(ที่จริงทุกๆคดีผมเคยเขียนอธิบายรายละเอียดในบทความเก่าๆไปแล้ว )
วาทะกรรมแดงเท็จเช่น
1.แค่นายกทำกับข้าวผิดกฏหมาย ต่างประเทศเขาหัวเราะเยาะ
แต่ในความจริง นายกฯสมัครได้ทำกับข้าวในสถานที่ต่างๆต่อหน้าสื่อมวลชนและประชาชนต่างกรรมต่างวาระหลายครั้งมาก หากทำกับข้าวผิดกฏหมายจริง นายกสมัครต้องมีคดีไม่ต่ำกว่า20-30คดีแล้ว
เพราะฉะนั้น นายกฯทำกับข้าวจึงไม่ได้ผิดกฏหมาย แต่นายกฯรับเงินค่าจ้างจากเอกชนต่างหากที่ทำให้นายกฯสมัครต้องผิดรัฐธรรมนูญ เพราะรธน.เขาไม่ให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรับค่าจ้างจากเอกชน
แต่นายกฯสมัครรับเงินจากรายการชิมไปบ่นไปและยกโขยงหกโมงเช้ามาเดือนละ80,000บาท และมีหลักฐานการเสียภาษีเงินได้
ในตอนขึ้นศาล
นายกฯสมัครสู้ในประเด็นที่ว่า ตนได้รับเพียงค่ารถเท่านั้นไม่ใช่ค่าจ้าง และให้เงินแก่คนขับรถไปแล้ว ตัวเองไม่ได้รับค่าจ้างแต่อย่างใด (**ค่าเดินทางไม่นับเป็นค่าจ้าง)
แสดงว่าหากเป็นค่ารถ ค่าเดินทางจริงๆ นายกฯสมัครก็คิดว่าประเด็นค่าเดินทาง จะได้การยกเว้นจากศาล
(เพราะหากเป็นค่ารถจริงๆ ศาลก็จะเห็นว่าไม่ผิดกฏหมาย เพราะไม่ถือว่าเป็นค่าจ้าง)
แต่ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า
เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นค่ารถของนายกฯสมัคร ที่เดินทางจากบ้านที่ถนนสุขาภิบาล1 มาสตูดิโอถนนลาดพร้าว เพื่ออัดรายการเดือนละครั้ง แต่ได้รับเงินค่ารถมากถึง8หมื่นบาท ศาลพิเคราะห์แล้วว่าฟังไม่ขึ้น
และหากคนรับรถรับเงินไปจริง แต่เมื่อดูแบบรายการชำระภาษีของนายกฯสมัครแล้ว ปรากฏว่านายกฯสมัครได้จ่ายเงินภาษีรายได้ในค่าจ้างส่วนนี้เองด้วย
และการที่ศาลไทยจะตีความคำว่า "ลูกจ้าง" โดยอ้างจากพจนานุกรมราชบัณฑิต ก็ไม่เห็นจะแปลก ก็เพราะประมวลกฎหมายไม่ได้ระบุความหมายของคำว่า ลูกจ้าง ไว้ให้ชัดเจน
ในเมื่อนี่คือคดีที่เป็นภาษาไทย ความถูกต้องเกี่ยวกับภาษาไทยก็ต้องอิงความหมายจากพจนานุกรมราชบัณฑิต นั้นก็นับว่าชอบแล้ว
แต่เสื้อแดงชอบเอาเรื่องที่ศาลตีความหมายคำว่า ลูกจ้าง จากพจนานุกรม มาเป็นประเด็นเสียดสี
สงสัยพวกเสื้อแดง มันคงอยากให้ศาลตีความโดยใช้พจนานุกรมเขมร แบบที่พวกเสื้อแดงมันเป็นพวกคนไทยใจเขมรล่ะมั้ง ? 555
หมายเหตุ ท่านสมัครสามารถกลับมาเป็นนายกฯสมัยที่2อีกครั้งก็ได้ เพราะรธน.ไม่ได้ห้ามไว้ แต่ท่านสมัครโดนทักษิณหักหลัง จนไม่ได้เป็นนายกฯในสมัยที่2 ทำให้ท่านสมัคร ประกาศลาออกจากพรรคพลังประชาชน ทันที หลังสภาล่มในวันโหวตเลือกนายกฯ เพราะพรรคพลังประชาชนฝ่ายนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ไม่มาประชุมสภา จนสภาล่ม!!
สีหน้าความผิดหวังของคุณสมัคร ในการโหวตเพื่อเป็นนายกสมัยที่ 2
คลิกอ่าน ทักษิณไม่เคยโทรหาสมัคร หลังป่วยเป็นมะเร็ง !!
-------------------------
2. แค่ผัวเซ็นอนุญาตให้เมียซื้อที่ดินติดคุก แต่องคมนตรีฮุบที่ป่าสงวนไม่ติดคุก
แต่ในความจริง ผัวทั่วไปเซ็นอนุญาตให้เมียซื้อที่ดินนั้น มันไม่ผิดมันไม่ติดคุกหรอกครับ
แต่ถ้าผัวเป็นนายกรัฐมนตรี แล้วเซ็นอนุญาตให้เมียไปซื้อที่ดินของภาครัฐนั้น ผิดรัฐธรรมนูญครับ (ตามพรบ.ประกอบรธน.40 ฉบับ2542)
เพราะเขาไม่ต้องการให้ผู้ดำรงตำแหน่งและมีอิทธิพลทางการเมืองมาทำสัญญาซื้อที่ดินรัฐ เพราะอาจทำให้เกิดความไม่ธรรมกับผู้ประมูลรายอื่นได้
ที่สำคัญ ที่ดินตรงนั้นมีกฏหมายควบคุมการสร้างอาคารสูงไว้ แต่พอคุณหญิงอ้อประมูลซื้อไป ก็มีการแก้กฏหมายให้สร้างอาคารสูงได้ในภายหลัง (อ่านข่าวมติชน)
อ่านบทความเรื่องคดีชิมไปบ่นไป กับคดีที่ดินรัชดา
-------------------------
3. ทำไมองคมนตรีฮุบป่าสงวนไม่ติดคุก แต่ชาวบ้านฮุบที่ดินป่าสงวนกลับติดคุก
แต่ในความเป็นจริง ที่ดินเขายายเที่ยงของสุรยุทธ์นั้น มันไม่มีกฏหมายเอาผิดให้ถึงติดคุกครับ ไม่ว่าใครก็ไม่ติดคุกในกรณีเดียวกันทั้งนั้น เพราะที่ดินตรงจุดนั้นเป็นที่ดินจัดสรรของกรมป่าไม้ ใครไปครอบครองโดยมิชอบ กฏหมายมีแค่ว่าให้ยึดที่ดินคืนรัฐเท่านั้น
เช่นเดียวกับที่ดินสปก.4-01ใครไปครอบครองมิชอบ ก็ไม่มีติดคุก ก็แค่ยึดคืนรัฐเท่านั้น และอาจมีค่าปรับตามความเสียหายจริง
หมายเหตุ จุดประสงค์ของกฏหมายจัดสรรที่ดินในเขตป่าสงวนถึงไม่มีโทษติดคุก? ก็เพราะมีชาวบ้านจำนวนมากเองที่ ไปขายสิทธิต่อกันเอง สวมสิทธิกันเอง เพื่อทำไร่ทำสวน หากกฏหมายระบุว่า ผู้ขายสิทธิและสวมสิทธิต้องติดคุก จะมีชาวบ้านนับล้านคนที่จะติดคุกจากกรณีดังกล่าว กฏหมายไม่อยากรังแกชาวบ้านที่ทำมาหากินสุจริต จึงเป็นช่องว่างของกฏหมายที่พวกเศรษฐีใช้ในการซื้อสิทธิเพื่อมาทำบ้านพัก
ส่วนที่เสื้อแดงอ้างว่าชาวบ้านติดคุกนั้น ก็คงหมายถึงที่ดินสวนลุงพรเชิงเขายายเที่ยง ตรงนั้นยังเป็นที่ดินอุดมสมบูรณ์ เป็นป่าสงวนแท้ๆ แต่ชาวบ้านเข้าไปบุกรุกจึงผิดฐานบุกรุกที่ป่าสงวนแท้ๆ จึงถึงติดคุกครับ
แต่ที่ดินบนเขายายเที่ยงของสุรยุทธ เป็นที่บนเขามีโขดหินเยอะไม่เหมาะแก่การเพาะปลูก ชาวบ้านจึงขายสิทธิ(ที่ห้ามขาย)แก่คนรวยที่อยากมีที่พักตากอากาศชมวิวสวยๆ
และเมื่อมีผู้ครอบครองสิทธิโดยมิชอบเช่น พลเอกสุรยุทธ์มาถูกจับได้ว่าสวมสิทธิโดยมิชอบ ก็จะโดนยึดที่ดินคืนรัฐ และอาจต้องจ่ายค่าเสียหายให้แก่กรมป่าไม้ด้วย หากพบว่าทำให้กรมป่าไม้เสียหายอย่างไร
(ส่วนในความเห็นผม หากด้วยจริยธรรมของความเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมือง พลเอกสุรยุทธ์ควรคืนที่ดินตั้งนานแล้ว ไม่ใช่รอจนเรื่องบานปลาย พลเอกสุรยุทธ์ควรแสดงความรับผิดชอบมากกว่านี้ แม้จะไม่ถึงขั้นติดคุกก็ตาม)
ย้อนอ่านคดีที่ดินรัชดาแบบวิเคราะห์เชิงลึก
อ่านบทความเก่าเรื่องคดีที่ดินเขายายเที่ยง
อ่านคดีที่ดินเขายายเที่ยง2มาตรฐานจริงหรือ?(เฉพาะบทนี้ห้ามพลาด)
สวัสดีปีใหม่เมืองค่ะคุณใหม่เมืองเอก
ตอบลบได้อ่านบทความเรื่องตรองวาทะกรรมเท็จเสื้อแดงแล้ว ทำให้ดิฉันได้รับรู้เรื่องจริงเกี่ยวกับทักษินอีกมาก และทำให้ดิฉันมั่นใจตัวเองมากขึ้นที่คิดไม่ผิดที่ไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมของทักษิณกับพรรคพวกที่ทำเพื่อประโยชน์ตนเองมากว่าความเจริญของประเทสไทยจริงๆ
ขอให้คุณใหม่เมืองเอกกับครอบครัวทุกคนสบายดีนะคะ
Ladda เชียงใหม่
บทความอย่างนี้ ก็มีแต่คนเท่านั้นที่อ่านแล้วเข้าใจ
ตอบลบส่วนสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น หุหุ..คงเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจค่ะ
^.^ ออกตัวแรงไปรึเปล่าเนี่ยเรา..
อิอิ
ขอบคุณครับ ที่บทความนี้มีประโยชน์ต่อคุณLadda
ตอบลบส่วนคุณจูน วันนี้แรงไปนิดครับ แต่ผมชอบ ^^
เช่นเดียวกับที่ดินสปก.4-01ใครไปครอบครองมิชอบ ก็ไม่มีติดคุก ก็แค่ยึดคืนรัฐเท่านั้น และอาจมีค่าปรับตามความเสียหายจริง ครับ แล้ว คนที่เป้นรัฐมนตรีในขณะนั้น จัดสรรที่ดินให้พรรคพวก ไม่ต้องติดคุกเหรอครับ พรรคพวกที่ได้ไปยึดที่ดินคืน ส่วนคนที่เซ็นต์ น่า จะต้องติดนี่ครับ ท่านว่าจริงมั้ย ผมมองว่าคนที่เซ็นต์ให้ มีเจตนามิชอบ
ตอบลบแล้วทำไมคดีกล้ายางของคุณเนวิน ถึงได้หลุดไปได้ล่ะครับ เพราะเค้าเข้าร่วมกับพรรค ปชป ใช่ไหม ช่วยอธิบายให้ผทฟังหน่อยสิ รวททั้งคดียุบพรรคด้วย ผมว่ามันแปลกๆ....ไม่เหลือง ไม่แดง แต่ชอบความยุติธรรม
ตอบลบสปก.4-01 รมตสุเทพ.ก็มีบกพร่องในหน้าที่ ในเกณฑ์ที่เรียกว่า อาจรู้เห็นและเอื้อประโยชน์พวกพ้อง แต่ก็ยากที่จะเอาผิดทางกฏหมายครับ
ตอบลบเพราะรมต.เขามีหน้าที่กำหนดนโยบาย เขาไม่ได้ลงไปแจกด้วยตัวเองจริงๆ แต่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับล่างๆลงไป ที่เป็นคนแจก
ซึ่งใครๆก็สงสัยกันว่า รมต.อาจมีอิทธิพลที่จะบีบให้เจ้าหน้าที่แจกใครได้บ้าง แต่มันก็ไม่มีหลักฐานจะจะ ที่จะเอาผิดทางกฏหมายได้ง่ายๆ
พรรคประชาธิปปัตย์ โดยนายสุเทพ เทือก จึงมีความบกพร่องในหน้าที่ที่สปก.4-01 ที่แจกในยุคสุเทพ ไม่ได้แจกคนจนจริงๆ แต่ไปแจกคนรวย
เหตุนี้นายชวน จึงต้องยุบสภา เพราะรัฐบาลต้องรับผิดชอบที่เกิดจากความบกพร่องที่ไม่ตรวจสอบการแจกให้เป็นไปตามนโยบายโดยสุจริต
มันจึงเป็นความผิดที่รมต.บกพร่องในหน้าที่ ในการกำกับดูแลนโยบายครับ
เอาผิดฐานทุจริตยาก
ส่วนเรื่องกล้ายางเพราะหลักฐานสาวไปไม่ถึงครับ
การที่หลักฐานสาวไปไม่ถึง หรือหลักฐานอ่อน ก็ไม่ได้แปลว่า จะไม่มีการทุจริตนะครับ
อยากให้คุณเชื่อในความสุจริตของผู้พิพากษา ผมเชื่อว่า แม้ทุกอาชีพจะมีทั้งคนดี คนเลว คนโกงอยู่ปะปนกันไป
ซึ่งผมเชื่อว่า อาชีพผู้พิพากษาน่าจะเป็นอาชีพที่มีคนเลวน้อยกว่าอาชีพอื่นๆครับ
ขอตอบเท่านี้
ลองไปอ่านข่าวนี้แล้วกันนะครับ
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/analysis/20090922/78137/สรุป-10-ประเด็นร้อน-ศาลยกฟ้องคดีกล้ายาง.html
http://talk.mthai.com/topic/41048 ลองอ่านดูครับ ในมุมมองของผม รมต แสดงออกถึงการปกป้องพวกพ้อง มันน่าจะแสดงออกถึงการเชื่อมโยงมาถึงนายสุเทพได้นะครับ เทียบกับ นายวิทูรฑ์ นามบุตร ปลากระป๋องเน่า ผมว่านายวิทูรฑ์ เขามีหน้าที่กำหนดนโยบาย เขาไม่ได้ลงไปแจกด้วยตัวเองจริงๆ แต่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับล่างๆลงไป ที่เป็นคนแจก มากกว่า ผิดกับนายสุเทพ ที่แสดงออกกถึงการทุจริต ผมไม่ชอบทั้งสองสีนะครับ ผมเห็นว่าในนี้เป็นการแสดงออก ไม่หยาบคายเหมือนบางที่ จึงอยากเข้ามาแสดงความคิดเห็น ขอบคุณครับ
ตอบลบใช่ครับ ผมก็เชื่อว่า นายสุเทพต้องเกี่ยวข้องแน่ๆ แต่อย่างว่า การสู้ความในศาล มันต้องมีหลักฐานชัดเจนครับ
ตอบลบแต่กฏหมายสปก. มันไม่มีโทษถึงขั้นติดคุกครับ การที่รมต.อาจมีส่วนรู้เห็นว่าแจกที่ดินให้พวกพ้องก็ตาม มันก็ผิดแค่บกพร่องในหน้าที่เท่านั้น
การที่ปชป.บกพร่องในเรื่องนี้ ก็ทำให้นายชวนต้องยุบสภา และการเลือกตั้งต่อมา พรรคปชป.ก็แพ้เกือบหมดในกรุงเทพฯ
แต่ถ้าให้เอาผิดถึงติดคุก มันคงเป็นไปไม่ได้ครับ เพราะกฏหมายสปก.ไม่มีโทษถึงติดคุก ทั้งเจ้าหน้าที่หรือผู้รับก็ตาม
อย่างมากข้าราชการที่เกี่ยวข้องก็ผิดทางวินัยเท่านั้น
แต่ผมก็เชื่อครับว่า นายสุเทพผิดจริงๆ
ส่วนที่คุณเทียบกับกรณีเนวิน เรื่องซื้อเสียง
ตอบลบคือกฏหมายเอาผิดคนละฉบับกันครับ การซื้อเสียงโทษติดคุก
หรือแม้แต่คดีกล้ายาง ถ้าผิดจริง มีการทุจริตก็ติดคุกครับ เพราะมันเกี่ยวข้องกับเงิน
ส่วนกรณีสปก. มันมีช่องว่างทางกฏหมาย เพราะถ้าสปก.เขียนให้ติกคุก จะมีเกษตรกรนับแสนหรืออาจนับล้านคน ติดคุกครับ
ถ้าจะให้ดี ต้องแก้กฏหมายตรงส่วนเอาผิดเจ้าหน้าที่ครับ