วันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2552

น้ำมันแพงกับผลงานรัฐบาลมาร์ค6เดือน



คะแนนนิยมในตัวนายกฯอภิสิทธิ์ตกต่ำลง เพราะประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยพอใจผลงานการแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ผ่านมา พูดง่ายๆว่าผลงานยังไม่เข้าตาประชาชน
.
แต่ไม่ใช่เฉพาะนายกฯไทยเท่านั้นที่ต้องเจอกับปัญหาประชาชนเซ็งกับผลงาน แม้แต่ประธานาธิบดีโอบามาแห่งสหรัฐ หรือจะเป็นนายทาโร อาโซะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นที่ไม่ประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้ทันใจคนญี่ปุ่น ก็มีอันต้องประกาศยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ปลายเดือนสิงหาคมนี้
(ขนาดผู้นำยักษ์ใหญ่ยังโดนด่า นับประสาอะไรกับผู้นำเล็กๆอย่างมาร์คหรือจะรอด)
.akecity
(อ่านประชาชาติธุรกิจ เรื่องสหรัฐติดบ่วงรายได้รัฐหดไม่เลิก ลุ้นขยายเพดานก่อหนี้-ก๊อกสองรีดภาษี)
.
สังเกตดูว่าพรรคประชาธิปัตย์มักจะเข้าบริหารในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจทั้ง2ครั้งที่ผ่านมา ซึ่งต้องยอมรับว่า เป็นการยากกว่าที่เข้ามาบริหารในช่วงเศรษฐกิจเป็นขาขึ้นแล้ว การที่นโยบายการแก้ปัญหาจะให้เห็นผลทันตาทันใจประชาชนได้นั้น ยากมาก เพราะคนไทยเราใจร้อน (555)
.
รัฐบาลอภิสิทธิ์เข้ามาประมาณ6เดือน คนไทยส่วนใหญ่ก็อยากให้มีผลงานถูกใจราวอยู่มา6ปี อันนี้รัฐบาลอภิสิทธิ์ต้องเข้าใจในนิสัยของคนไทยให้ได้
.
ปัญหาอย่างหนึ่งที่รัฐบาลอภิสิทธิ์สอบตกอย่างหนึ่งก็คือแผนการตลาดการโฆษณา หากเป็นรัฐบาลที่เก่งด้านประชาสัมพันธ์ผลงาน หากทำได้แค่10ส่วนก็สามารถทำให้ประชาชนเชื่อว่าได้ทำไป100ส่วนได้
.
ฉะนั้นเรื่องการทำความเข้าใจให้ประชาชนเกิดความเข้าใจ รัฐบาลอภิสิทธิ์สอบตกโดยสิ้นเชิง และประชาธิปปัตย์ก็ห่วยมากกับการโฆษณาประชาสัมพันธ์มานานแล้ว เพราะขนาดเรื่องใช้หนี้ไอเอ็มเอฟ รัฐบาลนายชวนก็ใช้หนี้ไปตั้งเยอะแล้ว แต่คนไทยก็ไม่รู้ คนไทยส่วนใหญ่รู้แต่ว่า นี่คือผลงานระดับเทพของทักษิณ (สมน้ำหน้า!ปชป. 555!!)
.
หากเปรียบเทียบไตรมาสแรกของปี ที่อัตราการเติบโตเศรษฐกิจติดลบของไทยยังน้อยกว่าสิงคโปร์หลายขุม แต่รัฐบาลอภิสิทธิ์ดูเหมือนจะโดนประชาชนไทยด่ามากกว่าผู้นำชาติอื่นๆมากมาย นี่ก็เพราะรัฐบาลมาร์คอธิบายให้ประชาชนเข้าใจไม่เป็น(สมน้ำหน้ามาร์คจริงๆ)
.
แม้แต่เรื่องกู้เงิน รัฐบาลมาร์คก็โดนด่าเพียบ ทั้งๆที่ญี่ปุ่นเขามีหนี้สาธารณะมากกว่า100%ของจีดีพี แต่รัฐบาลไทยจะกู้แค่40กว่าเปอร์เซ็นต์ และจะกู้ในประเทศด้วยการออกพันธบัตรแก่ประชาชน ก็ไม่ค่อยจะเห็นรัฐบาลใช้คำว่าออกพันธบัตรให้ประชาชนเข้าใจ ทำให้ประชาชนจำนวนมากตกกะใจกลัวตัวเองเป็นหนี้!!
.
แต่นโยบายที่ผมรังเกียจที่สุดที่ผ่านมาของรัฐบาลมาร์คก็คือ เช็ค2พันบาท ที่รัฐบาลมาร์คแสนเซ่อ ให้เงินเขาไปใช้แต่ก็กลับโดนเขาด่ากลับมาแทน เรียกง่ายๆว่า มาร์คทำคุณไม่ขึ้นแท้ๆ
.
และที่สำคัญ แทนที่รัฐบาลจะแจกเช็คแก่คนที่เขาเดือดร้อนจริงๆ เช่นคนตกงาน คนพิการ คนแก่ที่ไม่มีรายได้ เด็กที่อายุต่ำกว่า18ปี (ซึ่งญี่ปุ่นเขาก็แจกเงินคนแก่กับเด็ก และไม่มีใครด่า)
.
แต่รัฐบาลมาร์คดันไปแจกให้คนที่มีรายได้ต่ำกว่าหมื่นห้าพันบาท เรียกง่ายๆว่า กลุ่มคนพวกนี้ไม่ได้เดิอดร้อนมากกว่ากลุ่มคนตกงาน หรือกลุ่มคนพิการเลย หรือคนแก่เลย แต่กลับได้เอาเงินไปใช้สบายๆแถมด่ารัฐบาลกลับด้วยซ้ำว่า ระบบจัดการห่วยแตก (สมน้ำหน้ารัฐบาลอีกทีดีมั้ยนี่)
.
นโยบายเรียนฟรี15ปีก็เหมือนกัน รัฐบาลไม่ชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจว่า ฟรีแค่ไหนอย่างไร พอประชาชนที่เป็นผู้ปกครองที่มีอคติกับรัฐบาลประชาธิปัตย์อยู่แล้ว พอเขาต้องเสียเงินบ้างแม้จะน้อยลงกว่าแต่ก่อน แต่เขาก็ยังไม่พอใจเพราะ "ไหนบอกว่าฟรีไง ไม่เห็นฟรีเลย "
.
นี่ก็เพราะรัฐบาลอภิสิทธิ์ไร้น้ำยาเรื่องการทำความเข้าใจกับประชาชนนั่นเอง ถ้าเปรียบเทียบนโยบายเรียนฟรี15ปีกับโครงการ30บาทตอนเริ่มต้นนะ มีข้อบกพร่องยิ่งกว่าโครงการเรียนฟรีเสียอีก
.
เพราะที่ว่ารักษาทุกโรคแต่ต้องยาถูกๆนะ ยาแพงแบบข้าราชการใช้ไม่มีให้หรอก แถมไม่รักษาทุกโรคตามสโลแกน แต่ประชาชนเขาไม่ว่าไม่ด่าเท่าไหร่ ก็เพราะรัฐบาลชุดนั้นเขาประชาสัมพันธ์ดี ประชาชนเขาเข้าใจว่า ระยะแรกๆมันก็ต้องมีปัญหาบ้างเป็นธรรมดา (แต่ผลการสำรวจความเห็นประชาชนส่วนใหญ่ที่พอใจรัฐบาลมาร์คจะพอใจนโยบายเรียฟรีมากที่สุด แต่คนที่ชอบกลุ่มนี้เสียงไม่ค่อยดังเท่าเสียงคนเสื้อแดง 555)
.
ก็เพราะรัฐบาลมาร์คคุยโวมากไป พอไม่ได้ตามที่ประชาชนคาด ก็ต้องโดนด่าอย่างนี้แหล่ะ ที่จริงควรอย่าไปให้ความหวังแก่ประชาชนสูงมาก เพราะเวลาปฏิบัติจริง หากประชาชนได้เกินที่หวัง จะได้ไม่เสียอารมณ์ภายหลัง
.
แต่สิ่งนึงที่รัฐบาบมาร์คเสียเปรียบผู้นำชาตือื่นๆอย่งนึงก็คือ ประเทศอื่นประชาชนเขาพยายามเอาใจช่วยให้รัฐบาลแก้ปัญหาสำเร็จ แต่สำหรับประเทศไทย มีประชาชนฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลพยายามแช่งให้รัฐบาลเจ๊งบ๊งให้ได้ เพราะเขาจะได้มีข้ออ้างในการเรียกร้องอดีตผู้นำหน้าเหลี่ยมที่เป็นที่รักของเขากลับมานั่นเอง
.
เรื่องหวัด2009ไม่อยากกล่าวถึงมาก แต่ผมไม่อยากโทษรัฐบาลอย่างเดียว ผมโทษตัวเองและคนไทยกันเองด้วยเพราะขาดเรื่องจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อสังคมกันมานานจนเป็นสันดาน เพราะคนไทยปฏิบัติเรื่องสุขอนามัยต่อตนเองและผู้อื่นสอบตกครับ ส่วนรัฐบาลก็เงอะงะงะเกินไป
.
แถมตอนนี้โครงการชุมชนพอเพียงของรัฐบาลเน่าจนไม่รู้จะเน้ายังไงแล้ว โกงกินกันสะบัดช่อ ไหนด่าคนอื่นว่าโกง แต่พอตัวเองอย่าปล่อยให้ผ่านเลยไปล่ะ เอาคนผิดมาลงโทษให้ได้ หรือว่าไม่กล้า เพราะเห็นยังเฉยกันทั้งรัฐบวม!!
.
ฉะนั้นรัฐบาลอภิสิทธิ์ โปรดสำเหนียกไว้ให้หนักว่า ถ้าทำผลงานไม่เข้าตา เดี๋ยวมันมาแน่ ฮ่าๆ เอิ๊กๆ
.
*************************
'
น้ำมันแพง แต่คนไทยใช้ไม่ถอย เฮ่อๆ

ไม่ว่าเศรษฐกิจจะตก การผลิตในอุตสาหกรรมก็ลดลง แต่อัตราการใช้น้ำมันคนไทยกลับไม่ได้ลดลงกว่าเดิม นั่นเพราะคนไทยเจ๋งจริงๆ 555
.
ตอนน้ำมันแพงราคาสินค้าก็แพงขึ้นๆไม่หยุดหย่อน แต่พอน้ำมันถูกลงเมื่อเกิดวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ช่วงต้นๆ น้ำมันลดลงไปเหลือไม่ถึงลิตรละ20บาท แต่ราคาก๋วยเตี๋ยวแถวบ้านผมจากเคยขายชามธรรมดาละ25บาทเมื่อ1-2ปีก่อน ก็ขึ้นมาเป็นธรรมดา30พิเศษ35บาทไปแล้ว เอิ๊กๆ ร้านก๋วยเตี๋ยวก็ไม่เคยลดราคาลงเลย เพราะอ้างต้นทุนแพงเหมือนเดิม
.
แม่ผมก็บ่นเชิงประชดว่า รัฐบาลน่าจะคงราคาแพงๆไว้ที่เดิม น้ำมันตลาดโลกลดลง รัฐบาลก็น่าจะเก็บภาษีแพงๆไว้ ไม่ให้ราคาน้ำมันในประเทศลดตาม เพราะน้ำมันลด พวกพ่อค้าแม่ค้ามันก็ไม่เห็นจะลดราคาลงเลย ทำให้พวกพ่อค้าแม่ค้ายิ่งได้กำไรใหญ่...
.
สงสัยรัฐบาลอภิสิทธิ์จะคิดเหมือนแม่ผมนะ เลยเก็บภาษีสรรพสามิตแพงๆเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันแพงๆ(ราคาแก๊สหุงต้มก็ได้เงินจากกองทุนน้ำมันพยุงราคาไว้) ประชาชนจะได้ไม่ฟุ่มเฟือย แถมช่วยลดโลกร้อน และรัฐก็ได้เงินมาใช้บริหารด้วย
.
แต่ในความเป็นจริง คนที่เขาจำเป็นต้องใช้ เขาก็ต้องใช้อยู่ดี แต่ที่ผมเห็นประหยัดอยู่กลุ่มนึงที่ประหยัดในช่วงน้ำมันแพงก็คือ พวกนักเที่ยวนักกินกลางคืนนี่แหล่ะ ที่ดูจะลดลงไปพอควร เพราะปกติต้นเดือนหรือสิ้นเดือนที่เงินเดือนออกแล้ว หรือจะเป็นช่วงเย็นช่วงค่ำในวันศุกร์ รถติดประจำ แต่พอน้ำมันแพงก็รถติดน้อยลงมาก แต่พอน้ำมันถูก รถติดเพิ่มขึ้นเหมือนเดิมโดยเฉพาะย่านที่มีร้านอาหารดังๆมากๆ
.
ตอนนี้ใครๆก็ด่ารัฐบาลเรื่องเก็บภาษีน้ำมันแพง อันนี้ก็เป็นปัญหาที่รัฐบาลต้องคิดดีๆ ว่าจะทำไงต่อไป แต่ถ้าประชาชนเชื่อใจในการจัดการเรื่องเงินภาษีที่เขาต้องเสียเพิ่มเพื่อช่วยชาติอย่างโปร่งใสจากรัฐบาลก็ไม่น่าเป็นปัญหา แต่ทีเป็นปัญหาก็คือประชาชนเริ่มไม่เชื่อเรื่องความสุจริตในรัฐบาลแล้วนี่สิ ปัญหาใหญ่
..
เราอาจด่ารัฐบาลเก็บภาษีแพงได้ แต่เราหารู้ไม่ว่า บ.น้ำมันก็แอบขึ้นค่าการตลาดสูงขึ้นกว่าสมัยน้ำมันโลกราคาแพงด้วยซ้ำ
.
แต่อยากจะติงสื่อไทยหน่อยว่า ทำไมไม่พูดถึงราคาหน้าโรงกลั่นของปตท.ที่ผูกขาดถึง5โรงจาก6โรงในประเทศ ทำไมสื่อไม่ไปดูหน่อยล่ะว่า ราคาหน้าโรงกลั่นตอนน้ำมันโลก70เหรียญไฉนมันใกล้เคียงตอนน้ำมันโลกแพงกว่า100เหรียญล่ะ ไปดูกันหน่อย กำไรหน้าโรงกลั่นนี่แหล่ะที่เป็นบ่อทองใหปตท. กินเลือดปูของประชาชนอีกจุดนึง (ตรงนี้เป็นเรื่องซับซ้อนหน่อยครับ ผมเลยไม่อยากลงรายละเอียด เกี่ยวกับทำไมโรงกลั่นไทยต้องอ้างอิงราคาขายที่สิงคโปร์+ค่าขนส่งจากสิงคโปร์มาไทย = ราคาหน้าโรงกลั่น)
.
แต่สำหรับประเด็นของผมเรื่องน้ำมันก็คือ ผมสงสัยเรื่องชนิดน้ำมันว่าทำไมทีน้ำมันเบนซิน มีได้หลายหลายชนิด ทั้ง95 91 ทั้งโซฮอล์95 91 ทั้ง E20 E85 มีให้เลือกตามความสะใจเอ้ย!ตามสมรรถนะเครื่องยนต์ชนิดต่างๆ
.
แต่ทำไมหนอ น้ำมันดีเซลซึ่งมีประชาชนใช้มากที่สุด กลับมีให้เลือกเพียงไม่กี่ชนิด คือแบบดีเซลพิเศษ กับดีเซลผสมน้ำมันพืช5% ทำไมไม่มีดีเซลหมุนช้า หรือดีเซลกระจอกๆหน่อยให้รถอีแต๋น รถไถ เครืองสูบน้ำ ฯลฯ ที่ไม่ต้องการคุณสมบัติพิเศษเลิศเลอ มาให้เกษตรกรได้ใช้น้ำมันดีเซลถูกๆบ้าง? ทำไม! ใครรู้บ้าง
.
รถไถรถอีแต๋นก็ใช้น้ำมันดีเซลตัวเดียวกับรถรุ่นใหม่ๆที่ใช้เครื่องยนตร์คอมมอนเรล!!!
.
แถมรัฐมีนโยบายบิดเบือนราคาดีเซลในประเทศให้ถูกว่าเบนซิน ทั้งที่ความเป็นจริงน้ำมันดีเซลทั่วโลกเขาแพงกว่าเบนซินทั้งนั้น รัฐบิดเบือนราคาดีเซลเพียงคิดแค่ว่าเป็นน้ำมันสำหรับภาคการขนส่งและการผลิตสินค้า และเพราะคิดแบบนี้ เดี๋ยวนี้คนรวยๆก็เลยหันมาซื้อรถหรูราคาแพงเพื่อจะเติมดีเซลราคาถูกๆ (เปรียบเทียบเหมือนกับว่ารัฐเอารีดภาษีจากเงินค่าน้ำมันของรถมอไซค์มาอุดหนุนรถประเภทSUV(SPORT-UTILITY VEHICLE)ของคนรวย)
.
ค่ากำมะถันของไทยก้าวไกลกว่าสิงคโปร์!? เพราะค่ากำมะถันน้ำมันไทยคุณภาพเทียบเท่าน้ำมันในยุโรปดีต่อสิ่งแวดล้อม คนสิงคโปร์รวยกว่าคนไทย แต่กลับใช้น้ำมันคุณภาพด้อยกว่าคนไทย โดยคนไทยจ่ายเพิ่มขึ้นเพื่อช่วยโลก จงภูมิใจเถอะที่เกิดเป็นคนไทย 555 (บทความเกี่ยวข้องในกรุงเทพธุรกิจ "พยุงดีเซล รัฐบาลต้องคิดให้รอบด้าน")
.
ยังมีเรื่องก๊าซแอลพีจีอีกอย่าง ทำไมไม่แยกราคาแก๊สหุงต้มในครัวเรือนออกจากแก๊สLPGที่เติมรถยนตร์เสียที ทั้งที่สามารถทำได้ ทางเทคนิคสามารถเติมสารหรือก๊าซที่น็อคเครื่องยนตร์ไว้ในแก๊สหุงต้มบรรจุถัง เพื่อป้องกันการแอบนำไปใช้เติมเครื่องยนตร์ จะได้กำหนดราคาให้ต่างกันชัดเจนไป
.
เพราะตอนนี้กลายเป็นว่าแทนที่รัฐจะช่วยค่าแก๊สสำหรับหุงต้มตามนโยบายเท่านั้น แต่กลายเป็นรัฐต้องไปช่วยแบกภาระทางอ้อมอุ้มค่าแก๊สLPGสำหรับเติมรถอีก ทั้งๆที่เป็นการเอาเปรียบแก่สังคมโดยรวม เพราะเอาเงินจากกองทุนน้ำมันที่บวกอยู่ในราคาน้ำมันขายปลีกมาพยุงราคาก๊าซLPGทั้งระบบไปหมด
.

ผมไม่อยากจะไปพูดถึงเสื่อนอนกินเงินคนไทยอย่างปตท.ให้มากนัก ขอแค่เบาะหน่อยก็คือ พนักงานปตท.ตั้งแต่ต่ำสุดถึงสูงสุด รวยๆกว่าทำงานบริษัทเอกชนแท้ๆใหญ่ๆเสียอีก แถมสวัสดิการเพียบ โบนัสเพียบ แต่งานสบายกว่าใครๆ
.
แม้รัฐบาลจะส่งข้าราชการไปนี่งเป็นกรรมการในปตท. แต่ข้าราชการแทนที่จะไปเป็นปากเสียงเพื่อช่วยเหลือประชาชน แต่ดั๊น! กลับไปร่วมเป็นเสือนอนกินกับปตท.ซะงั้น ทำไงได้ เบี้ยประชุมมันหอมหวลเหลือเกิน ฟันคนละเป็นล้านทั้งน้าน เฮ่อ! สันดาน....
.
**************************
.
ก่อนจบ ขอบอกว่าทีมงานกระบอกเสียงแทนอภิสิทธิ์ อย่างเทพไท หรือ เทพเทือก หรือดร.ปณิธาณ สู้กระบอกเสียงของทักษิณอย่าง3เกลอหัวเกรียนไม่ได้จริงๆ
.
เพราะหลักการพูดให้คนไทยฟัง ถ้ามีแต่ข้อมูลอย่างอาจารย์ปณิธาณ คนฟังก็ง่วงขี้เกียจฟังเพราะเข้าใจยาก หรือจะออกมาด่าเฉยๆอย่างเทพไท ก็มีแต่คนรังเกียจ แถมสร้างความแตกแยกเพิ่มขึ้น
.
มันต้องแบบ3เกลอหัวเกรียนที่ใส่มุขเรียกเสียฮาให้คนฟังอยากฟัง อยากจดจำ แม้จะใส่ข้อมูลไร้สาระมากหน่อย แต่เข้าถึงคนฟังได้มากกว่า


แนะนำอ่าน นโยบายน้ำมันไทย่วยจริงๆ

.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ถ้าแสดงความเห็นตรงช่องนี้ผมจะได้อ่านทุกความเห็นครับ แต่ถ้าความเห็นไม่ขึ้นอาจเพราะระบบรอตรวจสแปม ต้องรอ1-2วัน / ใหม่ เมืองเอก kaeake@ymail.com


ผู้ติดตาม