วันพุธที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2553

อธิบายกรณีเขาพระวิหารอย่างง่าย 3

ย้อนกลับไปอ่านตอน2



เอกสารข้างบนคือ

มติการประนีประนอมเสนอโดยประธานที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกครั้งที่ 34 (34 com 7B.66)


คณะกรรมการมรดกโลก

‎1. ได้รับเอกสาร WHC-10/34.COM/7B.Add3 แล้ว

2. ‎ อ้างถึงมติคณะกรรมการมรดกโลก 31 COM8.24, 32 COM 8B.12 และ 33 COM 7B.65, ได้รับรองการประชุมครั้งที่ 31 (ไครซ์เชิร์ท, ค.ศ. 2007), การประชุมครั้งที่ 32 (ควิเบก, ค.ศ. 2008) และการประชุม ครั้งที่ 33 (เซบีย่า, 2009) ตามลำดับ

3. ‎ แจ้งให้ทราบว่าศูนย์มรดกโลกได้รับเอกสารจากรัฐภาคี (กัมพูชา) แล้ว

4. ‎ สิ่งที่จะดำเนินการต่อไปเพิ่มเติม, ดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆโดยรัฐภาคีเพื่อนำไปสู่การจัดตั้งคณะกรรมการประสานงานนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์อย่างยั่งยืนของปราสาทพระวิหาร
5. ‎ตัดสินใจพิจารณาเอกสารที่ยื่นเสนอโดยรัฐภาคีในการประชุมครั้งที่ 35 ในปี ค.ศ. 2011

ลายเซ็น สุวิทย์ คุณกิตติ 29/07/2010 ซก อาน 29/07/2010 Juca Ferreira BSB 29/07/2010


-------------------------------------

ประเด็นที่เป็นที่สนใจขณะนี้คือ เอกสารนี้สำคัญแค่ไหน? นายสุวิทย์ไปเซ็นอะไรให้ไทยเสียเปรียบหรือไม่??

มีอีกหลายคนแปลออกมาแบบนี้

ข้อ 1 ได้รับเอกสารหมายเลข WHC-10/34.COM/7B.Add.3. (คือเอกสารที่กัมพูชายื่นในปีนี้)

ข้อ 2 อ้างอิง คำตัดสิน(ของกรรมการมรดกโลก) สามฉบับที่เกิดขึ้นในปี พ.ศ.2550, 2551, และ 2552

ข้อ 3 บันทึกไว้ว่า ศูนย์มรดกโลกมีเอกสาร (หลายฉบับ) ที่ยื่นโดยกัมพูชา

ข้อ 4 ยินดีต้อนรับในโอกาสต่อไปในการที่กัมพูชาจะจัดตั้งคณะกรรมการนานาชาติที่จะดูแลเรื่องการอนุรักษ์อย่างยั่งยืนของวัดเขาพระวิหาร

ข้อ 5 ตัดสินใจ พิจารณาเอกสาร (ตามข้อ 3) ที่ยื่นโดยกัมพูชาในการประชุมปีหน้า

โดยที่อ้างว่า ข้อ2และข้อ4 นั้น อธิบายขยายความว่า


ข้อ 2 Recall คือ เขา "อ้างถึง" ผลการประชุมในครั้งก่อนๆ ซึ่งมีการยอมรับโดย ที่ ป ร ะ ชุ ม รวมเพื่อพิจารณามติไปแล้วในปีก่อน

ข้อ 4 Further Welcome คือ "ยินดีจะให้ความร่วมมือ" ในการจัดตั้ง "คณะกรรมการร่วมระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ปราสาทเขาพระวิหารอย่างยั่งยืน" (โดยที่ไม่เกี่ยวกับ กรรมสิทธิ์ หรือดินแดน!!!!)

---------------------

ผมใช้เวลาตรองเอกสารนี้อยู่1คืนเต็มๆว่า มันหมายความว่ายังไงกันแน่?ใครพูดจริงใครพูดเท็จกันแน่? ผมไม่ขอตัดสินว่าใครถูกใครผิด แต่!!

แต่ผมใช้การตัดสินจากความรู้สึกว่า คำแปลในข้อ2 กับข้อ4มันแทม่งๆอยู่ คือข้อ2 อ้างถึงมติคำตัดสินของคณะกรรมการมรดกโลกตั้งแต่ปี50 51 52

แต่เท่าที่จำได้ ไทยเราไม่ยอมรับการขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารแต่เพียงฝ่ายเดียวของเขมรนะครับ แล้วไหง! อยู่ๆไทยย้อนกลับยอมให้เขาอ้างถึงมติพวกนั้นซะงั้น

นี่คือประเด็นแรก

--------------------------------

ประเด็น2 คือ ในข้อ4 ที่ผมแปลยังไงๆ ผมก็ว่ามันทแม่งๆ เพราะ??

ที่ผ่านมา หลักการของไทยเรายืนยันมาตลอดว่า จะไม่ยอมรับการเป็นแค่เพียงหนึ่งในคณะกรรมการร่วมในการบริหารจัดการเพื่อการอนุรักษ์เขาพระวิหาร ถ้าหากเขมรยังขึ้นทะเบียนเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น เพราะ

เมื่อเขมรขึ้นทะเบียนฝ่ายเดียว แต่จะมาเอาพื้นที่ในส่วนของไทยเช่น ผามออีแดง สระกราว และองค์ประกอบอื่นๆ ที่อยู่ในเขตไทยไปรวมด้วย แต่ไม่ให้ไทยขึ้นทะเบียนร่วมโดยที่จะให้ไทยเป็นแค่1ในคณะกรรมการร่วม7ชาติเท่านั้น

ทั้งๆที่พื้นที่ดังกล่าว ไทยเรายึดถือว่าเป็นอธิปไตยของไทย100% เราไม่ยอมรับที่ให้มีต่างชาติอีก6ชาติเข้ามาบริหารจัดการในแผ่นดินอธิปไตยของไทย โดยที่ไทยที่เป็นเจ้าของแผ่นดินแท้ๆ!! กลับกลายเป็นแค่เสียงข้างน้อยเท่านั้น

หากจะให้มีคณะกรรมการร่วมจัดการบริหาร ไทยเรายืนยันมาตลอดว่า ต้องขึ้นทะเบียนมรดกโลกร่วมกันเท่านั้น!!

แต่นี่อยู่ดีๆ นายสุวิทยืไปเซ็นเห็นด้วยที่จะให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมขึ้นมากอีกแล้ว แม้ในเอกสารนี้จะไม่ได้ระบุว่าเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ในที่ดินก็ตามเถอะ

ก็แหงแหล่ะครับ ก็มันที่ดินของเรานี่ เขาก็ต้องบอกว่า ยูอย่าพูดเรื่่องกรรมสิทธิ์ที่ดินล่ะ ไอก็ไม่อยากพูด แต่ขอไอเข้ามาบริหารจัดการในแผ่นดินของยูแล้วกัน ส่วนยูก็มีแค่1เสียงในการแสดงความเห็นเท่านั้น


แบบนี้ก็เท่ากับเราสูญเสียอำนาจการจัดการบนแผ่นดินอธิปไตยของเราไปแล้วน่ะสิครับ ใช่มั้ย??

------------------------

ข่าวต่อมาคือ

นางซู วิลเลียมส์ โฆษกยูเนสโก กล่าวว่า "ข้อขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชาในเรื่องประสาทพระวิหารเป็นประเด็นทวิภาคีโดยแท้ และคณะกรรมการมรดกโลกไม่มีอำนาจที่จะจัดการกับปัญหานี้ ส่วนที่มีการะบุว่า คณะกรรมการมรดกโลกได้รับรองแผนบริหารจัดการพื้นที่ของกัมพูชาแล้วนั้น เป็นเรื่องเข้าใจผิด เพราะคณะกรรมการไม่ได้รับ หรือให้ความเห็นชอบแผนการใดๆ
สิ่งเดียวที่พูดได้คือมีการยื่นแผนดังกล่าวแล้ว ทั้งนี้ วิลเลียมส์ระบุด้วยว่า ประเทศสมาชิกทุกประเทศมีสิทธิที่จะถอนตัวออกจากการเป็นภาคียูเนสโก แต่ความเป็นไปได้ ที่จะถอนตัวของไทย จะไม่ส่งผลกระทบกับสถานะของมรดกโลกในประเทศแต่อย่างใด"

*****

เมื่อผมมาอ่านคำพูดของโฆษกยูเนสโกดีๆแล้ว ก็ไม่เห็นว่าจะไปขัดแย้งกับเอกสารด้านบนนั่นอย่างไร เพราะแน่นอนอยู่แล้วว่า การจะรับแผนจัดการเขาเลื่อนไปพิจารณาใหม่ปีหน้า และเขมรก็ได้ยื่นเอกสารให้ยูเนสโกไว้แล้ว เพียงแต่ขอเลื่อนไปพิจารณาต่อปีหน้า

แต่เหมือนนายสุวิทย์จะดันไปเห็นชอบกับเขมรไปทุกข้อแล้วเช่นกัน อย่างที่เห็นชัดๆก็คือ ไปเห็นด้วยที่ให้กัมพูชาจัดตั้งคณะกรรมการขึ้น!!

.
.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ถ้าแสดงความเห็นตรงช่องนี้ผมจะได้อ่านทุกความเห็นครับ แต่ถ้าความเห็นไม่ขึ้นอาจเพราะระบบรอตรวจสแปม ต้องรอ1-2วัน / ใหม่ เมืองเอก kaeake@ymail.com


ผู้ติดตาม