น้ำท่วมใหญ่ เหตุอาเพศที่คนไทยก่อเอง!!

ต้องขออภัยคุณผู้อ่านบางท่าน ที่อาจไม่เห็นผมเขียนบล็อคมาหลายวัน สาเหตุเพราะ ช่วงนี้ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงเท่าที่ควร เพราะพักผ่อนน้อย

ช่วง1อาทิตย์ที่ผมไม่ได้เขียนบล็อค ผมมักจะสับสนและจับต้นชนปลายไม่ถูกว่า จะเขียนประเด็นใดดี แถมกำลังลุ้นน้ำท่วมจะมาถึงบ้านผมหรือไม่ 555

------------------

ปีนี้น้ำท่วมหนักที่สุดในประวัติศาสตร์ ในรอบ 100 ปี ที่น้ำมากที่สุด ไม่มีเคยมีสถานการณ์หนักขนาดน้ำจะล้นแทบทุกเขื่อนแบบนี้มาก่อน

เชื่อว่า ทุกท่านคงพอจะทราบสาเหตุน้ำท่วมกันอยู่แล้ว ผมขอสรุปสั้นๆสักนิดตามนี้

1. ตัดไม้ทำลายป่า ทำให้ขาดป่าซับน้ำ ป่าชลอน้ำ ขุดรากไม้มาทำเฟอร์นิเจอร์ จนดินพังถล่มได้ง่าย

2. ไม่เห็นความสำคัญของแม่น้ำ ลำคลองเท่าที่ควรทำ ถมคลองรุกแม่น้ำ สร้างสิ่งปลูกสร้างมากมายขวางทางน้ำ

3. ถนนแทบทุกสายกลายเป็นตัวขวางการไหลของน้ำ แถมชอบถมคลองมาสร้างถนนกัน ยิ่งสร้างถนนใหม่ถนนก็ยิ่งสูงขึ้น เมื่อยิ่งสูงก็ยิ่งขวางการไหลของน้ำ ถนนยิ่งสูงก็ยิ่งยกระดับน้ำให้สูงตาม ทำให้น้ำยิ่งมีแรงดันมากขึ้น!!

4. ไม่มีการวางผังเมืองให้สอดคล้องกับการระบายน้ำ สร้างเมืองไม่เป็นระเบียบทำให้การไหลของน้ำไม่เป็นระเบียบไปด้วย

5. จิตสำนักสาธารณะคนไทยน้อยลงๆๆๆๆ เพราะแม้แต่เรื่องเล็กน้อยๆเช่นทิ้งขยะลงแม่น้ำลำคลอง ท่อระบายน้ำ ยังมีให้เห็นอยู่มากมาย ต่อให้มีอุโมงค์ยักษ์ระบายน้ำ แต่ถ้าท่อมันตันเพราะขยะ มันก็ไม่มีประโยชน์

สาเหตุคงมีมากกว่านี้ แต่สุดท้ายบทสรุปก็คือ เกิดจากน้ำมือคนไทยทำเองนั่นแหล่ะคือประเด็นสำคัญ

--------------------------

NGO อ่านว่าโง่ หรือแกล้งโง้!!

อาจจะบอกว่า เพราะสภาวะโลกร้อนทำให้เกิดอากาศวิปริตก็ได้ แต่เชื่อผมเถอะครับ ถ้าประเทศไทยยังมีป่าไม้สมบูรณ์ แม่น้ำลำคลองยังไม่ถูกรุกล้ำโดนถม น้ำท่วมก็จะไม่สาหัสสากรรจ์เท่านี้แน่นอน

เมื่อก่อนอาจมีพวกอนุรักษ์ออกมาต่อต้านการสร้างเขื่อน เพราะจะทำลายสิ่งแวดล้อม ซึ่งผมก็เชื่อว่า นั่นก็เป็นความคิดที่ถูกต้อง

แต่นักอนุรักษ์ต้านการสร้างเขื่อนอย่างแข็งขันราวกับเขื่อนคือซาตานที่น่ากลัว แต่นักอนุรักษ์กลับล้มเหลวในการอนุรักษ์ป่า เพราะท่าทีในการต่อต้านคนตัดไม้ทำลายป่าของนักอนุรักษ์ หรือNGO กลับไม่แข็งขันเท่าเวลาออกไปต่อต้านเขื่อนเลย

สุดท้ายป่าไม้หมดไป โดยแทบไม่เคยมีนักอนุรักษ์ออกมาเรียกร้องให้ลงโทษพวกตัดไม้ทำลายป่าให้หนัก! แต่กลับต่อต้านการสร้างเขื่อนอย่างหนัก!?

ผมเห็นด้วยว่าป่าไม้สำคัญกว่าเขื่อน แต่เมื่อไม่มีป่าไม้แล้ว ทีนี้เราจะเอาอะไรมาซับน้ำชลอน้ำล่ะ?

ปลูกป่าไปอีก 200 ปี ก็ยังไม่มีทางได้ป่าคืนกลับมาเหมือนเดิมหรอก ถ้าตราบใดจิตสำนึกสาธาณะคนไทยส่วนใหญ่ยังต่ำลงเรื่อยๆ

ไม่ใช่ทุกที่จะสร้างเขื่อนได้ แต่สถานที่ที่จะใช้ปลูกป่า ถ้าจะปลูกกันจริงๆจังๆ มีที่มากมายที่ให้ไปปลูก

หากวันนี้ไม่มีเขื่อนหลายแห่งช่วยชลอน้ำเอาไว้ ป่านนี้กรุงเทพฯก็กลายเป็นเมืองบาดาลยิ่งกว่าอยุธยาแล้ว เพราะกรุงเทพฯต่ำกว่าน้ำทะเลมากกว่า

สำนักงานของพวกนักอนุรักษ์ก็อยู่ในกรุงเทพฯ รอใช้ประโยชน์จากเขื่อนที่พวกตัวเองเกลียดนั่นแหล่ะ เคยมีผู้ใหญ่ท่านนึงเล่าให้ผมฟังว่า พวกนักอนุรักษ์ต่อต้านเขื่อน หรือต่อต้านโน่นต่อต้านนี่จะได้รับเงินอุดหนุนจากสิงคโปร์ เพื่อขัดขวางความเจริญของไทยทุกอย่าง  เพื่อที่สิงคโปร์เข้ามากอบโกยในแผ่นดินไทยได้ง่ายขึ้น

เพราะสิงคโปร์ใช้เงินซื้อทุกอย่างได้จากคนไทยที่เห็นแก่เงิน ถ้าคนไทยหายจน เจริญขึ้น ฉลาดขึ้น สิงคโปร์ก็จะลำบาก

คลิกอ่านเรื่อง ความสัมพันธ์เชิงลึกระหว่างสิงคโปร์กับนักการเมืองไทย อ่านบทความนี้แล้วคุณจะเข้าใจในสิ่งที่ผมเขียนมากขึ้น

วันนี้น้ำมากมหาศาล เขื่อนล้น ประชาชนคนไทยทุกข์ที่สุด ผมเห็นแล้วน้ำตาจะไหลเพราะความสงสาร


--------------------------------

เมืองใดไร้ธรรมอำไพ เมืองนั้นบรรลัยแน่นอน

ย้อนกลับไปสักก่อนปี44 คนไทยแม้จะต่างความคิด ก็ไม่เคยแตกแยกมากมายเท่าทุกวันนี้ ถึงจะจนจะทุกข์อย่างไร เราก็อยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ

ปัจจุบันจากผลสำรวจหลายสำนักบอกว่า คนไทยยอมรับคนโกงได้ ถ้าพวกเขาได้ผลประโยชน์ด้วย

เด็กไทยวันนี้เห็นว่าการโกงเป็นเรื่องธรรมดา ถ้ามีโอกาสโกงโดยที่ไม่มีใครจับได้ ก็จะทำและไม่รู้สึกผิดแต่อย่างใด

ความคิดเช่นนี้นี่แหล่ะ ที่เขาเรียกว่า ศีลธรรมในใจคนไทยเริ่มเสื่อมลง

เมื่อคนส่วนใหญ่ เห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตนมากกว่าผลประโยชน์ส่วนรวม

มันก็ทำให้เกิดเหตุอาเพศกับบ้านเมืองขึ้น ดินฟ้าอากาศวิปริตผิดฤดู ไอ้ที่ควรร้อนกลับหนาว ไอ้ที่ควรหนาวกลับร้อน เกิดฝนห่าเหมือนไล่ล้างความชั่วให้ไหลลงทะเล

ฤาฟ้าดินลงโทษ เพื่อจะให้คนได้รู้สึกสำนึก

หากคนไทยยังไม่สำนึกหรือคิดได้ ก็ยากที่จะพ้นภัยพิบัติ

-------------------

ก่อนจบ ผมขอยกเรื่องนิทานฝรั่งล้อเลียนคนไทย ซึ่งมีการส่งฟอร์เวิร์ดเมล์

เรื่อง ประเทศไทยดีทุกอย่าง เสียอย่างเดียวที่มี....?!

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว เมื่อครั้งที่พระเจ้าสร้างโลก พระองค์มีถุงหนังใบใหญ่เอาไว้ใส่ ของวิเศษต่างๆ

พระองค์เริ่มต้นด้วยการ

สร้างมหาสมุทร ทั้ง7 โดยการวางของวิเศษของพระเจ้า
พระองค์จะต้องวางทั้งของดีและของไม่ดี คู่กันไป
เพื่อไม่ให้ประเทศหนึ่งประเทศใด สมบูรณ์ไปกว่าประเทศอื่นๆ

พระเจ้าทรง เอาเทือกเขาร็อกกี้ น้ำตกไนแองการ่า วางไว้ให้อเมริกา แล้วก็เอาทะเลทรายอริโซน่า กับพายุทอนาโดวางไว้ด้วย

เอาป่าอเมซอนวางไว้ให้บราซิล ทรงเอาไข้ป่า วางไว้ให้ด้วย

เอาขั้วแม่เหล็กโลกวางไว้ให้แคนาดา แต่ก็ทรงเอาความหนาวเย็นวางไว้ให้
เอาเทือกเขาหิมาลัยให้ธิเบตกับเนปาล เพื่อเป็นปราการกั้นข้าศึก
แต่ก็เอาความเบาบางของอากาศ และความแห้งแล้งไว้ให้ด้วย

ทุกประเทศจะได้ของคู่กันแบบนี้ ทั้งหมด จึงไม่มีประเทศใดน้อยหน้ากว่ากัน

คราวนี้ พระองค์ทรงลืมประเทศรูปขวานเล็กๆ ทางแหลมอินโดจีน ทรงสะพายถุงวิเศษ แล้วก้าวข้ามเขาหิมาลัยไป

แต่ด้วยความที่เขาสูงมาก เกี่ยวถุงของพระเจ้าขาด ข้าวของที่ดีๆที่เตรียมเอาไว้ให้ประเทศอื่นๆ

เช่น ชายหาดสวยๆ ผืนดินอุดมสมบูรณ์ ศิลปะวัฒนธรรมดีๆ อาหารอร่อยที่สุดในโลก ดอกไม้ ผลไม้ ชายทะเล ก็เทไปกองรวมกันที่ประเทศไทยหมด

ว้า!! แย่แล้ว พระเจ้า ทรงคิด ประเทศนี้ท่าทางต้องเจริญกว่าประเทศอื่นๆทั้งหมดแน่นอน พระเจ้าจึงทรงมองหาภัยธรรมชาติที่จะมาถ่วงดุล แต่สายเสียแล้ว

พระองค์ทรงเอาภูเขาไฟกับแผ่นดินไหวให้ญี่ปุ่นไปแล้ว!!

ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ ประเทศอื่นๆจะมาฟ้องร้องพระองค์ได้ว่าพระองค์ไม่ยุติธรรม

จะมีภัยธรรมชาติอันใดหนอที่ จะทำให้ประเทศไทยไม่เจริญกว่าประเทศอื่นๆได้

แล้วพระเจ้าก็ทรงคิดได้ เพื่อเป็นการป้องกันประเทศอันสมบูรณ์ที่สุดในโลกนี้ ไม่ให้ล้ำไปกว่าที่อื่นๆ

พระองค์ก็เลยสร้าง คนไทยขึ้นมา

ถ้ามีคนไทยอยู่ล่ะก็ต่อให้สมบูรณ์แค่ไหน ไทยก็ไม่มีวันเจริญ!!


ผม ใหม่เมืองเอก มาขอเสริมอีกสักนิด พระเจ้าให้ความฉลาดแก่ชาวยิว แต่พระเจ้ากลับไม่ให้แผ่นดินยิว จนยิวต้องพยายามหาแผ่นดินอยู่ และเพิ่งได้แผ่นดินซึ่งต้องอยู่ท่ามกลางชาวมุสลิมรอบประเทศ แผ่นดินใหม่ของยิว แทบไม่มีอะไรเลยเพราะเป็นทะเลทราย!! 

แต่เพราะความฉลาดของยิว ทำให้ประเทศอิสราเอล สามารถกลายเป็นประเทศผู้ผลิตและผู้ส่งออกผลผลิตการเกษตรรายใหญ่ชาติหนึ่งในโลกไปแล้วครับ



(วันนี้ต้องขออภัย เพราะผมเองไม่ค่อยสบาย เข้ามาเขียนแบบจับต้นชนปลายไม่ดีนัก)


คลิกอ่าน การบริหารจัดการน้ำในเขื่อนไม่ได้ผิดพลาด!!