วันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2554

การบริหารน้ำในเขื่อนภูมิพลปี54ไม่ผิดพลาด






คุณผู้อ่านครับ ผมได้ตั้งกระทู้อธิบายเรื่องการบริหารน้ำในเขื่อนภูมิพลว่าไม่มีความผิดพลาด และได้ถกกับเสื้อแดง ซึ่งผมตอบได้ทุกประเด็น ในกระทู้ชื่อ มาดูกราฟเขื่อนภูมิพลอีกครั้ง!! ที่เว็บสนุก ถ้าสนใจลองคลิกไปอ่านดูนะครับ ผมตอบได้ทุกประเด็นที่พวกเสื้อแดงพยายามใส่ร้ายเขื่อน

เพราะพวกเสื้อแดงพยายามจะช่วยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ กล่าวคือ เพราะรัฐบาลยิ่งลักษณ์ล้มเหลวในการรับมือน้ำท่วม เพราะมัวแต่ยุ่งเรื่องแจกรถแจกบ้านอยู่ ไม่มาโฟกัสเรื่องน้ำท่วมตั้งแต่แรก ทั้งๆที่ภัยน้ำท่วมมีมาหลายเดือนแล้ว จนมาใกล้กรุงเทพฯนั่นแหล่ะ ถึงจะเพิ่งมาตั้งศปภ.ขึ้นมา

เมื่อรัฐบาลของเสื้อแดงบริหารจัดการผิดพลาด พวกเสื้อแดงก็เลยโบ้ยไปโทษว่า พวกอำมาตย์แกล้งกักน้ำไว้ทำลายรัฐบาลยิ่งลักษณ์

ซึ่งเจตนาพวกนี้เลวมากๆ เพราะอะไร?

ก็เพราะน้ำในเขื่อนสำคัญทุกเขื่อนในช่วงวิกฤติน้ำท่วม ในหลวงทรงเฝ้าดูสถานการณ์น้ำมาตลอดทุกวัน กรมชลประทานและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตได้มีการถวายรายงานปริมาณน้ำในเขื่อนมาตลอดตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นมา หลังจากที่มีสถานการณ์น้ำท่วมจากพายุลูกแรกหรือไห่หมา เข้าเมื่อเดือนมิถุนายน

การใส่ร้ายเรื่องเขื่อนกักน้ำ เป็นเพียงข้ออ้างเอาตัวรอดของพวกเสื้อแดงเพื่อช่วยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ให้พ้นผิด


------------------------------

อธิบายกราฟเขื่อนภูมิพลปี2554



เส้นสีชมพูเข้ม คือเส้นบอกระดับน้ำปี54 ของเขื่อนภูมิพล ให้สังเกตตั้งแต่เดือนมกราคม54 น้ำในเขื่อนภูมิพลต่ำกว่าทุกปี นั่นเพราะภัยแล้งปี54 มาเร็วกว่าปกติ

จนกระทั่งเดือนกุมภาพันธฺ54 มีข่าวว่ากรมชลประทานต้องประกาศเขตภัยพิบัติแล้งวิกฤติ ห้ามทำนาปรังรอบ2 อ่านข่าวคลิกที่นี่

ดูเจาะข่าวเด่น ท่านสมิทธิ พูดเรื่องภัยแล้งกุมภาพันธ์54  และพูดถึงความวิกฤติผิดฤดูกาลความยากลำบากในการทำนายสภาวะอากาศของกรมอุตุนิยม จนแม้กระทั่งท่านสมิทธิยังทำนายสภาวะอากาศปี54นี้ผิดพลาด เพราะท่านทำนายว่าปีนี้จะแล้งยาวนาน ท่านคาดว่าปี54นี้จะแล้งจัด น้ำจะไม่ท่วม!! ลองชมสิครับ

แต่คุณสมิทธิ ก็บอกไว้ตั้งแต้ต้นแล้วว่า การทำนายไม่มีอะไรที่ถูกต้องแน่นอนหรอก



ต่อมาให้ดูเส้นกราฟในเดือนมีนาคม54 ปริมาณน้ำก็ยังถือว่าน้อยกว่าปีก่อนๆ เพราะปริมาณน้ำค่อยๆลดลงมาตั้งแต่เดือนมกราคม54 เนื่องจากปัญหาภัยแล้ง

ต่อมาให้ดูที่เดือนพฤษภาคม54 ซึ่งเป็นเดือนสุดท้าย ก่อนที่จะมีพายุเข้าลูกแรกในเดือนมิถุนายน ปริมาณน้ำในเขื่อนของเดือนพฤษภาคม54 ก็ยังน้อยกว่าปี 48 49 50 51 และมากกว่าปี52นิดหน่อย

มีคำถามว่า แล้วทำไมน้ำในปี53 ช่วงมีนาคม-พฤษภาคม ถึงได้ต่ำกว่าทุกปี?

คำตอบคือ ปี53 โดยเฉพาะเดือนมีนาคม53 เป็นปีที่มีภัยแล้งรุนแรงที่สุดในรอบ5ปี (อ่านข่าวภัยแล้ง53ที่สุดในรอบ5ปี คลิกที่นี่)

เมื่อภัยแล้งปี53 รุนแรง จึงทำให้ปริมาณน้ำในเขื่อนจึงน้อยกว่าทุกปีครับ

แต่ความเป็นจริง ปี54 ฝนกลับมาเร็วมาที่คาด เพราะอิทธิพลความกดอากาศต่ำ ก็ทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ทางภาคเหนือตั้งแต่เดือนพฤษภาคมแล้ว  ในวันที่10พ.ค.54 ตามรูปนี้

สีเหลืองคือพื้นที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย สีฟ้าคือพื้นที่เตือนภัย

ข้อมูลแผนที่จาก www.thaiflood.com/

ซึ่งจะเห็นมีหลายจังหวัดที่อยู่ใต้เขื่อนภูมิพลเริ่มมีสภาวะน้ำท่วมแล้ว เช่นจังหวัดตากที่มีเขื่อนภูมิพล หรืออุตรดิตถ์ที่มีเขื่อนสิริกิติ์ เป็นต้น ทำให้เขื่อนไม่สามารถระบายน้ำได้มากเท่าที่ควร เพราะไม่ต้องการไปซ้ำเติมจังหวัดที่อยู่ใต้เขื่อน


-------------------------------------

พายุเข้าลูกแรกเดือนมิถุนายน54

เดือนมิถุนายน54 กราฟปริมาณน้ำในเขื่อนเริ่มพุ่งขึ้น นั่นเพราะอิทธิพลของพายุไหหม่า เข้าในเดือนมิถุนายน ซึ่งเดือนนี้จังหวัดน่านน้ำท่วมหนักที่สุดในรอบหลายสิบปี (คลิกอ่านข่าวอุทกภัยจังหวัดน่าน)

และอิทธิพลพายุนกเต็น เข้าซ้ำอีกในเดือนกรกฎาคม แถมยังมีอิทธิพลความกดอากาศต่ำกำลังสูง ทำให้ฝนตกมากแบบผิดปกติ

ซึ่งฝนตกมากทั้งเหนือเขื่อนและใต้เขื่อนอย่างมากผิดปกติ จึงเริ่มมีภาวะน้ำท่วมทั้งเหนือและใต้เขื่อน ซึ่งเขื่อนเองก็ได้ช่วยชะลอน้ำไว้ เพื่อไม่ต้องการไปซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชนซ้ำอีก จึงมีการปล่อยน้ำออกน้อยกว่าน้ำเข้า

คลิกอ่านข่าว พายุ “ไหหม่า”ทำความเสียหาย 4 จังหวัด เดือดร้อนร่วมแสนคน

ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม มีชาวนาในหลายจังหวัดทางภาคเหนือตอนล่าง เช่นชาวนาสุโขทัย พิจิตร และพิษณุโลกต้องเกี่ยวข้าวในน้ำท่วมกันแล้ว

พอหมดพายุไหหม่าในเดือนมิถุนายนแล้ว ก็ยังมีอิทธิพลของพายุนกเต็นยังมาซ้ำอีกในปลายเดือนเดือนกรกฎาคม ซึ่งทำให้น้ำท่วมในภาคเหนือและภาคอีสานก็น้ำท่วมหนักหลายจังหวัด

คลิกอ่านข่าวพายุนกเต็นถล่มไทย

อิทธิพลจากพายุนกเต็นรุนแรงมาก ทำให้น้ำท่วมหนักหลายจังหวัดทั้งภาคเหนือ ภาคกลางล่มน้ำเจ้าพระยา และภาคอีสานหลายจังหวัด ต่อเนื่องมาในเดือนสิงหาคม มีผู้เสียชีวิตหลายราย ตามคลิปข่าวนี้



ซึ่งจากคลิปข่าว ผลกระทบของพายุนกเต็น ยังกระทบมาถึงกรุงเทพฯเช่นกัน ในคลิปช่วงท้าย ผู้ว่าฯกทม.ยังออกมาให้สัมภาษณ์ถึงการรับมือน้ำลูกใหญ่จากนกเต็น

ซึ่งหลังจากพายุนกเต็นเข้าไทย ทำให้จังหวัดในลุ่มน้ำยมหลายจังหวัด ซึ่งไม่มีเขื่อนรองรับน้ำ เกิดน้ำท่วมหนัก จนประชาชนออกมาเรียกร้องให้สร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นเพื่อรับแม่น้ำยม

ให้สังเกตว่า เส้นกราฟเดือนมิถุนายน-สิงหาคม เริ่มมีแนวโน้มสูงชันมากขึ้น นั่นเพราะน้ำในเขื่อนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่เขื่อนก็พยายามปล่อยน้ำออกให้น้อยกว่าปริมาณน้ำที่เข้าเขื่อน เพือไม่ต้องการซ้ำเติมประชาชนใต้เขื่อน และยังมีชาวนาในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาอีกจำนวนมากที่ยังรอเก็บเกี่ยวข้าว

เขื่อนก็มีเจตนาดี จึงช่วยชะลอน้ำไม้ให้ทำลายนาข้าว แต่พวกที่มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ ก็พูดชุ่ยๆง่ายๆว่า ทำไมไม่รีบพร่องน้ำ?

ให้สังเกตว่า น้ำในเขื่อนภูมิพลเริ่มสูงกว่าทุกปี ในเดือนสิงหาคมต่อกันยายน นั่นเพราะมีพายุเข้ามาแล้ว2ลูก

----------------------

เดือนกันยายน54 อิทธิพลพายุเข้าไทยอีก2ลูก

นอกจากอิทธิพลพายุแล้ว อิทธิพลความกดอากาศต่ำในปี54 ก็ทำให้เกิดฝนตกมากแบบผิดปกติ ซึ่งคุณผู้อ่านสามารถอ่านรายงานสภาวะอากาศผิดปกติจากรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยาได้ คลิกอ่านรายงานสภาวะอากาศปี54

เดือนสิงหาคมน้ำท่วมจากอิทธิพลพายุ2ลูกแรก ยังไม่ทันหมด ในเดือนกันยายน54 ก็โดนอิทธิพลพายุเข้าอีก2ลูก คือพายุไห่ถาง และเนสาด

ซึ่งเมื่อดูจากกราฟปริมาณน้ำในเดือนสิงหาคมและกันยายน54 เราจะเป็นว่าสูงชันที่สุด นั่นเพราะปริมาณน้ำเข้าเขื่อนมากมหาศาลแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน อีกทั้งพื้นที่ใต้เขื่อนก็ท่วมหนักมาก เขื่อนพยายามชะลอน้ำให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพื่อก็หวังว่าอีกไม่นานปริมาณเข้าเขือนจะน้อยลงโดยเร็วจนไม่ล้นเขื่อน

อีกเหตุผลที่ทำให้น้ำเข้าเขื่อนเร็วและมากผิดปกติ คือการที่ไทยขาดป่าซับน้ำและชะลอน้ำ ทำให้น้ำเต็มเขื่อนอย่างรวดเร็ว


--------------------

เดือนตุลาคม54 ก็ยังได้รับอิทธิพลจากพายุนาลเก แม้ไม่มากเท่าพายุลูกที่ผ่านๆมาก็ตาม แต่ก็เป็นผลทำให้ยังมีฝนตกอย่างต่อเนื่องเหนือเขื่อน จึงทำให้มีน้ำเข้าเขื่อนปริมาณมากต่อไป จนเขื่อนได้ล้นในที่สุด เพราะที่ผ่านมาพยายามปล่อยน้ำออกให้น้อยกว่าน้ำที่เข้ามาตลอด

กราฟในเดือนตุลาคมปี54 พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้้ง จึงจำเป็นต้องปล่อยน้ำออกทางสปิลเวย์ หรือทางระบายน้ำล้น

จากรายการคมชัดลึก ผู้อำนวยการเขื่อนภูมิพลให้สัมภาษณ์กับคุณจอมขวัญว่า ช่วงเดือนกันยายนต่อตุลาตม น้ำเข้าเขื่อนเฉลี่ยมากถึงวันละ290ล้านลบ.ม. แต่เขื่อนปล่อยน้ำมากที่สุดได้เพียง 100ล้านลบ.ม.เท่านั้น

ซึ่งพอถึงเดือนตุลาคม รัฐบาลยิ่งลักษณ์เพิ่งจะมารู้ตัวว่าวิกฤติแล้ว เพิ่งจะเลิกโฟกัสเรื่องแจกรถแจกบ้าน หันมาตั้งศปภ.ดอนเมือง

-------------------------------

สรุปว่าปริมาณน้ำในเขื่อนภูมิพลมากขึ้นอย่างสมเหตุสมผล

จากที่ผมอธิบายมา การที่น้ำในเขื่อนปี54 พุ่งขึ้นสูงสอดรับกับการเข้ามาของพายุทุกครั้ง จึงไม่ใช่เป็นเรื่องผิดปกติแต่อย่างใดที่น้ำในเขื่อนจะมีมาก

การบริหารจัดการเขื่อนนั้นถูกต้องแล้ว เพราะในช่วงเดือนเมษายน54 ตอนนั้นยังแล้งจัด ไม่มีใครรู้หรอกครับว่า อีกแค่2เดือนจะมีพายุเข้าติดๆกันมากขนาดนี้ ตอนนั้นทุกคนห่วงว่าภัยแล้งจะกินเวลายาวนาน ปี54มีจังหวัดที่ประสบภัยพิบัติแล้งมากถึง45จังหวัด

ตรงจุดนี้ ผมอยากให้คุณผู้อ่านย้อนกลับไปอ่าน บทความเก่าเรื่อง การบริหารจัดการน้ำในเขื่อนไม่ได้ผิดพลาดตอน1 ของผม ซึ่งผมได้สรุปสภาวะน้ำในเขื่อนสำคัญเอาไว้

โดยเฉพาะกรณีศึกษาของ เขื่อนป่าสักเพราะจากที่เคยมีน้ำในเขื่อนแค่7% กลับล้นเขื่อนได้ในเวลาแค่3เดือนในปี53 จนน้ำท่วมหนักลพบุรี

----------------------------------

ปีนี้เขื่อนลำตะคอง ก็เต็มเกินความจุ

ถ้าคุณผู้อ่านจำได้ ปีที่แล้วน้ำท่วมโคราชมากที่สุดแบบไม่เคยมีมาก่อน เพราะเขื่อนลำตะคองล้น สาเหตุก็คือมีการบุกรุกป่าสร้างรีสอร์ทกันเยอะ ทำให้ไม่มีป่าซับน้ำ ชะลอน้ำ ทำให้น้ำล้นเขื่อนอย่างรวดเร็ว

และปี54นี้เขื่อนลำตะคองก็เต็มความจุเขื่อนอีกครั้งแล้ว แต่ได้เสริมสปิลเวย์เพื่อรับน้ำเพิ่มมากขึ้น ซึ่งถ้าล้นเขื่อนลำตะคองอีก โคราชก็จะท่วมหนักอีก

ถามว่า ทำไมเขื่อนลำตะคองไม่ทยอยปล่อยน้ำออกมา ทำไมถึงยังพยายามกักน้ำเอาไว้?

คำตอบคือ ตอนนี้สภาพแม่น้ำลำคลองของโคราชก็แทบล้นตลิ่งอยู่แล้ว และชาวนาก็กำลังจะเก็บเกี่ยวข้าว เขื่อนลำตะคองจึงพยายามชะลอน้ำให้มากที่สุด เพื่อหวังให้ชาวนาเก็บเกี่ยวข้าวให้เสร็จก่อน เพราะถ้าปล่อยน้ำช่วงนี้ ก็คือท่วมนาแน่ๆ

ทางเขื่อนลำตะคอง หวังว่าหน้าหนาวจะมา และฝนน้อยลง เขื่อนก็จะผ่านสภาพวิกฤติไปได้ครับ

แต่สมมุติถ้าเขื่อนลำตะคองล้นอีก จนน้ำท่วม เดี๋ยวก็จะมีคนออกมาด่าอีกว่า ทำไมเขื่อนไม่รีบพร่องน้ำ!!

พวกมือไม่พายเอาเท้าราน้ำพูดน่ะมันง่าย เพราะพูดแบบไม่สนใจสภาพแวดล้อมเลย

ปีนี้เป็นปีที่มีน้ำมากที่สุด เขื่อนหลายเขื่อนในอีสานก็เต็มจนล้น

คลิกอ่านข่าว “เขื่อนลำตะคอง” เสริมสปิลล์เวย์เพิ่มจุ 353 ล้านลบ.ม. – เตือนล้นอีกท่วมโคราชรุนแรง ! (14ต.ค.54)

คลิกอ่านข่าว "น้ำเขื่อนใหญ่ยังวิกฤต มากที่สุดรอบ50ปี" โดยเฉพาะทางอีสาน (16ต.ค.54)

------------------------

ปี53 น้ำก็ท่วมหนักที่สุด แต่ไม่มีใครบอกว่าเขื่อนกักน้ำ?

ปี53 น้ำท่วมแทบทุกภาค ทั้งเหนือ ใต้ อีสาน กลาง โดนหนักทั้งหมด

แต่เพราะ ปีที่แล้วไม่ใช่รัฐบาลที่พวกเขาเชียร์ เขาเลยไม่ออกมาโทษเขื่อนว่ากักน้ำไว้แกล้งรัฐบาล แต่ปีนี้รัฐบาลที่พวกเขาเชียร์แก้ปัญหาไม่ได้ เลยโยนความผิดไปให้เขื่อน

ทั้งๆที่ความจริงเขื่อนไม่ได้มีหน้าที่หลักในการป้องกันน้ำท่วม ถ้าคุณผู้อ่านไม่เข้าใจว่า ทำไมผมถึงบอกว่า หน้าที่หลักของเขื่อนไม่ใช่การป้องกันน้ำท่วม ก็ให้ย้อนกลับไปอ่านบทความเรื่อง การบริหารจัดการน้ำในเขื่อนไม่ได้ผิดพลาดตอน2 ซึ่งในบทความนี้มีคลิปรายการคมชัดลึก ตอนเขื่อนภูมิพลครับ

ซึ่งมีช่วงหนึ่งของรายการ ที่นายกเทศบาลบ้านตาก จังหวัดตาก ได้บอกว่า น้ำจากแม่น้ำวังมาแรง ส่วนจากแม่น้ำปิงไม่ค่อยเท่าไหร่

ซึ่งอำเภอบ้านตาก เป็นสถานที่ๆแม่น้ำวังกับแม่น้ำปิงไหลมาบรรจบกันที่นี่ ซึ่งไม่เคยมีน้ำท่วมที่นี่มานานแล้ว เพิ่งจะมีปีนี้ที่ท่วมมากที่สุด

แม่น้ำวังมีเขื่อนขนาดเล็ก2เขื่อนอยู่ในจังหวัดลำปาง ซึ่งเป็นเสมือนฝายขนาดใหญ่ช่วยชะลอน้ำเท่านั้น คือเขื่อนกิ่วลม และเขื่อนกิ่วคอหมา ซึ่งมีความจุเพียงเขื่อนละ100กว่าล้านลบ.ม.เท่านั้น

ทั้งสองเขื่อนจึงแทบไม่สามารถลดความรุนแรงของปริมาณน้ำมหาศาลในปีนี้ได้เท่าไหร่เลยครับ ทำให้ปี54 ลำปางน้ำท่วมหนักที่สุดในรอบ30ปี

คลิกอ่านข่าว ลำปางน้ำท่วมหนักที่สุดในรอบ30ปี


ให้ดูคลิปรายการคมชัดลึก ช่วงที่คุณจอมขวัญไปพูดคุยกับนายกเทศบาลบ้านตาก จังหวัดตาก

นายกเทศบาลบ้านตาก ก็พูดเองว่า น้ำที่ไหลมาจากแม่น้ำวังไหลมาแรงมาก กว่าแม่น้ำปิง

ท่านนายกเทศบาลบ้านตากพูดว่า "น้ำปิงยังไม่เท่าไหร่ แต่มีน้ำวังมาสมทบครับ" ซึ่งท่านบอกเองว่า แม่น้ำวังจากกิ่วลมก็หนักครับ

ดูคลิปนี้นะครับ ตั้งแต่นาทีที่ 2.20เป็นต้นไป


-----------------------------

ทุกประเทศในภูมิภาคนี้ก็ท่วมหนักเช่นกัน

ทั้งเวียตนาม เขมร ลาว ก็ท่วมหนักที่สุดในรอบหลายสิบปีเช่นกัน

คลิกอ่านข่าว ลาวท่วมสาหัส 4 ระลอก ตาย 30 อีก 430,000 คนเดือดร้อน

คลิปข่าว น้ำท่วมหนักที่เวียตนาม และกัมพูชา

------------------------------------- ฉะนั้น ผมจึงอยากบอกว่า การกล่าวหาของพวกเสื้อแดง เป็นการกล่าวหาที่ชุ่ยมากๆครับ ที่จริงผมไม่อยากเขียนบทความตอนนี้เลย แต่กระแสยุยงปั่นข่าวลือเรื่องเขื่อนกักน้ำแกล้งรัฐบาลยิ่งลักษณ์มันมากเหลือเกิน ผมเลยจำเป็นต้องเขียนบทความที่ยาวยืดเช่นนี้ ก่อนจบ ผมอยากให้ดูกราฟปริมาณน้ำฝนในปี54 ถึงช่วงเดือนสิงหาคม ซึ่งปี54มากที่สุดกว่าหลายปีที่ผ่านมา (น้ำฝนปี54 มากกว่าปี38 และปี49 แต่ที่ผิดปกติคือ ฝนมาเน้นตกหนักแบบผิดปกติเป็นประวัติการณ์ในเดือนสิงหาคมและกันยายน คลิกอ่านข่าวน้ำฝนปี54สูงกว่าปี38 49) ข้อมูลกราฟเปรียบเทียบปริมาณฝนจากเว็บ http://www2.oae.go.th/mis/Forecast/02_journal/dike.pdf ผมขอสรุปว่า การที่จะดูว่าน้ำในเขื่อนผิดปกติหรือไม่ จะดูแค่ปริมาณน้ำในเขื่อนอย่างเดียวไม่ได้ ต้องดูข้อมูลหลายๆอย่างประกอบกัน เช่นปริมาณฝน จำนวนพายุ และภาวะแห้งแล้งของแต่ละปีมาประกอบด้วย สุดท้ายขอเชิญคุณผู้อ่านของผม ไปดูคลิปสัมภาษณ์อธิบดีกรมชลประทานเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมปี54 และการบริหารจัดการเขื่อนด้วยครับ คลิกดูคลิปที่นี่!! แต่ปัญหาของกรมชลประทาน ก็คือ การเปิดปิดประตูน้ำในแม่น้ำและคลองต่างๆ ที่ไม่สามารถทำได้อย่างเป็นระบบ เพราะมีปัญหากับคนในพื้นที่ เพราะหลายพื้นที่ก็ไม่ยอมให้เปิดประตูระบายน้ำ เมื่อแต่ละพื้นที่ไม่ยอมให้ระบายน้ำ จึงทำให้น้ำไม่มีทางไป เลยทำให้ปัญหาน้ำไม่มีทางออกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเอาไม่อยู่!! คลิกอ่าน สึนามิน้ำจืดปี54ต่างกับน้ำท่วม38อย่างไร? (พร้อมดูคลิปย้อนหลัง กรมชลประทานรับมือพายุนกเต็นอย่างไร)

8 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ19 ตุลาคม, 2554 00:11

    ไอ้พวกควายแดงแม่งก็โทษอำมาตย์ตลอดนะแหละคุณเอก ไม่ว่าแล้งหรือฝน
    เทวดาถึงต้องล้างไอ้พวกนี้ไง....เสนียดแผ่นดิน....สงสารก็แต่ในหลวง
    ทรงชราภาพและทรงพระประชวร(เพราะทรงงานหนักมาตลอด)แม่งยังกุเรื่อง
    ด่าพระองค์ท่านอยู่ตลอด สาธุอย่าให้พวกมันตายดีเลย

    ตอบลบ
  2. ชอบ ครับเดี๋ยวแวะมาอ่านบ่อยๆกำลังเกาะติดสถานนการณ์อยู่ครับ

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ22 ตุลาคม, 2554 08:00

    จะอธิบายยังไงก็ได้ เพื่อสนับสนุนความเห็นของตัวเอง อยู่ที่ว่าคนเขาจะเชื่อรึเปล่า
    คุณไม่ใช่พระเจ้า ความเห็นของคุณไม่ใช่การันตีว่าต้องถูก
    คุณอ้างว่าคนอื่นไม่ฟังเหตุผลคุณ คุณก็ไม่ฟังเหตุผลคนอื่นเช่นกัน
    คุณว่าเหตุผลคุณมันเจ๋ง ถูกต้อง ความเห็นอีกฝ่ายโง่
    อีกฝ่ายเขาก็คิดได้เช่นกัน

    ตอบลบ
  4. ^

    ^

    ถ้าผมอธิบายโดยไม่เอาข้อมูลมาอ้าง ก็คงไม่มีใครเชื่อผมหรอกครับ

    และไม่บังคับว่าต้องเชื่อผมครับ

    เดี๋ยวบทความวันเสาร์ที่22 ผมจะเขียน อีกสาเหตุนึงที่ทำให้น้ำท่วม อย่าลืมมาอ่านนะครับ^^

    ตอบลบ
  5. ไม่ระบุชื่อ26 ตุลาคม, 2554 11:34

    ก็แจ้งความดำเนินคดีข้าราชการที่รับผิดชอบไว้ก่อนครับเพราะคนตายไป300แระ ทรัพย์สินเสียหายสามแสนกว่าล้านแระ ผิดถูกขึ้นอยู่กะพยานหลักฐานครับ หมดเรื่อง ไม่ต้องมาเถียงกันผมน่ะแจ้งแล้วล่ะไม่นานคงเป็นข่าวแหละ ต้องมีคนรับผิดชอบไม่ใช่ปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ

    ตอบลบ
  6. ขอบพระคุณมากค่ะ สำหรับข้อมูลนี้ คือพอดีหนูต้องเอาข้อมูลทั้งหมดนี้ไปวิเคราะห์ และหาวิธีการแก้ไขปัญหา ทุกสิ่งทุกอย่าง ย่อมมีที่มา การมีข้อมูลและมีเหตุผล มายืนยัน นั้น ย่อมน่าเชื่อถือกว่าพูดลอยๆ คนไม่ยอมรับ ต่อให้เอาช้างมาฉุดก้อไม่ยอมรับ หนูในฐานะ นักศึกษา วิศวกรรมธรณี อุทกภาค ขอขอบพระคุณเจ้าของบล็อคเป็นอย่างยิ่งค่ะ ^^ หามานาน เพิ่งเจอ

    ตอบลบ
  7. ไม่ระบุชื่อ26 ตุลาคม, 2554 23:18

    เมื่อเธอบอกว่า...จะขึ้นค่าแรง แรงงานก็ตกงานทันที
    เมื่อเธอบอกว่า...รถคันแรก... อุตสาหกรรมยานยนต์จมน้ำทันที
    เมื่อเธอบอกว่า...บ้านหลังแรก คนหลายหมื่นไม่มีบ้านจะอยู่
    เมื่อเธอบอกว่า...จะเปิดจำนำข้าว นาแทบทุกนา...จมอยู่บาดาล
    เมื่อเธอบอกว่า...จะแจกTabletเด็กป.1 ท่านศาสดาJOBก็จากไปอย่างไม่หวนกลับ เมื่อเธอบอกว่า...ลาก่อนน้ำท่วม...เราได้น้ำท่วม (บนป้ายหาเสียงของเธอ)
    เมื่อเธอบอกว่า...เอาอยู่ น้ำก็แตกทันที

    ตอบลบ
  8. ไม่ระบุชื่อ29 ตุลาคม, 2554 18:50

    ไม่อ่านแล้ว -_-!!

    ตอบลบ

ถ้าแสดงความเห็นตรงช่องนี้ผมจะได้อ่านทุกความเห็นครับ แต่ถ้าความเห็นไม่ขึ้นอาจเพราะระบบรอตรวจสแปม ต้องรอ1-2วัน / ใหม่ เมืองเอก kaeake@ymail.com


ผู้ติดตาม