักชาติยิ่งชีพ ขอตายดีกว่าอยู่อย่างพ่ายแพ้ ขี้ขลาด และอ่อนแอ


---------------

สรุป ในส่วนพระจักรพรรดิญี่ปุ่น

ดังจะเห็นว่า แนวคิดซามุไร หรือบูชิโด ที่สืบทอดกันมากว่าพันปีในสายเลือดคนญี่ปุ่น หล่อหลอมให้พวกเขาจงรักภักดีต่อองค์สมเด็จพระจักรพรรดิไม่เสื่อมคลาย

หลักบูชิโด ถือว่า สมเด็จพระจักรพรรดิสำคัญกว่าครอบครัวของคนญี่ปุ่นเสียอีก ในขณะที่นักการเมืองไทยจำนวนมากเห็นแก่ตระกูลตัวเองมากกว่าเห็นแก่พระมหากษัตริย์

อีกทั้งในอดีต สมเด็จพระจักรพรรดิฮิโรฮิโต ได้นำพาคนญี่ปุ่นแพ้สงครามครั้งที่ 2  ซึ่งได้สร้างความสูญเสีย พลัดพรากให้แก่ครอบครัวคนญี่ปุ่นมากมาย หรือแม้กระทั่งเมื่อฮิโรชิมา และนางาซากิ ต้องโดนระเบิดปรมณูลง จนมีคนตายหลายแสนคน

แต่ชาวญี่ปุ่นกลับไม่โทษองค์สมเด็จพระจักรพรรดิเลย แถมชาวญี่ปุ่นยังช่วยกันออกมาปกป้ององค์สมเด็จพระจักรพรรดิ ไม่ให้ถูกฝ่ายสัมพันธมิตรนำสมเด็จพระจักรพรรดิไปขึ้นศาลโลกเพื่อลงโทษในฐานะอาชญากรสงครามด้วยซ้ำ (คลิกอ่าน สปิริตคนญี่ปุ่นในwar2 ตอน2)

นั่นเพราะอะไรล่ะ ? แล้วทำไมคนญี่ปุ่นไม่คิดล้มล้างสถาบันจักรพรรดิ ?

ในขณะที่มีคนไทยชั่วๆ คิดล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ จนทหารไทยต้องจัดการพวกล้มล้างสถาบันไปบ้าง เพื่อปกป้องสถาบันตามหน้าที่ทหาร ทั้งๆ ที่ผู้ที่คิดล้มล้างสถาบันก็มีโทษฐานกบฎ สมควรตายอยู่แล้ว

(คลิกอ่านทำไมทหารต้องฆ่าประชาชน)

ถามว่า มีคนญี่ปุ่นที่ไม่ศรัทธาองค์พระจักรพรรดิ มีหรือไม่ ?

ตอบว่า มี และมีมากด้วย แต่พวกเขาคิดว่า แม้จะไม่รักไม่ศรัทธา แต่เขาก็จะไม่ทำลาย เพราะนี่คือวิถีวัฒนธรรมที่งดงามของคนญี่ปุ่น ที่ต้องปกป้องรักษาไว้ เพราะนี่คือ วิถีวัฒนธรรมญี่ปุ่น รากเหง้าทางจิตวิญญาณชาวญี่ปุ่น

ก็ลองมีคนญี่ปุ่นออกมาคิดร้ายต่อสถาบันเหมือนกลุ่มคนไทยล้มเจ้ากระทำอยู่สิ  ผมฟันธงได้เลยว่า คนญี่ปุ่นที่คิดจะทำแบบนั้น ไม่สามารถอยู่ในแผ่นดินญี่ปุ่นได้อีกต่อไป แน่นอนครับ

นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ไม่มีใครกล้าล้มสถาบันจักรพรรดิมาจนวันนี้ !!

แนะนำอ่านบทความที่เข้าใจง่ายขึ้น เรือง หัวใจของการมีระเบียบวินัยของญี่ปุ่น


6 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ16 เมษายน, 2554 10:59

    คนไทยรักเงิน อำนาจยิ่งชีพ กากสวะของสังคมที่ใช้ประชาธิปไตยฟอก

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ20 สิงหาคม, 2554 19:58

    คนเราไม่ว่าจะเป็นชาติไหนก็ต่างก็มีดีมีชั่วปะปนกัน ญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ ก็ใช่ว่าจะดีอะไร สิ่งที่เขาดีเราก็ควรเอาอย่าง สิ่งที่เขาไม่ดีก็อย่าได้เอาอย่าง อย่าไปหลงเขาไปซะทุกอย่างเลย

    ตอบลบ
  3. คุณแค่อ่านบทความไม่กี่บท แล้วมาบอกว่า อย่าหลงไปซะทุกอย่างนั้น

    ไม่มีใครเขาหลงหรอกครับ

    ผมเขียนเรื่องในส่วนข้อดีของญี่ปุ่นให้คนไทยได้ดูเป็นตัวอย่างไว้ศึกษาอยู่แล้ว คุณอ่านแล้วแยกแยะไม่ออกเหรอครับ??

    คงเพราะคุณแยกแยะไม่ออก เลยคิดว่าคนอื่นเขาจะแยกแยะอะไรไม่ออกว่าสิ่งใดดี สิ่งใดดูไว้แต่อย่าเอาเยี่ยงอย่างเหมือนที่คุณเป็น

    คุณเคยรู้มั้ยครับว่า สงครามโลกครั้งที่2 มีส่วนผลักดันให้ญี่ปุ่นเจริญมาจนทุกวันนี้

    ผมแนะนำให้คุณไปอ่านเรื่อง "คุยเรื่องญี่ปุ่นบ้่างดีกว่า 1" และ "คุยเรื่องญี่ปุ่นบ้างดีกว่า 2"

    และ "คนไทยไม่มีวันเจริญเหมือนญี่ปุ่นได้"

    ทั้ง3บทความจะทำให้คุณรู้จักแยกแยะมากขึ้นครับ

    ถ้าคนญี่ปุ่นเขามัวจมแต่อดีตที่แสนขมขื่นจากสงครามโลก แบบที่คุณยกเอาเรื่องโบราณมาอ้าง คนญี่ปุ่นเขาจะไม่เจริญอย่างทุกวันนี้หรอกครับ

    ทุกชาติมีดีมีเลวทั้งนั้น พวกฝรั่งที่คนไทยเทิดทูนชอบไปศึกษานัก พวกนี้ในอดีตก็คือพวกกดขี่ทาส กอบโกยเอาเปรียบคนเอเซียและคนอาฟริกานะครับ

    ถึงญี่ปุ่นในอดีตจะโหดร้ายในสงครามโลก แต่นั่นคือสงครามครับ สงครามโหดร้ายเสมอ ไม่เลือกชนชาติหรอกครับ

    ตอบลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ14 ธันวาคม, 2556 11:35

    บูชิโด มันมีต้นกำเนิดจาก พุทธศาสนานิกายเซนไม่ใช่หรอครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ไม่ใช่ครับ บูชิโดคือลัทธิซามุไร เป็นลัทธิที่ยกย่ององค์จักรพรรดิเป็นเจ้านายสูงสุดครับ
      พุทธนิกายเซน เข้ามาเผยแพร่หลังลัทธิลูกพระอาทิตย์ หรือลัทธิซามุไร ครับ

      ลบ
    2. ลัทธิบูชิโด มาจาก ศาสนาชินโตครับ มีมาตั้งแต่หลายพันปีก่อนที่ศาสนาพุทธจะเข้ามาเผนแพร่ในญี่ปุ่นครับ

      ลบ

ถ้าแสดงความเห็นตรงช่องนี้ผมจะได้อ่านทุกความเห็นครับ แต่ถ้าความเห็นไม่ขึ้นอาจเพราะระบบรอตรวจสแปม ต้องรอ1-2วัน / ใหม่ เมืองเอก kaeake@ymail.com


ผู้ติดตาม